ความคิดเห็นที่ 1 “เครือข่ายคนรักหนังต่อต้านการโฆษณามหาโหดของโรงหนังเครือเมเจอร์”  ได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 วัตถุประสงค์ใหญ่คือ เป้นการรวมตัวกันของผู้บริโภคที่รักในการชมภาพยนตร์  ในโรงภาพยนตร์ แม้สิ่งนึงที่เราโดนโจมตีเสมอคือหลายๆคนมักจะบอกว่า การชมภาพยนตร์คือสิ่งฟุ่มเฟือย แต่มนุษย์เราก็ควรจะมีสิ่งบันเทิงสิ่งนันทนาการเพื่อความรื่นรมย์บ้าง ทั้งนี้คือความต้องการพื้นฐานอย่างหนึ่ง และตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคภาพยนตร์ในโรง รู้สึกได้ถึงการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างมากมายของเครือใหญ่ แม้เราจะเคยได้รับคำตอบจากโรงภาพยนตร์ที่จับใจความได้ว่าบริษัทในเครือแห่งนี้เน้นการยกระดับคุณภาพให้เป็นโรงภาพยนตร์ระดับโลก แต่ในความเป็นจริง ภาพลักษณ์ สินทรัพย์ มันเป็นของทางเครือ ประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับผู้บริโภคเลยแม้แต่น้อย นี่คือขอเรียกร้องที่เราจะเสนอแก่ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ ที่เราอยากจะเห็นทาง สคบ ออกมาทำงานเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอย่างแท้จริง        1.  เครือเมเจอร์ แบ่งแยกโรงหนัง และราคา ตามพื้นที่ ตามประเภทโรง และ ตามเทคโนโลยี รวมไปถึงจำแนกวันอีก ป้ายราคามีการติดเอาไว้หน้าโรงฉาย แต่ราคาที่ไปตกลงซื้อหน้าเคาเตอร์เป็นอีกราคาหนึ่ง   เช่น ติดป้ายบอกว่าราคา 140 บาท แต่ไปถึงหน้าเคาเตอร์กลายเป็น 180 บาท บางครั้งในกรณีหนังใหญ่ หนังดังมีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาอีก 20 บาท โดยอ้างว่าทุนสร้างสูง(เรื่อง Iron Man 2) , โปรโมชั่นวันพุธ 60 บาท กลับขายในราคา 100 บาท, บัตรสมาชิกไม่สามารถใช้ลดกับหนังบางเรื่องได้ เป็นต้น ซึ่งสร้างความสับสนกับผู้บริโภค และรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบเป็นอย่างมาก บางครั้งลูกค้าเดินทางมาไกล ก็จำเป็นต้องดูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมาค่าตั๋วที่นั่งปรกติเพิ่มจาก 120 เป็น 140 บาท และล่าสุดจาก 140 บาทเป็น 160 บาท (ในรอบฉายวันเสาร์-อาทิตย์) แต่ในขณะเดียวกันโฆษณาก็เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยโฆษณาเหล่านี้ ถือเป็นรายได้ที่ทางโรงได้ขึ้นมาเพิ่มขึ้น จนมีความยาวรวมกับตัวอย่างหนัง ถึง 30-40 นาที ในทางที่ควรเป็นบัตรชมภาพยนตร์ควรจะลดราคาลง หรืออย่างน้อยก็จะไม่สมควรขึ้นราคา ในส่วนนี้ ควรจะออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงราคานี้ต่อไปอย่างน้อยอีก 2 ปี จะไม่ขึ้นราคาอีก   ทางเครือข่ายเราขอเรียกร้องให้ทางเครือเมเจอร์มีการแจ้งราคาตั๋วที่ชัดเจน ถูกต้อง ทั้งบริเวณหน้าโรงหนัง และในเวบไซต์ของทางเมเจอร์ที่สามารถคลิกดูได้ง่าย และชัดเจน เพราะการแจ้งราคาสินค้าคลุมเครือ นั้นผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคอยู่แล้ว และควรจะลดเวลาฉายโฆษณาลงมาให้เหลือเฉพาะเพียงโฆษณาไม่เกิน 3 นาที(ไม่รวมภาพยนตร์ตัวอย่าง) ซึ่งในความเป็นจริง ในโรงภาพยนตร์ที่ลูกค้าเสียเงินเข้ามาชมภาพยนตร์ มันไม่สมควรจะมีโฆษณาแม้แต่ชิ้นเดียวด้วยซ้ำ   2.  ในส่วนของการกำหนดราคา  ป็อปคอร์น ขนม และเครื่องดื่ม อยากให้ทาง สคบ ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า ทางเครือเมเจอร์สามารถกำหนดราคาให้สูงกว่าฉลากหรือราคาท้องตลาดตามอำเภอใจได้หรือไม่  ถ้าทำได้จริง ทางเครือข่ายเราจะไม่เข้าไปแตะกับเรื่องกลไกราคาของเครือเมเจอร์ ให้เค้าขายชุดละ 500 เราก็ไม่ว่า   แต่อยากให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยคุ้มครองผู้บริโภคด้วยเมตตาธรรมด้วย การเข้าชมภาพยนตร์ในโรงฉาย 1 เรื่อง รวมกับโฆษณาอีกร่วมครึ่งชั่วโมง ทำให้คนดูหนังต้องอยู่ในโรงภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 2- 3 ชั่วโมง หากกระหายน้ำหรือหิว เค้าควรจะมีอาหารว่างและเครื่องดื่มพกพาเข้าไปทานได้เอง โดยไม่รบกวนผู้ชมคนอื่นด้วย ดังนั้น สคบ ช่วยออกมาชี้แจงได้หรือไม่ว่า โรงภาพยนตร์ไม่มีสิทธิ์จะมาห้ามลูกค้าเอาเครื่องดื่มและขนมเล็กๆน้อยๆ เข้าไปในโรงภาพยนตร์เองได้ ถ้าทางโรงอ้างว่าควบคุมอาหารข้างนอกไม่ได้เกรงว่าจะส่งกลิ่นอบอวล ก็อยากจะเรียนถามทางโรงว่า แซนวิชแฮมชีส ไส้กรอกทอดแสนแพงที่ทางโรงภาพยนตร์นำมาจำหน่าย มันเป็นแบบพิเศษไม่มีกลิ่นใช่หรือไม่ ใช้เทคโนโลยีแบบไหนในการผลิต และถ้าลูกค้าซื้อน้ำเปล่าเข้าไปเอง ทำไมจึงไม่ได้   เคยมีกรณีศึกษา คุณแม่พาลูกไปดูการ์ตูน แต่โดนพนักงานตรวจของและยึดกล้วยน้ำว้ากับนมกล่องไว้ โดยอ้างว่าห้ามนำอาหารเข้าไป คุณแม่ผู้น่าสงสารบอกว่าจะให้ลูกฉันกินแต่น้ำอัดลมกับป็อปคอร์นหรือ ?   3.  โรงภาพยนตร์จะต้องอำนวยความสะดวกในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ด้วยการเปิดช่องจำหน่ายตั๋วให้เต็มทุกช่อง ไม่ใช่เปิดแค่ 1-2 ช่องเพื่อให้คิวยาว และเอาพนักงานไปโฆษณาชวนเชื่อบอกว่าถ้าไม่อยากต่อคิวให้ซื้อบัตรเติมเงินแบบนี้ และตัวบัตรเติมเงินก็ต้องมีความชัดเจน อายุ 1 ปี เงินเหลือ โดนยึด ทำไมโดนยึด และทำไมจึงเติมเงินเพื่อให้พอค่าบัตรไม่ได้ เช่นเงินเหลือ 40 บาท ค่าตั๋ว 180 บาท ต้องเติม 200 บาท ดูหนังไปเงินก็ยังมีเศษเหลือ 60 บาท มันจะเป็นภาระผูกพันที่ไม่จบ พอครบ 1 ปีเศษเงินเหลือกี่บาท ก็จะโดนยึดไปหมด แต่หากจะต้องการต่ออายุก็จะต้องเสียเงิน 100 บาท เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคเลย   4.  ภาพยนตร์โฆษณาที่ยาวนาน มีส่วนกินเวลาการจอดรถ แม้จะมีประทับตราที่จอดรถก็ยังไม่พอ จนต้องเสียค่าที่จอดรถเพิ่ม หากตัดโฆษณาออกไปลูกค้าก็สามารถเอารถออกทันและไม่เสียค่าที่จอดรถ ทำให้เมเจอร์ฯ ได้สองต่อ คือได้ค่าโฆษณาด้วย ได้ค่าที่จอดรถด้วย นี่คือสิ่งที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ควรจะต้องเข้าไปกวดขันด้วย   5.  สุดท้ายถ้าหาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่สามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้เลยสักข้อ อยากจะสอบถามว่าท่านมีมาตรการที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อที่จะสามารถทำให้ตัวเองได้ชื่อว่าเป็นข้าราชการของประชาชน ที่จะช่วยเหลือประชาชน และการผลักดันแก้ไขกฎหมายต้องใช้เสียงประชาชนกี่คน ต้องทำหนังสือ ต้องยื่นเรื่อง หรือต้องร้องเรียนศาลคุ้มครองผู้บริโภคกันเอง เพราะ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ทำอะไรไม่ได้แล้ว   ขอแสดงความนับถือ เครือข่ายคนรักหนังต่อต้านการโฆษณามหาโหดของโรงหนังเครือเมเจอร์ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 14:49:06

ความคิดเห็นที่ 2 -*- -ไม่ควรมีโฆษณาแม้แต่ชิ้นเดียว ( ยกเว้นโฆษณาภาพยนตร์) ...เพราะ เรา  เสีย เงิน ไม่ ได้ ดู ฟรี... แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 11:59:10 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 54 15:00:17 จากคุณ : ทองซิว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 14:54:04

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยทุกประการ ถ้าทุกอย่างมีปรับปรุงขึ้น จะกลับไปดูหนังโรงอีกครั้ง หลังจากไม่เดินเยื้องกรายเข้าใกล้มาเป็นเวลาเกือบ 5 ปี ที่ผ่านมาอดทนรอดูหนังแผ่นหรือเช่าตามร้านเช่า จากคุณ : ทุกอย่าง มี สองด้าน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:03:49

ความคิดเห็นที่ 4 สรุปแล้วพอกันแหละ ระหว่าง เมเจอร์ กับ สคบ. จากคุณ : ทองซิว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:08:04

ความคิดเห็นที่ 5 โฆษณาก็ไม่ว่า ถือว่าโรงหนังได้ผลประโยชน์ ทำธุรกิจ แต่ขอให้ค่าตั๋ว ชี้แจงมาตรง ๆ ไม่ใช่ วันนี้ 120 บาท หนังใหม่ใช้ไม่ได้ เก่าใหม่ก็ไม่ต่างกันหรอก วันพุธตรง ๆ ไปเลย จะกี่บาท ทุกเรื่อง ทุกรอบ จากคุณ : Joe Satriani เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:09:19

ความคิดเห็นที่ 6 เจ้าของหนัง ก็โดนโรงเอาเปรียบ คนดู ก็โดนโรงเอาเปรียบ จากคุณ : ทองซิว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:15:25

ความคิดเห็นที่ 7 ข้าราชการไทยมักเป็นแบบนี้ v v v v v v การร้องเรียนแบบเรียบๆ ง่ายๆ มักไม่ได้รับการเหลียวแล ต้องมีเรื่องมีราว ปิดถนนหนทาง ก่อความวุ่นวาย เขาถึงเหลียวแล (น่าเบื่อ) แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 12:00:17 จากคุณ : ทองซิว เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:19:13

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นกำลังใจให้ค่ะ ถ้ามีการลงชื่อ เพื่อให้จดหมายมีความหนักแน่นมากขึ้น ติดต่อเราได้ค่ะ ยินดีไปร่วมลงชื่อถึงที่ค่ะ จากคุณ : ตันหยง บูรณา เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:30:11

ความคิดเห็นที่ 9 โรงหนังตามต่างจังหวัด ไม่มีโฆษณา ราคาตั๋วถูกกว่า เข้าฉายพร้อมกัน ทำไมทำได้  และในเมื่อจ่ายเงินเพื่อบริโภคหนัง แต่ทำไมต้องยัดเยียดโฆษณาสินค้าเข้า เมื่อเป็นเช่นนี้ รอดูหนังแผ่นดีกว่าไหมครับ เมื่อเก็บเงินค่าเข้าชมก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้บริโภคมาก ควรนำเงินค่าโฆษณามาเป็นตัวลดราคาตั๋วหนัง ไม่ให้แพงเกินควร แต่ตั๋วแพง แล้วยังยัดเยียดโฆษณานานๆอีก ผมว่าเก็บตังซื้อเครื่องเสียงดีๆเพื่อนำมาทำ Home Theatre ดีกว่าไหมครับ ป.ล. ผมเลิกเข้าโรงนานแล้ว เพราะโฆษณานาน ตั๋วแพง แล้วยังมีสารพัดผีโรงหนังอีก  จากคุณ : riderzx เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 15:30:57

ความคิดเห็นที่ 11 ด่ากันทำไม   ผมเห็นคนไทยไปดูำกันเต็มเลย บ่นกันทุกทีเหมือนเลือกตั้งอ่ะ เลือกเสร็จมาด่าพวกมัน แต่พอมันทำหน้าที่บอกมันห่วย  ที่จริงเวลา สส. พื้นที่ไหน โหวตอะไร น่าให้ คนในพื้นที่มันรับรู้เนอะ คนไทยดีแต่ปากครับ  ปากก็บ่น เก่งแต่บ่น ไม่เคยทำห่าอะไรได้จริงหรอก เห้นบ่นๆกันเนี้ย ผมว่ามีเยอะอ่ะ ที่ เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่าน ก็ไปดูเมเจอร์-เอสเอฟ ราคา140-180  กันมาอ่ะ อย่าบ่นครับ  เลิกบ่น แล้วลงมือทำ ทำได้ไหมที่ไปถึงหน้าโรงแล้วจะไม่ดู ถ้าราคาแพงเกินไป ทำได้ไหม ถ้าเช็คราคาแล้วแพงเกินไปจะไม่ดู บางคนเช็คราคาที่บ้าแล้ว พอถึงที่ก็ราคานั้นแต่ก็ยังบ่น เหมือนมันไม่รู้ก่อนออกจากบ้าน หลังๆมานี้ผมชักรำคาญนะ  เห้นบ่นๆกันเยอะ ผมก็สมน้ำหน้า+สะใจกับโรงหนังดีเหมือนกัน เพราะ ถ้าผมเป้นผู้บริหาร ผมคงนั่งขำพวกคุณอ่ะครับ พวกมรึงบ่นกันทำไม คนดูเต็มโรงเลย จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:13:04

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านเจอใน FB ข่าวจาก We love SF ชี้แจงดังนี้ สำหรับกรณีการปรับราคาบัตรชมภาพยนตร์ขึ้นนั้น ทางเอส เอฟ ได้มีการปรับขึ้นเพียง 2 สาขา เท่านั้น คือ - สาขาจันทบุรี ราคาวันจันทร์ - พุธ จาก 90 เป็น 100 บาท และวันพฤหัส – อาทิตย์ จาก 100 เป็น 120 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2554 - สาขาตรัง ราคาวันจันทร์ - พุธ ยังคงเป็นราคาเดิม 100 บาท ปรับเฉพาะราคาวันพฤหัส - อาทิตย์ จาก 100 เป็น 120 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. 2554 แต่ไม่เห็นบอกสาขาอื่นเลยย.......เหอๆๆๆ จากคุณ : ลมโชยเย็นใจ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:13:09

ความคิดเห็นที่ 13 โ้อ้วววว  โหวตๆ อยากได้ๆ จากคุณ : คนใช้...ชีวิตร่วมกัน เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:45:06

