ความคิดเห็นที่ 1 เอาเข้าให้มั้ยหละ เมเจอร์ คุณคนเดียวคิดว่าจะทำอะไรเมเจอร์ได้เหรอครับ ถ้าไม่รวมพลังสามัคคีรวมตัวกันไปร้องเรียน ซึ่งคุณคิดว่าจะมีใครหาเหาใส่หัวหรือมีใครกล้า จะเปิดศึกกับค่ายโรงหนังระดับแถวหน้า(ในสายตาอีกหลายๆคนที่ไม่ได้เดือดร้อนหรือเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ได้อีกหละครับ)  ถ้าไม่มีใครร่วมไม้ร่วมมือเข้ามาจัดการเรื่องนี้กันจริงๆก็อย่าได้หวังว่าจะได้โรงหนังแบบในฝันของคุณๆหรอกครับ จากคุณ : djdon เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 02:05:57

ความคิดเห็นที่ 2 โหวตครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 03:08:51

ความคิดเห็นที่ 3 ยังมีคนไม่เดือดร้อนอีกเหรอครับ งั้นแสดงว่าพวกเครือข่ายที่ออกมาต่อต้านเป็นพวกเรื่องมาก เอาแต่ได้งั้นสิครับ และอีกอย่างยังมีคนที่ไม่อยากมีส่วนร่วมอีกเยอะ ทั้งๆที่ตัวเองโดนเอาเปรียบไม่เข้าใจเหมือนกัน จากคุณ : balleazy7749 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 08:54:26

ความคิดเห็นที่ 4 เลิกดูไปแล้ว จากคุณ : fin_jung เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 09:24:53

ความคิดเห็นที่ 5 "หนังขายยา" สมัยก่อนยังดูมีคุณค่ากว่าเลย โหวตให้แล้วนะฮว๊าฟฟฟฟฟฟฟ์ !!! แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 10:13:51 จากคุณ : gazzotata เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 10:08:12

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับข้อ 1,3,4,6 นะ โดยเฉพาะข้อ 4 เสียค่าที่จอดรถ เพื่อมาดูโฆษณาเหรอ มันเอาเปรียบไปม้างงง โหวตให้แล้วนะครับ จากคุณ : chat541 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 10:19:51

ความคิดเห็นที่ 7 ก็เท่านั้นแหละ... ถ้าเค้าจะทำ เค้าทำไปแล้วแหละ รัฐบาลใหม่ หรือเก่าก็ไม่ต่างกัน ก็หน้าเดิมๆ คนเดิมๆ นั่นแหละ จากคุณ : mojii เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 10:40:14

ความคิดเห็นที่ 8 เกลียดที่สุด  คือเรื่องขอตรวจค้นกระเป๋าเนี่ยแหละ  อ้างเหตุผล  ว่าหากล้อง  แต่แฝงนัยว่า  ตรวจหาของกินจากข้างนอกด้วย  สุด ๆ ตอนนี้หันไปอุดหนุน SF แล้ว จากคุณ : ข้าวเหนียวหมูปิ้งท่านผู้หญิง ฯ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 11:38:05

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำเปล่าขวดเล็กๆ ขายขวดละ 70 บาท คิดไ้ด้ยังไง เอากำไรเกินควร แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 12:37:21 จากคุณ : Moprix เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 12:36:44

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10648334/A10648334.html <<< ตัวอย่างการยัดเยียดขายของหน้าโรง จากคุณ : sariell เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 12:42:39

ความคิดเห็นที่ 11 โหวตครับ คนที่ไม่เดือดร้อนและยอมให้เค้าเอาเปรียบไปเรื่อยๆก็ยังมีเยอะ เพราะฉะนั้นยังไงสู้ต่อไปครับ มันต้องมีสักวันที่ผู้บริโภคทุกคนจะรู้ถึงสิทธิของตัวเอง และพยายามรักษาสิทธิที่ตัวเองพึงได้รับมากกว่าที่เป็นอยู่แบบทุกวันนี้ เราจะเป็นจุดเล็กที่มีคุณค่าในสังคมนี้ต่อไป จากคุณ : เดิมๆอย่างเดียวดาย เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:08:14

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยทุกประการ โหวตๆๆ จากคุณ : ซ่าไม่ซ่าถามย่าดู เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:34:03

ความคิดเห็นที่ 13 สั้นๆสำหรับผมครับ "ไปดูหนังที่นี้เหมือนโดนปล้น" ไปทีไรเฉียดๆพันตลอด นี้ ดูแค่สองคนกับแฟนนะครับ จนทุกวันนี้แฟนผมที่ชอบดูหนังมาก ผมจะพาไปยังไม่ไป เขาบอกเปลือง ! จากคุณ : Joe_nEverLand เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:41:51

ความคิดเห็นที่ 14 แค่ป๊อบคอร์นกะน้ำเปล่าเฉยๆก็จะร้อยแล้ว เฮ้ออ เมเจอร์ จากคุณ : บุ๋นคุง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 13:51:36

ความคิดเห็นที่ 15 #1 งั้นคำถามแรกเลยนะ.... จขกท ดิ้นรนอยู่คนเดียว ? เอาเหอะ ว่าแต่... อันนี้ไม่รวมประเด็นโฆษณา "เมเจอร์ปิ่นเกล้า" ได้ใจมาก น้ำตาเ่อ่อล้นเลยเรา ไปดูหนังก็ 160 UP ชิมิ ...ขนาดหนังไทยค้างโรง...ล่าสุด ฮักนะสารคาม แบบจะออกโรงแล้วอะ ซื้อป๊อปคอร์นขนาดน้ำเปล่า(น้ำสิงห์ขวดใหญ่) เกือบ 100 ระ สรุป...คนเดียวเกือบ 300 บาท .....ประทับตราเรียบร้อย...... ดูหนัง รีบเข้า รีบออก วิ่งแทบตกกระได ถึงจุดผ่าน.....แบมือขอค่าที่จอดรถแบบชิลๆ....(ไปอีก)  20 บาท !!!!! เจร๊ยยยยยย !!! ไม่ได้หวงเงิน 20 บาท ...สาบานได้ (เพราะเสียไปกว่านี้ตั้งเยอะ) แต่ซึ้งน้ำใจคนเราอะ มีระบบประทับตราเพื่อ... ...กรูเป็นลูกค้าเอ็งหรือเปล่าวะคะ?!! จากคุณ : popcorn lover เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:09:27

ความคิดเห็นที่ 16 ทำหนังมีโฆษณาต้องให้ดูฟรีนะ จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ไปดูหนังขายยา เขาไม่เก็บตังเลย ดูฟรี เพราะมีโฆษณา ถ้าให้จ่าย ก็ห้ามเอาโฆษณามาให้กวนใจ อยากรู้จังใครเป็นคนแรกที่มีความคิดเอาโฆษณามาใส่ในโรงหนัง น่ารังเกียจยิ่งนัก จากคุณ : isunsunsun (QuickSun) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:11:14

ความคิดเห็นที่ 17 การต่อสู้กับเศรษฐีหมื่นล่านไม่ใช่เรื่องสนุกนะครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:11:21

ความคิดเห็นที่ 18 ทุกๆประเด็นมาติดอยู่ที่เรื่องเดียวคือ "คนก็ยังดูอยู่" ถ้ายังไม่เลิกดูเครือนี้ จะบ่นอย่างไรก็ไร้ความหมาย ถ้าราคาของมันแพงกว่าตัวสินค้าคนก็จะไม่ซื้อ แต่ถ้าคนยังซื้อก็แปลว่าราคามันยังเหมาะสมอยู่ มันไม่ใช่ว่าทั้งประเทศมีอยู่เครือเดียวนี่ ของที่อื่นก็มี แต่ไม่ไปกันเอง เมเจอร์เขาลงทุนเยอะกว่าคนอื่นจะขายเท่าคนอื่นคงไม่ได้ สิ่งที่เมเจอร์มีคือเขาตอบโจทย์ตอบความต้องการของลูกค้าตรงจุดที่สุดได้ นั่นคือเรื่องความสะดวกในการเข้าถึง การจะทำอย่างนี้เขาต้องลงทุนมากกว่าเจ้าอื่น ของเขาก็ต้องแพงกว่าเป็นธรรมดา จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:31:58

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะหนังคือ ศิลปะแขนงหนึ่ง ที่มนุษย์ยังจำเป็นต้องเสพครับ มันคือกิจกรรมครอบครัว สำหรับคนเมืองครับ เมเตอร์ใกล้บ้าน และผูกขาดครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:47:59

ความคิดเห็นที่ 20 ใช้สิทธิ์ลด 50% ของทรูมูฟเพื่อไปดู X-MEN วันก่อน จากปกติตั๋วราคา 160 บาท เหลือเพียง 80 บาท ถูกสุดใน 3 โลก หิวน้ำ ไปซื้อ เป๊ปซี่ กับป๊อปคอร์นหน่อยดีกว่า "พี่ครับ เป๊ปซี่เล็ก และป๊อปคอร์นเล็กครับ" "120 บาท ครับ"  หือ!!! ตกลงก็ต้องจ่าย 200 อยู่ดี รู้งี้โหลดบิทดีกว่า จากคุณ : นมผงผสมน้ำผึ้ง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 14:59:08

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยบางเรื่อง และไม่เห็นด้วยบางเรื่อง เรื่องป๊อปคอร์น มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นในการดูหนัง หากจะซื้อของเขา เขาตั้งราคาไว้แพงก็ต้องยอมรับ เป็นสิทธิ์ตัดสินใจเองว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ส่วนเรื่องที่จอดรถ ผมว่าเขาก็ไม่ผิด เพราะมันไม่ใช่ที่จอดสาธารณะ มันเป็นที่ส่วนบุคคล ที่เห็นด้วยก็เรื่อง การเอาเปรียบโฆษณา การขึ้นราคาตั๋วตามอำเภอใจ การหมกเม็ดหลายๆเรื่อง ตอนนี้ประเทศเราไม่รู้มีกฏหมายห้ามการผูกขาดหรือยัง เหมือนเมืองนอก หากบริษัทไหนผูกขาดถือว่ามีความผิด เหมือนตอนไมโครซอฟท์เหมือนกัน หากจะต่อสู้จริง ผมว่าน่าจะเป็นหนังยาว ยิ่งกว่าไตรภาคครับ -_-' จากคุณ : Yippie เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 15:05:52

ความคิดเห็นที่ 22 #17 สนุกจะตาย จากคุณ : oommy เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 15:41:15

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นด้วยทุกประการ เดี๋ยวนี้เลยเลิกดูหนังไปละ งอน จากคุณ : moneymoney เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 15:51:44

ความคิดเห็นที่ 24 เลิกดูหนังโรงเมเจอร์นานแล้วค่ะ ไม่ได้เงินจากเราหรอก จากคุณ : memolunla เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:00:22

ความคิดเห็นที่ 25 ที่ต้องฉายโฆษนานานๆเพราะมีความจำเป็นต้องอุ่นเครื่องเครื่องฉายหนังนะคะ ไม่งั้นเล่นไปแล้วอาจจะเจอเหตุการณ์ภาพกระตุก จากคุณ : จัสติส เมเจอร์ (Colonel.MoliArty) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:08:19

ความคิดเห็นที่ 26 #25 เอาจริงหรือเอาฮาครับเนี่ย โรงหนังครับไม่ใช่รถทัวร์ 5555 จากคุณ : Darth Aiglatson เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:22:20

ความคิดเห็นที่ 27 ลงชื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เดือดร้อน คุณ คห 1 จะได้ไม่เข้าใจว่ามีแค่ จขกท คนเดียวที่เดือดร้อน จากคุณ : Jenanistan เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:22:56

ความคิดเห็นที่ 28 อุ่นเครื่องด้วยภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในเดือนหน้าก็ได้ ไม่เห็นต้องฉายโฆษณาให้ดูเลย จากคุณ : Win Preston เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:27:43

ความคิดเห็นที่ 29 #1 ยกข้อความเดิมมาจากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10590353/A10590353.html อะไรก็ตาม ที่ไม่เกิดยังสวนหลังบ้านตนเอง ก็จะไม่สนใจ... มันเป็นเรื่องปรกติของทุกชาติ ไม่สนใจก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อย คนอื่นที่สวนหลังบ้านเขาไฟไหม้อยู่ ก็อย่าไปห้ามเขาดับไฟอยู่เลย แต่เราว่าเพราะเหตุนี้แหละประเทศไทยถึงไม่เจริญ สิทธิ์ที่ควรจะเรียกดันไม่เรียกซ้ำไปกระแนะกระแหนคนที่เรียก ส่วนไอ้ที่ไม่สมควรเรียกก็ดันเรียกจนเกินเลยไปละเมิดคนอื่นต่ออีก #25 แปลก ! ทำไมเครืออื่นไม่เห็นต้องทำแบบเครือนี้เลย ! แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 16:35:40 จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:35:15

