Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[SPOILER!!!] World Embryo ตอนที่ 67 - โลกที่เชื่อมถึงกัน... -{แตกประเด็นจาก A10794304} ติดต่อทีมงาน

กลับมาพบกับ Spoil World Embryo ประจำเดือนกันอีกครั้งนะครับ

เนื่องจากตอนนี้มีการตัดฉากข้ามไทม์ไลน์ค่อนข้างเยอะ ดังนั้น สำหรับตอนนี้ผมจะไม่เขียนสรุปแบบตัดฉากตามที่อ.โมริยามะตัดไว้ แต่จะสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามไทม์ไลน์เป็นเส้นตรงไปเลย ท่านใดอ่านตัวดิบมาแล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ เรื่องการตัดฉากก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ

ว่าแล้วก็เชิญชมเนื้อเรื่อง Spoil ของตอนนี้กันได้เลยครับ :)





เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่ริคุกับพวกชุมนุมธง (หน่วยลงทะเบียนสำรอง) ตระเวณไปดูคนไข้อาการลอสต์รีบาวด์ แล้วโดน "ศพเดินได้" ที่ไม่ใช่คังชุตรงเข้าเล่นงาน โดยหลังจากจัดการกับศพเดินได้ดังกล่าวแล้ว พวกริคุก็รีบรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทางหน่วยย่อยทราบทันที ฝ่ายสึคิชิโระเมื่อได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขารีบนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับซาโกมิซึ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ F.L.A.G. เพื่อทำการตรวจสอบเป็นการด่วน

ตรวจสอบได้พักหนึ่ง (โดยอาศัยข้อมูลจากการตรวจสอบ "กองภูเขาทีวี" หรือ "วงจรดักของคาราซาว่า" ร่วมด้วย) ซาโกมิซึก็ได้คำตอบเกี่ยวกับศพเดินได้เหล่านั้น ว่าแท้จริงแล้วก็คือสิ่งที่เรียกว่า "ร่างเปล่า" (อุโระ) นั่นเอง

"ลองดูนี่สิ" ซาโกมิซึว่าพลางส่งภาพของบางอย่างซึ่งคล้ายเซลล์ประสาทกำลังกระจายตัวในเนื้อเยื่อบางอย่างให้กับสึคิชิโระผ่านทางอินเตอร์เน็ต พร้อมอธิบายว่า ภายในของซากศพซึ่งเวลาตายไม่ตรงกับความเป็นจริงที่พบก่อนหน้านี้ (ราวๆ ตอนที่ 30 เล่ม 4) นั้น ดูเหมือนจะมีสายใยบางอย่างเชื่อมโยงกับวงจรดักของคาราซาว่า ซึ่งเมื่อมองดูดีๆ แล้ว สายใยเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับ "ไซแนปส์ (จุดประสานประสาท) ในสมอง" ไม่มีผิด

"ว่าง่ายๆ วงจรพวกนี้ก็คือเครือข่ายขนาดใหญ่ คือโกดังสำหรับเก็บรักษาความทรงจำ" นักวิทยาศาสตร์หนุ่มมาดเซอร์ตะโกนออกมาอย่างลิงโลด พร้อมผุดลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วหมุนตัวติ้วๆ ไปมารอบๆ ห้องราวกับคนเสียสติ "และจากนั้น! แค่ทำการถอดรหัสสัญญาณไฟฟ้าเบาบางที่ไหลเวียนอยู่ภายในวงจรนั้น เท่านี้การแอ็กเซส (เชื่อมต่อ) เข้ากับคลังเก็บความทรงจำก็เรียบร้อย!"

การค้นพบของซาโกมิซึสร้างความตกตะลึงให้กับสึคิชิโระเป็นอย่างมาก ซาโกมิซึเห็นสึคิชิโระตื่นเต้นดังนั้นก็รีบปรามว่าตอนนี้ยังได้แค่ข้อมูลส่วนผิวเผินเท่านั้น ยังเจาะข้อมูลลึกกว่านั้นมากไม่ได้

อธิบายเรื่องความเกี่ยวข้องระหว่างวงจรกับซากศพเหล่านั้นเสร็จ ซาโกมิซึก็อธิบายต่อไปถึงเรื่องของ "ร่างเปล่า" ที่ค้างกันไว้ โดยบอกว่าร่างเปล่าคือตุ๊กตาชักใยที่คังชุระดับ "คาโมงาริ" (คังชุร่างดำที่เคยซัดกับพวก F.L.A.G. ในการต่อสู้ที่หอคอยเศษเหล็ก) สร้างขึ้น ร่างเปล่าพวกนี้ แม้สมองส่วนใหญ่จะตายไปแล้ว แต่สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำอย่าง Hippocampus และ Neocortex กลับยังถูกกระตุ้นให้ทำงานอยู่เพื่อใช้สำหรับเป็นตัวเก็บกักความทรงจำที่รวบรวมช่วงชิงมานั่นเอง

"ดูท่าความทรงจำที่คังชุรวบรวมมาจะถูกเก็บไว้ 'ตรงส่วนนี้' น่ะ" นักวิทยาศาสตร์หนุ่มว่าพลางยกนิ้วขึ้นเคาะขมับของตนเอง "เท่ากับว่าในการเก็บรักษาความทรงจำของมนุษย์ จำเป็นต้องเก็บไว้ในสมองมนุษย์ยังไงล่ะ"