ความคิดเห็นที่ 14 ความคิดเห็นที่ 11     ด่ากันทำไม   ผมเห็นคนไทยไปดูำกันเต็มเลย บ่นกันทุกทีเหมือนเลือกตั้งอ่ะ เลือกเสร็จมาด่าพวกมัน แต่พอมันทำหน้าที่บอกมันห่วย  ที่จริงเวลา สส. พื้นที่ไหน โหวตอะไร น่าให้ คนในพื้นที่มันรับรู้เนอะ คนไทยดีแต่ปากครับ  ปากก็บ่น เก่งแต่บ่น ไม่เคยทำห่าอะไรได้จริงหรอก เห้นบ่นๆกันเนี้ย ผมว่ามีเยอะอ่ะ ที่ เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่าน ก็ไปดูเมเจอร์-เอสเอฟ ราคา140-180  กันมาอ่ะ อย่าบ่นครับ  เลิกบ่น แล้วลงมือทำ ทำได้ไหมที่ไปถึงหน้าโรงแล้วจะไม่ดู ถ้าราคาแพงเกินไป ทำได้ไหม ถ้าเช็คราคาแล้วแพงเกินไปจะไม่ดู บางคนเช็คราคาที่บ้าแล้ว พอถึงที่ก็ราคานั้นแต่ก็ยังบ่น เหมือนมันไม่รู้ก่อนออกจากบ้าน หลังๆมานี้ผมชักรำคาญนะ  เห้นบ่นๆกันเยอะ ผมก็สมน้ำหน้า+สะใจกับโรงหนังดีเหมือนกัน เพราะ ถ้าผมเป้นผู้บริหาร ผมคงนั่งขำพวกคุณอ่ะครับ พวกมรึงบ่นกันทำไม คนดูเต็มโรงเลย จากคุณ : chelsit   เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:13:04   ----------------------- มีคนว่าตลอดไงครับ ว่าเมื่อไหร่ลงมือทำ พอเริ่มมีการลงมือทำ ก็เจอจรเข้ขวางคลองแบบนี้แหละ บอกว่าทำทำไม ทำไปก็ยังไปดู แล้วเมื่อไหร่จะได้เริ่มล่ะครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:08:47

ความคิดเห็นที่ 15 ของกินนี่บางที ผมขอแค่น้ำเปล่าได้มั้ย(ซื้อจากข้างนอก) ขอแค่อย่างเดียว ไม่ต้องขนมเหมือนกันกับทางโรงหนังก็ได้ (ถ้าดูจะขอมากเกินไป) หรือไม่ทางโรงก็ควรขายให้ไม่แพงเกินไป เช่น ข้างนอกห่อละ 30 ที่โรงก็อาจจะบวกไปแค่ 5 บาทได้มั้ย ถ้ามันไม่แพงมากก็จะซื้อ ที่จริงไม่ได้จะมากิน อยากมาแค่ดู แต่ถ้าอะไรที่ไม่แพงเกินไปก็จะซื้อ (เข้าใจใช่ป่ะครับ 55) จากคุณ : evenpokzo เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:09:08

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยทุกข้อ ยกเว้นข้อสาม จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:28:10

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 14 [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ความคิดเห็นที่ 11     ด่ากันทำไม   ผมเห็นคนไทยไปดูำกันเต็มเลย บ่นกันทุกทีเหมือนเลือกตั้งอ่ะ เลือกเสร็จมาด่าพวกมัน แต่พอมันทำหน้าที่บอกมันห่วย  ที่จริงเวลา สส. พื้นที่ไหน โหวตอะไร น่าให้ คนในพื้นที่มันรับรู้เนอะ คนไทยดีแต่ปากครับ  ปากก็บ่น เก่งแต่บ่น ไม่เคยทำห่าอะไรได้จริงหรอก เห้นบ่นๆกันเนี้ย ผมว่ามีเยอะอ่ะ ที่ เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่าน ก็ไปดูเมเจอร์-เอสเอฟ ราคา140-180  กันมาอ่ะ อย่าบ่นครับ  เลิกบ่น แล้วลงมือทำ ทำได้ไหมที่ไปถึงหน้าโรงแล้วจะไม่ดู ถ้าราคาแพงเกินไป ทำได้ไหม ถ้าเช็คราคาแล้วแพงเกินไปจะไม่ดู บางคนเช็คราคาที่บ้าแล้ว พอถึงที่ก็ราคานั้นแต่ก็ยังบ่น เหมือนมันไม่รู้ก่อนออกจากบ้าน หลังๆมานี้ผมชักรำคาญนะ  เห้นบ่นๆกันเยอะ ผมก็สมน้ำหน้า+สะใจกับโรงหนังดีเหมือนกัน เพราะ ถ้าผมเป้นผู้บริหาร ผมคงนั่งขำพวกคุณอ่ะครับ พวกมรึงบ่นกันทำไม คนดูเต็มโรงเลย จากคุณ : chelsit   เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 16:13:04   ----------------------- มีคนว่าตลอดไงครับ ว่าเมื่อไหร่ลงมือทำ พอเริ่มมีการลงมือทำ ก็เจอจรเข้ขวางคลองแบบนี้แหละ บอกว่าทำทำไม ทำไปก็ยังไปดู แล้วเมื่อไหร่จะได้เริ่มล่ะครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:08:47 [แก้ไข] """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" เขากระตุ้นก็ไปว่าเขาจรเข้ขวางคลอง ใครกล้าวร้าวไม่ได้ ต้องคุณคนเดียวใช่มั๊ย กล้าแสดงพลังก็ต้องกล้ารับฟัง นี่ขนาดยังไม่มีใครเขาตั้งกลุ่มต่อต้านคุณ คุณก็ออกอาการแล้ว จะเป็นตัวตั้งตัวตี ต้องนิ่งหน่อย จากคุณ : ปลาน้อยลอยตามน้ำ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 17:58:03

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อวานไปดู Super 8 ที่เอสพานาด ที่นั่งละ 210 บาท พระเจ้า ขึ้นลงเป็นตลาดหุ้นเลย ถามว่าทำไมแพง เจ้าหน้าที่บอกเป็นที่นั่งพิเศษ เลยถามกลับว่าพิเศษตรงไหน ครางที่แล้วมานั่งที่เดียวกันโรงเดียวกันแค่ 160 เอง พนักงานแถไปว่าหนังเข้าใหม่ เออ ดี จากคุณ : เก้ากระบี่เดียวดาย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 18:44:42

ความคิดเห็นที่ 19 ทำไมต้องเครือนี้เครือเดียว ที่คุณเรียกร้อง ต่อ สคบ มันทุกโรงเลยไม่ใช่เหรอ ข้อ1............. และควรจะลดเวลาฉายโฆษณาลงมาให้เหลือเฉพาะเพียงโฆษณาไม่เกิน 3 นาที(ไม่รวมภาพยนตร์ตัวอย่าง) ซึ่งในความเป็นจริง ในโรงภาพยนตร์ที่ลูกค้าเสียเงินเข้ามาชมภาพยนตร์ มันไม่สมควรจะมีโฆษณาแม้แต่ชิ้นเดียวด้วยซ้ำ ................................................................. ได้แจ้งทุกโรงหนังทุกเครือ เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?ไม่เห็นเครือไหนต่ำกว่า 3 นาทีที่คุณกำหนด แม้แต่โรงหนังที่รักของคุณ ................................................................. ข้อ2. แน่ใจว่าทุกเครือก็เหมือนๆกัน ห้ามนำอาหารนอกเหนือจากที่ขายและกำหนดไว้เท่านั้น ถ้าไม่จริง อยากพิสูจน์ให้ลองเอาข้าวผัดปู(ไม่ต้องถึงทุเรียน)ไปทานในโรงที่รักของคุณดูว่าทำได้ไหม? ...................................................................... ข้อ3.เรื่องนี้เป็นสิทธิของผู้บริโภค แต่ควรระบุชัดๆว่าบัตรอะไร ชื่ออะไร เดี๋ยวก็กลายเป็นของเครืออื่นไปอีก ดูตีคลุมมากๆ ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ข้อ4.มาบุญครอง เอ็มโพเรียม ดูหนังฟรีที่จอดรถ? เอาให้ชัดๆและเป็นธรรม ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ข้อ5.ไปว่าสคบ.ทำไม หนังสือเพิ่งยื่นไป หรือหนังสือ เป็นแค่เครื่องมือ ในการเปิดโปง ของคุณเท่านั้น ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ประเด็นคือ กะจะเปิดโปงๆ ให้ความธรรมกับทุกฝ่ายด้วย  ไม่รู้รอบจริงๆ จะกลายเป็นเครื่องมือในการทำลายใครบางคนได้ ใครคิดว่าโรงหนังประเทศไหนดีกว่าประเทศไทย ลองอธิบายมา ว่าดีกว่าอย่างไร อุตสหกรรมหนังจะหยุดอยู่กับที่ ก็เพราะกลุ่มคนที่นิยม ดูแผ่นผี และโหลดบิทเป็นประจำ แต่อ้างว่าไม่ไปโรง เพราะแพง ทั้งๆที่ประเทศไทยพัฒนาอุตสหกรรมมาได้ขนาดนี้แล้ว โรงภาพยนตร์ ทุกเครือ สร้างมาใหม่ๆ ไม่แพ้ใครในโลก ทั้งบริการ ระบบเสียง ระบบโรง แข่งโปรโมชั้่น แบ่งราคาเป็นช่วงเวลา ช่วงอายุ ตอบรับคนดูอยู่แล้ว แต่ที่ไม่โต เพราะแผ่นผี โหลดบิท ที่ได้มาฟรีๆไม่มีมูลค่าอะไร แค่แสดงความเห็นด้วยอีกคน จากคุณ : ปลาน้อยลอยตามน้ำ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 19:14:30

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องร่วมด้วยช่วยกัน...อย่าปล่อยให้เอาเปรียบกันมากเกินไป... ส่วนใครก็ตามที่ชอบให้คนอื่นเขาเหยียบย่ำเอาเปรียบ...ก็เชิญตามสบายเหอะ... ให้ถือซะว่าเป็นประเภทที่ชอบถูกสนตะพายก็แล้วกัน!! ช่วยไม่ได้จริงๆ จากคุณ : .....**{~_^!}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 19:17:12

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้ดูแต่ที่มีโปรลดราคาอ่ะ  ถ้าต้องจ่ายราคาเต็ม ไม่ไหวจริงๆ  รู้สึกว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:02:43

ความคิดเห็นที่ 22 เลือกเบอร์ 22 จากคุณ : punkskate208 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:09:02

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าคุณจขกท.คิดจะเป็นตัวตั้งตัวตีลุยแล้วต้องทำให้ถึงที่สุดนะคะ อย่าหวั่นไหวอะไรกับคนมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เราคิดมาตลอดว่าจะมีใครกล้าหาญพอจะทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นได้ไหม ในที่สุดคุณก็ทำได้แล้วไง อย่างน้อยบางสื่อก็สนใจ อีกอย่างเราเห็นด้วยกับเนื้อหาที่ว่ามา จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 20:18:28

ความคิดเห็นที่ 24 กลับไปทีุ่จุดเริ่มต้นจากการตั้งกลุ่ม “เครือข่ายคนรักหนังต่อต้านการโฆษณามหาโหดของโรงหนังเครือเมเจอร์” เห็นว่าชอบธรรมดี เราเห็นด้วยนะ อย่างน้อยก็เป็นการเตือนเพื่อให้ปรับปรุง และเราก็เห็นเขาก็เห็นการเปลี่ยนแปลงไปแล้วบ้าง แต่อาจไม่ถูกใจหลายต่อหลายคน ที่ไม่เห็นด้วยคือ คนที่ไม่ไปดูหนังในโรงอยู่แล้ว แต่โหนกระแส จ้องทำลายล้าง นี่ไม่สร้างสรรค์  พูดจาหยาบคาย อารมณ์รุนแรง ผสมโรง มั่วข้อมูล ทั้งๆที่ตัวเองก็นอนดูหนังจากทั้งแผ่นผี และโหลดบิทอยู่ดี หลังๆนี่ ดูตั้งหน้าตั้งตา พุ่งเป้าไปเรื่องอื่นๆ โดยไม่ชอบธรรมกับเครือใดเครือหนึ่ง ตั้งหน้าตั้งตาเปรียบเทียบราคา แบบทำลายล้าง  เอาแบบเป็นธรรมต้องพูดให้หมดให้ครบ ให้ความเป็นธรรมกับแต่ละโรงด้วย เช่น คนย่านงามวงศ์วาน-รัตนาธิเบส ก็ดูหนังที่เอสพลานาด(ในเครือเมเจอร์)ซึ่งราคาถูกกว่า ในเครืออื่นๆในย่านเดียวกัน ทั้งที่คุณภาพโรงไม่ต่างกัน ไม่เห็นนำมาเปรียบเทียบ เราเห็นคนที่ไม่เน้นคุณภาพโรง คืออยากดูหนังบ่อยๆ ก็ยินดี และภูมิใจด้วยกับการช่วยเหลือโรงเล็กๆที่ตั้งใจฉาย แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ต้องการซื้อความสบายแบบไม่สนใจราคาอยู่ อีกมาก เราไม่ต้องไปดูถูกเขาก็ได้ว่าให้ถูกสนตะพายอยู่ มันเป็นสิทธิของเขาที่เขาเลือก เรารู้สึกว่าข้อมูลที่จะนำมาเปิดโปง เริ่มไม่มีหลักฐานอะไร แต่ใช้อารมณ์ และจินตนาการเข้ามาใช้ในการแสดงออกเยอะ ทำให้ประเด็นเข็นไปทางทำลายเครือเดียว ไม่เป็นไรถ้าคิดว่าไม่เห็นด้วย แค่สงสัย และออกความเห็น จากคุณ : ปลาน้อยไม่กล้าทวนน้ำ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:16:03

ความคิดเห็นที่ 25 ห่วยแตกจริงๆ มีสคบ.ไว้ทำเผือกอะไรเนี่ย แล้วเล่นขึ้นๆๆๆ ราคาเอาแต่ได้แบบนี้ คอยดูเหอะอีกไม่นานแผ่นผีระบาดหนักแน่ๆ หนังไทยไม่เจ๋งจริงก็เตรียมตัวเจ๊งได้เลย = = จากคุณ : Razit_GenZo เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:36:02

ความคิดเห็นที่ 26 ตามเรื่องกันต่อไป อย่าให้เงียบเชียว ช่วยโหวตครับ จากคุณ : nutcs เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 21:39:51

ความคิดเห็นที่ 27 เบื่อ คห.11 จากคุณ : Kill11by1pass เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 22:17:07

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่าเราเรียกร้องกันเกือบจะเกินไปแล้วนะครับ โฆษณาผมเห็นด้วยนะที่ว่านาน แต่ถ้าจะไม่ให้มีเลยนี่ มันก็เกินไปนะครับ เพราะรายได้ส่วนหนึ่งของเขาก็มาจากโฆษณา ทุกวันนี้ถามว่า 15 นาที (ของ SF) ผมว่ากำลังดีแล้วนะ มีโฆษณาประมาณ 3-4 ตัว ที่เหลือเป็นตัวอย่างหนัง ที่สมควรเล่นกันจริงๆน่าจะเป็นเรื่องโปรโมชั่นที่ไม่จริงใจต่อลูกค้า กับราคาตั๋วแพงเกินไปมากกว่า ผมยังไม่เดือดร้อนเพราะยังใช้ Student อยู่ แต่เหลืออีกไม่กี่ปีแล้ว จะให้ดูหนัง 160 หรือมากกว่านั้น ก็ไม่ไหวจริงๆ จากคุณ : Mancuniun เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 22:57:11

ความคิดเห็นที่ 29 ค่าตั๋วแพง  ไม่พอแถมบางทีที่จอดรถยังไม่มี วนตั้งนาน   สรุปอยู่บ้านโหลดหนังดีกว่าไหมนี่ ทางเมเจอร์อ้างว่าโรงหนังไทยค่าตั๋วถูกกว่าเมืองนอก  แต่ค่ครองชีพประเทศไทยสูงเท่าต่างประเทศงันหรอ  - -" สรุปๆแล้ว Thailand Only -*- จากคุณ : irinry เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 23:00:55

ความคิดเห็นที่ 30 เคยไปดู Fast Five เจอโฆษณาบวกตัวอย่างหนังไป 50 นาที นั่งรอจนเมื่อยกว่าจะได้ดูหนัง จากคุณ : EnjoyNoMore เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 23:55:26

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยทุกข้อ. แต่คนที่บอกว่าค่าครองชีพไทยต่ำแล้วตั๋วต้องถูก อันนี้ผมว่าไม่แฟร์นัก หนังมันเป็นของนอก เราเสพของนอกมันก็ต้องอิงตามราคาที่ฃื้อมา ฃึ่งอาจจะแพงหรือถูกต่างกัน แต่ไม่ใช่ขึ้นทุกเรื่องราคาเดียวเหมือนกันหมด ตั๋วหนังต่างประเทศอย่างอเมริกานี่เป็นสิบเหรียญนะครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 00:02:54 จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 54 23:56:51

ความคิดเห็นที่ 32 sf ก็ไม่ใช่น้อยนะ วันก่อนโดนไปเกือบครึ่งชั่วโมง จากคุณ : เจ 11 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:02:18

ความคิดเห็นที่ 33 #31 งั้นทำไมหนังไทยตั๋วราคาเท่าหนังนอกละครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 00:15:43 จากคุณ : xhai เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:15:27

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยทุกประการค่ะ จากคุณ : 4ymik เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:15:38

