ความคิดเห็นที่ 1 SNOW WHITE AND SEVEN DWARFS (1937) สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด นี่คือผลงานภาพยนตร์การ์ตูนสี่สีขนาดยาวเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของอเมริกา และดัดแปลงมาจากหนังสือนวนิยายในชื่อ "สโนว์ไวท์" จากการประพันธ์ของ พี่น้องตระกูลกริมม์ ที่เข้าไปนั่งในใจใครหลายคนอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ถือเป็นการบุกเบิกตำนานเจ้าหญิงหิมะขาวครั้งแรกในโลกฮอลลีวู้ด ก่อนที่จะกลายไปเป็นภาพยนตร์คนแสดงจริง, ละครเวที หลายต่อหลายเวอร์ชั่น ....สโนว์ไวท์กลายเป็นไอดอลของวัยรุ่นสาวๆชาวอเมริกัน ที่อยากจะพบเจ้าชายขี่ม้าขาวมาจุมพิตและอยู่ด้วยกันชั่วนิจนิรันดร์ ด้วยเรื่องราวสุดแสนโรแมนติกและตื่นเต้น เกี่ยวกับเจ้าหญิงองค์น้อยผู้เลอโฉม ที่อาศัยอยู่กับราชินีแม่เลี้ยงใจร้ายที่อิจฉาริษยาความงามของเธอยิ่งนัก ครั้นเมื่อกระจกวิเศษยืนยันว่า หญิงที่งามเลิศที่สุดในปฐพีคือ สโนว์ไวท์ นางก็เกิดความกริ้วและต้องการจะกำจัดสโนว์ไวท์ให้เร็วที่สุด จนกระทั่งสโนว์ไวท์หนีเข้าไปในป่าลึก และได้พบกับ...คนแคระทั้ง 7 เพื่อนตัวจิ๋วที่ให้ที่พักพิงอาศัยแก่เธอ และให้ความช่วยเหลือเธอ ความโชคร้ายมาเยือนเธออีกครั้ง เมื่อราชินีพบว่าสโนว์ไวท์ยังมีชีวิตอยู่ นางก็เลยออกมาตามหาสโนว์ไวท์เองด้วยการปลอมตัวเป็นแม่มดและให้เธอกินแอปเปิ้ลอาบยาพิษ จนในที่สุดสาวน้อยหิมะขาวของเราก็สลบสไลไม่ได้สติ ทางเดียวที่จะช่วยให้เธอฟื้นขึ้นมาก็คือ จุมพิตจากรักแท้ของเจ้าชายรูปงาม .....หนังถือเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่ติดอันดับภาพยนตร์อเมริกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 100 เรื่องด้วย นับเป็นต้นกำเนิดแห่งโลกการ์ตูน วอลต์ ดิสนี่ย์ ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก แม้เด็กรุ่นใหม่ในช่วงยุคนี้ก็ตาม ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:36:25

ความคิดเห็นที่ 2 PINOCCHIO (1940) พิน็อคคิโอ เรื่องต่อมาของดิสนี่ย์ มาเอาใจกลุ่มนักดูหนังที่เป็นเด็กผู้ชายกันบ้าง เพราะเรื่องนี้แทบจะไม่มีแคแรกเตอร์ที่เป็นผู้หญิงโผล่มาเลย นอกจากนางฟ้าแสนกลคนงามของเรื่องเท่านั้น หนังดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนอิตาเลียนของ "คาร์โล คอลโลดิ" ว่าด้วยเรื่องราวราวหุ่นไม้ที่วันหนึ่งเกิดได้พรจากนางฟ้าให้กลายเป็นหุ่นที่มีชีวิต เคลื่อนไหวได้ตามใจต้องการ เขาอาศัยอยู่กับพ่อผู้ยากจนนามว่า เจ็พเพ็ตโต จริงๆแล้วพินอคคิโอก็มีนิสัยเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ก็คือรักสนุก เกเรบ้างเป็นบางครั้ง ยังไม่รู้อะไรถูกผิด แต่นั่นจะเป็นหนทางที่จะพิสูจน์ว่าเขาจะสามารถกลายเป็นเด็กจริงๆได้หรือไม่ ซึ่งเขาจะต้องไม่โกหก และเป็นเด็กดี ....เรียกว่าเป็นการ์ตูนที่เอาไว้สอนลูกหลานกันได้ดีทีเดียว ตอนเด็กๆใครก็คงได้ยินพ่อแม่บอกว่า "อย่าโกหกนะ ไม่งั้นจมูกจะยาวขึ้น" ...นั่นก็มาจากการ์ตูนเรื่องนี้นี่แหละ หนังการ์ตูนเรื่องนี้ถือว่ามาพร้อมฟีลที่ดาร์คพอสมควร เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสอนเด็กนิสัยไม่ดี ให้กลายเป็นเด็กดี ด้วยการให้เขาได้รับผลกรรมทันตาอะไรบางอย่าง ณ ขณะนั้น เราจะได้เห็นเด็กซนทั้งหลายกลายเป็นลา เป็นม้าในเรื่องนี้แบบทำเอาเด็กๆหลายคนที่ดู กลัวกันไปเลย ....และยังถือเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังคนแสดงจริงหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังหาเวอร์ชั่นไหนเทียบเทียมเวอร์ชั่นการ์ตูนได้.... จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:37:07

ความคิดเห็นที่ 3 FANTASIA (1940) แฟนเทเซีย ดิสนี่ย์ขอเปลี่ยนแนวนิดหน่อย มาขายตัวการ์ตูนต้นกำเนิดแห่งสาระบบหนังการ์ตูนของค่ายอย่าง มิกกี้ เมาส์ ที่จะมาในมาดการ์ตูนแอนิเมชั่นประกอบดนตรีคลาสสิค ที่ไม่มีบทพูด มีเพียงเสียงบรรยายเท่านั้น โดยหนังจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 8 ส่วนหลักๆ ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะโชว์งานด้านการวาดภาพสุดวิจิตรอลังการ รวมทั้งเพลงประกอบที่ไพเราะเสนาะหูชวนเคลิบเคลิ้ม เรื่องนี้ถือเป็นงานหินของดิสนี่ย์เลยก็ว่าได้ เพราะใช้เวลาการสร้างสรรค์กว่า 2 ปี ด้วยงบประมาณที่มากพอสมควรในขณะนั้น (2.28 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ) และโชคร้ายพอสมควร ที่หนังก็ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ในช่วงเวลานั้น ทำให้ดิสนี่ย์รู้ว่าหนังการ์ตูนเพลงอาจจะไม่เหมาะกับกลุ่มคนดูหลักก็อาจจะเป็นได้ .....ภาพยนตร์สั้น 8 ตอนที่ถูกบรรจุอยู่ในหนัง ประกอบไปด้วย Toccata And Fugue In D Minor, Nutcracker Suite, The Sorcerer's Apprentice, The Rite of Spring, Intermission / Meet The Soundtrack, The Pastoral Symphony, Dance of The Hours และ Night on Bald Mountain / Ave Maria .... จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:37:33

ความคิดเห็นที่ 4 DUMBO (1941) ดัมโบ้ เรื่องที่ 4 ได้เวลาดิสนี่ย์จับเอาแคแรกเตอร์สัตว์น้อยน่ารัก ที่เป็นสัญลักษณ์ของบ้านเกิดเมืองนอนเราด้วย นั่นก็คือเจ้าช้างหูกางใหญ่นั่นเอง เรื่องนี้ถือเป็นงานที่ประสบความสำเร็จสุดตัวในช่วงนั้นของดิสนี่ย์ในการทำหนังการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคำวิจารณ์ รางวัล และรายได้ เรียกว่ากอบโกยกันกลับมาแบบเหนือความคาดหมาย และความโชคดีก็อยู่ตรงที่เรื่องนี้เป็นหนังการ์ตูนทุนต่ำ เพราะอยู่ในช่วงที่ดิสนี่ย์กำลังประสบปัญหาการเงิน แต่ก็สามารถสร้างเซอร์ไพรส์และทำให้ดิสนี่ย์รอดพ้นวิกฤตินั้นมาได้อย่างสวยงาม ...ดัมโบ้ ช้างน้อยเพื่อนรักสร้างมาจากหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็ก เล่าเรื่องราวของลูกช้างที่เพิ่งลืมตาดูโลกในคณะละครสัตว์ ที่ถูกพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาไม่ได้รับการยอมรับจากช้างตัวอื่นในฝูง เพื่อนเพียงรายเดียวของเขาก็คือหนูตัวจิ๊ดที่ชื่อ ทิโมที่ คิว เมาส์ และต่อมาเขาก็ค้นพบพรสวรรค์ในตัวเอง นั่นก็คือการที่เขาสามารถใช้หูอันใหญ่ยักษ์กระพือแทนปีกและบินได้ !!! จากนั้นไม่นานเขาก็กลายเป็นดาวดังแห่งคณะละครสัตว์ไปในที่สุด ...หลายคนเสียน้ำตาให้เรื่องนี้มาแล้ว เพราะมันจะเล่าเรื่องราวถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกด้วยส่วนหนึ่ง ที่ทำออกมาได้น่าประทับใจเสียจริง !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:38:07

ความคิดเห็นที่ 5 BAMBI (1942) กวางน้อย...แบมบี้ ดูท่าดิสนี่ย์จะยังติดใจในการเล่าเรื่องราวของสัตว์โลกเพื่อนรักกันต่อ หนังเรื่องต่อมาก็เลยเกี่ยวกับเจ้ากวางน้อย และเป็นเรื่องราวที่เน้นความเป็นอยู่ของชีวิตสัตว์ป่าที่ดิสนี่ย์ไม่เคยนำเสนอ เราจึงได้เห็นทั้งสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมาย ที่ออกมาวาดลวดลายความซนให้เราได้ยิ้มกันจนแก้มปริ แต่ก็ยังมีซีนดราม่าที่ทำให้น้ำตาแตกได้ไม่ยาก... หนังดัดแปลงมาจากนิยายที่ชื่อ Bambi, A Life In The Woods ของนักประพันธ์ชาวออสเตรีย เฟลิซ์ ซัลเท่น โดยจะเล่าเรื่องถึงกวางตัวน้อยที่ชื่อ แบมบี้ ที่ถือกำเนิดมาในป่าใหญ่ท่ามกลางความยินดีของสัตว์ต่างๆ และเขาก็ได้ออกเรียนรู้การใช้ชีวิตจากวัยเยาว์ จวบจนกลายเป็นวัยรุ่น โดยมีลุงฮูกคอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำเขาอยู่เสมอ หนังประสบความสำเร็จพอตัวเมื่อตอนเข้าฉาย ...และมีภาคต่อออกมาเป็นหนังแผ่นด้วยในปี 2006 !! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:38:40

ความคิดเห็นที่ 6 SALUDOS AMIGOS (1942) การ์ตูนขนาดยาวหมายเลข 6 ของดิสนี่ย์ ที่เรื่องนี้ วอลต์ ดิสนี่ย์ ได้ดึงเอาแคแรกเตอร์รุ่นบุกเบิกอย่าง โดนัลด์ ดั๊กและ กูฟฟี่ มาฟีทเจอริ่งกัน กับบรรยากาศละตินอเมริกา พร้อมด้วยเสียงเพลงเคล้าตลอดเรื่อง ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกันได้อย่างแน่นอน หนังแบ่งเป็นตอนสั้นๆรวมกันอยู่ถึง 4 ตอน ประกอบไปด้วย Lake Titicaca ที่ว่าด้วยการเดินทางท่องเที่ยวของโดนัลด์ ดั๊กไปยังทะเลสาปทิทิคาคา, Pedro เป็นตอนที่แคแรกเตอร์เจ้าของชื่อเรื่องซึ่งก็คือเจ้าเครื่องบินลำจิ๋ว จากประเทศชิลี ออกผจญภัยไฟลท์แรกและพบกับเรื่องราววุ่นวาย, El Gaucho Goofy ตอนนี้เจ้าตูบจอมป่วน กูฟี่ จะได้เป็นคาวบอยเลี้ยงม้าในอาร์เจนติน่าและตอนสุดท้าย Aquarela Do Brasil ตอนนี้จะคุณไปพบกับแคแรกเตอร์ที่ชื่อว่า โจเซ๋ คาริโอก้าที่ได้ไปฟีทเจอริ่งกับโดนัลด์ ดั๊กในการเดินทางรอบอเมริกาใต้ ...เป็นการ์ตูนที่ถ้าใครอยากจะเรียนรู้ภูมิทัศน์และภูมิประเทศของอเมริกาใต้ ก็จะได้ความรู้กันบ้างแหละ !!! อีกหนึ่งหนังที่ประสบความสำเร็จแบบเหนือความคาดหมาย และได้รับเสียงชมไม่น้อย ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:39:10

ความคิดเห็นที่ 7 THE THREE CABALLEROS (1944) จากความสำเร็จของหนังเรื่องบน มาเรื่องที่เจ็ด ก็เลยสานต่อปณิธานในการทำการ์ตูนเน้นบรรยากาศอเมริกาใต้กันต่อ แต่คราวนี้จะได้แคแรกเตอร์นำของเรื่องเป็นโดนัลด์ ดั๊กแล้วก็เพื่อนนกแก้วของเขาจากหนังเรื่อง SALUDOS AMIGOS นี่แหละ...โดยหนังเปิดเรื่องการผจญภัยตรงที่เจ้าเป็ดโดนัลด์ได้รับกล่องของขวัญจากเพื่อนซี้ของเขา พอเปิดออกมามันก็เป็นแผ่นฟิล์มภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องราวการผจญภัยของ The Three Caballeros รวมทั้งสิ้น 7 ตอนสั้นๆ ประกอบไปด้วย The Cold-Blooded Penguin, The Flying Gauchito, Baia, LAs Posadas, Mexico-Patzcuaro, Veracruz And Acapulco, You Belong To My Heart และ Donald's Surreal ซึ่งตลอดระยะเวลาของหนัง ผู้ชมจะได้ผจญภัยไปยังภูมิประเทศต่างๆ รวมทั้งมีเรื่องราวขำขันเกิดขึ้นตลอดเวลา เคล้าคลอไปด้วยบทเพลงพื้นเมืองแสนไพเราะ อ้อแล้วบอกด้วยว่าหนังเรื่องนี้เป็นการผสมผสานระหว่างคนแสดงจริงกับการ์ตูนเอาไว้ด้วย เป็นเทคนิคที่แปลกตามากในช่วงเวลานั้น บอกเลยว่าเป็นหนังโปรดของเจ้าของกระมู้ด้วยหล่ะ กิกิ แต่แอบเป็น Rare Item ในช่วงเวลานี้ซะหน่อย เพราะจนป่านนี้ยังหาเวอร์ชั่นซับไทยไม่ได้เลย !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:40:05

ความคิดเห็นที่ 8 THE ADVENTURES OF ICHABOD AND MR.TOAD (1949) นิทานนายโท้ดจอมซนกับอิคาบอดคนพิลึก การ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อยาวเรื่องนี้ ถือเป็นอีกครั้งที่ดิสนี่ย์ได้สร้างสรรค์แคแรกเตอร์ใหม่ๆ และแม้จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางด้านเม็ดเงินเท่าที่ควร แต่หนังก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกพอตัว โดยหนังเองถือว่าอยู่ในชุดเดียวกับ The Three Coballeros และ Saludos Amigos ที่ก็เป็นที่พูดถึงในระยะยาวเช่นเดียวกัน เรื่องราวก็จะแบ่งออกเป็นสองตอนสั้น นั่นก็คือ The Wind And The Willows และ The Legend of Sleepy Hallow ซึ่งเนื้อหาเป็นยังไงจำไม่ได้แล้ว ต้องย้อนกลับไปหามาดูกันใหม่ อ้อ เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยมด้วย และก็คว้ารางวัลไปในที่สุด !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:41:00