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อ2. ใช่เลย ข้อ3. ขายพ่วง เปลี่ยนแพคเกจ จะอะไรมากมายเนี่ย เรื่องราคา ก็นะะไม่ว่ากันเพราะมันเป็นสถานที่ของคุณ ข้อ4. ไม่มีรถอ่ะไม่รู้  แต่ถ้าเป็นอย่างที่ว่ามา ก็เกินไปอ่ะ ขนาดโรงแรมเค้าประทับตราว่ามาใช้บริการจริง ไม่ใช่ไว้เป็นที่จอดรถ ข้อ6. เหอๆถือโอกาสว่ามีคนรอดูเรื่องพวกนี้เยอะอ่ะดิ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขอ่ะ ทำได้ แต่แจ้งให้มันเคลียร์ พนักงานต้องรู้ แจ้งลูกค้าได้ ไม่ใช่ลูกค้าไปรู้ตอนจ่ายเงินอ่ะ ทำธุรกิจ อย่าหมกเม็ดได้มั๊ย ไม่ใช่การ.....นะเฟ้ย จากคุณ : oneleno เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:38:17

ความคิดเห็นที่ 31 มันเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่เดิมพอมีคนพูดประเด็นนี้ ก็จะมีคนบอกว่า แพงก็อย่าไปดูมันสิ... นั่นน่ะ เป็นแบบนี้กันมา จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 16:44:49

ความคิดเห็นที่ 32 ถึงบางคนที่ว่าแพงก็อย่าไปดูสิ... พูดก็พูดง่ายนะครับ เอาเข้าจริงๆแล้วความบันเทิงของคนทำงานดมควันงกๆๆในเมืองหลวงมันจะมีสักกี่อย่าง จะให้ไปสวนลุมฯ,สวนรถไฟทุกวันก็คงไม่ไหว เล่นกีฬาเตะบอลเล่นบาสยังไงก็ต้องมีอยากเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง โรงภาพยนตร์เปรียบเสมือนความบันเทิงหลักในเมืองใหญ่ๆไปแล้ว ถึงตรงนี้สภาพความผูกขาดมันก็มีอยู่มากโข ซึ่งทางโรงหนังฯก็ได้ทำการเอาเปรียบจากสภาพผูกขาดของตนมากมายอย่างที่จขกท.ได้พูดไป แม้จะต้องเห็นใจเขาว่าเขาก็ลงทุนเยอะ สร้างโรงหนังซะทุกมุมเมือง อำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่ตอนทำไม่ได้คำนวณจุดคุ้มทุนไว้หรือครับ ถึงได้มาขึ้นราคา+กำหนดราคาพรวดๆเอาซะตกใจ วันนั้นไปดูหนังไทยธรรมดาๆๆๆ เรื่องหนึ่ง ราคาตั๋ว160บาท ตกใจมาก แถมเข้าไปยังต้องดูโฆษณาอีกครึ่งชม.เป็นอย่างน้อย ยังงี้กำไรไม่มากเกินควรหรือครับ ได้ทั้งค่าตั๋วและค่าโฆษณา แต่ก็อย่างเขาว่ากัน ตัวเองไม่ได้เดือดร้อน จะพูดอย่างไรก็คงไม่เข้าใจ จากคุณ : Midoh Ban เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 17:16:56

ความคิดเห็นที่ 33 เคยเจอ ข้อ2ที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า บ่อยมาก 1ช่อง สำหรับหนัง3มิติ 1ช่อง สำหรับ ซื้อตั๋วพร้อมเซ็ตป็อบคอร์น-น้ำ 2ช่อง ว่างไม่มีพนักงาน แต่มีอยู่หน้าตู้อัตโนมัติ 2คน อีก2คนถือไมค์คอยโฆษณาบัตรM-cash 2ช่อง สำหรับซื้อตั๋วปกติ แถวยาวววววววววววววไปถึงบันไดเลื่อนทางลง จากคุณ : คนไม่มีเวลา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 17:42:16

ความคิดเห็นที่ 34 ผมก็เห็นด้วยแค่บางข้อ 1. เรื่องราคามันพูดยากว่าสวนความเป็นจริงรึเปล่า เพราะบางที ด้วยทำเลที่ดีเค้าก็ต้องลงทุนค่าที่แพงนะ 2. โฆษณานี่ ไม่ได้ดูนานล่ะ เพราะย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด 3-4 ปีล่ะ สมัยก่อนก็พอรับได้นะ สมัยนี้ไม่รู้ 3. เรื่องการขายตั๋ว การบีบให้ซื้อบัตรอะไรนี่ผมว่า มันตลกๆนะ บางทีผมจะดูหนังเห็นแถวยาว ก็ไม่ดูล่ะ เพราะเป็นคนขี้รำคาญ มันไม่ได้อะไรขนาดนั้น 4. โรงมันคิดขนาดนั้นเลยหรอ *0* 2 ชม. นี่ ผมว่ายังไงก็ออกไม่ทัน เพราะไหนจะต้องมาก่อนรอบ เพื่อซื้อตั๋ว ไหนจะเวลาเดินไปโรง นั่นนู้นนี่ ... 5. -.- โดนรบกวนสมาธิการชมภาพยนต์ตัวอย่างน่ะหรอครับ 6. เรื่องราคาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามเรื่องนี่ถือว่าแย่จริงๆ หนัง เป็นศิลปะ ที่ไม่ได้จำเป็นจะต้องเสพ จำเป็น หมายถึง ขาดไม่ได้ ขาดแล้วตาย เหมือนพวก อาหาร หรือ น้ำ ดังนั้นแล้ว โรงหนัง ถ้าให้พูดก็คือสินค้าฟุ่มเฟือย ดังนั้นมันไม่มีข้อกำหนด จะมีการควบคุมก็คงต่อเมื่อ มันเป็นสินค้าจำเป็นนั่นล่ะนะ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 17:47:44

ความคิดเห็นที่ 35 คุณวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ว่าไงค่ะ? ที่จริงเคยไปสัมภาษณ์คุณวิชานานมาแล้ว คุณดูมีอัธยาศัยไมตรีดีมาก แต่เรื่องนี้ ผู้บริโภค-ลูกค้าผู้มีอุปการคุณของเมเจอร์ร้องเรียนมานานนักแล้ว ตัวฉันเอง เมื่อก่อนเคยดูฟรีโรงของคุณช่วงทำข่าว พีอาร์คุณให้บัตรดูฟรีมา ก็ต้องขอบคุณมากนะคะ   หลังจากนั้นบัตรหมดอายุแล้ว ก็อุดหนุนคุณมาตลอดเหมือนคนอื่นๆ ในประเทศนี้ล่ะค่ะ หลายปีก็นานนะที่อุดหนุนและบ่นไปด้วย มีเวลาก็ไปดู ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน แต่ที่รู้สึกมากคือ โรงเมเจอร์ปิ่นเกล้า เก็บค่าจอดรถทั้งที่ไปอุดหนุนโรงคุณ คิดว่าถ้ามีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณอีก ฉันก็อยากถามคำถามนี้ ทำไมล่ะ? หนังดังทุนสูง แปลว่าคุณซื้อมาแพงใช่มั้ย? เลยต้องขายตั๋วแพง? ฉันว่า คุณมีกำไรมากอยู่แล้วจากการขายโฆษณา(พอดีฉันเคยเห็นเรทค่าโฆษณาของคุณแล้ว)ฯลฯ เห็นใจผู้บริโภคหน่อยดีมั้ย เอาให้มันอยู่ตรงกลางๆ พอดีๆ คุณ action หน่อยดีไหมค่ะ? ทราบแล้ว...เปลี่ยน(หรือไม่?)!!!! จากคุณ : meenna เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 17:57:50

ความคิดเห็นที่ 36 โชคดีที่ Major เพชรเกษม ซึ่งห่างจากบ้านเราแค่ 10 นาที ไม่คิดจะนำหนัง soundtrack มาฉายเลย  เราเลยไม่ได้ใช้บริการที่นั่น  เลยได้ดูที่ SF แทน ยังรู้สึกว่ารับค่าตั๋วได้ เพิ่งรู้จากที่นี่แหล่ะว่า Major คิดค่าตั๋วได้โหดมาก ส่วนเรื่องโฆษณาเนี่ย  ที่ SF ก็จัดว่าเยอะอยู่นะ แถว 20-30 นาทีเหมือนกัน จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 18:07:17

ความคิดเห็นที่ 37 #36 SF ที่นานส่วนมากจะเป็นตัวอย่างหนังครับ เอาที่เป็นโฆษณาไม่เกิน 5-10 นาที จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 18:57:28

ความคิดเห็นที่ 38 สุดยอด สินค้าฟุ้มเฟือย นี่ต้องเดือดร้อนรัฐบาลเลยหรือ เอ้า รัฐบาลครับ รถเเฟอร์รารี่ รถเบนซ์ มันขายแพง เพราะภาษีมันแพง ช่วยลดภาษีให้เหลือ 0% หน่อยครับ มันเป็นคนหย่อนใจสำหรับผม ใครเค้าเอาปืนไปจ่อหัวคุณให้ดูหนังที่เมเจอร์ล่ะครับ โรงอื่นก็มี แต่มันไกล+ขึ้เกียจจะเดินทางใช่ไหมล่ะ อยากได้ใกล้ๆ สะดวก เอาสบายแต่ไม่จ่ายแพง มันตลกดีครับ วิธีการเดียวก็คือ ร่วมกันไม่ไปดูหนังเครือนี้ รณงค์กันมากๆ รวมตัวกันมากคนราคาเค้าลดลง คงจะสำเสร็จ จากคุณ : Mr.Moohpee เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 19:05:50

ความคิดเห็นที่ 39 ความจริงก็คือ  มีคนอีกจำนวนมากที่เค้าไม่ได้เดือดร้อน  :) ปล.  เราเดือดร้อนนะ   แต่ทำไงได้  เอสเอฟไม่มีแถวบ้านเลย แก้ไขอีกรอบ  ที่ใครบอกว่าที่ไม่เปลี่ยนโรงเพราะขี้เกียจหรืออะไร แต่คำนวนแล้วค่ะ  ว่าถ้าเปลี่ยนส่วนต่างของค่าน้ำมัน  ค่าทางด่วน  และค่าจอดรถ  เอามาจ่ายส่วนนั้นให้เมเจอร์ดีกว่า แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 19:32:13 จากคุณ : Dalalin เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 19:30:15

ความคิดเห็นที่ 40 อยากให้มีคู่แข่งเพิ่มกว่านี้อ่ะ ไม่อยากถูกผูกขาด แต่อยากเลือกได้มากกว่า แถวบ้านกะมีแต่เมเจอร์อ่ะ ทำไงได้ เซง จากคุณ : Gibblinn เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 19:48:03

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้ว หูยยย มันเลวร้ายมากเลยเนอะ (ไม่ได้ไปดูนานมากแล้วเลยไม่รู้) แบบนี้ยังจะไปอุดหนุนทำไม ถึงเรียกร้องสำเร็จ เค้าลดราคา เราก็คงรู้สึกอยู่ดีแหละว่าเครือนี้เลวร้าย ที่ปรับปรุงก็เพราะโดนด่า ไม่ได้มาจากความจริงใจ ราคามันก็เป็นไปตามอุปสงค์ อุปทาน ตั้งแพง เอาเปรียบ คนด่า แต่คนยังดูเต็มโรง เค้าก็คงไม่ยอมลดง่าย ๆ หรอก ถ้าจะให้รัฐบาลช่วยส่วนตัวเราก็รู้สึกนะว่าให้รัฐบาลเอาเวลาไปทำเรื่องจำเป็นก่อนดีกว่า น้ำมันแพง น้ำท่วม เรือน้ำตาลล่ม มันมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ เพราะเรื่องนี้มันก็ไม่จำเป็นจริง ๆ น่ะ   ส่วนตัวเรายอมเสียตังค์นั่งรถ เสียเวลาเพิ่ม เพื่อดูหนังที่โรงลิโด้ สกาล่า สบายใจกว่า ไม่งั้นก็รอแผ่น เพราะให้อุดหนุนพวกนิสัยไม่ดีทำใจไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 20:22:37 จากคุณ : ranmachan เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 20:20:16

