ความคิดเห็นที่ 1 ใช้ อะไร จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:33:52

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านแต่ชื่อกระทู้ในหน้าเฉลิมไทย.. แล้วก็แว๊บนึกขึ้นมาว่า "อ้าว... นี่ตูยังนุ่งโจงกระเบนอยู่เหรอเนี่ย?" จากคุณ : นักก้าง เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:37:01

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่ครับ ร.5 พระองค์ทรงเป็นคนที่ปฏิวัติหลายๆเรื่องให้กับประเทศไทยจริงๆ เป็นคนที่เก่งและหัวก้าวหน้ามากๆ ทั้งเรื่องเลิกทาสแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องมีความขัดแย้งเสียเลือดเสียเนื้อเหมือนที่อื่น, รวมถึงเป็นผู้ริเิริ่มเกี่ยวกับรถไฟไทย ให้ประเทศมีความก้าวหน้า เป็นที่แรกๆในเอเชีย รวมถึงเรื่องยอมเสียดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาส่วนใหญ่เอาไว้ ให้ลูกหลานในปัจจุบัน ไม่ถูกกลืนวัฒนธรรมไป เสียดายที่คนปัจจุบัน ความแตกแยกทางสังคมและการเมืองมันสุดโต่งเหลือเกิน เมื่อก่อนเราเสียดินแดนไปหลายส่วนจากต่างชาติจนเหลือเป็นรูปขวานเหมือนในปัจจุบัน แต่ปัจจุบันคนในประเทศดันทำซะเอง จนเหมือนจะให้ด้ามขวานต้องหักแยกออกจากกันหรือไง ยังรวมไปถึงการรถไฟ ที่ไม่ยอมมีการต่อยอด ปล่อยให้ขาดทุนทุกปี รัฐต้องมาช่วยอุดในส่วนนี้ พอจะแปรรูปให้เอกชนเข้ามา ก็โดนหาว่าขายชาติซะงั้น แหะๆ ทั้งที่รถไฟเป็นระบบขนส่งที่ค่าใช้จ่ายถูกมาก และสามารถ load น้ำหนักได้เยอะกว่า พวกรถบรรทุกซะอีก ทั้งๆที่สมัยนั้นไทยเป็นคนบุกเบิกเรื่องการรถไฟ เหนือกว่าพวกจีน ญี่ปุ่นซะอีก แต่ปัจจุบันโดนแซงหน้าแบบไม่เห็นฝุ่นซะแล้ว T_T แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 17:11:39 จากคุณ : chivu เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:42:22

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบเรื่องหลังใช่ค่ะ  เสียให้ฝรั่งเศส  เงินที่นำไปจ่ายเรียกว่า "เงินถุงแดง"  เป็นเงินที่รัชกาลที่ 3 สมัยที่ยังเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ในรัชกาลที่ 2 ค้าขายสำเภากับต่างชาติ  ซึ่งควรเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์  แต่พระองค์ตรัสราวกับทราบล่วงหน้าว่า "เก็บเงินไว้ไถ่บ้านไถ่เมือง" (ความเห็นส่วนตัว คิดว่า เพราะรัชกาลที่ 3 ทรงค้าขายและคบหากับต่างชาติ จึงทำให้ทรงทราบความคิดเห็นของฝรั่งที่นิยมล่าอาณานิคม  พระองค์จึงทรงเล็งการณ์ไกลว่าเมืองไทยคงจะโดนเข้สักวัน  จึงเก็บเงินไว้ค่ะ) จากคุณ : baejaK เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 12:44:45

ความคิดเห็นที่ 5 น่าขะขึ้นหัวกระทู้ว่า ขอบคุณเสด็จพ่อ ร.5 ที่ทรงยกเลิกทาส ทำให้เีรามีวันนี้ จากคุณ : ชายกลาง (mytohn) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:01:35

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนเรียน จำได้ว่าพระองค์ ทรงมองเห็นปัญหาที่จะเกิด จึงไม่เลิกในครั้งเดียว แต่ค่อยเป็นค่อยไป เลิกทาสให้คนที่เกิด บางพ.ศ ก่อน ค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนในที่สุดก็เลิกทั้งหมด จากคุณ : บิตแพตต์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:25:07

