ความคิดเห็นที่ 1 ละครญี่ปุ่นล้านเปอร์! จากคุณ : sesshomaru เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:11:58

ความคิดเห็นที่ 2 ญี่ปุ่น>>เกาหลี>>>>>>>>ไทย ถ้าเทียบเนื้อหาโดยรวมครับ จากคุณ : hoomupoo เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:14:24

ความคิดเห็นที่ 3 ละครญี่ปุ่นส่วนมากมีสาระมากกว่าละครไทย แต่ละครญี่ปุ่นเข้าใจยากกว่า เพราะวัฒนธรรมการพูดจาการแสดงออกทางอารมณ์แตกต่างกัน จึงทำให้ดูแล้วงง ไม่ใช่คนไทยเข้าใจญี่ปุ่นยาก แต่ประเทศอื่นก็เข้าใจการแสดงออกของญี่ปุ่นยากเหมือนกัน จากคุณ : Henry2k เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:14:38

ความคิดเห็นที่ 4 โดยรวม ๆ ก็ละครญี่ปุ่นบทและเนื้อหาดีกว่าไทย แต่ไม่ได้ทุกเรื่อง บางเรื่องก็ไร้สาระมาก ๆ จากคุณ : อึนบี เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:15:15

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าสาระก็จริงหละครับ ถ้าเทียบอัตราส่วนกัน ไม่ว่าจะมาแนวใหน แฝงสาระหมด แล้วละครบ้านเขามันหลากหลายด้วยหละ ไม่เหมือนละครไทย ร้อยละ80 เน้นแต่เรื่องความรักหนุ่มสาวทั้งนั้น นานๆ จะมีแนวบู๊กับผีมาปน แต่เรื่องความสนุก อันนี้ว่ากันเป็นเรื่องๆครับ จากคุณ : Michael เบ๊ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:15:20

ความคิดเห็นที่ 6 ละครญี่ปุ่นไม่ค่อยได้ดู แต่ผมว่าการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องก็มีสาระมากกว่าละครไทยหลายเรื่องนะ ส่วนแนวไร้สาระเขาก็มีแต่ในแง่ของการนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายและมีสาระแค่ระดับการ์ตูน ญี่ปุ่นก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆแล้วล่ะ จากคุณ : Keichun เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:17:01

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เห็นจะชอบละครญี่ปุ่นเลย จากคุณ : t_bhakawat007 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:22:04

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ค่อยได้ดูละครญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับละครซีรีย์เกาหลีช่วงวันเสาร์อาทิตย์ของช่อง 3 เรายอมรับว่า มีสาระกว่าละครไทย แต่ช่วงหลังๆ รู้สึกละครไทยเริ่มจะพัฒนาในเรื่องบทและเนื้อหามากขึ้น สนุกน่าติดตาม เดาตอนจบกันไม่ออก สรุปสั้นๆ คือ เน่าน้อยลง เราขอสรุปว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ละครที่เราคิดว่าเข้าข่าย "น้ำเน่า" ของช่อง 3 มีเรื่องเดียวคือ รหัสทรชน ที่เหลือ อาจจะแค่มีกลิ่นแต่ไม่ถึงกับเน่า จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:25:36

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวละครนางร้ายที่ได้แต่กรี๊ดๆๆๆ แทบจะไม่มีในละครญี่ปุ่นเลยนะ ขนาดซีรีย์ญี่ปุ่นที่ว่าตลกปัญญาอ่อน ติดเรท ยังไม่มี..แต่ละครไทยกลับมีเกือบทุกเรื่อง (-_-") จากคุณ : Kumaneko เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:27:45

ความคิดเห็นที่ 10 หมอ พนักงานบริษัท นี่เป็นอาชีพที่พบได้มากในละครญี่ปุ่น อาชีพลูกคนรวย เมียน้อยเสี่ย นี่เป็นอาชีพที่พบได้มากในละครไทย ไม่ได้ฟันธงว่าละครประเทศไหนมีสาระมากกว่า(จริงเรอะ) แต่อยากจะถามว่าละครไทยมีฉากทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวน้อยไปรึเปล่าครับ? จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:33:00

ความคิดเห็นที่ 11 ญี่ปุ่นแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะนายกอาซาคุระนี่แบบว่า ติดใจมากๆ แถมยังมีแนวหลากหลายตั้งแต่วัยรุ่นตามหาฝัน โบราณย้อนยุค ฆาตกรโรคจิต ยันตลกปัญญาอ่อน จากคุณ : ฉันมันเป็นแค่ไส้ติ่ง เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:34:15

ความคิดเห็นที่ 12 ละครญี่ปุ่นจะจับประเด็นเรื่องการทำงาน อาชีพ การใช้ชีวิตที่ตัวละครมีความพยายามมุ่งมั่นที่จะเป็นไป และให้ประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ ความรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง ความรักเป็นเงื่อนไขรอง ส่วนละครไทย ผมว่าตรงข้ามครับ ส่วนมากTypeเดียวกันหมด พระเอกจะต้องหล่อ รวย มีตังค์ ลูกประธานบริษัทหรือลูกผู้มีอำนาจ มีนางเอกน่าสงสารตกทุกข์ได้ยาก มีตัวอิจฉาแต่งตัวจัดปากแดง มีตัวประกอบ(ชูรส) มี2แนวหลักๆ คือ ชิงรักหักสวาท กับแย่งสมบัติกัน แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 23:45:17 จากคุณ : Zae50120 เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:34:16

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยที่ว่าละครญี่ปุ่นดีกว่าละครไทยอย่างมาก ทั้งในแง่ของโปรดักชั่น เนื้อหาละคร และผู้แสดง ล้วนแต่เป็นมืออาชีพทั้งนั้น แต่ยังไงเจ๊ก็ยังขอสนับสนุนละครไทย เจ๊เชื่อว่าละครไทยมันมีเสน่ห์บางอย่างในตัวเอง บางทีเนื้อหาของละครบ้านเราอาจจะมีความน้ำเน่าแต่ภายใต้ความน้ำเน่ามันก็เป็นเรื่องจริงของคนในสังคมไทย จากคุณ : เจ๊กึม เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:35:34

ความคิดเห็นที่ 14 ละครญี่ปุ่นบ้านๆก็มี แต่ไม่ได้เอามาฉายในไทย แต่ว่าสัดส่วนละครดีๆของเขามีมากกว่าไทย  ของไทยละครกระแสหลัก โดยเฉพาะฟอร์มยักษ์ คือดูเอามันส์ ดูเอาสนุก ดูคลายเครียด "ชีวิตเครียดอยู่แล้ว ไม่อยากดูอะไรเครียดๆอะค่ะ" แต่ละครญี่ปุ่นที่ใหญ่ๆของเขา เป็นละครดูเอาแรงบันดาลใจ ดูสำรวจชีวิต ดูเพื่อเรียนรู้ความรู้สึกของมนุษย์ ไม่ได้ว่าละครไทยดีๆไม่มีนะครับ  มี แต่น้อยมาก ผมอาจจะเข้าใจอะไรผิดก็ได้ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 54 23:39:20 จากคุณ : เย็นสิทธิ์ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:38:47

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าอยากรู้ว่าคนในประเทศนั้นเป็นอย่างไรให้ดูละครของที่นั่น และถ้าถามคำตอบที่ได้ย่อมเป็นละครญี่ปุ่นที่มีสาระกว่า คนญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องขยัน แต่มันมาพร้อมความเครียด อัตราค่าครองชีพสูง อัตราการฆ่าตัวตาย ละครญี่ปุ่นจึงมุ่งเน้นทางด้านสาขาวิชาชีพ มากกว่าบันเทิง แถมละครเรื่องหนึ่งก็ฉายแค่ ๑ ตอนต่อสัปดาห์ ตอนละแค่ ๖๐ นาที ต่างจากบ้านเรา ...ซึ่งละครเน้นเรื่องบันเทิง มากกว่าสาระ จากคุณ : Opacity เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:40:43

ความคิดเห็นที่ 16 ละครบ้านเรา ถ้าพระเอกไม่เป็นลูกคนรวย ก็เป็นประธานบริษัท ตัดปัญหาว่าทำไมถึงมีเวลามาปลอมตัวเพื่อจีบนางเอก ละครญี่ปุ่น ตัวละครเป็นคนวัยทำงานธรรมดา จะมาจีบนางเอก ก็ต้องหลังเลิกงานหรือเป็นวันหยุด จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:53:59

ความคิดเห็นที่ 17 แค่เพลงประกอบละครก็กินขาดละมั้ง เรียวมะ จอมคนพลิกแผ่นดิน OP 龍馬伝 - 佐藤直紀 [高音質] จากคุณ : Henry2k เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 54 23:59:04

ความคิดเห็นที่ 18 ประเทศญี่ปุ่นต้องการ การให้กำลังใจ ประเทศเขาเจอเหตุการณ์ร้ายๆมาเยอะ ละครจึงต้องให้พลังในการใช้ชีวิต ชอบเรื่องขอรักลูกทุกฤดูกาล  แนะนำจริงๆครับ จากคนติดคุก จะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร http://www.youtube.com/watch?v=MsNJKob-NFo จากคุณ : gorgasm เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:04:32

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบที่ละครญี่ปุ่นไม่ค่อยมีให้เห็นเรื่องตบตีแย่งผช.อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : jaijay เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:05:35

ความคิดเห็นที่ 20 ผมดูละครครับ ไม่ได้ดูสารคดี จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:05:54

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าตัดสาระออกไป สำหรับผม ละครญี่ปุ่นก็สนุกกว่าอยู่ดีอะ นักแสดงเข้าถึงตัวละครกว่าเยอะ ดาราไทยแอคติ้งแปลกๆไม่แข็งเกิน ก็ล้นๆ แต่งหน้าน่ากลัวด้วย = A = ละครไทยบางเรื่องก็ดีครับ ส่วนใหญ่ถ้าทำจากบทประพันธ์เก่าๆ หรือจากนิยายของนักเขียนคุณภาพ มักจะมีอะไรที่มากกว่าบทตลาดที่นักเขียนบทรุ่นใหม่ๆ เขาทำให้คนเสพกันอยู่ทุกวันๆ ต่างจิตต่างใจ ปล.รอดูพิมมาลาอยู่นะครับ แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 00:21:39 จากคุณ : จักรพรรดิแห่งยอดผามังกร เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:19:57

ความคิดเห็นที่ 22 ละครไทยมีพื้นฐานมาจากศาสนาครับ มีการแบ่งแยกฝ่ายดีฝ่ายชั่วชัดเจน ตรงจุดนี้ทำให้ตัวละครไม่มีมิติ และขาดการพัฒนาของตัวละคร ในเรื่องของบทก็เช่นกัน สุดท้ายจะขมวดปมที่ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เรื่องการแสดงเองก็ค่อนข้างตรงไปตรงมา คล้ายกับละครเวที เช่นฉากที่ตัวร้ายคิดในใจว่า อีนางเอก แกมันแสบนัก ก็จะต้องพูดคำนี้ออกมาให้คนฟังได้ยิน เวลาเจอจะหงุดหงิดมาก อะไรมันจะคิดดังขนาดนั้น แล้วก็จะไม่ใช้ body posture หรืออะไรที่ต้องตีความหมายมากนัก ซึ่งเหตุผลทั้งหมดนี้เพราะว่าความต้องการภายในประเทศมันเป็นเช่นนั้น หลังจากที่ทำงานกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ เราไม่ต้องการจะตีความจาก ซิมโบลิก ใด ๆ อีกแล้ว เราต้องการอะไรที่มันชัดเจนมาก ๆ ตบคือตบ ด่าคือด่า จูบคือจูบ ปล้ำกันได้ยิ่งดี มันง่ายสะใจดี แบบมันในอารมณ์ว่างั้น ต่างกับญี่ปุ่นที่เหตุผลในการดูของเขา คือการเสพ อะไรบางอย่างที่มากกว่าตบจูบ ๆ อีกเหตุผลนึงคือฝ่าย ผกก. เองหนะแหละ ไม่ยอมเสี่ยงดันหนังที่มีความซับซ้อนออกมา จากคุณ : pom-mop เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:28:23