ความคิดเห็นที่ 42 #41 ถ้าพูดเรื่องอุปสงค์อุปทานแล้ว ก็ช่วยพูดเรื่อง "ผูกขาดตลาด" ที่เขาเรียกว่า "มัดมือชก" ด้วยเหอะ ประมาณกรณีมือถือของต่างประเทศ 2000 แต่เอามาขายในไทย 30000 พวกนี้ ก็พอดีผูกขาดธุรกิจนี้อยู่ไงล่ะ เลยโก่งราคาได้ง่าย ๆ บางทีก็เพราะคนซื้อไม่รู้ด้วยแหละ ถ้ารู้รับรองโวยกันแน่นอน แต่เพราะไม่มีคนพูดเลยไม่ทราบกัน เมเจอร์ก็เหมือนกัน แต่ผูกขาดทำเลทำให้คนดูไม่มีทางเลือก คนส่วนใหญ่ที่ใช้ดูก็เหมือนจะไม่รู้ด้วยเหมือนกัน ส่วนเรื่องรัฐบาล พูดตามตรง แก้ปัญหาได้ทุกเรื่องนั่นแหละ อย่ามามัวนึกว่าเรื่องเล็กน้อยไปไม่ต้องมาสนใจ มามัวคิดแบบนี้กันอยู่นั่นแหละถึงเสียสิทธิ์ที่สมควรจะได้ไป เพราะความจริงมันมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องพวกนี้หมดแล้ว แต่หน่วยงานพวกนี้ไม่ยอมทำงานเพราะปัจจัยทั้งหลายแหล่ ทั่งห่วยเอง กฎหมายมีช่องโหว่ หรือโดนยัดเงิน แค่ให้รัฐบาลพูดถึงสักวิเดียวก็ช่วยกระตุ้นให้หน่วยงานพวกนี้มาทำงานได้แล้ว ดีกว่าไปพูดเรื่องไร้สาระเช่นอภิปรายกันก็ยังโฆษณาตัวเองซะยาวเหยียด ว่ามาจากไหนจบที่ไหนพ่อแม่ชื่ออะไร หรือมัวแต่ประชดด่าจิกกัดใช้คำหยาบเอาข่าวลือไร้มูลมาพูดแบบไม่ตรงประเด็นที่จะอภิปรายให้คนทางบ้านหัวเราะกันอยู่ได้ จนไม่เข้าใจว่าจะมาอภิปรายหรือ จะมา Talk Show กันแน่ ดังนั้นก็เอาเรื่องไร้สาระนี้เข้าไปพูดแทนสักหน่อยเหอะ และใช่ว่าจะมีปัญหาระดับชาติโผล่มาทุกวันสักหน่อย วันที่มีช่วงที่มีก็ปล่อยไป แต่วันว่าง ๆ ยกมาพูดก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร อีกทั้งการมาบ่นแบบนี้จะให้เมเจอร์ปรับปรุงตัวไม่ได้นะ ลองเช็คดูในนี้ดี ๆ สิ เมเจอร์เขาเริ่มรู้ตัวแล้ว แม้จะแก้ไขไม่ตรงประเด็นด้วยการลดโฆษณาหนังใหม่ไปเป็นโฆษณาสินค้าแทน ดังนั้นตัวท่านเองนั่นแหละที่กำลังถ่วงการพัฒนาของเรื่องนี้อยู่ แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 21:11:54 จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:01:59

ความคิดเห็นที่ 43 โหวตให้ค่ะ เบื่อราคาเวอร์ๆของข้าวโพดคั่ว จากคุณ : Cindecruella เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:06:53

ความคิดเห็นที่ 44 จขกท รวมตัวประท้วงกันดีกว่าครับ ตามนักข่าวมาให้ครบทุกสำนักเลย ฉะกันเลยเมเจอร์ จากคุณ : bower33 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:10:44

ความคิดเห็นที่ 45 เชื่อไหมว่า เราเปลี่ยนที่ตัวเองจะง่ายกว่า คนไทยมักง่ายครับ  ต่อให้คุณมานั่งบ่นบ่นบ่นกันเนี้ย คนไทยสันดารก็ไมไ่ด้เปลี่ยนนนะครับ 160 ผมเห้นบ่นกัน แต่ลงท้าย สุดท้ายก็ดูมันแล้วมาบ่น ได้ อะไรครับ มันได้เงินไปแล้ว อย่าดีแต่บ่นครับคนไทย ถ้าดีแต่บ่น มันก็ได้แต่บ่น เปลี่ยนนิสัยตัวเองได้ไหมที่จะไม่คิดว่า เออไหนไหนก้มาแล้วดูเถอะ เสียเพิ่ม(ไม่)นิดหน่อย คนไทยทั้งนั้นครับ  อย่าหวังเปลี่ยนสันดารนายทุน ถ้าผู้บริืโภคไม่เปลี่ยนสันดารตัวเอง จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:16:16

ความคิดเห็นที่ 46 ลำบากนักก็ไปซื้อแผ่นหนังรวม มีชนโรงด้วย สามแผ่น 100 หนึ่งแผ่นมี 9 เรื่อง ตกเรื่องละ 3.5 บาท คุ้มยิ่งกว่าคุ้มคุ้มจริงๆ ยิ่งกว่าคุ้มคุ้มทุกสิ่ง จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 21:46:30

ความคิดเห็นที่ 47 อย่าลืมว่าดูหนังในโรงหนัง คือ การซื้อความบันเทิงนะครับ  ปัญหาในประเทศมีอีกมากมายเกินกว่าจะมาให้ความสนใจกับค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นเพราะคนกลุ่มหนึ่งต้องการสนองกิเลศตัวเองโดยการซื้อความบันเทิงในราคาที่ถูกลงกว่านี้ ถ้าคิดว่าแพง ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ยังมีตัวเลือกความบันเทิงอีกเยอะแยะที่คุณสามารถซื้อหาได้ครับ  หรือรออีก 2 อาทิตย์ไปดูวันพุธ 80 บาท ก็ไม่ได้เสียอรรถรสของหนังครับ แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 22:07:52 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 54 22:07:23 จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 22:05:34

ความคิดเห็นที่ 48 ที่จอดรถ เมเจอร์ปิ่นเกล้า ถ้าดูหนังจอดฟรี 4 ชม. ไม่ใช่เหรอครับ จำได้ว่า นั่งแช่กินซิสเลอร์ และดูหนัง ขับรถออกมาก็จ่ายแค่ 20 บาท จากคุณ : CySpk เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 22:07:36

ความคิดเห็นที่ 49 โหวตค่ะโหวต เบื่อโฆษณาในโรงหนังมากกกก จากคุณ : NJ_BoBo เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 22:35:46

ความคิดเห็นที่ 50 สรุปคือ กะเอาสบายว่างั้น โรงหนังอื่น ราคาถูกกว่า มีก็ไม่ไป เพราะมันไม่อยุ่ใกล้บ้าน มันนั่งไม่สบาย มันไม่อยู่ในห้าง สงสัยต้องให้รัฐบาลสร้างโรงหนังติดกับข้างบ้านให้ล่ะมั้ง จากคุณ : Mr.Moohpee เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 22:39:20

ความคิดเห็นที่ 51 เราไม่ค่อยเข้าใจคนที่บอกว่าให้แก้ปัญหาด้วยการไปดูหนังจากเครืออื่นๆ เท่าไหร่ โอเค ถ้าคุณอยู่กรุงเทพฯ มันก็พอเข้าใจได้นะ ว่ามีตัวเลือกอื่นที่ถูกกว่า ทำไมไม่ไปใช้ แล้วคนที่อยู่ต่างจังหวัดล่ะคะ ??? มันมีสักกี่จังหวัดกัน ที่มีเครืออื่นไปเปิด ก็เห็นมีแต่เครือนี้เท่านั้น แล้วจะให้ทำยังไง วิธีแก้ปัญหา ก็คือ คนต่างจังหวัดไม่ต้องดูหนังในโรงหรอคะ??? ปล.เห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องโฆษณา และการยัดเยียดโปรต่างๆ จากคุณ : binpaibinma เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 23:35:05

ความคิดเห็นที่ 52 ตั๋วชมภาพยนตร์เป้นสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ใช่สินค้าควบคุมที่ต้องควบคุมราคาไว้เพราะถ้ามันขึ้นมากเกินไปจะกระทบต่อคุณภาพการดำรงชีวิตของประชาชน ถึง จขกท จะเขียนมาขนาดนี้รัฐบาลทำได้อย่างมากก็ได้แค่ขอความร่วมมือแหละครับ แล้วนายทุนก้จะตอบว่าต้นทุนมันสูงเลยต้องขายแพง แล้วรัฐบาลก็หายไปเพราะะถือว่าลงมาดูแล้ว...แต่ไม่แก้ให้ โดยส่วนตัวผมก็ไม่แคร์นะ เพราะถือว่ามีทางเลือก ไม่กินขนมหน้าโรง ดูหนังวันพุธ ยอมทนดู EGV ปิ่นเกล้า เพราะไม่เสียค่าจอดรถ (อีกหน่อยวันหยุดจะไปดูที่ลิโด้ละค่าตั๋วถูกดี) เรื่องโฆษณาก็เข้าใจว่าเยอะ แต่ผมก้คิดว่ามันเยอะไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับเวลาทั้งหมดที่ต้องมานั่งอยู่ในดรงหนังแล้วก็ไม่เท่าไหร่ เลยขอเป้นกลาง แต่ถ้าเพิ่มกว่านี้ก็คงรับไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 00:24:23 จากคุณ : ascertain เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 00:22:22

ความคิดเห็นที่ 53 สุดท้ายเอามาฝาก สรุปย่อรายรับรายจ่าย บ. เมเจอร์ซีนีเพลก (เฉพาะส่วนโรงหนังมาให้ดู) (หน่วย:บาท)                                           2010                  2009 รายรับรวม                                  2,677,857,293      2,519,967,038 Cost of sales                             1,789,800,193      1,710,520,929 Gross profit                                 888,057,100         809,446,109 รายรับอื่นๆ                                    262,526,358         366,834,060 กำไรก่อนหัก คชจ. อื่นๆ                 1,150,583,458      1,176,280,169 Sales&Admin cost                         719,848,358         778,683,304 กำไรจากการดำเนินกิจการ                 430,735,100         397,596,865 Gain on disposals of investments       77,845,521         302,627,056 EBFC&T                                      508,580,621         700,223,921 Financial cost:FC                         (113,877,343)       (129,412,240) Income tax:T                              (46,903,253)         (32,363,358) -------------------------------------------------------------------------------------------- กำไรสุทธิ                                 347,800,025         538,448,323 "รายรับอื่นๆ" ลดลง ทำให้กำไรลดลง แต่ S&A expense ดี ทำให้ยังมีกำไร กำไรจากการดำเนินกิจการดีขึ้น แปลว่าขายบริการดูหนังมีรายได้ดีขึ้น Gain on disposals of investments ปีนี้ลดลงจากปีก่อน ทำให้กำไรก่อนหักภาษีลดลง กำไรสุทธิจึงลดลง จากคุณ : ascertain เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 00:43:48

ความคิดเห็นที่ 54 ผมว่าการเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ดีและน่าชื่นชมครับ แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะเรียกร้องถึงขนาดให้รัฐบาลลงมากำกับดูแล ผมว่าปล่อยให้เค้าเอาเวลาไปแก้ปัญหาปากท้องก่อนดีกว่า คือโรงหนังนี่มันถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและไม่ผูกขาดนะครับ ซึ่งมันก็เป็นไปตามกลไกตลาด คือถ้าผู้ประกอบการจะคิดเงินรอบละ 500 ก็เป็นสิทธิของเขา ถ้าผู้บริโภคเห็นว่าราคาไม่เหมาะสมก็ไม่มีใครเข้าไปดู โรงหนังก็ต้องปรับลดค่าบริการลง สำหรับท่านที่บอกว่าในบางจังหวัดท่านไม่มีตัวเลือก ก็แปลว่าต้องยอมรับว่าฐานลูกค้าอาจจะน้อยทำให้ผู้ประกอบการไม่ลงมาแข่งขัน ดังนั้นคนที่ลงทุนมาเปิดก็ย่อมต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการลงทุนตรงนี้ จากคุณ : Roby เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 02:14:29

ความคิดเห็นที่ 55 ผูกขาดด้วยทำเล ??? อุเหม่ ทำเลเค้าก็ต้องลงทุนนะครับ มือถือผูกขาดต่างประเทศขาย 2000 ในประเทศขาย 3000 ???  ก็ซื้อยี่ห้ออื่นสิครับพ่อคุณ ของในแต่ล่ะประเทศมันก็ตั้งราคาไม่เท่ากันอยู่แล้ว ไม่ได้มีขายยี่ห้อเดียวเมื่อไหร่ ยี่ห้ออื่นก็โทรได้เหมือนกัน ตจว. แพง = ไม่ดูครับ ดูน้อยลง หรือ นานๆดูที พูดเหมือนขาดแล้วจะตายเลยอ่ะ ตะก่อนผมดูหนังมากกว่าเดือนล่ะเรื่องเสพติดเหมือนกัน แต่พอมาอยู๋ตจว ต้องทำงาน มีภาระหลายอย่างก็เลิกดูไป วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องที่สุดคือ ไม่ต้องไปอุดหนุนมัน เมื่อคุณได้สินค้าและบริการที่ไม่น่าพอใจ มันไม่เหมือนปัญหาข้าวแพง หมูแพง ที่ต้องบ่นไปกินไป แต่ อันนี้มัน ตั๋วหนังแพง - -" บ่นไป ไม่ดูไปก็ได้ครับ แถมเค้าไม่ได้ผูกขาดนะครับ หนังเนี่ย เพราะเจ้าอื่นก็นำหนังเข้ามาฉายได้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่า เรื่องนี้จะต้องฉายโรงนี้โรงเดียวซะเมื่อไหร่ - -" เรียกว่าผูกขาดได้รึ ?? ผมไม่ได้เข้าข้างนายทุนนะ แต่ เรามองกันอย่างกลางๆ ข้อเรียกร้องหลายข้อของ จขกท มันฟังไม่ขึ้นน่ะ โดยเฉพาะเรื่อง ขายขนมแพง อะไรแบบนี้ มันไม่ขึ้นเลยจริงๆ จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 07:19:39