ความคิดเห็นที่ 7 ถามตัวท่านเองดีกว่า จขกท ว่าท่านอยู่ยุคไหนแน่รึ หรือทะลุกระจกออกมา ปัจจุบัน พ.ศ 2554 กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวง และข้าอยู่ในแผ่นดินของ รัชกาลที่9แล้ว ป.ล. อ่านแค่หัวกระทู้เช่นกัน อิ อิ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 14:34:56 จากคุณ : ทุกอย่าง มี สองด้าน เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:27:41

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจว่าท่านจขกท คงหมายถึงละครเรื่องทาสรัก จากคุณ : 529 แสมดำ - หมอชิต เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 13:40:32

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นเพราะท่านชายดาบไถ่ตัวหญิงออกจากโรงโสเภณีต่างหาก หากมิเช่นนั้นหญิงคงต้องเป็นนางโลมไปตลอด /เอยาวดีนางโลมตัวหอมแห่งสำนักโคมเขียว จากคุณ : ผู้หญิงที่สวยเลอค่าที่สุด เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:19:43

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านกระทู้นี้ ทำให้อยากอ่านนิยายทวิภพอีกรอบ แต่ละครคงไม่ได้ดู จากคุณ : The Day You Went Away เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:32:09

ความคิดเห็นที่ 11 วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 ร.5 ทรงประกาศ "พระราชบัญญัติพิกัดกระเษียรลูกทาสลูกไทย" - โดยให้ลดค่าตัวทาสลงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั่งหมดค่าตัวเมื่ออายุได้ 20 ปี เมื่ออายุได้ 21 ปี ผู้นั้นก็จะเป็นอิสระ มีผลกับทาสที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2411 - ห้ามมิให้มีการซื้อขายบุคคลที่มีอายุมากกว่า 20 ปีเป็นทาสอีก วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2448 ร.5 ทรงออก "พระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124" ให้ลูกทาสทุกคนเป็นไทย - ทาสประเภทอื่นที่มิใช่ทาสในเรือนเบี้ย ทรงให้ลดค่าตัวเดือนละ 4 บาท นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2448 เป็นต้นไป - มีบทบัญญัติป้องกันมิให้คนที่เป็นไทยแล้วกลับไปเป็นทาสอีก - เมื่อทาสจะเปลี่ยนเจ้าเงินใหม่ ห้ามมิให้ขึ้นค่าตัว ปล. ที่ถูกต้องแล้วไม่ใช้คำว่า เสด็จ ร.5 นะคะ คำว่า "เสด็จ"ที่เป็นคำลำลองในการออกพระนามพระบรมวงศ์ จะใช้สำหรับชั้น "พระองค์เจ้าลูกหลวง" พระราชโอรสธิดาในพระมหากษัตริย์ที่ประสูติจากเจ้าจอมหม่อมพระสนมทั่วไป และ ในรัชกาลปัจจุบันใช้ออกพระนาม ชั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ เครดิต ข้อมูลวิกิ #14 ขอบคุณนะคะ แก้ไขเพิ่มเติมแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 16:37:38 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 15:42:35 จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:44:10

ความคิดเห็นที่ 12 เสด็จ ไม่ใช้กับพระเจ้าแผ่นดินนะครับ จากคุณ : ผู้ชายซอยสิบ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:53:30

ความคิดเห็นที่ 13 รู้สึกว่าในเรื่องทาสรักจะเป็นเหตุการณ์ในสมัย ร.๔ นะ จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:02:01

