 |
"เกิดอีกทีต้องมีเธอ" คือภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยศิลปินในดวงใจของผม "ขวัญทัช ณ ตะกั่วทุ่ง" ประกบดาราหญิงดาวรุ่งแห่งยุค "กุลสตรี ศิริพงศ์ปรีดา"
กำกับการแสดงโดยปรัชญา ปิ่นแก้ว (ต่อมาเป็นเจ้าของชื่อ Login "Hitomi" ในเฉลิมไทย พันทิป)
ทีมงาน RS FILM ติดต่อผมมาโดยบอกว่า ผู้กำกับได้ดูผมในทีวี(รายการตัวต่อตัว) ...อยากให้มาแสดงด้วย จึงบอกทีมงานว่า "ไปตามไอ้เด็กเงินล้านมา" แต่เผอิญหนังเริ่มถ่ายทำกันไปแล้ว.. จึงไม่มีบทอื่นนอกจากบทเด็กส่งเสื้อ...ซึ่งมีในบทภาพยนตร์นี้ผมมีภาระต้องพูดคำเดียวคือ ..."หวาน" ..
ก่อนวางสายทีมงานถามผมว่า "น้องค่าตัวเท่าไหร่" ... มันช่างเป็นคำถามที่ดูใหญ่โตเกินไปสำหรับผมมากๆ ...ผมอยากเข้าวงการบันเทิง แต่ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยจริงๆ ผมจึงตอบเขาว่า "ผมขอศึกษาดูบทก่อนได้ไหมครับ" ..เขาบอกว่า "พูดคำว่า หวาน คำเดียวเลยน้อง!" ...ผมเลยบอกไปว่า "งั้นแล้วแต่พี่เลยครับ" (ฮา)
(การสนทนางานรวมถึงการต่อรองค่าตัวทั้งหมด กระทำโดยใช้โทรศัพท์สาธารณะของโรงเรียน... ผมขออนุญาตออกจากห้องเรียนในขณะครูสอน โดยให้เหตุผลว่า มี"งานแสดงเข้ามา!" โอ้..ช่างยิ่งใหญ่เจงๆ ..เหอๆ)
วันถ่ายทำ..เขานัดหมายผม"ตี4"ที่หน้า RS Promotion จำได้ดีว่า "โจ" เพื่อนซี้ข้างบ้านของผมผู้ซึ่งอยากเข้าวงการบันเทิงด้วย (ปัจจุบันเป็นผู้บริหารใหญ่ของ Mono Music ผู้ปลุกปั้น G20 / Candy Mafia จนโด่งดัง) ติดสอยห้อยตามไปดูแลผมอย่างดีมาก ... โจกับผมแหกขี้ตาตื่นไปถึงตี4 ตามเวลานัด... เขาให้ผมจอดรถไว้ที่ RS แล้วนั่งรถตู้ไป Location กับพวกเขา .. สถานที่ถ่ายทำคืออาคาร "หนึ่ง คอนโดมิเนี่ยม รัตนาธิเบศ" ...ซึ่งจัดว่า "ไกลโคอตตตตรรร" ในสมัยนั้น ...นั่งรถตู้ไป รู้สึกเหมือนโดนลวงไปฆ่า (มืดมากกกกก)
ถึงกองถ่ายก็ฟ้าสาง... ระหว่างรอ รอ รอ ก็ได้ชมแสนยานุภาพของกองถ่ายหนัง..การเซ็ทฉาก, เซ็ทไฟ แต่งหน้าจนหน้ามันไป 2รอบ.. ก็ยังไม่ได้ถ่ายทำ จนเที่ยงก็แล้วก็พักกอง โดยเรายังไม่ได้ถ่ายทำอะไรเลย... กินข้าวไปรู้สึกเสียข้าวสุกเขา เพราะเรายังไม่ได้ทำงานอะไรให้เขาเลย
ปรากฏทีมงานเดินมาแจ้งว่าคิวผมต้องเข้าฉากกับ "ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง+นิ๊ง กุลสตรี พระเอกนางเอก" (ผมกรี๊ดสุดๆ) ..แต่เขานัดดาราไว้บ่าย 2 ..กว่าจะแต่งหน้าทำผมและได้ถ่ายทำก็คงประมาณบ่าย4 (แต่พี่นัดผมมาตี4 เนี่ยนะ!!!)
บ่าย4 ได้่ถ่ายจริงๆครับ.. เตรียมท่องคำพูดในบทคือคำว่า "หวาน" ไว้ อย่างขึ้นใจ..
ทีมงานพาผมเข้าไปในลิฟต์ที่ทำการง้างไว้เพื่อการถ่ายทำ...
ผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้วอันน่าเกรงขามมากในเวลานั้น (เวลานี้ซี้กันมาก เป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้วครับ) เขาเดินออกมาจากหลังมอนิเตอร์ เพื่ออธิบายหลักการแสดงในฉากของผม... เขาบอกผมว่าฉากในลิฟต์น่ะยังไม่ต้องพูดอะไร.. แค่รู้สึกเหม็นๆก็พอ ..อ่านการ์ตูนอยู่แล้วเหม็นๆ ไม่ต้องมองหน้าทัชกะนิ๊งเลยนะ (มารู้ภายหลังตอนหนังฉายว่า ทัชกะนิ๊งเล่นเป็นผี!!!?!??!)
จากนั้นผมมาอีกฉาก...เอาเสื้อมาส่ง พอออกจากห้องให้คว้าแอปเปิ้ล (ที่ทีมงานส่งให้) มาด้วย ..คราวนี้ได้พูดบทคำว่า "หวาน" สมใจ!
ถ่ายทำกันเสร็จราว 6โมง... ผมได้กลับบ้านก่อน โดยที่นักแสดงและทีมงานยังถ่ายทำฉากกลางคืนกันต่อ ...ผมชอบพี่ทัชมาก (ตอนม.2 ตั้งทีมเต้นเท้าไฟ เต้นเพลงเขาโชว์ในงานโรงเรียน) แต่ก็ไม่รู้ทำไม...ไม่กล้าขอลายเซ็นต์ (อาจเพราะความรู้สึกของการเป็นนักแสดงอาชีพก็ได้... มืออาชีพเขาคงไม่ขอลายเซ็นต์กันในงาน!)
แต่ที่แน่ๆได้กรี๊ดตรงที่ "เสื้อกั๊ก"ของผม (ที่กะใส่เข้าฉากแต่ทีมงานบอกมันดูดีเกิ๊น~) ถูกนิ๊งกุลสตรี เอาไปห่มนอน... (มาบ่าย 2 ง่วงนอนซะแล๊ะ) ..เอากลับมาถือยังมีกลิ่นไอตัว... กรี๊ดๆๆๆ ...(กรี๊ดในใจ)
สุดท้ายได้กรี๊ดแบบออกเสียงสมใจอยาก เมื่อถึงหน้ารถตู้ แ้ล้วรู้สึกว่าที่ทำงานไปยังไม่ได้รับค่าจ้าง จึงถามหาทีมงาน... คนรับผิดชอบวิ่งกระหืดกระหอบมาบอกไม่มีแบงค์ย่อย .."พี่มีแบงค์ 500อ่ะน้อง... น้องเอาไปแบ่งกับนักแสดงที่เล่นเป็นแม่บ้านเองได้อ๊ะปล่าว??" ...ผมตกลงเล็กน้อย ถามกลับเพื่อความมั่นใจ .."คนละ 250บาทรึ...ครับ"
"ใช่สิ!...ก็ตัวประกอบก็เรทนี้แหละ ..พี่เขาไม่ได้บอกก่อนเหรอ??" ... (ฮา) ...(ฮาแบบพร้อมคราบน้ำตา)
จำได้ว่าอาการเหวี่ยงครั้งแรกในชีิวิตเริ่มต้นจากจุดนี้แหละ... ผมเริ่มทักท้วงว่า "ผู้กำกับฯคนใส่แว่น บอกว่าเห็นผมในทีวีอยากให้ผมมาแสดงไม่ใช่เหรอ??? ทำไมทำกับผมอย่างเงี้ย??? (จะให้ไปแตกแบงค์-ทอนตังค์กันเองนี่...ผมรับไม่ด๊ายยยยย) จบท้ายประโยคการเหวี่ยงครั้งแรกในชีิวิตว่า "รู้มั้ยว่าผมคือใคร?" (นั่นสิ..กรูก็ยังไม่รู้เลยว่ากรูคือใครฟ๊ะ?)
ผู้รับผิิดชอบทางด้านการเงิน จึงหันหลังวิ่งกลับไปยังกองถ่าย... ขณะนั้นคนขับรถตู้ที่ง้างประตูรอผมอยู่ เริ่มเห็นความผิดปกติ จึงถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเล่าเรื่องราวให้ฟัง... แกของขึ้นพร้อมสบถ "ไอ้พวกนี้มันเอี้ยจริงๆ... ให้น้องมารอตั้งแต่ตี4 แล้วจะจ่ายแค่นี้... พี่ยังได้ 400 เลยน้อง~!!! อย่าไปยอมมัน!!" โห... แรงส์~
สรุปงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตได้ค่าเหนื่อยมา 1,000 บาทไทย
(ต่อ.... ยังจะต่ออีกเร๊อะ???)
จากคุณ |
:
หนุ่ย.พงศ์สุข (นักเรียนละคร)
|
เขียนเมื่อ |
:
4 พ.ค. 54 02:17:09
|
|
|
|
 |