ความคิดเห็นที่ 56 ตั้งแต่เลิกกะแฟนคนแรกไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วก็ไม่ได้ไปดูหนังโรงอีกเลย อาศัยดูที่บ้านแทนสนุกกว่าเยอะนะ จากคุณ : Yu!eZ เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 08:53:46

ความคิดเห็นที่ 57 เครือนี้เลิกดูไปนานมากแล้ว ไม่เคยที่จะคิดเฉียดเข้าไปด้วยซ้ำ จากคุณ : yamato_waki เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 09:34:22

ความคิดเห็นที่ 58 เคยคิดนะึะว่า พวกโปรโมชั่นมากมายล้านแปดของเมเจอร์ที่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง โม้ว่าดูหนังได้ในราคาถูกกว่าปกตินักหนา สมมติถ้าไม่มีโปรโมชั่นพวกนี้แล้วถัวเฉลี่ยราคาตั๋วหนังให้ลงมาอยู่ที่เดิม 120 ก็ได้เอ้า! ยังจะดีซะกว่านะคะ เคยมีเหตุการณ์นึง (จริงๆก็เจอมาเยอะ) ที่จำฝังใจกับเมเจอร์มากๆ  วันนั้นเป็นวันธรรมดาค่ะ เราจะไปดูหนังโดยใช้โปรโมชั่นนี้ http://www.majorcineplex.com/promotion_detail.php?pid=660 ดูหนัง 80 บาท ทุกเรื่อง ทุกรอบ ทุกวัน สำหรับลูกค้า AIS eService ก่อนจะซื้อตั๋วเราจะถามพนักงานเพื่อความแน่ใจก่อน  เราพูดว่า "พี่คะ จะใช้โปร e-service ais...." (พูดยังไม่ทันจบ) พนง. "ไม่ได้ค่ะ!!" อ้าว...เฮ้ย!! เรายังพูดไม่ทันจบเขาก็บอกเลยว่าไม่ได้  ตกลงจะให้ใช้ได้รึเปล่าเนี่ยโปนโมชั่นน่ะ... ไปดูหนังทีำไรก็เซ็งๆนะคะ แต่บางทีมันไม่มีทางเลือกจริงๆ (คือปกติจะเดินไปดูที่เมเจอร์ค่ะ) เพราะ SF และเครืออื่นอยู่ไกล จะนั่งรถเพื่อไปดูโรงเครืออื่นก็จะกลายเป็นว่าเสียเงินพอๆกัน และยังเสียเวลา้เดินทางเพิ่มขึ้นค่ะ ยังไงเราก็ขอลงชื่อเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกระทู้นี้นะคะ เผื่อจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ จากคุณ : Akaba เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 09:54:30

ความคิดเห็นที่ 59 ตั้งข้อสังเกตข้อนึงนะครับ คือว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้สมัครบัตร เอ็ม-เจนเนอเรชั่น เป็นบัตรที่ทางเมเจอร์เค้าบอกว่าใช้เป็นส่วนลด 20 บาทได้ทุกเรื่องทุกที่นั่ง เมื่อวันเสาร์ผมใช้บัตรนี้ไปจองตั๋วเรื่อง x-men ปรากฏว่าตอนที่จองภาพยนต์ในผังแสดงที่นั่งเพื่อจะเลือกที่นั่ง ผมกลับเห็นว่ามีที่นั่งที่ไม่สามารถเลือกนั่งได้อยุ่มากเลย ปกติเวลาจองตั๋ว ที่นั่งไหนที่มีคนอื่นจองใว้ก่อนแล้วจะมีเครื่องหมายกากบาท ที่นั่งไหนว่างจะเป็นหมายเลขที่นั่ง แต่ผมกลับพบว่ามีที่นั่งจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางๆเป็นสีขาวดำ ไม่สามารถจะเลือกนั่งได้(ที่นั่งตั้งแต่แถว D ลงมาซึ่งราคาถูกกว่า 3 แถวบน)  ซึ่งปรากฏว่าพอถึงเวลาหนังเข้าฉายจริงๆแล้ว ผมกลับพบว่าที่นั่งดังกล่าวมีลูกค้ามานั่ง แต่ที่รับไม่ได้สุดๆ ก็คือที่นั่งบางที่มันว่างไม่มีคนมานั่ง ผมเลยตั้งข้อสังเกตว่า เมเจอร์กันที่ๆเป็นส่วนขาวดำ ใว้ขายลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บัตรลดราคาหรือเปล่า เพราะการที่จะใช้บัตร เอ็ม-เจนเนอเรชั่นนั้น พนักงานจะนำบัตรของเราไปรูดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะคีย์รอบภาพยนต์ให้เราเลือกที่นั่ง ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปหรือเปล่า แต่ครั้งหน้าผมจะลองแกล้งลืมว่าจะไม่ใช้บัตรใบนี้เพื่อเข้าไปดูผังที่นั่งในราคาปกติก่อน แล้วจะขอพนักงานใช้บัตรทีหลัง จะได้ดูว่าสมมติฐานของผมเป็นจริงหรือเปล่า ถ้าเมเจอร์เข้ามาอ่าน ก็ขอให้ทำให้เนียนๆหน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 54 09:59:11 จากคุณ : Mollyman เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 09:55:48

ความคิดเห็นที่ 60 ************ ไม่เคยกิน popcorn เพราะไม่รู้ทำไมไปดูหนังต้องกินด้วย และคนกินไม่รู้สึกแกรงใจชาวบ้านหรือไง ที่คนข้างๆต้องมาทนฟังเสียงพวกคุณล้วงควัก popcorn ไหนจะกินเสียงดังอีก พอมือเปื้อนก็ไปเช็ดเก้าอี้........... ********************************** สุดท้าย เลิกดูเมเจอร์มานานแล้ว จากคุณ : ลุงต้นไม้ เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 10:52:18

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าจะช่วยกันแก้ ก็มีอย่างเดียวครับ เลิกดูหนังในเครือเมเจอร์ อันนี้แน่นอนที่สุด ถ้ายัง "ต้องดู" ก็เหมือนตกเป็นทาสเค้าอะครับ เค้ามี "สิทธิ" ที่จะขึ้นราคา เราก็มี "สิทธิ" ที่จะไม่ดู ... จากคุณ : ltf06 เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 11:44:47

ความคิดเห็นที่ 62 เลิกดูเเล้วครับ ตั้งแต่Maj ร่วมทุนสร้างกับ Iron man เลยเก็บเพิ่มเนี่ย ซึ้งมาก จากคุณ : priwhan เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 12:03:51

ความคิดเห็นที่ 63 เราไม่ดูแล้ว รายได้เราไม่สามารถดูหนังราคาแพงขนาดนี้ได้  ขึ้นมามากเกินไป จากคุณ : genetic_plant เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 12:40:03

ความคิดเห็นที่ 64 ห้างแถวบ้าน 50 - 60 บาท แล้วแต่เรื่อง แต่หนังช้ามาก ไม่มีหนังซาวแทร็คด้วย แต่ไม่มีตัวเลือกอื่นเพราะอีกโรงก็พอกัน เลยทำใจ จากคุณ : Mme.Dinsmoor เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 13:34:46

ความคิดเห็นที่ 65 กรี๊ดดดดดดดดดด... อ่าน คห.59 จบ ควักบัตรเอ็ม-เจน ไรนั่นมาดู พลิกซ้าย พลิกขวา วันนี้กำลังจะไปดูแพนด้า ถ้าจริง!!!... แม่จะเหวี่ยงให้เคาน์เตอร์พัง จากคุณ : นางเอกขาวีน เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 15:44:57

ความคิดเห็นที่ 66 ผมรอให้ central ลาดพร้าวเปิด ผมรอ SF ที่นั่น ... จากคุณ : ไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 16:09:26

ความคิดเห็นที่ 67 แล้วคุณอ๋องสมหวัง แกหายไปไหนละเนี่ย ทีเรื่องไม่เป็นเรื่องล่ะ กัดจิกจังเลย ทีเรื่องนี้ ไม่เห็นออกมาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย จากคุณ : ลูกหมีเขี้ยวยาวเขาโง้ง เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 16:45:23

ความคิดเห็นที่ 68 โดนใจค่ะ จขกท. จากคุณ : my little jijie เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 17:25:02

ความคิดเห็นที่ 69 สำหรับว่าที่รัฐบาลใหม่---เ่อ่อ รัฐบาลเลยเหรอ  รบ.เค้าจะสนใจด้วยเหรอเรื่องโรงหนังเนี่ย ลำพังหน้าที่หลักก็เอาตัวไม่รอดแล้ว นักการเมืองไทยอะ จากคุณ : โอไซริส เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 18:58:59

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าไม่ได้บัตรฟรี จากการเล่นเกมหรืออีเว้นต่างๆ เราก็ไม่ดูค่ะ จากคุณ : SICKHEART เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 19:31:17

ความคิดเห็นที่ 71 ขอถามหน่อยนะคะ บอกตรงๆเลยว่าไม่เคยดูที่เมเจอร์เลย เหตุผลเพราะ เราทนต่อแถวไม่ไหวจริงๆ เราอยากรู้ว่าโฆษณาที่บอกว่า 30 นาที นี่เป็นโฆษณาแบบตามทีวี อะไรแบบนี้หรอคะ ถ้าเป็นแบบสินค้า(ไม่ใช่หนังตัวอย่าง) ก็คงน่าเบื่อจริงๆแหระเนอะ จากคุณ : Venus เทพแห่งความงาม เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 19:34:46

ความคิดเห็นที่ 72 ูเราอยากรู้ว่าโฆษณาที่บอกว่า 30 นาที นี่เป็นโฆษณาแบบตามทีวี อะไรแบบนี้หรอคะ ^ ใช่ค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 20:55:31

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 17 แสดงว่าไม่เคยดูเรื่อง "TROY" ที่แบรตพิตพูดกะเด็กที่มาตามไปรบว่า "ถ้ามัวแต่ไปล้มพวกตัวต้อยกระจิ๊ดริด เมื่อไหร่เองจะดังแล้วเป็นที่จดจำฟระ" จากคุณ : ป้าซื่อตรง เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 21:41:14

ความคิดเห็นที่ 74 ความคิดเห็นที่ 69 เค้าจะสนใจขึ้นมาทันที ถ้าเพจ "เครือข่ายคนรักหนังต่อต้านการโฆษณามหาโหดของโรงหนังเครือเมเจอร์" มียอด LIKE ถึงล้าน คิดดูว่ากี่คะแนนเสียง จากคุณ : ป้าซื่อตรง เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 21:43:15

