ความคิดเห็นที่ 1 1. Hidan no Aria คืออะไร?? เริ่มจากส่วนแรกพรีวิวคร่าวๆของอนิเมและนิยาย Hidan no Aria ~ หรือชื่อภาษาไทย "อาเรีย~กระสุนแดงเดือด" ปัจจุบันมี LC โดยสนพ.โมเอะแห่งประเทศไทยแล้วครับ  ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะออกมา 2 เล่มทั้งแบบ manga/novel  ดังนั้นอย่าไปสับสนกับอีกอาเรียที่ล่องเรืออยู่ในเวนิสนะ~ ตาม PV ที่เห็น, ในโลกอณาคตอันใกล้ ด้วยการขยายตัวของอาชญากรรมรวมถึงภัยคุกคามต่างๆ ทำให้หลายประเทศทั่วโลกได้มีการจัดตั้งกองกำลังแบบพิเศษขึ้นซึ่งเป็นกำลังกึ่งทางการที่เรียกว่า "นักสืบยุทธ์" (บูเทย์) โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะถูกคัดสรรฝึกฝนตั้งแต่ยังเป็นเด็กในวัยเรียน เพื่อช่วยรับผิดชอบในคดีและภารกิจต่างๆของทั้งเอกชนและทางการ ซึ่งเด็กนักเรียนหัวกระทิเหล่านี้ได้กลายเป็นกำลังสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ในสังคม (แต่บางสังคมก็มีอคติเกี่ยวกับนักสืบยุทธ์เช่นกันว่าไม่เหมาะสม) โดยใน Hidan no Aria พื้นที่หลักของเรื่องนี้ก็คือโรงเรียนมัธยมโตเกียวบูเทย์ เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อฝึกฝนให้เด็กๆไฮสคูลเหล่านี้ได้เติบโตนักสืบยุทธ์ที่สมบูรณ์ และเป็นแหล่งวิจัยศึกษาพลังอำนาจวิเศษที่เป็นปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติหลายอย่างที่ถูกค้นพบขึ้นและถูกจัดตั้งเป็นหนึ่งในสาขาวิจัยของการศึกษาอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 12:12:52 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:09:54

ความคิดเห็นที่ 2 อ้าว PV หาย =-=" จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:10:42

ความคิดเห็นที่ 3 ในนิยาย, โทยามะ คินจิ นักเรียนชายไฮสคูล ปี 2 ผู้ที่เสียเป้าหมายในชีวิตจากการที่พี่ชายสุดที่รักได้หายตัวไปขณะทำภารกิจของนักสืบยุทธ์ จนเขาไม่อยากเดินรอยตามอีกต่อไป แต่ด้วยความสามารถพิเศษที่ตกทอดกันมาตามสายเลือด นั่นคือเขาสามารถเข้าสู่ “ฮิสทีเรียโหมด”ซึ่งทวีความสามารถทุกอย่างของตัวเองได้อย่างมหาศาล เมื่อได้รับการกระตุ้นโดยบางสิ่ง ทำให้เขาต้องพยายามหลบซ่อนความสามารถนี้ไว้ เพื่อที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ทว่า...ระหว่างทางไปโรงเรียนวันหนึ่งเขาดันไปปั่นจักรยานพ่วงระเบิด TNT ไปด้วยทำให้คินจิต้องไปพัวพันกับเหตุระเบิดทำให้ได้พบ กับ คันซากิ เอช อาเรีย นักสืบยุทธ์ระดับ S ของโรงเรียน ผู้มีคุณสมบัติเตี้ย แบน ซึน ทวินเทล ครบสูตร จนทำให้เรื่องสารพัดวุ่นวายเริ่มขึ้นนี่เอง Hidan no Aria ~~ กระสุนซึนเดเระสีเลือด (ว่าไปนั่น~~) ส่งท้ายของเอนทรี่แรกลองรับชม OP ละกันครับ "Scarlet Ballet” ร้องโดย May'n ขวัญใจหลายๆคน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:12:10

ความคิดเห็นที่ 4 2. [ประวัติ] นิยาย/มังกะ ที่มาของกระสุนสุดซึน อาเรีย นั้นเริ่มต้นจากการเป็น Light Novel เขียนโดยคุณโชกาคุ อาคามัตสึ และภาพประกอบจากคุณ โคบุอิจิ ในสังกัดของ Media Factory (ค่ายเดียวกับ Infinite Stratos [IS] นั่นแหละครับ...จึงไม่ประหลาดใจถ้าจะเห็น ads โฆษณา2 เรื่องนี้คู่กันบ่อยๆ...ส่วนถ้าใครไม่รู้จัก IS ก็ลองดูใน Entry ข้างๆในบล็อคนี้ได้เลยครับ) และปัจจุบันนี้ อาเรีย เองก็ทำเป็น TV-Animation ความยาว 13 ตอน ซึ่งเริ่มฉายในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยสตูดิโอ JC-Staff โดยผู้กำกับทาคาชิ วาตานาเบะ ซึ่งปัจจุบันได้ออกมาประมาณ 8-9 ตอนแล้ว ซึ่งคุณภาพโดยรวมก็บอกตามตรงว่า ด้อยกว่าต้นฉบับค่อนข้างเยอะครับ เพราะมีการตัดทอนเนื้อหาออกไปค่อนข้างมาก และงานภาพไม่ได้ละเอียดเท่ากับที่คนส่วนใหญ่หวัง (เท่าที่ทราบ, เป็นทีมย่อยของ JC-Staff ไม่ใช่ทีมหลัก) *******ว่ากันตรงๆแบบไม่ได้อวยเข้าข้างเลย  อนิเมเรื่องนี้ทำเอาผมมีหลายปฎิกิริยามาก บางฉากก็ทำได้ดีแบบน่าประหลาดใจ รายละเอียดรายอย่างก็เก็บได้ดีมากชนิดผมร้อง “Oh! YES!!!” แต่บางฉากก็เล่นเอาผมลงไป “/me Face Palm ” ได้หลายรอบ ******* ดังนั้นถ้าคิดจะดู ก็แนะนำให้ดูแบบทำสบายๆใจ ไม่ต้องคาดหวังอะไรมากจะดีที่สุดครับ ~ แต่โดยรวม ถ้าไม่ได้ดูแบบจับผิดผมว่าก็สนุกใช้ได้ครับ และถ้าคนที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนยังถือว่าสนุกเลยทีเดียว (ถือว่าดูเอาบันเทิงละกัน) ซึ่งหลายๆอย่างผมเองก็แอบๆหวังเหมือนกันว่าจะมีแก้ในเวอร์ชั่น Blueray/DVD ***************** ภาพรวมของเนื้อเรื่อง สำหรับ Hidan no Aria นี้ถึงจะมีธีมเรื่องเริ่มต้นเป็นการสืบสวน ฉากแอคชั่น อาวุธปืนสารพัด แต่นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีโทนเน้นเรื่องเหล่านี้นะครับ เดี๋ยวบางคนจะเข้าใจว่าเป็นแนวแบบคินดะอิจิสาวน้อย หรือแนวหน่วยรบพิเศษลุยกันแบบนิยายของป๋า Tom Clancy....นิยายเรื่อง Hidan no Aria นี้เน้นไปเรื่องความสามารถพิเศษของ "ยอดมนุษย์" เยอะมาก และเต็มไปด้วยฉากโอเว่อร์แอคชั่นเต็มไปหมด ชนิดที่ผมเรียกเป็นเวทย์มนต์ได้แบบไม่อายปากเลยครับ สิ่งที่ผมจะต้องเตือนไว้ก่อนเลย ได้แก่ 1. เรื่องนี้ไม่ใช่แนวแอ็คชั่นแบบสมจริงนะครับ ตัวละครหลักส่วนใหญ่มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งนั้นเลย (ระดับที่ว่าตบตีกับบอสระดับต้นๆของ typemoon ได้ทีเดียว) 2. เรื่องนี้มีการวางทริคต่างๆไว้เยอะทีเดียว ซึ่งจะเฉลยออกมาตอนหลังๆ โดยเฉพาะสาเหตของความไม่สมจริงต่างๆ และมีการหักมุมบ่อยๆครับ 3. เรื่องนี้มีการเอาสายเลือดดังๆในประวัติศาสตร์มาเล่นเยอะทีเดียวครับ (แต่ไม่ใช่อัญเชิญวีรชนแบบใน Fate/Stay Night นะ) ดังนั้นถ้าหากทุกท่านเข้าใจแนวคร่าวๆแล้วคงตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าถ้าเห็นปกน่ารักๆแบบนี้แล้วจะได้วินิจฉัยเองว่า ตรงกับรสนิยมตัวเองรึเปล่า^^? จะได้เลือกหยิบแบบที่ตนเองชอบที่สุดกัน แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 12:17:28 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:17:04