ความคิดเห็นที่ 9 CINDERELLA (1950) ซินเดอเรลล่า เข้าสู่ยุค 50 ดิสนี่ย์ก็ได้เวลากลับมาทำการ์ตูนแอนิเมชั่นเน้นเรื่องราวความเพ้อฝัน เจ้าหญิงเจ้าชายกันอีกครั้ง หลังร้างลามือไปนาน โดยเริ่มที่หนังเจ้าหญิงรองเท้าแก้วและราชรถฟักทองเรื่องนี้ ที่กลายเป็นต้นกำเนิดแห่งเวอร์ชั่นรีเมคหลายต่อหลายเรื่อง ซินเดอเรลล่า ถือเป็นตัวแทนของสาววัยรุ่นที่มีความฝันในการปรารถนาได้สิ่งที่สวยงามมาไว้ในครอบครอง ประกอบกับการที่เธอเป็นคนดี นางฟ้าย่อมเห็นความดีของเธอและมอบสิ่งที่เธอปรารถนาให้ จากสาวใช้เด็กกำพร้าที่อยู่นอกสายตา ก็ได้กลายมาเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ที่ได้ครองคู่กับเจ้าชายและอยู่กันอย่างสงบสุขชั่วนิรันดร์ โดยในเรื่องนี้อุปสรรคเดียวของเธอก็คือ การต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแม่เลี้ยงใจร้ายและพี่เลี้ยงสุดแสนจะร้ายกาจของเธอ ซึ่งหนังก็ทำให้เราเห็นความแตกต่างระหว่างความดี ความชั่ว ชัดเจน !!! ช่วงตอนที่หนังถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะหนังเองเป็นเจ้าของเพลงประกอบสุดฮิตและไพเพราะที่ได้ยินกันมาจนทุกวันนี้ รวมทั้งหนังเองก็ได้ต่อยอดของตัวเอง โดยมีภาคต่อออกมาสองภาค ในปี 2002 และ 2007 แต่ความสนุกภาคหนึ่งก็ยังชนะเลิศ ถือว่าเป็นต้นตำนานสุดคลาสสิคที่ทำให้นิยายต้นฉบับถูกลืมพูดถึงไปเลย เพราะคนพูดถึงเวอร์ชั่นการ์ตูนนี้มากกว่า !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:41:30

ความคิดเห็นที่ 10 ALICE IN WONDERLAND (1951) อลิซ ผจญภัยแดนมหัศจรรย์ ต้นฉบับของจริงนั้นเป็นนิยายของลูอิส แคโรลล์ที่โดยเนื้อหานั้น หม่น ดาร์ค หนักและไม่เหมาะกับเด็กๆโดยสิ้นเชิง แต่ดิสนี่ย์สามารถนำมันมาดัดแปลงให้กลายเป็นเรื่องราวชวนฝันได้ แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยแคแรกเตอร์พิลึกกึกกือ ที่เด็กๆอาจจะดูแล้วงง ว่ามันคืออะไรยังไง หนังว่าด้วยเรื่องราวของสาวน้อยคนหนึ่งที่เดินทางหลุดเข้าไปในโพรงกระต่ายลึก และก็ไปพบกับโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยตัวประหลาดมากมาย และก็จับพลัดจับผลูเข้าไปในเกมของราชินีแดง !!! ถือเป็นการ์ตูนที่ดูยากสำหรับเด็กๆ แต่ในโลกของภาพยนตร์แล้ว หนังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนได้สร้างออกมาอีกหลายเวอร์ชั่น เรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหนังของดิสนี่ย์ตามรอย Snow White, Bambi, Dumbo และ Pinocchio ด้วยที่ขึ้นแท่นคลาสสิค ไม่มีหนังแผ่นภาคต่อออกมาหลังจากนั้น !!! ... จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:43:04

ความคิดเห็นที่ 11 PETER PAN (1953) ปีเตอร์แพน เรียกได้ว่า เด็กๆคนไหนดูเรื่องนี้จบแล้ว จะต้องร้องขอให้พ่อแม่พาไปแวะดินแดนเนฟเวอร์แลนด์กันเป็นแถวแถบอย่างแน่นอน เพราะหนังเล่นเป็นไอดอลสำหรับเด็กๆในการเปิดจินตนาการของเด็กที่ไม่อยากโตกันแบบชัดเจน ได้อยู่ในโลกที่เล่นสนุกได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องมีผู้ใหญ่มาคอยนั่งว่า แถมยังได้ผจญภัยไปพบกับเรื่องราวต่างๆนานาที่สุดตื่นเต้นเร้าใจ และแน่นอน การที่จะต้องเอาชนะกัปตันฮุคได้ ถือเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเด็กๆหลายคน ....เจ้าของกระมู้ในวัยนั้นก็มีความคิดและความต้องการไม่ต่างกับปีเตอร์แพนเช่นเดียวกัน !!! หนังถือว่าประสบความสำเร็จมากเมื่อตอนออกฉาย จากทุนสร้าง 4 ล้านดอลล่าร์ แต่กวาดเข้ากระเป๋าไป 87 ล้านดอลล่าร์ ถือว่าไม่ธรรมดา ...ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดสำหรับที่มาของปีเตอร์แพน ก็คือตัวละครที่สร้างขึ้นโดยนักประพันธ์ชาวสก็อตที่ชื่อว่า เจเอ็ม แบร์รี่ ที่เราคุ้นหูกันอยู่บ่อยๆน่ะแหละ ... แล้วก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในนวนิยายหลังจากนั้น ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นหนัง เป็นละครเวที และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:43:36

ความคิดเห็นที่ 12 LADY AND THE TRAMP (1955) ทรามวัยกับไอ้ตูบ ถือเป็นไอเดียที่บรรเจิดไม่น้อย สำหรับการสร้างหนังการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะถือเป็นการ์ตูนแนวโรแมนติคระหว่างสัตว์โลกแสนรู้ของมนุษย์เรื่องที่ขายแคแรกเตอร์เจ้าตูบที่ปิ๊งกัน และได้สร้างความสัมพันธ์แสนหวานให้คุณผู้ชมประทับใจไม่รู้ลืม เนื้อหาของเรื่องก็เป็นอะไรที่ชวนฝันเอาซะมากๆ เกี่ยวกับความรักต่างชนชั้นของหมาสองพันธ์ที่ฝ่ายหญิงเป็นถึง สุนัขพันธ์ค็อกเกอร์สแปเนียลผู้สูงศักดิ์ ส่วนฝ่ายชายเป็นเพียงแค่สุนัขจรจัดผู้รักเดียวใจเดียว มีหัวใจดุจทองคำ การที่ทั้งคู่มาตกหลุมรักมันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม แต่เมื่อมันเป็นไปแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็นไป และทำในสิ่งที่ใจต้องการ หนังยังมีแคแรกเตอร์เจ้าตูบ เจ้าเหมียวรายอื่น ที่มาสร้างสีสันให้กับหนังกันเต็มที่ ...รวมทั้งยังมีเพลงประกอบที่สุดแสนไพเราะฟังเมื่อไหร่ก็เคลิ้มเมื่อนั้น ใครยังจำฉากกินสปาร์เก็ตตี้ได้บ้าง ฉากนั้นแหละที่ทำให้เราหลงรักหนังเรื่องนี้ การ์ตูนอะไรไม่รู้ ไม่มีคนเล่น แต่โรแมนติ๊กกก โรแมนติกสุดๆ !!!~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:44:12

ความคิดเห็นที่ 13 SLEEPING BEAUTY (1959) เจ้าหญิงนิทรา สุดยอดการ์ตูนแอนิเมชั่นในดวงใจใครหลายคน ที่สร้างมาจากเทพนิยายโบราณของฝรั่งเศสที่ชื่อ La Belle Au Bois Dormant ครั้นพอดิสนี่ย์หยิบมาสร้างใหม่เป็นการ์ตูน ก็ทำออกมาได้ลงตัว สนุกสนาน ชวนฝัน เคลิบเคลิ้มและตื่นเต้นไปในเวลาเดียวกัน ถือเป็นหนังที่เกี่ยวกับเจ้าหญิงที่มีชะตากรรมคล้ายๆกับ สโนว์ไวท์ เพราะเธอก็รอคอยเจ้าชายขี่ม้าขาวมาจุมพิตเธอให้ตื่นจากการหลับใหลเช่นเดียวกัน เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงผู้เลอโฉมนามว่า ออโรร่า ที่ถูกแม่มดใจร้ายสาปเอาไว้ว่า เมื่อช่วงเวลาที่เธอย่างก้าวสู่วัยรุ่น เธอจะต้องมีอันเป็นไป และเมื่อเธอเติบใหญ่ คำสาปนั้นก็เป็นจริง เมื่อเธอเผลอไปโดนพิษอาบเข็มปั่นด้าย ..ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา และเมืองที่เคยสงบสุขก็ลุกเป็นไฟ รอเพียงเจ้าชายรูปงามที่จะมาช่วยชีวิตเธอ ....ในอเมริกาหนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากๆ แต่กับเรื่องรายได้ก็ออกมาในระดับที่ดี แต่ไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์อะไรเท่าไหร่ ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:45:01

ความคิดเห็นที่ 14 101 DALMATIANS (1961) ทรามวัยกับไอ้ด่าง มีทรามวัยกับไอ้ตูบแล้ว ทำไมจะมีทรามวัยกับไอ้ด่างบ้างไม่ได้ เพราะเรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่เนื้อหาจะวนเวียนว่ายอยู่กับเจ้าตูบ และถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของหนังการ์ตูนเลยทีเดียว ที่จะมีแคแรกเตอร์เจ้าตูบมาป้วนเปี้ยนอยู่ในจอเป็นจำนวนถึง 101 ตัว แค่คิดก็เหนื่อยแทนคนวาดแล้ว !!! หนังดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันของ โดดี้ สมิธ เล่าเรื่องของคู่ตูบสามีภรรยา พองโก้และเพอร์ดิต้า ที่แต่งงานและมีเจ้าตัวน้อยออกมา 101 ตัว !!! เป็นครอบครัวดัลเมเชี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่แล้วโชคร้ายก็มาเยือนพวกเขา เมื่อวายร้ายอย่างครูเอลล่า เดวิล ต้องการที่จะขโมยเจ้าตูบทั้งหมด เอาไปทำเป็นเสื้อขนสัตว์ !!! และเมื่อลูกๆของพองโก้และเพอร์ดิต้า ถูกลักพาตัวไป พวกเขาจึงออกตามหา !!! เป็นเรื่องราวการผจญภัยแสนสนุก และลุ้นตลอดทาง โดยหนังเองก็ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้อย่างมหาศาลด้วย จนมีภาคต่อในรูปแบบหนังแผ่นออกมาหลังจากนั้น ในปี 2003 ในชื่อ 101 Dalmatians ll : Patch's London Adventure !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:45:57

ความคิดเห็นที่ 15 THE SWORD IN THE STONE (1963) อภินิหารดาบกู้แผ่นดิน ชมงานที่อยู่ในโลกยุคปัจจุบันกันมาเยอะ มาดูงานย้อนยุคเน้นเรื่องราวแฟนตาซีกันบ้างดีกว่า กับการ์ตูนแอนิเมชั่นเบอร์ 18 ของค่ายเรื่องนี้ !!! ที่สร้างมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันเมื่อปี 1938 และดูเหมือนจะเป็นการ์ตูนดิสนี่ย์ที่ปัจจุบันจะหาดูยากมากเรื่องนึง (รึป่าวหว่า ส่วนตัวก็ยังหาดูไม่ได้เล้ยยยยย) เรื่องราวแฟนตาซีของหนังจะเน้นบรรยากาศยุคอัศวิน ยุคที่กษัตริย์อาเธอร์เรืองอำนาจ เล่าผ่านตัวละครชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีความฝันในใจว่า เขาอยากจะเป็นผู้ที่ชักดาบทองวิเศษที่ฝังอยู่ในหินก้อนใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถดึงออกมาได้ ...และมันก็เป็นเรื่องราวการผจญภัยสุดตื่นเต้นตลอดเรื่อง รวมทั้งการเผชิญหน้ากับพ่อมดเมอร์ลินในตำนาน !! เหตุผลที่หนังไม่ค่อยเป็นที่พูดถึง ก็เพราะว่าเมื่อตอนออกฉายผลลัพธ์ก็ไม่ได้มาพร้อมแง่บวกสักเท่าไหร่เช่นกัน ~ แต่ก็ถือเป็นงานแอนิเมชั่นฉีกฟอร์มของดิสนี่ย์ ที่ดูกันได้ทุกเพศทุกวัย และก็สนุกในระดับหนึ่งเลยล่ะ !! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:46:48

ความคิดเห็นที่ 16 THE JUNGLE BOOK (1967) เมาคลี ลูกหมาป่า การ์ตูนแอนิเมชั่นที่ดิสนี่ย์หยิบเอานวนิยายชื่อดังมากๆ ในชื่อเดียวกันของ รัดยาร์ด คิพลิ่ง มาสร้างเป็นเวอร์ชั่นที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี กับเรื่องราวที่เราได้ยินกันมาตั้งแต่เล็กๆในชั่วโมงลูกเสือ เพราะว่าเล่าเรื่องราวของ เมาคลี เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ถูกพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาเอามาทิ้งไว้ในป่า และถูกเลี้ยงดูโดยแม่หมาป่า และเมื่อเมาคลีโตขึ้น บากีร่า เสือดาวที่พบเขาแต่แบเบาะพร้อมกับครอบครัวหมาป่า ตัดสินใจส่งเมาคลีคืนสู่บ้านมนุษย์ เพราะเชียร์คาห์น เสือโคร่งกินคนกำลังเดินทางกลับสู่ป่าใหญ่ ทุกฝ่ายเกรงว่าเมาคลีจะตกเป็นเหยื่อของมัน บากีร่าอาสาที่จะพาเมาคลีกลับคืนสู่บ้านที่แท้จริง แม้ว่าเมาคลีจะคัดค้านคำตัดสินใจจากเพื่อนชาวป่าของเขา เพราะป่าคือบ้านหลังเดียวที่เขารู้จัก รวมทั้งเขามีเพื่อนๆที่น่ารักอยู่ที่นี่ ระหว่างการเดินทาง เมาคลีจะต้องพบกับการผจญภัยสุดตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับงูยักษ์จอมเขมือบและอันตรายต่างๆอีกมากมาย !!!! ...เป็นเรื่องราวความผูกพันระหว่างหนุ่มน้อยชาวป่าและเพื่อนสัตว์ป่าทั้งหลายของเขา ที่เรียกน้ำตาคนดูได้ไม่ยากเลย !! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:47:29

ความคิดเห็นที่ 17 THE ARISTOCATS (1970) แมวเหมียวพเนจร การ์ตูนแอนิเมชั่นหมายเลข 20 ของดิสนี่ย์ ที่ขอมาโฟกัสชีวิตของเจ้าแมวเหมียวกันบ้าง หลังจากสร้างสรรค์หนังสัตว์มาหลายชนิดแล้ว !!!  โดยหนังสร้างมาจากต้นฉบับของ ทอม แมกโกแวนและทอม โรว์ เล่าเรื่องราวของเศรษฐินีคนหนึ่งที่ได้ยกทรัพย์สินให้บรรดาแมวเหมียวสุดที่รักของเธอ เป็นเหตุทำให้พ่อบ้านจอมละโมบคิดแผนการร้าย โดยการนำแมวเหมียวทั้งหลายไปปล่อยไว้ที่ชนบทแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส เพื่อเขาจะได้เป็นผู้รับมรดกนี้ และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของครอบครัวเจ้าเหมียวน่ารัก ร่วมด้วยผู้นำกลุ่มลูกแมวน้อยแสนซนทั้งสาม ...ทั้งหมดเดินทางผจญภัยสู่ปารีสบ้านอันอบอุ่น โดยได้รับความช่วยเหลือจากแมวหนุ่มเจ้าถิ่น ที่แสนเก่งกาจ --- รับรองได้เลยว่าใครที่เป็นคนรักแมวเหมียว จะต้องชอบหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะแมวเหมียวน่ารักมากหน้าหลายตา จะจัดหนักมาให้คุณได้ประทับใจกันแบบเต็มเหนี่ยวไปเลย ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:48:34