ความคิดเห็นที่ 75 โดนส่วนตัวเป็นคนที่ชมภาพยนตร์ค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะที่ เมเจอร์ปิ่นเกล้า เพราะใกล้บ้าน เดินทางสะดวก สำหรับเหตุผลที่ยกมา ส่วนตัวแล้วมีความคิดเห็นว่า ข้อ 1 มีการฉายโฆษณาที่ค่อนข้างนาน ข้อนี้เห็นด้วยค่ะ ว่านานจริงๆ บางทีถ้าไม่ได้คิดอะไรก็เข้าไปนั่งดูเล่นๆ แต่ส่วนใหญ่จะเค้าหลังเวลาที่กำหนดฉาย ประมาณ 10 นาที แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะปรับปรุงแล้ว(???) ให้มีการฉายโฆษณาที่สั้นลง เพราะเมื่อวันอาทิตย์ไปชมภาพยนตร์เรื่อง x-man มา เหมือนจะโฆษณาน้อยกว่าปกติ ส่วนเรื่องราคาตั๋ว ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ค่ะ เพราะก็เข้าใจว่าต้นทุนของสินค้าหลายๆอย่างสูงขึ้น ข้อ 2 การซื้อตั๋ว เฉยๆกับระบบนี้นะคะ เพราะถ้าตัวเองไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็สามารถรอได้ และเมื่อโดนยัดเยียดก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะไม่ได้ต้องการซื้ออยู่แล้ว เลยไม่สนใจ ข้อ 3 ป๊อปคอร์น โดนส่วนตัวคิดว่า เราเลือกที่จะไม่ซื้อ หรือบอกปฏิเสธโปรโมชั่นที่เค้านำเสนอให้ได้ค่ะ เพราะราคาค่อนข้างสูงมาก รวมไปถึงค่าน้ำหรือขนมอื่นๆด้วยที่มีราคาแพง แต่คิดว่าเราสามารถเลือกที่จะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ ข้อ 4 เรื่องที่จอดรถ โดยสารรถประจำทางมาที่เมเจอร์ปิ่นเกล้า หรือบางทีก็จอดไว้ที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าค่ะ ส่วนใหญ่จะใช้รถประจำทางเดินทางมา หรือไม่ก้แท๊กซี่ค่ะ เลยไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถเท่าไหร่ ข้อ 5 การบริการของพนักงาน คิดว่าไม่ได้บริการแย่ไปเสียทุกคน และการเข้าโรงช้าบางทีก็ไม่ใช่ความผิดของพนักงาน คนที่ซื้อตั๋วหนังมาชมเป็นคนเลือกเองว่าควรจะเข้าโรงตอนไหน และการเข้าไปในโรงภาพยนตร์ช้านิดหน่อย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเดินเข้าออกทั้งเรื่อง เลยไม่ค่อยติดใจอะไร แต่อาจจะมีอารมณ์ขุ่นๆนิดหน่อยถ้าโดนเหยียบเท้า แต่การเข้าโรงภาพยนตร์ ขึ้นอยู่กับผู้รับชมมากกว่า ข้อ 6 ขึ้นราคาตามความพอใจ บางเรื่องอาจจะมีความยาวของเนื้อเรื่องที่มากกว่าสองชั่วโมง ราคาเลยเพิ่มขึ้น อันนี้ไม่แน่ใจ ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้รึเปล่าที่ทำให้ต้องเพิ่มราคาตั๋ว การแสดงความคิดเห็นนี้ ต้องการเพียงจะบอกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ยอมรับไม่ได้ ยังมีคนที่คิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาและไม่กระทบต่อความต้องการที่จะชมภาพยนตร์ในโรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เห็นด้วยกับข้อคิดเห็นที่กล่าวมาค่ะ ถ้าทางเมเจอร์สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ก็จะดีค่ะ เพียงแต่ตนเองยังพอรับได้กับเรื่องเหล่านี้ ขอย้ำว่านี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่ได้จะมาบอกว่าคุณคิดผิดหรืออย่างไร แค่ต้องการแสดงความคิดเห็นบ้างเท่านั้นค่ะ จากคุณ : pladaow เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 54 23:09:47

ความคิดเห็นที่ 76 ความเห็น 75 ผมดุเมเจอรปิ่นเกล้าตลอดเหมือนกันครับ ^^ หลังๆๆรุ้สึกว่าโฆษณาน้อยลงแล้วน้าครับ  ส่วนพวกของกินแพง บอกตรงๆๆ ไม่เคยซื้อไรเข้าไปกินเลย ของสิ้นเปลือง T^T ส่วนเรื่องค่าตั่ว ถ้าลดลงมาหน่อยก้โอเคนะครับ แหะๆๆ จนครับ แต่ขอดุเมเจอร์แระ เพราะบ้านผมอยุ่หลังเมเจอรืพอดี อิอิ ไม่เปลืองค่ารถ ^^ จากคุณ : tsugunaga เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 02:01:34

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องของแพงหน้าโรงหนังเนี่ย เซงมากจริงๆครับ ควรลดราคาหน่อยก็ดีครับ เพราะราคามัน สองสามเท่าจากราคาปรกติเลยทีเดียว มันดูโหดร้ายมากครับ แถมยังบังคับไม่ให้เอาของจากข้างนอกเข้าไปกินด้วย แบบนี้มันก็ับังคับกดขี่กันเห็นๆอยู่แล้ว ผมเคยไปดู Major สองสามครั้ง โฆษณานานมาก ผมเลยเลิกไปเลยครับ ไป SF แทน มีโฆษณาประมาณ 10-20 นาที แถมค่าน้ำเปล่ากับป๊อปคอร์นก็ถูกกว่าด้วยครับ จากคุณ : ohm_hacker เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 02:27:04

ความคิดเห็นที่ 78 เข้ามาดูครับ หนังเรื่องสุดท้ายที่เข้าไปดูในโรง องค์บากภาคแรก ที่เหลือ ไม่ต้องบอกนะ ครับ อิอิ จากคุณ : เด็กโคราชเด้อ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 07:09:02

ความคิดเห็นที่ 79 เราว่าเรื่องนี้รัฐไม่น่าจะสามารถเข้ามาจัดการได้นะคะ การดูหนังไม่ใช่สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน ถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นรัฐจะไปจัดการอะไรไม่ได้มาก สิ่งที่ทำได้คือมาตรการทางสังคม ซึ่งผู้บริโภคจะต้องแบนกันเอง (ในความคิดเรานะ รอผู้รู้มายืนยันอีกที) จากคุณ : Icy เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 07:32:49

ความคิดเห็นที่ 80 เคยตั้งปณิธานไว้จะไม่ดูโรงเมเจอร์ แต่มาทำงานอยู่ต่างจังหวัด มีโรงหนังอยู่โรงเดียว ก่อนเข้ามีการตรวจค้นสัมภาระ กระเป๋า ถุงสิ่งของที่ติดตัวคุณทุกอย่าง ทำยังกะลูกค้าเป็นโจร เดินไปยื่นตั๋วจะเข้าโรง เจอดักว่าเปิดกระป๋าด้วย(ไม่มีคำว่าขออนุญาต ตรวจดูสิ่งของในกระเป๋า) ตลกดี จะบอกว่าตรวจเพื่อความปลอดภัย ไม่เคยเห็นในกรุงเทพต้องตรวจขนาดนี้เลย ที่ตรวจคงกลัวลูกค้าจะซื้อน้ำ ซื้อขนมจากบ้างนอกเข้าไปมากกว่า จุดนี้คุณคงต้องคิดแล้วนะคะ ทำไมลูกค้าถึงยอมยุ่งยาก เดินมาจองตั๋ว จองเสร็จ ต้องเดินลงไปซื้อน้ำ ซื้อขนม ข้างนอก ในเมื่อเมเจอร์เองก็ขาย ก็เพราะของคุณมันแพงซะจนกระเดือกไม่ลงไงละคะ เลือกคะเลือกจบกัน กับโรงหนังมัดมือชกกันแบบนี้ จากคุณ : Chisa Joy เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 12:15:06

ความคิดเห็นที่ 81 เรื่องโฆษณาก็เหมือนกัน ถ้าจะขายโฆษณาก็น่าจะให้ดูฟรีนะ เหมือนหนังขายยา หรือฟรีทีวีไง แต่ก็อย่างว่า ขนาดทรูวิชั่น เก็บค่าบริการ แพงแสนแพง ยังมีโฆษณาเยอะแยะยังกะฟรีทีวีเลย ผังรายการแจ้งจบ 10.00น. เอาเข้าจริงตัดรายการจบตั้งแต่ 9.45น. ที่เหลืออีก15นาที ดูโฆษณาไประหว่างรอรายการใหม่ ค่าบริการก็ไม่เคยลด แต่ตัวโฆษณาเพิ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จะเอาเปรียบผู้บริโภคไปถึงไหนคะ จากคุณ : Chisa Joy เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 12:20:34

ความคิดเห็นที่ 82 บ้านผมอยู่พระราม 2 ครับ แต่โชคดีที่ทำงานสีลม ดังนั้น ผมมีเครือ apex เป็นที่พึ่งจริงๆ (ยกเว้นว่ามันไม่เข้า) สำหรับเมเจอร์ ผมเห็นด้วยเกือบทุกข้อล่ะครับ ค่าตั๋วแพง โฆษณานานมาก ล่าสุดที่ดูเมเจอร์พระราม 2 แถวบ้าน โฆษณารวมหนังตัวอย่างเบ็ดเสร็จปาไป 45 นาที ถ้าเป็นหนังก็ปาไปเกือบค่อนเรื่องแล้ว โชคยังดีที่ผมไม่ชอบกินป้อปคอร์น แต่ก็เห็นด้วยว่าแพงไปไหม แพงกว่าตั๋วหนังอีกบางที หลายๆ ความเห็นว่าบอกแพงก็ไม่ต้องไปดู ไม่ดูไม่ตายอะไรทำนองนี้ รอดูหนังแผ่นและอะไรอื่นๆ อันนี้ผมเห็นความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนชอบดูหนังในโรง ไม่อยากรอนาน บางคนชอบดูหนังแผ่นอยู่บ้าน จะไปบอกว่าถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องดูมันก้อคงไม่ถูกเท่าไหร่ ผมว่าร้องเรียนไปก็ถูกแล้วครับ (แต่ร้องเรียนให้ถูกต้องกับหน่วยงานรับผิดชอบด้วย) ไม่งั้นจะมี หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคไว้ทำไม ส่วนตัว ผมรู้สึกว่าเมเจอร์เอาเปรียบมากเกินไป และปกติผมไม่ดูเมเจอร์ครับ รักสกาล่าที่สุดในสามโลก ทำเลที่ตั้งก็ไม่ได้เป็นรองใคร ตั๋วก็ร้อยเดียวไม่ขึ้นราคา โรงอาจจะไม่ใหม่กิ๊ก แต่แอร์ไม่เคยร้อน โฆษณาไม่เคยนาน และขนมหน้าโรงก็ขายแบบน่าอุดหนุน จากคุณ : ออนไลน์ยันสว่าง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:07:41

ความคิดเห็นที่ 83 ผมว่าถ้่ลดราคาของกินลงมาอีกนิด จะขายดีกว่าตอนนี้นะ จากคุณ : Firepocket เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:18:30

