 |
ขี้ยาฆ่าบีบคอหญิงสาวริมป้ายรถเมล์ชิง 120 บาท ศาลสั่งประหาร แต่รับสารภาพ ลดเหลือจำคุกตลอดชีวิต คุณเห็นด้วยกับการลดโทษไหม
|
 |
| เห็นด้วยอย่างเต็มที่ (3 คน) |
|
| | | | | เห็นด้วยครึ่งหนึ่ง ไม่เห็นด้วยครึ่งหนึ่ง (5 คน) |
|
| | | ค่อนข้างไม่เห็นด้วย (9 คน) |
|
| | | ไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่ (55 คน) |
|
| |
| | | | | เห็นด้วยอย่างเต็มที่ (3 คน) | | | | ค่อนข้างเห็นด้วย (3 คน) | | | | เห็นด้วยครึ่งหนึ่ง ไม่เห็นด้วยครึ่งหนึ่ง (5 คน) | | | | ค่อนข้างไม่เห็นด้วย (9 คน) | | | | ไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่ (55 คน) | | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 75 คน |
"คุณเห็นด้วยกับการฆ่าคนตาย แล้วจำเลยรับสารภาพ เลยได้รับการลดโทษจากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตไหม"
ศาลอาญาสั่งประหารชีวิตหนุ่มขี้เมา ฆ่าบีบคอชิงเงิน 120 บาท สาวพนักงานโรงแรม ริมป้ายรถประจำทางตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงโทษจำคุกตลอดชีวิต ด้านแม่ของผุ้เสียชีวิต เผย ทุกวันนี้ยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกลงโทษจำเลยน้อยไป เตรียมปรึกษาทนายยื่นอุทธรณ์ วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีฆ่าชิงทรัพย์หมายเลขดำที่ อ.4746/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุวิทย์ บุญไพโรจน์ อายุ 26 ปี อดีตพนักงานทำความสะอาด เป็นจำเลยในความผิดฐานชิงทรัพย์ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือของผู้อื่น, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 52 จำเลยได้เสพเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า จำนวน 2 เม็ด ต่อมาวันที่ 1 ต.ค. 52 ขณะที่น.ส.ศศิประภา วิงวอน อายุ 29 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท กำลังนั่งรอรถที่ป้ายรถโดยสารประจำทางตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง ระหว่างซอยรามคำแหง 64 - 66 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จำเลยได้เข้ามาขอเงินผู้ตาย แต่ผู้ตายปฏิเสธ จึงใช้กำลังประทุษร้ายลากผู้ตายเข้าไปบริเวณป่าหญ้าด้านหลังป้ายรถประจำทางใช้กำลังชกต่อยที่บริเวณใบหน้า ลำตัว และบีบคอจับศรีษะกดน้ำจนถึงแก่ความตาย และถอดกางเกงผู้ตายเพื่อค้นหาเงิน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดอาญาข้อหาชิงทรัพย์ จำเลยจึงได้อำพรางศพด้วยการ เตรียมจะข่มขืนกระทำชำเรา แต่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ก่อน จึงหลบหนีไปและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.หัวหมายติดตามจับกุมจำเลยได้ จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด และไม่ติดใจสืบพยาน ศาลพิเคราะห์คำเบิกความพยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทย์มีคนขายหมูทอดและคนขายน้ำเต้าหู้ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม เบิกความรับฟังได้ว่า นายสุทัศน์ ฟ้องเสียง แฟนผู้ตาย ได้ขอให้ช่วยติดตามหาแฟนสาว ซึ่งน่าจะถูกคนร้ายลากตัวเข้าไปในพงหญ้า พยานจึงเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ลึกประมาณ 10 เมตร พบจำเลยกำลังจะข่มขืนผู้ตาย จึงตะโกนเรียก จนจำเลยตกใจและหลบหนีไป พยานจึงช่วยกันอุ้มร่างผู้ตายมาปั้มหัวใจ แต่พบว่าผู้ตายชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว พยานทั้งสองล้วนเบิกความสอดคล้องต้องกันมีเหตุผล ไม่มีพิรุธน่าสงสงสัยแต่อย่างใด แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นช่วงเช้า ฝนตำพรำ ๆ ฟ้าครึ้ม แต่มีแสงสว่างเพียงพอให้เห็นและจดจำใบหน้าจำเลยได้อย่างแม่นยำประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพว่า อยู่ในที่เกิดเหตุจริง คำบิกความจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ รวมทั้งคำเบิกความของพนักงานสอบสวนที่จับกุมจำเลยได้ในสภาพร่างกายมีบาดแผล เสื้อผ้าเปียก และพบเงินสด 120 บาทของผู้ตาย การกระทำดังกล่าวจำเลยย่อมเล็งเห็นว่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้ ถือว่ามีเจตนาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดหลายกรรม ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษทำกรรม พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (7) ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลกระโยชน์อันเกิดจากการกระทำที่ตนได้กระทำความผิด ซึ่งเป็นบทหนักสุด, จำคุก 6 เดือน ฐานเสพยาเสพติด จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนข้อหาอื่นให้ยก ภายหลังมีคำพิพากษา นางแสงดาว วิงวอน มารดาของผู้ตาย มีใบหน้าโศกเศร้า กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ทุกวันนี้ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะสูญเสียลูกสาวไปทั้งคน ตนเห็นว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยน้อยไป คิดว่าจะปรึกษาทนายความเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ที่มา ผู้จัดการ
จากคุณ |
:
ตี๋หล่อมีเสน่ห์
|
เขียนเมื่อ |
:
31 พ.ค. 54 13:47:42
|
|
|
|  |