Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"มิว"ลุ้นละคร"วนาลี" ชี้ชะตาชีวิตใน"มายา" ติดต่อทีมงาน

เคยดังเป็นพลุแตกเมื่อ 21 ปีก่อน สำหรับละครอมตะ "วนาลี" ที่ครั้งนั้นได้นางเอกสาว "หมิว"ลลิตา ศศิประภา มารับบท "วิชชุดา" สาวแก่นเซี้ยวที่ไม่ยอมใคร ประชันบทบาทพระเอกรุ่นใหญ่ "ตั้ว"ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ในบท "เสือมืด"

มาวันนี้ "วนาลี" เวอร์ชั่นใหม่ในปี 2554 ที่คว้านางเอกป้ายแดงวัย 16 ปี "มิว"ลักษณ์นารา เปียทา มาสวมบทบาทเดียวกัน และได้พระเอกผิวสี "ป๋อ"ณัฐวุฒิ สกิดใจ มาช่วยเป็นป๋าดัน

ว่างจากการเรียน สาววัย 16 ก็เจียดเวลามาพูดคุยถึงที่มาและประสบการณ์การแสดง

-เข้าวงการมาได้อย่างไร?

มิว - "จริงๆ มิวเข้าวงการมาตั้งแต่ 4 ขวบ เล่นโฆษณานมเด็ก อาหารปลาซากุระ แล้วก็ห่างไป 6 ปี จนอายุ 12 เข้าวงการอีกที มีงานโฆษณาเดือนละตัวจนคนพูดว่าเป็นเจ้าแม่โฆษณา ตัวเด่นๆ ก็คิวท์เพรส ซูกัส นมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งโฆษณาตัวหลังนี้พี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) เห็นแล้วชอบ เลยเรียกเข้าไปดูตัวและจับเซ็นสัญญาเลย"

"มิวสนใจการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความเป็นเด็กรักสวยรักงามก็จะชอบให้คุณแม่แต่งหน้าให้ บางทีมิวก็ชอบแต่งหน้าตุ๊กตาเล่น แล้วจะชอบพูดคนเดียว ทำเสียงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมือนเล่นละครไง เพื่อนเคยทักว่าบ้าหรือเปล่า"

-เซ็นสัญญากับพี่เอเท่ากับว่าก็ต้องได้เล่นละคร ตอนนั้นตกใจไหม?

มิว - "ช่วงแรกยังไม่ค่อยตกใจเท่าไร เพราะรู้ว่าดัดฟันไม่สามารถเล่นละครหรือถ่ายโฆษณาได้ แต่พอมีโฆษณาติดต่อมาก็ถอดเหล็กแล้วใส่ใหม่ จนมีละครวนาลี พี่เอเสนอมิวให้คุณตู่ (ปิยะวดี มาลีนนท์) พอคุณตู่ตัดสินใจจะให้มิวเล่นเลยต้องถอดเหล็กดัดฟันอีก ทุกวันนี้ดัดฟันไม่เสร็จสักที เพราะถอดเหล็กเข้าออกอยู่นั่นแหละ (หัวเราะ)"

- รู้สึกอย่างไรกับละครเรื่องแรก?

มิว - "ตื่นเต้นมากค่ะ แต่ไม่ตื่นเต้นเท่ากับที่รู้ว่าพระเอกคือพี่ป๋อ (ณัฐวุฒิ) ตอนนั้นพอรู้ว่าเล่นเป็นนางเอกก็ดีใจ และคิดว่าคงน่าจะได้เล่นคู่กับพี่ณเดชน์ (คูกิมิยะ) หรือพี่หมาก (ปริญ) เพราะเป็นเด็กในสังกัดพี่เอเหมือนกัน สรุปไม่ใช่ แต่เป็นพี่ป๋อซึ่งก็เป็นเด็กพี่เอเหมือนกัน แต่รุ่นใหญ่"

- เจอพี่ป๋อครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?