ความคิดเห็นที่ 5 3.[เกร็ดความรู้] เบเกอร์สตรีท~ ถนนยอดนักสืบ เนื้อหาส่วนนี้ อาจ Spoilช่วงท้ายนิยายเล่ม1 เล็กน้อยนะครับ เพราะต่อให้เป็นคนที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนเราจะเห็นร่องรอยเล็กๆน้อยที่ JC-Staff พยายามจะใบ้ไว้ให้ระหว่าง OP เกี่ยวกับภูมิหลังของอาเรีย นางเอกของเรื่อง คีย์เวิร์ดที่ว่านั่นคือ น้องหนูอาเรียของเรานั่นเองครับ ที่กำลังนั่งอยู่ในสถานที่แห่งนึง - เก้าอี้เหล็กยาวๆ เย็นๆ 1 ตัว - เงาของชายกลางคนสูบไปป์ - กำแพงทึบสีขาวซีดๆ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:19:24

ความคิดเห็นที่ 6 เปรียบเทียบดูสิ~ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:19:50

ความคิดเห็นที่ 7 สถานที่ที่ว่านั่นก็คือ... สถานีรถไฟใต้ดิน สถานีย่อย Baker Street~~ บ้านเกิดของเชอร์ล็อก โฮล์มส์, สุดยอดนักสืบผู้โด่งดังในใต้หล้านั่นเอง โดยที่นี้จัดเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของลอนดอน สหราชอณาจักรที่นักเดินทางทั่วโลกต่างแวะมาเยี่ยมชมตำนานของนักสืบคนนี้ จนกระทั่งสำนักงานการท่องเที่ยวของลอนดอนได้เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์และสถานีเดินทางยอดนิยมเพื่อการท่องเที่ยวเลย ซึ่งในบริเวณรอบๆสถานีนี้ จุดสำคัญที่สุดก็คือส่วน บ้านเลขที่ 221B ถนน.เบเกอร์, บ้านเช่าหลังเล็กๆซึ่งยอดนักสืบโฮล์มส์ และวัตสันผู้เป็นคู่หูของเขาได้พบเจอกันกันเป็นครั้งแรก (บ้านเลขที่นี้ไม่มีอยู่จริง, แต่ภายหลังได้มีการทำพิพิธภัณฑ์ขึ้นมา) อันนี้พิพิธภัณฑ์เชอรล็อคโฮลมส์ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:21:06

ความคิดเห็นที่ 8 เอาผังรถไฟของลอนดอนมาให้ดูนิดนึง เพื่อใครอยู่แถวโซนยุโรป ก็สามารถไปแวะท่องเที่ยวได้ครับ ยิ่งถ้ามีวีซ่าในเครือ EU ยิ่งสบายใหญ่ นั่งโลวคอรส์หรือรถไฟข้ามไปต่อ tube ได้เลยไม่ต้องทำวีซ่าเพิ่มเติมนัก ซึ่งผมชอบส่วนนี้ของลอนดอนมากถึงซับซ้อนแต่ใช้จริงๆง่ายมากและรวดเร็วด้วย (ถ้าไม่นับเรื่องราคานะ T__T ที่ปีหลังๆนี่ขึ้นเอาๆ) โดยสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ถ้าจะไปสถานีเบเกอร์ที่ว่านี่คุณสามารถซื้อบัตรออยสเตอร์เลือกโซน 1 ได้เลยครับประหยัดดีกว่าจ่ายรายป้าย (สำหรับบ้านผมอยู่ไกลหน่อยแถว Stockwell เลยต้องซื้อโซน 2 (สายวิคตอเรีย) เพิ่มด้วย) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:22:02

ความคิดเห็นที่ 9 เพื่อมีคนไม่ทราบแต่เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ไม่ได้มีตัวตนจริงๆนะครับ แต่เป็นตัวละครนักสืบที่โด่งดังสุดยอด ที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีปากกาของเซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ชาวอังกฤษ ในปี ค.ศ.1887 นู่นน โดยผลงานนิยายชุดแรก ก็มีชื่อว่า A Study in Scarlet ด้วย(ชื่อคล้ายๆกับ Aria ~The Scarlet Ammo เลยว่าไหม) แต่ตอนแปลไทยนั้นใช้ชื่อว่า "แค้นพยาบาท" -------------------------- แต่ในนิยาย Hidan no Aria นี้เขาได้ถือว่าเชอรล็อคโฮล์มมีตัวตนจริงๆขึ้นมา...และได้รับพระราชทานอิสริยยศจากสมเด็จพระราชินี (ควีนวิคตอเรีย) เป็นระดับ "เซอร์" โดยการพระราชทานยศนี้ ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ได้มีการมอบยศนี่ให้ด้วยครับ ถือเป็นเรื่องประหลาดเหมือนกันที่เป็นการแต่งตั้งตัวละครในโลกนิยายให้มีบรรดาศักดิ์ในโลกความเป็นจริง (โคนัน ดอลย์ผู้แต่งก็ได้รับเช่นกัน) -------------------------- อันนี้ตัวอย่างปกแรก จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:23:17

ความคิดเห็นที่ 10 4.โรงเรียนนักสืบยุทธ์ (Butei) คืออะไร?? หัวข้อนีี้กลับมาสู่เนื้อหาในนิยายครับ โดยเป็นโรงเรียนระดับไฮสคูล (ม.ปลาย) ที่ตั้งอยู่บนเขตพิเศษที่ถมทะเลสร้างขึ้นมาใหม่ใกล้เขตโตเกียว คล้ายกับเกาะขนาดย่อมเพื่อสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะ ซึ่งเชื่อมกับตัวเมืองด้วยสะพานแขวนขนาดใหญ่, ตามข้อมูลในนิยายสถานที่แห่งนี้จัดเป็นสถาบันสำคัญของญี่ปุ่นในการฝึกเยาวชนรุ่นใหม่ๆให้เป็นนักสืบยุทธ์ที่มีคุณภาพในอนาคต ซึ่งมีการเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยครึ่งวันเช้าเรียนวิชาสามัญปกติ ส่วนครึ่งบ่ายจะถูกแยกเข้าชั้นเรียนพิเศษตามความเชี่ยวชาญที่แต่ละคนได้ลงทะเบียนไว้ โดยที่พิเศษหน่อยคืออาจารย์ผู้สอนวิชาเฉพาะเหล่านี้ก็มักจะเป็นนักสืบยุทธ์ตัวจริงๆที่มีประสบการณ์มาถ่ายทอดวิชาให้นั่นเอง **ถึงจะชื่อว่านักสืบยุทธ์...แต่ไม่ได้หมายความว่างานที่ทำจะต้องต่อยตีเสมอไปครับ มีงานเบื้องหลังอีกเยอะทีเดียวโดยเฉพาะในแง่ข่าวสารและเทคโนโลยี, เหมือนๆกับเครื่องบินนี่แหละ ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่นักบิน แต่ยังมีช่างเครื่อง วิศวกร ผู้ควบคุมจราจรทางอากาศอีกเยอะแยะเลย; และสาขาต่างๆที่มีระบุไว้ในนิยายผมพอจะสรุปออกมาได้คร่าวๆดังนี้ครับ (ดูไปดูมาก็รู้สึกว่านี่มันโรงเรียนเตรียมทหารระดับเยาวชนนิหว่า ^^") จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:25:21