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วงนี้ติด ซีรี เจ้าหญิงอัตสึ  เราว่าละครเค้าดำเนินเรื่องดีมาก  ดูมีมิติดี การดำเนินเรื่องก็ไม่เยิ่นเย้อจนน่ารำคราญ และละครญี่ปุ่น ไม่มีการแบ่งฝ่าย ไม่มุ่งเน้นให้คินเกลี่ยดกัน  หรือว่าใครดีกว่าใคร สรุป เราว่าละครเค้าสร้างสรรค์กว่าก็แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 00:33:48 จากคุณ : กาแฟคาปูชิโน่ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:28:53

ความคิดเห็นที่ 24 เทียบอัตราส่วนคำตอบน่าจะเป็น "ใช่" ค่ะ ละครญี่ปุ่นตัวเอก(สังเกตไม่ใช่พระเอกนางเอก)ส่วนมากจะเป็นคนเดินดินกินข้าวแกงเนี่ยและค่ะเพียงแต่หลากหลายอาชีพหน่อย จะหาแนวพระเอกลูกคุณหนู playboy ทายาทร้อยล้านพันล้าน ขับรถสปอร์ตหรู เป็นประธานบริษัท อะไรแบบนี้ยากนิดนึงนาน ๆ จะมาซักที เวลาทำงานทำจริงจังสมจริงมี ลงรายละเอียดให้เห็นเลย ถ้าเป็นช่างตัดผม ตัวเอกจะทำให้เห็นเลยตัดผมลูกค้าตัดยังไงมีรายละเอียดสูตรเคมีย้อมสีกัดสี(ลงท้ายดาราท่านนั้นตัดผมเป็นเลย) เป็นนักกีฬาก็เล่นให้ดูเลยเล่นยังไงซ้อมยังไง เป็นหมอก็ผ่าตัดเป็นเคสเห็นตับไตเครื่องในศัพท์เทคนิค  เป็นทนายเป็นอัยการก็ว่าความกางตำราเป็นเคสไปแพ้บ้างชนะบ้างสู้คดีกันเรื่องอะไร เป็นมัณฑนากรก็ไสไม้ขัดไม้ออกแบบกันเห็น ๆ ควงค้อนตอกตะปูเลือกไม้ เป็นร้านอาหารก็ต้องลงมือทำอาหารจัดวางให้เป็น เป็นนักบินไปเทรนก่อนสามเดือนขับยังไงต้องมีความรู้อะไรบ้าง เป็นนักดนตรีก็ต้องหัดจริง ถ้าจะเลือกเล่าประเด็นสังคมก็จับมาเป็นข้อ ๆ ได้เลย Konkatsu เล่นประเด็นคนแต่งงานช้าอัตราการเกิดลดลง CHANGE เล่นประเด็นการเมือง Life เล่นประเด็นการกลั่นแกล้งในชั้นเรียน Freeter เล่นประเด็นพวก NEET Last Friend เล่นประเด็น Domestic Violence  ถ้าไม่เล่าประเด็นสังคมก็อาจจะมีแกนหลักที่เขาต้องการสื่อสาร เรื่อง มิตรภาพ การต่อสู้ชีวิต อะไรก็ว่าไป ซึ่งเขาก็ทำออกมาหลายแนวหลายอารมณ์ เป็นอารมณ์ดราม่าเป็นคอเมดี้เป็นแอ็คชั่น มีแนวอาชีพแนวโรแมนติด กุ๊กกิ๊ก ก็เลือกหาเอาตามชอบ ไอ้ที่ไม่ดีก็มีบ้างค่ะ แต่นาน ๆ จะเจอซักรอบ สรุป มันมีความสมจริงแต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องบันเทิง อันนี้พูดได้เต็มปากว่าสาระบันเทิงของจริงเลยล่ะ จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:38:09

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อหลายปีก่อนมีปัญหาในการดูละครญี่ปุ่นอยู่อย่างหนึ่ง คือรู้สึกแปลกๆ กับน้ำเสียงที่ใช้พากย์ไทยเพื่อให้ดูน่ารักแบบญีุ่ปุ่น ๆ.. จังหวะการลากเสียงเพื่อให้ลงตัวกับภาษาไทย รู้สึกไม่ค่อยเข้ากัน ยิ่งคำอุทานต่างๆ พอพากย์ไทยแล้วมันประหลาดน่ะ ดูต๊องๆ ไปด้วยซ้ำ แต่พอดูละครญี่ปุ่นแบบซับ รู้สึกสนุกกว่ามาก ภาษาพูดและภาษากายของญี่ปุ่น พอแปลงเป็นพากย์ไทย ส่วนตัวคิดว่าไม่เข้ากันเลยจริงๆ พล็อตเรื่องส่วนใหญ่ได้สาระ และมีหลากหลายแนวกว่าละครบ้านเรา แม้แต่แนวเฮฮา ก็ยังมีอะไรให้คิด ไม่รู้สิ บังเอิญชอบวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่น เลยคิดว่าละครญี่ปุ่นไม่ได้ดูยากเลย จากคุณ : Quasar เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 00:46:24

ความคิดเห็นที่ 26 ด้านสาระ ญี่ปุ่น > เกาหลี = ไทย ด้านโปรดักชั่น ญี่ปุ่น = เกาหลี > ไทย ซีรี่ส์รักๆใคร่ๆเขาก็เยอะแยะนะ แต่ทำไมไม่เห็นมามุ่งมั่นแย่งผู้ชายกันแบบละครไทยเลย อย่างLove Generationสุดเลิฟของเรา ประเด็นหลักก็คือเรื่องรัก แต่เขาไม่ได้เกินธรรมชาติของมนุษย์ มีภาพหนุ่มสาวออฟฟิศกับกิจวัตรประจำวัน การทำงานที่มีอุปสรรค ต้องมุ่งมั่นฟันฝ่า ฯลฯ ละครไทยซะอีกที่เราคนไทยคิดว่าจับต้องไม่ได้เลย พระเอกมหาเศรษฐีกลับมาจากเมืองนอกปลอมตัวมาสืบหาว่าใครฆ่าท่านพ่อ แล้วมาพบรักกับนางเอกลูกคนใช้แก่นเซี้ยวที่เกิดจากมรว.บ้านข้างๆ มีอุปสรรคขัดขวางจากแมนี่ ตัวโกงว่างงานคอยกลั่นแกล้งนางเอกตลอดเวลา ฯลฯ  -***- จากคุณ : doxday เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 01:06:55

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ผมว่า โปรดักชั่น น่าจะเป็น ญี่ปุ่น > เกาหลี > ไทย นะครับ ง่ายๆ เลย ดู F4 ญี่ปุ่น กับ เกาหลี ความรวยต่างกันเยอะมาก ยังกะฟ้ากับก้นเหว จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 01:24:22

ความคิดเห็นที่ 28 จะให้ตอบว่ายังไงดี  ตอบไปก็คงจะเอียงอยู่ดี เพราะปกติเราดูละครญี่ปุ่นเป็นหลัก  = =' ไม่ใช่ว่าได้ดูแค่เรื่องดีๆที่คัดมาแล้วหรอกนะ ถึงได้ชอบ   เราหาโหลดเอา หาซับเอาเอง ซับไทยซับอิงก็หาเอา หาดูว่าเรื่องไหนน่าสนใจ เนื้อเรื่อง แนวเรื่องน่าดู เราก็ดู  เพราะงั้นบอกได้เลยว่าทุกแนวของเค้ามันแฝงสาระ เราได้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเรื่องต่างๆจากการดูละครญี่ปุ่น ได้เยอะเลยด้วยนะ บางเรื่องที่เราไม่รู้มาก่อน เราก็รู้จากละคร(และการ์ตูน)ญี่ปุ่นนี่แหละ อย่างที่ คุณ วรินทร์รตา บอก  ถ้าตัวเอกทำอะไร เราจะได้รู้ถึงวิธีการทำไปด้วย เราได้รู้ว่าอาชีพต่างๆนั้นเค้าทำอะไรกันบ้าง มันเพลินดีนะ ดู osen นี่เราถึงได้รู้ว่าปลาโอของญี่ปุ่นที่เป็นฝอยๆเค้าทำกันอย่างไร  เริ่มตั้งแต่ไปหาจับปลาเลยทีเดียว  เห็นวิธีทำแล้วก็ทึ่ง มันเหมือนเราได้ความรู้รอบตัวไปด้วยน่ะนะ เราเลยชอบ ก็อยากเห็นละครไทยทำบ้าง เอาเรื่องราวของเมืองไทย หรือสิ่งของของไทย แทรกเป็นเกร็ดความรู้ลงไปบ้าง แต่คงยาก เพราะเราก็แค่เสียงส่วนน้อย  ก็ทำได้แค่ดูละครญี่ปุ่นต่อไป   แอบเห็นเรื่อง แม่ค้าขนมหวาน ทำแนวนี้ หลายๆคนก็ชอบนี่คะ ใช่ไหม มันไม่ใช่ว่าเปลี่ยนละครให้กลายเป็นสารคดี แต่แค่แทรกสาระบางเรื่องเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหรือตัวละครลงไป ทำดีๆมันกลมกล่อมดีออก   เราเห็นผ่านตามาบ้างว่าละครไทยบางเรื่องในปัจจุบัน เริ่มมีการพัฒนาบทไปบ้างแล้วนะ   และบางค่ายยังพัฒนามุมกล้องในการถ่ายภาพให้ดูออกมาสวย เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะ จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 01:25:50

ความคิดเห็นที่ 29 ละครญี่ปุ่นดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจ ละครไทยดูแล้วเพ้อฝันอ่ะ ละครไทยสมัยก่อนดีกว่านี้เยอะเลย อยากดูแบบ สายโลหิต เรือนไม้สีเบจ อะไรแบบนี้บ้างอ่ะ จากคุณ : pry_is เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 01:33:19

ความคิดเห็นที่ 30 โห ไม่ต้องคิดเลยค่ะ  ญี่ปุ่น ชัวร์ มันมีทั้งความหลากหลายมากในแต่ละเรื่องสูงมาก  ความอบอุ่น ซึ้ง เศร้า ตลก ให้ความรู้ กรรม ครบครัน ภาพแสงสวยงาม บ้านเมืองก็สวยงาม เพลงประกอบก็ไพเราะมากๆ ไม่ยืด แต่ละตอน มีเป้าหมายในการสื่อชัดเจน กระชับ เนื้อเรื่องจะพัฒนาขึ้น-ลง เหมือนชีวิตจริงๆ ดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจบางอย่าง เป็นข้อคิดดีๆที่ได้เสมอ ละครไทยที่ดีๆก็มีค่ะ แต่เนื้อหาก็ซ้ำๆเดิมๆอยู่ดี แต่ละตอนที่จะนำมาฉายเหมือนไม่มีการวางแผนเลยอ่ะ บางช่วงดูแล้วเนือยซ้ำซาก จนทำให้เราเลิกดูไปเลย เหมือนละครเกาหลี เลิกดูเพราะมันยืดย้วยซ้ำซาก หน้าเฟคเนี่ยล่ะ แถมเนื้อหาเหมือนเดิม เรื่องรักๆใคร่ๆ แย่งๆ กรี๊ดๆๆ ตบตี พระ-นางโง่ นางร้ายบ้า แต่งหน้าไม่สมจริงเกินไป ทำไมคนรับใช้มันต้องคุกเข่าด้วย ชีวิตจริงไม่มีหรอกนะ อายเขาอ่ะ คนไทยไม่ได้จิกคนรับใช้ขนาดต้องมาคุกเข่ารายงานรับคำสั่งนะ - - แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 01:48:23 จากคุณ : พี่น้องที่เคารพ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 01:47:33