ความคิดเห็นที่ 14 คำว่า "เสด็จ"ที่เป็นคำลำลองในการออกพระนามพระบรมวงศ์ จะใช้สำหรับชั้น "พระองค์เจ้าลูกหลวง" ที่ประสูติแต่สมเด็จพระอัครมเหสี และ ในรัชกาลปัจจุบันใช้ออกพระนาม ชั้นพระเจ้าวรวงศ์เธอ สงสัยว่าพระองค์เจ้าลูกหลวงที่ประสูติแต่สมเด็จพระอัครมเหสี หมายความว่าอย่างไรคะ  เพราะเสด็จนั้นจะใช้กับพระเจ้าลูกเธอหรือพระเจ้าลูกยาเธอที่ประสูติจากเจ้าจอม    แต่พระราชโอรสหรือพระราชธิดาที่ประสูติจากพระอัครมเหสีหรือพระมเหสี ซึ่งจะทรงเป็นเจ้าฟ้าชั้นเอก จะออกพระนามว่าทูลกระหม่อม  ส่วนที่เป็นเจ้าฟ้าชั้นโท จะเรียกว่า สมเด็จ จากคุณ : mondaychild เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:04:15

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าหมายถึงทาสรัก คงยังไม่ึถึง เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 4 จากคุณ : ฉัตรกฤษณ์ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:20:54

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าประเทศไทยเราถ้าไม่ประชาธิปไตย(แบบนี้) แบบปล้นเขามาตั้งแต่ 2475 เนี้ย เราเจริญกว่านี้เยอะครับ สมัยก่อน มีแต่ พระมหากษัตริย์ ที่ สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยพระองค์เอง  ประเทศเรายังเจริญ ขนาดล้ำหน้าในเอเชีย ไปหลายเรื่อง พอเปลี่ยนการปกครองมาเป็น "นักการเมืองปกครอง" (ไม่ขอเรียกว่าประชาธิปไตย) ความลำยองเข้าปกคลุมประเทศไทยทันที เืลือกให้ดี   3ก.ค. นี้ จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:40:10

ความคิดเห็นที่ 17 เจ้าของกระทู้อย่าพึ่งกังวลไป เรื่องเลิกทาส หาก ร.5 ทำไม่สำเร็จ ยังมี ร.7 ซึ่งท่านทรงประกาศสละราชสมบัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิไตย ซึ่งภายใต้การปกครองนี้จะไม่มีทาส ไม่มีนายเงิน เพราะสาระสำคัญคือ ประชาชนทุกคนมีศักดิ์และสิทธิ์โดยเท่าเทียมกัน (แม้นแต่กษัตริย์ยังต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย) หรือพวกนายเงินยังไม่ยอมตายอีก หมด ร.7 ก็ยังมี ร.9 ซึ่งท่านก็มีวิสัียทัศน์และพระเมตตา มากเช่นเดียวกัน ไม่ปล่อยให้ท่านเจ้าของกระทู้เป็นทาสหรอก จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:07:16

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้นี้...ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : EverLasting Friends เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:32:05

ความคิดเห็นที่ 19 #16 ถ้าประเทศไทยเราเปลี่ยนการปกครองเร็วกว่านี้สัก400ปีคงจะไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้ ผมว่า นะ นี่แค่79ปีผ่านมา ยังหน่อมแน้ม อยู่เลย จากคุณ : grampus01 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:39:38

ความคิดเห็นที่ 20 นึกว่ากระทู้ ปานวัด จากคุณ : ตาจุ๊ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:41:10

ความคิดเห็นที่ 21 มาซาบซึ้งกับกระทู้นี้ และรู้สึกเห็นใจพระมหากษัตริย์ไทยมากๆ เหมือนพ่อที่คอยทำดี หาเงินเข้าบ้าน ปกป้องลูกหลานมาโดยตลอด ให้อยู่อย่างสุขสบายไม่น้อยหน้าใคร แต่พอลูกโตเข้าหน่อย กลับคิดว่าวิชาความรู้อันติ่งจะิริ๊ดจิ๊ดจ้อยที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา มันเก่งกาจไปซะทุกเรื่อง อวดดีจองหอง คิดว่าความคิดของพ่อช่างล้าสมัยเหลือเกิน จึงได้ทำทุกอย่างเพื่อให้อำนาจในการดูแลบ้านตกเป็นของตัวเอ งเพราะเชื่อมั่นเหลือเกินว่าทำได้ แบบพวกอวดเก่ง โดยไม่ได้ตักน้ำใส่กระโหลกเจียมกะลาหัวเลย ทั้งที่เงินที่เอาไปร่ำเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาก็ของพ่อทั้งนั้น แล้วสุดท้ายเป็นไง บ้านแตกสาแหรกขาดเพราะดูแลสมาชิกกันไม่เป็น จากคุณ : Jeremizz เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:43:31