ความคิดเห็นที่ 11 5. สาขาการเรียนของโรงเรียนนักสืบยุทธ์ Assault (Assault:หน่วยจู่โจม) สาขาวิชาที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้แทบทุกรูปแบบและฝึกฝนทักษะการใช้อาวุธ เป็นหนึ่งในสาขาที่ทำงานอันตรายที่สุด เพราะมักจะได้รับภารกิจใจการจู่โจมข้าศึก ผู้ก่อการร้าย หรือหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ (Escort) เสมือนบอดี้การ์ด ซึ่งต้องเสี่ยงภัยเสมอๆ นักเรียนในสายนี้เช่น ชิรานุอิ, อาเรีย Snipe (Sniper:พลซุ่มยิง) อีกหนึ่งสาขาวิชาทางการต่อสู้ ที่ฝึกฝนการต่อสู้ระยะประชิดน้อยมากต่างจากสาขาจู่โจม โดยเหล่าสไนเปอร์นี้มุ่งเน้นฝึกนักสืบยุทธ์ให้เชี่ยวชาญอาวุธระยะไกลเป็นหลัก เข้าใจถึงปรัชญาของพลซุ่มยิงแท้จริงในแง่ของความเด็ดขาด เยือกเย็น อดทนซึ่งเหนือกว่าพลแม่นปืนทั่วไปที่ทำได้เพียงแค่ความแม่นยำ นักเรียนในสายนี้เช่น เรกิ (อนึ่ง..พลแม่นปืนเป็นแค่ซับเซ็ตของ "พลซุ่มยิง" เท่านั้น) Lezzad (Joint Staff: เสนาธิการ) สาขาที่ฝึกฝนให้นักสืบยุทธ์ได้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์และนำเสนอยุทธวิธีต่างๆ ซึ่งก็เปรียบเหมือนกุนซือของกองกำลังนักสืบยุทธ์ ที่เป็นระดับมันสมองของกองทัพ และตัดสินใจในการแก้สถานการณ์ต่างๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาขาที่มีสมาชิกไม่มากนัก นักเรียนในสายนี้เช่น ฟูมะ Dagula (Dragula: ผู้สืบสวน) สาขาที่ตั้งชื่อล้อเลียนคล้ายกับผีดูดเลือดผู้มีชื่อเสียง ที่จะเชี่ยวชาญการสอบสวนและเค้นความลับจากอาชญากรด้วยเทคนิคต่างๆออกมาให้มากที่สุด แล้วทำการวิเคราะห์หาความน่าเชื่อถือ เพื่อประกอบรูปคดีอย่างได้ผล Inquesta (นักตรรกะ) สาขาที่เชี่ยวชาญการใช้หลักเหตุผลในการสืบคดี ซึ่งมักเป็นการตั้งสมมุติฐานต่างๆ เพื่อให้มีประโยชน์ในการทำรูปสำนวนคดี เป็นทักษะที่ต้องใช้บ่อยทีเดียวหากนักสืบยุทธ์คนนั้นต้องการเติบโตในสายงานกฎหมาย อย่างเช่นอัยการ เป็นต้น Repier (เวชศาสตร์วินิจฉัย/นิติเวช) สาขาที่เกี่ยวดองกับวิทยาศาสตร์ประยุกต์อย่างลึกซึ้ง โดยจะเป็นเชี่ยวชาญการใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์หลักฐานเพื่อประกอบรูปคดี มักเป็นภารกิจเบื้องหลังที่เก็บตกรายละเอียดต่างๆหลังจากที่เป้าหมายหลักเสร็จสิ้นจากการโจมตีของหน่วยจู่โจมเรียบร้อย Amdo (Armament: ยุทโธปกรณ์) สาขาเชี่ยวชาญด้านยุทโธปกรณ์ โดยเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญที่สุดในด้านการผลิตหรือดัดแปลงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานของนักสืบยุทธ์ และหน่วยนี้ยังสามารถรับจ็อบพิเศษหาตังด้วยการรับโมดิฟายอาวุธของนักเรียนคลาสอื่นๆได้อีกด้วย นักเรียนในสายนี้เช่น ฮิรากะ Logiนักสืบยุทธ์ที่เชี่ยวชาญการใช้ยานพาหนะต่างๆ มีความรู้และทักษะการควบคุมที่หลากหลาย และเป็นผู้วางแผนในการจัดเตรียมเส้นทางที่เหมาะสม หรือรองรับอุบัติภัยต่างๆระหว่างการเดินทางอีกด้วย นักเรียนในสายนี้เช่น หมุนโต๊ะ (Muto นั่นแหละ) Connect (Connection) เป็นสาขาเชี่ยวชาญการสื่อสารและถ่ายทอดข้อมูลเพื่อสนับสนุน ลักษณะงานจะคล้ายกับ Operator ที่คอยรวบรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายและเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่ายและชัดเจนเพื่อถ่ายทอดคำสั่งและสถานการณ์ต่างๆระหว่างทีมในระยะเวลาที่สั้นที่สุด เจ้าหน้าที่สายนี้เช่น มิซากิ Informa (Information) สาขาเชี่ยวชาญการรวบรวม ค้นคว้าและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะนำไปใช้ได้ทั้งการปฏิบัติการหรือวางแผนต่างๆ เป็นสาขาของเหล่าสายลับก็ว่าได้ เป็นหนึ่งในสาขาที่ต้องใช้ความรู้รอบตัวและความช่างสังเกตอย่างสูง นักเรียนในสายนี้เช่น ริโกะ Medica (Medic) สายเสนารักษ์, นักสืบยุทธ์ที่เชี่ยวชาญการปฐมพยาบาลและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีภารกิจได้ทั้งการสนับสนุนเจ้าหน้าที่หรือพลเรือนทั่วไปยามเกิดอุบัติภัย หรือเหตฉุกเฉินต่างๆ Ambulance ผู้เชี่ยวชาญการรักษาพยาบาล มีหน้าที่หลักเป็นแพทย์ประจำในโรงพยาบาลนักสืบยุทธ์ จะต่างจากเหล่า medica ตรงที่การรักษานั้นจะครอบคลุมถึงโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป และการรักษาระดับสูงอย่างเช่น ศัลยแพทย์ SSR (Supernatural Searching Research) เป็นสาขาค้นคว้าวิจัยพลังที่อยู่เหนือธรรมชาติ ซึ่งยังไม่สามารถอธิบายหลักการทำงานได้ด้วยวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน แต่นักสืบยุทธ์ที่มีพรสวรรค์หลายคนในโรงเรียนสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ในการแก้ไขคดีต่างๆได้ จึงมีการจัดตั้งแผนกนี้ขึ้นเพื่อฝึกฝนความสามารถให้ใช้ในทางที่ถูกต้องเหมาะสม นักเรียนในสายนี้เช่น ชิรายูกิ CVR (Civetta Reseach) สาขาพิเศษแปลกๆ เพราะเป็นสถานที่ฝึกทักษะนักสืบยุทธ์ให้เชี่ยวชาญในเรื่องการใช้เสน่ห์ทางเพศในการสืบค้น และล่อลวงแหล่งข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม โดยสาขานี้จะต้องเรียนรู้ถึงระบบสรีระ, ร่างกาย, จุดสัมผัส หรือแม้แต่การวิเคราะห์สภาพอารมณ์ของเหยื่อเป้าหมาย โดยจะจำกัดรับเฉพาะผู้หญิงหน้าตาดีเท่านั้น (น่าไปเรียนจริงๆ ^^~~~ แต่ถ้าให้ตาคินจิพระเอกของเรื่องนี้ไปอยู่...อาจจะเหมือนส่งไปนรกขุมสุดท้าย) /me ว่าไปถ้าเป็นคุณได้เป็นนักสืบยุทธ์ขึ้นมา จะเลือกไปเรียนสาขากันดีเนี่ย~ จากคุณ : เอาปืนไปเก็บไว้ตรงไหนฟะ~ (Kross_ISC) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:30:54

