เรื่องของคนรักหนัง
บทความจาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันพุธทีไร หัวใจมนุษย์เงินเดือนอย่างเราเป็นต้องเต้นระริกระรี้
คนมีคู่ก็จูงมือคนรักเข้าโรงหนัง หาความสุขเล็กๆ ตามประสาคนเบี้ยน้อย
ส่วนคนไร้คู่ก็ถือโอกาสเอ่ยปากชวนคนที่หมายตาไปดูหนังดีๆ สักเรื่อง
โดยให้เหตุผลแบบกั๊กๆ ว่า “ค่าตั๋วหนังวันพุธมันถูก”
โปรแกรมหนังช่วงนี้ก็ล่อใจทั้งนั้น
ทั้งหนังภาคต่ออย่าง “ไพรเรท ออฟ ดิ แคริเบียน” ที่แฟนๆ ป๋าเด็ปป์ ย่อมไม่พลาด
ไหนจะ “กังฟู แพนด้า” เอาไว้ดูต่างหน้า “หลินปิง”
หรือที่จ่อคิวเดือนหน้าก็อภิมหาหนังฟอร์มยักษ์ “ทรานส์ฟอร์เมอร์”
สำหรับฉัน? หนังที่เพิ่งไปดูล่าสุดคือ “ฟาสต์5”
จำได้ว่าเข้าไปดูคนเดียว เพราะมีโควต้าบัตรฟรี เหลือที่นั่งเดียวพอดี
ก่อนหน้านั้นก็เป็นเรื่อง “ลัดดาแลนด์” ซึ่งไปดูรอบสื่อ ไม่ต้องเสียตังค์
ชีวิตวนเวียนกับของฟรีจนเคยตัว
ครั้งนึงเพื่อนชะนีชวนไปดูหนังแก้กลุ้ม
ไอ้เราก็หวังดี เห็นเพื่อนเฮิร์ทจากกิ๊กมา
เลยชวนดูเรื่อง “ธอว์” เห็นพระเอกล่ำดี เผื่อเพื่อนจะกระชุ่มกระชวยขึ้นบ้าง
ตอนเดินเข้าไปจองที่เคาน์เตอร์ (ตอนนั้นไม่ได้พกบัตรฟรีไป)
พนักงานบอกมีแต่รอบทรีดี
อืม.. เอาก็เอา (คะ) ในใจคิดว่ามันคงไม่แพงกว่ากันมากนักหรอก
อีกอย่างก็ขี้เกียจถามรอบหนังเรื่องอื่นให้เสียเวลา สงสารคนอื่นที่ต่อคิว
(นางฟ้าชัดๆ)
สุดท้าย “นางฟ้า” จึงต้องทุกข์ระทมกับค่าตั๋วหนัง 240 บาท
(วันนั้นมีเงินติดตัวอยู่ 300 กว่าบาท นางฟ้าต้องคุ้ยเศษตังค์ในกระเป๋าเป็นค่ารถกลับบ้าน)
ไม่นับพันธุ์ป๊อบคอร์นแห่งสวนสวรรค์ ที่ได้ “อั้ม พัชราภา” ออกแรงคั่วกับมือ
แล้วให้ “ญาญ่า” เป็นคนตักใส่ถุง
ราคามันถึงโดดมากกว่าป๊อปคอร์นปกติ
เจ็บแปล๊บมาก…
แต่ยังค่ะ ยังไม่จบ
นางฟ้าต้องไปนั่งปวดใจกับมหากาพย์โฆษณา
โดยเฉพาะอีโฆษณายาเซฟติก มายบาซิล จากเกรเตอร์ฟาร์มาร์ (จำแม่นมาก)
มันหลอนมาก ยิงโฆษณาติดๆ กัน
แล้วพูดเร็วๆ รัวๆ เหมือนจะสะกดจิตเรา
อยากแนะนำว่าไม่ต้องพยายามฟังให้รู้เรื่องค่ะ โฆษณานี้เขาไม่ได้ทำให้เราฟังรู้เรื่อง
แต่เขาจะแทรกเข้าไปในจิตใต้สำนึกเรา ไปอินเซปชั่นเรา…
ไม่ว่าเราจะจาม ไอ กลั้นตด คันจักแร้ ตะปูตำง่ามเท้า แมลงวันตอมสิว ฯลฯ
เราจะนึกถึงอียาตัวนี้ทันที
“ยาเซฟติก มายบาซิล จากเกรเตอร์ ฟาร์มาร์”
กว่าจะได้ดูหนังก็เกือบครึ่งชั่วโมง
(มีต่อ)