ความคิดเห็นที่ 84 เรียน คุณ ikkru จากคำถามที่ทางคุณ ikkru ได้ตั้งข้อซักถามนั้น ทางเมเจอร์ ขอชี้แจงดังนี้ค่ะ 1.การขึ้นราคาอย่างสวนความ เป็นจริง โดยอ้างว่าต้นทุนสูงขึ้น การที่บริษัทคุณต้นทุนสูงขึ้น แต่คุณก็สามารถหารายได้มาชดเชยด้วยการฉายโฆษณาในโรงแทน ซึ่งบางเรื่องบางรอบมีโฆษณา มากกว่า 15 ตัว ก่อนหนังฉาย ถามว่า ภาพยนตร์คือสินค้าที่คนเสียเงินเข้าไปนั่งชม เหตุใดถึงจะต้องมาโดนยัดเยียดชมโฆษณา นิตยสารเล่มหนาเตอะขายราคาที่ 90-100 บาท มาไม่ต่ำกว่า 10 ปีเค้าบอกว่าเค้าอยู่ได้ด้วยโฆษณา หรือเมเจอร์จะเปรียบตัวเองเป็นสื่อฉายภาพยนตร์โฆษณาแถมหนัง ถึงจะอ้างว่าอยู่ได้ด้วยโฆษณา สองปีที่ผ่านมา เวลาก่อนหนังฉายที่คนต้องนั่งทนดูโฆษณาที่ยัดเยียดในโรง ที่ไม่สามารถลุกหนีหรือเปลี่ยนช่องได้ มันคือการที่ยัดเยียดยิ่งกว่าฟรีทีวีเสียอีก ขอตอบแยกเป็น 2 ประเด็นนะคะ การปรับเปลี่ยนราคาบัตรชมภาพยนตร์ เป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ของ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าวัตถุดิบต่างๆ รวมถึงการปรับปรุงและเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพให้โรงภาพยนตร์มีมาตรฐานและบริการ อยู่ในมาตรฐานระดับโลก อยู่เสมอ  และทำให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดกับผู้บริโภค เมื่อเข้ามาใช้บริการ อีกทั้ง ราคาบัตรชมภาพยนตร์ยังมีความหลากหลาย เพื่อเป็นบริการทางเลือกให้กลุ่มลูกค้า แตกต่างกันไป ตามสถานที่ตั้ง เวลาการชม และ กลุ่มเป้าหมาย สำหรับเด็ก และ ผู้สูงอายุ เราก็จะมี บัตรชมภาพยตร์ Senior Ticket , Kids Ticket อีกทั้งเรายังเป็นผู้นำ ริเริ่มการมีบัตรชมภาพยตร์ในราคานักเรียน Student Price และ Movie day ช่วงเวลาสำหรับคนรักหนัง เป็นรายแรกของเมืองไทยอีกด้วย  รวมถึงการทำโปรโมชั่นร่วมกับ พันธมิตรต่างๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลาย ให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักคือ การขยายตลาดกลุ่มคนดูหนังให้มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีโดยตรงให้กับ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ ให้ได้ผลิตผลงานภาพยนตร์ดีๆมีคุณภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกชมกันอย่างหลากหลายและมากขึ้นต่อไปในอนาคต สำหรับ ประเด็น โฆษณาในโรงภาพยนตร์นั้น  เราได้มีการควบคุม และ มาตรฐานในการ ฉายโฆษณาไม่เกิน 10 นาที รวมตัวอย่างภาพยนต์ที่น่าสนใจที่กำลังจะเข้าฉาย อีกไม่เกิน 15 นาที 2.การพยายามยัด เยียดขายบัตรซื้อตั๋วตามตู้อัตโนมัติ และ การบีบให้ลูกค้าต้องต่อคิวยาวๆด้วยการเปิดช่องขายตั๋วเพียง 1-2 ช่อง แล้วปล่อยให้คิวยาว และระหว่างนั้นก็จะส่งทีมขายมายัดเยียดขายบัตรเติมเงินอัตโนมัติ โดยอ้างว่าไม่ต้องต่อคิว ทั้งๆที่ช่องขายตั๋วคุณว่าง ทำไมคุณไม่เอาพนักงานขายบัตรเหล่านั้นมาทำการขายบัตรตามปกติ นอกจากนี้ยังบีบบังคับด้วยการประกาศบอกว่า มีช่องด่วนพิเศษ สำหรับคนที่จะซื้อบัตรพร้อมป็อปคอร์น โดยไปซื้อได้เลยไม่ต้องต่อคิว นอกจากนี้ ในช่องขายที่น้อยอยู่แล้ว พอถึงคิว พนักงานก็ยังหว่านล้อมชวนซื้อตั๋วล่วงหน้า ชวนสมัครบัตรเอ็มเจนเนอเรชั่น ช่องมีน้อยอยู่แล้ว พนักงานชวนขายของ ถามว่าเคยคิดถึงลูกต้าที่ต้องรอไหม ตอบว่าคิด คิดว่าทำยังไงลูกค้าจะหมดความอดทนแล้วยอมควักเงินจ่ายบัตรอัตโนมัต นี่คือการกระทำที่เห็นแก่ตัวอย่างที่สุดของเครือเมเจอร์   การจำหน่าย บัตรแทนเงินสด ในการซื้อตั๋วหนัง เพื่อนำไปซื้อตั๋วที่ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่ต้องการความสะดวกสบาย ความทันสมัย และรวดเร็วมากขึ้นในการซื้อบัตรชมภาพยตร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเพิ่มตัวเลือก ในการเลือกใช้บริการมากกว่า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกซื้อบัตรชมภาพยนตร์ได้ ทั้งที่ช่องจำหน่ายบัตร หรือ เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรชมภาพตร์อัตโนมัติได้เลย ซึ่งหลักการคล้ายคลึงกับ ธนาคาร ที่มีตู้ ATM เพื่อสร้างความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นให้กับลูกค้า ในการทำ ธุรกรรม   อีกทั้งการเพิ่มทางเลือกในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ที่ตู้อัตโนมัติ ถือได้ว่า เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของโลกยุคใหม่ ที่ต้องการความรวดเร็ว และคล่องตัวในทุกบริการที่เกิดขึ้น สำหรับ การจำหน่าย บัตรสมาชิก เป็นการจัดทำขึ้นเพื่อให้เรารู้จักผู้บริโภคให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคแบบ one on one อีกทั้งยังรับได้สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกมาย อาทิ สามารถซื้อบัตรชมภาพยนตร์ได้ในราคาสมาชิก   ทุกครั้งของการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ซื้อป๊อปคอร์น ยังได้รับ แต้มสะสม เพื่อแลกรับของรางวัลมากมาย หรือ ได้รับสิทธิ์ ชมภาพยนตร์รอบ Premier ก่อนใคร ซื้อบัตรคอนเสิร์ต ในราคาพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นบริการทางเลือก เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภคเป็นสำคัญ 3.ป็อปคอร์น เครื่องดื่มราคาสูงกว่าความเป็นจริง 3-4 เท่า ถามว่าสินค้าบริการเหล่านี้ ทำไมลูกค้าจึงไม่สามารถจะซื้อและนำจากข้างนอกเข้าไปได้ ในเมื่อคุณขายบริการภาพยนตร์ คุณไม่ได้ขายอาหาร ในส่วนนี้ คิดว่าเมเจอร์เอาเปรียบ และราคาป็อปคอร์น เครื่องดื่มไม่เคยชัดเจน พ่วงขายเป็นชุด  ลูกค้าสับสน จำราคาไม่ได้ เปลี่ยนแปลงบ่อย เปลี่ยนแพคเกจบ่อย ส่งผลให้บางครั้งลูกค้า มารู้ตัวอีกทีก็คือซื้อไปแล้ว ราคาไม่ชัดเจน ไม่ติดป้ายแยกขายให้ชัดเจน ในส่วนนี้ถือว่าเมเจอร์ฉ้อฉลมาก จุดจำหน่ายป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม เป็นอีกหนึ่งบริการทางเลือก เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์ ซึ่งทุกจุดการขายจำมีการแจ้งราคาจำหน่ายที่ชัดเจน ทั้งนี้ แนวคิดของการจำหน่ายป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มภายในโรงภาพยนตร์นั้น จะมีรูปแบบคล้ายคลึงกับ Theme Park หรือสวนสนุก ต่างๆ ทั่วโลก คือเน้นให้ ผู้บริโภคมีประสบการณ์ร่วม ( Enjoy Experience) กับความบันเทิงที่เกิดขึ้นตรงหน้าให้มากที่สุด โดยจะมีการจัดทำ packaging ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อให้ลูกค้าได้นำกลับบ้านไป เพื่อเป็นของที่ระลึก แทนความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์ หรือ คาแรคเตอร์ ในเรื่องนั้นๆ คล้ายเวลาที่เราไปเที่ยวสวนสนุก ทั้งนี้ นโยบายการนำอาหารภายนอกเข้าโรงภาพยนตร์ เป็นนโยบายสากล ของโรงภาพยนตร์ และธุรกิจบริการทั่วโลก ทั้งนี้ เพื่อรักษาบรรยากาศในการชมภาพยนตร์ของลูกค้าทุกท่านภาพในโรง ให้ได้รับความบันเทิงสูงสุดในการชม โดยไม่เกิดกลิ่นรบกวน ผู้ชมรอบข้าง อีกด้วย   ดังเช่น ธุรกิจบริการอื่นๆ อาทิ ร้านอาหาร ต่างๆ ก็มิให้นำอาหาร ภายนอกเข้ามารับประทานในร้าน เป็นต้น 4.โรงภาพยนต์เมเจอร์แบบแสตนอะโลน ขอยกตัวอย่าง สาขาปิ่นเกล้า เก็บค่าที่จอดรถลูกค้า ทั้งๆที่เค้าเสียเวลาเข้ามาชมโฆษณาในโรงหนัง ถามว่าสมมุติหนัง 1 เรื่อง 90 นาที แต่โดนยัดโฆษณาไปอีก 30 นาทีก็เกิน 2 ชมแล้ว ไหนจะทานข้าว รอรอบ ยังไง 3-4 ชั่วโมงเสียแน่ๆ ลูกค้ามาจ่ายเงนใช้บริการในสถานที่ของคุณ และคุณเองก็ฉ้อโกงเวลาลูกค้าด้วยการฉายภาพยนตร์โฆษณานานๆ ทำให้ลูกค้าที่ไม่ควรจะเสียค่าที่จอดรถ ก็ต้องเสียค่าที่จอดรถ ขอถามหาความเป็นธรรมหน่อย การเก็บค่าที่จอดรถ เป็นหลักการสากล ที่ไม่ได้เกิดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ แต่เพียงอย่างเดียว อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาล ฯ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย กับผู้บริโภคเป็นสำคัญ ทั้งนี้ นโยบายการเก็บค่าที่จอดรถ ขึ้นอยู่ กับข้อตกลง ของพื้นที่ตั้งนั้นๆ 5.พนักงานแก้ปัญหาแบบขอไปที เวลาถามว่า โฆษณานานไหม พนักงานมักบอกว่า 30 นาที รอหนังฉายค่อยเข้า และเคยคิดไหมว่า คนที่เข้าทีหลัง เดินแทรกเก้าอี้เข้าไป ไหนจะเยียบขา ไหนจะบังคนข้างหลัง รบกวนสมาธิ นี่คือการแก้ไขปัญหาเหรอ ขณะนี้ เรามี การควบคุมและมาตรฐาน ของการฉายโฆษณาภายในโรงอย่างชัดเจนแล้ว เพื่อให้ผู้บริโภคมีความพึงพอใจสูงสุดค่ะ 6.กำหนด ราคาหนังเอง ตามทุนสร้างและฟอร์มของหนังตลอดจนหนังฮิต ปี 2553 ทไวไลท์กับแฮรี่พ็อตเตอร์ เพิ่ม 20 บาททุกที่นั่ง ด้วยเหตุผลเป็นหนังทุนสูง ซึ่งไม่รู้ว่าเหตุผลแบบนี้มันสมควรเหรอแล้วหนังทุนต่ำทำไมไม่ลดราคา ภาพยนตร์แต่ละเรื่อง และ โรงภาพยนตร์ แต่ละแห่ง มีต้นทุนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ ที่ตั้ง วัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ คุณภาพ ในการผลิต เฉกเช่น ธุรกิจบริการทางเลือก ประเภทอื่นๆ อาทิ โรงแรม และ สายการบิน ที่มีราคาที่หลากหลาย แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ เวลา สาขา และ ที่ตั้ง ที่หลากหลาย และ แตกต่างกันไป เพื่อให้ผู้บริโภค มีทางเลือกในการใช้บริการด้วยตัวเอง   สุดท้ายนี้ อย่าบอกว่า ไม่ได้มีใครบังคับให้คุณเข้ามาดู แต่อย่าลืม ศิลปะและการเสพศิลปะคือความต้องการพื้นฐานของสัตว์โลก ภาพยนตร์คือสิ่งที่มนุษย์เสพได้ และมันคือกิจกรรม การเสพงานศิลป์ การเปิดตาเปิดโลกกว้าง และมันคือความบันเทิงของคนเมือง ของคนไทย และเมเจอร์เองก็ยึดหัวหาดเสียจนเรียกได้ว่า นี่คือธุรกิจผูกขาดไปแล้ว วอนเมเจอร์ช่วยตอบคำถาม การพัฒนาเพื่อให้อุตสาหรรมภาพยนตร์ไทยแข็งแรงและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องอาศัย วิศัยทัศน์ที่กว้างไกลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ทางเราตระหนักดีว่า ภาพยนตร์คือสิ่งที่มนุษย์เสพได้และเป็นความบันเทิงของคนเมืองที่ใกล้ตัวที่สุด ดังนั้น เราจึงมีการขยายสาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย ให้เข้าใกล้และตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคให้ทั่วถึงมากขึ้น อีกทั้งยังมุ่งมั่นในการบริการ การออกแบบ โรงภาพยนตร์ การนำเก้าอี้ แปลกๆ ใหม่ๆ ระบบการฉายภาพยนตร์ที่หลากหลาย และนำเทคโนโลยี ความทันสมัยต่างๆ มาสู่โรงภาพยนตร์ในเมืองไทย ให้ได้มาตรฐาน และ คุณภาพเทียบเท่า ระดับโลก ไม่น้อยหน้าประเทศใดๆในโลก   ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดอรรถรสในการชมภ่าพยนตร์ที่สูงสุด เมื่อพัฒนา สินค้าและบริการให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพแล้ว เราเชื่อมั่นว่า จะสามารถนำพาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศขยายตัวได้มากขึ้นเมื่อคนดูหนังมากขึ้น ผู้ผลิตภาพยนตร์ก็จะมีกำลังใจในการผลิตภาพยนตร์มากขึ้น อีกทั้ง เมื่อเทียบกับ คุณภาพและบริการของโรงภาพยนตร์ในเมืองไทยที่ได้รับ กับ ราคาบัตรชมภาพยนตร์ทั่วโลก ถือได้ว่า การชมภาพยนตร์ภายในโรงภาพยนตร์ในเมืองไทย ถือ เป็นอีกหนึ่งความบันเทิงของคนเมือง ที่หาเสพได้ใกล้ตัวและคุ้มค่าจริงๆ จากคุณ : Operation Support เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:27:36

