Q: จากบรรดานักแสดง ผู้กำกับ และ บรรดาทีมงานการสร้างภาพยนตร์ ดูแล้วรู้สึกว่า หนังเรื่อง Late Autumn นี้จะเป็นทีมงานในฝันเลย ( Dream Team)
A: ผมได้พบกับบรรดาทีมงานที่ยอดเยี่ยมมากๆจริงๆครับ ทุกคนล้วนแต่มีชื่อเสียงโดดเด่น,มีความสามารถในอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างเช่น photography( ช่างกล้อง ) Kim Woo Hyung , art direction( กำกับศิลป์ ) Ryu Sung Hee , costume ( ดูแลเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ) Cho Sang Kyung , make up ( ช่างแต่งหน้า ) Song Jong Hee เป็นเพราะบรรดาทีมงานเหล่านี้ ทำให้ผมรู้สึกมั่นในในทีมงานการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มากครับ ผมมั่นใจว่าผู้ชมจะต้องสนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับ มุมมอง ภูมิทัศน์ของหนังแน่นอนครับ บวกกับเรื่องราวของการพบกันระหว่างผู้ชาย กับ ผู้หญิง ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา ผู้ชายที่ปิดตัวเองจะเปิดหัวใจผู้หญิงที่ปิดตัวเองได้อย่างไร ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่มีเสน่ห์มากๆเลยครับ
Q: ฉันสงสัยว่า สถานการณ์ในการคัดเลือกตัวแสดงจริงๆแล้วเป็นอย่างไนบ้าง
A: จากที่ผมรู้ ทังเว่ยตกลงที่จะแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้มานานพอสมควรแล้วครับ และ อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมอยุ่เสมอครับ ผมได้รับบทภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนที่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นและรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก แต่ถึงแม้ว่าขณะที่รู้สึกว่ามันน่าสนใจ แต่บทภาพยนตร์ที่ได้รับมันมีอยู่แค่นิดเดียวไม่กี่หน้า ราวกับว่ามันได้ถุกเขียนมาเพื่อทำให้คนอ่านพอใจอย่างเดียวเท่านั้นเลยย ( หัวเราะ ) แต่ทั้งๆที่บทภาพยนตร์ที่ได้รับมันจะมีเพียงน้อยนิด แต่ผมก็รู้สึกว่ามันมีช่องว่างหลายๆจุดซ่อนอยู่ภายใน และ คิดว่ามันคงจะน่าสนใจไม่น้อยถ้าบทจะรับบทนั้น ดังนั้นหลังจากที่ผมเดินทางกลับถึงเกาหลี ผมก็เดินทางจากสนามบินตรงไปพบกับผู้กำกับ Kim Tae Yong ทันทีเลยครับ
หลังจากที่ได้พูดคุยจากการพบกันครั้งนั้น ผมพบว่ามีหลายๆส่วนที่เรา 2 คนคิดตรงกันเลยล่ะครับ ผู้กำกับถามผมว่า ถ้าผมจะทำหนังออกมาแบบนั้น หรือ แบบนี้ คุณชอบรึป่าวว ? ผมชอบลักษณะการทำงานแบบนี้มาก เพราะมันคือการแสดงถึงลักษณะการทำงานในวันถ่ายทำจริงๆ ทันทีที่ผมตอบว่าผมชอบ ผู้กำกับบอกว่าให้ไปที่ ซีแอตเติ้ล ให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้ แล้วผมก็ไปจริงๆ ผมๆไปถึงซีแอตเติ้ล เดือน ตุลาคม 2009 แล้วก็กลับมาเกาหลี 2-3 วันเพราะมีตารางงานพิเศษที่ต้องกลับมาทำ แล้วก็บินกลับไปที่ซีแอตเติ้ลและอยู่ที่นั่นจนถึงเดือนมีนาคม 2010
Q: ในเรื่องนี้ เมืองซีแอตเติ้ลได้ถูกบรรยายว่าเป็นเมืองที่ถูกปลกคลุมเต็มไปด้วยหมอก แม้จะเป็นสิ่งที่เข้าใจกันได้ แต่ก็ต้องมีการปรับปรุง คือทำให้สว่างขึ้น ชัดขึ้น โดยใช้ CG สถานที่ที่มีบรรยากาศที่สดใส ที่ไม่สามารถพบเจอได้ในประเทศเกาหลี ใน ขณะที่อยู่ที่เมืองซีแอตเติ้ล คุณคิดว่าเป็นเมืองที่มีคุณลักษณะหลายๆอย่างที่จะสามารถทำให้เกิดความรู้สึกประทับใจ โดนใจได้ ?
