ตอนที่ 15 ต่อครับ
คุณอยากมีชู้...แต่ผมไม่ยอมเป็นชายชู้คนนั้น!!
เรยาตะลึงงัน มองตามชายหนุ่มที่เธอรักหิ้วกระเป๋าก้าวเดินออกจากบ้าน
ถ้าฉันไม่มีเขา...ไม่มีลูก เสียงของเธอดังไล่หลัง...แต่มันไม่บังเกิดผลดีใดๆเลย นอกจากสายตาเย็นชาของเขาที่หันกลับมามองเพียงอึดใจเดียว แล้วก็เดินจากไป...
ooooooo
เรยาผิดหวังเสียใจกลับมาหมกตัวในห้องนอนที่บ้านตัวเอง ไม่สนใจเสียงโทรศัพท์ที่ดังแว่วอยู่ด้านนอก จนกระทั่งแอนนาเดินเข้ามาส่งกระดาษแผ่นหนึ่ง ให้กับมือ
ผู้ชายคนนี้โทร.มาหลายครั้งแล้ว ฉันเห็นคุณอารมณ์ไม่ดี
ขอบใจ ดูชื่อและเบอร์โทร.ในกระดาษแผ่นนั้นแล้วเกิดรอยยิ้มในหน้าทันที เพราะเป็นนัทนั่นเอง เมื่อเรยา โทร.ย้อนกลับไปหานัท ถามว่ามีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า ปรากฏว่านัทตอบมาเสียงแหบแห้งผสมเสียงหายใจครืดคราดเหมือนคนไม่สบาย
ไม่มี...เห็นฟ้าหายเงียบไปนาน คิดถึง เป็นยังไงมั่ง มีอะไรรึเปล่า
ก็...มีเรื่องนิดหน่อย เอ๊ะนัท นัทเป็นอะไร ทำไมเสียงเป็นงั้นล่ะ
ไม่...ไม่สบายนิดหน่อย ไม่เป็นไร ซื้อยามากินแล้ว ยาเหมือนที่ฟ้าเคยซื้อให้นั่นแหละ
นัท...นั่นเสียงหายใจเหรอ ทำไมมันดังฮืดๆอย่างนั้นล่ะ
เดี๋ยวก็หาย ไม่เป็นไรหรอกฟ้า...นัทคิดถึงฟ้านะ ลูกชายฟ้าสบายดีมั้ย โตแล้วสิสามเดือนแล้วนี่
อ๋อใช่ สามเดือนกว่าจะสี่เดือน กำลังน่ารักเลย ฟ้าส่งรูปให้นัทดูแล้วไง
ฟ้าเลี้ยงเองเหรอ
เลี้ยงเองสิจ๊ะ
ให้นมเค้ากินรึเปล่า
ให้สิ ฟ้ารู้หรอกน่าว่าเด็กกินนมแม่น่ะจะแข็งแรง
ดี...นัทดีใจนะ ฟ้ามีความสุขแล้วใช่มั้ย... นัทเสียงแย่มากจนเรยาตกใจ ถามระรัวด้วยความเป็นห่วง...แต่นัทเหนื่อยมากจนหายใจติดขัด รีบตัดบท เท่านี้นะฟ้า โชคดี คิดถึงฟ้านะ
นัทๆ นัทเป็นอะไร เรยาเสียงหลง แต่นัทวางสายไปแล้ว พอกดกลับไปอีกนัทก็ไม่รับ นั่นยิ่งทำให้เรยากระวนกระวายด้วยความเป็นห่วง
ooooooo
ที่บ้านเจ้าสัว...เยนหลิงนั่งซึมเศร้าอยู่ในห้อง นับวันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวคนเดียวโดดเดี่ยว มีลูก ก็เหมือนไม่มี แถมตอนนี้เจ้าสัวก็มาตายจากไปอีกคน
เม่งฮวยเดินมาหยุดยืนหน้าห้อง เคาะประตูก่อนจะเปิดเข้ามาถามเยนหลิงว่า
ลื่อจะไม่ไปงานศพเหรอ อาคุงนายที่สอง
ไม่ไป ไม่อยากไป
ทำไมไม่ไป ทำไมไม่อยากไป
มันเรื่องของฉัน คุณนายใหญ่จะถามทำไม
ถ้าคนเขาถามถึงลื่อล่ะอาเยนหลิง
บอกไปเลยว่าฉันตายไปแล้ว
อั้วไม่โกหก ถ้ามีคนถาม อั้วจะตอบว่าลื่อไม่อยากมา พวกอีก็จะคิดว่าลื่อน่ะคงมีเรื่องกับนาย ขนาดนายตายไปแล้วยังไม่รู้จักอโหสิ ลื่อไม่มีอะไรดีเลย
เยนหลิงชะงัก ชักสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดตอกย้ำนั้น แต่เมื่อชั่งใจดูแล้วเยนหลิงก็เตรียมตัวไปงานศพเจ้าสัวพร้อมเครือญาติ...
