Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กลุ่มแอนตี้เกาหลีขู่บอยคอตต์ Fuji TV สนับสนุน “โซซึเกะ ทากาโอกะ” ติดต่อทีมงาน

ความเห็นโจมตี Fuji TV ที่แพร่ภาพรายการของเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากทวิตเตอร์ของพระเอกชาวญี่ปุ่น “โซซึเกะ ทากาโอกะ” ได้สั่นสะเทือนวงการสื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดมีการประกาศรวมตัวเพื่อต่อต้าน Fuji TV แล้ว … ขณะที่มีนักวิชาการออกมาให้ความเห็นว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระ และมีแต่จะทำให้ญี่ปุ่นเองต้องตกต่ำลง
     
      “ในอดีตที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณพวกเขาอยู่นะครับ แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยได้ดูช่อง 8 (Fuji TV) เท่าไหร่แล้ว สงสัยแล้วว่าอาจจะกลายเป็นสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีไปแล้ว … สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าผมอยู่ในประเทศอะไรกันแน่ มันทำให้ผมหัวเสีย ถ้ามีอะไรที่เกี่ยวกับเกาหลีโผล่ออกมา ผมก็จะเปลี่ยนช่องทันทีเลย มันเป็นปัญหาสำหรับผม เพราะดูแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองถูกล้างสมอง เพราะเราอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ผมอยากจะเห็นรายการของญี่ปุ่นมากกว่า รู้สึกขนลุกขนพองทุกครั้งที่ที่ได้ยินคำว่า ‘คลื่นบันเทิงเกาหลี”
     
      ความเห็นต่อ Fuji TV สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงญี่ปุ่น ของนักแสดงหนุ่ม โซซึเกะ ทากาโอกะ ที่เขียนผ่านเว็บทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดผลกระทบมากมาย ทั้งการต้องออกจากต้นสังกัดเพื่อรับผิดชอบต่อความเห็นอันรุนแรงต่อสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ ของนักแสดงหนุ่มคนดังเอง
     
      มากไปกว่านั้นข้อความของเขาได้กลายเป็นเชื้อไฟ ให้กระแสต่อต้านสื่อบันเทิงเกาหลีใต้ ของชาวญี่ปุ่นบางส่วนปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
     
      กลุ่มต้านเกาหลี - เป้าหมายทำเรตติ้ง Fuji TV ให้เป็น “0”
     
      มีรายงานถึงกระแสการแสดงท่าทีสนับสนุนความเห็นของ โซซึเกะ ทากาโอกะ จากเพื่อนร่วมชาติจำนวนหนึ่ง ที่ได้ก่อตั้งองค์กรอย่างไม่เป็นทางการขึ้นเพื่อ “บอยคอตต์” Fuji TV
     
      โดยกลุ่มคนดังกล่าวมีแผนจะรณรงค์ให้สมาชิกผู้ร่วมเจตนารมย์ และประชาชนทั่วไปที่เห็นด้วย ให้หยุดดู Fuji TV ในวันที่ 8 ส.ค. ตลอดทั้งวัน หวังว่าจะฉุดให้เรตติ้งของโทรทัศน์แห่งนี้ให้ลดลงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในวันดังกล่าว ซึ่งทางกลุ่มเลือกวันที่ 8 ส.ค. ก็เพราะหมายเลขประจำของโทรทัศน์ช่องนี้ในหลาย ๆ พื้นที่คือหมายเลข 8 นั่นเอง
     
      ส่วนหนึ่งของผู้เห็นด้วยกับการมาตรการต่อต้าน Fuji TV ครั้งนี้ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “ไม่เอาอีกแล้วกระแสเกาหลี”, “เป้าหมายของเราคือทำให้ Fuji TV มีเรตติ้ง 0%”,“ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทำไมเราต้องสนับสนุนสื่อของประเทศอื่นด้วย”
     
      กระแสการต่อต้านสื่อบันเทิง และวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีใต้ เริ่มมองเห็นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศญี่ปุ่นในพักหลัง ๆ เมื่อสื่อบันเทิงจากแดนโสม ทั้งทีวีซีรีส์, ภาพยนตร์ และศิลปินไอดอล ต่างเข้ามาเปิดตลาดเผยแพร่ผลงานมากขึ้นเรื่อย ๆ
     
      อย่างไรก็ตามความสำเร็จดังกล่าวยังถูกตั้งคำถามจากชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่ง ว่าเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หรือถูกเสกสรรปั้นแต่งด้วยวิธีพิเศษ
     
      ทฤษฎีสมคบคิด : แผนเกาหลียึดครองวงการบันเทิงญี่ปุ่น
     
      ข้อกล่าวหาใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นก็คือ เรื่องที่หลายคนเชื่อว่าบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้ใช้วิธี “ใต้เข็มขัด” ทุ่มเงินซื้อสื่อ เพื่อให้ได้ช่วงเวลาโปรโมตศิลปินหรือรายการต่าง ๆ โดยเฉพาะกับ Fuji TV ที่หลายคนเชื่อว่าสามารถเห็นถึงแผนการดังกล่าวได้ชัดเจนที่สุด
     
      มีข้อมูลว่า ขณะนี้ช่วงเวลาการออกอากาศที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ของสื่อบันเทิงเกาหลีใน Fuji TV ไม่ได้สะท้อนถึงความนิยมที่แท้จริงเลย สังเกตจากรายการหรือซีรีส์หลาย ๆ เรื่องก็ไม่ได้มีเรตติ้งที่สูงอะไรนัก ขณะเดียวกับเทียบกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น ๆ โดยทั่วไป Fuji TV ยังมีช่วงเวลาสำหรับรายการของเกาหลีใต้มากที่สุดถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลยทีเดียว เรียกว่ามากกว่าอย่างผิดปกติ จาก 4 ชั่วโมของ NHK, 20 ชั่วโมงของ TBS และ TV Tokyo ก็แพร่ภาพรายการของเกาหลีเพียง 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น
     