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณสำหรับคำชี้แจงจากเมเจอร์ จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ขึ้นราคา แต่อยากให้ขึ้นเป็นเรื่องๆไปได้ไหม หนังใหญ่ค่อยขึ้น เพราะเป็นคนดูหนังบ่อย สัปดาห์ละ 2 เรื่อง เพิ่มมาอีก 40 บาท ก็อาจทำให้ต้องตัดใจไม่กินป๊อบคอร์นชีสของโปรดอ่ะ จากคุณ : เสื้อผ้าใบปอ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:55:28

ความคิดเห็นที่ 86 พนักงาน Box office ไม่ได้ขายตั๋วเป็นทุกคน เพราะมีแผนกย่อยเป็นแผนก pre sale ขายพวกบัตร m cash กับตั๋วล่วงหน้า ยืนหน้า showtime และก็มีแผนก บัตร m gen อีก เรื่องขายบัตร m cash นั้นอย่าว่าแต่มาเสนอขายตามแถวที่รอเลยค่ะ พนักงานขายตั๋วยังโดนผู้จัดการสั่งมาให้ขายให้ได้อย่างต่ำคนละสองใบ โดยเสนอขายช่วงที่ลูกค้ากำลังเลือกที่นั่ง ต้องพยายามหว่านล้อมให้ได้ จากคุณ : annabet เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:58:52

ความคิดเห็นที่ 87 เราคิดว่าเรื่องปรับราคามันก็ปกติโลก ก็ลองไปใช้บริการอีกที่ ที่ตั๋วถูกกว่าดิ (ถูกกว่าบางเรื่อง) บวกค่าเดินทาง ไม่คุ้มอย่างแรง แล้วเหนื่อยด้วยถ้าพวกบ้านไกลจะเข้ามาในเมืองก็ อ่ะนะ มันได้ไม่คุ้มเสีย จากคุณ : สวยสุดแดนสยาม เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:59:47

ความคิดเห็นที่ 88 เคยซื้อของที่ propaganda ปะ ที่เขี่ยบุหรี่ โครตธรรมดาแต่ราคา ก็เอาเรื่องอยู่ ทำไมยังซื้อกันอยู่ ของแบบนี้มันอยู่ที่ความพึงพอใจ เราเสพในอารมณ์ เราไม่ได้เสียเงินไปกับของพวกนี้บ่อย ๆ แต่เรายอมที่จะเสียเงิน เพราะ สิ่งที่ได้มามันคือความสุข โรงหนังก็เหมือนกัน เค้าจะทำให้คุณดูหนัง 50 บาท / เรื่อง ทุกวันก็ได้ (แต่เก้าอี้ เหล็ก , เหม็นฉี่ , หนูวิ่งผ่านใต้ขา , แมลงสาป มานั่งดูเป็นเพื่อน) มันขึ้นอยู่ที่คุณ ทั้งนั้น เงินมันอยู่ในกระเป๋าคุณๆ ขามันก็ของคุณ ถ้าขาคุณไม่เก้า มือคุณไม่ควักตัง รับรอง โรงหนังเหล่านี้เอาเงินคุณไม่ได้แน่ๆ จากคุณ : เคมีคอลสื่อรัก เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:03:38

ความคิดเห็นที่ 89 เออ ด่ากันเข้าไป เห็นหลายกระทู้ละ แต่สุดท้ายก็ไปดู !! แล้วมาด่าต่อ xxxxxxxxx ตั้งกระทู้เพื่อ xxxx จากคุณ : เจ้าชายลูกบ๊วย เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:07:16

ความคิดเห็นที่ 90 ใช้เครือ SF ประจำ ขอบ่นว่าโฆษณามหาโหดเหมือนกันค่ะ บางตัวดูจนท่องได้ขึ้นใจแล้ว เคยจับเวลาบางเรื่องตั้ง 30 นาทีกว่าจะฉาย  ถ้าเป็นหนังตัวอย่างจะไม่ว่าเลย  เสียดายตังค์ไม่เท่าไหร่ แต่เสียเวลาและเบื่อมากๆ กดเปลี่ยนช่องก็ไม่ได้ บางครั้งก็อยากเปลี่ยนโรงอยู่เหมือนกันแต่ติดที่ความสะดวกของระยะทางค่ะ สิ่งที่ทำได้คือก็ไปดูมันนั่นแหละ แต่ขอบ่นดังๆ หน่อยได้ไหม เผื่อจะมีใครนำพา อันนี้ขอตอบความรู้สึกแทนที่หลายๆ คห. บอกว่าทำไมไม่ไปดูโรงอื่นนะคะ จากคุณ : liverpoolitis เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:28:48

ความคิดเห็นที่ 91 #84 แน่ใจเหรอครับว่า พัฒนา ? ถ้าพัฒนาจริงๆ ทำไมมีแต่คนบ่นคนด่าล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ ตลาดผูกขาด คงไ่ม่มีกำไรมหาศาลขนาดนี้ ตอนนี้ผมเลิกดูเครือนี้ไปแล้ว ดูแต่ SF ปล. ที่บอกว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยนั่น ผมก็เห็นด้วยนะ แต่มันจำเป็นต้องหาความบันเทิงให้ตัวเองเพื่อคลายความเครียดจากการเรียน หรือจากการทำงาน จากคุณ : Nice_Neeteen เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:40:08

ความคิดเห็นที่ 92 การค้าเสรีเน้อ.... ยังมีคนไปดู  ก็แสดงว่ามีคนยังจ่ายได้ ทุกคนเลือกบริโภคได้นิครับ ผมเอง  ถ้าจะดูหนังตอนไหน  เมเจอร์เป็นตัวเลือกสุดท้าย จะดูต่อเมื่อแถวนั้นไม่มีโรงอื่น จากคุณ : Septu เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:06:58

ความคิดเห็นที่ 93 ขออนุญาตเอาคำชี้แจงจากเมเจอรืไปแตกประเด็น เพื่อถือเป็นช่องทางให้เมเจอร์ได้ชี้แจง ส่วนสมาชิกคิดยังไง ก็เสรีนะครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:54:11

ความคิดเห็นที่ 94 ขอลงชื้อด้วยคนค่ะ  ปกติชอบดูหนังมาก แต่ไม่ชอบเคลือเมเจอร์แต่ที่บ้าน มีแต่เคลือนี้ เซ็งเลยค่ะ ถ้าไม่อยาก ดูจริงก็ไม่ดูค่ะ เบื่อมาก จากคุณ : june_ju เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:14:59

ความคิดเห็นที่ 95 555 ตกลงจะชี้แจงให้ผมเข้าใจว่า  ผมต้องจ่ายค่าตั๋วชดเชยแทนไอ้พวกเกรียนๆเด็กพฤติกรรมแย่แย่ มาเป้นกลุ่มๆเสียงดังๆ  เข้าโรง เดินเสียงกดังกระแทกเบาะงั้นเหรอครับ ไม่รูว่านี้ใช่ทางเมเจอร์มาชี้แจงหรือเปล่าแต่ห่วยครับ ตอนแรกผมก้คิดเช่นนั้นอ่ะนะ แต่ไม่คิดว่าคุณจะมาชี้แจงแบบนั้น จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:38:59

ความคิดเห็นที่ 96 กดโหวตแรงๆ 1 ที อันที่จริงอยากให้กีบจขกท.ด้วยนะเนี่ย จากคุณ : ปู่ Bob เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:22:51

ความคิดเห็นที่ 97 เลิกดูหนังในเครือเมเจอร์กันดีกว่าค่ะ  มาช่วยกัน เค้าจะได้ปรับปรุงเสียที ถ้ายังมีคนอุดหนุนอยู่ ก็ยังจะเอาเปรียบอยู่เรื่อยไป ต้องเลิกค่ะ จากคุณ : sweetgirl_someone เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:39:54

ความคิดเห็นที่ 98 ไม่เห็นตอบเลยว่า ทำไมช่องขายตั๋วมีหลายช่องแต่เปิดใช้มีพนักงานขาย 2 ช่องบ้าง 3 ช่องบ้าง ที่เหลือให้ต่อแถวนานๆ และมีพนักงานมาพูดให้ซื้อบัตร m-card ได้สะดวกอย่างนู้นอย่างนี้ เซงมาก จากคุณ : Souless เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:54:14

ความคิดเห็นที่ 99 ไม่เห็นด้วยตรง ทำไมต้องลากหรือโยนความผิดให้คนที่เค้าไม่เดือดร้อนด้วยอ่ะคับ ผมคนนึงอ่ะที่ดูภาพยนตร์ประจำ โดยดูทั้งSF,Major และผมก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนหรือรู้สึกโดนเอาเปรียบเลย ของอย่างงี้ ขึ้นอยู่กับว่ารับข้อตกลงของผู้ผู้ขายหรือผู้ให้บริการได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ก็ไม่เลือกใช้บริการหรือไปใช้เจ้าอื่น สังคมทุนนิยมก็อย่างงี้แหละคับ เป็นการตกลงกันเองระหว่างผู้ให้บริการกับผู้บริโภค ไม่ใช่ไปโยนความผิดให้ผู้บริโภคคนอื่นที่เค้ายอมรับข้อตกลงได้ ตัวอย่างเช่นร้ไปโทษคนซื้อทองร้านcartier(ซึ่งขายแพงกว่าราคาทองคำปกติมากและเป็นทอง24k) ว่าทำให้cartierขายทองแพง มันไม่ใช่อ่ะคับ ทำไมไม่ไปซื้อร้านอื่น หรือเลือกที่จะไม่ซื้อ เพราะสุดท้ายแล้วของเหล่านี้นั้นล้วนเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย คือมีใช้ก็ดี แต่ไม่มีก็ไม่จำเป็น ไม่ใช่ยารักษาโรค ปล.ที่โดนเอาเปรียบจริงๆอ่ะคือประกันสังคม มีแต่ใช้รักษาอะไรแทบไม่ได้ อันนั้นเค้าเรียกมัดมือชกจริงๆ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 23:59:11 จากคุณ : edc (sneaker_p) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:58:32

ความคิดเห็นที่ 100 เมื่อวานนี้ (วันพุธ) ที่ผ่านมา ผมแวะไป Majorรัชโยธินมาครับ (ไม่ได้ไปดูหนังนะครับ แวะไปเดินเล่น) ช่วง 5 โมงเย็นที่ผมไป ซึ่งปรกติคนจะเยอะมากๆ เยอะแบบหนาตาเลยทีเดียว แต่ผมก็แอบสงสัยนะครับ ทำไมคนบางลงไปถนัดตา ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่คนจะเยอะแล้ว.. หลังจากนั้นผมก็ไปที่ The mall งามวงศ์วาน ซึ่งมีโรงหนัง SF ที่ผมชอบเข้าไปดูประจำ เนื่องจากคนน้อย และโฆษณากินเวลาไม่นาน ไม่ต้องต่อคิวยาวๆ ค่าตั๋วถูก ค่า่อาหารถูกกว่า major ซึ่งปรากฎว่าเมื่อวานนี้ทำผมตกใจมาก เพราะ SF คนดูหนาแน่นกว่าปรกติ ไม่รู้ว่ามากันจากไหน แต่พอผมเข้าไปอ่านเว็ป Pantip เมื่อวานตอนกลางคืน และมาเห็น Fanpageนี้ ก็พอเข้าใจได้ในทันทีเลยครับ นี่แหละครับพลังของพวกเราชาวNetทุกท่าน สู้ต่อไปนะครับ ^_^ จากคุณ : ohm_hacker เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:45:34

ความคิดเห็นที่ 101 ไม่ดูเมเจอร์มาสักพักแล้วค่ะ เหตุผลหลักที่เราไม่ดูเมเจอร์มี 2 ข้อ ปกติเราดูที่โรงเมเจอร์รัชโย แต่หลังจากเมเจอร์ได้เริ่มเก็บค่าจอดรถประมาณว่าดูหนัง 1 เรื่องไปแบบไม่กินข้าว ไปถึงซื้อตั๋วก็ดูเลยก็ยังเสียค่าจอดรถ อีกอย่างเคยไปดูหนังวันพุธ ช่วงที่ราคามัน 60 บาท นานและ พอไปถึงเค้า เตอร์ซื้อตั๋วกลับเจอราคา120 บาท ก็อึ้งนะแต่วันนั้นไหนๆก็มาแล้ว เลยซื้อไป ตอนนั้นเสียเซฟล์ ผิดหวังสุดละ กะว่าจะดูหนังถูกๆ ประหยัดเงิน กลับต้องมาจ่ายแบบวันธรรมดา แถมวันพุธหาที่จอดรถยากมาก คนอื่นก็คงคิดเหมือนกัน เลยแห่มาดูวันพุธ หารู้ไม่คุณถูกหลอกให้มาแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนไปดู SFเดอะมอลงาม SFเซ็นทัลรามอินทราละ ถึงวันพุธจะ 80และ แต่สบายใจกว่า ขออย่างเดียว SF อย่าเพิ้งขึ้นตั๋ววันพุธเป็น 100 ละกัน ช่วยกันแบนไม่ไปดูหนังในเครือ เมเจอร์,EGV กันเถอะ หรือใครอยากโดนเอาเปรียบ ก็ไปช่วยอุดหนุนคนหน้าเลือดซะ เพราะ เงินคุณไม่ใช่เงินเรา จากคุณ : ซมิเซอร์ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 03:36:54