ความคิดเห็นที่ 35 คห ที่31 ครับด้วยความเคารพ ค่าแรงและรายได้ขั้นต่ำของประชาชนไทยกับของอเมริกาเท่ากันหรือเปล่าครับถ้าเท่ากันราคาตั๋วเท่าที่อมริกาก็คงไม่มีใครบ่น จากคุณ : Bluetooth_mania เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:23:49

ความคิดเห็นที่ 36 ผมมองว่าโฆษณานะไม่สมควรมี เพราะทุกท่านซื้อตั๋วมาดูหนังไม่ได้ดูโฆษณา เมเจอร์สามารถขายแอดโฆษณาตลอดกำแพงโรงหนังเลยก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะมายัดเยียดให้คนที่ซื้อตั๋วมาดูหนังดูโฆษณา มันไม่ได้เหมือนพันทิพที่เราเข้ามาใช้พื้นที่เค้าฟรี นั่นเราเสียเงินนะครับ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:25:25

ความคิดเห็นที่ 37 ก็หนังมันแพงไงครับ เค้าก็เลยซื้อมาแพงแต่มาขายถูกกว่าราคาปกติ แล้วหารายได้จากช่องทางอื่นเข้ามาเสริม และก็ยังงงกับที่บางคนบอก หนังต้นทุนสูง แล้วไปมีส่วนร่วมสร้างอะไรกับเค้า นี่คือคิดดีแล้วหรือครับ ต้นทุนที่บอก ก็คือ ทุนที่ซื้อหนังมาฉายไงครับ ไม่ใช่ไปร่วมสร้าง เป็นไรมากป่ะ... จากคุณ : pkp_aksw เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:38:09

ความคิดเห็นที่ 38 เอาค่าโฆษณาไปยัด!!!! จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 00:55:29

ความคิดเห็นที่ 39 บิททอยเล้น คำตอบสุดท้ายคับ เพ่น้องคับ โหลดฟรี ดูฟรี ไม่เสียเงินสักบาท จากคุณ : Gamemer เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 01:15:49

ความคิดเห็นที่ 40 จากแนวทางครั้งนี้ ผมเห็นด้วยครับ โหวต!!! สคบ. ควรควบคุม ราคาค่าตั๋วให้เป็นมาตรฐาน ไม่เข้าใจว่า ปรับราคาเพราะหนังฟอร์มยักษ์ต้นทุนสูงยังไง ในขณะที่เครืออื่นเค้าก็ฉายราคาเดิม และควบคุมราคาอาหาร และเครื่องดื่ม เรื่องโฆษณา ทางโรงภาพยนตร์ต้องควบคุมให้เป็นมาตรฐาน ให้ลดจำนวนลง หรือไม่ก็ต้องมีการแจ้งล่วงหน้าว่า มีโฆษณานานเท่าไหร่ จากคุณ : หมูผีตีลังกา เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 01:52:32

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นแล้วอดที่จะ comment ไม่ได้เลยทีเดียว จะบอกว่า ทุกเครือมีจุดดี จุดด้อยหมดละครับ เพราะผมดูหนังหลายที่ 3 เรื่อง/week โดยเฉลี่ย แต่ที่เจอแย่ๆมากคือ เครือ Major เพราะ Promotion ไม่จริงใจกับลูกค้า อันนี้ ยืนยันว่าจริงครับ 1. หนังทุนสูง >> อยากจะบอกว่ามันไม่เกี่ยวนะครับที่ Major จะปรับราคา เพราะ SF ไม่เคยทำนะครับ และถ้าจะบอกว่าค่ายหนังบี้ให้ปรับ......ทำไมบี้แต่เครือ Major แต่ทำไมไม่บี้เครืออื่นรวมทั้ง SF ด้วย? ถูกไหมครับ? 2. ที่ Esplanade แคราย ติดประกาศสมัครบัตร M GEN ฟรี ถึง 31/5/11 แต่พอลูกค้ามาต่อแถวเพื่อสมัครเยอะ >> ยกเลิก กลับกลายเป็นสมัครแบบเสียตังค์เหมือนที่อื่น >> อันนี้เรียกว่าตุกติกไหมละครับ? 3. Major Stand Alone (รัชโยธิน สุขุมวิท ปิ่นเกล้า รังสิต Esplanade รัชดาฯ) สาขาเหล่านี้ ในเมื่อพื้นที่จอดรถเป็นของคุณเอง แต่ทำไมต้องจ่าย 20- ในเมื่อทำการ E-Stamp แล้ว  แทนที่จะให้ลูกค้าคุณเองจอดรถฟรี 4. Concession ราคาขนม อันนี้ แพงเว่อร์ครับ ขอน้ำแข็งน้อย บางสาขาไม่ให้ ต้องให้ผมเหวี่ยงถึงจะได้.......อยากจะบอกว่า cost จริงๆ Pop Corn ไม่ถึง 5 บาท, น้ำอัดลมก็ประมาณ 5 บาทพอๆกัน แต่คุณเล่นขาย 159, 179- แต่พนักงานกดโค้กกินกันเป็นว่าเล่น 5. ราคาบัตรขึ้นบ่อยไปไหม? ล่าสุดขึ้นมาอีก 20- เพื่อบังคับให้คนสมัครบัตร M-GEN >> เพื่ออะไร ก็เพื่อบังคับเอาฐานข้อมูลพวกคุณทุกคนไปทำการตลาดไงครับ เขาได้เปรียบไงครับ คือไม่ต้องไปหาซื้อ Database แต่ไถเอากับลูกค้าเรานี่ละ!! คือใครอยากซื้อตั๋วราคาเดิม ก็ต้องแลกกับเอาข้อมูลคุณไปให้เขานั่นเอง 6. ที่ Esplanade แคราย ราคาบัตรยังถูกก็เพราะลูกค้าไม่เยอะ ลองให้คนมาเยอะๆสิ รับรองว่าผมคนหนึ่งที่จะเลิกไปดูเช่นกัน 7. เรื่องที่ว่าพยายามให้คนสมัครบัตร M CASH นั้น เขาพยายามให้ลูกค้าสมัคร เพื่อไปซื้อที่ตู้ Kiosk คือรอนาน รอไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องยอมซื้อบัตร แต่ผมคงไม่หลงกลน่ะ 8.เคยมีใครสังเกตุไหมว่า size ของเครื่องดื่ม เมื่อก่อนคือ 22 oz. และ 32 oz. แต่เดี๋ยวนี้เล็กสุดคือ 32 oz. และเพิ่มขนาดใหญ่ อันที่ถือแบบคับมือ นั่นคือ 44 oz. เพื่อเพิ่มราคาทางอ้อมในยุดข้าวยากหมากแพง? 9.แต่เวลามีคูปองแจกฟรี Pop Corn และเครื่องดื่ม มักได้เป็น size เล็ก แต่เวลาแจกมักไม่บอกขนาด คนก็หลงเชื่อคิดว่าจะได้ใหญ่เท่าที่ซื้อกิน >> เพื่ออะไร เพื่อบังคับให้ลูกค้า up size อีกครั้งตอนที่ไปแลกที่ Concession คือได้เงินอีกต่อ 10. Major ส่วนใหญ่ จะมีนโยบาย งดฉายในรอบที่มีลูกค้าน้อย เพื่อประหยัด โดยบอกปัดลูกค้าเพื่อของดรอบนั้นๆ โดยจะทำการงดล่วงหน้าก่อนรอบฉายเกือบ 1 ชม. ผมเองก็เคยโดน คือถ้าไม่เหวี่ยง (complain) ก็คงไม่ได้ดูหนัง แต่อันนี้ SF ไม่เคยเจอนะ เพราะปกติแล้ว ตาม Manual คือจะงดหนังได้ต่อเมื่อฉายโฆษณาจนหมด สรรเสริญแล้วเข้าตัวหนังแล้วจึงจะงดได้ 11. (จากที่ผมเรียนจบโฆษณามา ทำให้ผมได้เรียนถึงการลงสื่อ จึงได้ทราบถึงกระบวนการบางอย่างมา) คือ Major ได้ค่า Ad ที่ลงในโรง สมมติคือคุณเห็นโฆษณามายบาซินหนึ่งครั้ง นั่นคือเมเจอร์ได้เงินไปแล้ว xxx บาท ซึ่งโฆษณาเยอะมาก โดยเฉพาะสาขารัชโยธิน แต่ทำไมค่าตั๋วถึงขึ้นไม่หยุด ผมเองก็ดู SF แต่ทำไมไม่เคยเห็น Ad ในโรงเยอะเท่า?? 12. Major ไม่เคยใยดีกับ EGV คือถ้ามีนวตกรรมใหม่ๆมา EGV จะเปรียบเสมือนเมียน้อยทุกครั้ง คือถ้าอยากได้เท่าต้องยอมเป็นเมียหลวง เหมือนสาขา สำโรง แฟชั่น ปินเกล้า รังสิต หรือไม่ก็ผูกคอตายไปเลยเหมือน แกรนด์อีจีวี เมโทรฯ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องพยายามทำให้แบรนด์ EGV ตกต่ำลง เหมือน Jet ก่อนที่จะ Rebrand เป็น ปตท. 13. Promotion Movie Day ถามว่าทำไมเรื่องนี้ไม่ร่วมรายการ หลัง 18:00 ต้องปรับเพิ่ม 20- แต่ทำไม SF ร่วมรายการทุกเรื่อง >> ทว่าค่ายหนังไม่ให้ แล้วทำไม SF ทำได้ ถูกไหมครับ?? อันนี้ล้วนเป็นความคิดของการตลาดเมเจอร์มากกว่าไหมครับ? คือถ้าประกาศออกไป ใครจะไป Major ก็ต้องไป SF เป็นธรรมดา ดังนั้น Major จึงใช้วิธี Surprise หน้าโรงเลยว่า เรื่องนี้งดร่วมโปรฯ แต่ยืนยันว่า ทุกเรื่อง SF ร่วมรายการหมด ไม่เคยตุกติก SF ก็มีข้อเสียนะครับ คือ Major ปรับขนาด Pop Corn และเครื่องดื่มให้ใหญ่ขึ้น จากนั้นไม่นาน SF ก็ปรับขนาดตาม และปรับราคาขนมต่างๆตาม แทนที่จะเห็นใจผู้บริโภค แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 54 02:07:53 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 02:04:11 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 02:02:55 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 01:59:35 จากคุณ : Grand EGV (PINAPPLE) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 01:56:56

ความคิดเห็นที่ 42 ตอนนี้ถ้าไม่มีโปรก็ไม่ดูแล้วครับ เพราะแพงมาก ส่วนขนมขบเคี้ยว ผมซื้อใน supermarket (เอาให้เหมือนที่ขายตรงเค้าน์ทเตอร์นะ) แค่นี้ก็ประหยัดเงินได้โขละ จากคุณ : ยอชชี่ ศิษย์บ้านหม้อ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 06:56:07

ความคิดเห็นที่ 43 รนณรงค์ไปยืนประท้วงการเข้าโรงที่ตามเครือที่ต้องการครับ จะได้ผลลัพธ์ดีกว่าแค่ในเวปบอร์ด แต่จะโดน รปภ มาเชิญตัวออกไปมั้ยมันอีกเรื่องนะครับ ถ้าถามว่า เอาเปรียบมั้ย บอกได้เต็มปากว่าเอาเปรียบทุกเครือ แต่ทำไงได้มันคือธุรกิจ เค้าต้องการกำไรมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ ตราบเท่าที่เรายังไม่มีกฎหมายมาควบคุมดูแลเรื่องตรงนี้ก็จะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน ขึ้น 80 ลง 40 เจริญล่ะเมิงงงง จากคุณ : panda_bs เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 07:47:12

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ที่แน่ๆ  ตอนนี้ไม่ดูหนังโรงแล้วคะ เพราะเบื่อกับอะไรหลายๆอย่าง อุดหนุนแผ่นจริงมาดูที่บ้านดีกว่า จากคุณ : น้องหมู (chutipabha24) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 09:12:56

ความคิดเห็นที่ 45 ผู้บริโภค โดนนายทุนเอาเปรียบตลอด  ครับ  ไม่มีทางที่จะเอา ชนะ พวกนี้ได้หรอก จากคุณ : herofluke เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:15:16

ความคิดเห็นที่ 46 เลย์ห่อละ 50 T^T ถามราคาแล้วชะงักเลย จากคุณ : polarpang เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:21:53

ความคิดเห็นที่ 47 เกินจะบรรยายเหมือนกันครับเมเจอร์บางทีก็เข้าใจนะคับว่าธุรกิจ แต่บางครั้งมันดูหยุบหยิบยุบหยับน่าดู เอาทุกเม็ดจริง ๆ เก็บค่าที่จอดรถ ทั้ง ๆที่ควรเป็นการบริการ มีการนำพื้นที่ด้านหน้าห้าง (ปิ่นเกล้า)มาให้เช่าขายของ ซึ่งผมมองว่ารกมากเกะกะ และยิ่งการที่เมเจอร์มีสาขามากเปิดทั่วประเทศตามโลตัส บิ๊กซี ทำให้แบรนด์เมเจอร์ คุณค่าตกไปเยอะ จึงทำให้ต้องมีแบรนด์ใหม่ เอสพรานาด พารากอน ขึ้นมา เพื่อแยกความแตกต่าง ซึ่งก็เท่านั้นเพราะเจ้าของเดียวกัน จากคุณ : ยอดชาย นายตัวดี เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 11:48:14

ความคิดเห็นที่ 48 จะบอกอะไรให้นะสำหรับคนที่คิดจะเอาไปเทียบกับโรงหนังเมืองนอก ที่แคนาดาก็ต้องซื้อหนังจาก US มาฉาย แต่ตั๋วเค้าราคา 10-15$ แล้วแต่สถานที่ ไม่มีการขึ้นราคาสำหรับหนังต้นทุนสูงหรือหนังฟอร์มยักษ์ คุณไปล้างจานสองชั่วโมงก็ได้ตังค่าตั๋วหนังแล้ว ผมยอมรับว่าคุณภาพโรงหนัง เบาะเก้าอี้ เมืองไทยดีกว่า แต่การบริการเทียบกันไม่ได้ ที่แคนาดาไม่มีโฆษณา มีแต่ตัวอย่างหนังไม่เกิน 10-15 นาที มีครั้งหนึ่งเค้าฉายหนังผิดเรื่องไป 10 นาที พอหนังจบเค้าให้พนักงานมายืนแจกตั๋วฟรีสำหรับดูหนังครั้งถัดไปเลยนะ โปรโมชั่นก็ไม่มียกเว้น ดู 10 แถม 1 บางโรงหนังที่แถมไปดูเป็น 3D ยังได้เลย ถ้าไม่รู้จริงอย่าพูดครับ แล้วคุณ pkp_aksw ถ้าคุณบอกว่าหนังเค้าซื้อมาแพงก็เก็บราคาตั๋วแพง ถ้างั้นหนังฟอร์มเล็กซื้อมาถูกทำไม่ลดราคาตั๋วล่ะ อย่าใช้ตรรกะมั่วๆมาอ้างครับ แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 12:45:33 จากคุณ : lonely alien เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 12:43:05

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นด้วย ไม่เคยดูโรงหนังเมเจอร์ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ จะ SF เพราะใกล้บ้าน ล่าสุดทนไปดูเพราะ หนังมันเข้าไม่ ฉาย SF เข้าไปถึง ถามราคาตั๋วเท่าไร 160 ดูสองคน 310 สถาพโรง สุดๆเข้าไปมีแต่กลิ่นเห็นอับ พนังงานไม่มีต้อนรับเขาโรงหนัง หลือเพราะ มันเป็นรอบ เช้า หน้าจะรอบแรก ของ โรงที่เข้าไป ดู จากคุณ : Ta-Tar เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 12:55:21

ความคิดเห็นที่ 50 lonely alien ก็ถ้าต้นทุนสูงก็เพิ่มราคาไงครับ ถ้าไม่ใช่ต้นทุนสูงก็ราคาปกติ ไม่เห็นจะงงเลย แล้วค่าตั๋วเมืองไทยถูกกว่าไหมครับ เรื่องการบริาร ก็เหมือนกันนิครับ ของไทยยังดีกว่าซะอีก ทั้งคุณภาพโรง โปรโมชั่น บัตรapologize บัตรสะสมแต้ม จากคุณ : pkp_aksw เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:38:41

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าเมเจอร์คิดจะขี้โกง พอถึงวันที่ลูกค้าเค้าทนกันไม่ไหวแล้ว รับรองว่าโดนลากไส้ออกมาเละเทะแน่นอนครับ และผมสังหรณ์ใจว่าวันนั้นใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว จากคุณ : parawarm เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:45:55

