Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
X-Men First Class : แตกต่างอย่างภาคภูมิ (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ) ติดต่อทีมงาน

นี่คือหนังต้นตระกูล X-Men ที่โฟกัสชีวประวัติของสองเจ้าสำนักคิดอย่าง “โพรเฟสเซอร์ เอ็กซ์” และ “แม็กนีโต” บทหนังจาระไนพื้นฐานชีวิตแต่ละคนอย่างละเอียด  ทั้งครอบครัว  ปมวัยเด็ก  การค้นพบพลังวิเศษ  เหตุปัจจัยที่แวดล้อมการเติบโต  หล่อหลอมเป็นหลักคิดหรือทัศนคติที่ส่งผลต่อพฤติกรรมในหนังตอนต่อมา  

ผู้ชมคงรู้สึกไม่ต่างไปจากนักประวัติศาสตร์ที่สนุกกับการค้นหาคำอธิบายให้กับผลลัพธ์ที่ทราบดีอยู่แล้ว  นอกจากจะร้องอ๋อกับที่มาอันเป็นรายละเอียด  เช่นทำไม “โพรเฟสเซอร์ เอ็กซ์” ต้องนั่งรถเข็น  แต่การเข้าใจอดีตอย่างถ่องแท้และสามารถมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้อย่างบริสุทธิ์ใจ  ยังช่วยดึงรั้งไม่ให้เราพิพากษาใครอย่างฉาบฉวย  เช่นที่อาจเคยทำกับสิ่งที่จริงจังกว่าอย่างการพิพากษาประวัติศาสตร์โลก  ทั้งที่ไม่เคยทราบถึงเหตุปัจจัย  ข้อจำกัด  และวิธีคิดของผู้คนในยุคสมัยนั้น

หนังมีฉากหลังเป็นยุคสงครามเย็นระหว่างสองค่ายความคิดอย่าง “อเมริกา” และ “รัสเซีย”  สถานการณ์ตึงเครียดขับเคลื่อนไปข้างหน้า  พร้อมๆ กับบทวิวาทะของสองตัวละครหลัก  ว่าด้วยความเป็นไปได้ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของกลุ่มคนที่แตกต่าง

“ชาร์ลส์” (ก่อนได้ฉายา โพรเฟสเซอร์ เอ็กซ์)  เติบโตมาในครอบครัวร่ำรวย  มีการศึกษาสูง  ด้วยความสามารถพิเศษในการทำความเข้าใจผู้อื่นอย่างทะลุประโปร่ง  “ชาร์ลส์” จึงเป็นคนมีเสน่ห์และเป็นที่รักในหมู่เพื่อน  แต่ในความเพียบพร้อมก็ปรากฏปมเล็กๆ ในใจ  ผ่านบทสนทนาตอนแรกพบกับ “มิสทีก” ถึงความห่างเหินระหว่างเค้ากับแม่

ส่วน “เอริค” ( ก่อนได้ฉายา แม็กนีโต) ผู้ผ่านประสบการณ์เลวร้ายในค่ายกักกันชาวยิวสมัยนาซีเรืองอำนาจ  แม่ของเค้าถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น  เป้าหมายเดียวในชีวิตจึงคือการล้างแค้น  ความโกรธเกลียดนาซีบ่มเพาะพลังด้านมืดให้เค้าพาลจงเกลียดจงชังมนุษย์  และในความมืดสนิทของจิตใจ  “ชาร์ลส์” ในฐานะเพื่อนใหม่ก็มองเห็นแสงสว่างอันเกิดจากความรักของแม่ซึ่งตัว “ชาร์ลส์” เองอาจไม่เคยได้สัมผัส

ฉากสำรวจจิตใจ “เอริค” ข้างต้นตอบคำถามและเติมเต็มความสมบูรณ์ให้บทสนทนาในภาค 1 ว่า “ความหวัง” ที่ “โพรเฟสเซอร์ เอ็กซ์” ยังคงแน่วแน่ที่จะค้นหาในตัว “แม็กนีโต” ก็คือขุมพลังความดีที่เค้าเคยมองเห็น  สะท้อนถึงความเป็นไปได้ในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของ “แม็กนีโต”  ให้กลับมาเป็นคนดีอีกครั้ง

ก่อนที่ความสัมพันธ์ของ “ชาร์ลส์” และ “เอริค” จะแตกหักเพราะมีความเชื่อเรื่องพื้นฐานของมนุษย์แตกต่างกัน  ทั้งสองเคยมีศัตรูร่วมคือ “เซบาสเตียน ชอว์” มนุษย์กลายพันธุ์ที่ต้องการเห็นการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ  “ชอร์” ใช้ความคลั่งชาติ ศาสนา  และระบอบการปกครองที่แตกต่าง  เสี้ยมให้มนุษย์เกลียดชังและหวาดระแวงกันเอง  เช่นเดียวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉากแรกของเรื่อง