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องโปรดัคชั่นการวางแผนเราเคยเห็นจากไตเติ้ลละครเรื่อง sapuli เกี่ยวกับงานโฆษณา ไตเติ้ลท้ายละครไม่ทราบใครสังเกตกันบ้างรึเปล่า ละครญี่ปุ่นเรื่องนี้ถ่ายทำแต่ละตอนเค้าจะมีแผนภาพให้ดูเลยสรุปเหมือนเอกสารการประชุมเป็นรายหัวข้อไป ชุดสำหรับละครตอนนี้คนที่เข้าฉากจะใส่อะไรโทนไหนเครื่องประดับเป็นยังไงวาดเป็นรูปให้ดู ตัวละครแต่ละคนเข้าฉากนับเป็นร้อยละเท่าไหร่ของเนื้อหาละครในตอนนั้นมีกราฟสวยงามมาก แกนหลักของเรื่องในตอนนั้น ๆ คือ อะไร น่าจะเป็นของทีมงามที่สรุปย่อใช้จริง เรานั่งดูแล้วก็ โอ้โห ละเอียดประณีตดีจัง จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 01:54:12

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เคยดูละครญี่ปุ่นอ่ะค่ะ ดูแต่ละครไทย ถึงจะน้ำเน่าไปบ้าง แต่ก็ให้ความสุขทางใจได้เสมอค่ะ จากคุณ : คนไม่ลืมรากเหง้า (Emeline) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 03:55:30

ความคิดเห็นที่ 33 ละครไทยดีๆก็มีนะคะ เพียงแต่มีเป็นส่วนน้อยมาก ดีในที่นี้ ไม่ใช่แค่โปรดักชั่นเจ๋ง แต่หมายถึงเนื้อหาสร้างสรรค์ด้วย เดี๋ยวนี้โปรโมทละครกัน มีแต่จูบจริง ตบจริง โป๊จริง ไม่ได้สนใจอะไรกับบท กับความสมจริงอะไรอย่างอื่นเลย เราว่า ละครมันทำให้บันเทิงได้โดยไม่ต้องเสื่อม ละครบ้านเรา การประสบความสำเร็จคือคนรวยให้การยอมรับ นางเอกยากจนโดนแม่พระเอกรวยเวอร์ๆกีดกันรังเกียจ พอแม่พระเอกรับได้ว่าเป็นคนดี ก็ถือว่าจบบริบูรณ์ happy ending จริงๆเราว่าละครบ้านเรานี่มันยิ่งตอกย้ำการแบ่งแยกชนชั้นในสังคมนะ คนรวยรังเกียจดูถูกคนจน คนรวยวันๆไม่ทำอะไร คอยแต่วางแผนอิจฉา แทนที่จะแสดงภาพให้เห็นว่าเค้ารวยได้เพราะอะไร ทำงานหนัก มุ่งมั่น แต่นี่ยิ่งเหมือนตอกลิ่มให้ภาพในสังคมระหว่างชนชั้นมันห่างกันเข้าไปอีก นอกจากเรื่องสาระ เรื่องโปรดักชั่นกับบทแล้ว ขอพูดเรื่องดารามั่ง ดาราของญี่ปุ่น ระดับพระเอกนางเอกละครจริงๆที่ไม่ใช่แนวไอดอลเป็นหลัก ส่วนใหญ่เค้าจะไต่เต้ามาจากบทตัวประกอบเล็กๆ บทตัวรองกันมาก่อนทั้งนั้น แล้วก็พัฒนาฝีมือ สั่งสมบารมีจนได้มาเป็นพระเอก นางเอกกันในที่สุด ไอดอลที่ดังมาจากทางอื่น อาจจะเห็นเป็นพระเอกนางเอกเร็วกว่าทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมากันง่ายๆ ฝึกเล่นละครเวที เล่น skit สั้นๆในวาไรตี้ บางคนก็เริ่มจากเป็นพระเอกนางเอกละครภาคดึกก่อน แล้วค่อยขยับเลื่อนขั้น ได้แสดงบทเด่นๆในละครของช่องที่ใหญ่ขึ้น ในเวลาที่ดีขึ้นตามลำดับ ถึงหลายคนจะถูก cast จากหน้าตาและความดัง แต่ฝีมือก็ต้องถึงพอจะเอาละครอยู่ ต่างจากละครไทยหลายๆเรื่อง ที่โปรดักชั่นดี บทดี อะไรดี แต่เสียตรงดารานำ คือหลายเรื่องจะดันเอาเด็กใหม่ๆหน้าตาดีๆมาออก แต่ชีวิตนี้ไม่เคยฝึกมาก่อน บทดียังไง โปรดักชั่นเลิศแค่ไหน ละครก็ทำให้คนเชื่อไม่ได้ เพราะดารานำเอาไม่อยู่ อีกเรื่องคือเรื่องค่าย เรื่องช่อง เห็นดาราญี่ปุ่นแสดงละครกันได้ทุกช่อง ไม่จำกัดสังกัด ตัวเลือกของดาราที่เหมาะสมกับบทเลยทำได้ลงตัวกว่า ของบ้านเรามีข้อจำกัดเยอะเหลือเกิน ข้ามค่าย ข้ามช่องไม่ได้ ละครหลายๆเรืื่องที่ดูดีสุดๆเลยต้องมาตกม้าตายเพราะดาราไม่เหมาะ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 04:59:11

ความคิดเห็นที่ 34 ละครญี่ปุ่นเวลาดูแล้ว.... เรื่องไหนอบอุ่น หรือแนวครอบครัว... ดูแล้วก็อมยิ้ม อาจมีน้ำตาซึม เรื่องไหนเศร้า หรือดราม่ามากๆ... ดูแล้วเครียดแทนตัวละคร เรื่องไหนเกี่ยวกับอาชีพ... ดูแล้วก็อยากจะลองไปทำอาชีพนั้นๆบ้าง เรื่องไหนตลก... ดูแล้วก็นั่งขำ แบบมีสาระหรืออะไรมาสะกิดใจไปด้วยทุกที ส่วนละครไทย ไม่ว่างเรื่องไหนๆ... ดูแล้วก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ กับความสวยงามหล่อเหลาของพระเอกนางเอง ตัวร้าย =_= แต่ละครไทยเรื่องเก่าๆ สมัยก่อน เช่น เจ้ากรรมนายเวร  (ละครไทยยุคซัก 10 กว่าปีที่แล้ว) เราว่ามีดีเยอะนะ อีกอย่างนึงที่ทำให้เราหลงสเน่ห์ละครหรือหนังญี่ปุ่น คือ การแสดงออกที่น้อย แต่ให้ความหมายมากมายออกมา... หลายๆครั้งที่ละครญี่ปุ่นจะมีช่วงหยุด หรือแช่กล้องนิ่งๆซัก 4-5 วินาที แต่เรากลับรู้ว่าฉากนั้น ต้องการสื่ออะไรให้กับคนดู ในขณะที่ละครไทยไม่เคยมี =_= แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 05:04:39 จากคุณ : evil_kun เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 05:03:25

ความคิดเห็นที่ 35 จริงค่ะ ของเค้าดีกว่าจริงๆต้องยอมรับ ไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะประเทศเค้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่คนในประเทศมหาอํานาจไม่ดูถูกและยอมรับในความสามารถ ความมีวินัย ความเจริญ เราเองก็อยากให้ประเทศไทยพัฒนาไปให้ได้อย่างเค้าบ้างเพราะเราก็รักประเทศเราที่สุด จากคุณ : เขียนบน iPhone (ลาเต้ไม่หวาน) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 05:51:58

ความคิดเห็นที่ 36 ญี่ปุ่นดีกว่าไทยมากในทุกด้าน เว้นแค่เรื่องหน้าตา ละครญี่ปุ่นดูไม่ยากเลยนะ ดูง่ายมากง่ายกว่าดูละครไทยอีก คือดูแล้วจะไม่สงสัยในการกระทำของตัวละคร มีที่มาที่ไป สนุกมากด้วย ละครญี่ปุ่น หลากหลายนะ ตลกเว่อร์ๆก็เยอะ เน้นอาชีพก็เยอะ รักๆใคร่ๆก็เยอะ ลึกลับ ซ่อนเงื่อน หรือแม้กระทั่งแนวปรัชญา ก็มาก แต่ทุกเรื่องแฝงสาระหมดเลยนะ จะมากจะน้อยก็ว่ากันไปตามเนื้อหาหลักที่ต้องการนำเสนอ และไม่ยัดเยียดด้วย ละครญี่ปุ่นธรรมชาติสูงมาก ไม่ได้ดูถูกละครไทยนะ แต่ของญี่ปุ่นส่วนตัวแล้วเข้าถึงจิตใจคนดูมากกว่า บางเรื่องมันสร้างแรงบันดาลใจ หรือเปลี่ยนชีวิตคนดูได้เลยนะ จริงๆนะ จากคุณ : มาสามวิหกอาแปด เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 09:05:24

ความคิดเห็นที่ 37 ***** อย่าไปเทียบกับละครญี่ปุ่นเลยครับ เอาแค่ "การ์ตูนญี่ปุ่น" ก็ยังมีสาระให้สอนเด็กๆ มากกว่าละครไทยแทบทุกเืรื่องเลยก็ว่าได้ 666 ***** การ์ตูนญี่ปุ่น "ถ้าดูเป็น" ก็จะมีสาระแฝงให้สอนเด็กได้ทุกเรื่องนะแหละครับ ซึ่งเมื่อมีสาระแฝงสอนเด็กตั้งแต่เล็กๆ ได้แล้ว การรักพวกพ้อง การขยัน การอดทนต่อสู้ ฯ ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่เด็กๆ ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ต่างจากบางประเทศ คนดีลำบาก่ตั้งแต่ต้นเรื่องยันเกือบจบ คนเลว ร่ำรวย สุขสบายตลอดชีวิต มาลำบากแค่ตอนจบตอนเดียวเท่่านั้น ก็คงไม่แปลกใจ ที่ประเทศนั้นๆ ก็มักจะมีคนเลวๆ ชอบรวยทางลัด แบบไม่สนใจคนอื่น เพราะ นี่คือตัวฉันเอา คนอื่นไม่เกี่ยว แม้แต่การแสดงความคิดเห็นของหลายๆ คนในห้องนี้ ก็สื่อมากลายๆ ว่า ได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งที่ดูตั้งแต่เด็กเช่นกัน 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 09:08:22

ความคิดเห็นที่ 38 ทุกเรื่องของญี่ปุ่น "กัมบัตเตะเนะ" พยายามเข้านะเท่าที่ดูจะพูดเกือบทุกเรื่องเลยมีทุกแนว ทุกอาชีพ ทุกอารมณ์ บางครั้งอาจดูเนือย ๆ น่าเบื่อ แต่สาวกญี่ปุ่นอย่างเราก็ตามดู ที่สำคัญนักแสดงไม่แต่งหน้าหนาเตอะ เขียนขอบตาเว่อร์อย่างเราด้วย คือรวม ๆ สบายตาอะ จากคุณ : PaPa~otoSan เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 10:02:41