ความคิดเห็นที่ 52 ก็เหมือนเคเบิ้ลทีวีนั่นแหละครับ เสียเงินแล้ว ทำไมต้องดูโฆษณาด้วย จากคุณ : skirmish เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 13:51:45

ความคิดเห็นที่ 53 ........  เปลี่ยนตัวเองครับคนไทย   ด่าเข้าทำไม ในเมื่อ พวกคุณยังดู หรือถ้าอยากดูจริงๆก็อย่าบ่นครับ จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 14:49:14

ความคิดเห็นที่ 54 เอ๊ะ หรือว่าคนไทย อวดรวย  โดยที่ตัวเองไม่รวย ไปถึงหน้า บอกซ์แล้ว แพงเท่าไหร่ก็ต้องซื้อ โดนอะไรก็ต้องไป เพราะกลัวเสียหน้า............... ดูตัวเองกันซะบ้างครับ  ก่อนจะว่าใคร ขวางคุณ คุณลอง ตามๆโพสในนี้ดุนะ ที่โพสประเภท   โอ วันนี้แพงมากเลยค่ะ 180-220  ทำไมแพงแบบนี้ละค่ะ หลังไมค์ไปถามด้วยนะว่าดูเปล่า ถ้าดูนะ   อย่าบ่น แล้วไอ้ที่มันได้ใจ กล้าทำกับพวกคุณขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เพราะพวกคุณยังดูมันเหรอครับ  ลองมันเงียบ สัก 2-3 เดือน ติด ตัวเลขติดลบ สักไตรมาสสิครับ ขี้คร้านมันฉายหนังให้พวกคุณดุได้ในราคา 50 บาท คนไทยอย่าดีแต่บ่นแล้วทำเป้นมีคลื่นใต้น้ำครับ  คลื่นอย่างคนไทย ที่ ชั่วโมงนี้โพสด่า ชั่วโมงหน้าก็ยังไปดูมันเนี้ย...เยอะครับ ดูตัวและพรรคพวกที่คุณบอกว่าเป้นกลุ่มก่อนนะ  ของพวกนี้ มันห้ามกันยากครับผมเข้าใจ ไอ้การที่บอกว่า ผมมาขวาง เนี้ย ผมไม่ได้ขวางครับ ผมแค่อยากจะบอกกับทุกคนจริงๆว่า ให้เลิกดูมันจริงๆ ไม่ใช่ วันนี้มาโพสพรุ่งนี้ไปดู แต่ก็ยังมาโพสบอกว่า อย่าไปดูมันนะค่ะ คือมันไม่ใช่อ่ะครับ ปาดพูดอย่าง  ตัวทำอย่าง..... ทุกวันนนี้  ถามเถอะว่า ที่บ่นบ่นกันเนี้ย ได้ดูไหม ......แล้วค่อยมาด่าผมขวางพวกคุณ จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 15:01:02

ความคิดเห็นที่ 55 อ้อ แล้วอีกอย่าง   ส่วนตัวนะครับ ราคา 140-160  ที่เขาว่าเป็นราปกติของที่นั่งปกติของพวกค่ายเครือต่างๆเนี้ย ผมก็ไม่ใช่รับได้นะครับ  แต่ผมก็ดูได้ แล้วก็เลือกที่จะไม่บ่นครับ  เพราะ ผมก็รู้ตัวเสมอว่าผมมีทางเลือก  แต่ผมเสือกไม่เลือกเอง ดันมาโดนเอง เหมือนมีโรงแรม 2 ที่ ให้คุณเลือกนอนค้างคืน  ผมว่าพวกคุณดุจากสภาพหน้าโรงแรมก้น่าจะรู้ราคาแล้วมั้ง เหมือนเรามองโรงหนัง เอสเอฟ-เมเจอร์-เอเพ็กซ์  ทุกวันนี้อ่ะครับ  ทำไมละ คุณอยู่แถวมาบุญครองทำไมต้องดุพาราก้อน ต้องเอสเอฟมาบุญครอง  ทั้งๆที่ บางโรงของ มาบุญครองแมร่งเล็กกว่า ลิโด้ 3 อีก  ราคาปกติของมาบุญครองผมเดา ว่า 140  แบบไม่ใช่นักเรียนนะ  ถ้าคุณดุ 2 คน เดินมา นิดนึง ดูที่เอเพ็กซ์ประหยัดไป 80  ทำไมไม่ทำละครับ ดูเขาแล้วเอามาบ่นทำไม เขาไม่ได้ต้องสร้าง ความหรูหราตาแหกไว้หลอกแดรกคนไทยเหรอครับ เทียบกับ เอเพ็กซ์ที่โรงหนัง ผ่านไฟไหม์ มา  หน้าโรง สภาพมีแต่ความคลาสสิคเท่านั้นกับโปสเตอร์หนังที่บอกให้รู้่าหนังฉายกี่โมงเรื่องอะไรบ้าง คนไทยตัดความฟุ้งเฟ้อ โอ้อวด ว่ากรูต้องดูหนังที่ไหนออกได้ไหมละ  ถ้าทำไม่ได้  อย่าไปบ่นโรงหนังตามเครือครับ เขาก้มีต้นทุนของเขา เราก็มีเงินของเรา สถานที่ ตรงข้ามแค่ พาราก้อนผมเห็นแห่ไปดูกันทุกอาิทตย์เลย ที่นั่งละ 180-220  ข้ามมาฝั่งตรงข้าม ดูเอเพ็กซ์ ที่ละ 100 บาท ประหยัดได้ 2 ร้อยกว่าบาท ต่อสอง คน คุณทำได้ไหม???????? จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 15:09:24

ความคิดเห็นที่ 56 pkp_aksw คำถามคือว่าทำไมที่แคนาดาซึ่งซื้อหนังจาก US มา เวลาต้นทุนหนังสูงขึ้น เค้าก็ไม่ขายตั๋วแพงกว่า การบริการของโรงหนังในเมืองไทยไม่ดีกว่าที่เมืองนอกนะ อ่านดีๆ มันดีกว่าแค่คุณภาพโรงกับเก้าอี้ แล้วตั๋วหนังที่เมืองเนี่ยแพงมากๆๆๆเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ คุณเอาจำนวนเงินมาเทียบตรงๆไม่ได้ ก็อย่างที่บอกคุณล้างจานสองชั่วโมงที่โน่นก็ซื้อตั๋วหนังได้แล้ว เมืองไทยต้องล้างจานทั้งวันนะ จากคุณ : lonely alien เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 15:31:53

ความคิดเห็นที่ 57 -.- เป็นการประท้วงแบบว่า ไม่ดูหนังแล้วเหมือนจะขาดอากาศหายใจ 1. ตั๋วแพง???  ถ้าแพงจริง คนไม่ดู เดี๋ยวก็เจ๊งไปเองล่ะครับ   2. สถานที่เค้าครับ เค้ามีสิทธิ์กำหนดกฎได้ เค้ามีสิทธิ์จะตั้งราคาเต็มที่ แพงมันก็ขายไม่ได้เอง  เวลา 2-3 ชม. ไม่ได้ถึงตายถ้าขาดน้ำขาดอาหาร ท่านเลือกที่จะกินจะดื่มเอง เวลาไปบินกับสายการบินโลว์คอสต์ 2-3 ชม. ก็ไม่ได้กินอะไรเหมือนกันนี่ครับ 3. คิวยาว ท่านเลือกได้ที่จะรอหรือไม่ ผมเคยไปรอกินสุกี้ หรืออาหารญี่ปุ่น คิวยาว ก็ไม่รอ ส่วนเรื่องบัตร ถ้ามันหมกเม็ด มันโกง ฟ้องครับ อย่ายอม 4. จัดการเรื่องโฆษณาเลยครับเอาให้หายไปเลย ผมว่าไม่แฟร์ ถ้าเสียเงินดูหนังแล้ว ต้องดูโฆษณาด้วย ผมว่าประเด็นที่เข้าท่าที่สุดประเด็นเดียวคือเรื่องโฆษณา อย่างอื่นมันไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ส่วนประเด็นอื่น ท่านเลือกได้นี่ครับว่าจะซื้อหรือไม่ อย่างเรื่องราคาแพง คิวยาว ของกินแพง ท่านเลือกได้ครับ ไม่ประทับใจก็อย่าไปอุดหนุน.... แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 15:56:09 จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 15:55:00

ความคิดเห็นที่ 58 lonely alien หากคุณจะเอาค่าแรงขั้นต่ำมาเทียบ ต้องเอาราคาสินค้าอืนๆมาเทียบด้วย ประเด็นที่เอาค่าตั๋ว มาเทียบกับ ค่าแรงขั้นต่ำ มันจะกลายเป็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมนะครับ ไม่เกี่ยวกัน มันจะกลายเป็น การดูหนัง จนไปถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมไปในที่สุด เพราะมันมีหลายต่อหลายคนพยายามเรียกร้อง ในการดูหนัง โรงดีๆ ราคาถูกๆ คนมีตังค์ ก็ดูได้ คนไม่มีตังค์ ก็ต้องมีสิทธิดูได้ หลายต่อหลายคนนั้น ไม่เห็นไปพยายามเรียกร้องให้โรงพยาบาลเอกชน ลดราคาค่าบริการ ค่ายา ค่ารักษา ให้มาเท่าโรงพยาบาลของรัฐเลย ทำไมหละ? ทั้งๆที่เป็นบริการสาธารณะ โรงพยาบาลและยาเป็นสิ่งจำเป็น 1 ใน ปัจจัย 4เลยทีเดียว หลายต่อหลายคน ยังดื่มกาแฟสตาร์บัค ราคาไกล้เคียงกับอเมริกาอยู่ หรือว่าเขาโง่ ใช่ซิ หลายต่อหลายคนบอกว่ายอมให้สนตะพายก็เชิญ หลายต่อหลายคนไม่ยอม จะเรียกร้องให้ ลดราคามาเท่ากาแฟสดข้างบ้าน เพราะคุณภาพกาแฟเหมือนๆกัน บริการก็บ้านๆประทับใจกว่า หลายต่อหลายคนไม่เห็นบอกให้ใครอีกหลายต่อหลายคนเลิกกินกาแฟสตาร์บัค หลายต่อหลายคน ยอมถูกสนตะพายต่อไปในการดูโฆษณาในเคเบิ้ลทีวี ทั้งที่จ่ายเงินค่าสมาชิกแล้ว หลายต่อหลายคนคิดว่าเมื่อจ่ายค่าสมาชิกแล้วควรมีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ไปบอกให้เคเบิ้ลยกเลิกโฆษณา ? หลายต่อหลายคน ไม่เคยสงสัยอื่นใดนอกจากค่าที่จอดรถของโรงหนังเครือเดียว ไม่เคยสงสัยเลยว่าห้างเดียวกัน กลางเมืองเก็บค่าจอดรถ แต่ ชานเมือง ไม่เก้บค่าจอดรถ .......................................................................................... อ่อ หนังฟอร์มใหญ่ ต้นทุนสูงกว่า ค่ายหนังขอแบ่งส่วนแบ่งรายได้จากโรง มากกว่าหนังฟอร์มเล็ก นะ  เรื่องต้นทุนสูง จากหนังฟอร์มใหญ่ คือต้นทุนสูงจริงๆ จากคุณ : ปลาน้อยค่อยๆว่ายน้ำอยู่กับที่ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 16:38:25

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมากที่ลงมือครับ จากคุณ : Niya เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 17:57:24

ความคิดเห็นที่ 60 เขียนจดหมายเหมือนเด็กครับ มีประชดประชันด้วย ผมว่าเวอร์ไปครับ ดูไม่มืออาชีพเลย เรียกร้องเกินเหตุ จากคุณ : Acater เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:24:00

ความคิดเห็นที่ 61 เกินไปค่ะ เมเจอร์ "เกินไป" คำนี้มันบอกทุกอย่างค่ะ ถ้าอยากแพง แพงไปไม่ว่า แพงให้ลิ่ว ...แล้วขึ้นบิลบอร์ดเลย เอาให้เหมือนราคาหุ้น คุณทำได้อยู่แล้ว  !!! อย่างงั้นอะแฟร์ !!!!! แฟร์โคดๆ แต่ประเด็นมันคือ "อยากฟัน" แต่ทำตัว "แอ๊บ" ไงคะ เข้าใจไหม๊ ด้วยการหลวกลวง "ลักปิดลักเปิด" ไม่ว่าจะเรื่อง เวลาในการฉาย ราคาตั๋วไม่ตรงเปลี่ยนไปมา ขนม ที่จอดรถ !!! ใช้วิธีหลอกตีลูกค้าหน้างาน....ทำอย่างงี้ตลอด ให้มันเคลียร์ค่ะ จะแพง จะขูดรีด ไม่ใช่ประเด็น....แต่ให้มันเคลียร์ !!!! ไม่ใช่มาลอกกินตังค์กันวันๆ "เลิกดูมัน เดี๋ยวมันก็ตายเอง ?"  เออ...หลายคนเลิกแล้ว..ตายไม่ตายไม่สนหรอก..แต่มันควรเป็น case study....ว่าทำธุรกิจ....โปร่งใสนิ้ดดดดดดนึง ให้มันพองาม คนที่มาเทียบ เช่น กาแฟ starbucks คุณก็ทำเหมือนสตาร์บัคดิ แปะเอาไว้ใช้ชัด อะไรเท่าไหร่ บลาๆๆๆๆ เพราะฉะนั้นบอกแล้ว......ถูก แพง มันเป็นประเด็นรอง.... ประเด็นหลักคือ อย่าตั้งตนอยู่บนฐานการ "หลอกลวง" แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 19:56:49 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 54 19:53:42 จากคุณ : popcorn lover เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 19:44:13

ความคิดเห็นที่ 62 กลายเป็นกระทู้ มาคุ ผมสับสนว่าทำไมผู้บริโภคอย่างเราๆ ถึงไม่ชอบให้ตั๋วราคาถูกลง หรือโฆษณาน้อยลง (สังเกตจากที่มีคนพยายามเถียงแทนเมเจอร์)   กระทู้นี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งนะครับ เพราะ จขกท. เขียนเอง พยายามที่จะมีอะไรออกมาเป็นการกระทำ เสียสละเวลาอันมีค่าของ จขกท.มาทำเรื่องนี้  ถ้าจขกท.ทำสำเร็จ ผู้บริโภคอย่างเราๆก็น่าจะได้ดูหนังที่ราคาถูกลง และโฆษณาน้อยลง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีมาก  เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะครับ และยังไม่เห็นเหตุผลอะไรที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ จะมามาเถียงแทนผู้ประกอบการ แต่กระทู้ก่อนๆที่ไม่ทราบว่าใครตั้ง แต่เป็นการเรียกร้องรัฐบาลให้มาช่วยดูเสมือนเป็นวาระแห่งชาติ อันนั้นไม่เห็นด้วย เพราะมันไม่ใช่สินค้าจำเป็น จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 20:35:22

ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อวานไปดูหนังโป้ 3D ที่แฟชั่นฯ ที่นั่งละ 260 บาท จากคุณ : ผิดคิว เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:06:25

ความคิดเห็นที่ 64 popcorn lover คนละประเด็นกัน ที่เทียบเทียบกาแฟ อยากให้ความเป็นธรรมเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ มันจะกลายเป้ฯประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม จะกลายเป็น แค่ดูหนัง สะท้อนสังคมที่มีความสูงต่ำ ไม่เท่าเทียมกัน การที่คนดูหนังในโรง 1 เรื่อง สูงสุด ประมาณ 1 ล้านคน(เทียบจากประมาณการค่าตั๋ว กับรายได้สูงสุด หารออกมาได้คนดู ประมาณนี้) ซึ่งนับว่า ไม่เยอะเลย นั่นแสดงว่า มันไม่ใช้สินค้า หรือ บริการ สำหรับมวลชน(ขาดอีกหลายสิบล้านคน) หมายถึงยังเป็นแค่สินค้า หรือ บริการเฉพาะ ที่กำลังมีอัตราเติบโต แต่มีความพยายามในการ หยุดยั้ง หรือทำสิ่งหน่งสิ่งใด ที่ไม่ได้เรียกร้องเพื่อคนดูหนังโรง จริงๆ ส่วนใหญ่ ก็ ดูแผ่นผี ดู โหลดบิท (จับสังเกตุจากพวกตามกระแสส่วนใหญ่)อยู่แล้ว ซึ่งทำลายทั้งภาพพจน์ ประเทศ ทำลาย ทั้งธุรกิจโรง ธุรกิจแผ่นดีวีดี ธุรกิจเคเบิ้ลทีวี ที่ประกอบการโดยสุจริต ประเด็นที่สงสัย คือ ทำไมโดนเครือเดียว มากกว่า ทั้งๆที่เกือบทุกประเด็น ก็กระทำกันเกือบทุกเครือ แค่สงสัยก้เลยตั้งข้อสังเกตุ และกลายเป็นทวนกระแสกลายๆ แค่ไม่อยากให้ใครไปเป็นเครื่องทำลายล้างของใค จากคุณ : ปลาน้อยค่อยๆว่ายน้ำอยู่กับที่ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:27:54