ความคิดเห็นที่ 18 ROBIN HOOD (1973) โรบิน ฮู้ด ใครๆก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเขาคนนี้ โรบิน ฮู้ด จอมโจรที่ปล้นคนรวยเพื่อช่วยเหลือคนจน พอมากลายเป็นเวอร์ชั่นการ์ตูนของดิสนี่ย์ ก็ทำให้สนุกและเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยมีแคแรกเตอร์นำเป็นคุณจิ้งจอกผู้พิทักษ์ ผู้ทำหน้าที่เดินเรื่องราวและนำความสงบสุขมาสู่อาณาจักรป่าเชอร์วู้ดของพวกเขา โรบิน ฮู้ด มีสหายสุดที่รักที่เป็นเพื่อนซี้ที่สุดของเขานามว่า ลิตเติ้ล จอห์น ที่ทั้งหมดออกเดินทางผจญภัยเพื่อปราบปรามเหล่าวายร้าย ท่ามกลางเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม พร้อมด้วยบทเพลงอันแสนไพเราะ เสียงหัวเราะ และความสนุกสนาน ที่นำรอยยิ้มมาสู่ผู้ชมทุกคน นี่ถือเป็นอีกหนึ่งการ์ตูนดิสนี่ย์ที่ไม่ควรพลาด --- หนังเป็นผลงานเรื่องที่ 21 ของวอลต์ ดิสนี่ย์ แต่ในปัจจุบันนี้เป็นที่พูดถึงน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับหนังการ์ตูนเรื่องอื่นๆได้ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:49:19

ความคิดเห็นที่ 19 THE MANY ADVENTURES OF WINNIE THE POOH (1977) วินนี่ เดอะ พูห์ พาเหล่าคู่หูตะลุยป่า และแล้วก็มาถึงแคแรกเตอร์อีกหนึ่งลายเซ็นต์สำคัญของวอลต์ ดิสนี่ย์ ที่เป็นความคลาสสิค ไม่ว่าจะผ่านมากี่รุ่นต่อกี่รุ่น แคแรกเตอร์ตัวนี้ก็ยังอยู่ในใจคุณผู้ชมตลอดกาล แม้กระทั่งเด็กรุ่นใหม่ เขาก็คือ วินนี่ย์ เดอะ พูห์ หรือหมีพูห์ หมีตัวส้ม (หรือตัวเหลือง?) แห่งป่าร้อยเอเคอร์ ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ และไมตรีจิต ที่ไม่ว่าใครก็อยากเป็นเพื่อนกับเขา เขามีเพื่อนซี้เป็นเจ้าหมูพิกเล็ต, ลาอียอร์, เจ้าเสือทิกเกอร์และเพื่อนซี้ที่เป็นมนุษย์นามว่า คริสโตเฟอร์ โรบิน ผู้ที่จุดประกายให้เรื่องราวทั้งหมดที่แสนสนุกสนานในป่าร้อยเอเคอร์เริ่มต้นขึ้น ในเวอร์ชั่นหนังจอใหญ่ขนาดยาวเรื่องนี้ จะตามติดเร่องราวสุดสนุกสนานของพวกเขากับการผจญภัยครั้งสำคัญที่ไม่ว่าใครดูแล้วก็จะต้องประทับใจ โดยจะแบ่งเรื่องราวเป็น 4 ตอนใหญ่ๆ ประกอบไปด้วย Winnie The Pooh and The Honey Tree, Winnie The Pooh And The Blustery Day, Winne The Pooh And The Tigger Too และ We Say Good-Bye แล้วคุณจะค้นพบว่าเหตุใดเจ้าหมีใจดีตัวนี้ ถึงเป็นขวัญใจของมหาชนคนรักพูห์ทั่วโลกกกกกกก !!!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:49:51

ความคิดเห็นที่ 20 THE RESCUERS (1977) หนูหริ่งหนูหรั่งผจญผจญเพชรตาปีศาจ เดินทางมาถึงแอนิเมชั่นหมายเลข 23 ของวอลต์ ดิสนี่ย์ ขอเปลี่ยนแนวมาเป็นแนวตื่นเต้น ลุ้นกับการผจญภัยกันสักเล็กน้อย กับแอนิเมชั่นที่น้อยคนนักจะรู้ว่านี่ก็เป็นหนึ่งในผลงานของวอลต์ ดิสนี่ย์ ....กับเรื่องราวการผจญภัยของเจ้าหนูหริ่งหนูหรั่ง เจ้าของชื่อเรื่อง ที่เป็นผู้กล้าคู่หูผู้มุ่งหน้าสู่บึงมหาภัยเพื่อช่วยเหลือเพนนี เด็กหญิงกำพร้าที่หายตัวไป !!! ความตื่นเต้นนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อจดหมายจอความช่วยเหลือของเพนนีร่อนมาสู่มือของเบอร์นาร์ด หนูหริ่งขี้อายแต่เต็มเปี่ยมด้วยเชาว์ปัญญาและมิสเบียงก้า หนูหรั่งผู้น่ารักคู่หูของเขา ด้วยเกียรติอันเป็นประกันของสมาคมกู้ภัยที่ทั้งสองเป็นสมาชิกอยู่ พวกเขาเร่งรุดเพื่อช่วยเหลือเพนนีจากเงื้อมมือของมาดามเมดูซ่า และใช้พรสวรรค์ของแมลงปอลูกทุ่งค้นหาเรือล่องแม่น้ำที่นางมารร้ายซ่อนอยู่ ---- หนังนำพาผู้ชมไปพบกับปริศนาและเรื่องราวตื่นเต้นตลอดการเดินทาง แม้จะไม่เน้นบรรยากาศเดิมๆที่ดิสนี่ย์เคยเน้น แต่ก็เป็นแอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ฉีกแนว แต่ก็ยังอยู่สนุกสนานอยู่เต็มที่ ....ในปี 1990 หนังมีภาคต่อในชื่อ The Rescuers Down Under ที่ก็ยังดูสนุกเช่นเคย แต่อาจจะไม่เท่าภาคแรก ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:50:32

ความคิดเห็นที่ 21 THE FOX AND THE HOUND (1981) เพื่อนแท้ในป่าใหญ่ อีกหนึ่งแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จใช้ได้ของวอลต์ ดิสนี่ย์ ที่กลับไปโฟกัสเรื่องราวความสนุกสนานกันในป่าไม้และธรรมชาติอีกครั้ง หนังสร้างมาจากนิยายคลาสสิคในชื่อเดียวกัน ที่พูดถึงเรื่องราวแห่งมิตรภาพและการผจญภัยที่แสนประทับใจ !!! ผ่านแคแรกเตอร์ของเพื่อนรักสองเผ่าที่รักกันมากกกกก ทั้งๆที่ควรจะเป็นศัตรูกันตามสายพันธ์ของบรรพบุรุษ โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อม่ายชรารับเลี้ยงลูกสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ท็อด แล้วเจ้าจิ้งจอกน้อยแสนซนตัวนี้ก็ได้พบเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า คอปเปอร์ ผู้มีสายพันธ์เป็นสุนัขล่าเนื้อ ซึ่งหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เติบใหญ่มาด้วยกันในป่าแห่งนั้น เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เวลานั้น และไม่มีอะไรมาพรากเขาทั้งคู่ออกจากกันได้ แต่แล้วไม่นานมิตรภาพของทั้งสองก็ถูกทดสอบครั้งสำคัญ !!! เป็นที่มาของเรื่องราวที่เป็นจุดหักเหหลังจากนั้น และอาจจะเรียกน้ำตาของผู้ชมได้ง่ายๆ....หนังมีภาคต่อเป็น Home Entertainment ตามทมาในช่วงปี 2006 ในชื่อ The Fox And The Hound 2 ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:51:37

ความคิดเห็นที่ 22 THE BLACK CAUDRON (1985) พักยาวมา 4 ปี ต่อกันที่เรื่องนี้ ที่ฉีกแนวมาทำงานแฟนตาซีเอาใจคอหนังที่ต้องการเห็นเทคนิคหวือหวากันบ้าง นี่ถือเป็นหนัง Rare Item ของดิสนี่ย์ก็ว่าได้ ที่บ้านเราเชื่อว่าคอหนังบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีหนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเครดิตของงานวาดมือดิสนี่ย์ในช่วงแรกๆด้วย เพราะว่าหายากมากกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด ส่วนตัวเจ้าของกระมู้ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของมันมาก่อนเช่นกัน --- เรื่องราวของหนังก็ชวนตื่นเต้นใช้ได้ เพราะเล่าเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ ทาแรน ที่ต้องเดินทางเสาะหาวัตถุทรงพลังที่เป็นแหล่งแห่งมนต์ดำ เพื่อนำมันมาทำลายยยย จากน้ำมือของวายร้ายที่หวังจะใช้มันสร้างนักรบผู้แสนสะพรึงกลัว  ทาแรนและผองเพื่อนต้องพบกับอุปสรรคอันน่าตื่นเต้นสุดใจขาดดิ้นระหว่างทาง (กรี๊ดดดด อ่านพล็อตเรื่องแล้วก็อยากไปหามาดูซะตอนนี้เลยย ว่าแต่จะหาที่ไหน ในไทยไม่นำเข้ามา T_T) ....เหตุผลที่บ้านเราโดนเมินก็อาจจะเป็นเพราะหนังเป็นความล้มเหลวแบบลืมไม่ลงของดิสนี่ย์เลยทีเดียว พร้อมด้วยคำวิจารณ์ที่บอกว่าขาดเสน่ห์จากหนังสือต้นฉบับอย่างแท้จริง !!! หนังก็เลยมาเร็วไปเร็วอย่างที่เห็น แต่ถ้าใครสนใจ อยากจะหามาพิสูจน์ด้วยตาตนเองก็ไม่ว่ากัน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:51:49

ความคิดเห็นที่ 23 THE GREAT MOUSE DETECTIVE (1986) เบซิล นักสืบหนูผู้พิทักษ์ ดูท่าว่าดิสนี่ย์จะปลื้มแคแรกเตอร์ที่เป็น หนู เป็นพิเศษ เพราะจากแจ้งเกิดให้กับแคแรกเตอร์มิคกี้ เมาส์ดังในระดับคลาสสิคแล้ว ดิสนี่ย์ก็ยังสร้างสรรค์งานที่เป็นแคแรกเตอร์หนูอยู่เรื่อยๆ มาถึงเรื่องนี้เปลี่ยนจากหนูผู้กล้าหาญใน The Rescuers มาเป็นหนูยอดนักสืบกันบ้าง !!! หนังสร้างจากงานเขียนของ อีฟ ไทตัส ในชื่อนิยาย Basil of Baker Street หนังเล่าเรื่องราวในแบบฉบับนักสืบสไตล์ เชอร์ล็อค โฮล์มส บรรยากาศอังกฤษเต็มๆ เกี่ยวกับเบซิล หนูนักสืบผู้ต่อกรกับศาตราจารย์ แรดิแกน ศัตรูจอมวายร้ายตัวฉกาจ เมื่อพ่อของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกแรดิแกนลักพาตัวไป เรื่องราวการสืบคดีสุดสนุกเลยเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น เต็มไปด้วยปริศนาและการผจญภัยสุดตื่นเต้น !!! หนังถือว่ากู้หน้าดิสนี่ย์จากความล้มเหลวของ The Black Caudron มาได้ในระดับหนึ่ง มีนักวิจารณ์ที่ยกย่องให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังนักสืบที่ดีในยุคนั้นเลย ส่วนรายรับในบ็อกส์ออฟฟิศก็สมน้ำสมเนื้อ  !!! ไม่รู้ว่าตอนนี้บ้านเราหาดูยากไหม แต่เจ้าของกระมู้ได้มาครอบครองแล้วเรียบร้อย !!! :) จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:52:30

ความคิดเห็นที่ 24 OLIVER AND COMPANY (1988) เหมียวน้อยโอลิเวอร์กับเพื่อนเกลอ จากแคแรกเตอร์หนู ก็มาที่แมวหมากันบ้าง เวียนว่ายกันอยู่ในวงการสัตว์เลี้ยงประจำบ้านนี่แหละ เรื่องนี้ก็ถือเป็น Rare Item ของดิสนี่ย์ในยุคนี้ก็ว่าได้ กับเรื่องราวความสนุกสนานเกี่ยวกับแก๊งค์แมวและหมาเพื่อนซี้ของมนุษย์ที่ครั้งนี้มันจะรวมตัวกันมาป่วนกันให้คุณฮากลิ้งและประทับใจไปในเวลาเดียวกัน หนังเล่าเรื่องราวของโอลิเวอร์ แมวหนุ่มจอมเฮี้ยวที่ถูกทิ้งมาตั้งแต่เด็ก ได้ออกเดินทางตะลุยมหานครนิวยอร์ค กระทั่งเขาได้เข้าไปร่วมกลุ่มกับสุนัขจรจัดที่ต้องขโมยอาหารผู้อื่นเพื่อเอาชีวิตรอด การผจญภัยครั้งนี้ทำให้โอลิเวอร์ ได้รับบทเรียนสำคัญคือ อุปสรรคจะกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย หากเราไม่ละทิ้งความฝันที่มีอยู่ !!! และหนังเรื่องนี้ยังทำให้เด็กๆเข้าใจอีกด้วยว่า แมวกับหมาไม่ได้เป็นศัตรูกันเสมอไปนะเออออออ --- หนังประสบความสำเร็จในตารางหนังทำเงินพอสมควร แต่คำวิจารณ์นั้นก็ไม่ได้เต็มที่ในแง่บวกสักเท่าไหร่ ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:53:11

ความคิดเห็นที่ 25 THE LITTLE MERMAID (1989) เงือกน้อยผจญภัย !!! การ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่องสุดท้ายของดิสนี่ย์ในยุค 80 ที่ประสบความสำเร็จสุดตัวไปเลย กับการเล่าเรื่องราวของนางเงือก แคแรกเตอร์ในฝันของเด็กสาวทั้งหลายที่บ่อยครั้งเกิดคำถามว่า แท้จริงแล้วใต้ทะเลมีเงือกไหม แล้วโลกใต้ทะเลจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร หนังเรื่องนี้ก็ได้ตอบโจทย์จินตนาการให้กับผู้ชมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าเพศใดหรือวัยไหน หน้าหนังอาจจะเหมาะสำหรับผู้หญิง แต่หนังเรื่องนี้ผู้ชายก็ดูสนุกได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นเรื่องราวการผจญภัยของแคแรกเตอร์เงือกสาวน้อยคนหนึ่งที่ต้องเอาชนะอุปสรรค และเรียนรู้ในความยากลำบากต่อสิ่งที่เธอปรารถนาอยากจะได้ !!!! หนังเล่าเรื่องราวของแอเรียล เจ้าหญิงเงือกน้อยแสนสวยแสนทะเยอทะยาน ที่ใช้ชีวิตนอกมหาสมุทรที่เธออาศัยอยู่ วันหนึ่งเธอได้ช่วยชีวิต เจ้าชายอีริค จากอุบัติเหตุพายุกลางมหาสมุทร และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้หลงรักกับมนุษย์เป็นครั้งแรก และเมื่อเออซูล่า แม่มดปลาหมึกยักษ์ ล่วงรู้ความคิดของแอเรียลในครั้งนี้ เธอก็หลอกหล่อให้แอเรียลได้เป็นมนุษย์สมใจอยาก ด้วยการให้หล่อนแลกเสียงตัวเองกับความรักและสิ่งที่เธอปรารถนาชั่วนิรันดร์ !!!! ....นี่ถือเป็นแอนิเมชั่นแนวโรแมนติกที่กระชากใจสาวๆหลายคน เพราะแอเรียลถือเป็นตัวแทนของสาวสวยที่มีรักเดียวมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง และยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกมาซึ่งรักนั้น !!!! ><~ เพลงประกอบของหนังก็ไพเราะเพราะพริ้งมากทีเดียว กับ PART OF YOUR WORLD ที่ยังติดหูและเป็นที่นำมาร้องใหม่เรื่อยๆจนกระทั่งทุกวันนี้ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:53:48

