 |
ตีโจทย์รายการ สูตรแห่งความเป็นผู้ชนะ
|
 |
กระทู้นี้มีเจตนาตั้งขึ้นมาเพื่อตีโจทย์ของรายการโดยใช้ข้อมูลที่มีหลักฐาน เพราะฉะนั้นขอความกรุณาอย่านำการทุ่มโหวต การล็อคโหวตที่ไม่มีหลักฐานแน่นอนเข้ามาเกี่ยวข้องนะคะ
จะตีโจทย์รายการนี้ให้ออกต้องดูที่ระบบของรายการซึ่งทำไม่ถูกตั้งแต่แรกแล้ว รายการโฆษณาออกมาว่าเป็นการประกวดพรสวรรค์และความสามารถแต่ระบบตัดสินมันกลับกลายเป็นระบบป๊อบปูล่าโหวต ซึ่งสองอย่างนี้มันขัดแย้งกันอยู่แล้ว คุณภาพความสามารถกับความป๊อปปูล่ามันคนละเรื่องกัน
ในส่วนของความสามารถนั้นก็ดูงงอยู่แล้ว ทุกคนที่เข้ามาถึงรอบสุดท้ายต่างก็มีความเก่งและเป็นสุดยอดในศาสตร์ของตัวเอง ไม่สามารถจะเทียบได้เลยว่าใครเก่งกว่าใครเพราะการแสดงมันไปคนละทิศทางเลย เอาคนเล่น poledance มาแข่งกับคนร้องเพลง diva? เอาคนร้องโอเปร่ามาแข่งกับกลุ่มนักเต้น? เอาละครเงามาแข่งกับคนเล่นไฟ? มันต่างกันโดยสิ้นเชิง จะเอามาตรฐานอะไรมาวัดว่าใครเก่งกว่าใคร คนเราเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์คนละด้าน ความถนัดไม่เหมือนกัน ไมร่าร้องโอเปร่าได้แต่ให้ไปเล่น poledance ก็คงทำไม่ได้ คิดบวกสิปป์เล่นละครเงาได้แต่ให้ไปเล่นไฟก็คงทำไม่ได้ ดังนั้นการประกวดความสามารถในรูปแบบที่ถูกก็ควรจะแยกประเภท ให้การแสดงประเภทเดียวกันมาแข่งกันเองแล้วให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในศาสตร์นั้นๆมาตัดสิน
ถามว่าทำไมรายการไม่ทำออกมาในรูปแบบนั้น ก็เพราะว่าการประกวดความสามารถไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของรายการ จุดประสงค์ที่แท้จริงของรายการคือธุรกิจป๊อบปูล่าโหวต คำว่าเฟ้นหาคนมีความสามารถนั้นเป็นเพียงสโลแกนบังหน้าเพื่อให้ฟังดูดีและชักชวนคนให้เข้ามาประกวด ถ้ารายการตั้งชื่อตามจุดประสงค์ที่แท้จริง "รับสมัครเข้าประกวดป๊อบปูล่าโหวต" นอกจากจะน่าเกลียดแล้วจะมีประชาชนสักกี่คนที่จะเข้ามาสมัคร แล้วจะมีใครมาดูรายการ อีกอย่าง การแสดงที่เข้ามาเวทีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะแขนงต่างๆ แข่งศิลปะมันไม่ชัดเจนเหมือนแข่งกีฬา คุณดูเทนนิสใครตีลูกได้ก็ชนะ ใครตีพลาดก็แพ้ไป สามารถจัดอันดับที่ 1,2,3,4 ได้ง่าย มันตัดสินได้เห็นๆแบบไม่สามารถค้านได้ แต่ศิลปะมันขึ้นอยู่กับรสนิยมของคน สิ่งที่คนนี้เห็นว่าดีมากคนโน้นอาจจะเห็นว่าห่วย
ประเด็นต่อไปที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะมันเป็นตัวชี้ชะตาของผู้แข่งขันระบบป๊อบปูล่าโหวตกันเลยทีเดียว ก็คือ "กลุ่มเป้าหมาย" การแสดงของแต่ละทีมเป็นศาสตร์ศิลปะคนละแขนง แน่นอนว่าจะมีกลุ่มผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายไม่เหมือนกัน คำว่า "กลุ่มเป้าหมาย" นี้ไม่ได้จำกัดว่าผู้โหวตจะต้องมาจากกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น เพียงแต่คะแนนโหวตที่แต่ละทีมส่วนได้รับ ส่วนใหญ่น่าจะได้มาจากกลุ่มเป้าหมายของตน