ความคิดเห็นที่ 39 ของไทยมันมีอะไรมีสาระด้วยหรือ? สังคมไทยมองแยกส่วน การ์ตูน-ละคร ก็บันเทิงไป อยากได้สาระก็ไปหาจากตำราเรียน จึงแทบไม่มีละครหรือการ์ตูนไหนที่สอดแทรกความรู้ลึก ๆ เลย(ถ้าความรู้ทั่วไปผิวเผินก็พอมีบ้าง) ไม่เหมือนการ์ตูน-ละครญี่ปุ่น+เกาหลี บางเรื่องคนเขียนต้องค้นคว้าลึกมาก บางเรื่องต้องจ้างอาชีพนั้น ๆ มาให้ความรู้หรือเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้เกิดความสมจริง(มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใส่ความรู้ ไม่งั้นคนดูจะงงว่าเป็นยังงั้นได้ยังไง) จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 10:57:49

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบละครญี่ปุ่นมากดูเขาเน้นถึงการทำงาน ชีวิตของตัวละครจริงๆ ของไทยนี่ดูเหมือนไม่ค่อยได้ทำงานนะ ยิ้งนางร้ายนี่ วันๆไม่ทำอะไร กริ้ดอย่างเดียว ที่สำคัญ ละครไทยยังถ่ายไปออนแอร์ไปอยู่เลย เหอๆ จากคุณ : รักเด็ก555 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 10:58:22

ความคิดเห็นที่ 41 สิ่งที่ละครไทย"ขาด"  คือ ความเอาใจใส่ต่อตัวบทของละครครับ บางเรื่องแสดงจนจบ เรายังไม่รู้เลยว่านางเอก ทำอาชีพ อะไร  เป็นพนักงานบริษัท บริษัทอะไรก็ไม่รู้ ตำแหน่งอะไรก็ไม่บอก พระเอกเป็นลูกประธานบริษัท ทำอะไรก็ไม่รู้  เข้าออฟฟิศได้ไม่ถึงห้านาที นางเอก เพื่อนพระเอก หรือตัวอิจฉา โทรมา "หา โอเคเดียวออกไป" แหม่ บริษัทคงเจริญล่ะครับ  เจ้านายเห็นงานส่วนตัวมากกว่างานในบริษัท คือละคร "ญี่ปุ่น" มีความพิถีพิถัน มีความเป็น realistic มากกว่าละครแบบไทย เรามีโครงเรื่องเรื่องมาจาก อารมณ์ล้วนๆ "รัก โลภ โกรธ เลว อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้น" นี่คือพล็อตเรื่องหลักของ ละครรวมถึงนิยายบ้านเรา แต่ญี่ปุ่น เน้น ชีวิตจริงๆ ตัวละครมีมิติ มีการพัฒนาของตัวละคร ขณะที่ของไทย ตัวละครเป็นตัวละครกลมๆ ไม่มีมิติ ไม่มีการพัฒนา  คาแรคเตอร์ถูกวางไว้แต่ต้นจนจบ เลวยังไงก็เลวอย่างนั้น ดีอย่างไรก็ดีจนซื่อ จากคุณ : -sam- เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 11:15:44

ความคิดเห็นที่ 42 การ Research ข้อมูลของอาชีพ ในส่วนละคร JAPAN แน่นกว่านะ สงครามนางฟ้า VS. Atention Please คนละเรื่องเลย... จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 11:16:06

ความคิดเห็นที่ 43 #40  ละครญี่ปุ่นที่ฉายตามฤดูนี่ก็ถ่ายทำไปออกอากาศไปเหมือนกันค่ะ  แต่เขาคุมงานกันได้  และจะมียืดบ้าง อย่างมากก็แค่ 1-2 ตอน โดยส่วนตัวไม่ได้ดูละครไทยที่เป็นชิ้นเป็นอันมานานร่วมยี่สิบปีแล้ว  ก็เลยไม่กล้าแสดงความเห็นในรายละเอียด  แต่ที่เปิดแล้วเจอแบบผ่านๆ ทีไร  ส่วนใหญ่ก็จะมีตัวละครแต่งหน้าจัดๆ มาถลึงตาใส่  แผดเสียงใส่  คือแค่เห็นก็ไม่อยากหยุดดูต่อแล้วล่ะค่ะ ส่วนละครญี่ปุ่น  แม้ว่าขนบของการแสดงจะดูเหมือนรีบๆ ลนๆ เพราะตัดภาพกันเร็วมาก โดยเฉพาะละครที่เป็นเรื่องราวในปัจจุบัน  แต่ความละเอียด พิถีพิถันและการวางโครงเรื่องส่วนใหญ่ก็ยังมีความสมจริงอยู่มากค่ะ  ที่สำคัญคือเรื่องของอาชีพ  ทำให้รู้ว่าตัวละครมีที่มาที่ไป  ละครบางเรื่องเป็นละครสั้นที่ทำมาคั่นเวลารอละครประจำฤดูฉาย ก็ยังละเมียดอยู่มาก   จากที่เห็นช่องไทยพีบีเอส  ที่พยายามจะทำละครออกมาในแนวสร้างสรรค์  ก็ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ  และอยากให้ลองสนับสนุนกันดู  ถ้าเรามีเวลาก็อยากจะลองดูเหมือนกัน  และถ้าผลตอบรับออกมาดี  ช่องอื่นอาจจะเอาตามอย่างบ้าง  แต่ก่อนอื่น  ก็ต้องยอมรับก่อนว่า  ละครไทยส่วนใหญ่ของเรายังล้าหลังในเรื่องเนื้อหาและโปรดักชั่นจริงๆ ค่ะ  เมื่อยอมรับแล้ว ก็ต้องพยายามพัฒนาด้วย  ไม่ใช่แค่ภูมิใจว่าน้ำเน่าแบบนี้ยังไปตีตลาดจีนได้  เราว่ามันจะเป็นเพียงพลุที่ดูสวยงามแค่แป็ปเดียวค่ะ <เพิ่มเติม> ความน่าสนใจที่เป็นความโดดเด่นอย่างหนึ่งของละครญี่ปุ่น คือการถ่ายไปออกอากาศไปนี่แหละค่ะ  ฉะนั้น อะไรก็ตามที่เป็นกระแสสังคมในเวลานั้น  อาทิ กระแสเห่อประธ่นาธิบดีโอบาม่า  หรือสแลงยอดฮิตในขณะนั้น  ทำให้เราได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวที่บ้านเขาเป็นอยู่้  เมื่อย้อนกลับมาดูอีกที  ก็ยังสามารถนำมาเป็นหลักฐานข้อมูลชั้นดีได้ด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 11:26:03 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 11:21:28 จากคุณ : ภูชมพู เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 11:20:48

ความคิดเห็นที่ 44 เดี๋ยวนี้ดูซีรี่ส์ญี่ปุน ผมนึกว่ากำลังดูหนังอยู่ครับ โปรดักชั่นก็ดีมากๆ จากคุณ : bigwores เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 11:23:46

ความคิดเห็นที่ 45 ญี่ปุ่นก็่ถ่ายไปออนแอร์ไปเ้หมือนกันนะ แต่คุณภาพต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มุมกล้อง การจัดแสง เนียนมากกกก ทั้งๆที่บางเรื่องถ่ายในสตูฯเกือบทั้งหมด เชื่อว่านิยายไทยหลายๆเรื่อง บทดีๆ มีสาระก็เยอะนะ อยู่ที่ว่าจะจับมาทำรึเปล่าเท่านั้น เรตติ้งไม่ดี คนดูไม่เยอะ ก็ไม่ค่อยมีเจ้าไหนกล้าฉีกแนว กลัวเจ๊งกลัวเรตติ้งกันทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 11:38:59 จากคุณ : witch_jr เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 11:37:32

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยเช่นกันค่ะว่าละครญี่ปุ่นมีสาระมากกว่าละครไทย จำนวนละครไทยที่มีสาระก็มีมาก แต่ญี่ปุ่นมีมากกว่าเยอะ แถมเนื้อเรื่องเขายังละเอียด เจาะลึก เป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกละมุนละไมและความเป็นจริงมากกว่า ปลื้มละครญี่ปุ่นตรงนี้ล่ะค่ะ ^___^ ส่วนละครไทยก็ยังรักนะ แต่แค่บางเรื่อง ^^ จากคุณ : Everything_Is_Illuminated เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 12:38:41

ความคิดเห็นที่ 47 * แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 54 13:02:46 จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:02:34

ความคิดเห็นที่ 48 มาทันเลขงามๆ จากคุณ : aonton เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 13:03:12

ความคิดเห็นที่ 49 โหวต ญี่ปุ่น จากคุณ : สายลับชินจัง2011 เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:10:12

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ได้นิยมของนอกนะครับ  แต่ละครไทยนี่ ส่วนใหญ่ บทมันดูหลวมๆ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเอาซะเลย ความมีมิติของตัวละครก็ดูน้อยกว่า จากคุณ : Lonely Guy เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 14:14:09

ความคิดเห็นที่ 51 ...สงสัยอยู่อย่าง แค่ใส่สาระเข้าไปนี่จะตายเลยเหรอ ? หรือแค่ใส่สาระเข้าไปนิดหน่อยนี่ถึงถือว่ากลายเป็นสารคดีกันเลยหรือ ? ความจริงกระทู้นี้น่าจะสร้างเป็น 4 ชอยส์นะ 1 ละครญี่ปุ่นมีสาระมากกว่าและสนุกกว่า 2 ละครญี่ปุ่นมีสาระมากกว่าแต่สนุกน้อยกว่า 3 ละครไทยมีสาระมากกว่าและสนุกกว่า 4 ละครไทยมีสาระมากกว่าแต่สนุกน้อยกว่า ถ้าข้อ 1 ได้คะแนนเยอะสุด คาดว่าจะตบหน้าคนอวยผู้จัดละครไทยได้ไม่มากก็น้อย (ฮา) จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 15:19:17

ความคิดเห็นที่ 52 การ์ตูนยังสู้เค้าไม่ได้ จะไปแข่งกับละครเค้าอีก -_-' เอ้า โหวตก็โหวต จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 16:18:59

ความคิดเห็นที่ 53 ยังไงก็คิดว่าละครญี่ปุ่นดีกว่าละครไทยหลายสิบเรื่องค่ะ โหวตแบบไม่ลังเลเลย เหตุผลทุกข้อที่หลายๆคนว่ามา จากคุณ : meritiana (Meritiana) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 16:32:17

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นด้วยที่สุดคะ ตั้งแต่ดูละครญี่ปุ่นมายังไม่เคยเจอตัวร้ายแบบไร้เหตุผลเลยคะ แถมแต่ละเหตุผลสุดยอดทั้งนั้น จากคุณ : wendyandbas เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:04:53

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่รู้ค่ะ พอดีเป็นไทยนิยม(เกาหลี) อิอิ จากคุณ : Beauty in Daylight เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:07:59

