ความคิดเห็นที่ 1 ผม  โพสต์ไฟล์วีดิโอไม่ติดครับ  มาลองโพสต์ใหม่ จากคุณ : Take me drunk! เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:54:04

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคุยกันประเด็นนี้ ในห้องนี้ เกรงว่า คงไม่มีใครตัดสินได้ เพราะมันอยู่ที่นโยบายของสถาบันการศึกษาและทางความเห็นของผู้บริหารด้านกิจกรรมนิสิตนักศึกษา และรวมถึงทางนักศึกษา ต้องคุยหลายๆฝ่าย เห็นควร หรือไม่ควรอย่างไร เพราะประเด็นนี้ มีการพูดคุยกันมาทุกปี บางปีก็หนัก บางปีก็เบา ไม่เคยได้ข้อสรุปอะไร นอกจาก ระบบนี้ มีทั้งดี และไม่ดี อยู่ทีคนนำมาใช้มากกว่าว่าจะนำระบบนี้ไปใช้ในลักษณะอย่างไร  ถ้ายังถกกันในนี้ คงไม่จบแน่นอน ที่สำคัญมันไม่เกี่ยวกับห้องเฉลิมไทยอีกด้วยนะ เดี๋ยวตำรวจพันทิปจะมาปักป้ายไล่ไปห้องนอกเรื่อง หรือนอกจักรวาลแน่นอน จากคุณ : Jitara เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 02:35:37

ความคิดเห็นที่ 3 ผิดห้องค่ะ.. ผิดแบบไม่รู้จะช่วยแถยังงัยเลย อิๆ ส่วนเรื่องรับน้องแบบว้ากๆ สำหรับเรามันล้าหลังมาก และปลูกฝังค่านิยมผิดๆให้กับสังคมไทยค่ะ ไม่อยากอธิบายมาก คิดว่ากท. คงจะถูกลบ เลยขี้เกียจพิมพ์  อิๆๆ จากคุณ : babyroo talk เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 02:50:32

ความคิดเห็นที่ 4 เ่อ่อ.... ไม่เห็นอะไรในคลิปวีดีโอ   นอกจากการประท้วง และ คนประท้วงถูกคนทั้งหมดโห่เอา ไม่รู้ว่าโซตัสที่คนทำคลิปอยากบอก คืออะไร เป็นโซตัสแง่ลบ หรือไอเดียล มีโยนบก ถีบ ทำร้ายร่างกายด้วยหรือเปล่า พวกที่เห็นนอนเป็นลมนี่ ยืนยันว่าถูกทำร้ายร่างกายหรือเหนื่อยเป็นลม ที่เห็นหมอบๆ คลานๆเสื้อดำก็ดูเหมือนเป็นพวกว้ากเกอร์มากกว่า และการไหว้มันแย่มากหรือ และเป็นโซตัสยังไง จากคุณ : มายาทาส เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 02:53:24