เบลล์ กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น กะเทยและคนอื่นๆที่ชอบการแสดงแนวเอนเตอร์เทน วุ้นเส้น ปาจรีย์ กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนที่ชอบศิลปะ Poledance หรือการแสดงผาดโผนนิดๆ ก้องภพ และ สมศักดิ์ กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนพิการและคนอื่นๆที่ชื่นชมคนสู้ชีวิต (สองคนนี้ต้องมีคนเสียเปรียบเพราะกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน หารคะแนนในกลุ่มกันเอง) อัจฉ์ กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนชอบเครื่องดนตรีแซ็กโซโฟนและคนชอบเพลงบรรเลง ไมร่า กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนชอบโอเปร่า ละครเพลงบรอดเวย์มิวสิคัล และคนชอบเสียงแนวเจ้าหญิงการ์ตูนดิสนี่ย์ Swan Team กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนชอบการเต้นแนว fusion ผสมผสานความเป็นไทย สมโภชน์ กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนเล่นไฟหรือคนอื่นๆที่ชอบการแสดงหน้าตื่นเต้นแบบต้องลุ้นมากๆ เอก กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนชอบดูกีฬาแนวกายกรรมหรืออะไรที่ต้องใช้ความแข็งแรงผสมยืดหยุ่นของร่างกาย วุ้นเส้น และ เฟิร์ส กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนชอบเพลงร้องแนว Diva โชว์พลัง (คู่นี้ก็เสียเปรียบเหมือนกันเพราะมีตัวหารอยู่ในกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน) คิดบวกสิปป์ กลุ่มเป้าหมายน่าจะเป็น คนชอบศิลปะเงา ชอบการแสดงที่เป็นการเล่าเรื่องและซาบซึ้งกับเรื่องราวที่นำมาเสนอ
ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างก็มีผู้ชมกลุ่มเป้าหมายเป็นของตัวเอง เนื่องจากรายการเป็นธุรกิจเน้นป๊อบปูล่าโหวต ไม่จำกัดจำนวนโหวตต่อคน ผลที่ได้คือ ชะตากรรมของผู้เข้าแข่งขันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนในกลุ่มเป้าหมาย แต่ตกอยู่ภายใต้คลังทรัพย์ของกลุ่มเป้าหมายต่างหาก ใครได้กลุ่มเป้าหมายทุนทรัพย์เยอะก็โชคดีไป ใครได้กลุ่มเป้าหมายทุนทรัพย์น้อยก็แย่
ทั้งนี้ทั้งนั้นผลการตัดสินการตัดสินออกมา
คนที่ได้ที่หนึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นคนที่เก่งหรือมีพรสวรรค์มากที่สุด เช่นเดียวกับคนที่ได้ที่สุดท้ายไม่ได้หมายความว่าเป็นคนเก่งหรือมีพรสวรรค์น้อยที่สุด
สรุปว่า ถ้าอยากมีโอกาสเป็นผู้ชนะในรายการนี้ การแสดงที่คุณจะนำมาเสนอต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. คนส่วนใหญ่ในกลุ่มเป้าหมายมีฐานะดีมาก 2. มีคนจำนวนน้อยมากที่ทำการแสดงเช่นเดียวกับคุณได้ ยิ่งคุณเป็นคนเดียวในประเทศได้ยิ่งดี (จะได้ไม่มีคนอื่นมาเป็นตัวหารคะแนน)
จากคุณ |
:
Foxy Little Angel
|
เขียนเมื่อ |
:
2 มิ.ย. 54 01:41:07
|
|
|
|  |