ซาโกมิซึสรุปปิดอย่างลิงโลดที่การค้นพบของพวกริคุทำให้คนของสำนักงานใหญ่ F.L.A.G. อาศัยโอกาสนี้เข้ามาจัดการกับสถานที่ที่พวกริคุเผชิญหน้ากับร่างเปล่าโดยตรงได้ และช่วยให้การวิจัยเรื่องคังชุและวงจรของคาราซาว่าก้าวหน้าไปได้อีกขั้นหนึ่ง

ในขณะที่สึคิชิโระนั้นกลับรู้สึกตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง จริงอยู่ว่าการค้นพบครั้งนี้อาจถือเป็นข้อได้เปรียบกับทาง F.L.A.G. ในเรื่องการค้นคว้าเกี่ยวกับคังชุ แต่ขณะเดียวกัน รายละเอียดต่างๆ ที่ได้รู้เกี่ยวกับร่างเปล่าเหล่านั้น โดยเฉพาะในเรื่องที่ "พวกนี้ไม่ใช่คังชุ ดังนั้นต่อให้ฆ่าไปก็ไม่ถูกลืมเลือนต่างจากคนที่กลายเป็นคังชุซึ่งเมื่อถูกฆ่าก็จะถูกลืมเลือน" กลับทำให้สึคิชิโระรู้สึกสังหรณ์ร้ายอย่างน่าประหลาด

ว่าลักษณะเฉพาะของร่างเปล่าเหล่านี้อาจทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าผู้ใช้จิงกิต้องพบกับอุปสรรคที่หนักหนาเสียยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากับคังชุของแท้เสียอีก...!!

แล้วสังหรณ์ร้ายของสึคิชิโระก็กลายเป็นจริง เมื่อเขาออกคำสั่งให้บรรดาผู้ใช้จิงกิทุกคนกระจายกำลังออกไปตามประกบคนที่ถูกระบุว่าเป็น "ร่างเปล่า" ซึ่งพวกเขาพบตัวด้วยการมองผ่านเคจ ทว่า แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าบุคคลเบื้องหน้าเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว แต่ท่าทางเบื้องหน้าที่เหมือนมนุษย์ธรรมดาทุกระเบียดนิ้ว มีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก และผู้คนรอบตัวเหมือนคนปกติทุกประการราวกับไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าตัวเองตายไปแล้ว ซ้ำเมื่อฆ่าทิ้งก็เหลือศพไว้ไม่สลายไปและไม่ถูกลืมเลือนจากความทรงจำของผู้คน ก็สร้างความกระอักกระอ่วนให้กับเหล่าผู้ใช้จิงกิทุกคนที่ทำหน้าที่คอยติดตาม (และรอคำสั่ง "กำจัด" จากสึคิชิโระ) เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโจที่เพิ่งยิงหัวร่างเปล่าผู้หญิงคนหนึ่งตายต่อหน้าต่อตาเพื่อนทั้งกลุ่ม เพราะร่างเปล่านั้นเกิดบ้าคลั่งกระโจนเข้ากัดคอเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเอา

สุดท้ายเมื่อไม่อาจทำอะไรได้ สึคิชิโระก็ได้แต่กัดฟันสั่งให้จับตาดูเป้าหมายแต่ละคนผ่านทาง GPS ไปเรื่อยๆ จะ "กำจัดเป้าหมายทิ้ง" ได้ ก็ต่อเมื่อเป้าหมายมีทีท่าจะทำอันตรายใครเข้าเท่านั้น โจได้ยินทีแรกก็คัดค้านว่ารอให้ถึงตอนนั้นจะไม่สายไปหน่อยเรอะ แต่สุดท้ายก็ยอมฟังโดยดี เพราะตัวเขาเองก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีเหมือนกันหากจะต้องเดินเทิ่งๆ เข้าไปหาศพเดินได้เหล่านั้นแล้วบอกว่า "นายน่ะตายไปแล้ว เพราะงั้นมาให้ฆ่าซะดีๆ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่าศพเดินได้เหล่านั้นก็มีคนสำคัญหรือคนที่รออยู่ข้างหลังซึ่งเชื่อว่าคนเหล่านี้ยังเป็นเพียงคนธรรมดาอยู่แล้วด้วย

สถานการณ์หนักหนาที่พบเจอในครั้งนี้ ทำเอาเจ้าหนุ่มแว่นถึงกับต้องมานั่งกุมขมับบีบหัวคิ้วอย่างจนปัญญา มีแต่สึซึ สาวใช้คนสนิทซึ่งอยู่กับสึคิชิโระตลอดเวลาเท่านั้นที่รู้ว่าบัดนี้ชายหนุ่มเครียดมากเพียงใด

กระนั้น หญิงสาวร่างเล็กก็ทำได้เพียงเอนร่างซบกับแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มอย่างเงียบๆ เพื่อปลอบโยน หวังว่าการกระทำดังนั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งบนสองบ่าของอีกฝ่ายมายังตนได้บ้างเท่านั้น


-----------------------------------------------


ช็อตสวีทเล็กๆ ระหว่างนายกับบ่าว กับช็อตเป๋อเหลอน้อยๆ จากอีหนูจอแบน ฮ่าฮ่าฮ่า

 
 

จากคุณ : Drake
เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 19:57:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com