ความคิดเห็นที่ 102 แค่สงสัยนะคะ เรื่องแบบนี้  ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ยุติธรรม ทำไมไม่ฟ้อง สคบ คะ เป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง ถ้าเราคิดว่าถูกเอาเปรียบ น่าสงสารคนที่มาเป็นรัฐบาลไทยค่ะ   ประชาชนเรียกร้องเยอะเหลือเกินค่ะ  หน่วยงานมีก้อไปร้องเรียนเป็นเรื่องเป็นราวตามขั้นตอนที่เค้ามี     ปัญหาประเทศมีเยอะมาก  ปากท้องเอย ปรองดองเอย  หมูแพง ไข่แพง น้ำมันขึ้นราคา  ยาเสพติดอีก โจรใต้   ไม่ได้มาม่านะคะ จากคุณ : โก๊ะโต เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:41:24

ความคิดเห็นที่ 103 พยายามไม่ดูเมเจอร์ ดูsf+apex ซื้อน้ำ+ขนม จากวัตสัน บู๊ทเข้าไปกิน ใครจะบ้าห้ามก็ห้ามไปสิทธิ์กรู ถ้าหนังมีแต่โรงเมเจอร์ ก็จะซื้อแผ่นผี 70บาทดูที่บ้าน ------ ช่วยๆกันงดจ่ายเงินให้เมเจอร์ ซัก1-2 เดือน ให้ยอดวูบซัก70% เดี๋ยวมันก็มาเลียตีนลูกค้าเอง จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:30:07

ความคิดเห็นที่ 104 ที่คุณ Operation Support ตอบมาก็มีข้อที่รับได้และเข้าใจได้อยู่ในบางเรื่อง แต่ไม่เห็นความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องของการดูหนังโฆษณานานเกินไป ทำไมไม่ลองปรับแก้ให้เวลารอหนังต่ำกว่า 25 นาที เพราะบางครั้งเวลาโฆษณาที่นานเกินไปก็มีผลทำให้หนังเลิกดึกเกินไป คนจะต้องทำงานวันรุ่งขึ้นก็กลับบ้านช้าหรือเสียโอกาสดู   และก็ทำให้คนที่มาก่อนต้องรู้สึกถูกเอาเปรียบมากเกินไป ถ้าลองเปลี่ยนเป็นโฆษณาบริเวณด้านนอกโรง ตอนที่รอหนัง หรือในจอทีวีด้านนอก หรือตามภาชนะอาหารของเมเจอร์เป็นการกระจายโฆษณากันไป จะได้ไม๊ครับ เรื่องที่จอดรถ คนที่ไปดูโรงเมเจอร์ stand alone คงรู้สึกว่าเรามาเพื่อดูหนังอย่างเดียว  ของก็ไม่ค่อยมีให้ช๊อบ ส่วนร้านที่มาเช่าที่คุณๆก็ได้ค่าเช่า  แต่กลับต้องมาเสียค่าที่จอดรถอีก  ทั้งๆที่ดูหนังในห้าง ไม่ต้องเสียค่าจอดแถมได้เลือกซื้อของ ทำกิจกรรมอื่นๆด้วย  ห้างหลายๆห้างเค้าก็ใช้วิธีจอดไม่เกินสอง-สามชั่วโมง สามารถจอดได้ฟรี แต่เมเจอร์ประทับตราแล้วยังต้องเสียเงินอีก มันดูไม่ยุติธรรมสำหรับผู้บริโภคของเมเจอร์ที่ดูหนังในห้าง กับดูหนังในตึกเมเจอร์ครับ บัตรตู้อัตโนมัติ เป็นอะไรที่ผมจะไม่ซื้อเด็ดขาด เพราะผมเคยรู้สึกแบบคนที่ยืนต่อแถว แล้วเหมือนถูกแซงคิว  ในตอนนั้นบัตรแทนเงินสดเป็นอะไรที่ sad สุดๆ  ซื้อแล้วมายกเลิก ทั้งที่ยังมีเงินเหลือมันโกงกันหน้าด้าน   ผมไม่ยอมซื้อบัตรตู้อัตโนมัติเพราะผมไม่อยากข้ามหัวใครที่ต่อแถว อย่างที่ผมเคยรู้สึกมาแล้ว   ความรู้สึกผมเหมือนบางท่านที่บอกว่า มีแถวตั้งมากมาย แต่แบ่งสิทธิ์คนเข้าคิว  แล้วบางช่องก็ไม่มีพนักงาน  ทั้งๆที่คุณก็รวยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ทำไมไม่ลงทุนจ้างพนักงานมาให้เต็มครับ  เอากำลังไปตรวจกระเป๋า หรือบางทีก็เดินเตร็ดเตร่ตามหน้าโรงหมดหรือเปล่าครับ   ถ้าจะสร้างมาตรฐาน ก็ควรจะทำให้แถวและเวลาที่จองสั้นลง  มีเมตตาธรรมกันมากขึ้น (ต้องสั่งสอนพนักงานมีมาตรฐานจริยธรรมในการเห็นใจลูกค้า) ถึงจะเรียกได้ว่าสร้างมาตรฐานให้ทัดเทียมนานาชาติครับ   นอกจากนี้บัตรสะสมแสตมป์ก็ต้องจ่ายเงินเกือบพัน กว่าจะได้ป๊อบคอร์นขนาดเล็ก อั้นรออีกนิดนึงพอจะได้ตั้วหนังก็มาหมดโปร อันนี้อย่ามาจัดโปรซะยังดีกว่าครับ สิ่งที่ผมรับไม่ได้คือหนังเก่าที่ควรจะราคาถูกลง  กลับถูกเอาไปไว้ที่โรงแพงๆ อัพราคาเป็นสองสามร้อย  จอเล็ก แล้วอ้างว่าโรงสะดวกสบายกว่า เห็นแล้วยิ่งไม่อยากกลับมาที่นี่อีกเลยครับ จากคุณ : พันทองทิพย์ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 12:31:25

ความคิดเห็นที่ 105 เคยหลงซื้อบัตรดูหนังเก็บพ้อยนต์อะไรสักอย่างของเครือเมเจอร์เมื่อประมาณเกือบสิบปีที่แล้ว ผมก็ดูไปเยอะพอสมควรเพื่อแลกกับแต้มที่สะสมไว้ทำไมก็ไม่รู้ แต่จู่ๆก็ยกเลิกหน้าตาเฉย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยดูหนังในเครือเมเจอร์อีกเลยครับ จากคุณ : ที่เย็บกระดาษคุง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 13:57:49

ความคิดเห็นที่ 106 ภาพยนตร์นับเป็นบันเทิงที่ราคาถูกกว่าอย่างอื่นมาแต่ไหนแต่ไร  แต่ยุคนี้ดูท่าจะไม่ใช่ซะแล้ว  มันก็คงเป็นอย่างที่หลายคนพูดถึงธุรกิจผูกขาดที่มีอยู่แค่สองเจ้าใหญ่  ผู้บริโภคแทบไม่มีโอกาสเลือก   จริงๆ สคบ.ควรจะเข้ามาเอาใจใส่ได้แล้ว  การทำธุรกิจชนิดที่ขึ้นราคาเอาตามอำเภอใจ เมื่อไรก็ได้นั้น ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค  กรณีเคเบิลทีวีก็เช่นกัน  เดี๋ยวนี้มีโฆษณาได้อีก  แต่ก็ไม่เคยคิดจะลดราคาค่าบริการ มีแต่ขึ้นเอาๆ หรือมองอีกมุมหนึ่ง สงสัยเป็นแคมเปญสนับสนุนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อแผ่นผี กับโหลตบิต 555 จากคุณ : Bkkbear เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 14:25:57

ความคิดเห็นที่ 107 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องบัตรที่ซื้อที่ตู้ เพราะตอนซื้อพนักงานบอกอย่างนึง ถึงเวลาจะเอาเงินออก อ้าวเอาคืนไม่ได้เติมได้อย่างเดียว แถมเก็บค่าบัตรไปด้วย จากคุณ : serendipitygal (serendipitygal) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 16:25:50

ความคิดเห็นที่ 108 ผมไปดู fast furious 5 (ตรงข้าม Cen ปิ่น) รอบ 2 ทุ่มกว่า รอดูอย่างใจจดใจจ่อ .... พอหนังฉาย ~ พบว่า ภาพมันเบลอๆและใหญ่กว่าปกติ Sub ก็หาย + จิกแขนตัวเองแรงๆ1 ครั้ง + + เจ็บนี่หว่า แล้วทำไมเหมือนดูหนังซูม ที่บ้านเลยวะเนี่ย 555 + นั่งดูไปสักพัก คิดว่าเดี๋ยวก็คงดีขึ้น แต่แล้วกลับเหมือนเดิม .... เริ่มมีคนทยอยเดินออก แจ้ง พนง. >> ขอให้ปรับภาพ ให้เป็นปกติ ฉายแบบนี้มันดูไม่ได้เลย พนง. ตอบว่า ถ้าฉายใหม่ ก็จะทำให้รอบถัดๆไปหนังฉายไม่ตรงเวลา และแล้วไม่นานก็ฉายใหม่ โอเคภาพดีกว่าเดิม แต่ด้านซ้าย หายไป ก็ได้แต่เซ็ง ดูจนจบ แบบเซ็ง ~ เลยต้องซื้อหนังแผ่นดู ซ้ำอีกรอบ มันกว่าอีก ~ จากคุณ : nopporn_hr เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 17:16:13

ความคิดเห็นที่ 109 โหวต ไม่ดู จากคุณ : chaolove เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 21:07:49

ความคิดเห็นที่ 110 คนที่บอกว่ายังมีคนที่ไม่เดือดร้อน แปลว่าเมเจอร์ทำได้ มันไม่เกี่ยวกับการเดือดร้อนไม่เดือดร้อนครับ มันอยู่ที่ว่าเราซื้อตั๋วไปดูหนังไม่ได้ดูโฆษณาครับ เรื่องอื่นไม่มีกฎหมายบังคับชัดเจนก็ว่ากันไปแต่ตรงนี้มันมีนี่ว่าไม่ให้เกิน 15 นาที จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 21:57:59

ความคิดเห็นที่ 111 เห็นด้วยกับข้อ 4 ที่สุดเลยค่ะ เวลาไปใช้บริการ ก็ดูหนัง ทานข้าว ทานไอติม ไปอยู่ทีหลาย ชม แต่เวลาปั้มบัตร นี่ให้ปั้มมากสุดได้แค่ สาม ชม ถ้าเกินกว่านี้ต้องจ่ายตังค์ เซ็งจริงๆ จากคุณ : pudped เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 22:38:00

ความคิดเห็นที่ 112 เขากำลังต้องการความร่วมมือ เพื่อประโยชน์แก่ผู้บริโภคทุกๆคน ..แต่บางคน มือไม่พาย ยังเอาส้นตรีนราน้ำ น่ารังเกียจจริงๆ ถ้าเกิดเขาช่วยกันจนตั๋วมันลดราคาไปด้วย ขอให้คนพวกนี้ จ่ายตั๋วหนังในราคา เกือบ 200 แบบเดิมด้วยนะ จากคุณ : Kill11by1pass เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 23:34:37

ความคิดเห็นที่ 113 เห็นด้วยทุกข้อ โหวตให้ค่ะ จากคุณ : the pretty pill เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:30:15

ความคิดเห็นที่ 114 ^ ^ ^ ตกลงคนที่เค้าไม่เดือดร้อนนี้เค้าผิดใช่มั้ยเนื่ย(โกรธโรงหนังก็ด่าโรงหนังดิ มาโกรธคนอื่นแล้วตั่วหนังจะถูกลงมั้ย) ซื้อตั่วหนัง200บาทได้นี่กลายเป็นคนน่ารังเกียจไปซะอย่างงั้น ความคิดคนสมัยนี้น่ากลัวจริงๆ คนที่คิดต่างกลายเป็นศัตรุอย่างเดียว เราอยู่ในประเทศเสรีนิยมน่ะคับ สามารถคิดต่างกันได้ และสามารถเลือกรับบริโภคได้อย่างเสรี(ถ้าสิ่งนั้นไม่ผิดกฎหมาย) ปล.จะขอความร่วมมือ ก็ไม่ได้ไปห้ามหรือไปขัดแข้งขัดขาสักนิดเลยน่ะ แต่แค่ไม่ชอบใจที่ทำไมต้องไปว่าคนที่เค้าไม่ได้เดือดร้อนว่าเป็นเหตุที่ทำให้ตั่วแพง จากคุณ : edc (sneaker_p) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 01:41:23