ตอนที่ 14 ต่อครับ
อั้วพูดจริง...ไม่โกหก พูดเรื่องจริงทุกอย่าง
ใครก็พูดได้ว่าไม่โกหก แต่เรื่องจริงมันต้องดูให้ดี แกกลับไปดีกว่าอย่าให้ถึงตำรวจเลย
เชื่ออั้วอานายท่าน คุณนายไปพังร้านอั้ว เอาของขายไปให้ชาวบ้านหมด แล้วยังเอาเงินอั้วให้น้องชายอีด้วย น้องชายอีชื่อเส่ง อาเจ้อีชื่ออาเหลี่ยนกับอาคี้
เยนหลิงอึ้งไปนิด แล้วก็ยอมรับว่าคนเหล่านั้นมีตัวตนทั้งนั้น แต่ทั้งหมดคือคนที่พ่อแม่ของตนเคยสงสารและเคยช่วยเหลือ
นี่...กลับไปเถอะ ถ้าไม่มีเงิน จิวให้เขาไปซักสี่ห้าพัน แล้วกลับไปไม่ต้องมาที่นี่อีก ถ้ามาอีกล่ะก็ถึงตำรวจแน่ๆ เจ้าสัวสีหน้ารำคาญมาก เดินกลับเข้าบ้านไปเลย เยนหลิงจะก้าวตามแต่ไม่วายหันมายิ้มเยาะโกวตี้ที่ยังร่ำร้องบอกทุกคนว่าตนพูดความจริง
เมื่อไม่มีใครสนใจ โกวตี้คับแค้นใจถึงกับร่ำไห้ออกมา เม่งฮวยกำลังจะเดินไปรู้สึกข้องใจหันกลับมากระซิบถามโกวตี้ว่า
นี่...อาตี้ ลื่อสาบานได้มั้ยว่าลื่อพูดจริง
อั้วสาบานให้เจ้าแม่กวนอิมลงโทษ
เจ้าแม่เป็นเทพมีเมตตา ช่วยเหลือคน ไม่ลงโทษคนหรอก
สาบานอะไรก็ได้ โกวตี้เสียงสั่นเครือ สายตาย้ำความจริง เม่งฮวยใจคิดเชื่อมากกว่าครึ่ง พยักหน้าช้าๆ หันกลับมาเปรยกับจิวที่ยืนถือเงินห้าพันอยู่ในมือ
คนเราโกหกคนอื่นได้...โกหกตัวเองไม่ได้หรอก
ooooooo
จริงดังคำกล่าวของเม่งฮวย...เยนหลิงกลับเข้าห้องด้วยความเครียดและความเศร้า ร้องไห้เงียบๆกับตัวเองอย่างขมขื่นแค้นใจ ทุกสิ่งอย่างทำให้ทั้งโกรธทั้งเสียใจไปหมด แม้แต่ลูกสองคนที่ไปเรียนเมืองนอกก็ไม่รัก ไม่อยากกลับมาหา แต่ทว่าเยนหลิงไม่เคยย้อนดูตัวเองเลยว่าเพราะอะไร
เวลานี้เธอทุกข์ใจไร้คนพึ่งพา ตั้งใจจะโทร.ไปขอกำลังใจหรือคำปลอบโยนจากลูกบ้าง แต่ลูกกลับไม่อยากคุยด้วยแถมยังตำหนิเธอว่าโทร.มาไม่รู้จักดูเวลาว่าดึกมากแค่ไหนแล้ว เยนหลิงเจ็บแปลบแทบกระอักกับคำพูดของลูกสาวคนโต เธออาละวาดอยู่สักพักจนลูกสาวทนไม่ไหวเป็นฝ่ายวางสายไปเสียเอง
เยนหลิงเองก็ทนไม่ไหวกับการกระทำของลูกสาว ร้องกรี๊ดสุดเสียงก่อนจะร่ำไห้น้ำตาทะลักทลาย เง็กได้ยินเสียงเจ้านายจึงเปิดประตูเข้ามาดู เป็นจังหวะที่เยนหลิงซวนเซหมดแรง เง็กรีบประคองเธอไว้ในอ้อมแขน และได้ยินเธอสะอึกสะอื้นพึมพำด่าลูกสาว
มันเกลียดม้า...มันไม่รักม้า...อีลูกใจดำ อีลูกใจร้าย
เง็กพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่รู้สึกเอือมระอามากกว่าความสงสาร แล้วอีกครู่ต่อมาเง็กก็ไประบายความอัดอั้นนานาให้บรรดาเพื่อนบ่าวด้วยกันฟัง
เวลาอีด่าอั้ว...อั้วก็โกรธอี นึกในใจว่าอีเห็นอั้วเป็นคน...รึเป็นหมูเป็นหมา นึกจะด่าก็ด่า อั้วไม่มีหัวใจรึไง อั้วรับใช้อีมาตั้งสิบปียี่สิบปี ตั้งแต่สาวจนเหลาเหย่อย่างนี้ รับใช้อีตลอด รองมือรองตีน อีนึกจะด่าก็ด่า นึกจะตีก็ตี นึกจะปาก็ปา ถูกหัวถูกหางอีไม่เคยมอง อั้วยังนึกโกรธเตี่ยโกรธม้าว่าทีลูกชายเลี้ยงเอง ลูกสาวไปให้คนอื่นเขาโขกสับ คุณนายสองอีไม่เคยรักใคร อีรักแต่ตัวเอง
คุณหมวยใหญ่หมวยเล็กล่ะ อาเง็ก ฮุ้งถามขึ้นมา
เจ้ฮุ้งไม่เคยได้ยินเหรอ คุณสองหมวยตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจนเป็นสาว อาม้าคุมตลอด เช้าออกจากบ้านเจ็ดโมง บ่ายสามครึ่งต้องถึงบ้าน ขอไปค้างบ้านเพื่อนก็ไม่ได้ ไปเที่ยวก็ไม่ได้ ต้องท่องหนังสือ ต้องทำการบ้าน เมื่อกี้กรี๊ดเพราะคุณหมวยใหญ่ไม่ยอมพูดด้วย ก็โทร.ไปตีสองปลุกขึ้นมาพูด ไม่รู้ล่ะ อยากโทร.
