ตอนที่ 12 ต่อครับ
พี่ขอให้เธอลืมได้ไหม จำอาม้าของเธอที่สวยงาม ใจดี ยิ้มแย้ม ร้องเพลงเพราะและรักเธอ
พี่ชายใหญ่ไม่เกลียดอาม้าผมหรือครับ อาม้าผมทำให้อาม้าใหญ่เสียใจ
นั่นไม่เกี่ยวกับพี่ พี่แยกแยะได้ คุณนายที่สามดีกับพี่ เป็นแม่เลี้ยงที่พี่ชื่นชมและรู้สึกดีกับเธอ
พี่ชายใหญ่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของน้องๆ เป็นทั้งพี่ ทั้งพ่อ ตั้งแต่อาม้าไม่อยู่ผมเหมือนกับตายไปแล้ว พี่ชายใหญ่ทำให้ ผมเกิดใหม่อีกครั้ง ผมเป็นผมทุกวันนี้เพราะพี่ชายคนเดียว
อาเตีย...ตี๋เล็กลืมแล้วหรือว่าเรายังมีอาเตีย
อาเตียหรือครับ ถ้าจะมีคนลืม ผมว่าน่าจะเป็นอาเตียมากกว่า
ตี๋เล็ก ลูกชายอาเตียมีแค่สองคน เรามีหน้าที่ช่วยกันเชิดชูแซ่ของเรา น้องทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว นักศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับท็อปเท็นของสหรัฐฯ เรียนดีขนาดอนาคตบัณฑิต เกียรตินิยมแน่ๆ สมใจพี่ สมใจอาเตีย
ผมไม่แน่ใจว่าอาเตียคิดว่าผมเป็นลูกชายอีกคน
ทำไมตี๋เล็กพูดอย่างนั้นล่ะ เธอเป็นลูกชาย เป็นสายเลือดจากผู้หญิงที่อาเตียรักมาก ฟังพี่นะ คนจีนโดยเฉพาะรุ่นเก่า กิริยากับใจเขาบ้างทีไม่เหมือนกัน รักแต่ไม่แสดงออก และยิ่งอาวุโสมากเท่าไหร่ ยิ่งมีทิฐิ
เกียรติกรนิ่งเงียบไป ก้องเกียรติไม่อยากพูดเรื่องเครียดๆ อีก ทำท่าจะพาน้องชายไปแนะนำให้รู้จักพี่สะใภ้ ก็พอดีณฤดี เดินตรงมาหา สองฝ่ายเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกแต่ก็ทำความรู้จักกันด้วยดีและท่าทางจะคุยกันยาวด้วยเรื่องการเรียน ถ้าอาจูไม่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
อาจูมาเพราะคำสั่งของเยนหลิงที่ให้มาเชิญคุณชายเล็กไปพบที่ห้อง เกียรติกรแปลกใจเหลือบมองพี่ชายเป็นเชิงขอความเห็น
ไปเถอะ คงจะต้อนรับน่ะ
เกียรติกรเชื่อฟังพี่ชาย แต่พอเขาเข้าไปเผชิญหน้ากับเยนหลิงแทนที่จะได้รับการต้อนรับอย่างที่พี่ชายคาดคิด กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมารับฟังเยนหลิงขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของแม่ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
เยนหลิงเล่าว่าเหม่เกว่ก่อเรื่องน่าอับขายขายหน้าด้วยการเป็นชู้กับหมอประจำตัว รักษากันไปรักษากันมา เกิดถูกใจกันถึงกับหนีไปอยู่กับเขา โดยทิ้งลูกชายไว้อย่างเลือดเย็น พอเจ้าสัวรู้เข้าก็ตามไปจับตัวเหม่เกว่กลับมา แล้วก็ซ้อมผู้ชายคนนั้นปางตาย หรืออาจจะตายไปแล้วก็ได้