ความคิดเห็นที่ 56 ผมไม่ค่อยสนใจสาระของญี่ปุ่นเท่าไหร่นะ แต่บทเค้าดีกว่าไทยจริง คือ มันมีเหตุมีผลกว่า ตัวละครทำไรก็มีเหตุมีผลรองรับ ซึ่งก็เป็นจุดที่ดี แต่มีเหตุมีผลกับมีสาระ มันไม่เกี่ยวกันนะ เพราะตัวละครเอกของญี่ปุ่นหลายๆตัว เป็นพวกตัวละครที่วิ่งไล่ความฝันของตน โดยทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ทิ้งพ่อแม่ ทิ้งแฟน เห็น การก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งสำคัญที่สุด ตัวละครแบบนี้ ผมก็ว่าไร้สาระเหมือนกันหล่ะ บางทีพ่อแม่ก็แก่ แทนที่จะอยู่ดูแล ดันไปเมืองนอกเพื่อฝึกฝนตัวเองเฉย.... ละครญี่ปุ่นหลายๆเรื่อง ตัวละครจะให้ความสำคัญกับตัวเองเป็นหลัก ทั้งความฝัน ทั้งหน้าที่การงาน ซึ่ง ผมไม่คิดว่ามีสาระอะไรนักหรอก  แล้วตัวละครอื่นๆ ก็จะเป็นตัวละครทีให้กำลังใจตัวเอก (โดยที่ตัวเอกส่วนมาก มักทิ้งตัวละครเหล่านั้นไว้ข้างหลังในที่สุด) พวกพลังมิตรภาพ ก็พอมีให้เห็น แต่โดยมากก็เป็นทางผ่านให้กับความฝันของตัวเอกอยู่ดี โดยส่วนตัวชอบดูละครญี่ปุ่นมากกว่าละครไทย  แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามีสาระอะไรมากมาย  พระเอกที่ชอบก็คงเป็นพระเอกเรื่อง Liar Game ที่เค้าทำอะไรให้กับนางเอกหลายๆอย่าง  บางครั้งไม่ได้คิดถึงตัวเองด้วยซ้ำ เออ แบบนี้ค่อยน่าคบหน่อย ที่ผมมองแบบนี้คงเป็นเพราะผมเป็นคนแคร์คนอื่นมั๊ง และเห็นความสัมพันธ์ระหว่างคนต่อคน สำคัญกว่าพวกความก้าวหน้าในอาชีพ คงเป็นเพราะผมทำงานส่วนตัว แล้วค่อนข้างไม่ได้ลำบากอะไรด้วยมั๊ง  เลยไม่ได้ไปอิน หรือคิดอะไรตรงนี้นัก ที่เขียนมา ไม่ได้คิดว่าใครจะมองคำว่าสาระแบบเดียวกับผม แต่แค่อยากบอกว่า คำว่าสาระมันขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล เราอาจจะมองเรื่องบางเรื่องไร้สาระ แต่บางทีมันมีสาระในมุมมองของคนอื่นก็เป็นไปได้ จากคุณ : คนดี มีคุณธรรม ค้ำจุนโลก เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 17:44:54

ความคิดเห็นที่ 57 เราเลือกญี่ปุ่น ละครไทยก็ดูนะ ดูมาตั้งแต่เด็กๆ และจะไม่วิจารณ์เรื่องอื่นนอกจากเนื้อหา คนไทยเองก็พยายามสร้างละครให้ออกมาดี แต่...เนื้อหามันไม่ดีพอ เนื้อเรื่องกลวงๆ ไร้สาระ แม้จะอ้างว่าตอนจบจบแบบทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว แต่มันก็เป็นแค่ความคิดในอุดมคติมากเกินไป ในชีวิตไม่มีทางจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นได้ทุกครั้ง มีแต่คนดีจะตายเร็วมากกว่า และที่สำคัญ ละครไทยอ้างว่าสอน แต่บางเรื่องสอนก็แค่ตอนสุดท้ายตอนเดียว แล้วไอ้ที่ตบตีเอามัน จิกด่ากัน ฆ่ากันมาทั้งเรื่องนั่นอะไร? ทำไมเพิ่งมาสอนเอาตอนจะจบ แทนที่จะสอนแบบแทรกๆ ไว้ตลอดเรื่อง  เรื่องดีๆ มีสาระก็มี เรายอมรับ แต่ก็น้อยมากๆ ล่าสุดวันนี้เพิ่งดูที่ฉายทรู รู้สึกจะเป็นหนังโรง 2499 หรืออะไรสักอย่าง เด็กวัยรุ่นตีกัน ไล่ยิงกันเอาเป็นเอาตาย ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย ให้สาระที่ตรงไหน? เทียบกับหนังนักเลงตีกันของญี่ปุ่นอย่าง "อีกา" เน้นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า เท้าเปล่า อย่างมากเอาไม้ฟาด แค่ควักมีดออกมาก็ถูกโห่ไล่แล้ว คนใจนักเลง มันต้องต่อยกันด้วยหมัด วัดกันที่พลังกาย แม้จะเป็นแนวนักเลงตีกัน แต่กลับให้แง่คิดดีๆ มากมาย  มาพูดถึงละครต่อ นอกเรื่องไปหน่อย  สรุปว่า ละครญี่ปุ่นนั้นเนื้อหาแน่นกว่า ไม่ใช่เป็นหนังสารคดี สาระเกินไป แต่กลับเป็นหนังบ้านๆ มีตัวละครเป็นคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตธรรมดาเสียส่วนใหญ่ อย่างที่หลายคนว่าก็คือ เนื้อหาให้กำลังใจ สำหรับเรา เราคิดว่ามันมีพลัง มันมีอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ บางเรื่องก็อาจจะเว่อร์บ้าง แต่ก็ไม่ขาดการให้กำลังใจ สอนให้รู้จักแก้ปัญหา ฝ่าฟันอุปสรรค ต่อสู้เพื่อความฝัน เพื่อชีวิตของตัวเอง หรือเพื่อคนรอบข้าง (ที่ชอบที่สุดคือแนวสอนการแก้ปัญหาชีวิตหรืออาชีพการงาน) ไม่เห็นจำเป็นว่าละครหรือหนัง จะต้องมีตัวร้าย เพราะในชีวิตจริง ทุกคนก็ไม่มีใครดีไปทุกอย่าง และไม่จำเป็นต้องมีพระเอกกับนางเอก  ถ้าจะบอกว่าดูละครแล้วย้อนดูตัว หรือละครสะท้อนสังคม  ละครญี่ปุ่นน่าจะสะท้อนสังคมได้หลายแง่มากกว่าเสียอีก การสะท้อนสังคม ไม่จำเป็นต้องหยิบยกแต่ประเด็นแย่ๆ มาเล่า แล้วตบท้ายทำนองว่าสอนแบบไม่ให้รู้ตัว  สะท้อนด้วยเรื่องดีๆ ในส่วนที่ดีๆ หรือเสนอแนะการแก้ปัญหาหากชีวิตต้องเจอเรื่องอย่างในละครยังจะดีเสียกว่า จากคุณ : รู้รึเปล่าว่าเค้าคือแมว เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 20:04:35

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสาระ เพราะละครญี่ปุ่นบางเรื่องก็ไร้สาระสุดๆเช่นกัน แต่ชอบละครญี่ปุ่นตรงที่มันดูจริงกว่า ทั้งการแต่งตัว การแต่งหน้า เหตุผลต่างๆ สถานที่ เซ็งละครไทยแต่งหน้านอน แต่งชุดราตรีอยู่บ้าน จากคุณ : มนุษย์หมูป่า (มนุษย์หมูป่า) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:01:40

ความคิดเห็นที่ 59 ชอบละครญี่ปุ่น ( บางเรื่อง )  ชอบละครไทย ( บางเรื่อง )  ชอบละครเกาหลี ( บางเรื่อง )   ดูเพื่อบันเทิงอย่างเดียว   ไม่สนว่าจะมีสาระหรือไม่มีสาระ   ขึ้นอยู่กับความพอใจแต่ละบุคคล จากคุณ : ต้มยำกุ้ง เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:35:03

ความคิดเห็นที่ 60 ดูหนังญี่ปุ่นวันละสามช.ม. ติดหนังฆาตกรรมมาก ขนาดเป็นหนังซี่รี่ย์หนึ่งถึงสองช.ม.แต่เขาทำได้ดีมาก ถ้าเกี่ยวกับค้นหา ลงทุนนักแสดงเพียบ บางฉากนับได้เป็นครึ่งร้อย ดูแล้วทำให้เป็นคนช่างสังเกตุ ช่างคิด รายการทีวีญี่ปุ่น ดูเพลินมาก เจาะลึก เกาะติด หนังสร้างออกมาได้ดี ไม่ค่อยมีฉากบ้านเก้าอี้หลุยส์แบบไทย บ้านมหาเศรษฐีญี่ปุ่น มักจะเป็นบ้านแบบเน้นธรรมชาติ ละเมียดละมัย แทบจะไม่เคยเห็นชุดหลุยส์เลย จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 61 ละครญี่ปุ่นคิดถึง dragon sakura ตอนนั้นอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อม.5 ม.6 พอดี ดูละครเรื่องนี้แล้วรู้สึกฮึกเหิมอยากอ่านหนังสือสอบขึ้นมา ถึงตอนจบของละครเรื่องนี้ไม่ได้ให้เด็กท้ายแถวสอบติดโทไดได้ทุกคน แต่ก็สอนให้เด็กท้ายแถวเหล่านั้นได้รู้จัก"คุณค่าในตัวเอง" ชอบเรื่องนี้มากค่ะ จากคุณ : MEAO_AE เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 22:42:33

ความคิดเห็นที่ 62 บันทึกน้ำตา 1 ลิตร, นายกมือใหม่หัวใจประชาชน, Good Luck!!, เรียวมะ... ไม่รู้สิครับ ชอบมากๆ ดูแล้วสร้างแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์สังคม จากคุณ : ::humAn_nAture:: เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 22:48:59

ความคิดเห็นที่ 63 ละครไทยดีแค่ตอนจบ เพราะให้ข้อคิดให้บทสรุป(ที่สุดแสนรวบรัด) แต่ละครญี่ปุ่นเค้าดีทุกตอน ให้ข้อคิดทุกตอน เทียบกันไม่ได้จริงๆ    ถ้าละครไทยต้องเทียบกับละครไทยด้วยกันเอง จากคุณ : MLTransform เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 23:04:31

ความคิดเห็นที่ 64 เพราะตัวละครเอกของญี่ปุ่นหลายๆตัว เป็นพวกตัวละครที่วิ่งไล่ความฝันของตน โดยทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ทิ้งพ่อแม่ ทิ้งแฟน เห็น การก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งสำคัญที่สุด ตัวละครแบบนี้ ผมก็ว่าไร้สาระเหมือนกันหล่ะ บางทีพ่อแม่ก็แก่ แทนที่จะอยู่ดูแล ดันไปเมืองนอกเพื่อฝึกฝนตัวเองเฉย.... ***** ก่อนจะวิจารณ์ ให้ดู "พื้นฐานของประเทศนั้นๆ" ด้วยก็ดีนะครับ เพราะ ประเทศที่เจริญแล้วส่วนใหญ่ มักจะเลี้ยงลูกกันมาแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับประเทศลูกช่างฟ้อง ที่อยู่ตรงข้ามโลกกันเลย ขานั้นหนักกว่าด้วยซ้ำไป พอเริ่มเรียนไฮสคูล ก็ให้หาเงินเองได้แล้ว พอโตขึ้นมาอีกหน่อย ก็ให้หาแนวทางของตัวเองให้เจอ ถ้าหาเจอแล้ว ก็ลุยตามฝันไปได้เลย ถ้าโตแล้วยังหาแนวทางของตัวเองไม่เจอ แถบจะ kick หัวส่งไปอยู่ข้างนอกเลยด้วยซ้ำไป ไม่ได้เลี้ยงเป็น "ลูกแหง่ยันโตจนแทบจะทำอะไรไม่เป็น" แบบบางประเทศ ตัวเองชอบอะไร อยากเป็นอะไร ไม่รู้ซักอย่าง ขอแค่ให้มีที่เรียน มีงานทำเท่านั้นเป็นพอ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 23:19:23