ความคิดเห็นที่ 12 6.Character01: "คันซากิ อาเรีย" ~กระสุนซึนเดือด เอนทรี่นี้ขอเริ่มด้วยรายละเอียดของอาเรีย~ นางเอกของเรื่องนี้ละกันครับ เสียงพากษ์โดยคุกิมิยะ ริเอะ (คนพากษ์ชานะ นางิ ไทกะ และอื่นๆสารพัด...) เพราะเป็นหนึ่งในคนที่เหมือนศูนย์กลางจุดที่ 1 ของนิยายเรื่องนี้ บทบาท: Kanzaki H Aria เป็นชื่อที่ตั้งในแบบตะวันตกนิดหน่อยที่ จะมี 3 ชื่อ (ชื่อจริง-ชื่อกลาง-ชื่อสกุล) โดยจะขอเรียกย่อๆว่า "อาเรีย" ละกันครับ โดยเธอมีสถานะเบื้องต้นคือเป็น "นักสืบยุทธ์" ระดับ S (สูงสุด) จากฝั่งยุโรปที่พึ่งย้ายมายังโรงเรียนมัธยมบูเทย์ที่โตเกียวในเทอมแรก และได้พบกับโทยามะ คินจิ พระเอกของเรื่องในระหว่าที่ตนกำลังทำคดี "ฆาตกรรมนักสืบยุทธ์" อยู่เพื่อแก้ต่างให้กับคดีของแม่ตัวเองที่ถูกใส่ร้าย โดยระหว่างนั้นอาเรียได้เห็นศักยภาพด้านการต่อสู้ของคินจิที่เขาแอบซ่อนไว้โดยบังเอิญ (ep1) ทำให้เธอระลึกถึงคำเตือนของแม่ตัวเองไว้เรื่องของการหาคู่หู "Buddy" ขึ้นมา จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:34:35

ความคิดเห็นที่ 13 ปูมหลังของอาเรีย: ชื่อเต็มจริงๆของเธอคือ "Kanzaki Holmes Aria" หรืออีกนัยนึง, ตัวจริงของอาเรียนั้นคือทายาทรุ่นที่ 4 ของยอดนักสืบในตำนาน "เชอร์ล็อคโฮล์มส์" นั่นเอง โดยทางมารดาของเธอเป็นชาวญี่ปุ่น/บิดาเป็นชาวอังฏฤษ (ลูกครึ่งนั่นเอง) และสาเหตนึงของการเดินทางมาที่ญี่ปุ่นนั้นก็เพื่อหาคู่หูที่เหมาะสม เพราะว่าสายเลือดของเธอนั้นมีคุณสมบัติพิเศษหรือฝีมือที่แท้จริงของเธอจะแสดงพลังออกมาได้เมื่อได้พบเจอกับคู่หูที่เหมาะสมเท่านั้น และดังที่เคยปรากฎไว้ในประวัติศาสตร์- โฮลมส์รุ่นที่ 1 นั้นสามารถสร้างผลงานระดับตำนานได้มากมายก็เพราะมีคู่หูที่ยอดเยี่ยมเฉกเช่น "วัตสัน" คอยช่วยเหลือ ในขณะที่รุ่นที่ 4 อย่างอาเรียนั้น, หลายคนยกเว้นแต่มารดาของเธอ ได้ให้การปรามาสในตัวเธอไว้ว่า "ไม่คู่ควรเป็นสายเลือดของโฮลมส์" เพราะแม้ว่าอาเรียจะสามารถเป็นถึงนักสืบยุทธ์ระดับสูงสุดและมีฝีไม้ลายมือเชิงยุทธ์มาก แต่กลับไม่มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ตะกูลโฮลมส์ควรจะมีอย่างเช่น ทักษะการวิเคราะห์/สังเคราะห์และการเป็นนักสืบที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เกิดปมด้อยในใจเธออยู่ไม่น้อย จนเริ่มคิดหาคู่หูอย่างจริงจังในคดีของนักสืบยุทธ์ที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้อาเรียยังไม่ใช่แค่สามัญชนธรรมดาคนเดินดิน~ เธอจัดเป็นหนึ่งในสายเลือดขุนนาง หรือเป็นในเครือ British Royal Family ชั้นปลายๆได้อีกด้วย (เปรียบกับในไทยก็คล้ายๆระดับ หม่อม, หม่อมเจ้า) โดยแม่ของเธอนั้นได้รับบรรดาศักดิ์ชั้นอัศวินของราชอาณาจักรในตำแหน่ง Dame (ถ้าเป็นผู้ชายจะอยู่ในตำแหน่ง Knight) จึงทำให้ตะกูลของอาเรียนั้นมีบทบาทในวงการเมือง/ราชวังไม่น้อยเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:35:44

ความคิดเห็นที่ 14 ทักษะยุทธ์: อาเรียนั้นได้รับสมญานามว่า Quadra (ควอดทราซ์) ซึ่งหมายถึง "จำนวน 4 (สี่)" โดยที่คำนี้มีความหมายแอบแฝงหลายอย่างอยู่ในเรื่องครับ โดยจะขอยกไปพูดส่วนหลังๆ แต่เบื้องต้นก็คืออาเรียมีอาวุธหลักๆ 2 ชนิด จำนวน 4 ชิ้นที่เธอใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งแบ่งรูปแบบการต่อสู้ของเธอออกเป็น 3 รูปแบบ Gunslinger (มือปืน) พื้นฐานของอาเรียนั้นมีการต่อสู้ด้วยปืนเป็นหลัก เช่นเดียวกับนักสืบยุทธส่วนใหญ่ที่จะเลือกอาวุธระยะไกลเป็นตัวเลือกแรก ขณะที่อาวุธระยะประชิดมักจะถูกใช้ในฐานะอาวุธสำรอง ซึ่งปืนคู่ใจของเธอก็คือ ปืนพก Colt M1911A1 จำนวน 2 กระบอกสีขาวและดำเป็นอาวุธประจำกาย โดยเธอจะใช้ในลักษณะปืนคู่ (Dual-ถือปืนสองกระบอกพร้อมๆกัน) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:37:08

ความคิดเห็นที่ 15 ในอนิเมเรื่อง Hidan no Aria นี้เราจะเห็นนางเอกตัวน้อยควงปืนทั้งสองกระบอกยิงกันไปตลอดเรื่อง ซึ่งในหลักความจริงจะค่อนข้างแปลก (อาจจะมองว่าไม่สมจริง/เว่อร์บางส่วน) คือปืนแบบนี้มีแรงสะท้อนถอยหลัง (แรงถีบ) สูงเอาเรื่อง แถมขนาดค่อนข้างใหญ่โตเพราะมันออกแบบให้ทหารฝรั่งตัวโตๆถือกัน ขณะที่อาเรียนั้นสัดส่วนของเธอแทบไม่ต่างจากเด็กหญิงวัยประถมเลยด้วยซ้ำ (ส่วนสูงเธอยังแค่ 142 cm เอง บอกว่าเด็กป.3 ยังเชื่อเลย) ดังนั้นการที่เธอถือปืนแบบนี้ถึงสองกระบอกแล้วยิงรัวๆพร้อมกันถือว่ายากมาก ขนาดผมถือกระบอกเดียว เล็ง 2 มือยังเหนื่อยเลยครับ แต่น้องหัวชมปูของเราถือ 2 กระบอกแถมยิงแม่นหยั่งกะจับวาง ลองดูหน้าตาจริงๆของปืนต้นแบบตัวนี้ครับ  ถึกมากๆ  ประวัติยาวนานมากกว่าปู่ของผมอีก ^^" แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 12:38:53 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:38:12

ความคิดเห็นที่ 16 2- BladeMaster (นักดาบ) รูปแบบการต่อสู้ที่ 2 ของอาเรีย คือการใช้ดาบสั้นคู่สไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า Kodashi (คล้ายๆคาตานะย่อส่วน ยาวราว2 ฟุต) โดยเราจะเห็นเธอใช้บ่อยๆโดยเฉพาะยามที่หมดกระสุนหรือสถานการณ์บังคับ....(ก็อาวุธสำรองนั่นแหละว่าง่ายๆ) โดยทักษะการต่อสู้ระยะประชิดของเธอจัดว่าสูงทีเดียว เช่น ทักษะการปะทะดาบ การปัดป้องโจมตี หรือแม้แต่ใช้ฝ่ามือเปล่าประกบดาบ (เว่อร์ดีแท้) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:39:56