      ยังมีทฤษฎีสมคบคิดมากมายที่ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยชาวญี่ปุ่นบางส่วน หนึ่งในนั้นก็คือความเชื่อที่ว่ามีบุคคล และบริษัทจากเกาหลีใต้ส่วนหนึ่ง ที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัท Fuji TV และบริษัทบันเทิงอื่น ๆ เพื่อเข้ามาร่วมกำหนดนโยบายการบริหารต่าง ๆ ของบริษัท เห็นได้ชัดจากระยะหลังที่ Fuji TV นำเสนอภาพของวัฒนธรรมเกาหลีทั้งเรื่องอาหาร และชีวิตความเป็นอยู่ มากขึ้นแบบผิดปกติ
     
      เรื่องเหล่านี้เป็นข้อกล่าวหาที่ถูกพูดถึงในสังคมญี่ปุ่นมาซักระยะใหญ่ ๆ แล้ว รวมถึงข่าวลือที่ว่าวงการบันเทิง เกาหลี ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ในการใช้เม็ดเงินมหาศาลทุ่มซื้อพื้นที่สื่อ ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงญี่ปุ่น เพื่อสร้างฐานความนิยมในหมู่ศิลปิน, ความบันเทิง และวัฒนธรรมของประเทศตนเอง ในทางตรงกันข้ามก็เพื่อครอบงำสื่อของประเทศนั้น ๆ
     
      อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลจำนวนมากที่ถูกหักล้างถกเถียง และกล่าวหากลับ ว่ากลุ่มแอนตี้เกาหลีชอบ “จับแพะชนแกะ” สร้างเรื่องให้กระแสคลื่นบันเทิงจากเกาหลีใต้ดูเลวร้ายกว่าความเป็นจริงไปมาก
     
      ขณะที่ฝ่ายต่อต้านยังยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้เกลียดชัง หรือต่อต้านวัฒนธรรมเกาหลีโดยรวมแบบไร้เหตุผล แต่มองว่าการจงใจสร้างกระแสความนิยมขึ้นอย่าง “ไร้ธรรมชาติ” ด้วยแผนการที่ไม่ถูกต้อง อย่างการทุ่มเม็ดเงินให้กับสื่อ สร้างข่าว “ปลอม” เรื่องความนิยมของสื่อบันเทิงเกาหลีใต้ในญี่ปุ่นถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
     
      แต่หากเกาหลีใต้สามารถสร้างฐานความนิยมขึ้นมาได้อย่างปกติ เช่นเดียวกับศิลปินจากประเทศอื่น ๆ ที่เข้ามาขุดทองกันในญี่ปุ่น พวกเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร
     
      นักวิชาการเตือนสติ - ยิ่งต่อต้าน ญี่ปุ่นยิ่งล้าหลัง
     
      แต่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นทุกรายที่จะเห็นด้วยกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ โมกิ เกนอิจิโร นักวิทยาศาสตร์คนดังผู้มีบทบาทอย่างสูงต่อสังคมญี่ปุ่น เป็นหนึ่งคนที่ออกมาค้านกระแสต้านเกาหลีใต้อย่างชัดเจน
     
      โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมาเขาเขียนข้อความถึงแผนการแบน Fuji TV ของคนกลุ่มหนึ่งว่า “เป็นเรื่องโง่เกินไปแล้ว กระแสเกาหลีมีอะไรผิด ? เราอยู่ในยุคของโลกาภิวัตน์กันแล้วนะ ความคิดชาตินิยมแบบโง่ ๆ มันเป็นเรื่องโง่สิ้นดี มีแต่จะทำให้ภาพรวมของญี่ปุ่นต้องแย่ลงไปด้วย”
     
      เขายังแสดงข้อสงสัยถึงการโจมตี Fuji TV ของคนกลุ่มดังกล่าวว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผล เพราะเป็นเรื่องปกติที่รายการโทรทัศน์จะมองเรื่องผลกำไรเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด ซึ่งการเข้ามาของศิลปิน และรายการบันเทิงจากเกาหลีใต้ ก็หมายความว่าสื่อบันเทิงตลอดจนตัวศิลปินเหล่านั้นเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนดู และสามารถมอบผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับสถานีโทรทัศน์นั่นเอง
     
      “พวกคุณควรจะหยุดแถลงการณ์อะไรโง่ ๆ แล้วไปตั้งใจเรียนกันดีกว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้มีหวังญี่ปุ่นได้กลายเป็นประเทศโลกที่สามแน่ ๆ … ชาตินิยมจอมปลอม, ยึดมั่นอยู่กับแต่ความคิดเห็นของตัวเอง, ไม่ยอมเคารพในวัฒนธรรมของผู้อื่น ถ้าไม่กำจัดความคิดแบบนี้ให้หมดไป ญี่ปุ่นก็หมดหวังแน่ ๆ” โมกิ เกนอิจิโร สรุป
     
      การกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ต่อต้าน และสนับสนุนสื่อบันเทิงรวมถึงวัฒนธรรมจากเกาหลีใต้ในประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นมาในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และมีแต่จะวิวาทะกันอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็คงจะเป็นเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่ ตราบเท่าที่ความบันเทิงจากแดนกิมจิยังคงเป็นที่ชื่นชอบของชาวอาทิตย์อุทัยบางส่วนต่อไป

ที่มา http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000096081

จากคุณ : can't buy my love
เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 54 16:58:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com