ความคิดเห็นที่ 5 O.K.  ผมดูคลิปไม่จบนะครับ แต่พอจะเข้าใขสถานการณ์  มมส. ใช่ไหมครับ  ไม่ใช่ มนส.นะครับ ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ^^ ผมไม่รู้นะครับว่าที่อื่นจะมีการรับน้องอย่างไร แต่เชื่อว่าทุกวันนี้ความรุนแรงคงลดลงเรื่อยๆ ผมเรียนที่ ม.ขอนแก่นครับ  การร้องเพลงเชียร์สถาบันและกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ นั้นมีมายาวนานหลายต่อหลายรุ่น ผมว่าเป็นกิจกรรมที่ดีนะครับ จากภาพเหตุการณ์ในคลิปข้างต้น เข้าใจว่าเป็นการร้องเพลงประจำสถาบัน ที่ ม.ขอนแก่นก็มีครับ แต่คิดว่าใหญ่กว่านี้ เพราะมีนักศึกษาปีหนึ่งเข้าร่วม อย่างน้อยนะจะ 98% เลยทีเดียว ภาพที่สื่อให้เห็นของ มข.ผมว่าไม่ได้รุนแรงหรือร้ายแรงเลยนะครับ ใช้จิตวิทยาล้วนๆ ( และ การเข้าไปทำร้าย หรือประท้วงรุ่นพี่ในคลิปผมว่าเข้าถึงได้ง่ายจัง) ที่มข. จะอยู่คนละฝั่งสนามฟุตบอล แน่ละครับ มีวิ่งมาประท้วงหรือ หมายจะทำร้ายประธานเชียร์ก็มี แต่กว่าจะวิ่งข้ามสนาม ไหนจะผ่านการ์ด อีก ใช้เวลาพอสมควรครับ ส่วนเรื่อง การโห่ของพี่ๆ ในเรื่องการร้องเพลงนั้น ผมว่าไม่ได้โห่เอาสะใจเลยนะครับ เป็นการใช้จิตวิทยากระตุ้นให้น้องร้องเพลงเพื่อความสามัคคี อีกด้วย แม้บ้างคำ อาจดูไม่เพราะหูแถมจิกกัด แต่เต็มไปด้วยความหวังดีที่แฝงจิตวิทยา ให้รักสถาบัน ให้สามัคคี  ให้เคารพรุ่นพี่ ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อจบออกไป ทำงานยังไงก็ต้องเคารพรุ่นพี่อยู่ดี ถึงแม้จะบอกว่า เหมือนบังคับไม่ให้ตัดสินใจเอง แต่ ผมว่ายังไงมันก็เป็นมารยาทที่ต้องเคารพรุ่นพี่ (เช่นการไหว้ครับ) ในคลิป ระยะห่างระหว่างประธานเชียร์กับน้องใหม่ ใกล้เกินไปนะครับ หากมีน้องหมายเข้ามาทำร้ายด้วยอารมณ์โกรธ ผมว่า เสี่ยงอันตรายนะครับ การรับน้องของ มข. 4-5 วันแรก มีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์พี่กับน้องร่มทำกิจกรรม ฝึกร้องเพลง เล่นเกมส์  โดยพี่เลี้ยงน้องใหม่(ไม่มีความรุ่นแรง แถมยังเอาใจใส่น้องเป็นอย่างดี) และสองวันสุดท้ายจะเป็นการพิสูจน์รุ่น โดยการร้องเพลงเชียร์สถาบัน อาจโดนกดดันจากประธานเชียร์และรุ่นพี่ อันนี้ เป็นลม หรือ ร้องไห้ ก็ มีบ้าง แต่ยังไงก็ไม่มีความรุนแรง  และท้ายที่สุดยังไง วันสุดท้ายก็ได้รุ่นอยู่ดี และหลังจาก ได้รุ่น ร้องเพลงเชียร์ผ่าน มีการบายศรีสู่ขวัญ ให้น้องๆ อีกด้วย ผมว่าค่อนข้างดี ที่พิมพ์มาทั้งหมดไม่ได้ อวดอ้างสถาบันว่าดีกว่าหรืออย่างไร แต่เพียงบอกให้รู้ถึงกิจกรรมการรับน้องของ มข. ที่อื่นผมไม่รู้เป็นอย่างไร แต่ผมว่า ยังไง การรับน้องที่ไม่มีความรุนแรง ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ดีในหลายๆด้าน นะครับ ป.ล. อาจงงๆ หน่อยขอโทษด้วยละกันนะครับ   ป.ล.2  อาจอธิบายได้ไม่หมด แต่หากมีข้อสงสัย หรือคำถามๆ มาได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาตอบ  วันนี้ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้เรียนเช้าครับ ถ้ามีคำถามจะกลับมาตอบครับ แว๊กกกกก  เพิ่งเห็น ในคลิปมีเพื่อนเราด้วย คนใส่แว่นตาอ่า  5555  ไม่เจอกันนานหลัง จบ ม.6   แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 03:02:59 แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 02:56:39 จากคุณ : ข้างหลังบ้าน เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 02:54:29