หนังประนีประนอมกับคำอธิบายประวัติศาสตร์โลกโดยเลี่ยงการสร้างตัวร้ายหรือป้ายสีใส่กลุ่มประเทศใด  การประกาศกร้าวของแต่ละฝ่ายเกิดมาจากความหวาดระแวงและสถานการณ์คลุมเครือ  การประสานความเข้าใจกลายเป็นพ้นวิสัยภายใต้บริบทที่แต่ละฝ่ายพร้อมที่จะอวดแสนยานุภาพทางการทหาร  เช่นเดียวกับการแบ่งฝักฝ่ายในเรื่องที่แต่ละคนก็มีเหตุผลของตน  “ชาร์ลส์” เชื่อมั่นว่าสังคมอุดมคติจะบังเกิด  ส่วน “เอริค” ก็ไม่อาจชำระภาพสังคมอันโหดร้ายออกจากความทรงจำ

หนังใช้เหรียญซึ่งมี 2 ด้านเป็นสัญลักษณ์ในการเลือกเส้นทางชีวิต  ฉากที่ “เอริค” ล้างแค้น “ชอว์” ด้วยการสั่งเหรียญให้พุ่งเข้าผ่าสมอง  เหรียญเปื้อนเลือดตกพื้นและหงายด้านที่มีเครื่องหมาย “สวัสดิกะ” สื่อถึงการตัดสินใจของ “เอริค” อย่างชัดเจนที่จะก้าวเข้าสู่ด้านของการเหยียดชาติพันธุ์มนุษย์ไม่ต่างไปจากสิ่งที่เค้าเคยโกรธเกลียดนาซีในอดีต

X-Men First Class ทั้งต่อยอดและลงลึกจากภาคก่อนในประเด็นเรื่องอัตลักษณ์และการอยู่ร่วมกันในสังคม  กลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ในเรื่องมีลักษณะร่วมบางอย่างกับกลุ่มคนชายขอบ  ทั้งความรู้สึกโดดเดี่ยว  การถูกตั้งแง่รังเกียจ  ไม่เป็นที่ยอมรับ  รวมถึงการขาดต้นแบบหรือผู้ชี้นำอนาคต  พัฒนาการของประเด็นนี้ถูกบอกเล่าผ่านตัวละครกลุ่มรองอย่าง “มิสทีก” และ “บีสท์” ที่หนังดูจะให้น้ำหนักและมีบทบาทมากกว่าเพื่อนคนอื่น

“มิสทีก” และ “บีสท์” แสดงออกชัดถึงความรังเกียจตัวเอง  พวกเค้าพยายามที่จะกลายเป็นคนปกติเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคมกระแสหลัก  “มิสทีก” เรียนรู้จาก “เอริค” ที่จะให้เกียรติและชื่นชมตัวเองในฐานะของงานศิลป์ที่พระเจ้าได้สร้างสรรค์  ส่วน “บีสท์” ก็หนีธรรมชาติภายในไม่พ้นจำต้องกลายร่างเป็นอสูรขนฟู  การเปิดเผยตัวตนช่วยปลดปล่อยพวกเค้าให้เป็นอิสระ  ส่วนท่าทีต่อการอยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่าง  “มิสทีก” และ “บีสท์” เลือกที่จะเห็นต่างกัน

ผมชอบชื่อ  First Class  ที่หนังเลือกใช้เพราะกินความหมายได้หลายนัย  ทั้งความเป็นรุ่นแรกของ X-Men อย่างที่ชื่อไทยแปลมา  ความคลาสสิกของยุคสมัยที่หนังสื่อผ่านแฟชั่นแนวโบราณ  การเริ่มตั้งชั้นเรียนแรกของ “ชาร์ลส์” และการเริ่มต้นจำแนกแยกแยะฝักฝ่ายระหว่าง “ชาร์ลส์” และ “เอริค”

หนังในตระกูล X-Men เน้นบูชาอุดมการณ์เสรีนิยมอย่างเห็นได้ชัด  ภาค 1 ก็สู้กันบนศีรษะของเทพีแห่งเสรีภาพ  ความพยายามที่จะครอบงำสังคมให้คิดเห็นเช่นเดียวกันไม่เว้นแม้แต่ลัทธิคลั่งชาติ  ล้วนถือเป็นรูปแบบหนึ่งของเผด็จการที่ไร้อารยะและน่ารังเกียจ

ความปรารถนาที่จะเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ของ “แม็กนีโต” ในภาค 1 และการทดลองเพื่อเปลี่ยนมนุษย์กลายพันธุ์ให้เป็นมนุษย์ธรรมดาของ “บีสท์” ในภาคนี้  คือการบิดเบือนธรรมชาติและยังเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของพระเจ้าที่มุ่งธำรงอัตลักษณ์และความแตกต่างของมนุษย์ไว้  ไม่ใช่เพื่อสงครามหรือการเข่นฆ่า  แต่เพื่อแต่งแต้มสีสันให้โลกใบนี้ดูงดงามและมีความหมายยิ่งขึ้น

แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 01:04:40

 
 

จากคุณ : beerled
เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 00:57:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com