ความคิดเห็นที่ 65 เลือกญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย จากคุณ : sAilOvEnOk เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 23:19:46

ความคิดเห็นที่ 66 เรื่อง บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร ยังเป็นเรื่องที่จำได้จนทุกวันนี้ ตอนแรกยังพอทน ตอนสองสามนี่ไหลพราก กลับกันไม่เคยดูละครไทยเรื่องไหนที่ทำได้ซาบซึ้งจนน้ำตาซึมเลยสำหรับผม อาจเป็นเพราะทางเลือกของเรามันน้อยไปหรืออย่างไร แต่ฉากสะเทือนใจในละครเก่าๆผมก็เฉยๆนะ จากคุณ : ThE BaRE VaC PRojEcT เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 23:27:44

ความคิดเห็นที่ 67 เรื่อง บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร ยังเป็นเรื่องที่จำได้จนทุกวันนี้ ตอนแรกยังพอทน ตอนสองสามนี่ไหลพราก กลับกันไม่เคยดูละครไทยเรื่องไหนที่ทำได้ซาบซึ้งจนน้ำตาซึมเลยสำหรับผม อาจเป็นเพราะทางเลือกของเรามันน้อยไปหรืออย่างไร แต่ฉากสะเทือนใจในละครเก่าๆผมก็เฉยๆนะ จากคุณ : ThE BaRE VaC PRojEcT ***** อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย เอาแค่ บรรดาซีรีย์เกี่ยวกับแพทย์ทั้งหลาย ที่ไม่ใช่ซีรีย์ิบิ้วอารมณ์ก็ตาม ถ้าดูแล้ว "เข้าใจพื้นฐานของตัวละครนั้นๆ ร่วมไปด้วยละก็" ถึงฉากที่ต้องซึ้ง น้ำตาก็ไหลจ๊อกตามได้ทันทีเช่นกัน ดูกี่รอบ ก็ยังอินตาม ส่วนละครไทย ยิ่งยุคปัจจุบัน สุขเอาเผากิน ด้วยแล้ว ......... เฮ่อ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 54 23:50:54

ความคิดเห็นที่ 68 ชอบญี่ปุ่น  เกาหลี ไทย..ตามลำดับ...อยากดูเรื่อง จิน หมอทะลุมิติภาค 2 ไวไวจัง จากคุณ : radakorn เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 00:28:16

ความคิดเห็นที่ 69 ละคร ญี่ปุ่นหลายๆเรื่องทำให้ผม น้ำตาร่วงมาแล้วนักต่อนัก แต่จำ 2 เรื่องนี้กันได้ไหมเอ๊ย.... GTO คุณครูพันธุ์หายาก,ครูซ่าส์ปราบขาโจ๋ = Japan / ทาเคชิ ทีเด็ดครูพันธุ์ใหม่ จิตพิสัยเดือด = ไทย / เท่ง ศักดิ์สิทธิ์ จากคุณ : Takumiko เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 00:41:30

ความคิดเห็นที่ 70 เราชอบหนังญี่ปุ่นมากกว่า เพราะเดินเนื้อเรื่้องเร็ว ไม่ยืดเยื้อ เกี่ยวกับการใช้ชีวิต หน้าที่การงาน หรือด้านกีฬา ก็จะเเสดงออกความมุ่งมั่นอย่างชัดเจน ถ้ารักสามเส้าก็จะเสนอวิถีทางให้ได้มาโดยวิธีที่ต่างจากละครไทย ไม่มีตบตีแย่งชิง ปัญหาเเม่ผัวลูกสะไภ้ เเต่ละครไทยบางเรื่องก็ดีนะ ไม่ได้เหมารวมไปซะทุกเรื่อง ส่วนถ้ามีเรื่องละครเกาหลีเอาไว้ว่ากันอีกทีนะคะ เดี๋ยวหลุดประเด็น จากคุณ : cherrynicegirl เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 00:42:16

ความคิดเห็นที่ 71 คห. 18 ดูแล้วร้องไห้โฮกเลย จากคุณ : Pixar เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 00:49:21

ความคิดเห็นที่ 72 เอ้ออ....อันนี้โหวตโดยไม่ต้องคิดมากเลย จิ้มไปข้อแรกแรงๆ ละครไทยถามว่ามีสาระมั้ย ก็มี แต่ปีนึงจะซักกี่เรื่อง แต่ญี่ปุ่นนี่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าของเค้าคุณภาพจริงๆ จากคุณ : Tarsier เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 01:27:47

ความคิดเห็นที่ 73 ทุกครั้งที่ดูละครไทยจะรู้สึกว่า ทุกคนคะ ทำงานทำการกันบ้างมั๊ย? เหมือนทุกคนในละครจะไม่มีใครทำงานเลย นอกจากคนใช้ คนขับรถ และคนสวน จากคุณ : หมาน้อยเดียวดายใต้เงาจันทร์ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 01:32:33

ความคิดเห็นที่ 74 ที่ละครญี่ปุ่นทำได้ดีกว่าเราคือ การเก็บรายละเอียดอ่ะค่ะ ทั้งการตัดต่อที่ลื่นไหลต่อเนื่องทำให้มีอารมณ์ร่วมขณะดู ทั้งการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจ เช่น เทคนิคสลับฉาก เล่นกับ timeline (ทั้งๆที่ดูจบทั้งหมดแล้วเนื้อหาจริงๆไม่ได้มีอะไรเล้ยย) ทั้งเพลงประกอบที่มันเข้ากันพอดีกับจังหวะอารมณ์ แล้วก็ภาพที่ออกมาดูสวยงานทั้งมุมมอง แสงเงา สี และอื่นๆที่มันร่วมไปกับบทที่ดำเนินอยู่ ถ้าว่ากันเรื่องสาระเนื้อหาแล้วเนี่ย จริงๆเราว่ามันก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่ แต่ญี่ปุ่นมักจะชูประเด็นของเรื่องแต่ละเรื่องที่ชัด และมีโปรดักชั่นที่ทำให้คนดูอินได้มากกว่าละครไทย(มากๆ) จากคุณ : honni เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 01:33:53

ความคิดเห็นที่ 75 การลงุทนต่างกันชัดเจน   การแคสนักแสดง   การแสดงก็ต่างกัน  ของเขาดูสมจริงกว่า     ในขณะที่บ้านเรามันสะท้อนถึงวัฒนธรรมการเสพความบันเทิงแบบดูลิเก จากคุณ : toytoytoy เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 02:55:49

ความคิดเห็นที่ 76 ละครญี่ปุ่นดีที่ "การมองต่างมุม" "การเล่นประเด็นที่ใหม่และสด ทันยุคทันสมัย" ผมคิดว่า ละครญี่ปุ่นนอกจากจะมีประเด็นชัดเจนแล้ว ความคิดที่เขาถ่ายทอดออกมามันก็มีแง่มุมใหม่ๆให้เยอะ ไม่ค่อยเป็นสูตรสำเร็จตายตัว ที่เล่าซ้ำแล้วซ้ำอีก แน่นอนว่าเขาก็มี "ขนบ" มีอะไรที่ใช้บ่อยๆ แต่เพราะประเด็นที่หยิบมาเล่น ใหม่และสด แล้วเขาก็ชอบ "มองต่างมุม" กันเสมอ มันเลยมีอะไรให้ได้เห็น ได้คิด ได้ตื่นเต้นมากกว่า สาระเนื้อหาคิดว่ามีมากกว่าละครไทยเยอะมากนะครับ ละครญี่ปุ่นมีเรื่องละ9-12ตอน ส่วนใหญ่แต่ละตอนก็จะมีประเด็น มีสารที่่ต้องการจะสื่อต่างๆกันเสมอ ฝ่ายละครไทย 20-30ตอน แต่ละตอนๆไม่ค่อยมีสารที่ชัดเจน เนื้อเรื่องของละครญี่ปุ่นมีหลายแนวกว่า ก็ย่อมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่ละครญี่ปุ่นจะให้อะไรแก่คนดูมากกว่า จากคุณ : กุลบุรุษ เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 06:32:45

ความคิดเห็นที่ 77 แค่ตัวอย่างบางเรื่องน่ะ จากคุณ : HARU_PAN เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 07:13:52

ความคิดเห็นที่ 78 .. จากคุณ : HARU_PAN เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 07:14:54

ความคิดเห็นที่ 79 ละครญี่ปุ่นถึงจะเรื่องตลกเบาสมอง แต่ก็ต่างจากละครเกาหลี ละครไทยเยอะ ตัวละครถ้าทำอาชีพไหน เค้าจะทำการบ้านมาดีมาก ดูแล้วรู้สึกว่านี่คือนักบิน พ่อครัว ทนายความจริงๆ ของไทยแค่บอกว่าพระเอกเป็นประธานบ.ก็ไม่เห็นทำไร นั่งโต๊ะเขียนว่าประธานเฉยๆ เป็นหมอก็เดินไปมาในรพ. มันไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ของเกาหลีก็ไม่ต่างจากไทยมาก จากคุณ : นางเอกหนังไทย เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 08:35:41

ความคิดเห็นที่ 80 ที่โหวตญี่ปุ่นนี่เพราะ "อยากให้ปรับปรุงบ้าง" หรอกนะ จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 09:31:27

ความคิดเห็นที่ 81 ละครไทยขาดความสมเหตุสมผลไปมากค่ะ เหมือนที่หลายๆ คห. บอก เรื่องล่าสุดที่เราเปิดไปเจอเนี่ย แค่นางเองปลอมตัวด้วยการใส่แว่นเนี่ย พระเอกก็จำไม่ได้ซะแล้ว ... เราว่าละครไทยจะทำให้มีสาระมันยากนะ ตอนนี้ขอแค่ทำให้มันสมเหตุผลหน่อย บางทีคำว่า ละครสะท้อนสังคม เนี่ยยังใช้ไม่ได้เลย เพราะว่าคนจริงๆคงไม่ตรรกะวิบัติแบบในละครไทยหรอก โอยย บ่นยาวแล้วเหนื่อย จากคุณ : SourSyrup เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 10:27:24

ความคิดเห็นที่ 82 จิ้มญี่ปุ่นโดยไม่ลังเล ละครไทยมีสาระผู้จัดเขาบอกว่าขายยาก มันอยู่ที่คนดูส่วนใหญ่ด้วยนั่นแหละ วงการนิยายก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยนะ พระเอกต้องหล่อ รวย แล้วก็เรื่องราววนเวียนอยู่ที่ขายตัวใช้หนี้ สวาท ซาตาน โสเภณี เมีย ผัว ทาส โอ้วววววสุดจะทน แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 54 10:29:11 จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 10:28:05

ความคิดเห็นที่ 83 ละครญี่ปุ่น นำหน้าแม้กระทั่งฮอลลีวู้ดแล้วค่ะ จากคุณ : peopleparadise เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 10:55:02