ความคิดเห็นที่ 26 BEAUTY AND THE BEAST (1991) โฉมงามกับเจ้าชายอสูร นี่คือแอนิเมชั่นคุณภาพตัวจริงเสียงจริงของดิสนี่ย์ ที่ทำให้แวดวงหนังการ์ตูนกลับมาลืมตาอ้าปากจริงๆอีกครั้ง เพราะนอกจากทันทีที่หนังลงฉายแล้วกลายเป็นขวัญใจนักวิจารณ์ไปทั่วอเมริกาและทั่วโลก ผู้ชมประทับใจเนื้อหาของหนังตั้งแต่ต้นจนจบ ลบขนบหนังการ์ตูนที่ต้องสดใส ร่าเริง ซาบซ่าตลอดทั้งเรื่องให้กลายมาเป็นหนังการ์ตูนที่เน้นเรื่องราวชีวิต และความมืนหม่นบ้างอะไรบ้าง แถมหนังยังประสบความสำเร็จบนตารางทำเงินมากๆด้วยเช่นกัน กวาดไปถึง 377 ล้านดอลล่าร์ทั่วโลกจากทุนสร้างเพียงแค่ 25 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น !!! และที่สำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือการที่แอนิเมชั่นเรื่องนี้ได้ไปยืนเป็นหนึ่งในตำแหน่งของหนังที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกะเขาด้วย ถือเป็นแอนิเมชั่นเรื่องแรกที่สามารถทำได้เช่นนั้น แม้จะไม่ได้รางวัลออสการ์มาครอบครองแต่หนังเองก็ได้รางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์เพลง / ตลกมานอนกอดได้สำเร็จ !!!!! สำหรับเรื่องราวของหนังที่เป็นที่มาของความสำเร็จขนานใหญ่ในครั้งนี้ก็เล่าถึงการผจญภัยของสาวสวยแสนฉลาดคนหนึ่งเธอมีนามว่า เบลล์ ผู้เลือกการอ่านหนังสือเป็นหนทางหนีจากวิถีชีวิตอันแสนธรรมดาสามัญของตน และหนีจาก แก๊สต็อง ชายรูปงามจอมตื้อที่ตามตื้อเธอไม่เลิก วันหนึ่งพ่อของเธอผู้เป็นนักประดิษฐ์ได้หลงเข้าไปในปราสาทของอสูร และถูกจับขังเอาไว้ เบลล์จึงออกเดินทางไปช่วยพ่อโดยสัญญาแลกเปลี่ยนให้ตัวเธอเองถูกคุมขังแทน ซึ่งในเวลาต่อมามันได้กลายเป็นตำนานรักอมตะระหว่างโฉมงามกับเจ้าชายอสูรที่หลายคนไม่มีวันลืม หนังมาพร้อมเรื่องราวชวนฝัน น่าตื่นเต้น และเพลงประกอบที่แสนไพเราะ ที่ไม่ว่าจะหยิบมาดูอีกกี่รอบก็ประทับใจได้เสมอ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:54:35

ความคิดเห็นที่ 27 ALADDIN (1992) อะลาดิน นี่ถือเป็นหนังดิสนี่ย์วาดมือ ที่เจ้าของกระทู้ชอบมากที่สุด กับการหยิบงานวรรณกรรมคลาสสิคตลอดกาลมาสร้างสรรค์ในแบบแอนิเมชั่นภาพสวย สดใสสไตล์ดิสนี่ย์ พร้อมด้วยเรื่องราวที่ดัดแปลงให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น เป็นหนังการ์ตูนที่ลงตัวด้วยเนื้อหาชวนติดตาม แคแรกเตอร์ที่ใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มสีสัน ตัวร้าย ตัวดี จัดกันมาแบบไม่ยั้ง ...หนังเล่าเรื่องราวของอะลาดิน หนุ่มเร่ร่อนข้างถนนที่ได้พบกับเจ้าหญิงที่หนีออกมาจากราชวังโดยบังเอิญ และตกหลุมรักกัน แต่เจ้าหล่อนจะแต่งงานกับหนุ่มที่เป็นเจ้าชายเท่านั้น แต่กับเขาเป็นแค่หนุ่มเดินถนนธรรมดา อะไรล่ะจะทำให้เขาได้คู่ครองกับเธอ หลังจากนั้นก็เป็นความสนุกสนานนานัปการที่หนังพาไปเจอกับ จินนี่ ยักษ์ในตะเกียงวิเศษ, จาฟาร์ ผู้ชั่วร้าย และอื่นๆอีกมากมาย หนังสนุกแล้วแถมเพลงก็ยังเพราะฮิตติดลมบนตลอดกาลบานบุรีกันด้วย เพราะถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครไม่รู้จักเพลง A Whole New World เป็นแน่ !!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:55:03

ความคิดเห็นที่ 28 THE LION KING (1994) เดอะ ไลอ้อน คิง เป็นการ์ตูนดิสนี่ย์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติของดิสนี่ย์เรื่องนึงเลยก็ว่าได้ กับรายรับที่หนังกวาดไปทั่วโลก 783 ล้านดอลล่าร์ !!! จากทุนสร้างเพียงแค่ 45 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น ครองตำแหน่งการ์ตูนวาดมือที่ทำเงินทั่วโลกสูงที่สุดตลอดกาลในประวัติศาตร์ภาพยนตร์... ด้วยการเล่าเรื่องคัมมิ่งออฟเอจของตัวละครหลักของเรื่องผ่านการเรียนรู้ เติบโต การใช้ชีวิตจากเด็กสู่ผู้ใหญ่ของเจ้าสิงโตนามว่า ซิมบ้า ที่ต่อมาได้กลายเป็นตัวละครที่เข้าไปอยู่ในใจใครหลายคนอันดับต้นๆ นี่เป็นหนังการ์ตูนของดิสนี่ย์ที่มาพร้อมเนื้อหาที่เข้มแข็ง โตเป็นผู้ใหญ่ และหดหู่กว่าหลายเรื่องที่ผ่านมา เพราะเรื่องราวมันจะเล่าถึงลูกสิงโตที่ต้องพรากจากพ่ออันเป็นที่รัก และเดินทางผจญภัยพิสูจน์ความเป็นเจ้าป่าคนต่อไปในตัวของตัวเอง และต้องพบเจอกับเรื่องราวตื่นเต้นสุดระทึกใจมากมายหลังจากนั้น !!! นอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน และเหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัย สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ยังมีเพลงประกอบที่ฮิตโดนใจใครหลายคนตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ด้วย ทั้ง i Just Can't Wait To Be King, Hakuna Matata, Can You Feel The Love Tonight และ Circle of Life ด้วย !!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:55:53

ความคิดเห็นที่ 29 POCAHONTAS (1995) โพคาฮอนทัส แอนิเมชั่นเบอร์ 33 ของดิสนี่ย์ ที่ฉีกแนวมานิดๆ ด้วยการหยิบเอาแคแรกเตอร์ที่มีจริงในประวัติศาสตร์มาตีแผ่ทำเป็นหนังการ์ตูนเป็นครั้งแรก !!!! เกี่ยวกับหญิงสาวชาวเผ่าอินเดียแดง ผู้มีนามว่า โพคาฮอนทัส กับเรื่องราวการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ของเธอ เธอได้พบกับกัปตัน จอห์น สมิธ หนุ่มที่มาจากคนละวัฒนธรรม ซึ่งเมื่อทั้งคู่ตกหลุมรักกัน มันก็นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อความเป็นไปของชนสองเชื้อชาติ !!!! ยังพูดได้เต็มคำว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในฐานะการ์ตูนแอนิเมชั่นจากหลังคาดิสนี่ย์ในยุคเฟื่องฟู หนังกวาดเงินทั่วโลกไป 346 ล้านดอลล่าร์ !!! ส่วนคำวิจารณ์นั้นก็แตกระแหงไปในระดับที่ไม่ชอบจนถึงชอบมากกกก ปะปนกันไป !! ส่วนตัวแล้วก็รู้สึกว่าเป็นงานของดิสนี่ย์ที่แปลกดี เพราะเรื่องราวมันไม่ได้มีความเป็นแฟนตาซีติดตัวมาสักนิด !!! ก็อย่างที่บอกว่าหนังดำเนินเรื่องจากบุคคลที่มีชีวิตจริงในประวัติศาสตร์ อาจจะต้องอ้างอิงให้เกิดความสมเหตุสมผลกันบ้าง !!! เพลงประกอบของหนังก็ดังไกลเช่นกัน นั่นก็คือเพลง Colors of The Wind ที่คว้าออสการ์มาด้วยในฐานะเพลงประกอบยอดเยี่ยม (อีกสาขาที่คว้ามาก็คือ ดนตรีบรรเลงยอดเยี่ยม)ล จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:56:19

ความคิดเห็นที่ 30 THE HUNCHBACK OF NOTRE DAME (1996) คนค่อม แห่ง นอเทรอดาม ถือเป็นอีกหนึ่งแอนิเมชั่นที่ความสนุกไม่ได้แพ้หนังเรื่องอื่นๆเลย แต่ออกจะเป็นที่พูดถึงน้อยไปหน่อย เพราะด้วยความที่หนังมาพร้อมแคแรกเตอร์หลักที่รูปร่างไม่ได้ชวนชมสักเท่าไหร่ กับคนค่อม รวมทั้งเรื่องราวที่ค่อนข้างจะดูเป็นผู้ใหญ่ และมืดหม่นมากเรื่องนึงเลย นั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้หนังอาจจะไม่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย หรือเด็กเล็กสักเท่าไหร่ !!! แต่ส่วนตัว ชอบแอนิเมชั่นเรื่องนี้เอามากๆทีเดียว หนังดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังของ วิกเตอร์ ฮิวโก้ในชื่อ Notre Dame De Paris (ต้นฉบับเป็นภาษาฝรั่งเศส) หนังเล่าเรื่องราวของคนค่อมแห่งวิหารระฆังกลางกรุงปารีส นามว่า ควอสิโมโด้ ที่แม้จะถูกสั่งห้ามย่างกรายออกนอกวิหารโดยผู้พิพากษาฟรอลโล แต่ใจของเขากลับครุ่นคิดติดอยู่โลกภายนอก เขาจึงฝ่าฝืนคำสั่งนั้น และออกมาจากวิหาร และได้พบกับเรื่องราวอันแสนตื่นเต้นมากมายภายนอกนั่น !!! รวมทั้งความรักครั้งแรกของเขากับยิปซีสาวนามว่า เอสเมรัลด้า ด้วย !!!!! หนังทำเงินทั่วโลกไป 325 ล้านดอลล่าร์ บอกแล้วว่าไม่ใช่ธรรมดาๆเลยนะเนี่ยะ !!!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:56:55

ความคิดเห็นที่ 31 HERCULES (1997) เฮอร์คิวลิส จำได้แม่นเลยว่าชอบแคแรกเตอร์นี้มากๆ จากหนังซีรียส์ทางช่อง 3 ตอนบ่ายๆเย็นๆ ที่เคยเอามาฉายเมื่อ 10 - 20 ปีก่อน !!! ดูกันติดงอมแงม แล้วหลังจากนั้นไม่นานเรื่องนี้ก็กลายมาเป็นเวอร์ชั่นหนังการ์ตูนให้เราได้จินตนาการเตลิดเปิดเปิงกันไปอีก หนังเป็นแอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องที่ 35 ของดิสนี่ย์ ซึ่งหยิบเอาเรื่องราวจากเทพนิยายมาทำเป็นหนัง...ผ่านแคแรกเตอร์ของ เฮอร์คิวลิส (จริงๆแล้วต้นตำรับเทพนิยายเป็นอะไรที่หดหู่พอสมควร พอมาเป็นหนังเลยออกอาการเป็นการ์ตูนสีลูกกวาดอย่างที่เห็น) หนุ่มเหนือมนุษย์ที่มุ่งมั่นพิสูจน์ความเป็นวีรบุรุษของตน ภายใต้สายตาของเทพซีอุสผู้เป็นบิดา เฮอร์คิวลิสมีเปกาซัส ม้าบินเป็นเพื่อนคู่ใจ และฟิล ครูผู้คอยสั่งสอน เขาออกเดินทางผจญภัยเพื่อค้นหาตัวเอง โดยถูกรังควานด้วยเล่ห์ของเฮย์ดีส ยมโลกเจ้าอารมณ์ ผู้ต้องการยึดครองหุบเขาโอลิมปุส อันเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องเลือกระหว่างพลังแห่งเทพ และรักแท้กับเม็ก สาวสวยชาวกรีก ซึ่งทางเลือกของเขาก็นำบทเรียนล้ำค่าของหัวใจที่เขาไม่เคยหยั่งถึงมาก่อน เห็นพล็อตแบบนี้ไม่ต้องตกใจว่ามันจะเครียด เพราะการ์ตูนก็เป็นการ์ตูนวันยังค่ำ ทำเฮย์ดีสออกมาได้น่าขำขันมากกว่าน่ากลัว !! มีมุกตลกตลอดทั้งเรื่อง ที่ทำให้อารมณ์ความจริงจังขึงขัง กลายเป็นความสนุก คลายเครียดไปซะมากกว่า !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:58:25

ความคิดเห็นที่ 32 MULAN (1998) มู่หลาน จากเรื่องจริงสู่แผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรกในรูปแบบแอนิเมชั่นจากวอลต์ ดิสนี่ย์กับเรื่องราวของวีรสตรีหญิงผู้พิทักษ์...นามว่า มู่หลาน ที่หลังจากนั้นเราก็เห็นอีกหลายเวอร์ชั่นตามมา ในเวอร์ชั่นของดิสนี่ย์ แน่นอนว่าจะต้องแต่งเติมเพิ่มความสนุกสนานเข้าไปกับแคแรกเตอร์เหนือจริงที่ทำให้กลายเป็นหนังสำหรับเด็กและครอบครัวเป็นหลัก เพราะฉะนั้นประเด็นการรบ จึงไม่ได้ถูกเอ่ยถึงมาก และเป็นเพียงกิมมิคสำคัญในตอนท้ายเรื่องเท่านั้น แต่ระหว่างเรื่อง เราก็จะได้เห็นชีวิตของมู่หลาน และผองเพื่อน รวมทั้งการมุ่งมั่นที่จะสานภารกิจของเธอ ...หนังกำกับโดย โทนี่ แบนครอฟท์ และ แบร์รี่ คุ้ก ที่เป็นมือใหม่ในการกำกับหนังขนาดยาวด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี และถ้าเอ่ยถึงเพลงประกอบของหนังดิสนี่ย์ที่โดนใจคุณตลอดกาล เพลง Reflection จากหนังเรื่องนี้ที่ขับขานโดย คริสติน่า อาร์กีเลร่า ก็จะถูกหยิบมาเอ่ยถึงอยู่บ่อยครั้งด้วยเช่นกัน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:58:37

