ขอบคุณป้าๆที่รายงานสดนะคะ ขอบคุณป้าอ้อย
ที่อัดคลิปหลินปิงดมกลิ่นหลินฮุ่ยไว้ให้ดูกัน..
เมื่อวานป้าบีไม่ได้ดูสดค่ะ
ป้าบีดูแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นที่หลินปิงเดินเข้าบ้านจนจบสองคลิป
คิดว่าหลินปิงจำกลิ่นหลินฮุ่ยได้ และหลินฮุ่ยก็จำกลิ่นหลินปิงได้
...ป้าบีสังเกตอาการดังนี้ค่ะ
-พอเข้าบ้านผ่านประตูห้องแรก หลินปิงเริ่มได้กลิ่น เงยหน้าขึ้นแล้วชะงัก หันกลับ ไปดมที่เสาข้างประตู
-พอเข้ามาห้องกลาง ไปดมพื้นข้างเสา เดินดมตามพื้นมาที่ยาง ก้มดมๆ แล้วมาหน้าห้อง
-ไปยืนดมผ้าที่พาดอยู่ที่กรง แล้วไม่มีอาการกลัว หรือกระวนกระวาย หรือจะถอยหนี แต่นั่งลงดมนาน
-ไปยืนเกาะกรงชะเง้อเหมือนตอนที่คอยแม่ตอนแยกใหม่ๆ
(ดูคล้ายคอยพี่เลี้ยงเหมือนวันก่อนๆ แต่วันนี้ไปยืนเกาะฝาด้วย คล้ายกับตอนแยกขาดได้ไม่นาน จึงบอกไม่ได้ว่าชะเง้อหาเจ้าของผ้าเช็ดตัวหรือพี่เลี้ยงกันแน่)
-ไปดมที่กิ่งไผ่กิ่งหนึ่งที่วางอยู่บนล้อยาง นานมาก ดมช้าๆ อย่างพินิจ ดมจากบริเวณใบ และมาดมที่โคนกิ่ง
กิ่งไผ่นี้เข้าใจว่าน่าจะเป็นกิ่งไผ่ที่หลินฮุ่ยกินไว้แล้ว มีกลิ่นจากน้ำลายที่ใบ และกลิ่นจากมือหลินฮุ่ยที่จับกิ่งไผ่ (ตามที่หมอก้อยบอกว่าจะเอาของที่สั้งสองฝ่ายเคยกินเคยใช้ไปให้ดมก่อน)
-หลินฮุ่ยเดินเข้ากรงมาก็ดมผ้าเช็ดตัวของหลินปิงทันที นอกจากเอาจมูกแตะแล้วยังเอามือจับผ้ามาดมด้วย และเดินวนไปมา ส่งเสียงแพะด้วย (ถ้าส่งเสียงแพะแสดงว่า ทักทาย เป็นมิตร)
They bleat. This is just their way of greeting others. While they bleat, the baby panda cubs make little whimpering noises until they are older and learn to bleat.
Pandas dont make a scary roaring sound like most bears. Instead they make friendly bleating and honking noises to communicate with other pandas.
ป้าบีคิดว่าเรื่องกลิ่นน่าจะผ่านค่ะ...แต่ต้องทดลองซ้ำๆ ตามแผนการทดลอง เพราะต้องเอาไปเขียนรายงาน ถ้าทำครั้งเดียวเขียนรายงานไม่ได้อีก แต่ยังสงสัยว่าพอหลินฮุ่ยเจอตัวจริงหลินปิง แม้จะยอมรับกลิ่น อิอิ..หลินฮุ่ยอาจตกใจในขนาดตัวของลูกสาว อาจนึกว่าหมีสาวที่ไหนมาแถวนี้ ต้องรอดูกันค่ะว่าพอเจอหน้ากันจะมีอาการยังไง อยากเห็นเร็วๆเหมือนกันค่ะ แต่อย่างที่บอกนั่นแหละ เขาต้องทำซ้ำ.. แค่ป้าบีดูพฤติกรรมตอนปิงดมๆที่เช็ดตัวและไผ่ ก็ซึ้งมากแล้วค่ะ ช่วงนี้อยากให้ป้าๆ ที่มีเวลา ได้ตั้งใจดูอย่างพินิจทุกวินาทีตั้งแต่ปิงเข้าบ้านค่ะ
...............
ภาพตอนน้องปิงดมกิ่งไผ่ค่ะ