มิว - "วันที่ไปเวิร์กช็อปเจอพี่ป๋อครั้งแรก ตลกมาก มีโจทย์คือทำยังไงก็ได้ให้คนที่อยู่ในห้องออกไปให้หมด มิวไล่ทุกคนเหลือพี่ป๋อซึ่งมิวไม่กล้าไล่ จนในที่สุดมิวตะโกนไล่พี่ป๋อ พี่ป๋อก็ไม่ยอมออก มิวเลยเข้าไปบิดหูจนเขาบอกออกก็ได้"
"จบการเรียนมิวรีบเข้าไปขอโทษ พี่ป๋อก็ให้คำแนะนำว่าจริงๆ ไม่ต้องเล่นจริงก็ได้ แค่ทำให้รู้สึกเจ็บแล้วคนที่เล่นด้วยก็จะรับอารมณ์ที่ส่งมา แล้วแสดงต่อไปเอง มิวเลยจำ เป็นบทเรียน"

- เคยติดตามผลงานของพี่ป๋อมาก่อนไหม?

มิว - "พี่ป๋อเป็นนักแสดงชายไอดอลของมิว มิวติดละครคมแฝก ที่พี่ป๋อเล่นมากๆ ถึงขั้นขโมยคมแฝกของคุณตามาเล่น ส่วนนักแสดงหญิงที่เป็นไอดอล ชอบพี่แอน ทองประสม ค่ะ"

- กดดันไหมขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอกหน้าใหม่ช่อง 3?

มิว - "กดดันมากค่ะ ด้วยความที่เป็นละครเรื่องแรก หน้าใหม่และเด็กที่สุดในกอง เลยต้องมีการเตรียมตัวเยอะมาก"

- บท "วิชชุดา" ที่ "มิว" เล่น "หมิว-ลลิตา" เคยเล่นไว้เคยดูไหม?

มิว - "ตอนเล่นแรกๆ มิวยังไม่รู้ว่าเวอร์ชั่นก่อนใครเล่นบทนี้ แต่พอรู้จากคุณแม่ว่าเป็นพี่หมิว (ลลิตา) ก็อึ้งไปแว้บนึง จากนั้นก็ถามว่าพี่หมิวเล่นดีมั้ย แม่ตอบว่าจะเหลือเหรอ ดังระเบิดระเบ้อ ตอนนั้นเริ่มคิดแล้วว่าตัวเองจะทำได้ดีเท่าพี่ หมิวมั้ย มิวไม่มีโอกาสได้ดูเวอร์ชั่นเก่าแต่ก็ถามแม่ว่าตัว "วิชชุดา" แก่นขนาดไหน แม่บอกว่าก็แก่นพอตัว ซึ่งตอนที่พี่หมิวเล่นก็อายุพอๆ กับมิวตอนนี้เลยค่ะ"

- คาดหวังอย่างไรกับละครเรื่องแรก?

มิว - "คาดหวังสูงทีเดียวค่ะ ละครเรื่องแรกอยากให้ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จอาจจะเสียเซลฟ์นิดนึง เพราะตอนถ่ายมิว เต็มที่มาก อยากให้คนดูชอบ"

"ฟีดแบ็กจากละครเรื่องนี้ถือเป็นการชี้ชะตา ชีวิตมิวมากๆ ถ้ามันไปได้สวยก็ไปเลย แต่ถ้ามีอะไรที่คนดูไม่ชอบ หรือเรตติ้งไม่ดีก็จบเลย อาชีพนักแสดงอาจจะยังอยู่ แต่คงได้เล่นน้อยลง หรือไม่ก็ไม่ได้เล่นเป็นนางเอกแล้ว อยากให้คิดว่านี่คือละครเรื่องแรกของเด็กอายุ 15 เอาใจช่วย มิวเยอะๆ นะคะ"

- รู้สึกว่าตัวเองเด็กไปหรือเปล่ากับการเข้ามาอยู่ตรงนี้?

