มูลค่า (อู้ฟู่) ณ นาทีทอง ณเดชน์
11 พฤษภาคม 2554
!!! ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จะหลับตาหรือลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นแต่หน้าเขาคนนั้น
โดย...พริตตี้ พี
เฮ้อ!!! ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จะหลับตาหรือลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นแต่หน้าเขาคนนั้น อ๊ะอ๊ะอ๊ะ...ก็จะใครซะอีกล่ะคะ เขาคนนั้นก็คือหนุ่มสุดฮอต แบร์รี่ณเดชน์ คูกิมิยะ นักแสดงและนายแบบลูกครึ่งไทยออสเตรีย นั่นแหละค่ะ ที่ช่วงนี้ขอบอกว่างานวิ่งเข้ามารุมยิ่งกว่าหนุ่มคนไหนๆ เข้าวินหนุ่มฮอตแห่งปีไปแล้ว
ทั้งๆ ที่หนุ่มณเดชน์ก็เพิ่งจะมีผลงานละครออกมาได้ชมกันเพียงสองเรื่องเท่านั้น คือ เงารักลวงใจ และดวงใจอัคนี แต่ทำมั้ยทำไมงานโฆษณาที่หนุ่มคนนี้เป็นพรีเซนเตอร์กลับมีกว่าสิบกว่าตัว แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกว่าฮอตได้ยังไง อาทิ หมากฝรั่งไทรเด้นท์ รีแคลเด้นท์ ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ นีเวีย ฟอร์เมน โทรศัพท์และโน้ตบุ๊กซัมซุง รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ รองเท้าบาโอจิ เลย์ มาสด้า โฟร์โมสต์ น้ำส้มมินิทเมด พัลพิ แป้งเย็นทเวลฟ์ พลัส โออิชิ ฟรุตโตะ ทรูมูฟ ฯลฯ
แต่จะว่าไป โฆษณาที่ออกอากาศพร้อมกันหลายๆ ตัวในเวลาเดียวกัน หลายคนบอกว่าเกิดอาการสับสน มึนงง และจำไม่ได้ว่าหนุ่มณเดชน์นั้นมีงานโฆษณาชิ้นใดบ้าง ก็แหม...หลายตัวซะขนาดนั้น ขนาดว่าโฆษณาโออิชิ ฟรุตโตะ ที่มาล่าช้าไปหน่อย ถึงกับต้องใช้กลยุทธ์เน้นคำพูดในโฆษณาว่า ณเดชน์โฆษณาฟรุตโตะ ซะอย่างงั้น เพื่อให้คนจำได้
แล้วอย่างนี้เจ้าของสินค้าจะได้ประโยชน์คุ้มค่าจากค่าตัวไหมเนี่ย??? เพราะอุตส่าห์เสียเงินจ้างแสนแพง แต่คนดูกลับจำสินค้าไม่ได้ซะงั้น!!!
ปุ้มวิทวัส ชัยปาณี นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า การที่หนุ่มณเดชน์มีงานโฆษณาวิ่งเข้ามาไม่ขาดสาย ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ก็ว่าได้ เพราะน่าจะเป็นแชมป์ที่มีจำนวนงานโฆษณาแซงหน้าหนุ่มๆ หลายคนไปซะแล้ว
ส่วนการที่มีโฆษณาออกมามากมาย จนหลายคนอาจจะจำไม่ได้นั้น วิทวัส มองว่า น่าจะมีเพียงบางแบรนด์เท่านั้นที่ได้ประโยชน์และยอดขายจากโฆษณา ซึ่งส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นแบรนด์ที่เป็นเสือปืนไวฉกตัวณเดชน์มาเป็นพรีเซนเตอร์ได้ก่อน หรือไม่ก็ต้องเป็นแบรนด์ที่เงินหนาโหมโฆษณาออกมาถี่ๆ ส่วนแบรนด์ที่คิดช้ากว่าเจ้าอื่นๆ น่าจะไม่ค่อยได้ประโยชน์มากนัก
ผมคิดว่าในแต่ละคนก็มีวิธีการทำโฆษณาต่างกัน ได้เปรียบเสียเปรียบไม่เหมือนกัน การเลือกใช้ดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ข้อสำคัญคือ ต้องเลือกความเป็นตัวตนของเขาออกมาให้แรงๆ เพราะในความเป็นจริงแล้ว หนังโฆษณาทั่วไปก็ไม่ค่อยมีไอเดียหวือหวาอะไรให้คนจำอยู่แล้ว คนก็ต้องจำตัวพรีเซนเตอร์เป็นหลัก ซึ่งก่อนที่จะใช้พรีเซนเตอร์ฮอตๆ แบบนี้ เจ้าของสินค้าต้องถามตัวเองว่าสู้เขาได้ไหม เพราะนอกจากตัวสินค้าแล้วก็ต้องสู้กันด้วยความถี่เพื่อให้คนจำว่าเป็นแบรนด์ใด