ความคิดเห็นที่ 17 ซึ่งแม้อาเรียจะมีรูปร่างเล็กมากแต่เราจะเห็นว่าเรี่ยวแรงเธอไม่ได้น้อยตามไปด้วยเลยครับ....ตัวเล็กต่อยหนักจริงๆ **ที่น่าอึ้ง ทึ่ง งง....ที่สุดในเรื่องของดาบก็คือ เธอซ่อนไว้ด้านหลังเสื้อนักเรียนตัวน้อย ซึ่งมิดชิดมากจนดูไม่ออกเลย (ทำได้ไงวะ?) แถมพอชักออกมาแล้วดันยาวกว่าตัวชุดนักเรียนบางๆนั่นอีกต่างหาก (ดาบเธอจริงๆหน้าตาประมาณนี้ครับ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:41:05

ความคิดเห็นที่ 18 3- Aru-Kata (Gunkata) มันก็คือการต่อสู้ระยะประชิดมากด้วยปืนพก....รูปแบบการต่อสู้ที่ 3 ของอาเรีย, ในนิยายถูกเรียกว่าเป็นศิลปะการต่อสู้แบบ Aru-kata แต่ในเชิงศิลปะการต่อสู้จริงๆไม่มีการบรรจุหลักสูตรการต่อสู้ในชื่อนี้นะครับ เป็นชื่อที่ผู้แต่งกำหนดมาให้สำหรับนิยายเฉยๆ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:42:52

ความคิดเห็นที่ 19 แต่ถ้าพยายามจะแม็ตชให้เข้ากับโลกความเป็นจริง การต่อสู้แบบนี้น่าจะพอถูกเรียกได้ว่าเป็น Gun-kata แทนครับ แม้จะมีการฝึกจริงก็ไม่ได้รับความนิยมในทางการทหาร/การฝึกทักษะกีฬามากนัก แต่รูปแบบการต่อสู้นี้ก็ถูกนำไปใช้ดัดแปลงในสื่อบันเทิงไม่น้อยทีเดียว อย่างเช่นในหนัง Equilibium (สนุกมาก) http://i167.photobucket.com/albums/u156/rapisus/tumblr_lkrvdmAcw61qf9wd7o1_400.gif (การเล่น a-kata ที่capture จากอนิเมครับ) ลองนึกถึงมวยไทย เทควันโด้ คาราเต้ ไอกิโด้ ก็ได้ครับ....เอาเป็นว่ามันคือศิลปะการ "ต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ถือปืน"...... ทักษะนี้จะใช้ร่วมกับปืนพกเป็นหลักโดยมุ่งเน้นการเข้าไปพัวพันที่ระยะประชิดมากๆ ชนิดอกต่ออก แขนต่อแขน ขาต่อขากันเลย โดยมีเป้าหมายที่ "เล็งยิงคู่ต่อสู้ให้ได้ + ทำให้ปืนคู่ต่อสู้เล็งไม่ได้" แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 12:45:14 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:43:41

ความคิดเห็นที่ 20 นี่คือสรุปข้อมูลเบื้องต้นของ "คันซากิ โฮลมส์ อาเรีย" ทายาทแห่งยอดนักสืบ นางเอกของเรื่องนี้ครับ.... ซึ่งยังมีปริศนาอีกมากเกี่ยวกับเธอ ที่ต้องรอการเปิดเผยในนิยาย และผมเลือกที่จะยังไม่เอามาลงเพื่อไม่ให้สปอยด์มากเกินไปครับ อาทิเช่น - ที่มาของทรงผมทวินเทล - ดวงตาสีแดง /ผมสีชมพู - โลลิค่อนบอดี้ - โลกเบื้องหลังของตะกูลโฮลมส์ - ร่างสองของ อาเรีย~ ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะสปอยเนื้อหาเยอะมาก จนคนที่ตามดูผ่านทางอนิเมอาจเสียอรรถรสได้ เลยขอเว้นไว้ก่อน เพื่อจะทำเป็นอีก entry นึงแยกออกไปเลย จะได้ไม่ปะปนกันครับ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:46:59

ความคิดเห็นที่ 21 7.Character02: "โทยามะ คินจิ"~นักสืบซ่อนรูป Tohyama kinji CV: Junji Majima (คนพากษ์หนุ่มซอมบี้แสนน่ารักอย่างอายูมุใน Kore wa Zombie, เจ้าพระเอกแสนดีโซมะแห่ง Kanazuki no miko ด้วยนะเออ) โทวยามะ คินจิ เด็กนักเรียนหนุ่มในโรงเรียนนักสืบยุทธ์ที่มีทักษะแค่ระดับ E (ต่ำสุด) ซึ่งดูเป็นเด็กธรรมดาๆในเรื่อง ซึ่งอันที่จริงก็ไม่แปลกเพราะในเวลาปัจจุบันตามนิยาย หมอนี่ก็อยากออกจากโรงเรียนนี้ใจจะขาดอยู่แล้ว ทั้งๆที่ตอนแรกที่เข้าโรงเรียนนักสืบยุทธ์มา คินจิสามารถผ่านการวัดระดับมาด้วยสกอร์สูงสุดทีเดียว ....แต่ที่ลำดับพวกนี้ลอยลิ่วปลิวระล่องลงมาติดชั้นต่ำสุดก็เพราะว่าเขาขาดสอบตอนช่วงเทอมก่อนหน้านั้นเอง ซึ่งอันที่จริงหมอนี่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แค่รักษาระดับการเรียนให้แค่พอคาบเส้นไว้ก็พอใจแหล้ว จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:49:15

ความคิดเห็นที่ 22 ทำไมคินจิถึงไม่อยากเรียนต่อนะรึ?? จริงๆแล้ว โทยามะ คินจิ ของเรานี่อยากเป็นนักสืบยุทธ์มากๆครับ ตามประสาวัยรุ่นหนุ่มคะนองที่รักความยุติธรรมเลย เพราะว่าเขามี “พี่ชาย” ที่เป็นสุดยอดนักสืบยุทธ์เสมือนกับแบบอย่างประจำใจทีเดียว ในสายตาของคินจินั้น พี่ชายเป็นเหมือนกับแบบอย่างแห่งความถูกต้อง .ทั้งฝีมือยุทธ์ บุคลิกภาพ ความหลักแหลม คุณธรรมประจำใจนับว่าเป็นระดับสุดยอด ทว่า ไม่นานนักหลังจากเขาได้เข้าศึกษาต่อในสถาบันบูเทย์, พี่ชายคนเก่งกลับประสบอุบัติเหตเสียชีวิตโดยไม่คาดฝัน แถมยัง ทำให้คินจิถึงกับเสียเป้าหมายในชีวิตไปเลย เมื่อได้เห็นความลำบากและเสี่ยงตายของภารกิจเช่นนี้แต่กลับเห็นพี่ชายถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตของการเสียชีวิตจำนวนมากอีกต่างหาก จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:51:04

ความคิดเห็นที่ 23 ทำไม โทยามะ คินจิถึงได้เก่งกาจนักหละ? ข้อเท็จจริงประการนึงก็คือ ร่างกายคินจิรวมถึงผู้ชายในตะกูลโทยามะนั้นมีความสามารถพิเศษแอบซ่อนอยู่อย่างนึงที่เรียกว่า “ฮิสทีเรียโหมด” ซึ่งโดยรวมก็คือโหมดยอดมนุษย์นั่นเอง, โดยเมื่อใดก็ตามที่โหมดนี้ทำงาน ความสามารถทางกายภาพ สติปัญญา ไหวพริบ ความว่องไว จะสูงขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งนั่นทำให้ตะกูลโทยามะธรรมดาๆหลายคนกลายเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมชนิดที่ว่า อาเรีย ซึ่งเป็นระดับ S ยังสนใจอยากให้มาทำงานด้วยเลย เก่งขนาดไหนรึ? เอาเป็นว่า โหมดนี้สมองมันจะดีพอๆกับยอดนักสืบ คิดตรรกะต่างได้อย่างรวดเร็วจนหาความเชื่อมโยงระหว่างรูปคดีที่ซับซ้อนได้ ขณะที่ร่างกายมันจะว่องไวพอๆกับนักสู้ชั้นเลิศ ฝีมือแม่นยำเหมือนจับวางอีกต่างหาก จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:52:00

