Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
(วิจารณ์ DVD) Space Battleship YAMATO : สงครามอวกาศสไตล์สตาร์เทคที่คุณห้ามพลาด ติดต่อทีมงาน

เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมมีเป้าหมายว่าต้องไปดูในโรงให้ได้ แต่หลังจากที่ได้ยินว่าในโรงมีหลายฉากโดนตัด แถมโรงหนังประจำที่ผมไปดูดันไม่มีฉายอีก ก็เลยไม่ได้ไปดูเลย เลยรอแต่แผ่น

เนื้อเรื่อง

ในปี 2199 ที่ดูเหมือนโลกจะยังไม่แตก แต่ก็ต้องเกือบแตกอีกจนได้เมื่อมีเอเลี่ยนโผล่มาจากไหนไม่รู้ ยัดอุกกาบาตแถมรังสีทำให้โลกเป็นดาวที่อยู่ไม่ได้ จนมนุษย์ต้องลี้ภัยไปอยู่ใต้ดิน เอเลี่ยนพวกนี้เอายานอะไรไปสู้มันชนะตลอด และวันหนึ่ง พระเอกของเราไปเร่ร่อนบนพื้นโลก แล้วมียานตกลงมา มันเป็นข้อความจากมนุษย์ต่าวดาวที่อยู่นอกระบบสุริยะ เขามีเครื่องกำจัดรังสีให้ แต่ต้องไปเอาเอง และนี่คือความหวังเดียวของมนุษย์ที่จะอยู่รอดให้ได้ ทางโลกเลยขุดเอาเรือรบ ยามาโตะ ที่จมลงในมหาสมุทธแปชิกฟิค เอามาสร้างเป็นยานรบด้วยเทคโนโลยีเอเลี่ยนที่ถูกส่งมา จนเป็นยานรบที่ดีที่สุด และเป็นลำสุดท้ายในโลกด้วย

วิจารณ์

เมื่อดูจบแล้วผมคิดได้คำเดียวครับ

ทำไมมันไม่มีบลูเรย์เสียง + ซับไทยขายในไทยฟะ!!

มันเป็นเรื่องที่ผมเห็นแล้วอยากเก็บบลูเรย์มากๆ เพราะทั้งภาพ เนื้อหา เสียง ทุกอย่าง มันสุดยอดมากๆ และจะอยากบอกว่า หนังระดับนี้ ยังเหนือกว่าหนังฮอลลีวู้ดหลายเรื่องเสียอีก

ในเรื่องนั้นผมไม่เคยดูเรื่องยามาโตะเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก่อน แต่ก็มีพื้นฐานในการดูหนังอย่าง Star WARS หรือ สตาร์เทค มาก่อน เลยทำให้ผมอินได้ไม่ยากนัก (ฉากเริ่มเรื่องมาอยากบอกว่าคล้ายในเรื่องสตาร์เทคมาก) แต่ที่แปลกตาไปหน่อยก็คือ ยานอวกาศก็คือ เรือรบยามาโตะเนี่ยแหละ แอบงงๆ เหมือนกันว่าใช้เทคโนโลยีไหนในการปรับแต่งเรือรบเก่าให้สามารถทนรังสีและอุณหภูมิของอวกาศได้

เนื้อหาของหนังนั้นแน่นอนว่ามีความคล้ายสตาร์เทคและสตาร์วอร์อยู่ (สตาร์วอร์นี่เอาเฉพาะตอนยานรบสู้กันนะ) แต่ที่ต่างกันก็คือ หนังเรื่องนี้มีการบีบอารมณ์คนดู เอาง่ายๆ ก็คือ อย่างในหนังสตาร์เทค สังเกตได้เลยว่ามีคนตายกันเป็นบือ แต่ในหนังไม่ได้กล่าวถึงพวกนั้นมาก และยิ่งคนดูไม่รู้จักตัวละครด้วยแล้วยิ่ง "เฉยๆ" ตายก็ตายไปดิ ไม่เดือดร้อน ไม่ใช่ญาติตู แต่ในเรื่องยามาโตะ ไม่ใช่ ลูกเรือทุกคนมีหัวใจ เป็นมนุษย์ พวกเขามีเรื่องบีบคั้น มีความหวัง มีคนที่เขารักอยู่ ทำให้เราต้องคิดอยู่ตลอดว่า พวกเขามีภาระที่หนักมากในการเสี่ยงชีวิตขึ้นมายานยามาโตะ จะให้ส่งไปตายก็ไม่ควร

