มาเพิ่มให้อีกหน่อย สำหรับประวัติท่านมันจิโร่ เพราะน่าสนใจดี
หลังจากตัดสินใจไปกับกัปตันเรืออเมริกันแล้ว ท่านมันจิโร่ก็ได้ไปขึ้นฝั่งที่อเมริกา และกัปตันเรือก็ทำให้ท่านได้เรียนหนังสือที่ Oxford School รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นเวลา 1 ปี โดยเรียนภาษาอังกฤษและวิชาการเดินเรือ
หลังจากนั้นท่านก็ได้ทำงานเป็นลูกเรือ ได้ไปขุดทองที่แคลิฟอร์เนียด้วย จนได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก็เอาไปซื้อเรือเพื่อแล่นกลับไปญี่ปุ่น
สมัยญี่ปุ่นปิดประเทศนั้น ท่านมันจิโร่กับเพื่อนชาวญี่ปุ่นอีกรวมเป็น 4 คนไม่กล้ากลับประเทศ เนื่องจากการออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องถูกประหาร
เมื่อกลับมาถึงบ้านคราวนี้ ก็ถูกกักตัวเพื่อสอบสวน 1 เดือน แต่ไม่ได้รับโทษอะไร เมื่อกลับถึงโทสะ ท่านก็กลายเป็นบุคคลที่มีค่าทางด้านข้อมูลข่าวสาร ท่านเจ้าแคว้น ยามาอุจิ โยโด ได้มอบเบี้ยหวัดให้เป็นรางวัลและให้ตำแหน่งราชการแก่ท่านมันจิโร่
แน่นอนเหลือเกินว่าเรื่องราวการผจญภัยของท่านนั้น จะเป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งโทสะ โดยเฉพาะในกลุ่มหนุ่ม ๆ รวมถึงเรียวม่าด้วย
2 ปีหลังจากกลับถึงบ้าน ทางรัฐบาลโชกุนได้เรียกให้ท่านมาที่เอโดะ เพื่อสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ของทางฝั่งอเมริกา ท่านได้เป็นข้าของรัฐบาลโชกุนที่เรียกว่า ฮาตะโมโตะ (Hatamoto) คือสังกัดรัฐบาลโดยตรง
ในปีเดียวกันนั้นเอง เพอรี่ก็เข้ามาที่ญี่ปุ่นพอดี ท่านมันจิโร่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นล่ามในการทำสนธิสัญญาคานากาว่า ต่อมาอีก 7 ปีที่เรือคันริน มารุของท่านอาจารย์คัทสึต้องไปอเมริกา ท่านก็ทำหน้าที่เป็นล่ามประจำเรือ และเมื่อเรือประสบกับพายุนั้น ท่านก็ดำเนินการให้เรือได้ไปถึงอเมริกาอย่างปลอดภัย เพราะท่านคัทสึและลูกเรือชาวญี่ปุ่นยังไม่มีประสบการณ์ในการเดินทางออกนอกประเทศ รวมถึงยังมีอาการป่วยจากการเมาเรือกันอีกด้วย
จากความรู้ทางการเดินเรือที่มีนี้ ท่านก็ได้ใช้มาช่วยในการเรียนการสอนการเดินเรือ การต่อเรือของรัฐบาลอีกด้วย
อีก 10 ต่อมาหลังจากไปกับคันริน มารุ ท่นมันจิโร่ได้ไปศึกษาด้านวิทยาการทหารที่ยุโรป และกลับมาเป็นอาจารย์ที่ ม.โตเกียว หลังจากการปฏิรูปเมจิแล้ว
มรดกที่ท่านมันจิโร่สร้างไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจของเรียวม่า คือ เรื่องราวต่าง ๆ ของโลกภายนอกที่ท่านได้ประสบมา เนื่องจากชูจิโร่เพื่อนของเรียวม่านั้นคุ้นเคยกันดีกับ คาวาดะ โชเรียว อาจารย์เขียนภาพ (ใน ep 7 ที่เลี้ยงแมวเยอะ ๆ ) ที่ได้ไปทำงานในการสเก็ตซ์ภาพต่าง ๆ ให้ในขณะที่ท่านมันจิโร่ได้ไปเป็นที่ปรึกษาทางการทหารให้กับแคว้นซัทสึมะ คาวาดะเล่าถึงความทรงจำเมื่อพบกับเรียวม่าในอีกหลายปีหลังจากนั้นว่า ตอนนั้นเขารู้สึกประทับใจมากที่เรียวม่ามีคำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวคิดในการเปิดประเทศมากมาย คาวาดะเล่าให้เรียวม่าฟังถึงความคิดของเขาว่า การเปิดประเทศเพื่อค้าขายเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ รวมถึงการสร้างเรือ และการพัฒนากองทัพเรือด้วย ดังนั้นแคว้นต่าง ๆ จึงควรต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับญี่ปุ่น เรียวม่าทึ่งในความคิดเรื่องการที่ญี่ปุ่นจะมีเรือที่บรรทุกสินค้าออกไปค้าขายได้ทั่วโลก และเรื่องที่จะมีวิทยาการเท่าเทียมกับฝรั่ง ถึงกับบอกว่า ตนเองนั้นศึกษาดาบมาตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่นั่นก็ใช้การได้กับการกำจัดศัตรูแค่คนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่สามารถทำตามความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ให้สำเร็จได้สักอย่าง คงเป็นการยากที่เกิดพลังใจที่จะสร้างสรรค์อะไรให้ได้มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้
แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 00:44:49
แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 00:43:55
แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 00:42:32
จากคุณ |
:
molecularkitten
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 54 00:41:06
|
|
|
|