เธอก็อยู่ด้วยนี่...ในวันที่อาม้าเธอถูกลากกลับมาลงโทษในแบบของตระกูลเชง เธอรู้ใช่มั้ยว่าผู้หญิงแซ่เชงที่คบชู้สู่ชายต้องตายด้วยวิธีไหน
เกียรติกรไม่ตอบ แต่นิ่งคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นที่เห็นแม่ถูกลากตัวออกไปจากห้อง...เยนหลิงเห็นสีหน้าของเขาก็เดาได้ทันทีว่าต้องรู้ เธอเลยใส่ต่อไม่ยั้งด้วยความสะใจ
ใช่ อย่างที่เธอรู้นั่นแหละ อาม้าเธอถูกโยนลงไปในบ่อนรก...ให้ตายทั้งเป็น ฉันร้องไห้อยู่สามวันสามคืน สงสารเหม่เกว่ และก็เสียใจที่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ทั้งที่ฉันอุตส่าห์เก็บเรื่องเหม่เกว่ลงหีบลั่นกุญแจเป็นความลับ แต่คุณนายที่สี่ก็ดันปากยื่นปากยาวไปฟ้องนาย...สุดท้ายกรรมก็สนองคุณนายที่สี่ให้เป็นบ้า แต่คนที่พลอยต้องรับกรรมไปด้วยก็คือเธอไงคุณชายเล็ก...จำได้มั้ย หลังงานศพนายเกลียดเธอยังกับอะไรดี หน้ายังไม่อยากจะมอง
เกียรติกรสุดทนจะรับฟังได้อีก ลุกพรวดเดินออกจากห้องไปนั่งจมอยู่กับความคิดความแค้นที่อัดแน่นขึ้นมาในใจของตน และในขณะเดียวกันนั้น ก้องเกียรติก็ถูกเม่งฮวยเรียกไปต่อว่าที่เขาให้เกียรติกรเรียนหมอเพื่อมารักษาคำแก้วที่เป็นบ้า ทำอย่างนี้คนเขาจะนินทาเอาได้ อีกอย่างคนบ้าไปแล้ว ต่อให้หมอเทวดาก็รักษาไม่ได้
ณฤดีนั่งอยู่ห่างๆ แต่หูเงี่ยฟังสองแม่ลูกพูดคุยกันตลอด และอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้ที่เม่งฮวยย้ำกับก้องเกียรติว่า คนมันจะนินทาลื่อ เดี๋ยวก็เป็งเรื่องขึ้นมาอีก ให้มันจบๆเถอะ
ฝ่ายเกียรติกรที่กำลังขุ่นมัวไม่พอใจเจ้าสัวที่สั่งฆ่าแม่ของตน และโกรธคำแก้วที่เยนหลิงบอกว่าเธอไปฟ้องเจ้าสัว เมื่ออาอึ้มพาคำแก้วมาเดินเล่นแล้วเจอกับเกียรติกรเข้า จากที่เคยรับปากพี่ชายไว้ว่าจะรักษาคำแก้วให้หายเป็นปกติ เกียรติกรเลยพูดใส่หน้าเธอว่า
ฉันจะไม่มีวันรักษาคนที่ทำร้ายอาม้าของฉันเป็น อันขาด ขอให้เป็นบ้าไปจนตาย
อาอึ้มฟังแล้วผงะ รำพึงว่านิสัยของเขาไม่เปลี่ยนเลย ไหนคุณชายใหญ่บอกว่าดีแล้ว
ฉันดีกับคนที่ควรจะดีด้วยเท่านั้น
ยังดีหน่อย ตอนเด็กๆไม่ดีกับใครสักคน ทั้งเกเร ทั้งพูดจาหยาบคาย อวดดี หยิ่ง ยิ่งโตขึ้นเรียนหนังสือสูงๆยิ่งเป็นมาก...อาคุณนายเราไปกันเถอะฮ่ะ อย่าไปพูดด้วย อาอึ้มจูงมือคำแก้วพาเดินไปไม่เหลียวหลัง เกียรติกรมองตามคำแก้วตาขวาง และพึมพำเสียงขุ่น