ความคิดเห็นที่ 65 ู^ # 64 เพราะคุณไม่เก็ตประเด็นของเราเองค่ะ เราพูดถึงการ present ราคาสินค้าแบบไม่หมกเม็ด ตอนแรกเราไม่ได้เทียบกับกาแฟค่ะ แต่มีคนข้างบนเทียบ แต่จะเทียบกับ กาแฟ หรือ ธุรกิจอะไรที่ออกมาเป็นตัวสินค้า ก็เทียบได้ทั้งนั้นค่ะ ถ้าเป็นเรื่องการ present ราคา ที่ไม่หมกเม็ด อำพราง เล่นเล่ห์....ถ้ามองแค่มุมนี้ จะเทียบกับธุรกิจสินค้าอะไรก็ได้...โดยเฉพาะที่เป็นสินค้าสิ้นเปลือง ไม่ใช่อุปโภค บริโภค พื้นฐาน จากคุณ : popcorn lover เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:38:05

ความคิดเห็นที่ 66 "ไม่ว่าจะเรื่อง เวลาในการฉาย ราคาตั๋วไม่ตรงเปลี่ยนไปมา ขนม ที่จอดรถ !!! ใช้วิธีหลอกตีลูกค้าหน้างาน....ทำอย่างงี้ตลอด" เช็คเครืออื่นๆทุกโรงหรือยัง ก่อนตามน้ำไปกับใคร ว่า เฉพาะเครือนี้เครือเดียว เหมือนใครบางคนก่อกระแส แต่ยับยั้งอารมณ์ กับเหตุผลไม่ได้ มันจะบานปลาย ไปทุกโรงภาพยนตร์ และบานปลายไปทั้งธุรกิจภาพยนตร์ ทั้งๆที่คนในธุรกิจ กำลังหาทางเข้าถึงกลุ่มใหม่ๆ เด้กรุ่นใหม่ ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยดู (ไม่ใช่เฉพาะโรง แต่ผู้สร้าง ผู้กำกับ ต่างก็ต้องการ ขยายตลาดคนดุ ให้เท่าเทียมประเทศอื่นๆ) ราคาตั๋วขึ้น ไม่ใช่โรงได้อย่างเดียว ส่วนแบ่งรายได้กับค่ายหนังโดยเฉพาะหนังไทยก็ 50-50 ใครได้ โรงกับค่ายหนังได้ ได้แล้วไปทำอะไร หยุดพัฒนาหรือ? ค่ายหนังก็ทำหนังดีๆ โรงหนังก็สร้างโรงเพิ่ม โรงใหม่ จะด้อยกว่าโรงเก่าไหม? หนังใหม่จะลงทุนน้อยกว่าเรื่องเก่าไหม? ประเทศไทย มีโรงหนังครบทุกจังหวัดหรือ? จากคุณ : ปลาน้อยค่อยๆว่ายน้ำทวนน้ำ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:38:21

ความคิดเห็นที่ 67 65 ในกระทู้แรกของคนตั้งกระทู้ มีรูปถ่ายราคาของเครือเมเจอร์ หราเลย ถ่ายออกมาเต็มๆเอามาชำแหละเรื่องราคา ไม่คุ้มกับต้องทนดูโฆษณา และก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เวลาก่อนชมภาพยนตร์ ในประเทศ ไม่มีใครเกิน 25 นาทีอีกต่อไป ต้องชมเชยประเด็นนี้ นั่นเป็นช่วงขึ้นราคา วันแรกๆของเครือเมเจอร์(ขออภัยถ้าจำผิด) ประเด็นเรื่องไม่มีป้ายราคา น่าจะไม่ใช่นะ (ลองไปค้นกระะทู้แรกที่เริ่มเปิดประเด็นได้เลย ในความเห็นแรกๆด้วยซ้ำไป ที่โพสรูปป้ายราคาหราเชียว) แต่ที่น่าสงสัยนั้น ได้บอกไปแล้ว จากคุณ : ปลาน้อยค่อยๆว่ายน้ำอยู่กับที่ (juniorfish) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:44:22

ความคิดเห็นที่ 68 #66 จะพูดว่าใคร "ตามน้ำ" น่ะมันง่ายค่ะ สบายใจที่ได้ใช้คำนี้ กับ คห ที่คุณไม่ชอบ ก็ไม่ว่ากัน เราดูหนังทุกเครือทั่วกรุงเทพฯมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ดู เมเจอร์ เท่านั้นเอง และเราเองนี่แหละ เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆในห้อง ภาพยนตร์ ที่เริ่มคุยกันเรื่องนี้ 4-5 ที่แล้ว..ที่รู้สึกว่าเริ่มแปลกๆกับโปรต่างๆ โฆษณาที่ยาวขึ้นเรื่อยๆ ...มันมากมายไปแล้วในรายละเอียด ที่ขี้เกียจมาพูดซ้ำ อย่างงี้ตามน้ำไหม๊ ? ....คุณ "ทวนน้ำ" ก็ดีแล้ว...แต่อย่าเหมาว่าคนอื่น "ตามน้ำ" จากคุณ : popcorn lover เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 21:45:52

ความคิดเห็นที่ 69 ยอม จากคุณ : juniorfish เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:14:01

ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อวานเพิ่งไปดู X-MEN มา ที่เมเจอร์เซ็นทรัลพระราม 3  โฆษณารวมตัวอย่างหนังจัดไป เกือบ 25 นาที หุ หุ จากคุณ : คนนอก (A-HA) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 22:20:34

ความคิดเห็นที่ 71 ส่วนแบ่งผมว่าเขา ชัเดเจนตั้งแต่ก่อนหนังฉายนะ ว่า เท่าไหร่  มันไม่ได้หมายความว่าเมเจอร์ เอสเอฟขึ้นค่าตั๋วแล้ว ค่ายหนังจะได้เพิ่ม จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 54 23:02:20

ความคิดเห็นที่ 72 ตั๋วหนังแพงเวอร์ของเมเจอร์ ยกตัวอย่างให้ที่พารากอน เคยเจอรที่พารากอนหนังเข้าสัปดาห์แรก ไปดูวันเสาร์เข้าฉายแต่โรง 3d ค่าตั๋วแพงโหด 2xx ต่อที่นั่ง ไม่ยอมฉายโรงธรรมดา อย่าหวังจะได้เงินผม แต่เวรกรรมตามทัน หนังมันไม่สนุกคนดูน้อย ผมไปอีกสามวันต่อมามันเลยเข้าโรงธรรมดา ผมเลยใช้โปร 80 บาทเข้าไปดู น้ำป็อปคอร์นแพงโหดอย่าหวังจะได้เงินผมเลย ว่าแล้วเดินไปซื้อขนมที่เซเว่น จากคุณ : bower33 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 01:26:25

ความคิดเห็นที่ 73 - โฆษณาสักสองสามอัน รวมตัวอย่างสักสามสี่เรื่อง สำหรับผมแค่นี้พอรับได้ครับ - เคยเจอโปรไม่จริงใจวันพุธ ที่เอสพลานาดแครายครับ หนังเข้าไม่ถึง 1 สัปดาห์ ไม่รวมในโปร ทำไมไม่บอกในเว็บฟระจะได้รู้ตอนเช็ครอบ ผมว่าตั้งใจหมกเม็ดครับ - เรื่องของกินหน้าโรง ส่วนตัวผมไม่ค่อยซื้ออยู่แล้วครับเลยไม่โดนเท่าไหร่ อย่างมาก ก็อมยิ้ม จากห้าบาทเป็นสิบบาท ผมมองว่าถ้าราคามันเพงกว่าสักยี่สิบ สามสิบเปอร์เซนก็น่าอุดหนุนอยู่นะ แต่นี่พี่แกก็โหดเกิน - ที่จอดรถผมว่าน่าจะใช้วิธีป๊ัมบัตร แล้วฟรีสามชั่วโมงแรกนะ เกินค่อยจ่ายเอา ซึ่งเวลาน่าจะพอดีกะการดูหนังบวกโฆษณา - เรื่องบัตรเติมเงินนี่เพิ่งทราบเพราะไม่เคยใช้ ไม่นิยมพวกบัตรเงินสดอะไรพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ - ราคาตั๋วที่ขึ้นเพราะหนังทุนสูงนี่ผมว่าน่าเกลียดเลยแหละ ปกติผมดูหนังอาทิตย์ละครั้ง ใช้โปรวันพุธ กี่เรื่องก็แล้วแต่โปรแกรมและเวลาจะอำนวย ส่วนมากก็ที่ sf เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร แต่บางทีเจอรอบไม่ตรงกับเวลาก็ต้องกระเถิบไปที่ เอสพลานาดแครายบ้าง ก็เลยได้สัมผัสความเซ็งเป็นครั้งคราว ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเรียกร้องอะไรที่มันเกินงามแต่ที่ต้องการคือความชัดเจนมากกว่า จะได้รู้ว่าจะเลือกอะไร การที่บอกข้อมูลไม่หมดแล้วทำให้เสียเวลาและความรู้สึก ถ้าจะแพงบอกมาเลย จะได้รู้และมีทางเลือก กรุงเทพนี่มันรถติดนะคร้าบบบบ ถ้าไม่ได้อยากดูมากจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น จากคุณ : ThE BaRE VaC PRojEcT เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 02:48:11

ความคิดเห็นที่ 74 แปลกใจมากที่มีคนปกป้อง เครื่อนี้ ขนาดสุดลิ่มทิ่มประตู คือปรกติการเรียกร้องอะไรให้ผู้บริโภคเนี่ยจะไม่ค่อยมีเห็นคนมาค้านสักเท่าไหร่ อย่างมากก็มาพิมความเห็นเดียวแล้วก็ไป  เนื่องจากมันเป็นผลประโยชน์ของผุ้บริโภคเอง แต่กระทู้นี้เนียเถียงกันหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว  กลัวเสียผลประโยชน์หรือคะ อิอิ ส่วนตัวดิชั้นดูหนังไม่บ่อยหรอก แต่เครื่อนี้ เลิกดูนานแล้ว ถึงจะใกล้บ้านก็เหอะ ยอมไกลหน่อย แต่ก็โอเคกว่าในหลายๆเรื่อง ที่ต้องมาหงุดหงิด เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ หลายๆ คห. บอกออกมาเรียกร้องทำไมยังไงก็ไปดู ขอบอกว่าเจ็บแล้วจำคือคนคะ เจ็บแล้วทนให้เค้าเอาเปรียบอยู่เรื่อย คือควาย นะคะ  ถ้าเครื่อนียังไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวคนย้ายไปดูเครืออื่น หรือรอหนังแผ่นแทน หรือไปโหลดบิท เค้าก็ลดราคาเองแหละ ไงก็ขึ้นอยู่กับเวลา จากคุณ : น้องเป้ลูกแม่หนิง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 04:08:01

ความคิดเห็นที่ 75 จ่ายตังแพงไปนั่งดูโฆษณา...ยุคนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ ดูหนังทีคิดแล้วคิดอีก.. จากคุณ : กระรอกแสนซน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 09:05:51

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 71 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ส่วนแบ่งผมว่าเขา ชัเดเจนตั้งแต่ก่อนหนังฉายนะ ว่า เท่าไหร่  มันไม่ได้หมายความว่าเมเจอร์ เอสเอฟขึ้นค่าตั๋วแล้ว ค่ายหนังจะได้เพิ่ม จากคุณ : chelsit [Bloggang] """"""""""""""""""""""""""""""""" ส่วนแบ่งรายได้  ในอัตรา 55-45                                 ค่าย-โรง ราคาตั๋วหนัง100 บาท แบ่ง 55-45 ราคาตั๋วหนัง120 บาท แบ่ง 66-54 ราคาตั๋วหนัง140บาท แบ่ง 77-63 ค่ายไม่ได้เพิ่มตรงไหน มิทราบ จากคุณ : juniorfish เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 09:13:14

ความคิดเห็นที่ 77 น้องเป้ลูกแม่หนิง ก็เขารู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ แต่ทำไมถึงพุ่งไปที่เครือเดียวสุดลิ่มทิ่มประตูหละ ทั้งๆที่ ทำำไมต้องเครือนี้เครือเดียว ที่คุณเรียกร้อง ต่อ สคบ มันทุกโรงเลยไม่ใช่เหรอ ข้อ1............. และควรจะลดเวลาฉายโฆษณาลงมาให้เหลือเฉพาะเพียงโฆษณาไม่เกิน 3 นาที(ไม่รวมภาพยนตร์ตัวอย่าง) ซึ่งในความเป็นจริง ในโรงภาพยนตร์ที่ลูกค้าเสียเงินเข้ามาชมภาพยนตร์ มันไม่สมควรจะมีโฆษณาแม้แต่ชิ้นเดียวด้วยซ้ำ ................................................................. ได้แจ้งทุกโรงหนังทุกเครือ เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?ไม่เห็นเครือไหนต่ำกว่า 3 นาทีที่คุณกำหนด แม้แต่โรงหนังที่รักของคุณ ................................................................. ข้อ2. แน่ใจว่าทุกเครือก็เหมือนๆกัน ห้ามนำอาหารนอกเหนือจากที่ขายและกำหนดไว้เท่านั้น ถ้าไม่จริง อยากพิสูจน์ให้ลองเอาข้าวผัดปู(ไม่ต้องถึงทุเรียน)ไปทานในโรงที่รักของคุณดูว่าทำได้ไหม? ...................................................................... ข้อ3.เรื่องนี้เป็นสิทธิของผู้บริโภค แต่ควรระบุชัดๆว่าบัตรอะไร ชื่ออะไร เดี๋ยวก็กลายเป็นของเครืออื่นไปอีก ดูตีคลุมมากๆ ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ข้อ4.มาบุญครอง เอ็มโพเรียม ดูหนังฟรีที่จอดรถ? เอาให้ชัดๆและเป็นธรรม ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ข้อ5.ไปว่าสคบ.ทำไม หนังสือเพิ่งยื่นไป หรือหนังสือ เป็นแค่เครื่องมือ ในการเปิดโปง ของคุณเท่านั้น ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ประเด็นคือ กะจะเปิดโปงๆ ให้ความธรรมกับทุกฝ่ายด้วย  ไม่รู้รอบจริงๆ จะกลายเป็นเครื่องมือในการทำลายใครบางคนได้ ใครคิดว่าโรงหนังประเทศไหนดีกว่าประเทศไทย ลองอธิบายมา ว่าดีกว่าอย่างไร อุตสหกรรมหนังจะหยุดอยู่กับที่ ก็เพราะกลุ่มคนที่นิยม ดูแผ่นผี และโหลดบิทเป็นประจำ แต่อ้างว่าไม่ไปโรง เพราะแพง ทั้งๆที่ประเทศไทยพัฒนาอุตสหกรรมมาได้ขนาดนี้แล้ว โรงภาพยนตร์ ทุกเครือ สร้างมาใหม่ๆ ไม่แพ้ใครในโลก ทั้งบริการ ระบบเสียง ระบบโรง แข่งโปรโมชั้่น แบ่งราคาเป็นช่วงเวลา ช่วงอายุ ตอบรับคนดูอยู่แล้ว แต่ที่ไม่โต เพราะแผ่นผี โหลดบิท ที่ได้มาฟรีๆไม่มีมูลค่าอะไร แค่แสดงความเห็นด้วยอีกคน จากคุณ : juniorfish เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 09:16:21

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 77 ทำลายใครหรือคะ ที่โดนมานี่ประสบการณ์จริงทั้งนั้นคะ  ไม่เกี่ยวกับโรงดีไม่ดี เพราะเข้าไปดูหนัง ไม่ได้ไปดูโรงหนัง ราคาตั๋วก็มีปัญญาจ่ายค่ะ แต่ขอร้องอย่าหมกเม็ด ลดได้บ้างไม่ได้บ้าง  ไหนจะยัดเยียดดูโฆษณาซะเกือบชม. เจอแบบนี้ใครไม่หงุดหงิด ที่ออกมาเรียกร้อง ให้ปรับ ไม่ได้บังคับ เพราะไม่ทำเราก็ไม่ง้อเพราะตอนนี้ ก็หาเครื่อที่มันไม่โฆษณามาก ถ้าเครื่อไหนเราไปดูแล้วมันหงุดหงิด ครั้งต่อไปเราก็ไม่ดู รอหนังแผ่นได้   ปล.ดิชั้นว่าไม่มีใครโดนทำลายหรอก มีแต่พ่อค้าที่ไม่เอาใจลูกค้ามากกว่า ที่จะค่อยเจ้งไป มันเป็นสัจธรรม โรงหนังทำแบบนี้ แล้วคิดว่าอุตสหกรรมหนังจะโต??? จากคุณ : น้องเป้ลูกแม่หนิง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 10:08:09