ความคิดเห็นที่ 33 TARZAN (1999) ทาร์ซาน จากนิยายคลาสสิคตลอดกาลที่ขึ้นจอมาหลายต่อหลายเวอร์ชั่น ได้เวลาที่ดิสนี่ย์จะหยิบมาเป็นเวอร์ชั่นของตัวเองในแบบการ์ตูนวาดมือกันบ้าง ที่ก็สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัว เรื่องราวที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูด้วย สร้างความประทับใจ เพลงเพราะ บรรยากาศจัดเต็ม และเนื้อหาดี ...อย่างที่เราๆท่านๆทราบกันว่าหนังเกี่ยวกับ ตำนานของมนุษย์เพศผู้ที่นุ่งผ้าเตี่ยวและรักการผจญภัยในป่าใหญ่ที่ที่มีเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นบรรดาสัตว์ป่ามากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับมนุษย์จริงๆที่เป็นสาวสวย และมันได้เปลี่ยนความรู้สึก และสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะพบเจอมาก่อนในชีวิต ไปตลอดกาล !!!! ...หนังได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมที่ยังอยู่ในใจใครหลายคนอย่าง You'll Be In My Heart ฝีมือการร้องของ ฟิล คอลลินส์ ด้วย !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:58:51

ความคิดเห็นที่ 34 FANTASIA 2000 แฟนตาเซีย 2000 เป็นเวลา 60 ปีเต็มพอดี สำหรับการขึ้นจอของ Fantasia หนังแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคที่บรรจุการ์ตูนสั้นเอาไว้ มาถึงเวอร์ชั่นนี้ก็เหมือนเป็นการฉลองขึ้นสหัสวรรษใหม่ด้วย ช่างประจวบเหมาะเสียนี่กะไร ดิสนี่ย์ก็เลยมาพร้อมเวอร์ชั่นใหม่ไฉไลกว่าเก่า ด้วยการ์ตูนสั้นหลายตอนเช่นเดิม ได้แก่ สงครามระหว่างความมืดและแสงาว่าง, ลูกปลาวาฬที่ติดอยู่ใต้น้ำแข็ง, ชีวิตผูคนในยุคข้าวยากหมากแพง, ความรักระหว่างพ่อและลูก, นกฟลามิงโก้กับลูกดิ่งและมิกกี้เมาส์ในฐานะพ่อมดฝึกหัด ซึ่งแต่ละตอนก็จะมีความพิเศษในแบบที่แตกต่างกันไป พร้อมดนตรีบรรเลงประกอบโดยวงชิคาโกซิมโฟนีออร์เครสตร้า สุดอลังการงานสร้าง ที่ฟังแล้วจะต้องเกิดอารมณ์ขนลุกกันบ้างแหละ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:59:15

ความคิดเห็นที่ 35 DINOSAUR (2000) ไดโนเสาร์ พอเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ อะไรๆก็เปลี่ยนแปลง ดิสนี่ย์หยุดการวาดมือมาใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์งานแอนิเมชั่นดูบ้าง ที่ให้ภาพออกมาสมจริงและเต็มเปี่ยมไปด้วยความก้าวล้ำไฮเทค โดยเรื่องแรกที่เป็นเหยื่อของการทดลองก็คือหนังไดโนเสาร์เรื่องนี้ ที่ใช้เวลาการบ่มเพาะมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร !!!! ซึ่งเมื่อหนังออกฉายก็กลายเป็นขวัญใจนักวิจารณ์ที่ชื่นชมในก้าวใหม่ที่เปลี่ยนแปลงของดิสนี่ย์ รวมทั้งตัวหนังก็ดูสนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม ในส่วนของบ็อกส์ออฟฟิศนั้นก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน หนังเปิดตัว 38 ล้านดอลล่าร์ และเก็บเงินทั่วโลกไป 349 ล้านดอลล่าร์ !!!! จริงๆแล้วใครจะรู้ว่าหนังเคยเกือบถูกสร้างออกมาในแบบที่ไม่มีบทพูด เพื่อสร้างความแตกต่างจากหนังแนวเดียวกันอย่าง The Land Before Time แต่ต่อมาความคิดนั้นก็ถูกระงับ กลายเป็นหนังที่มีเรื่องราว เส้นเรื่องและบทพูด ในส่วนของเทคนิคการสร้างที่ทำให้หนังออกมาเสมือนจริง ก็คงเป็นการที่หนังใช้แบ็คกราวด์ของสถานที่จริงเข้ามาผสมผสานในตัวเนื้องาน ซึ่งภาพบรรยากาศโลเกชั่นที่เราเห็นในหนังเหมือนจริงๆนั้น ของจริงนะจ๊ะจะบอกให้ !!! ส่วนแคแรกเตอร์ที่สร้างขึ้นมาต่างๆนานาก็เป็นเทคนิคจากคอมพิวเตอร์ล้วนๆ ที่ยุคนั้นยังไม่แพร่หลายในสาระบบแอนิเมชั่นมากนัก ถือเป็นการก้าวข้ามสู่ความสำเร็จของดิสนี่ย์ไปในตัว !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 01:59:44

ความคิดเห็นที่ 36 THE EMPEROR'S NEW GROOVE (2000) จักรพรรดิ์กลายพันธ์ อัศจรรย์พันธ์ต๊อง สารภาพตามตรงว่าเจ้าของกระมู้ชอบหนังเรื่องนี้มากกกกกกก แม้จะไม่ได้ขึ้นแท่นการ์ตูนคลาสสิคอะไรของดิสนี่ย์ แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบในความที่หนังเป็นแอนิเมชั่นที่แคแรกเตอร์มาพร้อมมุกตลกที่ค่อนข้างเรียกเสียงหัวเราะได้หนักมากๆ !!! ไม่ว่าจะเป็นตัวดี ตัวร้าย หรือตัวขโมยซีน ต่างจัดหนักความตลกได้อย่างเต็มที่มากๆ !!! กลายเป็นแอนิเมชั่นที่ถ้าใครเครียดละก็ มาดูเรื่องนี้รับรองหาย !!! หนังเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอาณาจักรหุบเขาในตำนาน ด้วยการติดตามความโชคร้ายของจักรพรรดิ์หนุ่มสุดโอหังและตั้งตนเป็นใหญ่ เขามีนามว่า คุซโก้ ที่ถูกแปลงร่างไปเป็นตัวลามะ โดย อิซาม่า ที่ปรึกษาผู้กระหายอำนาจของเขาเอง เมื่อเขาถูกทิ้งไว้ในป่า โอกาสเดียวของคุซโก้ที่จะกลับบ้านและทวงเอาชีวิตของเขาคืนมา ก็คือชาวบ้านจิตใจงามนามว่า พาชา ..หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตะลุยสู่การผจญภัยแสนหฤหรรษ์ที่เรียกเสียงหัวเราะและความตื่นเต้น น่าติดตามได้ตลอดเส้นทาง !!! กลายเป็นความประทับใจในท้ายที่สุดตามสไตล์การ์ตูนดิสนี่ย์ หนังได้ เดวิด สเปด, จอห์น กู๊ดแมน  มารับหน้าที่ให้เสียงพากย์ซึ่งแต่ละคนก็ใส่ลูกเล่นลูกฮาออกมาได้บ้าสุดพลัง ในด้านตัวเลขเงินๆทองๆ ดิสนี่ย์ไม่ประสบความสำเร็จกับหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของคำวิจารณ์ละก็ หนังได้รับเสียงเชียร์ในแง่บวกมากๆๆๆๆๆ !!!! (ใน RT หนังได้ไป 85 % เชียวนะตัวเธอว์ว์ว์ว์) ++ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:00:18

ความคิดเห็นที่ 37 ATLANTIS : THE LOST EMPIRE (2001) แอตแลนติส : ผจญภัยแดนอาถรรพ์ แอนิเมชั่นหมายเลข 41 ของดิสนี่ย์ ที่ถือเป็นก้าวใหม่ครั้งสำคัญ ด้วยการหยิบเอาเรื่องราววิทยาศาตร์มาขึ้นจอเป็นครั้งแรก และเป็นตำนานที่มีอยู่จริงทางประวัติศาสตร์ !!! กับเรื่องเล่าแห่งอารยะนครที่สาปสูญ สู่เวอร์ชั่นการ์ตูนที่มีทั้งความตื่นเต้น ลึกลับ ปริศนา และฉากแอ็คชั่นผจญภัยมากมาย !!! (หลายคนบอกว่ามันมีส่วนคล้ายกับโดเรมอน ตอนผจญภัยใต้สมุทร ><~) หนังถ่ายทอดเรื่องราวผ่านแคแรกเตอร์ของ ไมโล นักผจญภัยหนุ่มผู้ขาดประสบการณ์ที่ได้กลายมาเป็นบุคคลสำคัญในการไขปริศนาลึกลับ หลังจากที่ได้เข้าร่วมกลุ่มกับนักสำรวจผู้หาญกล้าที่ออกค้นหาอาณาจักรในตำนานโบราณที่หายสาปสูญไป ....เมื่อทีมสำรวจได้ค้นพบปริศนาการเดินทางที่หายไปเนิ่นนานและได้พบร่องรอยเงื่อนงำเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของอาณาจักรลับแลในตำนาน มหาเศรษฐีนิสัยประหลาดผู้หนึ่งก็ตกลงใจออกทุนค่าใช้จ่ายให้ทีมนักสำรวจออกเดินทางไปตามข้อมูลที่ได้รับมาทันที กลายเป็นเรื่องราวการผจญภัยที่ยากเกินคาดเดาหลังจากนั้น ...ส่วนตัวเคยดูหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ความทรงจำที่ได้กลับมาแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าเป็นยังไง ว่าจะไปหามาดูอีกรอบ ><~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:00:30

ความคิดเห็นที่ 38 LILO AND STITCH (2002) ลีโล่ แอนด์ สติทช์ : อะโลฮ่า...เพื่อนฮาข้ามจักรวาล ท่ามกลางหนังการ์ตูนดิสนี่ย์ในยุคซบเซา ก็มีเรื่องนี้แหละที่ทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้หน่อย ที่ยังพกพาความสนุกสนาน น่ารัก และน่าประทับใจตามคอนเซ็ปต์ของดิสนี่ย์กลับมาได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวคิดว่าดิสนี่ย์ทำหนังแนวมิตรภาพระหว่างคนและสัตว์ หรือถ้าไม่ใช่สัตว์ ก็เป็นตัวอะไรสักตัว ออกมาได้ดีทีเดียว และเรื่องนี้ก็มีฉากที่น่าประทับใจเรียกน้ำตา และความซาบซึ้งได้อย่างอยู่หมัด หนังเล่าเรื่องราวที่เริ่มต้นมาจากยานอวกาศต่างดาวลำหนึ่ง ที่กำลังทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตตัวสีฟ้าจอมทำลายล้างขึ้นมา แต่ผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ เลยกลายเป็นว่ามันเองต้องถูกทำลาย แต่ด้วยความฉลาดแกมโกงที่เจ้าตัวนี้มีอยู่เพียบ ทำให้มันหลบหนีและไปตกลงบนฮาวาย ซึ่งที่นั่นสาวน้อยลีโล่ ผู้กำพร้าพ่อแม่ ที่อยู่กับพี่สาวเพียงสองคน ก็เป็นคนแรกที่พบกับเจ้าสติทช์ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นอันแสนประทับใจของความสัมพันธ์ต่างเผ่าที่ชวนฟีลกู้ดเกินความคาดหมาย !!!! ในอเมริกาหนังเปิดตัว 35 ล้านดอลล่าร์ ก่อนจะกวาดรายได้รวมไป 145 ล้านดอลล่าร์ แต่ถ้าวัดทั่วโลกหนังเก็บไป 273 ล้านดอลล่าร์ !!!! ถือว่าประสบความสำเร็จใช้ได้เลยในช่วงเวลานั้น !!! ต่อมาหนังเองก็มีภาคต่อที่มาในรูปแบบหนังแผ่นในปี 2003 กับ Stitch ! The Movie และในปี 2005 กับ Lilo & Stitch 2 : Stitch Has A Glitch !! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:01:31

ความคิดเห็นที่ 39 TREASURE PLANET (2002) ผจญภัยขุมทรัพย์ดาวมฤตยู และแล้วดิสนี่ย์ก็มาถึงจุดต่ำสุดของวงการแอนิเมชั่นอีกครั้ง กับหนังหมายเลข 43 ของดิสนี่ย์ที่มาในแนวไซไฟแฟนตาซีเน้นเรื่องราวมหัศจรรย์เหนือจินตนาการ โดยได้ดัดแปลงมาจากนิยายแนวผจญภัยในชื่อ Treasure Island ของ โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเว่นสัน โดยครั้งนี้จะเป็นการผสมผสานกันระหว่างการวาดมือสุดคลาสสิคเข้ากับเทคนิคคอมพิวเตอร์ !!! ฟังดูดีและอลังการแต่ผลตอบรับที่ได้กลับมา กลายเป็นว่าหนังล้มเหลวในทุกๆทาง !!! หนังเป็นเจ้าของทุนสร้างในระดับ 140 ล้านดอลล่าร์ แต่เก็บรายรับทั่วโลกเข้ากระเป๋าไปแค่ 110 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น !!! ส่วนคำวิจารณ์ก็ไม่ต้องไปพูดถึง ตามที่คิดกันเอาไว้นั่นแหละ หลายคนบอกว่าเหตุผลที่หนังไม่ทำเงินไม่ฮิต และไม่ติดใจคนดูก็เพราะว่าการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของดิสนี่ย์ ที่เน้นเรื่องราวแตกต่างจากหนังการ์ตูนดิสนี่ย์เรื่องก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด เสน่ห์ที่ขาดหายไป และความไฮเทคที่เกินหน้าเกินตาล้ำจินตนาการมากไปหน่อยนั่นเองงงง !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:01:57

ความคิดเห็นที่ 40 BROTHER BEAR (2003) กลับมาสร้างหนังเน้นความประทับใจเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างคนกับสัตว์อีกครั้ง หลังจากล้มเหลวไปกับเรื่องก่อนหน้าที่หลุดกรอบเกินไปหน่อย เรื่องนี้ดิสนี่ย์ก็มาแบบไม่หวือหวา ธรรมดาๆเน้นเรื่องราวดราม่าและความประทับใจเป็นหลัก หนังเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปในช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์ ยุคที่ยังมีช้างแมมมอธและสัตว์ดึกดำบรรพ์เดินกันเพ่นพ่าน ผ่านตัวละครที่ชื่อ เคไน น้องชายคนสุดท้องของพี่น้องสามคน ซึ่งพี่คนโตถูกหมีทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากบังเอิญไปรบกวนแม่หมี และแม่หมีคิดว่าเขาจะมาทำร้ายลูกๆของเธอ ด้วยความโกรธแค้น น้องชายคนเล็ก จึงต้องออกตามล่าหมีเพียงลำพัง เนื่องจากพี่คนกลางปฎิเสธที่จะไปด้วย ในระหว่างการตามล่าที่เต็มไปด้วยความแค้น วิญญาณแห่งป่าก็เปลี่ยนให้เขากลายเป็นหมี เขาได้รับการเรียนรู้ผ่านสายตาของหมี รับรู้เกี่ยวกับคุณค่าของชีวิต และเขายังรู้อีกด้วยว่าพี่กลางของเขากำลังรวบรวมคนออกตามล่าหมี และกำลังคิดที่จะฆ่าหมีทุกตัวที่เจอ นั่นก็รวมถึงตัวเขาด้วย ---- ค่อนข้างมาในแนวดราม่าเป็นพิเศษ ดูแล้วอาจจะต้องมีน้ำตาตกในกันบ้าง ถือเป็นแอนิเมชั่นที่ชวนเครียดใช้ได้เลย แต่ก็ยังมีมุมฟีลกู้ดให้เห็นกันอยู่ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:02:30