ความคิดเห็นที่ 24 ข้อจำกัดของโหมดฮิสทีเรีย แน่นอนว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ ย่อมต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างเช่นกัน ซึ่งในกรณีของฮิสทีเรียโหมด นี้มีขีดจำกัดของมันคือ มันเป็นสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเจ้าของในสภาวะปกติ แต่จะเป็นผลต่อเนื่องจากปฎิกิริยาบางอย่างของร่างกายบุคคลนั้นๆ ซึ่งแม้จะเป็นตะกูลเดียวกันแต่ปฎิกิริยาเงื่อนไขกลับแตกต่างกันไปเลย โดยกรณีของคินจินั้น เงื่อนไขของการเข้าโหมดนี้อยู่ที่ “อารมณ์ทางเพศ” (ช่างน่าอิจฉาดีไหมเนี่ย?) ที่เมื่อสูงขึ้นถึงระดับนึงแล้วจะเป็นการเรียกโหมดนี้ออกมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งนับว่าเป็นข้อลำบากหรือจุดเสียด้วยบางครั้ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนสภาพในสถานการณ์ที่เขาไม่ต้องการ และเอาเข้าจริงๆแล้ว, คินจิเองนั้นรังเกียจความสามารถพิเศษนี้ไม่น้อยเลย เพราะทันทีที่เข้าโหมดฮิสทีเรีย, คินจิจะกลายสภาพเป็นลักษณะเสือผู้หญิงไปกลายๆเลย ทั้งปากหวาน สุภาพบุรุษ มาดแมน และเทคแคร์ผู้หญิงดีเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเหล่าเด็กผู้หญิงในโรงเรียนเก่าของเขาได้รู้จุดอ่อนนี้ และหลอกใช้ประโยชน์จากเขาโดยไม่สามารถปฏิเสธได้ .นั่นทำให้คินจิพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมีปฎิสัมพันธ์กับสาวๆมากเท่าที่จะเป็นไปได้เลย นอกจากนี้โหมดฮิสทีเรียยังมีผลกระทบทางอ้อมอีกไม่น้อย เพราะเวลาที่โหมดนี้ทำงานนั้นมีจำกัด ระดับคินจิในนิยายเล่มแรกๆนั้นทำได้ต่อเนื่องเพียงไม่กี่สิบนาที และยิ่งคงสภาพอยู่นานแค่ไหน อัตราการเผาผลาญพลังงานยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น และทำให้ร่างกายอ่อนล้าอย่างรวดเร็วเมื่อหลุดออกจากสภาวะฮิสทีเรีย สำหรับคินจิที่ใช้โหมดนี้เพียง 10-15 นาทีนั้นต้องหลับพักถึงหลายชั่วโมงกว่าจะฟื้นคืนได้ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:53:46

ความคิดเห็นที่ 25 ที่นี้มาดูอาวุธประจำกายของพระเอกเราคนนี้กันบ้าง คินจิ มีอาวุธหลักติดตัว 2 อย่างครับคือ ปืน Beretta 92F เบเร็ตต้า 92 ที่ตาคินจิมันใช้นี่จัดเป็น 1 ในปืนพกกึ่งอัตโนมัติที่โด่งดังที่สุดในโลกทีเดียวครับ ซึ่งตะกูลเบเร็ตต้านี่จริงๆแล้วมีการแบ่งออกเป็นหลายคลาสตามขนาดกระสุนปืนที่ใช้ ซึ่ง 92F นี่จะใช้กระสุนขนาด 9mm พาราเบลลั่ม ซึ่งเป็นไซส์เดียวกับอาเรียด้วย โดยจุดเด่นของมัน 2 อย่างก็คือ - เบเร็ตต้าเป็นปืนที่มีรูปแบบการโมดิฟาย หรือปรับแต่งต่างๆเยอะมาก เป็นปืนที่เหล่านักดัดแปลงทั้งหลายชอบสุดๆเพราะลูกเล่นการประกอบมันยอมให้ทำได้เยอะมากๆ ชนิดถ้าคุณต้องการคุณสามารถเปลี่ยนน็อตได้ทุกตัวของมันได้กระนั้นเลย - เป็นปืนที่ความจุกระสุนค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับขนาดของมัน โดยแมกาซีนหลายแบบของมันนั้นมีตั้งแต่ 10-20 นัดทีเดียวตามต้องการ ขณะที่ปืนพกทั่วไปมักได้เพียงแค่ 8-15 นัดเป็นอย่างสูง อย่างกรณีของคินจิเรานั้นก็ได้ให้หนูฮิรากะ จากคลาส amdo ช่วยในการโมดิฟายปืนกระบอกนี้ให้เป็นปืนพกอัตโนมัติไปเลย (กลายเป็นปืนกลยิงชุด 3 นัด) ซึ่งอันที่จริงการดัดแปลงแบบนี้มันผิดกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่ด้วยนะครับ ^^” จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:55:24

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าให้มองแล้วผมว่าคินจิก็เลือกอาวุธได้เหมาะสมกับตัวเองดีครับ, เบเร็ตต้านั่นจัดเป็นของมาตรฐานไม่ไฮโซเกินไป พวกอะไหล่ กระสุนอะไรก็ใช้มาตรฐานหาได้ง่ายราคาถูก เหมาะกับนักสืบยุทธ์ระดับจนๆดีแท้ แถมข้อดีที่บรรจุกระสุนได้มากก็เป็นเครื่องการันตีว่า ถึงยิงไม่แม่น หรือยิงแบบผลาญกระสุนด้วยโหมด auto ก็ยังสามารถสู้ได้ต่อเนื่องพอตัว หน้าตาจริงๆเป็นแบบนี้ครับ  สมเป็นปืนชาติตะกูลอิตาลี่จริงๆ (ใน Gunslinger Girl จะเห็นคนถือว่อนไปหมด) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:56:50

ความคิดเห็นที่ 27 มีด Balisong Knife (Butterfly Knife) มีดพับที่เป็นอาวุธเสริมของคินจิ ซึ่งในนิยายมักถูกเอ่ยถึงว่ามีดพับ, มีดปีกผีเสื้อ แบบทับศัพท์ไป แต่ศัพท์ตั้งต้นนั้นเรียกกัน Balisong ครับ ซึ่งเป็นอาวุธมีดพับขนาดกะทัดรัดที่สร้างครั้งแรกโดยชาวฟิลิปปินส์ และภายหลังก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยสาเหตที่มันถูกเรียกว่ามีดปีกผีเสื้อก็เพราะรูปแบบการใช้ของมันที่จะมีการคลี่ด้ามจับออกทั้งสองด้านเหมือนผีเสื้อหรือการคลี่ใบพัด จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:57:56

ความคิดเห็นที่ 28 อันนี้เอาโครงสร้างของตัวมีดมันมาให้ดูนิดหน่อย ซึ่งเป็นมีดที่เหมาะสมกับนักสืบยุทธ์มากเพราะสามารถพับเก็บและซ่อนไว้ตรงไหนก็ได้ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องปลอกมีด หรืออันตรายจากการเลื่อนหลุดเลย แต่สิ่งที่จะลำบากหน่อยคือการฝึกฝน ที่จะต้องปลดล็อคตัวมีดและกางออกให้ทันเวลา (ส่วนใหญ่ใช้วิธีหมุนควงเอา ซึ่งคินจิก็ทำได้ดี) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:58:51

ความคิดเห็นที่ 29 gif สั้นๆ เพื่อให้นึกออกว่าหมุนมันออกมาได้ยังไงครับ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 12:59:20