แต่คนที่ก้องเกียรติและกรองกาญจน์รอคอยยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมา จนในคืนสุดท้าย กรองกาญจน์รู้สึกไม่พอใจถึงกับเอ่ยปากกับพี่ชายใหญ่ว่า
ตี๋เล็กเขาไม่มาจริงๆด้วย
ไม่เป็นไรหมวยใหญ่ ยังมีเวลาทำให้ตี๋เล็กเข้าใจได้อีกนาน
แต่นี่งานอาเตียนะ เขาควรจะมาเป็นครั้งสุดท้าย เรื่องอะไรที่ไม่พอใจก็น่าจะเก็บไว้ก่อน ยังไงก็ควรมาส่งพ่อไปสวรรค์
พูดขาดคำ ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาทางหน้าตึก สองพี่น้องหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นใครลงมาจากรถแท็กซี่ รอยยิ้มของสองพี่น้องก็ผุดพรายขึ้นมาทันที
ตี๋เล็ก...พี่ดีใจจริงๆ กรองกาญจน์เข้าไปกอดน้องชาย
ขอโทษนะครับที่มาช้า นี่เป็นไฟลท์ที่เร็วที่สุดแล้วครับ
ไม่เป็นไร ยังทัน พรุ่งนี้มีพิธีกงเต๊ก ขอบใจมากนะตี๋เล็กที่กลับมา ก้องเกียรติตบไหล่น้องชาย ส่วนพี่สาวกุลีกุจอจูงมือน้อง
เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ พี่ให้คนเขาทำความสะอาดห้องเธอไว้แล้ว
ขอบคุณครับ แต่คืนนี้ผมขอนอนห้องอาม้าผมได้มั้ยครับ
กรองกาญจน์ชะงัก ก้องเกียรติเองก็นิ่งไปอึดใจก่อนจะพยักหน้าตามใจน้องชาย...เมื่อขึ้นไปที่ห้องแม่บนชั้นสามซึ่งสภาพยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เกียรติกรยิ่งคิดถึงแม่...และคิดถึงพ่อขึ้นมาเมื่อเห็นภาพถ่ายของเขาในวัยเด็กกับพ่อ...พ่อที่เขาแทบไม่เคยได้ใกล้ชิดคลุกคลี แต่เวลานี้พ่อจากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันกลับ...
ooooooo
หลังจากเสร็จงานศพเจ้าสัว เกียรติกรมีโอกาสได้พบคำแก้ว และแนะนำตัวกับเธอว่าเขาเป็นหมอ แม้เธอจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ตาม แต่เธอก็มีรอยยิ้ม แจ่มใสให้เขา
ผมจะรักษาคุณนายที่สี่นะครับ คุณนายที่สี่จะหายอย่างแน่นอน
อาอึ้มกับก้องเกียรติที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ส่งยิ้มให้กันด้วยความดีใจ
ผมมองนัยน์ตา ยังมีความรู้สึก...ไม่เลื่อนลอยครับพี่ชายใหญ่ ยัง Focus และยังมี Eye contact กันครับ
พี่ดีใจมากที่ได้ยินอย่างนี้ ขอบใจเธอมากตี๋เล็ก พูดจบหันไปหาคำแก้ว เรียกชื่อเธออย่างอ่อนโยน...คำแก้วยิ้มเป็นมิตร นิ่งฟังคำพูดของเขา คำแก้ว...หมอจะรักษาคนไข้คนแรกของเขาอย่างสุดฝีมือ...เธอต้องหาย ฉันจะภาวนาทุกวันทุกคืนให้เธอหาย
คำแก้วเพ่งมองก้องเกียรติ...แล้วรอยยิ้มพลันเหือดหายกลายเป็นความหวาดกลัว วิ่งร้องไห้เข้าไปหลบหลังอาอึ้ม...