ความคิดเห็นที่ 41 HOME ON THE RANGE (2004) ก่อนที่ดิสนี่ย์จะเปลี่ยนบทบาทในการผลิตหนังวาดมือไปเป็นหนังแอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์แบบเต็มตัว หนังเรื่องนี้แหละที่ได้ชื่อว่าเป็นการ์ตูนวาดมือเรื่องสุดท้ายของดิสนี่ย์ ที่กลายเป็นความล้มเหลวในทันทีที่ออกฉาย เพราะหนังกวาดรายรับรวมทั่วโลกไป 76 ล้านดอลล่าร์ จากทุนสร้างที่สูงถึง 110 ล้านดอลล่าร์ (โอ้ววว ทำไมทุนมันมหาศาลบานตะไทขนาดนั้นละเนี่ยะ!!!) แถมเรื่องนี้ยังเป็นแอนิเมชั่นของดิสนี่ย์ในรอบหลายสิบปีที่ไม่ได้เข้าฉายบ้านเราด้วย จนป่านนี้เจ้าของกระมู้ก็ยังไม่ได้ดู ว่ามันแย่ตรงไหน !!! หนังนำเสนอบรรยากาศหลักเกี่ยวกับคาวบอยและชีวิตสัตว์ และยังเป็นการ์ตูนเพลงที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการหนังด้วยในช่วงนั้น โดยเล่าเรื่องของแม่วัวในฟาร์มล้มละลายแห่งหนึ่ง ที่ถูกพาไปอยู่กับฟาร์มยายแก่แม่ม่ายใจดี แม่วัวตัวนี้ต้องพาพวกสัตว์ไปช่วยเหลือเจ้านายใหม่ที่ใจดีผู้รักสัตว์ในฟาร์มเหมือนเป็นคนในครอบครัว แต่นางเป็นหนี้นายทุนจนจะถูกยึดฟาร์มอยู่รอมร่อ !!! ก็เลยต้องมีภารกิจกู้ฟาร์มอันเป็นที่รักของนางกันซะหน่อย !!!! ถือเป็นหนังแอนิเมชั่นแนวคาวบอยเรื่องแรกของดิสนี่ย์ด้วย ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:02:59

ความคิดเห็นที่ 42 CHICKEN LITTLE (2005) กุ๊กไก่หัวใจพิทักษ์โลก เป็นหนังแอนิเมชั่นเปิดตัวดิสนี่ย์ในมาดใหม่กับการหันมาใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์แบบเต็มตัว ที่สร้างมิติใหม่ให้กับวงการแอนิเมชั่นในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี (หลังจากพิกซาร์ของดิสนี่ย์ก็นำหน้าไปช่วงตัวหนึ่งแล้ว) หนังเรื่องนี้เล่าถึงเจ้าไก่จอมตื่นตูม ที่หลังจากเหตุการณ์ลูกโอ๊ตตกใส่หัวเขาแล้วเขาก็ตีโพยตีพายว่าฟ้าจะถล่ม !!! หนึ่งปีต่อมาเขาก็ยังไม่ย่อท้อ และยังได้เข้าร่วมทีมเบสบอลท้องถิ่นด้วยความตั้งใจที่จะฟื้นฟูชื่อเสียงของตัวเองกลับมา เมื่อเขานำชัยชนะมาสู่เมืองนี้ เขาก็กลายเป็นวีรบุรุษของเมืองขึ้นมาทันที แต่แล้วเหตุการณ์เดิมเมื่อ 1 ปีก่อนก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อมีบางอย่างร่วงใส่หัวเขาอีกแล้ว!!! และครั้งนี้ฟ้ากำลังจะถล่มลงมาจริงๆ ด้วยความกลัวว่าเขาจะถูกกล่าวหาว่าบ้า เขาจึงลังเลที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง แต่กลับขอความช่วยเหลือกับเพื่อนสนิทของเขาแทน โดยเขาสัญญาว่าจะไม่ทำให้ทั่วทั้งเมืองต้องเจอกับความอลหม่านและโกลาหลครั้งใหม่ แต่แล้ว....!!!! ...หนังได้รับคำวิจารณ์เมื่อตอนออกฉายไม่ค่อยดีนัก แต่ในส่วนของรายรับก็ถือว่ากู้วิกฤติวงการแอนิเมชั่นดิสนี่ย์ช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี หนังเก็บรายรับรวมทั่วโลกไป 314 ล้านดอลล่าร์ จากทุนสร้าง 150 ล้านดอลล่าร์ (แพงใช่ย่อยนะเนี่ยะ) แถมในช่วงนั้นเพลงของหนังอย่าง DRAGOSTEA DIN TEI ก็ยังฮิตถล่มทลายอีกด้วย ไปที่ไหนได้ยินมันทุกที่ รวมทั้งแบรนด์เจ้ากุ๊กไก่ ก็กลายเป็นมาสคอตประจำร้านฟาสท์ฟู้ดไปทั่ว !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:06:17

ความคิดเห็นที่ 43 MEET THE ROBINSONS (2007) ผจญภัยครอบครัวจอมเพี้ยนผ่าโลกอนาคต หนังแอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์กราฟฟิคสีสันสดใสที่หลายคนประทับใจ เน้นเรื่องราวความอบอุ่นในครอบครัวและเรื่องราววุ่นวายชวนหัว กับตัวละครที่ขนกันมาเยอะแยะตาแป๊ะไก่มากๆ !!!! หนังมีวลีเด็ดที่ผู้ชมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้นั่นก็คือ Keep Moving Forward - จงเดินหน้าต่อไป !!!! นั่นเป็นสาระสำคัญของหนังที่สอดแทรกเนื้อหาในการพยายามทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จดังที่ใจปรารถนาเอาไว้ โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ลูอิส เด็กชายอัจฉริยะผู้รักในเครื่องยนต์กลไกและมีความหวังที่จะตามหาครอบครัวที่เขาไม่เคยพบหน้าอย่างไม่เสื่อมคลาย แต่การเดินทางของลูอิสกำลังจะพาเขาไปสู่สถานที่ที่แม้ว่าตัวเขาเองยังคาดไม่ถึง สถานที่ที่ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ นั่นก็คือโลกอนาคต !!! เมื่อลูอิสได้พบกับคนแปลกหน้าที่ชื่อ วิลเบอร์ โรบินสัน เขาก็ต้องร่วมผจญภัยข้ามเวลาและได้ไปเจอกับครอบครัวที่ไม่เหมือนครอบครัวไหนๆ ครอบครัวโรบินสันสุดหรรษาแห่งโลกอนาคตนั่นเอง ผู้ที่จะช่วยเขาค้นหาความลับอันน่าอัศจรรย์ใจและสะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของตัวเอง !!! แต่การเดินทางอันเหลือเชื่อของเขา ยังทำให้เขาปะทะกับตัวร้ายที่แม้พวกเหล่าร้ายด้วยกันยังไม่อย่างข้องเกี่ยวด้วย --- หนังมีโมเมนท์ที่น่าประทับใจ และคติสอนใจหลายอย่าง ที่ดูแล้วก็ได้กลิ่นดิสนี่ย์ลอยมาแต่ไกล แต่ภาพนั้นค่อนข้างจะใกล้เคียงกับงานของพิกซาร์ซะเหลือเกิน ~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:06:46

ความคิดเห็นที่ 44 BOLT (2008) โบลท์ : ซูเปอร์โฮ่ง หัวใจเต็มร้อย งานแอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์ของดิสนี่ย์ที่ถือว่าเทคนิคก้าวไกลไปอีกขั้น ด้วยภาพที่รู้สึกว่าออกมาแนบเนียนกว่าเรื่องก่อนๆ รวมทั้งการนำเสนอตัวเองในฐานะแอนิเมชั่นสามมิติ ภาพสวย ดูสนุก ถือว่าเป็นแอนิเมชั่นที่เต็มอิ่มในทุกๆด้าน หนังเล่าเรื่องราวของเจ้าหมาตัวหนึ่งนามว่า โบลท์ ที่ไม่ใช่หมาธรรมดาไก่กาฮานามิ เพราะโบลท์เป็นถึงซูเปอร์ด็อก มันสามารถปล่อยลำแสงออกจากตาได้ เหาะเหินเดินอากาศ มีพลังเหนือหมาตัวอื่นๆ แต่นั่นก็คงจะดี ถ้าไม่ใช่บทบาทที่เขาได้รับในหนัง ซึ่งจริงๆแล้ว มันก็เป็นแค่ตูบธรรมดาตัวหนึ่งเนี่ยะแหละ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้มันคิดไปไกลซะแล้วว่ามันคือยอดตูบซูเปอร์หมา !!!! วันหนึ่งโบลท์ได้หลุดหลงออกมาอยู่ในโลกขอความเป็นจริงในนิวยอร์ค เขาได้พบกับเจ้ามิตเท่นส์ แมวขี้เบื่อและไรโน หนูแฮมสเตอร์จอมป่วน ถึงแม้ว่าทีแรกพวกเขาจะไม่ชอบหน้ากันอย่างแรง แต่ต่อมาเมื่อพวกเขาร่วมทางไปด้วยกัน ทำให้โบลท์ค้นพบว่า มันไม่ได้ต้องการพลังพิเศษในแบบฮีโร่ !!! แต่เป็นมิตรภาพที่แสนดีสำหรับเขามากกว่า --- หนังมีมุมตลก สนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะ ฉากแอ็คชั่นตื่นเต้น และตบท้ายด้วยมุมประทับใจ ภาพหนังสีสวยอย่าบอกใคร เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว บนตารางทำเงินหนังก็ประสบความสำเร็จพอสมควร โดยเก็บรายรับทั่วโลกไป 309 ล้านดอลล่าร์ พร้อมคำวิจารณ์ในแง่บวกอย่างท่วมท้น !!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:07:11

ความคิดเห็นที่ 45 THE PRINCESS AND THE FROG (2009) มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ เมื่อกระแสแอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์มาแรง และหันไปทางไหนก็มีแต่เทคนิคดังกล่าว ดิสนี่ย์เลยขอ Back To Basic ครั้งสำคัญด้วยการกลับไปใช้เสน่ห์เดิมๆของหนังวาดมือในยุค 70 - 90 ด้วยการทำหนังเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าหญิงด้วยเทคนิคการวาดมือแบบฉบับดั้งเดิมอีกครั้ง โดยที่ผลลัพธ์มันก็ออกมาไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจนัก หนังถือเป็นการสร้างตัวละครเจ้าหญิงผิวสีคนแรกของวงการแอนิเมชั่นขึ้นมาอีกด้วย ไม่แน่ใจว่าด้วยเหตุผลนี้มีส่วนหรือเปล่า ที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จไม่ถึงฝั่งฝันเท่าที่ควร หนังใช้เทพนิยายเจ้าชายกบ มาเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาที่เล่าได้อย่างชวนฝัน และสนุกสนาน เกี่ยวกับเจ้าชายนาวิน ผู้เย่อหยิ่งและไม่เคยกังวลอะไร เขาถูกสาปให้กลายเป็นกบโดยนักเวทย์สายวูดู เจ้าชายปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขาจึงต้องตั้งความหวังไว้กับสาวสวยสุดขยันขันแข็งนามว่า เทียน่า ผู้ซึ่งอาจมอบจุมพิตล้ำค่าที่สามารถปลดปล่อยคำสาปนี้ได้ !!! ดูแล้วพล็อตเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเหมือนหนังแนวเทพนิยายทั่วๆไป แต่หนังเรื่องนี้มีดีที่มุกตลกที่แปลกใหม่ และตัวละครที่มาสร้างสีสัน ส่วนในเรื่องของเพลงประกอบก็เพราะตามสไตล์ แต่ดันไม่กลายเป็นที่พูดถึง --- ในเรื่องของรายรับ หนังเป็นเจ้าของทุนสร้าง 105 ล้านดอลล่าร์ แต่เก็บเงินไปบ้านไป 104 ล้านดอลล่าร์ ดีที่มีรายได้นอกบ้านมาช่วยไว้ เพราะรวมๆทั่วโลกแล้วหนังกวาดไปถึง 267 ล้านดอลล่าร์ทีเดียว แต่เห็นแบบนี้แล้ว (ปีนี้ดิสนี่ย์ก็มีหนังวาดมือออกฉายด้วยกับการกลับมาของ Winnie The Pooh ซึ่งล้มเหลวทันทีที่ออกฉาย) จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:07:58

ความคิดเห็นที่ 46 และเรื่องล่าสุด.... ...... TANGLED AKA RAPUNZEL (2010) ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ หลังจากความล้มเหลวของ Princess And The Frog ดิสนี่ย์ขอสู้อีกครั้งกับการนำชีวิตเจ้าหญิงมาขึ้นจอ แต่คราวนี้เป็นรายที่เราๆท่านๆรู้จักกันดี เพราะเคยได้ยินนิทานเกี่ยวกับเจ้าหล่อนมาตั้งแต่ยังแบเบาะ กับเรื่องราวของเจ้าหญิงราพันเซลผมยาวที่ถูกขังอยู่บนหอคอยรอวันเจ้าชายมาช่วยชีวิต แต่พล็อตดังกล่าวก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนใหม่ เมื่อดิสนี่ย์อยากได้อะไรที่มันหวือหวากว่านี้ ก็เลยกลายมาเป็นเรื่องราวที่วุ่นวาย และดูสนุกขึ้น เมื่อพระเอกของเรื่องไม่ใช่เจ้าชาย แต่กลายเป็นจอมโจรแทน และเจ้าหญิงราพันเซลที่แสนอ่อนหวานนั้น ก็กลายมาเป็นสาวนักบู๊สู้คน นั่นถือว่าเป็นเสน่ห์ของแอนิเมชั่นเรื่องนี้ที่ทำให้ดูสนุกมากขึ้น และไม่ติดกับสูตรสำเร็จที่เคยมีมาของการ์ตูนดิสนี่ย์แนวเจ้าหญิงจนเกินไป ....หนังมีฉากหลายฉากที่สวยงามและสร้างมาเพื่อการฉายในระบบทรีดีโดยเฉพาะ มีมุกตลกที่สอดแทรกมาได้ถูกที่ถูกเวลา ตัวละครแต่ละตัวก็ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเติมเต็มและเดินเรื่องราวให้กับหนังอย่างลงตัว !!!!! ...ถือเป็นแอนิเมชั่นในยุคหลังๆของดิสนี่ย์ (ไม่เอี่ยวกับพิกซาร์) ที่ดูสนุกเอามากๆ ดูไปยิ้มไป ที่สำคัญเพลงเพราะมากด้วยยยยย !!!! ในส่วนของรายรับ หนังมีทุนสร้างที่สูงลิ่วมว๊าากกกกในระดับ 260 ล้านดอลล่าร์ (โอ้วเห็นแล้วลมแทบจับ) เพราะฉะนั้นถ้าจะนับรายได้แต่ในบ้าน หนังก็ถือว่าล้มเหลว เพราะเก็บในอเมริกาไป 200 ล้านดอลล่าร์ แต่ถ้านับรายรับทั่วโลกแล้ว หนังถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเพราะเก็บไป 590 ล้านดอลล่าร์ทีเดียว !!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:09:15

