An Unbiased Review Spring Anime 2011
|
 |
ถึงยามะคันจะจากไปแล้ว! แต่อย่ามาคันยังคงอยู่! แต่ถึงอย่ามาคันจะคงอยู่ตรงนี้ก็ตาม ด้วยความบอบช้ำทางจิตใจจาก Fractale นั้น ยามะคันจะไม่มีวันอยู่ในใจของอย่ามาคันแน่นอน!
(อยากเล่นมุกนี้มานานแล้ว
.)
ก็พบกันอีกแล้วสำหรับ An Unbiased Review ประจำ Spring Anime 2011 ซึ่งในซีซั่นนี้อาจจะช้า กว่าทุกทีก็เพระว่าอนิเมมันฉายเหลื่อมกันค่อนข้างมาก บางเรื่องฉายไปสองตอนแล้วอีกเรื่องยังไม่ได้ฉาย ซักกะตอน ผมก็พยายามรอให้มากที่สุดแล้วจึงค่อยเขียน บอกไว้เลยแล้วกันว่าผมไม่เขียนเรื่องที่เป็นภาคต่อ (เช่นมาเรียโฮลิก อไลพ์, กินทามะ, เซียนดมรัก) แล้วก็ไม่เขียนถึงจัมพ์อนิเม (โทริโกะ) ส่วนเรื่องที่ฉายช้ามาก อย่างเดดแมนวันเดอร์แลนด์ หรือ ยาโอย..เอ้ยอาโอยโนะเอ็กซ์โซซิสต์ นั้นถ้ามีเวลาว่างอาจจะเติมเข้าไปทีหลัง
สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนนั้นจะปรับเปลี่ยนเล็กน้อย โดยคะแนนที่เป็นเปอร์เซนต์นั้นจะวัดจาก ความน่าติดตามและความสนุกของอนิเมเรื่องนั้น ซึ่งอาจจะรวมไปถึงภาพรวมของอนิเมเรื่องนั้นด้วย ส่วนคะแนนที่เป็นเกรดตัวอักษรภาษาอังกฤษนั้นจะเปลี่ยนเป็นความมีคุณภาพของอนิเมทางด้านภาพ เสียง เอ็ฟเฟ็คส์ อนิเมชั่น นักพากย์ ซึ่งไม่รวมกับบท ความสมจริง เนื้อเรื่อง หรือ ความสนุก มุกตลก ก็ช่วยทำให้คะแนนทั้งสองส่วนแยกจากกันชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ด้วยกรณีพิเศษ เรื่องไดก็ตามที่ผมทนดูไม่จบ ไม่ว่าคุณภาพงานก่อนหน้าจะเป็นเยี่ยงไร จะได้รับ F และ 0% ไปทันที
ไหนๆก็ไหน ผมก็ขอพูดถึงซีซั่นที่แล้วสักหน่อย ซึ่งคิดว่าก็จะต้องมีคนถามอยู่แล้วก็ตอบเอาไว้เลย ซีซั่นก่อนเรื่องที่ผมดูจนจบก็มี โฮโรมุสุโกะ, ซอมบี้, Fractale สามเรื่องเท่านั้น แล้วก็มี Star Driver ที่ตกค้างมาจากซีซั่นก่อนโน้น ส่วนมาโดกะนั้นยังฉายไม่จบจึงไม่นับไปด้วย ทั้งสามเรื่องนี้ผมชอบ โฮโรมุสุโกะที่สุด แน่นอนว่าหลายๆคนคงขยาดเรื่องนี้เพราะมันมีเนื้อหาที่ป่วย มีตัวละครมีปัญหาทางจิต มากมาย แต่อนิเมเรื่องมีบรรยากาศที่งดงาม มีปมปัญหาหลายอย่างให้ขบคิด ความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวละครทำออกมาได้อย่างละเมียดละไม (ซึ่งเป็นจุดเด่นของผู้เขียนอยู่แล้ว) จุดด้อยก็คงเป็นความเรียบง่าย เกินไปจนกลายเป็นความไม่น่าสนใจ แต่ถ้าลองตั้งใจดูจะรู้ว่าตัวละครอย่าง จิบะ ซาโอริ นั้นสุดยอด กว่าสาวๆยกฮาเรมจากอนิเมบางเรื่องที่แกล้งทำเป็นว่ามีเนื้อหาไซไฟเสียอีก(หัวเราะ)
เรื่องที่เหลืออย่าง Star Driver นั้นผมก็ชอบ มันมีสไตล์ที่ตั้งใจให้งี่เง่าเพื่อให้คนดูโฟกัสไปที่ความงี่เง่า จนสนุกขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และซอมบี้ก็เป็นอนิเมที่ผมชอบมากเลย นี่เป็นตัวอย่างการดัดแปลงต้นฉบับมังงะ เป็นอนิเมให้สนุกขึ้นอย่างชาญฉลาด มันมีจังหวะยิงมุกตลกที่สนุก มีเซอร์วิสให้โมเอ้ตาย มีบทซึ้งให้ประทับใจ มีฉากมันส์ให้ลุ้น มีฉากกุโร่ให้แหวะ ซึ่งปกติแล้วผมจะแอนตี้หนังที่มีคำจำกัดความว่า ครบรส เพราะคำว่า ครบรส นั้นมันหมายถึงไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่เรื่องซอมบี้ทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ผมลองพลิกๆต้นฉบับ มังงะแล้วพบว่าธรรมดามากๆ เรื่องนี้ต้องชมการดัดแปลงเป็นอนิเมจริงๆ
สุดท้ายคือเรื่อง Fractale ที่ทำให้ผมที่เพิ่งดูตอนจบถึงกับต้องสบถว่า WHAT THE FRACTALE! ออกมาแรงๆ และโอดครวญขอเวลาที่เสียไปคืนมา ช่วงต้นเรื่องนั้นผมชอบ Fractale พอสมควร มันเป็นอนิเมมีพล๊อท มีบรรยากาศ มีแฟนตาซีเบาๆ ให้ความรู้สึกเหมือนดูเรื่องนาเดียตอนเด็กๆ
แต่พอหลังจากตอนที่ 10 ไป มันกลายเป็นอะไรไม่รู้
.. มันเอาตัวละครทั้งหมดยัดเข้าไปในกล่องวิเศษ แล้วก็เปิดประตูไปไหนก็ได้ให้ตัวละคร เจอกันแล้วก็ทำ Event ให้ตายๆไปทีละคน ปมทุกอย่างถูกเฉลยทะลักออกมาราวกับสำรอก เหมือนทำอนิเม ยาว 52 ตอน แล้วเอาตอนที่ 11~52 มารวมกันเป็นตอนเดียว มันไม่เหลืออะไรให้จดจำ ตัวละครทั้งหมด โดนพัดพาไปราวกับสึนามิโหมกระหน่ำ เหลือเพียงเศษซากและจุดจบของ
ยามะคัน
บ่นยาวไปหน่อยมั้งเนี่ย เอาเป็นว่าถ้าขี้เกียจก็ข้ามๆไปอ่านรีวิวเลยละกัน งวดนี้เรียงจากคะแนนน้อยนะ อ้อ อันไหนกราฟมันสั้นๆ แสดงว่าเรื่องนั้นมันเป็นอนิเมสั้น 15 นาทีนะครับ
จากคุณ |
:
เรย์ทรี
|
เขียนเมื่อ |
:
19 เม.ย. 54 13:07:25
|
|
|
|