 |
โชคดีที่แม่ดุ "พรชิตา ณ สงขลา" ไม่หลงในชื่อเสียงและแบรนด์เนม
|
 |
ท่ามกลางข่าวร้ายๆ ของดารา ไม่ว่าจะเป็น "มือที่ 3" การด่าทอหรือมีเรื่องกันเพราะผู้ชาย ไม่ก็เที่ยวไปเกาเหลากับใครต่อใคร รึไม่ก็นุ่งลมห่มผ้าน้อยชิ้นเพื่อสร้างชื่อเสียง เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา เป็น 1 ในจำนวนน้อยที่ไม่ตกเป็นข่าวเหล่านั้น
ด้วยตลอดเวลาที่ผ่านมา มีพฤติกรรมคงเส้นคงวา อัธยาศัยไมตรีไม่มีเปลี่ยน แถมข่าวฉาวก็ไม่มีให้แสลงหู
"แม่ดุค่ะ" เบนซ์บอก
ฟังดูไม่น่าเป็นเหตุผล แต่เบนซ์ยืนยันว่านั่นละใช่
"เบนซ์โชคดีที่แม่ดุ"
ที่พูดอย่างนั้นเพราะ "สิ่งที่เบนซ์เป็นมาจากคำสอนของแม่ล้วนๆ" เธอว่า
โดยแม่สอนทั้งเรื่อง "ความธรรมดา" เป็น "ธรรมดา" ที่หมายความว่า ให้รักษาความเป็นตัวเองเอาไว้ และรู้อยู่เสมอว่าตัวเองเป็นใคร รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ
"อย่างการทำงานตรงนี้ แม่จะบอกเสมอว่าให้ทำตัวยังไง บอกว่าถ้าเราเริ่มต้นได้ดี ต่อไปก็ไม่ต้องห่วง"
เบนซ์จึงทำตัวดีตั้งแต่เริ่มต้น และยังคงทำมาถึงปัจจุบัน
"สมัยนี้เด็กใหม่เข้ามาเยอะมาก การจะอยู่ได้นานจึงต้องมีความสามารถ มีความรับผิดชอบ เพราะถ้าพูดถึงความสวย เบนซ์รู้ตัวว่าไม่มี จะอยู่ตรงนี้อีกนานไหม เบนซ์เลยไม่รู้ แต่ก็จะทำงานให้ดีที่สุด วางตัวให้อยู่ในจุดที่เป็นเรา"
"เบนซ์เลยว่าที่อยู่มาจนถึงวันนี้ได้ เพราะเบนซ์เป็นตัวของตัวเอง"
เหมือนที่แม่สอนเป๊ะ-เป๊ะ
เบนซ์บอกด้วยว่าที่ผ่านมาแม่ยังย้ำนักย้ำหนาให้ทำตัวเหมือนวันแรก
"อย่าคิดว่าวันนี้เธอมีชื่อเสียง แล้วจะทำยังไงก็ได้ เกิดสิ่งเหล่านี้หายไป คนที่เสียใจที่สุดก็คือเธอ" คือคำของแม่ที่เบนซ์บอกว่าจำได้ไม่ลืม
คุยมาถึงตรงนี้ เบนซ์ก็ยิ้มและว่า จะว่าไปสิ่งที่แม่สอนนั้นมีตั้งแต่เรื่องใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีคิด วิธีวางตัว ยันไปถึงเรื่องยิบย่อย ซึ่งแน่นอน รวมไปถึงเรื่องการใช้สตางค์ ที่เบนซ์นั้นขึ้นชื่อนัก
"แม่บอกเสมอว่าอย่าใช้เงินเกินที่เรามี มีเท่าไหร่ ต้องรู้จักใช้ให้เหมาะสม"
ดาราอย่างเบนซ์เลยไม่เข้าข่ายช็อปกระจาย หรือใช้แต่ของแบรนด์เนม
"อารมณ์อยากใช้มันมีนะ แต่พอไปเห็นราคาแล้ว โอ้โห กระเป๋าราคาเป็นแสนเนี่ย ไม่ไหวค่ะ"
ขี้เหนียวอย่างที่ใครๆ บอกละซิ-เราแซว
ฟังแล้วเบนซ์ยิ้ม ก่อนออกตัวว่าความจริงอาจเป็นเพราะเธอมีภาระต้องดูแลเยอะด้วยกระมัง
"เบนซ์มีภาระหลายอย่างที่ต้องดูแลคนในบ้าน เลยรู้สึกว่าเงินเป็นแสนน่ะ เอาไปทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ แล้วไม่ต้องถึงแสนก็ได้ แค่ไม่กี่หมื่น ให้เอาไปซื้อกระเป๋า เบนซ์คงไม่เอาหรอก"
นอกจากจะมีเหลือกินเหลือใช้จริงๆ นั่นแหละ ค่อยว่ากัน
แต่เรื่องนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่เธอบอกพลางหัวเราะร่วน