ความคิดเห็นที่ 30 8.โรคฮิสทีเรีย~ ของจริงๆแล้วมันคืออะไรหว่า?? ฮิสทีเรีย (Hysteria) เป็นชื่อเรียก ของอาการทางประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เป็นฮิสทีเรียจะมีอาการเกี่ยวกับการควบคุม อารมณ์ การควบคุมจิตสำนึก ด้านการกระทำลดลง และความกลัวต่าง ๆ โดยอาการฮิสทีเรียนั้น ถือว่าเป็นชนิดหนึ่งในประเภทของ โรควิตกกังวล* ก็ว่าได้ หรือจะเป็น โรคขาดความอบอุ่น* ก็ได้เช่นกัน อาการ ผู้ที่เป็นฮิสทีเรียจะมีอาการ ยึดติดกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของตน ด้วยการกระทำดีด้วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้ง ยังจะมีอาการคิดมากวิตกกังกวล อยู่ตลอดเวลา โดยส่วนมากจะเป็นความคิดประเภทที่ว่า ตนเองเป็นคนไร้ความสามารถ มีปมด้อย มีความสามารถด้อยกว่าคนอื่น ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม อาการอีกอย่างนึงคือ "ความกลัว" กลัวตนเองทำผิดพลาด กลัวว่าตนเองจะ ถูกทิ้ง กลัวที่จะถูกหวัง กลัวที่จะเริ่มอะไรใหม่ ๆ อาการกลัวที่ได้กล่าวไปเป็นอาการกลัวอันดับต้นๆ ของผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย สิ่งหนึ่งที่ผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย มักจะเป็นกันคือ การไม่รู้ตัวตนเองของตัว จึงทำให้ ถ้ายึดติดกับสิ่งใด หรือใครแล้ว จะยึดติดมาก แทบจะไม่ปล่อย และไม่ฟังเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น นั่นอาจรวมไปถึง พฤติกรรมการเลียนแบบ อีกด้วย การรักษา? อย่างที่ได้บอกไปเป็นนัย ๆ แล้ว ฮิสทีเรีย ไม่ใช่โรค จึงไม่อาจมีการรักษาใดๆ ได้ (ยกเว้น การใช้ยาบางชนิด เพื่อกระตุ้นการหลั่งสาร ที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ แต่นั่นก็ไม่ถือว่า เป็นการรักษาอยู่ดี ถือเป็นการฝืนมากกว่า) สิ่งที่จะทำให้ได้สำหรับผู้ที่เป็นฮิสทีเรียคือ การให้คำปรึกษาที่ดี จากคนใกล้ตัวเอง หรือแม้แต่จิตแพทย์ และที่สำคัญที่สุด ความตั้งใจจริง ที่จะค้นหาตัวตนของตัวเอง ฮิสทีเรีย ไม่ใช่สิ่งที่เป็นได้ตั้งแต่กำเนิด เพราะฉะนั้น หากมีผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย ให้สันนิฐานเบื้องต้นไว้ ได้เลยว่า ในอดีตบุคคลผู้นั้น ได้เคยมีการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง หรือแม้แต่การ ขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน ถ้าท่านมีคนที่รู้จักเป็นฮิสทีเรีย โปรดนึกไว้เถอะว่า ถึงแม้การกระทำของเขาจะน่ารำคาญ แต่สิ่งที่ เขาทำมันมาจากจิตใจที่อ่อนแอของเขาเอง และได้โปรดพึงระลึกไว้เสมอว่า ฮิสทีเรียไม่ใช่อาการ ขาดผู้ชายไม่ได้ เสมอไป สำหรับผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย คุณไม่ได้น่ารังเกียจ และไม่ได้ด้อยกว่าใคร ในสังคมนี้ คุณมีทุกสิ่งสมบูรณ์พร้อมเหมือนคนอื่นทุกประการ เพียงแต่สิ่งสำคัญคือ คุณจะเป็นจะต้องหาตัวตนของคุณให้เจอเท่านั้นเอง *เป็นชื่อเรียกภาษาปาก เพราะจริง ๆ แล้วมันเป็นอาการทางด้านจิตใจ มิใช่โรค **ชื่อตาม Cassandra ธิดาของ Priam กษัตริย์แห่ง Troy ข้อมูลนี้ผมไม่ได้เขียนเองนะครับ  แต่ขอยกมาจากคุณ Ssain แหล่งข้อมูล: http://en.wikipedia.org/wiki/Hysteria http://en.wikipedia.org/wiki/Cassandra_Complex แปล เรียบเรียง และความรับผิดชอบทั้งหมด: Sain (Writer-Club.net) ======================================= ดังนั้นอย่าไปสับสนกับอาการฮิสทีเรียในนิยายเรื่องนี้นะครับ  เดี๋ยวจะเข้าใจว่าคนเป็นฮิสฯนั้นจะแปลงร่างแบบคินจิได้ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 13:08:06 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:04:33

ความคิดเห็นที่ 31 9. E.U สมาคมลับแห่งผู้แข็งแกร่ง Warining//บทความนี้สปอยนิยายอาเรียเล่ม 1-3 เล็กน้อย (ระดับไม่เสียอรรถรสมาก) =================================== Entry นี้ขอใช้กล่าวถึงฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนนักสืบยุทธ์หน่อยละกันครับ โดยจะพูดถึง E.U ที่จะถูกเอ่ยถึงเป็นพักๆระหว่างช่วงนิยายเล่ม 1-2 แต่ไม่มีร่องรอยอะไรมากนัก นอกจากพอจะเดาได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมของตัวร้ายหลายๆคนในนิยายเรื่องอาเรียนี้ แล้ว E.U มันคืออะไรหว่า?? ตอนแรกผมเชื่อขนมกินเลยว่า 90% ที่เห็นชื่อนี้ครั้งแรกจะนึกถึง "EU" ที่ออกเสียงว่า "อี-ยู" อันหมายถึง European Union (สหภาพยุโรป) ซึ่งมันก็ดูสมเหตผลไม่น้อยลยเพราะเป็นเครือข่ายประเทศที่ทรงอิทธิพลอย่างมากๆ อาจจะมากกว่าจีน, รัสเซีย หรืออเมริกาด้วยซ้ำไป ....และอาจเป็นเทคนิคการสับขาหลอกของผู้แต่เรื่องนี้เพราะคนอ่านอย่างเราๆนั้นไม่รู้เลยว่าตัวละครในเรื่องออกเสียงคำว่า E-U นี่แบบไหน อันที่จริงแล้ว EU ในเรื่องอ่านว่า "อี-อู" ครับ (หรือถ้าในเวอร์ชั่นนิยายแปลไทย ผู้แปลใช้คำว่า "อิ-อู" ก็ไม่ได้ผิดอะไร ซึ่งที่มาของมันเริ่มตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลย ระหว่าง 2พันธมิตรฝ่ายอักษะ เยอรมัน-ญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างกันออกไปคนละซีกโลกและถูกคั่นกลางด้วยกองทัพฝ่ายพันธมิตรในแถบเอเชียกลางและเมดิเตอร์เรเนียน...ดังนั้นการที่จะติดต่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร/เทคโนโลยีต่างๆระหว่างกันจึงจำกัดมาก ....เรือดำน้ำจึงถูกนำมาใช้ในภารกิจนี้.... ตลอดสงครามโลกทั้งจักรพรรดินาวีและครีกซ์มารีนได้มีการใช้เรือดำน้ำขนส่งสินค้า อาวุธ และแบบแปลนเทคโนโลยีต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรือดำน้ำฝั่งเยอรมันใช้รหัสว่า "U-boat" ขณะที่ฝ่ายญีปุ่นจะใช้รหัสว่า "E-boat" (แต่ถ้าเป็นรหัสของฝ่ายสัมพันธมิตรจะเรียกว่า I-Boat) EU-ในนิยายของอาเรียเองก็เริ่มถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ยุคนั้น, และด้วยความสัมพันธ์ลักษณะนี้เอง ทำให้ภาษาญี่ปุ่นและเยอรมันกลายเป็นภาษาทางการของสมาชิกในองค์กร EU จึงไม่น่าแปลกใจที่สมาชิกชาวยุโรปแต่ละคนที่ปรากฎในเรื่องถึงพูดยุ่นได้คล่องราวกับเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆเลย (คนแต่งมันเข้าใจผูกเรื่องดีแฮะ ^^") แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 13:09:33 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:07:02