ความคิดเห็นที่ 79 วันนี้ Super8 งดร่วมรายการนะครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:00:49

ความคิดเห็นที่ 80 เลิกดูนานละ ครั้งสุดท้ายโดนตุกติกเรื่องโปรวันพุธเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ที่ เซ็นทรัลพระราม 3 ความรู้สึกประมาณความคิดเห็นที่ 73 เลย "จะได้รู้ว่าจะเลือกอะไร การที่บอกข้อมูลไม่หมดแล้วทำให้เสียเวลาและความรู้สึก ถ้าจะแพงบอกมาเลย จะได้รู้และมีทางเลือก กรุงเทพนี่มันรถติดนะคร้าบบบบ" ขับไปตั้งไกล ไปถึงบอกไม่ร่วมรายการ คือง่ายๆ หลอกกันหน้าโรงนั่นแหละ ประมาณว่ามาแล้วยังไงก็ต้องดู แต่ตอนเช็คในเวบไม่บอก โทรถามก็เจอแต่ระบะอัตโนมัติ เซงๆๆๆๆ แต่อีกเครือนึงไม่มีการหลอกกันแบบนี้ ... ชัดเจนมะครับ ปล. คุณ ปลาน้อย เป็นอะไรกลับ major หรือเปล่าครับ? จากคุณ : mr_akker เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:17:59

ความคิดเห็นที่ 81 เลิกดูซะก็จบ เดี๋ยวเขาก็เจ้งไปเอง จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:51:42

ความคิดเห็นที่ 82 สินค้าและบริการใดก็ตามแต่ ถ้าเข้าตลาดหุ้นไปแล้ว ราคามันจะโขกจนอ่วม เลือดไหลหมดตัว เพราะต้องทำกำไรให้ผู้ถือหุ้น อันไหนแพง อันไหนไม่ดีก็อย่าไปดูคับเพ่น้อง เราเลือกได้ เราเลือกมันคับ ไม่ใช่มันเลือกเรา จากคุณ : Gamemer เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:53:02

ความคิดเห็นที่ 83 เห็นด้วยกับราคาของเครื่องดื่มและขนมกรุบกรอบค่ะ อย่าง SF ชาเขียว 1 ขวด=50 บาท นำ้เปล่ายังแบ่งแยกเป็น น้ำทิพย์ 25 บาท และน้ำยี่ห้อ มิเนเร่ 30-35 บาท รับไม่ได้จิงๆ จากคุณ : nanji เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 13:11:34

ความคิดเห็นที่ 84 เขาไม่ได้บังคับให้เราเลือกที่จะใช้บริการโรงหนังของเขา เมื่อเห็นว่าราคาค่าบริการของเขาไม่เป็นธรรม นอกจากร้องเรียนแจ้งให้ทราบก็หยุดใช้บริการเขาไปเลย จากคุณ : มาดามกุ้ง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 13:23:42

ความคิดเห็นที่ 86 เมเจอร์ 140 160 180 บอกตรงๆเราสู้ราคาไม่ไหว ตอนนี้ไปดู SF  80 พอได้ ถ้าวันไหน 140 ต้องกัดฟันจ่ายนิดนึง แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 13:48:43 จากคุณ : ซมิเซอร์ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 13:48:21

ความคิดเห็นที่ 87 ผมว่าเรื่องอย่างนี้ เป็นเรื่องรายแรงมากสำหรับผู้บริโภค  ถ้าเทียบอัตตราส่วนเป็นตัวเงินแล้ว   ในความเห็นของผม มันรายแรงกว่าเหตุการณ์เรื่องราคาน้ำมันปาร์มที่แพงขึ้นในท้องตลาดเสียอีก  จนทำให้รัฐบาลเสียรางวัด แทบจะอยู่กันไม่ได้เลย นายกเครียดไปเป็นเดือน  โดนฝ่ายค้านอภิปรายหนักในสภา  เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนใหญ่ผู้บริโภคหลายคนเคยชิน เลยตามเลย สไตล์คนไทยชังมันเถอะ ผมไม่ได้ดูหนังของเมเจอร์นานมากแล้วครับ มีบ้างเป็นบางครั้ง ที่ต้องดูเพราะไม่ยากขัดใจกับเพื่อน เพื่อนชวนก็ดู โดยส่วนตัวจะดูที่โรง เมเจอร์ ฮอล์ลิวูด ราคาตัวไม่แพง แถมยังใกล้บ้านด้วย ไม่มีโฆษณา  มีแต่หนังตัวอย่างให้ดู  รู้สึกพอใจกับโรงนี้มากครับ เป็นทางเลือกที่ดี เพลงที่เขาใช้เปิดระหว่างรอดูหนังหนังก็ดีครับ มีรสนิยมดี (เพลงJazz) เปิดเพลงดีกว่าเมเจอร์บางโรงเสียอีก เสียดายที่มีสาขาไม่มาก ผมมีเพื่อนหลายคนที่เลิกดูหนังโรงไปหลายปีแล้ว เขาให้เหตุแบบเดียวกัน ที่กระทู้นี้แสดงความคิดเห็นกันไป  เพื่อนผมเขาซื้อ Home Theater ไว้ที่บ้านเลย แล้วซื้อ DVD ,Blue-lay มาดูแทน เรื่องแบบนี้ต้องช่วยกัน อย่าให้เขาเอาเปรียบจนเกินไป แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 18:06:51 จากคุณ : ton T-Square เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:07:34

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ juniorfish ครับ ผมว่าหลายๆความเห็นมันก็ออกจะชัดเจนว่า โปรของเมเจอร์มันไม่จริงใจ หนังใหม่ไม่ร่วมรายการ ปัญหาเรื่องบัตร m card อีกทั้งยังมีการขึ้นราคาเฉพาะเรื่องอีก ผมว่าประเด็นนี้ปหละที่ทำให้พุ่งเป้าไปที่เมเจอร์ เพราะว่าปัญหาเหล่านี้ที่เครืออื่นเค้าไม่มีครับ เรื่องโฆษณาส่วนตัวผมไม่ได้ใส่ใจมากถ้าไม่ทะลึ่งใส่มากลางเรื่องก็คงยังทนได้อยู่ ส่วนเรื่องราคานำ้กับขนม สำหรับผมไม่กินก็สิ้นเรื่องครับ สองชั่วโมงไม่เป็นไรหรอก และส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้เป็นการเปิดโปงอะไรใครนะ เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ใครก็สามารถรับรู้ได้ เพียงแต่ว่าคนที่เจอแล้วเห็นว่าเป็นการไม่ยุติธรรม ก็ออกมาเรียกร้องตามสิทธิกระบวนการกันไป ผมเชื่อว่าแค่เมเจอร์มีปัญหาเจ้าเดียวเจ้าอื่นๆก็รับรู้ และก็จะระวังรักษามาตรฐานกันเองครับ จริงครับที่อุตสาหกรรมหนังมันจะหยุดอยู่กับที่เพราะพวกแผ่นผ๊โหลดบิท แต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับการเรียกร้องความเป็นธรรมในกรณีนี้สักหน่อย ผมเชื่อว่าคนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นมันก็เป็นอยู่อย่างนั้ตามสันดรแหละครับ แต่การที่โรงหนังไม่เป็นธรรมกับลูกค้าก็จะไปเพิ่มคนจำนวนนี้ขึ้นด้วยครับ ไม่เห็นว่าจะต้องใช้คำว่าอุตส่าห์พัฒนาระบบโรงเลย เพราะก็มาขึ้นราคาเก็บเงินคนดุอยู่ดี ผมไม่ได้ดูฟรีซะหน่อย ส่วนตัวผมโปรดปรานเครือเอเพ็กซ์ที่สุด ภาพก็ไม่ได้ดี เสียงก็ธรรมดา แต่บรรยากาศและเพื่อนร่วมโรงที่ดีทำให้ผมชอบครับ นี่ยังไม่นับเรื่องหนังดีๆที่โรงอื่นไม่เอามาฉายอีกนะ แต่พอย้ายมาอยู่บางใหญ่ก็ไกลเกินจะถ่อไปดูครับ แต่บางเรื่องถ้าอยากดูมากๆก็ไปครับ ผมรักหนัง โปรดการดูหนังที่โรง ชอบระบบฟิล์มมากกว่าดิจิตอล ผมไม่ได้รักโรงหนัง ดังนั้นโรงไหนดี แฟร์ เดินทางสะดวก ผมไปดูโรงนั้น ไม่ได้ออกมาด่า เมเจอร์ แล้วอวยที่อื่น เห็นอะไร เจอมาอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น ถ้า sf ทำแบบเมเจอร์ ผมก็ด่า ถ้าลิโด้ไม่มีหนังดีผมก็ไม่ต้องถ่อไปดุ จากคุณ : ThE BaRE VaC PRojEcT เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:36:59

ความคิดเห็นที่ 89 บางกระทู้อาจแล้วรู้สึกเห็นในฐานะที่เป็นผู้บริโภค คนหนึ่ง แต่บางกระทู้อ่านแล้วยังไง ๆก็โจมตีอย่างเดียว หาเหตุผลไม่เจอ เราชอบความคิดของคุณ  ปลาน้อยไม่กล้าทวนน้ำ (juniorfish) ทุกความเห็นเป็นกลาง เชื่อว่าเป็นเสียงที่มาจากผู้บริโภคจริงๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน  และให้ความเป็นธรรมกับโรงหนังทุกเครือ  เพราะ บางอย่างที่ พวกคุณเรียกร้อง คุณ ไม่นึกถึงตามหลักความเป็นจริง จากคุณ : PhotoLLomo เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 15:54:47

ความคิดเห็นที่ 90 คุณฟ้อง สคบ. บังคับโรงหนังเมเจอร์ ทั้งๆ ที่ ไอ้ที่คุณเรียกร้อง หลายๆโรงก็เป็น  ถ้าคุณจะบอกว่าเมเจอร์ เป็น เบอร์ 1 ถ้างั้นคุณต้องทำความเข้าใจด้วยว่า เบอร์ 1 คือผู้ควบคุมกลไกลราคาตลาด  (อาจารย์ ธัญวัติ บอกมา)  ฉะนั้น สิ่งที่พวกคุณเรียกร้องคุณต้องให้ ทุกโรง มันถึงจะโปร่งใส จากคุณ : Pong Big Godfather เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 15:57:12

ความคิดเห็นที่ 91 เออ ของบางอย่าง SF ก็แพงอย่างไม่มีเหตุผลอ่ะ แต่ไม่มีใครเอามาพูด เพราะ มีไม่เยอะสาขาเท่าเมเจอร์  เสียงก็เลยเบา ๆ กลายเป็นเสียงนกเสียงกาไป  อย่าง แถวงามวงศ์วาน โรงหนังเครือเมเจอร์ อย่างเอสพลานาด ถูกกว่า SF อีก ไม่เห็นมีใครมาโวยวายเลย ว่า SF แพง ส่วน Pop corn ราคาเท่ากัน ลองดูข้าวโพดดิ เมเจอร์ เม็ดโตเบิ้มมาก จากคุณ : คนของสังคม (kameminmin) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 16:03:29

ความคิดเห็นที่ 92 ส่วนคุณอดีตพนักงาน EGV อันนี้ ขอบอกว่าขอบคุณข้อมูลมากๆ ที่นำมาให้เราๆท่านๆ ทราบกัน แต่ที่อ่านมาทั้งหมด มันดูแปลก ๆถ้าคุณบอกว่าเรียนโฆษณา คุณต้องเรียนหลักเศรษฐศาตร์ด้วยนะ ว่า ที่ใดมี ดีมาน  ที่นั่นย่อมมี ซับพาย  เยอะ ด้วยเช่นกัน  และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ SF ไม่มีโฆษณา  และถ้าคุณเป็นเจ้าของสินค้าคุณจะเอาโฆษณาไปให้ใครดู  ไร้สาระมากมาย จากคุณ : เผ็ดตับเป็ด เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 16:10:56

ความคิดเห็นที่ 93 ขอคุยแบบไร้สาระบ้างดิ ถามแบบอารมณ์ คนดูหนัง   >>>>> ต่อต้านแล้ว ถ้าเค้าลดราคา จะหยุดปะ   555 จากคุณ : ทานอะไร เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 16:18:38

ความคิดเห็นที่ 94 ด้วยความเคารพนะครับ เพจนี้ คนทำเจ็บปวดจากเมเจอร์ เป็นผู้บริโภคเมเจอร์ ส่วนกรณีที่ใครเจ็บปวดจากเอสเอฟ หรือ อยากจะเจ็บปวดและแอนตี้ทุกเครือ ผมแนะนำให้ทำเพจใหม่ครับ เพราะเพจที่เค้าทำ เปลี่ยนชื่อไม่ได้ และก็มีคนเข้าไปโพสบ่นบริการเอสเอฟประปราย ก็ไม่ได้ปิดกั้นนะ คุณปลาอะไรสักอย่าง ไปสร้างเพจแอนตี้เอสเอฟและสร้างแอนตี้ทุกเครือแล้วก็ส่งลิงค์ไปที่เครือข่าย เดี๋ยวจะชวนคนไปกด Like ละกันนะครับ ง่ายดี มีคนถามว่าบ่นแล้วมีไรดีขึ้น คำตอบ ผมว่า ณ วันนี้ โฆษณาน้อยลง แม้จะตัดหนังตัวอย่าง แต่สินค้ายังคงเดิม และก็เอาป้ายมาติดบอกเวลาแล้ว และก็มีคนมาด่าคนทำเพจด้วย เอาเป็นว่ารับฟัง แต่ทำให้ถูกใจทุกคนไม่ได้ แต่ทำให้ถูกใจคนหมู่มากที่เป็นลูกค้าเมเจอร์ได้ประมาณนึง แต่ 100% ไม่ได้ เป็นคนธรรมดา บ้าดูหนังครับ ไม่เคยเรียนการตลาดครับ ไม่ได้ทำธุรกิจโรงหนังครับ เข้าโรงไหนแล้วเจ็บปวดก็จำก็สะสมครับ ความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบจากที่ไหนก็พุ่งไปที่นั่น เครือเอสเอฟนานๆเข้าทีครับ และผมไม่มีหน้าที่ไปออดิททุกโรงในประเทศไทยครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 16:29:55 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 54 16:28:38 จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 16:20:36

ความคิดเห็นที่ 95 คำตอบจากผู้บริหารเมเจอร์ครับ จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 16:23:30

ความคิดเห็นที่ 96 Major ตั๋วแพงออกมาต่อต้านกันทำไม เค้าทำธุรกิจนะครับ ในเมื่อเห็นเค้าทำแล้วกำไรเยอะก็รวมกลุ่มไปตั้งบริษัทแข่งสิครับ โรงหนังของเครือคู่แข่งที่ถูกกว่าก็มี  หรือถ้าอยากดูราคาถูกๆก็โรงชั้น2สิครับ 2 เรื่องควบ ไม่ถึง 100 หนังใหม่เหมือนกัน Starbuck / ตั๋วการบินไทย / ค่ามอเตอร์ไซค์วิน / รถขายไอติมที่ขายราคาแพงกว่า7-11 / สลากกินแบ่ง / ร้านค้าบนดอย / สินค้าในร้านขายเครื่องเขียนหน้าโรงเรียน / ค่าแทกซี่ / ค่ารักษาในโรงพยาบาลบางแห่ง / พ่อค้าผลไม้รถเข็น   ก็แพง(กำไรขั้นต้นเยอะเกิน) ไม่เห็นออกมาบ่นกันเลย เราในฐานะผู้บริโภค  มีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้สินค้าหรือบริการครับ  แต่การที่ออกมารณรงค์ให้คนอื่นไม่ใช้บริการนั้น  ผมว่าค่อนค้างใจแคบครับ เมื่อไหร่ที่มีคนเห็นว่าธุรกิจอะไรกำไรงามๆได้มาง่ายๆ  ก็จะมีคนออกมาทำเลียนแบบ  เมื่อมีการแข่งขันสูงขึ้นราคาก็จะอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่าเอง จากคุณ : pakkardkaw เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 20:53:47

ความคิดเห็นที่ 97 ก็คนไทยเป็นแบบเนี๊ยะ "ไม่พอใจก็ไม่ต้องไปดู" มันเลยโดนเอาเปรียบจากพ่อค้า เฮ้อออออ ขอถอนหายใจ จากคุณ : อาบาอาบา เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 21:40:02

