[Review]แม่ค้าจอมเวทย์3และสาวน้อยเลาะกระดูก4 สปอย เล็กน้อย
|
 |
การ์ตูนจากวิบูลย์กิจทั้งคู่ ออกในเวลาใกล้ๆกัน สองเรื่องนี้มีความคล้ายกันมาก ลายเส้นอ่านง่ายสบายตา และมีประเด็นที่เหมือนๆกันคือ กิเลสหรือความอยากในจิตใจของมนุษย์ แต่ของโรม่าจะชัดกว่า
ในเรื่องของโรม่า โรม่ากับคู่หูตุ๊กตา เป็นจอมเวทย์วาณิช มีหน้าที่ขายสินค้าเวทมนต์ที่จะทำให้ความต้องการของมนุษย์เป็นจริง โดยมนุษย์คนนั้นต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็น “กิเลส” ตอนแรกๆ ที่โรม่ามารับกิเลสไป จะไม่มีคำอธิบายนอกจากจะเห็นคนที่ถูกยึดกิเลสหมดสภาพ ตอนต่อๆ มา มีอธิบายว่ากิเลสคือพลังงานในการใช้ชิวิต(ความอยากได้อยากมีทำให้คนๆนั้นมีชีวิตอยู่ คล้ายๆกับว่าเป็นแรงขับในการใช้ชีวิตตามทฤษฎีทางจิตวิทยา) และช่วงท้้ายเล่ม 3ตอนเด็กช่วยหมาจมน้ำกับนักกีฬาว่ายน้ำ โรม่าบอกว่าจะหมดแรงไปพักหนึ่ง จุดนี้ผมอ่านแล้วค่อนข้างขัดใจอยู่ เพราะถ้ากิเลสคือพลังงานในการใช้ชิวิต ถ้าโดนโรม่ายึดไปจริง ก็น่าจะทำให้คนๆ นั้นขาดเป้าหมายในการมีชีวิตไป กลายเป็นคนใช้ชีวิตไปอย่างเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย ไม่งั้นก็บรรลุธรรมไปเลย เพราะไม่มีกิเลสแล้ว หรือถ้าจะมองอีกมุมหนึ่ง กิเลสที่โดนยึดอาจไม่ใช่กิเลสเป้าหมายของชีวิตก็ได้ แค่ความอยากชั่ววูบเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น ถ้าถูกยึดกิเลสตัวนี้ไป ก็ยังใช้ชีวิตได้อยู่
สำหรับความสนุกถือว่าใช้ได้ครับ เนื้อหาที่ค่อนข้างแปลกใหม่กว่าเดิมทำให้มีความน่าติดตาม แม้การเดินเรื่องค่อนข้างจะเ็ป็นเส้นตรงทั้งโรม่าและเอมม่า แต่ก็มีประเด็นอื่นเพิ่มเข้ามาให้เนื้อเรื่องมีมิติมากขึ้น โรม่า มีพูดถึงเรื่องน้องสาวของโรม่า และอดีตของเธอช่วงก่อนที่จะมาเป็นสาวน้อยนักขาย ดูจากสีหน้าตอนที่ถูกถามแล้ว ท่าทางจะเป็นเรื่องเศร้าอยู่พอสมควร (หวังว่าคงไม่ได้โดนหลอกมาเป็นดาวน์ไลน์หรอกนะ)
เอมม่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ตุ๊กตากระดาษที่ถูกสร้างโดย1ใน10ราชานรก มีหน้าที่เดินทางไปในห้วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่โลกยุคหิน จนถึงยุคอวกาศ เพื่อสังหารบุคคลผู้เป็นต้นเหตุในการเสียชีวิตของประชากรโลกในยุคๆนั้น (เล่มหลังๆอาจจะมีการสังหารลิงสาเหตุของโรคเอดส์ด้วยมั้ง ฮา) การสังหารจะใช้วิธีถอดกระดูก(พรวดเดียวออกมาหมดเลย ตายแบบไม่รู้สึกเจ็บ) ถ้าผู้ถูกสังหารมีคนที่รักเอมม่าจะไม่สามารถถอดกระดูกได้ตามจำนวนคนที่มารัก และมีกรณีที่สังหารไม่ได้เพราะเป้าหมายมีคนที่มารักเกิน 200+ คน
ท้ายเล่ม3 เริ่มมีประเด็นเรื่องที่เอมม่าเริ่มมีความคิดถึงมา ซึ่งในเรื่องได้กล่าวไว้ว่าเอมม่าเป็นแค่หุ่นกระดาษที่ทำตามคำสั่งของผู้สร้าง ไม่ควรมีความรู้สึก แต่หลังจากปฎิบัติภารกิจหลายครั้งเข้าก็เริ่มมีเข้าถามที่ตอบได้ลำบากแค่ท่านราชา คาดว่าประเด็นเรื่องหุ่นกระดาษที่ถูกสร้างมีความรู้สึกและวัตถุประสงค์ที่ราชาสร้างเอมม่าขึ้นมา จะเป็นส่วนสำคัญของเนื้อเรื่องในช่วงหลัง
ข้อสังเกต โรม่า3 จบแบบมีความสุขหลายเรื่องครับ เล่มแรกคนที่ใช้สินค้าเวทมนต์ไม่บันยะบันยัง จะดับอนาจหลังใช้ซะมากกว่า(มีจบดีเรื่องเดียว)
โรม่าเดินเรื่องได้ดราม่ากว่า เน้นประเด็นความโลภของมนุษย์และผลที่ตามมาจากการปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำจิตใจมากเกินไป แต่ถ้าหากควบคุมได้จะมีผลอีกอย่างหนึ่ง
เนื้อเรื่องทั้งสองเรื่องยังไม่ค่อยไปไหน เน้นการทำภารกิจของตัวละครหลัก หวังว่าประเด็นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาจะทำให้เ่ล่มต่อๆ ไป มีความสนุกมากกว่านี้
ปกโรม่าเล่มสอง สวยมาก และเป็นสาเหตุหลักที่หยิบมาอ่าน รู้สึกคุ้นๆตามากแต่นึกไม่ออกว่าเจอภาพสไตล์นี้มาจากไหน (ที่คล้ายๆก็ Capalion เล่ม1 มั้ง)
โรม่าน่ารักกว่าเอมม่า ส่วนหนึ่งคงเพราะดูเหมือนจะอายุเยอะกว่า(ปกเล่ม3เหมือนเป้นสาวอายุ 17-18เลยนะ) เอมม่าเหมือนเด็กๆที่สงสัยในเรี่องที่ตนเองไปประสพมา
ชื่อเอมม่านี่ไม่รุ้ว่าคนวาดจงใจล้อเลียนเอมม่า ไอ สาวน้อยจากนรกอีกคนรึปล่าว คำแปลชื่อเรื่องในภาษาไทยก็เหมือนกันด้วย
ภาพจากผ่านฟ้าบุ๊ค หาไฟล์เล็กกว่านี้ไม่ได้โทดทีครับ
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 20:51:47
จากคุณ |
:
กำเนิดจากน้ำที่หน้าห้องน้ำ
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ส.ค. 54 20:51:09
|
|
|
|