เกียรติกรเฝ้ามองปฏิกิริยาของคำแก้วที่มีต่อก้องเกียรติ ตลอดเวลา แล้วตัดสินใจตั้งคำถามกับพี่ชายขณะเดินกลับมาที่ตึกใหญ่ด้วยกัน
พี่ชายใหญ่ครับ การรักษาจะได้ผลมาก ถ้าได้ข้อมูลที่เป็นจริง ผมอยากทราบความสัมพันธ์ของพี่ชายใหญ่กับคุณนายที่สี่
ก้องเกียรตินิ่งไปราวกับลำบากใจที่จะพูด แต่เมื่อเห็นสายตาของน้องที่เหมือนตอกย้ำว่าสำคัญ เขาจึงต้องบอก
ความสัมพันธ์ของพี่กับเธอมันเริ่มต้นจากความสงสารที่มีให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังเด็กมาก แต่ต้องมาเป็นภรรยาของผู้ชายอายุ 60 ทั้งที่เธอไม่เต็มใจ จนกลายเป็นความรู้สึกอาทรห่วงใย อยากจะให้เธอเป็นสุขอย่างแท้จริง...แต่เธอเป็นภรรยาของพ่อ พี่จึงต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าเพียงแต่คิดก็ผิดแล้ว ถึงพี่จะห้ามความคิดห้ามไม่ได้ แต่พี่ขอรับรองว่าไม่มีอะไรที่มากกว่าความคิด...ไม่เคยมี
คุณนายที่สี่ล่ะครับ เธอรับรู้ความรู้สึกของพี่ชายใหญ่หรือเปล่า
เธอก็น่าจะเดาออกว่า คำแก้วจะถูกต้อนรับในฐานะคุณนายที่สี่จากอาม้าและคุณนายที่สองยังไง มันยิ่งทำให้เธออ้างว้าง ว้าเหว่ นอกจากอาม้าของเธอและอาอึ้ม พี่จึงกลายเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งของเธอ
แต่...แต่เธอกลัวพี่ชายใหญ่ ไม่ใช่ความเกลียด ไม่ใช่ ความผิดหวัง ไม่ใช่ความต่อต้าน แต่เป็นความกลัว พี่ชายใหญ่ ทำอะไรให้เธอกลัว เป็นไปได้ไหมครับว่าอาจเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้สติสัมปชัญญะของเธอ...ขาดหายไป
ฟังน้องชายวิเคราะห์แล้ว พี่ชายถึงกับอึ้งงันไปทันที
ooooooo
เมื่อเกียรติกรเตรียมเดินทางกลับโอ๊กแลนด์ในวันรุ่งขึ้น กรองกาญจน์ออกอาการไม่ชอบใจ เพราะยังอยากให้น้องชายอยู่ต่ออีกสองสามวัน แต่พอได้ยินเขาบอกเหตุผล ทั้งพี่สาวพี่ชายก็แทบไม่เชื่อหู
พี่ชายใหญ่ พี่หมวยใหญ่ ขอผมกลับไปสักเดือนหนึ่ง แล้วผมจะกลับมาอยู่เมืองไทยตลอดไป
จะยกเลิกสัญญาจ้างได้หรือตี๋เล็ก
เกียรติกรบอกว่าได้แน่นอน ไม่มีปัญหา แล้วก็อธิบายรายละเอียดเรื่องสัญญาจ้างของทางโรงพยาบาลจนพี่ๆเข้าใจ แต่พี่สาวเกิดมีข้อข้องใจอีกนิดว่า
สรุป...เธอจะไม่อยู่เมืองนอกแล้ว มีเหตุผลมั้ย
นอกจากเหตุผลส่วนตัวของผมแล้ว ผมจะกลับมารักษาคุณนายที่สี่ เพราะผมไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
กรองกาญจน์พยักหน้าแล้วเดินแยกไปด้วยความสบายใจ...พออยู่กันตามลำพังที่หน้าตึก เกียรติกรมองหน้าพี่ชายแล้วเปรยขึ้นมาว่า
พี่ชายใหญ่ครับ...ผมหวังว่าจะมีทางออกนะครับ
จากคุณ |
:
klink077
|
เขียนเมื่อ |
:
30 เม.ย. 54 13:28:46
|
|
|
|