ความคิดเห็นที่ 22 ควรเรียกพระองค์ว่า ร.5 ไม่ต้องมีเสด็จพ่อนำหน้ามานะครับ หรือจะเรียกสมเด็จพระปิยะฯ ก็ง่ายดี จากคุณ : ไม่ใช่เจ้าเข้าทรงนะ (เทวราชเกราะเหล็ก) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:40:55

ความคิดเห็นที่ 23 ให้กิฟ 16 ตรง ลำยองนี่แหละ ฮา... จากคุณ : KamenRider_V1 เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:46:13

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 19     #16 ถ้าประเทศไทยเราเปลี่ยนการปกครองเร็วกว่านี้สัก400ปีคงจะไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้ ผมว่า นะ นี่แค่79ปีผ่านมา ยังหน่อมแน้ม อยู่เลย จากคุณ : grampus01 แนะนำให้ลองศึกษาประวัติศาสตร์สากลเรื่องการเมืองและการปกครองค่ะ แม้แต่หลายประเทศที่อ้างว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่เก่าแก่ที่สุดลำดับต้นๆ ของโลกเช่น Greece , Iceland, Isle of Man เป็นต้น ปัจจุบัน ทุกประเทศยังเผชิญกับปัญหา มีคนที่ยังยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การทุจริตและคอรัปชั่น  การประท้วงและเดินขบวนเรียกร้องจากหลายภาคส่วน ถึงจะผ่านไปอีกกี่ร้อยปี ถ้านิสัยของคนในชาติยังไม่เปลี่ยน ยังมีกิเลส ตัณหา เห็นแก่ตัวมากกว่าส่วนรวม คนไม่ดีมีอำนาจ เมื่อนั้นก็ยังมีปัญหาให้พบอยู่ค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 22:10:05 แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 18:54:17 จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 18:52:57

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยบางส่วนเนอะ สังคมไทยอาจจะไม่เหมาะกับประชาธิปไตย เนื่องจากเป็นสังคมแบบ collectivism ค่าของคนอยู่ที่คนของใครจริงๆ สิทธิทางการเมืองถูกจำกัด ใครเห็นต่างกันในสังคมนั้น ก็มักจะถูกเหยียดหยาม ประนาม ไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา ใจ ตั้งแต่เปลี่ยนการปกครอง 2475 ประเทศต้องเจอกับปัญหาทางการเมืองหลายครั้ง เกิดรัฐประหาร กบฏ หลายสิบครั้ง รัฐธรรมนูญกฏหมายสูงสุด โดนฉีกทิ้งเป็นว่าเล่น เพื่อพวกนักการเมือง พวกมีอำนาจทั้งหลายจริงๆ จะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันไปทำไม จะบ้าอำนาจข่มเหงคนอื่นไปถึงเมื่อไหร่ ชีวิตคนมันก็สั้น เหมือนแค่แสงสว่างวาบช่วงนึงเท่านั้น จะโหยหาอะไรนักหนา กับสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อคนอื่นแบบนี้ จากคุณ : chivu เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 22:02:40

ความคิดเห็นที่ 26 เราคนนึง ที่ดีใจที่ประเทศเปลี่ยนมาเป็นระบบประชาธิปโตย (จะจริงหรือเก๊ก็ตาม) เพราะ จะสมัยนี้หรือสมัยก่อน อำนาจก็อยู่ในมือคนกลุ่มน้อย (สมัยก่อน อำนาจก็เป็นของลูกท่านหลานเธอ สมัยนี้ ก็เป็นของนักการเมือง นายทหารชั้นใหญ่) อย่างน้อย สมัยก็ ก็ยังด่า ยังว่า ยังท้วงติงได้ จากคุณ : blackbillaz เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 02:34:52

ความคิดเห็นที่ 27 ผมดีใจที่ได้สิทธิ์เลือกครับ ผมไม่เชื่อว่าบางคนเก่งจริงเสียด้วยซ้ำ จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 54 10:55:31