เรื่องของค่าตัวในการโฆษณาแต่ละเรื่องนั้น วิทวัส บอกว่า ตอนนี้สำหรับณเดชน์แล้วราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทต่อเรื่อง หรือมากกว่านั้น เพราะบางคนที่อยู่ในช่วงฮอตมากๆ เรื่องละ 7 ล้านบาท หรือ 10 ล้านบาท ก็มีมาแล้ว
ส่วนเรื่องที่ว่ารับโฆษณาหลายเรื่องพร้อมกัน
จนคนดูอาจจะจำไม่ได้ ไม่รู้สิถ้าผมเป็นดาราผมก็คงไม่คิดมาก เพราะน้ำขึ้นให้รีบตัก ใครจ้างผมก็รับ ก็คนอยากจ้างเองนิ ไม่ใช่หน้าที่พรีเซนเตอร์ที่ต้องคิด เป็นหน้าที่คนวางกลยุทธ์ว่าจ้างเขามาแล้วจะเหมาะไหม จะขายดีไหม หรือบางคนอาจจะค่อยๆ เลือกรับ แล้วแต่กลยุทธ์ของแต่ละคนต้องวางให้ดี แบบว่านานๆ ทีรับงานทีแล้วเรียกแพงไปเลยก็ได้ แล้วแต่จะบริหารกันไป
ด้าน แฮมปารเมศร์ รัชไชยบุญ นักโฆษณาระดับมือดีที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการโฆษณามาเกือบ 30 ปี ก็บอกว่า การที่หนุ่มณเดชน์มีงานโฆษณาวิ่งเข้ามาชนเยอะก็ถือว่าเป็นโชคดีของเขา เพราะในวงการบันเทิงไม่ได้มีแบบนี้บ่อยๆ แต่ถ้ามากจนเกินไปก็จะทำให้คนดูเกิดอาการสับสนและจำไม่ได้ ยอดขายก็จะไม่ได้ตามเป้า
การรับโฆษณาเยอะๆ พร้อมกันทีเดียว ก็อาจจะทำให้เสี่ยงต่อการที่เจ้าของสินค้าไม่จ้างต่อในปีต่อๆ ไป เป็นไปได้หมด เพราะทุกคนที่ลงโฆษณาไปไม่ใช่มูลนิธิ ทุกอย่างที่ลงทุนไปก็หวังกำไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าเขาแล้วขายไม่ได้ หรือไม่ได้ผลตามเป้า ปีต่อไปเขาก็อาจจะไม่จ้างอีก แต่ถ้าผลออกมาสำเร็จเขาก็คงจะจ้างต่อไปไม่เสียหายอะไร
โอ๊ตวรวรรณ ไชยกำเนิด ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส ผลิตภัณฑ์เลย์ บริษัท เป๊ปซี่ โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง บอกว่า การที่เลือกหนุ่มณเดชน์มาเป็นพรีเซนเตอร์คู่กับสาวญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ กับธีมแรก เลย์ ความสุขเล็กๆ ที่แบ่งกันได้ เพราะคิดว่าณเดชน์และญาญ่าน่าจะเป็นคู่เพื่อนซี้ที่สามารถนำเสนอสินค้าได้ดีที่สุด เพราะทั้งคู่สนิทสนมมีมิตรภาพของความเป็นเพื่อนและพี่น้อง และที่สำคัญยังเป็นที่รักของทุกคนอีกด้วย
โฆษณาชิ้นนี้เราได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะหลังจากภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ออกอากาศได้เพียง 1 สัปดาห์ หนังโฆษณาชุดนี้ก็ได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโฆษณาที่มีคนดูมากที่สุดจากเว็บไซต์ Ad in Trend และหนังโฆษณาชุดที่ 2 คิดรสให้เลย์ 2 คิดรสแบ่งปัน เฮกันเป็นล้าน ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเช่นกัน เพราะมีผู้ชมแล้วกว่าหลายแสนครั้งในยูทูบและเฟซบุ๊กของเลย์ รวมทั้งยังได้รับการพูดถึงในสื่อต่างๆ มากมาย และถ้าดูจากกระแสตอบรับจากผู้ชมและผู้บริโภคของเลย์ก็ต้องบอกว่าส่งผลดีค่ะ เนื่องจากเลย์เป็นแบรนด์แรกที่นำน้องทั้งสองคนมาเป็นพรีเซนเตอร์คู่กัน ทำให้ทั้งแฟนคลับและคนที่ชื่นชอบติดตามผลงานของน้องทั้งสองคนมาติดตามและบริโภคเลย์ ทำให้แบรนด์เลย์เป็นที่จดจำและอยู่ในใจผู้บริโภคได้มากขึ้น
นาทีนี้คงจะไม่มีใครมาทาบรัศมีความฮอตแบบสุดๆ ของหนุ่มคนนี้ได้แล้วละเนี่ย!!!! ว่ามั้ยล่ะ
ที่มา: http://www.posttoday.คอม/เมาท์กันให้-z/z-s...-นาทีทอง-ณเดชน์
ขอบคุณ บ้านNWD