เมื่อไหร่โทร.ไม่เคยดูนาฬิกา อย่างเนี้ยลูกมันก็ไม่อยากพูดด้วยหรอก
เวลาคุณนายสองมีความสุขตอนไหนเหรอเจ้เง็ก คำถามของจูทำให้เง็กต้องขอเวลาคิดก่อน แต่จูก็ยังข้องใจอีกว่า คิดว่าไง...ว่าเคยมีความสุขรึเปล่างั้นเหรอ
ฮื่อ...สงสัยว่าจะไม่เคย
ไม่เคย... ทุกคนเปล่งเสียงพร้อมเพรียง หน้าตาเหลอหลาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
แต่อั้วสงสัยอีกอย่างหนึ่ง คุณนายสองอีจะรู้มั้ยว่าอีน่ะ...ไม่มีความสุขเลย พูดแล้วฮุ้งก็ถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา...
ค่ำนั้นเยนหลิงพาใบหน้าหมองเศร้าลงมาไหว้เจ้าในบ้าน แล้วก็ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวันจนเง็กเห็นเข้าก็อดเอาไปขยายกับจูและฮุ้งอีกไม่ได้
เดี๋ยวนี้อาคุณนายที่สองอีลงมาไหว้ตี่จู่เอี้ยทุกวัน สงสัยว่า...รู้ว่าตัวผิด เลยมาไหว้
หรือไม่ก็มาไหว้ขอให้คิดออกว่าจะหาเรื่องใครต่อ
อาฮุ้ง...ระหว่างอาโกวกับอาคุณนายที่สอง ลื่อเชื่อคำพูดใคร
อั้วเชื่ออาโกว อั้วว่าอีพูดจริง...อาจู ไม่พูดอะไรซักคำเหรอ
อั้วไม่อยากรู้อะไรของอีซักอย่าง อีจะเป็นลูกหลานทูตรึเปล่า อีจะเป็นผู้ดีรึเปล่า อีจะเป็นคนจีน คนไทย หรืออีจะเป็นลูกเจ๊กขายหมูอยู่ตลาดสามยอด อั้วก็ไม่อยากรู้ทั้งนั้น อั้วรู้อยู่อย่างเดียวก็พอ
อะไร? เง็กกับฮุ้งประสานเสียง
อีเป็นคนไม่ดี อีฆ่าคน วันหนึ่งกรรมต้องตามอีจนทัน คนไม่ดียังไงๆก็ไม่ได้ดี
ฟังคำตอบแล้วทั้งเง็กและฮุ้งเงียบกริบ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่ก็มองหน้าจูอย่างเข้าใจ
ooooooo
ที่โอ๊กแลนด์...ความสัมพันธ์ระหว่างเรยากับเกียรติกรดำเนินไปด้วยดี แต่อาจจะมีคลางแคลงใจบ้างคือฝ่ายชาย เพราะจนป่านนี้แล้วเรยาก็ยังไม่ยอมให้เขาไปที่บ้าน ทำเหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้น
จนวันหนึ่งเธออ้อนขอมาดูบ้านของเขาแล้วเกือบจะมีสัมพันธ์กันเลยเถิด ถ้าจู่ๆเขาไม่หยุดยั้งอารมณ์ไว้เสียก่อน แต่มันทำให้เรยางงงัน ลุกตามมาโอบรอบคอเขา ถามเสียงแผ่วว่าทำไม?
เรยา คุณแต่งงานแล้วใช่มั้ย
คำถามแทงใจจนเรยาตกตะลึง ไม่ทันตั้งตัวเลยไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ยิ่งพอเขาเน้นย้ำอีกครั้งว่า คุณมีสามีแล้วใช่มั้ย...ผมเป็นชู้กับคุณไม่ได้ เรยาก็หน้าเสียแทบจะหมดแรงยืน...
จากคุณ |
:
klink077
|
เขียนเมื่อ |
:
24 เม.ย. 54 12:41:59
|
|
|
|