ยิ่งเป็นหนังของญี่ปุ่นที่ต้องมีกระแส "รักชาติ รักพวกพ้อง" ด้วยแล้ว ในเนื้อหาหนังจะกล่าวมาเลยว่า ความรักความห่วงใยของเพื่อนมนุษย์เนี่ยแหละสำคัญที่สุด แม้ว่าในยามนั้นจะเป็นยามที่ควรเอาชีวิตรอดเอาไว้ก่อนแล้วก็ตาม คุณจะรู้เลยว่า ในหนังเรื่องนี้สิ่งที่คุณจะได้รับ ไม่ใช่แค่ความมันอย่างเดียว แต่บางฉากอาจกระซากอารมณ์จนบีบนํ้าตาได้ ซึ่งผมแอบนํ้าตาซึมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ไหล

เรื่องระบบภาพนั้น อันนี้ขอเทียบกับแผ่น DVD หนังญี่ปุ่นของค่าย Happy ที่ผมซื้อล่าสุด ก็คือเรื่องนินจาปะทะเอเลี่ยน ระบบภาพนั้นออกมาโอเค ไม่คมมากนัก แต่ในเรื่องยามาโต้นั้นผมแทบตะลึง เพราะสเกลภาพที่ออกมานั้น สวยคม เนียน และอลังการมากๆ ดีไม่ดี เทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ของฮอลลีวู้ด ฉากยังสวย คมไม่เท่าเรื่องยามาโตะด้วยซํ้า โดยเฉพาะตัวของยานยามาโตะ ซึ่งถ้ากวาดตาสังเกตรายละเอียดดีๆ จะเห็นได้เลยว่ามันมีความละเอียดสูงมาก แม้ว่าฉากต่อสู้บนอวกาศจะสวยเนียนไม่เท่าเรื่องของสตาร์วอร์ก็ตาม แต่นอกนั้นฉากต่างๆ นี่จะบอกได้เลยว่า งานนี้ฮอลลีวู้ดเตรียมตัวให้ดีๆ เถอะ ญี่ปุ่นเพื่อนบ้านเราพัฒนาเทียบเคียงพวกเขาได้แล้วนะ

ส่วนเรื่องของเสียงนั้น ผมดูเสียงพากษ์ไทย by พันธมิตร ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าต้องมีความฮาและความซึ่งในนํ้าเสียงอยู่ ยามจะฮาก็เอาฮาจริงๆ แต่ฉากซึ้งกระซากอารมณ์นี่ก็ซึ้งได้ดีจริงๆ (เทียบกับ Sucker Punch ที่ขายในช่วงเวลาเดียวกัน เสียงพากษ์ของทีมพันธมิตรยังยอดเยี่ยมกว่าอีก ตัวละครหญิงนะ) ฉากเอฟเฟคต่อสู้นั้นเสียงยังดังไม่อลังเท่าสตาร์วอร์หรือสตาร์เทค จริงๆ ผมแอบงงเล็กน้อยเหมือนเสียงมันถูกบีบให้เบาลง แต่เมื่อฟังไปซักพัก ก็จะเริ่มชินได้ไม่ยาก พอชินแล้วทีนี้แหละจะฟังได้ไหลลื่นไม่มีที่ติ ตรงนี้ต้องขอชมเชย Happy มากที่ทำแผ่น DVD เรื่องนี้ออกมาแล้วไม่เน่าเหมือนเรื่องอื่นครับ