A: ข้อแรก ผมขอมองอย่างเป็นบวกนะครับ (หัวเราะ ) เมืองซีแอตเติ้ลสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ความอ่อนไหวให้ผมได้ครับ เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเสียงดนตรีครับ เพราะว่าจะมีวงดนตรีมาแสดงให้ดูและฟังสดๆในทุกๆที่เลยล่ะครับ ผมยังได้ไปนั่งดื่มเบียร์ในบาร์กับผู้กำกับ พวกเราคุยกันหลายๆเรื่อง ในขณะเดียวกันก็สังเกตผู้คนที่นั้นไปพร้อมๆกันด้วย พวกเขาเหมือนจะดูผ่อนคลาย สบายๆมากกว่าคนประเทศเรา( เกาหลี ) เพราะยังงี๊แหละ ผมก็เลยรู้สึกผ่อนคลาย และ สงบมากขึ้น แล้วก็ทำให้ผมรู้สึกอ่อนไหวมากขึ้นด้วย
ส่วนมุมมองในแง่ลบ ถึงแม้ว่าเมืองซีแอตเติ้ลจะเป็นเมืองที่คนอเมริกันอยากจะย้ายเข้ามาอยู่มากที่สุด แต่เมืองนี้ก็เป็นเมืองที่มีสถิติที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดด้วย ในช่วงฤดูหนาวของเมืองซีแอตเติ้ล เหมือนที่เราเห็นในภาพยนตร์ ที่จะมีฝนตกลงมาแบบ ปรอยๆ พรำๆ แบบเหมือนไม่มีวันจะหยุดตก ในขณะที่เมืองซีแอตเติ้ลเป็นเมืองที่ถูกเลือกเพื่อใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ เมืองที่ให้ความรู้สึกถึงความเงียบเหงา โดดเดี่ยว แต่ความรู้สึกแบบนี้แหละที่ช่วยทำให้ผมสามารถถ่ายทอดบทบาทตัวละครตัวนี้ได้ดีเลยล่ะครับ เพราะเหตุผลเหล่านี้ทำให้ผมมีความรู้สึกเหมือนกับผมติดกับ หรือ ถูกคุมขัง ช่วงที่ผมอยู่ที่ซีแอตเติ้ล
Q: ภาพยนตร์เรื่อง Late Autumn นี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง ผุ้หญิงกับผู้ชายต่างเชื้อชาติ และ วัฒนธรรมมาพบกัน ถ้านักแสดงที่จะมาแสดงคู่กับคุณไม่ใช่ ทังเว่ย แต่เป็นนักแสดงหญิงเกาหลีแทน ฉันคิดว่าคุณคงไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ตามบุคลิคของตัวละครในภาพยนตร์ได้ ความรู้สึกที่บรรยายถึงความรู้สึกแปลก และ แตกต่าง แล้วก็ ความรู้สึก และ ประสบการณ์ทางด้านการแสดงที่คุณได้รับจากการทำงานร่วมกับทังเว่ย ( จากความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ และ ภาษา ) ?
A: อย่างแรกเลยคือผมรู้สึกสนุกกับการที่ได้ร่วมงานกับเธอ ผมรู้สึกเพลินเพลินในการดูภาพยนตร์เรื่อง Lust, Caution และ ผมคิดว่าเธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่าถือว่าเป็นโชคและมีความหมายมากๆๆที่มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงแบบเธอ แนน่นอนมันมีความแตกต่างกันในช่วงแรกๆและ ความที่บทพูด บทสนทนาทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากการเป็นนักแสดง ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรเลยที่เหมือนกับทังเว่ยเลยล่ะครับ ทังเว่ยเคยชินที่จะชอบทำตลกๆในช่วงให้สัมภาษณ์ ซึ่งผมพยายามหลีกเลี่ยงเธอเมื่อตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ( หัวเราะ) แต่ผมก็ไม่ได้ทำแบบนั้นตลอดทุกครั้งนะครับ อย่างไรก็ตาม เปรียบเทียบกับสิ่งที่ปรากฏบนจอภาพยนตร์ ความรู้สึกที่แตกต่างกันในเรื่องของเชื้อชาติ วัฒนธรรม และ ภาษาในภาพยนตร์จะมีมากกว่าในชีวิตจริง เพราะ ในขณะที่อ่านบทภาพยนตร์ การที่ได้พูดคุยกับผู้กำกับ การที่ได้ไปดริ๊งกันบ้าง และ ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้จะค่อยๆช่วยทำลายกำแพงความแตกต่าง ความไม่คุ้นเคยระหว่างเราได้ครับ จนตอนนี้เราสามารถหัวเราะกันได้ในขณะที่ถ่ายทำฉากที่ ซีเรียส เอาจริงเอาจังที่สุดน่ะครับ
MY LOVELY BINNIE #1104 อีก 532 วัน...ทำให้คนอย่างฉัน...ได้พบความหมาย{แตกประเด็นจาก A10716294}
96
กะ 
ช่วยหน่อยจร้า
เปิดมาต๊กกะใจหนวดบินนี่ 555 ..ระยะประชิดเกิ๊นนน
Poster ที่แถม My Way Hyunbin หล่อมากกกกกกกกกกกก เค๊าก็นับวันรอหนุ่มเบอร์ลินเดินทางมาถึงเหมือนกันค๊าพี่บีขรา