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าถึงขนาดต้องมีการตั้งการ์ด วางพื้นที่คั่นเพื่อป้องกันการเข้ามาทำร้ายรุ่นพี่นี่ ทำไมไม่เปลี่ยนมาใช้วิธีที่มันไม่ต้องมีความขัดแย้งล่ะครับ ทุกวันนี้ผมว่าการรับน้องใช้ระบบ SOTUS กันผิดๆ ให้มีลำบากกันบ้างน่ะไม่แปลกหรอก มันเป็นการสร้างความลำบากให้น้องร่วมใจกัน ไม่ใช่ให้ลำบากกันจนน้องเดินไม่ไหว หมดแรง เป็นลม อันนี้มันเข้าขั้นทรมานกันแล้ว แถมพฤติกรรมที่ดูถูกรุ่นน้องบางอย่าง เช่น ให้รุ่นน้องกราบเท้าเพื่อจะให้ลายเซ็นต์อะไรเนี่ย ผมว่ามันโคตรจะไร้สาระเลยครับ แต่ก็เห็นบางที่ยังมีอยู่ สมัยผม ผมบอกเลยว่า ไม่จำเป็นต้องยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกครั้งที่เจอ อายุห่างกันแค่ 1-2 ปี ไม่จำเป็นต้องไหว้ เราอยู่กันแบบพี่น้อง เพียงแค่ทักทายธรรมดาก็พอ แต่ขอให้แฝงไว้ด้วยความเคารพในตัวรุ่นพี่ก็เพียงพอแล้ว การรับน้องก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของกิจกรรมเท่านั้น ทำได้แค่ขอความร่วมมือกับรุ่นน้อง ไม่ได้บังคับ ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การรับน้อง คือการรวมหัวกันเพื่อคิดอยากจะแกล้งน้อง คิดว่ารุ่นน้องคือคนที่ตนเองจะกดขี่ข่มเหงได้ หรือเป็นเจ้าชีวิตได้ แค่การทำตามไม่ได้ตามอุดมคติของรุ่นพี่ที่ตั้งไวจะต้องถึงกับไล่ให้ไปเรียนใหม่ สมัครใหม่ แถมบางที่แทบจะเรียกว่าบอยคอตคนบางกลุ่มที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องเลยด้วยซ้ำ พิมพ์ไปซะยาว ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะได้อยู่ยาวแค่ไหนเหมือนกัน 555 จากคุณ : หมูกระเทียม+ไข่ดาว เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 04:11:33

ความคิดเห็นที่ 7 วันที่เป็นรุ่นน้อง คิดยังไงกับการกระทำของรุ่นพี่ .... แล้วพอวันที่เป็นรุ่นพี่ คิดยังไงที่ทำแบบนั้นกับรุ่นน้อง .... จากคุณ : girl1968 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 06:19:33

ความคิดเห็นที่ 8 โคตรไร้สาระ ไม่เห็นจำเป็นต้องว๊ากหรือบังคับกันเลย พาน้องเที่ยวหรือทำกิจกรรมร่วมกันดีๆ ทำตัวน่าเคารพ น้องก็รักก็เชื่อฟังแล้ว จากคุณ : แวงใต้ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 07:07:54

ความคิดเห็นที่ 9 เลิกเถอะ ระบบนี้ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 07:17:13

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นอดีตนิสิตที่กล้าพูดได้เต็มปากว่า ผ่านระบบ SOTUS มาอย่างเต็มที่ สำหรับเรานะคะ คนที่ไม่เคยผ่าน มองแต่ภายนอก ไม่ได้สัมผัส ตอบไม่ได้หรอกค่ะ ว่ามันดีหรือไม่ดียังไง มองแต่ว่ามันรุนแรง ทำไมต้องมี แต่บอกได้เลยว่าสิ่งที่ได้มาจาก SOTUS คือ ความอดทน  อดกลั้น ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย ที่สำคัญ SOTUS ทำให้เรารัก และเคารพรุ่นพี่มากก S = Seniority หรือ อาวุโส หมายถึง ความเกรงใจเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน O = Order หรือระเบียบวินัย สิ่งนี้จำเป็นมากในชีวิตที่ต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มในสังคม T = Tradition หรือประเพณี เป็นสิ่งที่เห็นว่าดี ถูกต้องและประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมา U = Unity หรือความสามัคคี คือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน S = Spirit หรือน้ำใจ หมายถึง การมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เกื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จากคุณ : kenobe เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 07:56:40