สมควรแล้ว อย่าหวังเลยว่าจะรักษา
ooooooo
เย็นมากแล้ว เจ้าสัวและคนอื่นๆนั่งพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร แต่ยังขาดเกียรติกรเพียงคนเดียว พอเจ้าสัวเริ่มบ่น เยนหลิงก็พลอยผสมโรงเสียยืดยาวจนเจ้าสัวต้องปรามให้หยุด จากนั้นเขาก็สั่งอาจูให้ไปตามคุณชายเล็กมาเดี๋ยวนี้
ขณะที่อาจูออกไปตาม เกียรติกรกำลังคิดย้อนเหตุการณ์ในวัยเด็กที่ได้ยินเจ้าสัวด่าทั้งตนทั้งแม่อย่างรุนแรง เขาทำเหมือนไม่รักเราสองคนแม่ลูกเลย...พอเขาเหลือบเห็นอาจูเดินเข้ามา จึงถามเธอว่า แม่ของเขาเป็นคนไม่ดีเหรอ
เห็นอาจูนิ่งอึ้งไป เกียรติกรเดาทันทีว่าเป็นความจริง แต่อาจูรีบท้วงว่าไม่ใช่ และย้ำอย่างเทิดทูนแม่ของเขาว่า
อาม้าของคุณชายเล็กเป็นคนดีที่สุดของจู จูรักอาคุงนาย เห็นว่าอาคุงนายทำอะไรถูกทุกอย่าง ถึงผิด...จูก็หาจนได้ว่าเพราะอะไรถึงต้องทำ ผิดก็กลายเป็นถูก แต่คนที่เขาไม่ชอบอาคุงนายที่สาม...เขาเกลียด ทำถูกเขาก็ว่าผิด ทำผิดก็ยิ่งผิดมากขึ้น คนเกลียดอาคุงนายที่สามมีไม่กี่คน เพราะอาคุงนายที่สามตัวจริงๆเป็นคนใจดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร คนรักมากกว่าเกลียดนะฮะ
แต่อาเตียของฉันเกลียดอาม้า...นั่นสำคัญที่สุด ใช่มั้ยอาจู
อาจูพูดไม่ออก แล้วก็ห้ามเขาไม่ได้ด้วยเมื่อเขาตัดสินใจแน่วแน่รีบร้อนออกจากบ้านไป อาจูได้แต่วิ่งกลับไปบอกเจ้าสัวและทุกคนว่าคุณชายเล็กไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไปไหน เยนหลิงได้ทีหาว่าเขาจองหองเหลือเกิน ถือว่าเรียนหนังสือสูง ว่าแล้วเธอก็เดินเชิดหน้าออกไปอย่างไม่แคร์สายตาใครๆ
เจ้าสัวไม่พอใจการกระทำของเกียรติกร สั่งให้ก้องเกียรติรีบไปตามตัวกลับมาให้ได้ ถ้าเอาตัวน้องมาไม่ได้ เขาก็ไม่ต้องมาให้ตนเห็นหน้าอีก
เกียรติกรกลับไปยังโรงแรมที่พักแล้วตั้งใจจะกลับเมืองนอกคืนนี้เลย แต่ก้องเกียรติตามมาเจอเขาตรงหน้าโรงแรมพอดี แล้วหว่านล้อมจนน้องชายอ่อนลง โดยเน้นหนักเรื่องที่ฟังมาจากอาอึ้มว่าเขาจะไม่รักษาคำแก้วแล้ว
พี่ขอยืนยัน สิ่งใดที่เธอได้ยินจากใครก็ตามเรื่องคุณนายที่สี่ ถ้าเป็นทางลบ ไม่เป็นความจริงเลย ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมาก อายุน้อยแต่ถูกชะตากรรมฟาดฟันอย่างรุนแรงจนเสียสติ พี่ขอร้องให้ตี๋เล็กรักษาเธอ พี่ยังอยากให้เธอเป็นคนไข้ของตี๋เล็ก