ข้อเสียของหนังก็ไม่น่าที่จะมีแล้ว (ผมไม่ขอเอ่ยถึงเรื่องบทว่าเดาง่ายไม่ง่าย ทุนสร้างเรื่องนี้สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นักแสดงคิมูระยังยอมมาถ่ายซ่อมฟรีไม่เอาค่าตัวเพื่อให้ทางหนังเอางบไปทำส่วนอื่นเพื่อให้หนังออกมาดูอลังการ ดังนั้นถ้ามัวแต่จะมาด่าเรื่องบทของหนัง วงการหนังก็คงไม่มีวันเจริญหรอกครับ) ถ้าจะมีก็คงมีอยู่อย่างเดียวก็คือ ฉากกระซากอารมณ์นั้น บางฉากทำซะยืด ซึ่งยืดมากๆ ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่การเอามาดูซํ้า มันจะเป็นฉากที่ค่อนข้างน่าเบื่อไปเลยทีเดียว แต่ด้วยพลังเสียงพากษ์ของทีมพันธมิตร ทำให้ฉากซึ้งกระแทกอารมณ์นั้นลื่นหูกว่าหนังเรื่องอื่นที่มีทีมพากษ์ทีมอื่นมากครับ

จุดเด่น
- ภาพ เสียง เนื้อหา อลังการมากๆ และเทียบคุณภาพของระบบภาพ เสียง กับราคาแผ่น 179 บาท ถือว่าคุ้มมากๆ คุณภาพของภาพและเสียงนั้นยังดีกว่าหนังแผ่นฮอลลีวูดที่ราคาแพงกว่านี้หลายเท่าด้วยซํ้า
- บทค่อยๆ ไป ไม่รีบ ไม่อืด ทำให้ดูได้เรื่อยๆ
- หนังสอนให้เรารักพวกพ้อง ไม่ใช่ตายได้ก็ตายไป
- ด้วยพลังของทีมพากษ์พันธมิตร ทำให้เสียงไทยหนังเรื่องนี้ไม่น่าเบื่อ
- นี่อาจเป็นหนังที่คู่ควรในการเก็บสะสมมากที่สุด

ข้อเสีย
- เสียงตอนช่วงต่อสู้บนยานอวกาศ (ไม่ใช่ยานแม่) ยังสู้สตาร์วอร์ไม่ได้
- บทกระซากอารมณ์ทำได้ดีก็จริง แต่การนำมาดูซํ้า จะน่าเบื่อได้
- ไม่มี S/F เลยแม้แต่หน่อเดียว ไม่รู้ HAPPY กั๊กไว้รึเปล่า

คะแนน - 9.7 / 10.00

การคาดการณ์ของมุมมองเด็กไทยเวลาดูหนังเรื่องนี้ (สำหรับเด็กนิสัยเกรียนที่ไม่ใช่คอหนังและดูเอามันส์)
- หนังจะตราตรึงใจเด็กอยู่ตั้งแต่แรกจนจบ แต่อาจจะมีช่วงก่อนขึ้นยานที่เด็กจะไม่ดู
- เด็กจะไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงต้องหนีลงไปใต้โลก และทำไมถึงขึ้นมาหายใจบนผิวโลกไม่ได้ เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องกัมมันตภาพรังสี)
- เด็กจะไม่สนใจเรื่องชุด แต่จะสนใจเรื่องหน้าตาตัวละคร ผลก็คือทำให้เด็กจำสับสนว่าใครเป็นใคร
- ฉากซึ้งกระแทกอารมณ์ อาจเป็นฉากที่เด็กดูแล้วรำคาญที่สุด และมองว่ามันเป็นการเสียเวลา
- เด็กจะจำชื่อฝ่ายดีและฝ่ายร้าย (อย่าว่าแต่เด็กเลย ผมก็จำไม่ได้ - - ^)
- เมื่อหนังจบเรื่อง เนื่องจากหนังยาวถึง 2 ชั่วโมง เด็กจะลุกทันที ไม่ดูต่อ ซึ่งจะพลาดโอกาสเจอกับฉากสำคัญของเรื่องตอนช่วงเครดิต ซึ่งจะทำให้เรื่องนี้สมบูรณ์
- ด้วยความที่เด็กไม่สนใจดูตั้งแต่เริ่มเรื่อง เด็กจะไม่รู้ว่าทำไมยานต้องออกไปยังอีกดาว และคิดว่าอาวุธทุกอย่างบนยานยามาโตะ คืออาวุธที่โลกผลิตขึ้นทั้งหมด

แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 54 09:49:23

 
 

จากคุณ : patiweshchan
เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 54 09:48:19




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com