ความคิดเห็นที่ 11 มันอยู่ที่รุ่นพี่น่าเคารพหรือเปล่า ใจมันบังคับกันไม่ได้ ตอนเรียนผมอยู่หอของวิทยาลัยเป็นชายล้วนเกือบทั้งหมดเป็นคนต่างจังหวัดมาจากทั่วประเทศฐานะก็ไม่ค่อยจะมีตังค์พอๆกัน ก็มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องสืบทอดกันมาา ตามประสาผู้ชายอายุเกือบยี่สิบหรือยี่สิบต้นๆมาอยู่ด้วยกันเป็นร้อย ก็ต้องวีรกรรมวีรเวรอะไรมากมายทั้งดีและไม่ดี คนเราเมื่อได้อยู่กินนอนเรียนหนังสือด้วยกัน เล่นกีฬา กินเหล้าด้วยกันมีเรื่องมีราวกับชาวบ้านเขาบ้าง มันยิ่งกว่าแฟนเสียอีกแทบจะรู้สันดานกันหมดว่าใครเป็นอย่างไร ความผูกพันมันมีเยอะ ทุกวันนี้ก็ห้าสิบกว่ากันแล้วมองย้อนกลับไปผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดี หลายครั้งที่มีญาติพี่น้องหรือคนรู้จัก ไปประสบปัญหาในต่างจังหวัดเช่นรถเสีย หาที่พักไม่ได้กลางค่ำกลางคืนที่ไม่รู้ว่าจะไว้ใจใครได้หรือเปล่า ก็สามารถยกหูไปหาเพื่อนที่อยู่ไกล้เคียงไปช่วยดูแลให้ เพราะมีเพื่อนอยู่ทุกภาคของประเทศ บางทีไม่รู้จักเพราะไม่ทันรุ่นกันแต่เมื่อบอกว่าเป็นรุ่นนั้นรุ่นนี้รู้จักกันเป็นทอดๆไป ก็ทำให้อะไรหลายอย่างมันง่ายขึ้น นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน ขึ้นที่สูงไม่ได้ จากคุณ : walkingtall เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:01:30

ความคิดเห็นที่ 12 SOTUS กับ ประชาธิปไตย เหมือนกันอย่างนึง คือเป็นแนวคิดที่ดี แต่คนไทยเอามาทำเละ จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:02:11

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบ Big C มากกว่า จากคุณ : yatiko เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:03:43

ความคิดเห็นที่ 14 ระบบมันดี แต่การแสดงออกมันกาก เข้าใจมั้ยครับ จากคุณ : คนเดินทาง เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:22:57

ความคิดเห็นที่ 15 ดีไม่ดีอยู่ที่มุมมอง และอยู่ที่การปฏิบัติด้วย เหมือนความเห็นที่ 12 บอกอะค่ะ เราเองผ่าน SOTUS มาแบบเข้มข้น ไม่เห็นพี่เค้าต้องบังคับให้ไหว้เลยอะ ไม่มีแจกลายเซ็นต์ ไม่มีใดๆทั้งสิ้น ไม่มีทำทารุณกรรม เป้นการกดดันกันล้วนๆ จิตวิทยาอย่างเดียว อย่างที่ความเห็นข้างต้นบอก SOTUS เค้ามีความหมายดีๆของเค้า แต่ถ้าเราทำให้เป้นอย่างที่ระบบเค้าจัดไว้ไม่ได้ ทั้งๆที่คนรุ่นก่อนๆ(เกือบยี่สิบปีมาแล้ว) ทำได้ ก็ลบระบบนี้ไปซะ เพราะจะเกิดแต่ความขัดแย้งกันเปล่าๆ ส่วนระบบหนุงหนิงในปัจจุบัน เราก้ไม่รู้ว่าเสริมสามัคคีตรงไหน เสริมวินัยตรงไหน ทำให้รู้จักกันในหมู่พี่น้องได้ดีตรงไหน นอกจากสนุก แต่ไม่รู้ว่าน้องสนุกด้วยไหม พอจบรับน้อง พี่กับน้องรักกันดีไหม อย่าว่าพี่กับน้องเลย กับเพื่อนด้วยกันเองยังไม่รักกันเลย ที่พูดได้เพราะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไม่ได้พูดเองเออเอง จากคุณ : hamnaja เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:23:27

ความคิดเห็นที่ 16 คห.13 SOTUS ไม่ใช่ LOTUS ตึ่งโป๊ะ! จากคุณ : joyka เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:28:06

ความคิดเห็นที่ 17 อิฉัน ผ่านทั้ง มเปิด และ ม.ปิด มา ผ่านการรับน้องไม่ต่ำกว่า 5ครั้ง เป็นพี่รับน้อง 12ครั้ง เป็น วากเกอร์ 3ครั้ง     สรุป ระบบโซตัสไม่ดีจริงๆ  มีดีน้อยกว่า ไม่ดีมาก  หากให้อธิบายคงต้องยาวมากๆเลยแหละ เพราะมันลึกถึงเรื่องระบบ จิตสำนึก สังคม เลยทีเดียว         สนุกน่ะ สนุก(ถ้าทำเป็น) แต่ประโยชน์อื่นล่ะ น้อยมาก         รักกันมากขึ้นมั้ย   น้อยมากอีกเช่นกัน         สนิทกันเร็วขึ้นมั้ย  อืม.....อันนี้ มีผล แต่ สมัยนี้ เด็กกล้าแสดงออก ในทางต่าๆ ในการปฏิสัมพันธ์คนอื่น คงไม่ต้องอาศัย ระบบนี้หร็อก จากคุณ : หนูหงอย เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:36:04