วันหนึ่งความจริงคงปรากฏ แต่ตอนนี้...ครับ ผมสัญญา
ตี๋เล็ก...กลับไปพบอาเตียเถอะนะ ไม่ว่าอาเตียจะเรียกไปทำไม พี่คิดว่าตี๋เล็กเข้มแข็งพอที่จะรับได้ทุกอย่าง
ในที่สุดเกียรติกรก็ยอมกลับไปพบเจ้าสัว แต่เวลานั้นเจ้าสัวกำลังหงุดหงิดเต็มที่ที่สองพี่น้องหายไปนาน พอเกียรติกรโผล่เข้ามาจึงถูกเจ้าสัวโวยวายต่อหน้าสมาชิกในบ้านทุกคน
ไอ้โซ้ยตี๋ ลื่อทำตัวแบบนี้ได้ยังไง นึกจะไปก็ไป
ไม่บอกไม่ลา ลื่อยังเห็นอั้วเป็นอาเตียอยู่รึเปล่า
แล้วอาเตียแน่ใจหรือครับว่าผมเป็นลูกชายอีกคน
เจ้าสัวโกรธ นัยน์ตากล้าแข็งจัด เดินเข้าไปตบหน้าเกียรติกรเสียงดังฉาด...ทุกคนตกใจ ยกเว้นเยนหลิงที่เผยอยิ้มอย่างสมน้ำหน้า
นี่คือคำตอบหรือครับ
ไอ้...ไอ้โซ้ยตี๋ ลื่ออวดดี จองหอง เลวเหมือนแม่
อาเตียครับ ได้โปรดเถอะครับ ก้องเกียรติขอร้อง กลับถูกเจัาสัวตวาดไม่ให้พูดอะไร เยนหลิงทำทีเป็นห่วงเจ้าสัวกลัวความดันจะขึ้น แต่เจ้าสัวรำคาญออกปากไล่จนเธอวิ่งร้องไห้โฮออกไป
ไอ้โซ้ยตี๋...ถ้าลื่อไม่คิดว่าเป็นลูกชาย ก็ไม่ต้องมาเห็นหน้ากันอีก ลื่อถือว่าสมบัติอาม้าลื่อมันเยอะแยะไม่ต้องเอาของอั้วใช่มั้ย ลื่อถึงกล้าอวดดีกะอั้ว
เกียรติกรนิ่งเงียบ แต่น้ำตาเริ่มคลอหน่วย กรองกาญจน์เดินมาจากหน้าตึกแล้วหยุดยืนฟังเงียบๆ
ขอโทษอาเตียซะ เม่งฮวยเอ่ยขึ้นลอยๆ
ถ้าผมไม่รู้สึกอย่างนั้น ผมคงไม่ถาม
ไอ้โซ้ยตี๋! เจ้าสัวคำราม...จ้องหน้าลูกชายคนเล็กเขม็ง
วันที่ผมมาลา...อาเตียไม่พูดอะไรกับผมแม้แต่คำเดียว... ตอนนั้นผมยังเด็กยังไม่รู้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจแบบนี้มันคืออะไร ผมรู้แต่ว่าผมเหมือนตัวคนเดียวในโลก ตายไปก็ไม่มีใครคิดถึง และผมก็ไม่รู้จะคิดถึงใคร...พ่อ แม่ หรือใครในโลก มีใครบ้างที่ต้องการผม พอโตขึ้นผมถึงรู้ว่าความรู้สึกนี้ มันเรียกว่าความว้าเหว่...พออาเตียเรียกผมกลับมา ผมดีใจมาก ยิ่งพออาเตียพูดว่าคิดถึง...หัวใจผมยิ่งพองโต แต่สุดท้ายหัวใจผมมันก็ต้องเฉาเมื่อรู้ว่าอาเตียพูดไปโดยไม่มีความหมายอะไรเลย อาเตียทนฝืนใจเห็นหน้าผม ลูกของคุณนายที่สามที่อาเตียเกลียดชังไม่ได้...ผมเป็นลูกของอาม้า ก็ต้องรับความเกลียดชังทุกอย่างที่อาเตียมีต่ออาม้าใช่มั้ย เกียรติกรพรั่งพรูความรู้สึกนึกคิดออกมาทั้งน้ำตา
จากคุณ |
:
klink077
|
เขียนเมื่อ |
:
19 เม.ย. 54 11:09:07
|
|
|
|