มิว - "ไม่ค่ะ ถ้าเป็นเมืองนอกส่วนใหญ่ก็จะเข้าวงการอายุประมาณมิวทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นเมืองไทยอายุประมาณนี้อาจจะได้เล่นเป็นลูกหรือเป็นเด็กอะไรในเรื่องไป โอกาสที่จะเป็นนางเอกเลยมันดูเด็กไป ซึ่งพอได้มาสัมผัสกับงานแสดงยอมรับว่าติดใจค่ะ เรียกว่าหลงรักเลยก็ว่าได้"
- วงการบันเทิงที่คิดไว้กับตอนนี้ที่ได้เข้ามาสัมผัสเอง เหมือนหรือแตกต่างกับที่เคยคิดไว้?

มิว - "แตกต่างมากค่ะ วงการนี้มายาจริงๆ คือนักแสดงสร้างความสุขให้คนดู แต่คนดูไม่รู้ว่าเบื้องหลังเหนื่อยแค่ไหน เมื่อก่อนมิวก็คิดว่านักแสดงทำงานสบาย ได้เงินง่าย จนมาได้ทำเองรู้ซึ้งเลย โอเคมันได้เงินเยอะก็จริง แต่ต้องแลกมากับหยาดเหงื่อ การตื่นเช้า ต้องดูแลตัวเอง ป่วยไม่ได้"

"สำหรับอนาคตเส้นทางบันเทิงหลังจากนี้ คงจะไปเรื่อยๆ ก่อน คิดว่าถ้ามีละครเข้ามาอีกก็อยากรับทีละเรื่อง เพราะยังเรียนอยู่ค่ะ"



คนไทยแท้

เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ พี่สาวอยู่พร้อมหน้า โดยหนู "มิว"ลักษณ์นารา เปียทา เล่าถึงการเลี้ยงดูว่า

"พ่อกับแม่จะเลี้ยงดูลูกต่างกัน แม่จะเลี้ยงลูกเหมือนเป็นเพื่อน ปล่อยๆ นิดนึง แต่พ่อจะหวงลูกสาวมาก ส่วนกับพี่สาวอายุห่างกันปีเดียวเลยจะเหมือนเพื่อนกันมากกว่าค่ะ"

สำหรับนิสัยใจคอของ "มิว" นั้น เจ้าตัวบอกกล่าวว่า "มิวค่อนข้างจะชิลกับชีวิต ลุยๆ ห้าวๆ ไม่ค่อยคิดอะไรมาก พยายามทำตัวให้สมวัยค่ะ"

หน้าตาดูกระเดียดไปทางฝรั่ง มีคนทักบ้างไหม เจ้าตัวพยักหน้า "มีคนเข้าใจผิดเยอะมากว่าเป็นลูกครึ่ง เพราะหน้าตาออกฝรั่ง จริงๆ เป็นคนไทยแท้ โดยมิวเป็นคน จ.สมุทรปราการ คนย่านนี้แต่ก่อนจะเป็นที่อยู่ของคนมอญ เลยไม่แน่ใจว่าอาจจะมีเชื้อมอญด้วยหรือเปล่า"

คิดไหมว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร "ตอนเด็กๆ อยากเป็นแอร์โฮสเตส เพราะชอบเกี่ยวกับภาษา แล้วก็ชอบอยู่ที่สูงๆ ด้วย ถ้าเป็นแอร์ฯ ก็จะได้ขึ้นเครื่องบินตลอดเวลา แต่ตอนนี้อยากเป็นพาทิซิเย่ (คนทำขนมเค้ก) มากกว่า เพราะชอบกินขนมเค้กมาก อยากทำเป็นด้วย เลยคิดว่าถ้ามีร้านเบเกอรี่เล็กๆ ก็คงดี"

หลังเข้าวงการแล้วชีวิตเปลี่ยนจากเดิมเยอะไหม มิวแง้ม "เยอะมาก แต่ก่อนเป็นเด็กธรรมดาอยู่บ้าน ไปเรียน เรียนเสร็จกลับบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ต้องตื่นเช้ากว่าเดิมมากๆ เพื่อมาถ่ายละคร อีกวันก็ต้องตื่นเช้าไปเรียน จากที่ไม่ต้องคิดอะไรมากก็ต้องคิดมากขึ้น"