ความคิดเห็นที่ 84 จากที่เคยดูละครไทย ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่นมา "ชอบญี่ปุ่นที่สุดค่ะ" กระชับ - 8-12 ตอน ไม่ลากยาว แต่บางทีอาจมีตอนพิเศษหรือหนัง แต่ก็น่าติดตามอยู่ดี ให้ข้อคิด - ทุกเรื่องจิงๆ ดูทีไร จะมีแรงฮึดขึ้นมาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ หรือ ถ้าดูตอนกำลังท้อแท้จะรู้สึกดีมากๆ มาจากชีวิตจริง - ชีวิตตัวละครไม่เวอร์เกินไป นิสัยไม่ได้ดีพระเจ้า ดูแล้วเข้าถึงได้ง่าย ให้ข้อมูล - แต่ละเรื่องมักจะเกี่ยวข้องกับอาชีพ เช่น Good Luck! นักบิน, Hero อัยการ, Change นายก (ทำไมยกตัวอย่างแต่ของป๋าทาคุยะเนี่ยย) สรุป ตอนนี้ดูแต่ละครญี่ปุ่นค่ะ ใครจะหาว่าไม่รักชาติก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็ยังคงรักประเทศอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แค่ไม่ชอบแนวการสร้าง/บทของละครไทย จากคุณ : Ayon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 11:19:17

ความคิดเห็นที่ 85 ดูทั้งละครไทย(นานๆที)และญี่ปุ่น แต่โหวตญี่ปุ่นไป อยากให้ละครไทยมีหลายแนวมากกว่านี้ ใส่ใจรายละเอียดตัวละครให้สมจริงมากกว่านี้ อย่างการแต่งหน้าแต่งตัว อาชีพของตัวละคร ฯลฯ เร็วๆนี้เพิ่งดูละครญี่ปุ่นเรื่อง Mother จบไป เนื้อเรื่องมีประเด็น Domestic Violence ตอนแรกไม่อยากดูแนวนี้เท่าไหร่ แต่เห็นเพื่อนแนะนำว่าดีมากเลยดู ปรากฎว่าติดหนึบ   เป็นละครที่สมกับรางวัลจากเวทีต่างๆที่ญี่ปุ่นจริงๆ อยากให้ไทยเรามีละครซึ้งๆเรียกน้ำตาแนวอบอุ่นแบบนี้มั่งค่ะ เอา MV ของละครเรื่อง Mother มาฝาก เนื้อเรื่องบางส่วนที่ลงใน MV ภาพ แสงสี เสื้อผ้าหน้าผม เพลงประกอบ โปรดักชั่นอื่นๆเค้าสมจริง ทำออกมาดีมาก http://www.youtube.com/watch?v=UkPVaQV3ruQ&feature=youtu.be ยังไงก็ยังเป็นกำลังใจให้ละครไทยเหมือนเดิม ยังอยากเห็นผลิตละครดีๆแบบเรื่องนี้หรือแนวอื่นออกมาค่ะ จากคุณ : MerryBerry เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 11:25:12

ความคิดเห็นที่ 86 ละครญี่ปุ่นส่วนใหญ่  สนุก มีสาระ ดูแล้วมีความสุข ให้แรงบันดาลใจ น่าจดจำ ละครไทย สนุกบางเรื่อง สาระไม่ค่อยมี ดูแล้วผ่านไปก็ลืม จากคุณ : otiose เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 11:29:18

ความคิดเห็นที่ 87 เพราะเมืองไทยคนจนเยอะ ละครเลยมอมเมา ความดีทำให้แต่งงานกับคนรวยได้ ไม่ต้องทำงานทำการ 555+++ จากคุณ : guerilla gorilla เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 11:38:36

ความคิดเห็นที่ 88 ไอ้หนุ่มรถไฟ โย่วๆ  จิ้มแบบไม่ต้องคิด จากคุณ : FISHEYE Wide-Angle เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 12:09:47

ความคิดเห็นที่ 89 เราคอละครไทยเลยนะ แต่ถ้าโหวตแบบนี้ ต้องโหวตละครญี่ปุ่นแน่นอน ไม่รู้อีกกี่ปี ไทยเราจะทำได้แบบ "ทีมดราก้อน คุณหมอหัวใจแกร่ง" พูดถึงละครไทย สาระประเภทสังคม เช่น คนสู้ชีวิต สถาบันครอบครัว ปัญหาวัยรุ่น เหล่านี้เราว่าโอเคนะ แล้วก็พวกอิงประวัติศาสตร์ชาติเราเอง ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าสาระประเภทความรู้ ความสมจริงในอาชีพต่างๆ นี่ เรียกว่า ยังน้อยมาก ที่เห็นว่าพอจะเป็นไปได้ ก็คือ อาชีพการโรงแรม อาชีพเกี่ยวกับอาหาร และก็การเษตร ซึ่งมันซับซ้อนน้อยกว่า หมอ ตำรวจสืบสวน โรงงาน ตลาดหุ้น กลยุทธ์ธุรกิจ การเมือง แต่ด้วยความว่ามันไม่ซับซ้อน ก็เลยกลายเป็นว่า มันไม่น่าสนใจ ดูพื้นๆ ไปเสีย พอผู้ผลิตพยายามสอดแทรกอะไรพวกนี้ลงไป เช่น การเกษตรในละครเรื่องคู่เดือด ก็ดูจะไม่ถูกใจผู้บริโภคนัก ประมาณว่าทำให้เรื่องเดินช้า น่าเบื่อ อันนี้ก็เป็นโจทย์ยากของผู้ผลิตด้วย ที่จะทำยังไงให้ได้ทั้งสาระ และไม่เสียอรรถรสความบันเทิง จากคุณ : S77 เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 12:21:38

ความคิดเห็นที่ 90 ละครญี่ปุ่นเค้าดีจริงๆ แต่หลายคนดูอาจไม่ชอบ ไม่สนุก แต่ส่วนตัวชอบมากๆนะ สนุกด้วย ส่วนละครไทยไปทางแนวเกาหลีมากกว่า เน้นสนุก แต่ไม่ค่อยจะมีอะไร หมายถึงรวมๆนะ อาจมียกเว้นบ้าง ที่ดีๆมีสาระมีแง่คิดก็มีบ้างเหมือนกัน ส่วนใหญ่คือละครเก่าๆ จากคุณ : ,,,ชีวิตที่เหลือของเรา,,, เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 12:28:01

ความคิดเห็นที่ 91 ละครไทย - พระเอก/นางเอก ตัวโกง/ตัวอิจฉาทำตัวเหมือนเศรษฐีใหม่ที่ชอบอวดรวย บ้านหลังใหญ่ รถหรู งานการไม่ต้องทำก็มีเงินใช้ เน้นวัตถุนิยม มันทำให้คนดูคิดว่าสังคมแบบนี้เป็นสังคมในอุดมคติ ต้องมีบ้าน มีรถขับ แต่งตัวสวยๆ ใช้ของแบรนด์เนม จะกินอาหารทีก็เข้าร้านหรูๆ สร้างค่านิยมผิดๆ ผลคือคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเงินคือทุกอย่าง ทำให้ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีเงินไม่ว่าสิ่งที่ทำไปมันจะถูกหรือผิด ละครญี่ปุ่น - พระเอก/นางเอกอยู่บ้านหลังเล็กๆ บางเรื่องอยู่ห้องเช่า ใช้จักรยานหรือเดินเป็นส่วนใหญ่ เรื่องไหนที่ตัวเอกรวยเขาก็ไม่ได้อวดร่ำอวดรวย หรือใช้ชีวิตไร้สาระไปวันๆ ตัวอิจฉาไม่ร้ายแบบกรี๊ดๆ แต่จะร้ายเงียบแบบผู้ดี ไม่ใช่แม่ค้าปากตลาดอย่างนางร้ายในละครไทย   ละครญี่ปุ่นทำผมน้ำตาซึมทุกเรื่อง ส่วนละครไทยแค่ดูผ่านๆ ก็ได้แต่หัวเราะว่าปัญญาอ่อนสิ้นดี น้ำเน่าแบบนี้ยังมีคนดูอยู่อีกเหรอ ทำละครออกมาเหมือนดูถูกสติปัญญาคนดู นี่ยังไม่นับเรื่องโปรดักชั่นนะครับ จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 12:49:56

ความคิดเห็นที่ 92 คนไทยไม่เคยเห็นคุณค่าของตัวเองหรอก จะดีจะเลวก็ไทยไว้ก่อน จากคุณ : chaolove เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 13:09:24

ความคิดเห็นที่ 93 ละครญี่ปุ่นเค้าประหยัดคำพูด เวลาฟังแล้วต้องคิดตาม คนไทยไม่ค่อยชอบคิด คนไทยชอบแบบย่อยมาเรียบร้อย ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ทันที จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 13:29:17

ความคิดเห็นที่ 94 มันบ่งบอกถึงระดับของผู้สร้างครับ จากคุณ : จอร์ด บางขัน เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 14:13:01

ความคิดเห็นที่ 95 ละครญี่ปุ่น - โปรดักชั่นดีมาก ยอมลงทุนถึงแม้ฉากนั้นจะมีอยู่ไม่กี่วินาทีก็ตาม ทำให้รู้สึกสมจริงสุดๆ - มักเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ดูแล้วได้ความรู้และเข้าใจความคิดของคนที่ประกอบอาชีพนั้นๆ มากๆๆๆ ยิ่งขึ้น - บทละครสุดยอด มีข้อคิดแฝงอยู่ในทุกๆ เรื่องจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวไหนๆ แทบทุกเรื่องมักมีประโยคเด็ดโดนใจคนดูอยู่เสมอ บางคนยังจำมาใช้เป็นข้อคิดในการดำเนินชีวิตจริงของตัวเองอีกด้วย - เห็นด้วยกับ คห. 34 คือมีการแสดงที่น้อย แต่ดึงความรู้สึกร่วมของคนดูไปได้เยอะมาก บางฉากมีให้เห็นแค่เพียงด้านหลังของตัวแสดง ก็ทำให้คนดูร้องไห้ตามไปได้แล้ว - นักแสดงส่วนใหญ่มีทักษะในด้านการแสดงสูง ถึงแม้บางคนอายุยังน้อย โดยเฉพาะการแสดงความรู้สึกออกมาทางสายตา - เสื้อผ้าหน้าผมสมจริง - เดินเรื่องกระชับ ฉับไว ถ้าลืมดูไปตอนนึง แล้วมาดูต่อ จะดูไม่รู้เรื่องเลย > < ละครไทย - ดำเนินเรื่องช้ามาก และถ้าดูตอนแรกแล้ว ก็สามารถเดาตอนจบได้เลย - เนื้อเรื่องซ้ำเดิม พระเอกรวย นางเอกจน พระเอกกับนางเอกเจอกันตอนแรกต้องไม่ถูกกันก่อน ต่อมาก็รักกัน แต่ก็จะถูกขัดขวางโดยแม่พระเอก - แต่งหน้าได้หนามาก หลงป่าอยู่หลายวัน แก้มกับปากยังแดงอยู่เลย ขนตางอนงาม แม้กระทั่งตอนนอน จากคุณ : TKandOV เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 14:29:44