เรื่องเงินนั้นเบนซ์ว่าแต่ไหนแต่ไรมา จะว่าไปก็ตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำที่เธอถูกสอนให้ใช้น้อยกว่าที่มี ด้วยเหตุนี้ตอนเรียนมหาวิทยาลัยขณะที่หลายคนได้เงินไปคนละหลายๆ ร้อย เบนซ์ได้อยู่ราคาเดียวคือ 100 บาท ซึ่งคิดแล้วหากเรียนจบไปแล้วมีรายได้สัก 7,000 ก็ยังสามารถอยู่ได้สบาย
จะว่าไปเบนซ์ก็ว่าแม่น่ะสอนให้คิดไกลๆ คิดไปเผื่ออนาคต
แต่ถึงจะถูกสั่งสมมาแบบนั้น เบนซ์ในวัย 31 ปีก็สารภาพว่ามีเหมือนกันที่ลืมตัวจนโดนดุ ตอนที่เผลอ ซื้อแล้วซื้ออีก
ที่แม่รู้เรื่องเผลอใช้เงินเยอะนั้น เบนซ์ว่าเป็นเพราะทุกวันนี้หาเงินได้เท่าไหร่เธอก็ให้แม่หมด แล้วค่อยๆ ขอเวลาต้องการใช้ และถ้าขอ "มากไป" ก็จะโดน
"แต่เบนซ์ไม่เคยหมดไปกับเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า พรชิตาไม่เคยพราวไปด้วยแบรนด์เนม และถ้าเห็นก็ขอให้รู้เลยว่าถ้าไม่ใช่ลด 50-70% แล้ว เบนซ์ไม่ซื้อ ก็ทำไมเราต้องซื้อของตอนที่ราคาเต็มล่ะ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีวันที่ราคามันลด"
ยกเว้นแค่ครั้งเดียวที่อยากได้จัดเลยควักตังค์ซื้อกระเป๋ามาใบหนึ่ง ซึ่งถึงตอนนี้ประเมินแล้วว่าไม่คุ้ม
"เพราะพอจะใช้ทีก็กลัวเสีย กลัวเป็นรอย"
สุดท้ายเลยตั้งใจจะไม่ซื้อของแพงมาให้กลุ้มทีหลังอีก
"คนอื่นอาจจะมองว่างก แต่เงินเรา เราหา และรู้ว่าเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะได้มาแต่ละบาท เพราะฉะนั้นจะใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเรา จริงไหม"
แล้วถ้าถามว่าเป็นดาราไม่ต้องแต่งตัวหรู ดูดี เพื่อให้ใครเห็นใครชอบ ใครเห็นใครชมหรือ?
ที่จริงก็จำเป็นนะเบนซ์บอก
"แต่แม่จะบอกเสมอว่าเราต้องเป็นตัวเราเอง อย่าไปเป็นตามคนอื่น อย่าคิดว่าต้องใช้ของแพงๆ แบรนด์เนม ต้องซื้อเสื้อในห้าง ของข้างทางไม่ได้ แล้วมันเหนื่อยนะถ้าต้องสวยทุกวัน แต่งหน้าทุกวัน แล้ววันหนึ่งไม่แต่งหน้า โอ้โห เป็นเรื่องเลย คนจำไม่ได้ เบนซ์ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เลยพยายามรักษาความเป็นตัวเราเอาไว้"
เพราะอย่างนั้นหลายครั้งเราจึงได้เห็นเบนซ์ใส่เสื้อยืดตัวละ 100 ที่ซื้อจากข้างถนน เสื้อกั๊กที่ลด 50% เหลือไม่ถึง 400 บาท กางเกงขาสั้นอีก 250 บาท ส่วนกระเป๋าถือเบนซ์บอกว่า "แพงหน่อย" เพราะตกราว 1,000 กว่า
แค่นี้เบนซ์ก็ว่าไปไหนมาไหนได้สบาย
สำหรับเรื่องงาน เบนซ์บอกว่าถึงตอนนี้เธอไม่คิดอะไรมากไปกว่าทำหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุด
"เบนซ์ไม่ค่อยคาดหวังกับอะไรอยู่แล้ว และรู้ว่าคนเราจะมีจุดสูงสุดได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งจุดนั้นเบนซ์ผ่านมาแล้วตอนได้ร้องเพลงโดเรมี ดังนั้นจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นเบนซ์ก็พร้อมจะยอมรับเสมอ"
จากคุณ |
:
nut_monkey
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 54 13:04:40
|
|
|
|  |