ความคิดเห็นที่ 32 โครงสร้างองค์กรของ E-U E-U นั้นเป็นองค์กรที่แปลกประหลาดหน่อย คือ "ไม่มีระบบหัวหน้าหรือผู้นำที่ชัดเจน" เพราะถือว่าทุกคนที่อยู่ในองค์กรนั้นเท่าเทียมกัน และมีทักษะความสามารถต่างกันออกไป เพียงแต่จะมีการจัดลำดับความสามารถเป็นหมายเลข ซึ่งอันดับ 1 จะคล้ายๆกับบอสขององค์กรในทางนิติบุคคล และรับสถานะเป็นผู้สืบทอดงานบริหารขององค์กร จุดเด่นของ EU "Every skill must be shared" = ในความหมายนี้ขององค์กรคือ เหมือนกับสมัยสงครามที่แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ในปัจจุบันนี้สมาชิกทุกคนต้องถ่ายทอดวิชาให้แก่กันและกัน ห้ามกั๊กความรู้ ห้ามหวงวิชา และขณะเดียวกันสมาชิกทุกคนก็เปิดกว้างให้ได้ร่ำเรียนวิชาจากคนอื่นๆเสมอ ซึ่งในแง่ของนักศึกษาหรือนักวิทยาศาสตร์ใดๆแล้ว นับว่าเป็นสวรรค์น้อยๆทีเดียว ด้วยความที่ว่า EU มีบุคลากรระดับสุดยอดเยอะมาก...และนโยบายองค์กรแบบนี้ยิ่งทำให้คนภายนอกที่เก่งๆยิ่งอยากเข้ามาแลกเปลี่ยนใจจะขาดทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น กรณีริโกะ ซึ่งสืบทอดทักษะของยอดจอมโจรลูแปงมา ก็ถ่ายทอดวิชาปลอมแปลงตัว การเปลี่ยนเสียง ขณะที่เรียนรู้ทักษะด้านการประกอบระเบิด และเซนเซอร์ต่างๆจากสมาชิกคนอื่นของ EU เป็นต้น แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 13:11:45 แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 13:10:53 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:10:28

ความคิดเห็นที่ 33 EU ในปัจจุบัน EU เป็นองค์กรที่ไม่เปิดเผยที่ตั้งของตนเองแน่ชัด (unspecific) ซึ่งทหารและตำรวจทั่วโลกก็ไม่อาจค้นเจอได้ง่ายๆ เพราะฐานทัพหลักในปัจจุบันคือเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ของอดีตสหภาพโซเวียตที่ดัดแปลงใหม่จนกลายเป็นฐานเคลื่อนที่ทีเดียว และเรือดำน้ำลำนี้ก็ได้มีบทบาทในช่วงท้ายของนิยายเล่มแรกอีกด้วย (เดากันดูได้ครับ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:12:31

ความคิดเห็นที่ 34 นับไปนับมา พอยุบหัวข้อแล้วทำไมเหลือ 9 อันเองหว่า   แก้หัวกระทู้ไม่ได้สะด้วยสิ   แต่วันนี้คงลงได้แค่นี้ก่อนหละครับ ที่เหลือยังไม่ได้เรียบเรียงเลย   อย่างกระทู้นี้พอกลับมาย้อนอ่านอีกทีก็รู้สึกว่า จัดวางหน้าไม่ค่อยสวยเหมือนกัน  (ใช้ template blog ก็ไม่ได้ด้วยสิ ) ยังไงถ้าหากอ่านยาก  ข้อมูลไม่ครบ  หรืออะไรผิดพลาดไปก็น้อมรับเต็มที่ครับ  หรือหากรับชมเพิ่มเติมก็ชมต่อใน blog ได้เลย (จะต่างกันเล็กน้อยตรงใน blog รูปค่อนข้างเยอะ ทำให้ลำบากในการลงเป็นกระทู้พอสมควรครับ) /me  ใครอ่านจบนับว่าอึดดีมาก    ขอเสียงหน่อยสิขอรับ (ขอกีปด้วย ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:20:14

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับ ได้เกร็ดความรู้ในเรื่องอีกเยอะเลย จากคุณ : LLL57 (f_m_p57) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:28:26

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณท่านKrossมากครับ รู้แล้วว่ามิสไซล์ท้ายเล่ม1มาจากไหน ดูภาพแล้วเคลียร์ทุกอย่างเลย รอเอนทรี่แนะนำตัวละครอื่นอยู่นะครับ อยากเห็นของเรกิกับชิรายูกิไวๆจัง ^^ แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 13:43:05 จากคุณ : Mr.MecH เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:42:55

ความคิดเห็นที่ 37 Gun Katas จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:54:54

ความคิดเห็นที่ 38 ปืนคินจิิ เหมือนแต่งจาก M92F เป็น M93R เลยล่ะ จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 13:55:37

ความคิดเห็นที่ 39 ตัวอย่างการควง Butterfly Knife เมื่อก่อนเคยหัดอยู่พักนึง แต่เกือบบาดมือเลยลิกไป จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:02:33

ความคิดเห็นที่ 40 Colt 1911 กระสุน .45 (11 มม.)ใครเคยลองยิงจะรู้ว่ามันสะท้อนแรงแค่ไหน ขนาดผู้ชายจับสองมือยังไม่นิ่งเลย อาเรียนี่มือเล็ก ๆ มือเดียวนะครับ คิดเอาละกัน ในคลิปเป็น Colt gold cup ที่เดี๋ยวนี้รู้สึกจะมีแต่ใบจอง หาตัวปืนไม่ได้ (แถมกระสุนแพง..บหาย) แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 54 14:09:39 จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:06:17

ความคิดเห็นที่ 41 อันนี้ดาบของอาเรีย น่าจะเป็นดาบสั้นที่พวกนินจาเขาใช้กัน จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 14:44:48

ความคิดเห็นที่ 42 มาลงชื่อว่าอ่านจบครับ ^_^ ปล.แล้วจะรออ่านตัวละครที่เหลือนะครับ จากคุณ : Arata เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:30:03

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากครับ หวังว่าคงมีตอนต่อไปเดร็วๆนี้นะ จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:49:09

ความคิดเห็นที่ 44 Gunkata ต้นฉบับ มาจากเรื่อง Equilibrium ครับ หนังเก่าแล้วละ สนุกน่าดูลองหาดูนะ (นาทีที่ 2.40) จากคุณ : Getter_ROBO เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 20:55:30

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ  ที่นำมาบอกกันนะครับคุณ  Kross_ISC  แล้วจะติดตามงานต่อไปนะครับ  ^^ จากคุณ : Dreammaker_Toon เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 21:49:52

ความคิดเห็นที่ 46 เข้ามาอ่านเช่นกันครับ แต่พูดถึงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ของอดีตสหภาพโซเวียตที่ดัดแปลงใหม่ไม่รู้ทไมดันไปนึกถึงดานันของเทซซ่าจังก็ไม่รู้ซิ จากคุณ : Tsundere no tsukaima เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 54 23:36:15

ความคิดเห็นที่ 47 //40 ในบรรดาคนรู้จักผม มีคนนึงที่มีนะ  เห็นเขาก็บ่นเหมือนกันกระสุนแพงเว่อร์จนเอามายิงเล่นๆไม่ได้   ชนิดที่ว่าเขาไปซื้อเครื่องอัดดินปืนมาปั้มกระสุนทำกันเองเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 01:20:47

ความคิดเห็นที่ 48 มาลงชื่อว่าอ่านครบครับ ^^ ขอบคุณครับ จากคุณ : crazyyos เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 18:41:48

ความคิดเห็นที่ 49 gunkata อีกอันจาก Equilibuim http://youtu.be/kZzQ9BF_mKE แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 13:24:52 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:24:09

ความคิดเห็นที่ 50 การต่อสู้ด้วย Gunkata/Arukata ในอนิเม เกม ต่างๆ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 22:58:16