ความคิดเห็นที่ 47 หมดแล้วค้าบบบ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:09:27

ความคิดเห็นที่ 48 หลังยุคThe Lion King  ก็เพิ่งมี Rapuzel นี่แหละที่ผมเรียกได้ว่าโคตรสนุก โคตรปลื้มของ Disney เลย นับๆดูไม่ใช่เล่นๆ 16 ปีเชียวนะที่ไม่ได้มอบใจให้หนัง disney แบบทั้งดวงแบบนี้ แต่ก็ยังหวัง ยังศรัทธาใน Disney  ขอให้ Rapunzel เป็นเหมือนโครมลอย ที่เปร่งแสงสว่างไสว เป็นหนทางนำทาง ให้หนังเรื่องอื่นๆที่จะตามออกมา ได้เป็นเหมือนโครมที่ส่องแสงสวยงาม ลอยตามๆกัน ดังฉากโครมนับร้อยนับพัน ใน Rapunzel ที่เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคน   แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 02:22:01 จากคุณ : จันทร์เจ้าเท้าปุย เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:21:08

ความคิดเห็นที่ 49 แปะไว้ก่อน อ่านไม่หมด จากคุณ : i love johnny depp เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:22:11

ความคิดเห็นที่ 50 เรียงตามความชอบ หลังจากที่ดูมาทั้งหมด 5 อันดับ 1. Aladdin 2. Rapunzel 3. Emperor's New Groove 4. Alice In Wonderland 5. The Lion King ~*_*~ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:28:09

ความคิดเห็นที่ 51 ของผม 1. The Lion King 2. Rapunzel 3. Beauty and the Beast 4. Aladdin 5. ไม่อยากตัดสิน ^^  Little Mermaid / The Hunchback of Notre Dame จากคุณ : จันทร์เจ้าเท้าปุย เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:37:23

ความคิดเห็นที่ 52 THE SWORD IN THE STONE (1963) THE JUNGLE BOOK (1967) ROBIN HOOD (1973) 3 เรื่องนี้เพิ่งทิ้งม้วนวีดีโอไปเมื่อปี-สองปีก่อน (ปลวกขึ้น+เครื่องวิดีโอที่บ้านถึงแก่กรรม เลยไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม - -. ) จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:38:37

ความคิดเห็นที่ 53 เราชอบหนังยุค 90 นะ โตมาช่วงนั้นเลย ส่วน THE PRINCESS AND THE FROG เป็นเรื่องที่เรา(เคย)รอคอย เพราะชอบภาพแบบนี้มากกว่า ภาพสวย เนื้อเรื่องพอไปได้ น่าจะดี ...แต่ไม่ชอบ คหสต. เป็นเพราะเจ้าชายค่ะ ไม่เกี่ยวกับเจ้าหญิงเลย เจ้าชายน่าโดนตบกะโหลกมาก เราดูจบแล้ว (ถึงแม้ว่าตอนหลังเจ้าชายจะดีแล้ว) แต่เราแอบคิดว่าผู้ชายดีๆในโลกหายากขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แม้แต่ในการ์ตูนผู้ชายดีๆยังหายากเลย จากคุณ : ธราธาร เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 03:02:16

ความคิดเห็นที่ 54 รู้สึกคล้าย ๆ คุณจันทร์เจ้าเท้าปุยเลย ตอนเด็ก ๆ ได้ดูไลอ้อนคิง, โฉมงามฯ ฯลฯ แล้วรู้สึกประทับใจมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องเจ้าชายอาเธอร์นี่ชอบฉากที่เมอร์ลินแปลงร่างสู้กับมาดามมิมมาก ๆ ตอนเด็ก ๆ ถึงกับเปิดวิดีโอแล้วกรอไปดูซีนนี้ซีนเดียว (ซีนเดียวกันกับที่ขึ้นในโปสเตอร์ คห.15 เลยครับ สุดท้ายมิมแปลงเป็นมังกรแต่เมอร์ลินฉลาดกว่า พลิกกลับมาชนะได้แบบสุดยอดมาก ๆ) แต่หลังจากคนค่อมฯผมก็รู้สึกเหมือนการ์ตูนดิสนีย์สนุกน้อยลง (ยกเว้น Fantasia 2000 ที่หลายตอนมันสนุกมากสำหรับผม) แรกก็คิดว่าเป็นเพราะตัวเองโตจนพ้นวัยที่จะดูดิสนีย์แล้ว แต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะพอหาดัมโบกับแบมบี้มาดูก็รู้สึกว่ามันสนุกอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งลาพันเซลนี่แหละที่รู้สึกอิ่มกับการ์ตูนดิสนีย์อีกครั้ง รักดิสนีย์จริง ๆ จากคุณ : ยุวปัญญ์ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 04:56:24

ความคิดเห็นที่ 55 เรื่องแรกที่ได้ดูก็ The Lion King นี่แหละ แล้วก็ย้อนไปดูอลาดิน ช่วงเด็กๆ ติดการ์ตูนของดิสนีย์มาก โดยเฉพาะอลาดินต้องตื่นขึ้นมาดูแต่เช้า ส่วน The Hunchback of Notre Dame ดูครั้งแรกด้วยความที่ยังไม่โตเลยรู้สึกว่า การ์ตูนบ้าไรฟระไม่สนุกเลย แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้มีโอกาสได้ดูอีกครั้งพบว่าความรู้สึกต่างไปมากเลยค่ะ เหมือนจะอินและซึมซับอารมณ์ได้มากขึ้น มีคุณค่ามากกว่าที่เคยคิดไว้จมเลย จากคุณ : cloveruntitle2 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 09:01:41

ความคิดเห็นที่ 56 ยุค 90 เป็นยุคที่ประทับใจการ์ตูนของดิสนี่ย์ที่สุดแล้วล่ะ โดยเฉพาะอะลาดิน เพลงเพราะชะมัดเลย~ จากคุณ : Blue_Sphere เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 09:24:17

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณ จขกท มากค่ะ จริงๆ  เราชอบการ์ตูนที่เป็นการ์ตูนมากกว่าแอนิเมชั่นมากมาย   เลยชอบการ์ตูนรุ่นก่อนของวอลท์ดิสนี่ทุกเรื่องเลยค่ะ แต่ที่ชอบมากที่สุดคือชุดเจ้าหญิงค่ะ  ทั้งเมอร์เมด  บิวตี้แอนด์เดอะบีส  อลาดิน จากคุณ : lovelypinky เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:49:43

ความคิดเห็นที่ 58 ชอบ Princess And The Fog จากคุณ : rabbit hole เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:01:10

ความคิดเห็นที่ 59 อยากให้เอาการ์ตนเก่าๆ มาทำเป็น 3D animation จากคุณ : bglite เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 12:36:36

ความคิดเห็นที่ 60 อยากโหวตจัง ?? เราว่ากระทู้นี้ เข้าแก่นบันเทิง ในห้องเฉลิมไทย สมควรโหวตขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ ดีกว่หลาย ๆ กระทู้ที่แนะนำอยู่ตอนนี้อีก แต่อย่างว่านะ ถ้าไม่โดนใจคนส่วนมาก มันก็ยากเต็มที  ..... จากคุณ : Ultr@_PerioD (Moonlight-Eclipse) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 16:23:05

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณมากๆนะคะ  ..พึ่งรู้สึกว่าตัวเองดูไปเยอะมากเหมือนกัน โตมาด้วยกัน ^ ^ จากคุณ : momo lawleit เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 16:52:23

ความคิดเห็นที่ 62 #41 Home on the range เราชอบเพลงประกอบมากเลยค่ะ เพลงนี้น่ารักมาก ๆ ร้องโดย kd lang จากคุณ : แมวน้ำทะเลเดือด เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 17:46:43

ความคิดเห็นที่ 63 จาก Home on the range อีกเพลงค่ะ เหงา ๆ เศร้า will the sun ever shine again โดยbonnie raitt เรื่องนี้เพลงเพราะติดหูดีนะคะ เสียดาย ไม่ดังในบ้านเรา จากคุณ : แมวน้ำทะเลเดือด เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 17:50:54

ความคิดเห็นที่ 64 ชอบยุค 90 เหมือนกันค่ะ ได้ดูเยอะหน่อย แล้วก็เรื่องราวของเหล่าเจ้าหญิง ชอบที่สุดก็สโนไวท์ เพราะเป็นเรื่องแรกที่ได้ดู แล้วก็จะดูซ้ำบ่อยมากกกก เวลาดูก็จะกินแอปเปิ้ลไปด้วย ^^ จากคุณ : MeawSusan เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 19:27:23

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่น่าเชื่อว่าเคยดูหมดทุกเรื่อง ยกเว้น The Princess and the frog ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ :) จากคุณ : อาลุปากะน้อย เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 19:40:46

ความคิดเห็นที่ 66 ถึงแม้ว่าการ์ตูน Disney มีทั้งยุคขึ้นและลง แต่หลายเรื่องก็สวยงามและสร้างความประทับใจให้ผู้คนจดจำได้ไม่น้อย เราโตมากับพวกการ์ตูน Disney โดยเฉพาะ Disney Princess ชอบแนวนี้มาก ชอบอ่านพวกนิทาน เพราะชวนฝัน ดูแล้วเพ้อ แต่แนวอื่นก็ชอบ อย่าง The Lion King มีสีสัน ประทับใจมากๆ ยังเก็บ VDO ไว้อยู่เลย ทั้งๆที่เสียงไม่ดีแล้ว บางเรื่องที่ตอนดูครั้งแรกแล้วรู้สึกเฉยๆ แต่พอดูอีกรอบแล้วชอบมากๆ อย่าง The Hunchback of Notre Dame หรือบางเรื่องที่ไม่ดัง อย่าง Treasure Planet เราก็คิดว่าสนุกมากๆนะ แต่ตอนโตมาแล้วเนี่ย ชอบ Peter Pan จริงๆ ตอนเด็กๆก็ดูสนุก ไม่ได้คิดอะไร แต่มาดูตอนโตแล้วอยากไป Neverland เราคงเป็น Peter Pan Syndrome มั้ง ฮ่าๆๆ เพลงประกอบก็เป็นเสน่ห์ของการ์ตูน Disney แต่ละเพลงเพราะมากๆ ส่วนตัวชอบแนวเพลงเก่าๆเป็นพิเศษ ชอบเสียงร้องแบบ Snow White and the Seven Dwarfs / Cinderella / Sleeping Beauty แต่ล่าสุดเพลง I See the Light ก็ไพเราะและ romantic มากๆ สรุปว่าชอบทุกเรื่องที่ได้ดูมาเลยค่ะ :) จากคุณ : Reinz (Xiii) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 22:14:43

ความคิดเห็นที่ 67 ชอบ เจ้าหญิง - เจ้าชาย ของดิสนีย์ ทุกเรื่อง เลยค่ะ ^^ จากคุณ : แสงเทียนกับใบไม้ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 22:44:41

ความคิดเห็นที่ 68 ขอคาราวะ เจ้าของกระทู้ คุณขยัน ทำการบ้านดี และมีข้อมูลมาแบ่งปันเสมอ อยากให้เฉลิมไทยมีกระทู้อย่างนี้เยอะ ๆ ไม่ได้มีแต่กระทู้ว่าใครสวยกว่าใคร ใครหล่อกว่า ใครแฟนคลับเยอะกว่า Blah Blah Blah พวกนี้ทำเอากระทู้ ๆ ดี ๆ หายไปจากหน้ากระทู้หมด จากคุณ : ยามเมื่อลมทะเลพัดผ่านมา (BOWEE_TUSW) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 14:42:42

ความคิดเห็นที่ 69 บางเรื่องเคยดูตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่รู้ว่า สร้างมาหลายสิบปี ก่อนเราเกิดอีก -_-' บางเรื่อง ก็ไม่เคยรู้เลยครับ ว่า นี่ Disney เคยสร้างด้วยเหรอ? ขอบคุณ จขกท ที่แบ่งปันครับ ^ ^ จากคุณ : Kunetzov เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 16:21:27

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านแล้วนึกถึงตอนเด็กๆเลยค่ะ ชอบอ่านกระทู้ของคุณ Filmzlap มากอ่ะ มีแต่กระทู้ดีๆ ขอบคุณนะคะที่เอามาแบ่งปัน :D จากคุณ : หมูผัดปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 16:33:07

ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อวานซืนเพิ่งเจอดีวีดีมาสเตอร์เรื่องดาบในหินกับโรบินฮู้ดมาค่ะ สอยมาเรียบร้อยแล้ว ดีใจสุดๆ เพราะวิดีโอขึ้นราไปหมดแล้ว เครื่องเล่นก็พังไปชาติกว่าเสียดายการ์ตูนเก่าๆ ที่สะสมไว้ตั้งแต่เด็กๆ เลยเอาออกมาดูไม่ได้ จากคุณ : Angle Lily เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 17:06:32

ความคิดเห็นที่ 72 เจ้าหญิงกบ และเจ้า่หญิงราพันเซล เป็นหนังแนวเจ้าหญิงสองเรื่องที่ทำได้สนุกดีนะครับ ดูแล้วยิ้มทั้งเรื่องกับมุขตลกกวนๆ แต่ถ้าเรื่องที่ตลดที่สุดผมยกให้ the Emperor's new Groove จากคุณ : จ้องจนปวด เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 17:35:49

ความคิดเห็นที่ 73 ตังใจเข้ามาให้ Give กับ Beauty and the Beast โดยเฉพาะ เพราะรักการ์ตูนเรื่องนี้มาก จากคุณ : Beauty and the beast เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 17:53:04

ความคิดเห็นที่ 74 เคยดูตอนเด็กๆเกือบทุกเรื่องเลย เพราะพ่อซื้อวีดีโอมาสเตอร์แบบที่เป็นกล่องๆไว้ให้เพียบ ตอนนี้ไม่มีเครื่องเล่นแล้ว แต่ยังจำทุกเพลงประกอบฯได้เสมอ เพราะมากกกก -แก้คำผิด- แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 18:10:28 จากคุณ : glasses joker เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:09:03

ความคิดเห็นที่ 75 แบบนี้แหละคะคู่ควรกระทู้แนะนำ ่ส่วนตัวตอนเด็ก ๆ เคยดู ปีเตอร์แพน กระโดดบนเตียงฝันจะบินได้เหมือนเด็ก ๆ ในเรื่อง 101 เจ้าตูบก็ดูแบบปลื้มมากเพราะรักหมาเป็นทุนเดิม อลาดินนี่ไม่ต้องให้พูดเปิดวีดีโอ (สมัยนั้น ) ดูซ้ำไปซ้ำมา ดูตอนที่พี่เบิร์ดออกมาร้องเพลงท้ายวีดีโอด้วย จำได้แม่นเลยว่าเพลงเพราะมากกกกก หลัง ๆ ผลงานดิสนีย์ก็ไม่เข้าตาเท่าที่ควร ส่วนตัว princess and the frog เป็นการ์ตูนยุคหลังของดิสนีย์ที่ทำให้เราคิดถึงความเป็นดิสนีย์ที่สุดเพราะเป็นการตูนวาดมือ + เพลงเพราะ และชวนให้คิดถึงสมัยเด็ก ๆ มาก สรุปเรารักการ์ตูนดิสนีย์ และอยากสะสมให้ครบทุกเรื่อง แต่หายากมากกกกกก เพราะบางเรื่องเรายังไม่คุ้นว่ามีด้วยซ้ำ จากคุณ : RxtacTop เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:18:06