ความคิดเห็นที่ 98 ขอถามเรื่องการห้ามนำอาหารหรือขนมจากภายนอกเข้าโรงหนังนิดนึง เห็นด่าแต่เมเจอร์ฯ มีใครกล้าตอบไหมว่าโรงหนังเครืออื่นๆ ให้เอาเข้าไปได้ เพราะเท่าที่ผมดูหนังมาเห็นทุกเครือก็ห้ามหมดนะ ( เฉพาะโรงสมัยใหม่นะ ) แต่ทำไมด่ากันอยู่เครือเดียว คนที่ด่าเรื่องนี้ช่วยตอบหน่อยได้ไหม ผมว่ามันไม่เป็นกลางน่ะ จากคุณ : เหตุผล (หอมหมื่นไมค์) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 22:05:17

ความคิดเห็นที่ 99 ผมท้าเลยนะ พวกที่บอกว่า SF ก็แย่พอๆกันเนี่ย ว่ามีโปรโมชัน SF อันไหนหลอกลวง มีปัญหา ไม่เป็นไปตามที่แจ้งบ้าง ถ้ามี ลองเอามาแชร์กันเลย เอามาบอกหน่อย บอกก่อนนะครับ ใครจะเชื่ออะไร ลองถามจากประสบการณ์ตรงของคุณ จากเพื่อนที่ดูหนังบ่อยๆของคุณ ว่าเรื่องไหนมันจริงไม่จริง โปรโมชันหลอกลวงน่ะ ของเมเจอร์เต็มๆครับ  มากมายเหลือเกิน ทั้งโปรวันพุธ โปรบัตรดูหนัง อันนี้สุดๆ วันหมดอายุที่บัตรก็ไม่มีบอก อยู่ดีดีบัตรหมดอายุ ไม่รู้หมดจริงหรือเปล่า ยึดเงินในบัตรเกลี้ยง เพื่อนผมเคยโดนไป 800 บาท เอาคืนไม่ได้เลย ไหนจะบัตรแบบเก่า เปลี่ยนเป็นแบบใหม่ต้องจ่ายเพิ่ม 100 นึง ทั้งๆที่เพิ่งทำไปเดือนที่แล้ว เมเจอร์และคณะก็เป็นโรงหนังค่ายเดียวที่เนียนขึ้นราคาตั๋วพิเศษ 20 บาทสำหรับหนังบางเรื่อง เช่น ironman 2/ harry7.1 ซึ่งโรงอื่นเค้าไม่ทำกัน ฉะนั้นผมไม่แปลกใจเลยที่จะมุ่งเป้าไปที่เครือเดียว เพราะพฤติกรรมมันฟ้องครับ ส่วนเรื่องของขายหน้าโรงแพง อันนี้ผมไม่ทราบว่าใครแพงกว่ากัน? เครือไหนมีการแจ้งราคาที่ชัดเจน หรือจงใจไม่ชัดเจนอย่้างไร อันนี้ผมไม่ทราบ ใครรู้มาบอกกันบ้างก็ดีครับ จากคุณ : สลัดเป็ด เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 22:12:45

ความคิดเห็นที่ 100 แปลกดีนะครับ คนปกป้องเมเจอร์โผล่มาให้เพียบเลย แถมแนวคำพูดก็ย้ำๆแค่ว่า "มองความเป็นจริง เห็นใจโรงหนังบ้างสิ" งั้นก็ตอบง่ายๆครับ "ไม่เห็นใจครับ" และบอกตรงๆ ผมคิดว่าไอ้ที่เข้ามาปกป้องมันหน้าม้าคุณภาพสูงทั้งนั้น พูดซะอย่างกับบ้านตัวเองเปิดโรงหนังเองงั้นแหละ อ้อ บอกไว้ก่อนนะครับว่าผมเป็นประเภท "พูดว่าไม่ชอบ ตู็ก็กล้าไม่ดู" ตอนนี้ผมนั่งรถจากหนองแขมฝั่งธนฯ พาแฟนไปดูที่ Lido ครับ ถือว่าช่วยเป็นกำลังใจให้ที่นั่นอีกซัก 2 ใบ จากคุณ : peTOUCHso เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 22:30:55

ความคิดเห็นที่ 101 คำว่าโฆษณา 45นาที รวมเรียกหนังตัวอย่างว่า โฆษณาด้วยหรือเปล่าคะ อ่านแล้วงง แต่โดยส่วนตัว เราชอบดูหนังตัวอย่างนะ ทำให้ตัดสินใจได้ว่า เรื่องนี้ควรหรือไม่ควรเสียเงินดู จากคุณ : missusnow เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 22:36:57

ความคิดเห็นที่ 102 คิดกันให้ได้เยอะๆครับ อย่าเอาแต่พูดเอาแต่โพส คุณเลือกได้ครับ เงินอยู่ในกระเป๋าเล่นมันให้หนัก  สัักวันมันก็จะรู้สึกเอง แต่ถ้ายังมัวดีแต่โพสพวกคุณก็จะรู้่สึกไปเรื่อยๆ...........................สม จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 23:10:34

ความคิดเห็นที่ 103 ความเห็นที่ 100 ผมว่าไม่แปลกหรอก ที่ออกมาพูดไม่ได้มาปกป้องเมเจอร์นะ แต่บางข้อกล่าวหามันไม่เป็นกลาง  ตอนนี้กล่าวหาด้วยอารมณ์ ไม่ได้ใช้เหตุผล ขอย้ำว่าบางข้อนะ เช่น เรื่องห้ามนำอาหารจากภายนอกเข้าโรงฯ  ข้อนี้ทุกเครือก็ห้ามทั้งนั้น ถ้าจะด่าก็ด่าทุกเครือ  ราคาขายของพวกนี้บางทีมันก็ขึ้นอยู่ว่าขายที่ไหนนะ น้ำเปล่า 1 ขวด ซื้อในร้านสะดวกซื้อก็ราคานึง ซื้อในสนามบินก็ราคานึง ซื้อในโรงแรมก็อีกราคานึง เรื่องทำไมที่นั่ง 3 แถวหลัง แพงกว่าแถวที่ 4 ทำไมไม่คิดราคาเดียวกันหมดทั้งโรงไปเลย  มันก็เหมือนคุณไปดู concert หรือหรือ Talk Show  ที่นั่งเค้าก็แบ่งเป็นโซน ที่นั่งตรงไหนอยู่ในตำแหน่งที่ดีก็แพงกว่า ที่นั่งใกล้เวทีเห็นนักร้องชัดเจนก็แพงกว่า เป็นเรื่องธรรมดา ตั๋วแพงสุดของ Concert ติดเวทีโซน VIP ราคา 2 พัน 3 พัน ไม่เห็นมีใครบ่น เรื่องการเปิดช่องขายตั๋วน้อยผมเชื่อว่าทุกที่ก็ไม่น่าเปิดเต็มทุกช่องอยู่แล้ว จะเปิดเต็มก็เฉพาะช่วงที่มีหนังใหญ่เข้า หรือวันหยุดที่มีลูกค้าเยอะ นอกจากว่าลูกค้าเยอะแล้วดันเปิดน้อยก็อีกเรื่องนะ เรื่องคิดค่าที่จอดรถมันก็เป็นธรรมดานะ เหมือนคุณไปห้างซื้อของที่ขายอยู่ในห้างของเค้าแท้ๆถึงปั๊มบัตร ยังไงก็ต้องเสียไม่10ก็20 บางห้างต้องซื้อของถึง 500 บาท ด้วยซ้ำถึงจะปั๊มบัตรได้ เรื่องราคาตั๋วหนังเห็นมีคนสงสัยว่าทำไมราคาวันหยุดแพงกว่าวันธรรมดา ผมถามกลับว่าทำไมราคาโรงแรมหรือตั๋วเครื่องบินช่วง High หรือช่วงเทศกาลต้องแพงกว่าช่วง Low  (เข้าใจนะ) ส่วนเรื่องโฆษณานานกับการขึ้นราคาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า อันนี้สิเห็นด้วย แต่บางทีด่ากันซะ เหมือนเครืออื่นไม่มีการขายโฆษณาเลยนะ ทั้งๆที่มีโฆษณาเหมือนกันแต่น้อยกว่า   อยากให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์อ่ะ จากคุณ : หอมหมื่นไมค์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:10:21

ความคิดเห็นที่ 104 เหม่ ๆ ไม่ได้เข้ามาดูกระทู้ในนี้นาน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีตัวแทนจากเมเจอร์มาจับผิดด้วย  สนุกกันเลยงานนี้ (ผมขอตั้งสมมติฐานว่าพวกคุณบางคนเป็นตัวแทนจากเมเจอร์นะ เพราะทีพวกคุณบางคนยังพยายามจับผิดว่าทำไมไม่ด่าเครืออื่นบ้างได้เลย ไม่ผิดใช่ไหม?) คุณ juniorfish  นี่.... แค่อ่านความเห็นก็เหนื่อยแทนแล้ว เอาเป็นว่าผมมองในแง่ดีนะ ว่าความต้องการของคุณคือ .... คือไรนะผมไม่เข้าใจ มือไม่พายเอาเท้าราน้ำใช่ไหม ??   เอาเป็นว่าที่คุณพยายามโชว์ความฉลาด จับผิดประเด็นนั้น ประเด็นนี้ ผมว่ามีหลายคนเห็นแล้วล่ะครับว่าคุณฉลาดสุดลิ่มทิ่มประตูแค่ไหน ผมอธิบายไปคงเปล่าประโยชน์แหง ๆ เพราะเห็นมีคนอธิบายเยอะแล้วด้วย ..... ผมแนะนำให้คุณไปใช้บริการเจ้าอื่นหลาย  ๆ  เครือ หลาย ๆ สาขา เทียบกันกับของเมเจอร์ดู  แล้วคุณจะรู้ว่าไอ้ที่คุณถามว่า เช็คที่อื่นทุกเครื่อหรือยัง จะได้ได้คำตอบครับ แล้วจะได้ฉลาดขึ้นด้วยนะ ผมว่า ..... คุณ chelsit   ผมว่าหลายคนเข้าใจประเด็นที่คุณจะสื่อนะ คือถ้าไปต่อต้านเค้าแล้วยังไปอุดหนุนเค้าอยู่ก็อย่าบ่น  ประมาณนี้ คือจ่ายเงินแล้วอย่าโวยวาย ก็ทน ๆ ดูไป แล้วอะไร ๆ มันก็จะไม่ดีขึ้นหรอกถ้ายังอุดหนุนมัน งั้นผมถามเผื่อคนไม่มีทางเลือกหน่อยสิ ประมาณว่าหันไปเจอแต่เครือเมเจอร์ใกล้สุดแล้ว  แบบนี้ต้องทำไง เลิกดูหนังไปเลยไหม ????  ทั้งชีวิตนี้ขอดูแต่หนังแผ่นอย่างเดียวพอแล้ว  เก็บเงิน ซื้อโฮมเธียร์เตอร์หรูๆ จบ พอ แบบนี้ดีไหมครับ ???   ความคิดแบบนี้มันก็เหมือนจะถูกนะ แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ไง เหมือนกับคุณเกลียดลิเวอร์พลู แต่รักแมนยู  ถ้าสองทีมนี้เตะกันคุณแก้ปัญหาด้วยการไม่ดูมันแทน แบบนี้ไงครับ ไม่ถูกมั้ง ??  แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยการเชียร์ทีมรักให้แข่งชนะทีมที่คุณเกลียด  แบบนี้จะถูกกว่าหรือเปล่า ??   การดูหนังก็เหมือนกันแหละครับ ถ้าคุณเป็นคนรักหนัง แต่หันไปเจอแต่เครือเมเจอร์ที่คุณรู้สึกว่าเอาเปรียบ คุณจะแก้ปัญหาด้วยการพยายามเรียกร้องสิทธิ์ของคุณ  หรือจะรอดูหนังแผ่นอยู่กับบ้านในอีกสองสามเดือนให้หลังล่ะ ???    ลองตรองดูนะครับ จากคุณ : ^~~--BeeR_ChimarO--~~^ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:14:36

ความคิดเห็นที่ 105 เรื่องอาหารที่ห้ามนำเข้าเราก็เข้าใจนะ แต่ที่ขายหน้าโรงน่ะมันเอาเปรียบกันเกินไป แพงกว่า 5 บาท 10 บาทเราไม่ว่า นี้ล่อซะแพงกว่าตั๋วหนังอีก ขนมน่ะเราไม่อยากกินหรอก แต่น้ำเวลานั่งห้องแอร์นานๆ มันก็มีกระหายบ้าง และบางอย่างที่เราอยากกินมันก็ไม่มีขายหน้าโรง ให้ทำไง นั่งดูไปหิวน้ำไปเหรอ ส่วนของกินต้องห้ามอันนี้ต้องเป็นตามระเบียบอยู่แล้ว เช่น กลิ่นเหม็นฉุน ไม่ว่ากัน เรื่องที่จอดรถเราว่ามันมีผลโดยตรงกับเวลาโฆษณาที่เยิ่นเย้อเกินนะ เสียค่าที่จอดรถ 4 ชั่วโมง 20 ก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้ามันเกินเวลา โดนเพิ่มอีก ชั่วโมงละ 20 บางแห่ง 50 บาทเกินไปอ่ะ เราก็ไม่อยากออกช้า แต่หนังมันยังไม่จบจะให้ทำอย่างไง ไม่ใช่ไปแล้วเลือกรอบดูได้เลยสักหน่อย ไหนๆ ก็บ่นแล้วขอบ่นเครือนี้อีกหน่อย เวลาขายแพคเกจน่ะมีหนังสือแจ้งมาถึงบ้าน แต่เวลาจะเก็บเพิ่ม คือเราสมัครบัตรโรงพารากอน เงินเหลือในบัตร 800 บาท พอปีใหม่นี้จะไปดูหนัง บอกบัตรหมดอายุ ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 100 บาท ทั้งที่เราเพิ่งเติมเงิน 5-6 เดือนเอง ตอนนั้นบอกว่ามีอายุ 1 ปีนับแต่เติมเงิน ถ้าไม่จ่ายบัตรก็ใช้ไม่ได้ เงินก็ศูนย์ไปด้วย เรื่องสำคัญแทนที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ กลับไม่ทำ เป็นเรืองที่ทุเรศจริงๆ เอาเปรียบกันเกินไป พอกันทีกับเครือนี้ นี่เรากะดูให้เงินหมดแล้วก็ไม่ต่อสมาชิกแล้ว ไม่ดูหนังโรงเราดูหนังแผ่นที่บ้านก็ได้ ตอนนี้คิดว่าเอาเงินที่ไปดูหนังมาซื้อโฮมเธียรเตอร์ไว้ดูที่บ้านดีกว่า เหอะ เหอะ ไม่ได้ใช้อารมณ์นะจ๊ะ เราใช้เหตุผลไตร่ตรองหลายรอบแล้ว ไว้เรื่องไหนอยากดูจริงๆ ค่อยไปดูที่โรง แต่ถ้าค่ายนี้ยังโฆษณาแบบบ้าคลั่งก็ขอบาย กลับมาตอบ คห.108 (อิอิ) เรื่องค่ารักษาสิทธิบัตรโวยกับพนักงานแล้ว แต่เค้าบอกเป็นนโยบายผู้บริหาร เราก็เลยฝากไปบอกว่าก็ดีปีหน้าเราจะได้ไม่ต้อง เสียตังค์ดูหนังเยอะ เอาเปรียบลูกค้าแบบนี้น่าเกลียด พูดออกมาจริงๆนะไม่ได้คิดในใจ ปกติเราดูหนังไม่ค่อยบ่อยเดือนละเรื่องนี้มากแล้ว เพราะไม่ค่อยว่างเงินในบัตร เลยเหลือเยอะ กะว่าปีนี้จะดูหนังชดเชยเรื่องที่อยากดูแต่ไม่ว่างมาดูซะหน่อย เจอแบบนี้เลยเซ็ง กลับไปดูหนังปีละ 2 เรื่องเหมือนแต่ก่อนดีกว่า อิอิ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 01:25:28 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 00:29:53 จากคุณ : kakanoky เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:26:47