รู้สึกอย่างไรที่ได้มาทำงานในวงการ "ได้อย่างเสียอย่างค่ะ ในขณะที่มิวมีประสบ การณ์มากกว่าคนอื่น แต่มันก็จะไม่มีได้เล่นได้สนุก ถ้าถามว่าอยากได้ชีวิตส่วนไหนมากกว่ากัน พูดตรงๆ อยากได้ชีวิตแบบเด็กๆ มากกว่า เพราะยังอยากสนุกกับเพื่อนอยู่เลย แต่ตอนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้นแล้วก็ต้องทำโอกาสที่ได้รับให้ดีที่สุด เพราะโอกาสไม่ได้มาถึงตัวเราง่ายๆ อีกอย่างมิวเลือกโอกาสนี้เองด้วย"

เรียกว่าเมื่อก้าวเข้ามาแล้ว ก็ต้องสานต่อให้สำเร็จ



สเป๊กชอบผู้ชายผมยาว

"ยังไม่มีค่ะ ตอนนี้รักเรียน รักงาน และรักครอบครัวมากๆ ค่ะ" สาววัย 16 "มิว"ลักษณ์นารา เปียทา บอก หลังถูกยิงคำถามเรื่องความรัก

จากนั้นก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับมุมมองความรักของตนเองว่า "เดี๋ยวนี้ความรักเหมือนแฟชั่น คำว่าแฟนของเด็กสมัยนี้เป็นเหมือนเครื่องอวดกัน โอเคว่ามุมน่ารักๆ ก็มี แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมี เพราะวัยอย่างมิวไม่มีทางจะเข้าใจความรักได้ถ่องแท้หรอก"

"อย่างบางทีเห็นผู้ชายหล่อแล้วรู้สึกปลื้ม ก็คิดว่ารักเขาแล้ว ทั้งที่มันคือความหลง ความรักเป็นคนละเรื่องกับความหลงหรือความปลื้ม ถ้าเป็นความรักต่อให้เราจะขี้เหร่ขนาดไหนยังไงคนที่รักเราก็จะมองว่าเราสวยกว่าคนอื่น"

เจ้าตัวให้แง่มุมต่ออีกว่า "ที่มิวคิดแบบนี้ได้เพราะเห็นมาเยอะจากเพื่อนๆ เชื่อมั้ยเพื่อนบางคนที่มีแฟนชอบแนะนำเพื่อนของแฟนให้รู้จัก พอมิวบอกไม่เอา ไม่อยากมีแฟน เพื่อนก็จะบอกว่าคบๆ ไปเถอะ ซึ่งคำว่าคบๆ ไปเถอะเนี่ยมิวไม่ชอบเลย การเป็นแฟนกันมันไม่ใช่แค่อยากมีคนเดินจับมือ ไปกินข้าวดูหนัง หรือแค่เหงานะ"

ถึงจะยังไม่มีเรื่องความรัก แต่เรื่อง สเป๊กหนุ่มในฝันต้องมีบ้างล่ะน่า โดยมิวยิ้มก่อนบอกว่า "มิวชอบแนวติสต์ๆ ชอบผู้ชายผมยาว อย่างพี่เป้-อารักษ์ นี่ใช่เลย หรือพี่บอม-ธนา 2 คนนี้มิวปลื้มสุดๆ มิวว่าผู้ชายผมยาวแล้วเล่นดนตรีได้ดูมีเสน่ห์และมี คาแร็กเตอร์ มิวเคยเจอพี่เป้แล้ว แต่เจอตอนตัดผมสั้น แซ้ดมากเลย (หัวเราะ) ส่วนพี่บอมอยู่สังกัดเดียวกัน แต่ย้ำว่าแค่ปลื้มนะ"

นั่นคือโลกในความฝัน แต่ถ้าโลกในความเป็นจริงนั้น เธอบอกว่า ถ้าเจอคนที่ใช่ก็คงไม่คำนึงถึงสเป๊กเท่าไร ดูที่จิตใจมากกว่า

 
 

จากคุณ : จาเนโระ
เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:39:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com