ความคิดเห็นที่ 76 ชอบLilo and stichอะ ดูแล้วอบอุ่นดี(ชอบแค่ภาคแรก ภาคหลังๆไม่ค่อยประทับใจเท่าไร-*-) ส่วนเรื่องเจ้าหญิงกบที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรอาจจะเพราะว่าผิวสีด้วยส่วนหนึ่ง(แต่โพคาฮอนทัสก็แอบคล้ำๆเหมือนกันนะ?)  กับการที่เจ้าหญิงเรื่องนี้โชว์ความงดงาม(ของหน้าตาและรูปร่าง)ไปแค่ครึ่งเรื่อง ส่วนอีกครึ่งเรื่องกลายเป็นกบไปซะงั้น จากคุณ : น้องตีปสุดหล่อข้ามทางช้างเผือก เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:19:52

ความคิดเห็นที่ 77 ขาดเดอะทิดเกอร์ มูฟวี่หรือเปล่า จากคุณ : jajamoon เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 18:46:36

ความคิดเห็นที่ 78 สุดยอดมากกระทู้นี้ ขอคารวะเจ้าของกระทู้เลย  ในความทรงจำของเรา  peakสุดของดิสนีย์ก็คือ ไลออน คิง ดูในโรงวิสต้ากาดสวนแก้วที่เชียงใหม่ ประทับใจสุดๆ   (แต่พอเอามาดูเป็นแผ่น หลังจากผ่านอีกอีกสิบกว่าปี กลับเฉยๆแฮะ) เรื่องthe many adventure of winnie the poohกลับเป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุด ได้แผ่นมาด้วยความบังเอิญ มีแต่เสียงอังกฤษ sub eng      แต่ดูสนุกเพลิดเพลินมาก (ดูแล้วทำให้ไปเล่นเครื่องเล่นบ้านหมีพูห์ ในดิสนีย์แลนด์ ได้อินยิ่งขึ้น) ส่วนเจ้าหญิงกบ โดนส่วนตัวเราว่าสนุกดีนะ เนื้อหาดีมากๆ แต่ก็ไมไ่ด้ประทับใจไรมาก เรื่องภาพก็คงมีส่วน  และเรื่องล่าสุด ราพันเซล  สนุกมาก ภาพงามขั้นเทพ นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หยิบมาดูซ้ำซากได้หลายครั้ง จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 19:16:07

ความคิดเห็นที่ 79 เข้ามาดูกระทู้นี้กล้าพูดได้เลยว่าเป็นคนนึงที่โตมากับการ์ตูนดิสนี่ย์จริงๆ หลายเรื่องๆยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอมา หลายเรื่องทำเอาน้ำตาแตก แหลกลานขนาดว่ามานั่งดูตอนนี้ก็ยังไม่วายน้ำตาคลอ แต่รักที่สุดบ้าที่สุด สำหรับเราคงไม่พ้น The Lion King จริงๆ เป็นการ์ตูนที่ทำให้เราร้องไห้ได้ มากที่สุดเลยกว่าว่าได้ ตอนเด็กดูไม่รู้กี่สิบรอบ พอฉากมุฟาซ่าตายทีไร น้ำตาไหลทุกที เพลงทุกเพลงร้องตามได้ โดยเฉพาะ Circle of Life ที่ฟังทีไรก็ขนลุกทุกที และที่ขาดไม่ได้คือ Hakuna Matata ทีทุกวันนี้ก็ยังร้องได้ติดปาก ส่วนเรื่องประทับใจอื่นๆอย่างเพื่อนแท้ ในป่าใหญ่นี่ขอบอกว่าทำน้ำตกไม่รู้กี่ครั้ง ในขณะที่ดูเจ้าหมา 101 ทำเอาตอนเด็กร้องไห้เพราะอยากเลี้ยงเจ้าหมาลายจุดนี้มากๆซะด้วย ประทับใจจริงๆ จากคุณ : konomi เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 19:31:04

ความคิดเห็นที่ 80 ชื่นชอบงานของ Disney มาก มันมีความเป็นเอกลักษณืที่เวลาดูแล้วรู้ว่านี่แหละหนังดิสนีย์ ที่จขกท. นำมาย้อนให้ดู ตกใจมากนี่เราเคยดูเกือบ70 เปอร์เซ็นเลยรึเนี่ย 5555555 ส่วนตัวก็ประทับใจหลายๆเรื่องเลยบางเรื่องอย่างมู่หลาน , Lion King , meet the robinsons , sleepy Beauty นี่หยิบมาดูไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ อิอิ ปล. รูปแคปจากเรื่อง meet the robinsons ชอบคำกล่าวนี้มาก จากคุณ : Tarsier เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 19:39:32

ความคิดเห็นที่ 81 Dumbo น่าจะเป็นเรื่องแรกเลยมั้งที่เราเสียน้ำตาให้ ซึ้งมากๆ >< จากคุณ : ฉันไม่ใช่ผึ้ง เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 19:42:29

ความคิดเห็นที่ 82 MEET THE ROBINSONS  ชอบเรื่องนี้มากครับ ดูหลายรอบมาก เพลงประกอบเพราะดี เนื้อหาสนุกครับ จากคุณ : แขม่วแมน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 20:08:42

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณ จขกท มากๆค่ะ เราผูกพันกับดิสนีย์มาตั้งแต่จำความได้ จนบัดนี้ก็ยังเหนียวแน่นอยู่ ถ้าให้เลือกเรื่องที่ชอบที่สุด คงไม่ได้ เพราะชอบทุกเรื่องเท่าๆกัน เดี๋ยวนี้ถ้ามีเวลาก็จะหยิบการ์ตูนดิสนีย์ขึ้นมาดู มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนเด็กๆ แต่มุมมองต่อการดูแล้วนำมาคิดได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ว่า ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือ เรากลัว ครูเอลล่า เดวิล มากๆค่ะ ^^" จากคุณ : Cindecruella เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 20:13:40

ความคิดเห็นที่ 84 new groove ฮามากกกก ดูจนท่องได้เลย อีกเรื่องคือ brother bear เรื่องนี้ทำซึ้ง แล้วก็ชอบเพลงประกอบฯมากครับ จากคุณ : mello man เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 20:32:07

ความคิดเห็นที่ 85 ชอบ The Lion King / Beauty and the Beast / Aladdin / Lilo & Stitch / Hercules / Tarzan / Brother Bear :) จากคุณ : Olorin เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 20:42:44

ความคิดเห็นที่ 86 ชอบ The Hunchback of Notre Dame ที่สุดค่ะ จากคุณ : KCPT เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 21:23:01

ความคิดเห็นที่ 87 ตอนน้องสาวเด็กๆ ดูปีเตอร์แพนวันล่ะ 3-4รอบ พูดตามได้ทุกประโยค เหมือนร้องเพลง = =' ชอบเอามากๆ จากคุณ : ปังปอนด์ป่วน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 21:23:26

ความคิดเห็นที่ 88 สุดๆ เลย ต้อง The Lion King และอีกหลายๆ เรื่อง...Aladdin - Tarzan - Tangled - Beauty and the Beast - Hercules - The Emperor's New Groove ...อีกมากมาย...  ตอนนี้เริ่มกลับมาคลั่ง Disney อีกรอบ มีความสุขจัง จากคุณ : beetlebee เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 21:26:20

ความคิดเห็นที่ 89 [ซ้ำ] แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 21:29:25 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 21:28:48 จากคุณ : beetlebee เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 21:26:37

ความคิดเห็นที่ 90 เราได้แรงบันดาลใจมากมายมาจากเค้าเหล่านี้... จากคุณ : Tinkerbell (*TinkerBella) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 21:33:45

ความคิดเห็นที่ 91 ผมเกลียดคุณ Filmzlap มากอะ ปล้นกิ๊ฟผมไปหลายกระทู้มากกกกกกกกกกก เข้ามากระทืบกิ๊ฟให้ Lion King เป็นหนังเรื่องแรกที่ดูในโรงแล้วร้องไห้ T_T List สำหรับผมก็ 1. Lion King - สุดยอดงานอนิเมชั่นทั้งความสนุก ซึ้ง เศร้า เคล้าระทึก 2. Aladdin - สนุกมากมาย ชอบเพลงเป็นการส่วนตัว 3. Rapunzel - คนรอบตัวชวนดู พอดูเข้าจริงๆ หนังสนุกมากกกกกกกกก 4. Hercules - สีสันสดใส เนื้อเรื่องครื้นเครง 5. Dumbo/101 Dalmatians/Lady and the Tramp/Jungle Book/The Rescurer ภาพความจำอันรางเลือน ชวนคิดถึง จำได้เพียงว่าเพลิดเพลินกับมันเพียงใด จากคุณ : blacksmith เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 22:06:53

ความคิดเห็นที่ 92 ...ทุกครั้งที่ดูการ์ตูนของดิสนีย์ จะรู้สึกเหมือนว่าการ์ตูนพึ่งทำฉายเมื่อวานนี้ตลอดเลย  คือไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นการ์ตูนตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเกิดเลย จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 22:31:26

ความคิดเห็นที่ 93 เยอะมาก สมัยก่อนชอบดูการ์ตูนดิสนีย์ พวกเทพนิยายต่างๆ สมัยเป็นวีดีโอเลย ชอบจัง จากคุณ : ratmo_11 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 22:32:36

ความคิดเห็นที่ 94 ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ชอบเลยจริงๆสำหรับดิสนีย์ จากคุณ : Chalinee_1385 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 22:48:14

ความคิดเห็นที่ 95 ทั้งหมดในกระทู้นี้ ไม่เคยดูแ่ค่ 2 เรื่องเอง! O_O โตมากับการ์ตูน Disney จริงๆ อันไหนไม่มีภาคไทย จะเป็น sound track ไม่มีซับก็ดู แปลกเนอะตอนเด็กๆดูรู้เรื่องได้ไงไม่รู้ = =" แล้วเรื่องไหนที่ชอบจะดูไม่ต่ำกว่า 10 รอบ O____o ขอวิจารณ์เป็นเรื่องๆเท่าที่นึกออก Lion King <<<เรื่องนี้ชอบที่สุด เข้าขั้นบ้า ไม่ได้ดูธรรมดานะ อัดใส่เทปไว้ฟังด้วย บ้าไม๊ละนั่น จนขนาดจำ dialog ในเรื่องได้หมด (จริงๆนะคะ ไม่ได้โม้ - -") อาละดิน<<<เป็นเรื่องที่บ้ารองลงมาจาก Lion King เสียดายที่ภาคต่อมันไม่สนุกเลย THE THREE CABALLEROS (1944)<<<เรื่องนี้เก่ามากมี VDO ด้วย  = =" ช่วงท้ายๆเรื่องมันจะมีกราฟฟิกมึนๆไงไม่รู้บอกไม่ถูก ตอนเด็กดูแล้วรู้สึกเหมือนโดนสะกดจิต SNOW WHITE <<<เป็นนางเอกที่เด็กที่สุดเลยมั้ง ตอนที่รู้นี่แบบ ห๊าาา 13!!! เรายังเล่นโดดยางอยู่เลย เหอะๆ เรามี snow white ver uncut ด้วย มันมีบางฉากที่พอเข้าโรงไปแล้วไม่มี(แต่ตอนนี้เป็นอาหารปลวกไปแล้วเช่นกัน) PETER PAN (1953)<<<ชอบเวลากัปตันฮุกเจอจระเข้ติ๊กตอก ฮามากกกก LADY AND THE TRAMP (1955) <<< เคยตื้อแม่ให้ทำสปาเกตตี้ให้กิน แล้วต้องสูดเส้นเหมือนเจ้าตูบด้วยนะ 555 SLEEPING BEAUTY (1959)<<<ชอบฉากที่นางฟ้าแย่งกันเสกชุดให้เจ้าหญิงออโรร่า แล้วก็สั่งให้ไม้กวาด กวาดบ้านเอง!!! THE RESCUERS (1977)<<< เราชอบภาค The Rescuers Down Under มากกว่านะ DUMBO (1941) <<< ไม่ชอบช่วงที่ดัมโบ้เมาเลยอ่ะ กราฟฟิกมึนๆอีกแล้วดูแล้วเหมือนเมาตาม *___* The Wind And The Willows <<<ไม่ชอบเลย ดูไม่รู้เรื่อง The Legend of Sleepy Hallow <<<ชอบมาก พูดถึงเรื่องตำนานผีหัวขาด ตาครูบ้านนอกนั่นผอมก้างแต่กินเก่งมากๆ แข่งกันจีบสาวกับจิ๊กโก๋ในหมู่บ้าน แต่สุดท้ายก็แห้ว THE SWORD IN THE STONE (1963) <<<ผจญภัยสนุกๆๆๆๆ ชอบตอนที่ตัวเอกแปลงร่างเป็นโน่นเป็นนี่ THE LITTLE MERMAID (1989)<<<< แม่มดปลาหมึกยักษ์นี่เป็นพี่น้องกับผีเสื้อสมุทรของไทยเรารึเปล่า?? หุ่นเดียวกันเด๊ะ 555 BEAUTY AND THE BEAST (1991) <<<ชอบฉากเต้นรำมากกกก เพลงเพราะ POCAHONTAS (1995)<<< ชอบมากกกก ตอนนั้นดูแล้วเพ้อ จอห์นสมิทหล่อมาก THE HUNCHBACK OF NOTRE DAME (1996)<<<ดูแล้วเศร้าแปลกๆ สงสารควอสิโมโด้ ส่วนอีตาพ่อมดหื่นมากบอกว่าเกลียดยิปซีจะจับนางเอกมาเป็นเมียซะงั้น HERCULES (1997)<<< ฮามาก ยิงมุกทั้งเรื่อง แต่ไม่ชอบหน้าตานางเอกเรื่องนี้เลยแหะ MULAN (1998)<<< ชอบฉากที่มู่หลานตัดสินใจหนีไปเป็นทหาร ภาพสวยสุดๆ ดนตรีงี้เร้าใจมาก BROTHER BEAR (2003)<<<ชอบหมีน้อยโคด้า น่าร้ากกกกกกกกกก ชื่อข้าคือ โคคคคคคคคคค ด้าาาาาาาาา TANGLED AKA RAPUNZEL (2010)<<<ชอบพระเอก >////< ตัวการ์ตูนที่ชอบที่สุดของ Disney คือโดนัลดั๊ก พากย์ได้เทพมาก พากย์ได้ไงเสียงเป็ด 555 สุดท้ายนี้ขอบคุณจขกท.มาก จากใจจริง ที่ทำให้เราย้อนถึงสมัยเด็กๆ คิดถึงจังเลย ว่าแล้วก็อยากดูอีก >______< แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 23:02:28 จากคุณ : *~YUKI-KUNG~* เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 23:01:16

ความคิดเห็นที่ 96 เพลงนี้แหละทีติดหู  และเจ้าไก่เต้นได้ใจมาก 555 จากคุณ : อาจจะแก่ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 23:28:38

ความคิดเห็นที่ 97 นึกว่าตัวเองดูการ์ตูนดิสนีย์มาเยอะ แต่ที่จริงก็แค่ราวๆ 1/3 เองหรือนี่ =[]=''' อ่านๆมาจนถึงแถวๆไลออนคิง ยิ่งมาถึงแถวๆมู่หลานแล้ว แอบรู้สึกว่าไม่อยากเลื่อนเมาส์ลงมาดูต่อยังไงก็ไม่รู้ อยากให้ดิสนีย์เฟื่ีองฟูเหมือนยุคก่อนหน้าปี 2000 แต่ทุกอย่างมีแจ้งเกิดก็ต้องมีดับ มีขาขึ้นก็ต้องมีขาลงสินะ ................ (เอาเถอะ อย่างน้อยล่าสุดนี่ก็ถือว่ากู้เรตติ้งกลับมาได้ด้วยราพันเซลแหละเนอะ) ขอบคุณ จขกท. มากๆเลย :) จากคุณ : lonea เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 23:55:28