ความคิดเห็นที่ 106 อะไรกันคับ พวกคุณมาว่า เมเจอกันแบบนี้ได้ไง ผมไม่ยอม ผมรับไมได้ เมเจอเค้ามีโฆษณาเยอะขึ้นก็ดีออกจะได้ช่วยให้เราอยู่ในโรงได้นานขึ้น ผมว่าโฆษณายังน้อยไปด้วยซ้ำ น่าจะเพิ่มโฆษณาสัก 1 ชม ค่าตั่วก็ออกจะถูก 140-160 บาท ผมว่าไม่แพงนะ ผมว่าตั๋วธรรมดาน่าจะขึ้นไปสัก 300 บาท กำลังดีนะ แล้วขนม+น้ำ เค้าไม่ให้เอาข้างนอกเข้าไปก็ทำถูกแล้ว กลิ่นมันแรง ป๊อบคอน+เป๊ปซี่ 150+ ผมว่าออกจะถูกนะ น่าจะขึ้นเปง 200 บาทไปเลย ผมสนับสนุนเมเจอเต็มที่นะ เค้าทำถูกแล้ว แต่ผมไม่ดูเมเจอนะ เค้าจะขึ้นก็ขึ้นไป ผมไม่เดือดร้อน ผมดูในเน็ทแทน อิอิ จากคุณ : Gamemer เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:40:21

ความคิดเห็นที่ 107 ความเห็นที่ 105 ขอบคุณที่ใช้เหตุผลนะครับ ผมเองก็ไม่เคยซื้อขนมในโรงเหมือนกันเพราะมันแพง ซื้อก็แค่น้ำเปล่า 20 บาท เท่านั้น แต่ผมก็ไม่คิดมากนะเพราะเราเลือกที่จะไม่ซื้อได้ การที่เค้าตั้งราคาแพงอาจจะถูกหรือผิด อันนี้แล้วแต่จะคิดนะ ผมพูดรวมๆทุกเครือนะ เพราะเชื่อว่าไม่มีเครือไหนขายขนมราคาเท่าข้างนอกหรอก จากประสบการณ์ตรง เหมือนมาม่าคัพ บนเครื่องบิน Low Cost ราคาถ้วยละ 60 บาทไง ไปฮ่องกง 2 ชม.กว่าๆ ถ้าหิวก็ต้องซื้อ หรือถ้าทนได้ก็ไม่ซื้อ ก็เท่านั้น อาหารบนเครื่องบินบางทีก็ไม่มีอาหารที่เราอยากกินนะ หรือเวลาไปเที่ยวผับเอาเหล้าจากข้างนอกเข้าไปกิน ยังต้องเสียค่าเปิดเลย แล้วเรื่องบัตรที่มีปัญหาทำไมคุณไม่จัดการโวยล่ะ เป็นผมไม่ยอมแน่ๆ เหมือนผมเคยโดนค่ายมือถือเก็บค่าส่ง SMS ทั้งๆที่ไม่เคยส่งเลย ผมก็โวยแล้วก็ตรวจสอบว่าผิดพลาดที่ผมเองที่ส่ง SMS ไปโดยไม่รู้ตัว แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 00:57:22 จากคุณ : หอมหมื่นไมค์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:56:23

ความคิดเห็นที่ 108 กระทู้นี้สนุกดีครับ อ่านเพลินเลย ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ ผมว่าเรื่องของธุรกิจ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยอมรับข้อหนึ่งว่า หากมีช่องทางเพิ่มรายได้ จะต้องทำเสมอ ที่เรียกแบบบ้านๆว่า "เอาเปรียบ" นั้นแหละครับ โรงหนัง อาจจะรวมไปถึงคนสร้างหนัง ก็ถือว่าเป็นธุรกิจหนึ่งครับ และคงมีระบบการ"เอาเปรียบ" อยู่อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า แต่ละที่ จะมีวิธีการ ปริมาณ รูปแบบ ความหลากหลาย มากน้อยกว่ากันเพียงใด หากมีอะไรที่รู้สึกไม่สบายใจ หรือเห็นแล้วว่า "เอาเปรียบ" เกินไป ร้องสิทธิก็ดีครับ เพียงแต่ว่ากระบวนการทางราชการ จะช้า อืดอาด และมีความเที่ยงธรรมแค่ไหน คงต้องเข้าใจในเรื่องนั้นต่างหากอีกด้วย ผมขออนุญาต(อีกครั้ง) ขอเตือนสติให้คนดูหนัง "เลือก"มากขึ้นครับ  ในการเลือกนั้นคงต้องดูหลายอย่างเช่นกัน ทั้งสถานที่ การบริการ ความสะดวก ความประหยัด จนไปถึงความพึงพอใจ ผู้บริโภคอย่างผม ท่านผู้อ่านอยู่ มีสิทธิครับ เลือกให้ถูกใจเถอะครับ จากคุณ : หลังโรง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 00:59:42

ความคิดเห็นที่ 109 อีพวกที่บอก ไม่ไปดูก็จบ ๆๆ   รู้จักคำว่า การรวมพลังไม๊ค่ะ  ถ้าอยากแสดงความคิดความอ่านเหนือกว่าคนอื่นเชิญไปไกลๆ เลยค่ะ เชิญ!!!   ที่ไหนๆก็มีคนพวกนี้ตลอด จากคุณ : อินเตอร์นะคะน่ะ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 01:03:35

ความคิดเห็นที่ 110 เห็นด้วยกับความคิดที่ 108 ครับ จะไปหาความสุขจากการดูหนัง อย่าคิดมากจนเกินไปครับ มองในแง่บวกครับ เช่น เครือนี้แพงกว่า 20 บาท แต่มันอยู่ใกล้บ้าน ก็คิดซะว่าซื้อความสะดวกครับ ดีกว่านั่งรถไปไกลขึ้นจ่ายค่ารถแพงกว่า แถมเสียเวลารถติดอีก เหมือนผมซื้อไอติมยี่ห้อนึงจากรถที่ขับมาขายถึงหน้าบ้านแพงกว่าออกไปซื้อที่เซเว่น ก็คิดว่าซื้อความสะดวกครับไม่ต้องออกไปซื้อเอง คุณเลือกได้ครับ พิจารณาจากความสะดวก ความปลอดภัย ความสะอาด ความประหยัด สถานที่ การบริการ สำหรับผม สะดวก ปลอดภัย กับความสะอาดมาก่อนครับ ^ ^ จากคุณ : หอมหมื่นไมค์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 01:12:14

ความคิดเห็นที่ 111 เราว่าคนที่เขาด่าก็เพราะอยากดูหนังนั่นแหล่ะ แต่ไม่อยากถูกเอาเปรียบเกิน ไม่อยากดูจะมาด่าทำไม นั่งดูแผ่นที่บ้านสบายใจกว่าเยอะ โรงหนังที่ให้เลือกมันก็น้อยด้วย มีอยู่ไม่กี่เครือ ส่วนใหญ่ก็เลือกดูโรงใกล้บ้าน จะให้ขับรถหรือนั่งรถไปดูไกลๆ เพื่อหนีโรงหนังพวกนี้มันก็ยิ่งเปลืองอ่ะ บ่นบ้างน่ะดีแล้ว ทางผู้บริหารจะได้รับทราบโดยตรงไม่งั้นชาตินี้ก็คงคิดว่า ลูกค้าพอใจในบริการอย่างสูงถึงมีกำไรเยอะ ทั้งที่จริงๆแล้วหนังมันน่าดูเยอะต่างหากล่ะ อย่างเราถ้าเงินในบัตรหมดก็ไม่เดือดร้อนแล้ว ชอบดูหนังนะแต่ชอบดูคนเดียว เปิดแผ่นนั่งดูที่บ้านเราก็มีความสุขเหมือนกัน ไม่ต้องเสียค่านำมันกับที่จอด ถ้าเป็นหนังแอคชั่นที่อยากดูจริงๆ ถึงจะยอมเสียตังค์ไปดูในโรง เอาไว้ลูกค้าคิดแบบนี้ขึ้นมากๆ สักวันผู้บริหารอาจรู้สึกขึ้นมาบ้าง ตอนนี้ก็ใกล้แล้วนิ หลังๆ เราไปดูหนังบางเรื่องทั้งโรงไม่ถึง 10 คนก็มีนะ บางทีทั้งแถวนั่ง 2 คนก็มี จากคุณ : kakanoky เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 01:38:12

ความคิดเห็นที่ 112 เลิกเข้ามาร่วมปีแล้วล่ะสำหรับเครือนี้ อดใจรอดูวันพุธที่ SF ที่เดอะมอลล์อย่างเดียวเลย 60 บาทของจริง ทั้งหนังเก่าหนังใหม่ ปล.ไม่ได้โฆษณาแฝง แค่อยากสื่อว่าโรงหนังที่ใหญ่และไม่เอาเปรียบก็ยังพอมีค่ะ จากคุณ : Orrakata เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 08:25:22

ความคิดเห็นที่ 113 มันช้าไปแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลง  กับไอ้โรงหนังชั่ว เห็นแก่ตัว  เราจึงกลับมาที่ด้านมืด โหลดบิทเท่านั้นที่เราต้องการ.............. ถ้าพวกมันทำให้เป็น 60 บาททุกวันทุกรอบ เมื่อนั้นแหละเราจะเข้าใปดู  เพราะแค่ 60 บาท กำไรมันก็มหาศาลแล้ว...... แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 10:44:42 จากคุณ : boy and girl เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 10:43:17

ความคิดเห็นที่ 114 "ผมสัญญา ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป จะโหลดบิตแม่มทุกเรื่องเลย" แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 11:47:40 จากคุณ : DJ FINTSTONE เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 11:47:17

ความคิดเห็นที่ 115 คห.112 SF วันพุธขึ้นเป็น 80 บาทแล้วครับ และไม่นับหนังเพิ่งเข้าใหม่ 3 วันแรก แต่เขาแปะประกาศไว้หน้าโรงชัดเจน ไม่มีหมกเม็ด จากคุณ : unholy เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 13:12:14

ความคิดเห็นที่ 116 ขอแวะมาขอบคุณ จขกท. ก่อนเลยครับ ที่ตั้งเพจขึ้นมา และอย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้หนังเริ่มฉายได้เร็วขึ้น เห็นผลจริงๆครับ ประเด็นเรื่องโฆษณา การโฆษณาในโรงหนังมันบังคับดูครับ ไม่งั้นต้องปิดตาปิดหู เพราะไม่มีรีโมทเปลี่ยนช่องหนี ที่อุดหูกับปิดตาก็ไม่แถมให้ซะด้วย ถ้าเข้าไปนั่งแล้วก็ลุกออกลำบากครับ จริงๆถ้ามีใครบังคับให้ฉายโฆษณาก่อน แล้วฉายหนังตัวอย่าง แล้วฉายหนัง ผมว่าน่าจะดีนะครับ จะโฆษณายาวๆก็จัดไป แต่แจ้งเวลาที่หนังตัวอย่างจะเริ่มฉายด้วยนะครับ 555 ประเภทที่เริ่มด้วยหนังตัวอย่าง แล้วอัดโฆษณา ผมว่าทำให้คนดูเข้าโรงหนังกันช้าเลยล่ะครับ ประเด็นค่าตั๋ว ประเด็นนี้ราคาจะแพงยังไงก็แจ้งออกมา โปรแบบไหน บัตรไหนใช้ได้ไม่ได้ แจ้งล่วงหน้าครับ ซึ่งผมมองว่า ถ้ามีใครเข้ามาควบคุมให้ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนกี่วันทางเวบไซต์ ก็น่าจะดีครับ ถ้ายังโฆษณาเยอะ ราคาแพง ทางเลือกทั้งถูกและไม่ถูกกฏหมายมันก็จะเกิดเพิ่มขึ้นมาเองครับ ถ้า 60 บาท ทุกวัน ทุกรอบ ทุกโรง พวกซูมกับโหลด ก็จะหายไปเยอะ ระวังนะครับ เทคโนโลยีกล้องวีดีโอมันไปเร็วมาก คุณภาพสูง เล็กมาก วันใดคุณตรวจจับไม่เจอ แล้วมาเจอหนังซูม HD ทำเป็น BD ขายและโหลด คุณภาพ 80-90% เรื่องใหญ่แน่ครับ ไม่งั้นก็คงต้องติดเครื่อง X-ray แบบสนามบินหน้าโรงหนัง 5555 เรื่องส่วนแบ่งรายได้ เรื่องนี้พอเคยได้ยินมาครับ มันจะเป็นแบบนี้ โรง 50% - เจ้าของหนัง 50% ครับ บางครั้งโรงหนังจะโดนหักมากกว่านั้นจากทางค่ายหนัง ในกรณีที่เป็นหนังดัง แพง ต้นทุนสูง หรือทำรายได้ได้สูง เช่นเกินร้อยล้าน ก็จะต้องมีจ่ายเพิ่มครับ แต่...... โรงหนังก็เหมือนเครื่องบิน โรงแรม ที่มีจุดคุ้มทุนต่อการฉาย 1 รอบ ต่อ 1โรง เช่น มีคนดูเกิน 10 คน ก็คุ้มทุน ที่เหลือกำไร การขึ้นราคาก็เหมือนปรับจุดคุ้มทุนให้ลดต่ำลง เหลือ 5 คน ก็คุ้มทุน (ตัวเลขทั้งหมด ผมสมมติขึ้นนะครับ) คราวนี้ มันก็แสดงว่าถ้าขึ้นราคา ถึงคนดูน้อยลง โรงหนังก็ไม่ได้ลำบากอะไร อาจจะเสียรายได้จากของกินไปบ้าง ในกรณีที่ลูกค้ามีทางเลือกไปดูที่อื่นได้โดยต้นทุนของลูกค้าไม่แตกต่างกันนะครับ แต่ของเมเจอร์ มีส่วนแบ่งการตลาดเกิน 50% (จริงๆน่าจะ 70-80%) ทำให้ลูกค้าที่อยากเลือกไปดูหนังที่อื่น คำนวณแล้วไม่คุ้ม คราวนี้มันก็กลายเป็น จะดูหรือจะไม่ดูในโรงมากกว่า เมเจอร์ขึ้นราคา จริงๆ ไม่ผิดเพราะเมเจอร์ทำอะไรก็ได้ เป็นเอกชน แต่การไม่แสดงราคา แสดงโปรโมชั่น ที่ชัดเจนล่วงหน้าเพียงพอให้ลูกค้าตัดสินใจ แล้วมีลูกค้าหลงไปถึงที่แล้วคิดว่าใช้โปรนั่นได้ นี่ได้ แต่ไปถึงแล้วใช้ไม่ได้ ผมว่า ขาดความจริงใจต่อลูกค้าไปนะครับ เมเจอร์ควรระวังเรื่อง Brand Loyalty (ความซื่อสัตย์ต่อตราสินค้า) นะครับ มันถูกทำลายจากสิ่งที่คุณทำ จากการไม่ชัดเจนนี่แหละ คราวนี้ถ้าในมุมมองของผู้กำกับ ผู้สร้างหนัง ความเจ็บปวดที่สุดอยู่ที่การที่หนังถูกซูม ปล่อยโหลดในบิท ถามว่าโรงหนังขึ้นราคา ทำให้มันเกิดทางเลือกที่ผิดกฏหมายมากขึ้นหรือไม่ แน่นอนครับ ต่อไปหนังดีๆ หนังไทยที่ตั้งใจสร้าง ถ้าคนไม่ดูเพราะค่าตั๋วแพง โปรใช้ไม่ได้ตามที่แจ้ง หนังไทยดีๆ ก็จะหายไปเหลือแต่หนังทุนต่ำ ตีหัวเข้าบ้าน วงการหนังไทยจะแย่ แล้วสุดท้าย มันก็จะย้อนกลับไปหาโรงหนังเองล่ะครับ ส่วนหนังเทศ อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้มันมี BD ซึ่งบางครั้งออกเร็วกว่าที่หนังจะเข้ามาฉายเมืองไทย ทำให้มีหนังคุณภาพสูง ดูได้ในเวลาเดียวกับที่หนังฉายในโรงก็มีนะครับ ที่พูดมาทั้งหมด มันจะเป็นผลกระทบต่อวงการภาพยนตร์ของประเทศไทยโดยรวมเลยล่ะครับ เริ่มจากที่คุณไม่จริงใจในเรื่องราคา โปรโมชั่น โฆษณา ราคาของกิน และอื่นๆต่อผู้บริโภคนี่แหละ คนเรา เจ็บแล้ว ไม่ยอมเจ็บซ้ำง่ายๆหรอกครับ สุดท้ายขอสั้นๆครับ "คนเรามีทางเลือกเสมอ แต่ถ้าคุณทำให้คนต้องหนีไปใช้ทางเลือกที่ผิดกฏหมาย อย่าโทษว่าคนเหล่านั้นแย่แต่เพียงฝ่ายเดียว หันกลับมาดูตัวเองบ้างว่า เป็นคนผลักเค้าออกไป เพราะเห็นแก่กำไรเพียงอย่างเดียวหรือเปล่า?" แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 54 13:32:57 จากคุณ : Mr. Coffee เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 54 13:32:09