ความคิดเห็นที่ 96 เราก็โหวตละครญี่ปุ่น ละครไทยที่ให้สาระตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆมีน้อย เราว่าจริงๆนิยายไทยหลายๆเรื่องก่อนจะเอามาทำละครมันก็ให้สาระครบถ้วนนะ แต่พอเอามาทำละครจริงๆ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทำให้มันกลายร่างไป แล้วก็กลายเป็นไร้สาระไปเลย  อย่างนิยายของอาจารย์แก้วเก้า/ว.วินิจฉัยกุลอ่ะ อาจารย์ท่านเขียนได้ดี ให้ข้อคิดดีๆแทบทุกเรื่อง ถ้าเอามาทำจริงๆแบบไม่ปรุงแต่งมาก มันก็จะให้แง่คิดจริงๆกับคนดู แต่คำถามก็คือว่า แล้วคนส่วนใหญ่จะดูเหรอ เพราะคนที่ดูละคร จะดูที่ตัวเอก และความบันเทิงฉาบฉวยมากกว่าจะมานั่งพิจารณาถึงสาระหรือแก่นที่แท้จริงของละคร เราว่าทางที่ดีที่สุดคือ ผู้จัดละครต้องทำการบ้านให้หนัก เวลาจะสร้างละครสักเรื่อง เพราะญี่ปุ่นเขาวางแผนต่างๆดี ละครเขาถึงออกมาดี มันต้องพบกันครึ่งทางระหว่างบันเทิงกับสาระ มันถึงจะสมดุลกัน ที่เราเคยบ่นเรื่องที่อ่านนิยายแล้วพอมาดูละครมันไม่ใช่ เพราะเรารู้สึกว่าอ่านนิยายเราได้ซึมซับแง่คิดมากกว่าดูละคร อาจจะมีบางคนเถียงว่า ดูละครดูเพื่อความบันเทิง จะเอาสาระอะไรนักหนา ก็จริง แต่เราว่าละครที่มันไม่มีสาระ มันก็คือละครกลวงๆอ่ะ เอาแค่ดูเพลินๆ แต่เสพไปแล้วไม่ให้ประโยชน์ต่อตัวเรามากไปกว่านั้น เราเลยเสียดายบทดีๆ ที่น่าจะสร้างได้ดีกว่านี้มากๆ ละครญี่ปุ่นหลายๆเรื่อง ดูแล้วทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีความหวัง อยากจะต่อสู้ อยากจะลองทำให้ได้เหมือนตัวเอกในเรื่อง แต่ละครไทยดูแล้ว สะใจ มันส์ในอารมณ์ เพ้อฝัน และก็นางเอกสวยพระเอกหล่อ นางร้ายแต่งหน้าแต่งตัวเก๋ บ้านพระเอกรวย บ้านนางเอกจน  คนรวยต้องมีคนใช้มาคอยรองรับอารมณ์และยุแยง  คนเลวต้องร่วมมือกันทำร้ายพระเอกนางเอก แม่พระเอกต้องเกลียดนางเอก  ฯลฯ แสดงให้เห็นถึงความรวย สวย เด่นดัง เก่งกาจของตัวละครเอก แต่มิเคยรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้มันมา ต้องทุ่มเทขนาดไหนเหมือนกับที่ละครญี่ปุ่นเขาสื่ออกมา แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 54 14:48:14 จากคุณ : ดวงเทียน เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 14:38:07

ความคิดเห็นที่ 97 เพิ่มเติม ใครเคยดูคุโรซากิมั้ง ที่ยามะพีเป็นพระเอก เป็นนักต้มตุ๋นที่หลอกนักต้มตุ๋นอีกทีอ่ะ กับเรื่อง Mr.Brain ที่ทาคุยะเล่นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา ดูแล้วต้องยกนิ้วให้ญี่ปุ่น คิดได้ไงอ่ะ สุดยอดดด นับถือๆ จากคุณ : ดวงเทียน เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 14:45:48

ความคิดเห็นที่ 98 เรื่องนี้โปรดักชั่นและนักแสดงสุดยอดมากๆ จากคุณ : TKandOV เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 14:45:51

ความคิดเห็นที่ 99 ง่ายๆเลยคือ ละครไทย - หยิบประเด็นสังคม(ที่มีอยู่จริง) มาเล่น ละครญี่ปุ่น - หยิบประเด็น(ที่อยากให้สังคมเป็น) มาเสนอ ถามว่า.. สังคมญี่ปุ่นเป็นแบบในละครที่สวยหรูแบบนั้นรึเปล่า.. คงไม่ใช่ขนาดนั้น แต่เค้าพยายามสร้างสรรค์ละครที่ทำให้สังคมของเค้าพัฒนา และคนของเค้าก็เปิดรับ แต่ละครไทยทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมดู พอทำละครดีๆ แต่ก็ดีแบบไม่สุด คนก็ไม่ค่อยดู พอไม่มีคนดูก็ไม่มีโฆษณา ไม่มีเงินมา ก็ไม่ทำแนวนี้ต่อ เราเองที่ชอบละครญี่ปุ่น พูดตามตรงยังไม่อยากดูของไทยเลยนะ เพราะเวลาคนไทยทำละครอะไรที่มีสาระมากๆ มันไม่น่าสนใจเท่าไหร่อ่ะ ไม่เหมือนญี่ปุ่นทำ มันดูน่าสนใจมากเลย แล้วอยากติดตามต่อๆไป ถ้ายกตัวอย่างละครไทยที่ดีจริงๆ ก็เช่น สี่แผ่นดิน ที่เมื่อก่อนออกช่อง9 ประมาณนั้น แต่..... ก็อยากให้มองอีกมุมนึงนะว่า ในขณะที่ละครไทย กำลังค่อยๆ มีประเทศจีน ใต้หวัน ฯลฯ ซื้อลิขสิทธิ์ละครบ้านเราไปฉาย สังเกตมั้ยว่า ละครบ้านเราก็กำลังค่อยๆแทรกวัฒนธรรม และข้อคิดต่างๆ เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนเยอะเลยนะ ความจริงแล้วเราไม่ต้องไปตามญี่ปุ่นเค้าเป๊ะก็ได้ เพราะเอกลักษณ์มันต่างกันอยู่แล้ว โดยส่วนตัวเป็นแฟนละครญี่ปุ่น แต่ก็อยากเห็นละครไทยพัฒนามากขึ้นไปกว่านี้ ซึ่งการที่ละครบ้านเราไปดังที่ต่างประเทศนี่แหละ จะเป็นตัวบีบให้ละครบ้านเราต้องพัฒนา.. หวังว่านะ :) ป.ล. นอกเรื่อง อีกอย่างที่อยากเห็น คือนักแสดงไทย ช่วงแต่งหน้าน้อยลงหน่อยเหอะ อย่างเวลาฉากที่จะนอนนี่ ไม่ต้องแต่งก็ได้มั้ง เห็นแล้ว.. รู้สึก.. "นี่แกจะออกไปไหนอีกมั้ยเนี่ย" จากคุณ : SeiGaKu เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 14:47:16

ความคิดเห็นที่ 100 ส่วนผมรำคาญพวกละครญี่ปุ่น เกาหลีมากครับ โดยเฉพาะละคร(ซี่รี่ย์) ญี่ปุ่นเนี่ย คือเวลาเค้าพูดกันน่ะ เค้าไม่พูดกันไปเลยทีเดียวน่ะครับ ชอบเว้น ชอบแบบพูดๆอยู่ดีๆ ก็นิ่ง....เงียบ....แล้วก็พูดต่ออีกหน่อย คือยังไงอะ อธิบายไม่ถูกน่ะ จากคุณ : BuscompanyteR เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 15:05:32

ความคิดเห็นที่ 101 เทียบกันแบบนี้ก็แพ้หมดอ่ะ  55555 จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 15:27:38

ความคิดเห็นที่ 102 #100  โดยวัฒนธรรมเค้าเป็นพวกคิดมากอยู่แล้วครับ   เพราะฉนั้นคนส่วนมากเค้าจะคิดก่อนพูดครับ  ไม่ได้พูดออกมาเรื่อยเปื่อยมากนัก จากคุณ : Baritoreca เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 15:29:57

ความคิดเห็นที่ 103 อย่าไปเทียบกับละครเลยครับ เอาแค่ Sentai หรือพวก Kamen Rider ที่ขายเด็กๆ ยังเทียบไม่ได้เลย ละครไทย กาก ไว้ดูให้เบาสมองก้อพอแล้ว จากคุณ : Meow-Meow (piggy_and_kitty) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 15:57:05

ความคิดเห็นที่ 104 ละครญี่ปุ่นสอนเหรื่องคุณธรรมจริยธรรม ดูแล้วซาบซึ้งและอ่อนไหว(น้ำตาซึมบ่อย) ละครไทยสอนให้คิดเองว่าอะไรถูกอะไรผิด ถ้าคิดได้ก็ดีไปถ้าคิดไม่ได้ก็....... ดูเอาสะใจอย่างเดียว(รู้สึกอย่างปล่อยพลังแบบในละคร) จากคุณ : Pom_OnTour เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 16:00:07

ความคิดเห็นที่ 105 ... แล้วแต่เรื่อง   แต่โดยส่วนตัว กดโหวตญี่ีปุ่นนะ จากคุณ : ดาราวิปลาส เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 16:31:41

ความคิดเห็นที่ 106 ละครญี่ปุ่นแถบทุกเรื่องทีแ่ฝงไปด้วยข้อคิด ละครไทยเนี่ยสิ... จากคุณ : ladonna เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 16:38:10

ความคิดเห็นที่ 107 ไม่ค่อยได้ดูละครญี่ปุ่นเท่าไร แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ช่อง 3 นำโอชิน มาออกอากาศให้ดูใหม่ ดูแล้วชอบค่ะ จากคุณ : *_* (nut-bkt) เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 16:49:01

ความคิดเห็นที่ 108 ไม่ได้ดูละครเลย สามีดูแต่ ESPN ยิ่งช่วงนี้ ทัวร์ เดอ ฟร้อง เซ็งเป็ด !! จากคุณ : Super เมีย เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 16:55:27

ความคิดเห็นที่ 109 คห.12 คนชอบดูละครญี่ปุ่นนี่ถึงกับเป็นพวกลืมรากเหง้าเลยเหรอคะ? จากคุณ : QAF~Princess เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 17:09:12

ความคิดเห็นที่ 110 ละครญี่ปุ่น มีไม่เกิน 12 ตอน แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ พลาดไม่ได้สักตอน ละครเกาหลี มี 20 ตอนมากกว่าละครไทย ก็สนุกนะ แต่หลัง ๆ ชอบยืดดดดด ปู่ ป้า น้า อา น้องพระเอก เพื่อนนางเอก มีทำม๊ายยยยย ไม่อยากดูๆๆ ละครไทย เอ่อ... ก็ดีเน๊อะ บางเรื่อง บางเรื่องก็ไม่ไหวค่ะ มีเพื่อนบอกละครช่อง 7 ช่วงหลังบางเรื่องมีแต่แย่งผู้ชายกับฆ่ากันตาย จากคุณ : ANT-AIB เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 18:23:12

ความคิดเห็นที่ 111 ละครญี่ปุ่นกระชับ เข้าใจง่าย ละครไทย นางร้ายกรี๊ดให้เวลาหมดไปวันๆ จากคุณ : Yok_Cartoon เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 19:14:36

ความคิดเห็นที่ 112 บันทึกน้ำตาหนึ่งลิตร tokyo tower คือละครที่ดีที่สุดในโลก (สำหรับเรา) จากคุณ : สตอเบอรี่จิ้มน้ำปลา เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 19:22:26

ความคิดเห็นที่ 113 เลิกดูละครไทยนานมากน่าจะสัก 10 ปีขึ้น เลยลองหันไปดูของญี่ปุ่นแทนเรื่องแรกที่ได้หามาดูก็เรื่อง HERO แค่ตอนแรกที่ได้ดูผมก็บอกได้เลยว่านี้แหละสื่อบันเทิงที่ผมอยากจะเสพ จากคุณ : poopup เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 19:39:57

ความคิดเห็นที่ 114 นี่ก็คืออีกบทพิสูจน์ว่า สังคมไทยมีสาระจริงๆ ไม่แปลกที่มีละครแบบนั้นอะ จากคุณ : ผีทะเลที่รัก เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 54 19:46:52