เล่นเกมเพลินไป(ไม่)นิด เลยต้องมานั่งแปลก่อนนอน - -"
ภาพประกอบอยู่ในบล็อกนะครับ stephanpastis.wordpress.com/burn-baby-burn-comics-inferno
ลุกไหม้เข้า เพลิงนรกแห่งคอมิค
2 สิงหาคม 2011
2,500 กรอบหนังสือพิมพ์ นั้นมากโขอยู่
นั่นคือจำนวนหนังสือพิมพ์ที่ เจอรี่ สก็อตต์ ได้ลง
เจอร์รี่เขียนการ์ตูนเรื่อง Zits (1,600 ฉบับ) กับ Baby Blues (900 ฉบับ)
และกรอบหนังสือพิมพ์ก็หาได้ยากยิ่งในยุคนี้
ผมเลยวางแผนขึ้น
มันเริ่มจากการ "ไปพักผ่อนของครอบครัว" สู่ มอร์โรเบย์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจอร์รี่
ผมทำทุกอย่างให้ดูเหมือนการไปพักผ่อนตามปกติ แม้กระทั่งการถ่ายรูปกับรูปสลักของ วิลเลียม แรนดอล์ฟ
เฮิร์สท์ ที่ปราสาทเฮิร์สท์
จากนั้นผมก็เริ่มดำเนินแผน
ขั้นแรกคือโทรหาคิม ภรรยาของเจอร์รี่ เพื่อเชิญพวกเขามาดินเนอร์ พวกเขาค่อนข้างลังเล
"คือเจอร์รี่ยุ่งมากเลย" คิมบอก "พรุ่งนี้เขาต้องไปไหนซักที่ และ-"
"มานะครับ" ผมพูด "เราเช่าบ้านริมหาดไว้ คุณจะชอบมันแน่"
ผมวางสายไปก่อนพวกเขาจะทันได้ปฏิเสธ
อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงแบบไม่ค่อยเต็มใจพร้อมกับไวน์ นั่นคือข้อตกลง เขาจะเอาไวน์มา
และเราก็จะซื้ออาหารแบบห่อกลับบ้านจากร้านอาหารเม็กซิกันที่พวกเขาแนะนำ
ซึ่งกลายเป็นว่า เราไม่มีเงินสด พวกเขาเลยต้องจ่ายค่าอาหาร ด้วย
ถึงตอนนี้ ผมก็ได้เปรียบมาก
1) ไม่ต้องขับรถไป (ประหยัดตังค์ค่าน้ำมัน)
2) ไม่ต้องจ่ายค่าไวน์
3) ไม่ต้องจ่ายค่าอาหาร
จากนั้นผมก็ถามว่าพวกเขาอยากปิ้งมาร์ชเมลโล่กันมั้ย บอกพวกเขาว่าหลังบ้านเรามีกองไฟสุดเจ๋งที่ทำ
จากเศษแก้วล้วนๆ ที่คุณต้องทำก็แค่จุดไม่ขีด และ พรึ่บ คุณจะได้กองเพลิงแห่งแก้ว
แล้วเราทุกคนก็ออกไปดูกองไฟและปิ้งมาร์ชเมลโล่กัน แต่ด้วยอากาศที่เย็นและมีลม ครอบครัวสก็อตต์
เลยดูเหมือนจะอยากกลับเข้าไปในบ้าน
"มาเถอะ" ผมบอก "เราจะปิ้งกันแค่ไม่กี่อันหรอก"
เราทุกคนเลยไปนั่งกันรอบกองไฟ
ลูกๆ ของผม ซึ่งรู้เรื่องแผนการแล้ว ก็นั่งตรงที่ๆ ผมได้บอกพวกเขาไว้ เช่นเดียวกับ สเตซี่ ภรรยาผม
เหลือที่ไว้ให้เจอร์รี่นั่ง ตรงที่ผมอยากให้เขานั่ง
แล้วเราทุกคนก็นั่งปิ้งมาร์ชเมลโล่กันอย่างมีความสุข
ยกเว้นเจอร์รี่
กองไฟทางฝั่งเขาไม่มีไฟเลย
นั่นคือบางสิ่งเกี่ยวกับกองไฟนี้ที่ผมได้เรียนรู้จากการทดลอง ก่อนที่พวกสก็อตต์จะมาถึง
ไฟในกองเพลิงแห่งแก้วจะไม่ขึ้นอย่างทั่วถึง มันจะลุกแค่ตรงที่คุณขุดโพรงเล็กๆ ในแก้วไว้ก่อนเท่านั้น
และนั่นทำให้ทั้งเจอร์รี่และมาร์ชเมลโล่ของเขาต้องสลด เพราะไฟทั้งหมดไปอยู่อีกฝั่งนึง
เขาเลยทำในสิ่งที่ใครๆ ก็คงทำในสถานการณ์เช่นนั้น เขาเอื้อมมือข้ามกองไฟไป
ด้วย มือที่เขาใช้วาดรูป
ทีนี้ผมจะบอกความลับเล็กๆ ที่ผมไม่ได้บอกกับเจอร์รี่ ให้พวกคุณรู้นะ
แค่เพราะไฟจากกองไฟฝั่งคุณมันไม่ลุก ก็ไม่ได้หมายความว่าไฟจากกองไฟฝั่งคุณจะไม่มีทางลุกเลย
และตอนที่เขาเอื้อมมือไปนั่นเอง เปลวไฟขนาดใหญ่ก็ลุกขึ้นท่วมแขนขวาของเขา
และนั่นคือจุดเดียวที่ผมทำพลาด
ผมคาดคะเนว่าเจอร์รี่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบคนอายุ 90 เขาเป็นคนเฉื่อยๆ และเงียบๆ จึงเป็นปกติ
ที่จะอนุมานแบบนั้น
แต่เปล่าเลย เจอร์รี่มีปฏิกิริยาว่องไวราวกับปรมาจารย์กังฟู ลองคิดถึงตั๊กแตนที่ฉกลูกหินจากฝ่ามือคนแก่สิ
เร็วอย่างงั้นเลย
"โอ๊ววว มือผม!" เขาร้องพลางกระตุกแขนออกให้พ้นไฟ
"คุณโอเคนะ?" ผมถาม แสร้งทำเป็นห่วงใย
"อือ ผมว่ามันแค่ไหม้ขนตรงข้อมือผมน่ะ"
"โอ" ผมพูดด้วยความเสียดาย
และก็แค่นั้นแหละ
แขนขวาเขายังอยู่ครบถ้วน
ไม่มีจุดจบของ Zits ไม่มีจุดจบของ Baby Blues ไม่มีกรอบหนังสือพิมพ์ว่างสำหรับ Pearls Before Swine
และนั่นยังไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุดด้วยซ้ำ ที่มันแย่ที่สุดคือ:
ผมต้องจ่ายค่ามาร์ชเมลโล่เอง
ตกลงที่สมรู้ร่วมคิดกันทั้งครอบครัวนี่กะกินฟรี โดยมีพื้นที่ นสพ. เป็นผลพลอยได้สินะ