ความคิดเห็นที่ 18 ไร้สาระ... คนมันจะดี มันดีด้วยตัวของมันเองได้ คนมันจะชั่ว ไม่ต้องไปสอนมันก็ชั่ว และเชื่อเหอะ การศึกษาไม่ได้ทำให้จิตใจคนมันดีขึ้น โซตัส ไม่ใช่ศาสนา อย่าเอามารวมกัน... จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:36:57

ความคิดเห็นที่ 19 ผ่าน SOTUS มาทั้ง ร.ร.มัธยม และ มหาวิทยาลัย ระบบนี้ข้อดีก็มีมากครับ ทำให้รุ่นพี่รุ่นน้องรักกันมาก แม้ว่าจะไม่สนิทกันมากเท่าไร แต่พอรู้ว่ามาจากสถาบันเดียวกันก็รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว (เด็กสวนกุหลาบฯ จะมีความรู้สึกแบบนี้จริงๆ) ผมคิดว่า SOTUS ที่ดี ไม่จำเป็นต้องบังคับฝืนใจกัน เช่น การว้าก การตะโกนใส่น้อง เพราะอะไรที่มันเริ่มจากการบังคับ การฝืนใจมันอยู่ได้ไม่นานหรอกครับ (คณะผมที่จุฬาฯ คนที่ยังคิดว่าทำหน้าบึ้งๆ ตะโกนใส่น้องเป็นสิ่งที่ดี เป็นแค่ชนกลุ่มน้อยในคณะแล้ว เพราะมันมีวิธีที่ดีและได้ผลกว่า คือ การทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ร่วมกัน) จากคุณ : ชายชิน เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:53:53

ความคิดเห็นที่ 20 มันแล้วแต่ผู้นำไปใช้ครับ ส่วนตัวเคยผ่านมาได้ด้วยระบบที่ค่อนข้างดีครับ นั่นคืออยู่ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ ไม่มีความรุนแรง ส่วนการว้ากในตอนที่โดนนั้นผมไม่ได้รู้สึกว่าน่ากลัวอะไร เพียงแต่มันทำให้เราตั้งใจฟังมากขึ้นเท่านั้น ผมว่าใคร ๆ ก็น่าจะรู้มั้งว่าเค้าแกล้งว้ากไปงั้น ๆ แหละ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหลุดหัวเราะออกมาได้ก่อนกันซะมากกว่า นั่นคือระบบที่ผมผ่านมา และรู้สึกว่ามันดีครับ จากคุณ : อึนบี เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:58:37

ความคิดเห็นที่ 21 ผ่านระบบนี้มาเหมือนกัน  ถูกบังคับให้ไหว้รุ่นพี่ที่ทำหน้าตาเหยียดหยามเราตลอดเวลา ถูกบังคับให้ไปขอลายเซนต์รุ่นพี่แล้วเจอรุ่นพี่แกล้งสลับตัวกัน  พอผิดก็โดนทำโทษให้ได้อาย  แต่รุ่นพี่ต้นเหตุนั่งหัวเราะกับสิ่งที่เราโดน ถูกบังคับให้นั่งซ้อมเชียร์กลางสายฝน  กลางแดดจ้าในขณะที่รุ่นพี่นั่งอยู่ในร่มสบายใจเฉิบ ถูกบังคับให้ตะโกนร้องเพลง  พอบอกไม่มีเสียงก็บังคับให้ตะโกนอยู่นั่นจนเราหลอดลมอักเสบ ถูกบังคับให้ซ้อมลีดเดอร์โดยยืนแอ่นตัวหันหน้าเข้าพระอาทิตย์เต็มๆ จนตาพร่าไปหมด  แขนไม่สูงตีแขน  แอ่นไม่ได้ตีหลัง  ขาไม่พ้อยท์ตีขา ทำอะไรไม่ได้อย่างใจก็ว้าก  ก็ด่า  และไม่เคยมีกิจกรรมใดๆ ที่ปลอบใจรุ่นน้องอย่างเราเลย พอมีโอกาสได้เป็นรุ่นพี่  จึงบอกกับตัวเองว่าเราจะไม่มีวันเป็นรุ่นพี่แบบที่เราเกลียด   จากคุณ : อนุธิดา เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:23:47

ความคิดเห็นที่ 22 อยู่ที่คนเอาไปใช้จริงๆ แหละครับ เอาไปทำในด้านดีมันก็ดี ผมว่า รุ่นน้องตอนนี้ไม่ชอบอะไรที่พวกรุ่นพี่เค้าทำ วันหนึ่งขึ้นไปเป็นรุ่นพี่ก็อย่าทำแล้วกันครับ จากคุณ : Rami_Y เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:23:54

ความคิดเห็นที่ 23 [บันเทิงวิทยุ-โทรทัศน์] กระทู้ที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นหลักของเฉลิมไทย ยังตั้งในเฉลิมไทยได้ที่กลุ่มกระทู้นอกเรื่องจ้า http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/listerA.php?subgroup=100 จากคุณ : นู๋เองง่ะ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:55:42

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าไม่ดี ระบบนี้คงไม่ยืนยาวมาถึงปัจจุบัน จากคุณ : saisanan เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:15:09

ความคิดเห็นที่ 25 ยกเลิกสิ่งเฮงซวยได้แล้ว จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:24:54

ความคิดเห็นที่ 26 จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวคน ไม่ใช่อ้างว่าระบบไม่ดี ถ้าตอบคำถามว่ารับไปเพื่ออะไร ถ้าตอบสร้างสรรและสานต่อเพื่อสังคม เพื่อประเทศ ไม่ได้ ก็ไม่ควรจะให้มีจัดในบริเวณนั้น การทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามไม่มีคำว่าฟรี รุ่นพี่ทุกคนต้องเสียเงินเสียทอง คนละหลักพัน จัดกิจกรรมรับน้องเพื่อบอกเล่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น และอนาคตที่ต้องสืบทอด ตัวอย่างเด็กสถาปัตย์ งานเขียนแบบ ที่ต้องส่งวันละ 5งาน ถึง 10 งาน ถ้าไม่มีรุ่นน้องมาเป็นลูกมือช่วย ก็เรียกว่าส่งงานไม่ทัน อันนี้ต้องอาศัยบารมีรุ่นพี่  ที่ต้องซื้อใจรุ่นน้อง แล้วต้องสอนเทคนิคเพื่อให้งานเสร็จเร็ว ถ้ารุ่นพี่คนไหนทำไม่เป็น รุ่นน้องไม่เคารพ ต้องปั่นงานคนเดียวถือว่าสาหัสมาก  เวลาจบการศึกษาไป เด็กสถาปัตย์จึงมักจะรักใคร่กลมเกลียว ไม่แพ้ เด็กที่จบจากสาขาวิชาชีพอื่น จากคุณ : archase เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:26:45

ความคิดเห็นที่ 27 อันนั้นไม่ทราบแต่ ทราบเพียงแต่เด็ฏนักศึกษา 99% ส่วนใหญ่จะมารยาททรามต่อผู้ใหญ่ จากคุณ : ไส้อั่วจิ้นหมู เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:30:27

ความคิดเห็นที่ 28 ระบบจับแพะชนแกะ จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:51:50

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณทุกความเห็นครับ   ได้มุมมองหลาย ๆ แบบดีครับ ส่วนเรื่องผิดห้องนี่ ผมไม่ทราบจริง ๆ ครับ แหะ ๆ ปกติไม่เคยเข้าห้องประมาณนี้เลยครับ  แต่ว่าพอมีประเด็นนี้เลยอยากรู้ว่า คนอื่นคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Take me drunk! เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 14:36:16

ความคิดเห็นที่ 30 ระบบที่ทำให้พี่น้องรักกัน คนในคณะรักกัน คนในมหาลัยรักกัน แต่ เป็นการปลูกฝังระบบพวกพ้อง แบ่งฝักแ่บ่งฝ่าย เช่นกัน! จากคุณ : ณัฐกร เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 20:19:08

ความคิดเห็นที่ 31 ดีใจจัง  ไม่โดนลบด้วย จากคุณ : Take me drunk! เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:03:57