พระยาจีนจันตุ ทำเอาเด็กคนหนึ่งหัวคะมำ
|
 |
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ครั้งที่หนังภาค 3 เข้าใหม่ๆ ผมเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องเพราะแม่เด็กเพิ่งเอามาเล่าให้ฟัง
เด็ก ป 6 คนหนึ่ง ฉลาดพอควร ไปดูหนังภาค 3 มาแล้ว ก็คงจะเกิดความภูมิใจที่ได้ไปดูหนังที่ให้สาระควรค่าแก่การเรียนรู้มากมาย และเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ในจิตใต้สำนึกด้วยความภักดี
วันหนึ่ง ในห้องเรียนวิชาที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์วีระบุรุษไทย และพูดถึงเรื่องพระนเรศวร แล้วเลยพูดกันไปถึงกรณีพระยาจีนจันตุกับกับการประกาศอิสระภาพ ครูถามว่า เรื่องไหนเกิดก่อนหลัง ความตั้งใจของครูก็เพียงแค่จะปรับแก้ความรู้ของเด็กที่ได้มาจากหนังให้ถูกต้อง เด็กๆที่ไปดูหนังมาก็มีหลายคนที่จำได้ว่า พระนเรศเดินทัำพเข้าเมืองก่อน แล้วจึงเกิดการไล่ล่า เด็กคนนี้จึงยกมือแล้วยืนขึ้นตอบด้วยความมั่นใจว่า เรื่องการรบกับพระยาจีนจันตุเกิดก่อนครับ แต่เมื่อไม่ใช่ ครูก็ต้องแก้ให้ ก็เป็นเรื่องสิครับ เด็ฏเสียความมั่นใจไปหลายวัน โดนเพื่อนล้ออยู่เป็นนานกว่าเด็กจะลืมเรื่องนี้ไปได้ ด้วยกาลเวลาที่ช่วยรักษาแผลที่มันเกิดขึ้นในใจ
เรื่องเลวร้ายเช่นนี้ เกิดขึ้นเพียงเพราะคนทำหนังเรื่องนี้ขาดความรับผิดชอบเรื่องข้อมูลโดยสิ้นเชิง คุณไม่เคยสนใจว่าเรื่องจริงควรจะเป็นเช่นไร และควรจะนำเสนออย่างไรให้มันใกล้เคียงความจริงที่สุด ทำหนังเพียงเพื่อสนองตัณหาของตัวเองเท่านั้น สังคมและผู้คนจะพินาศย่อยยับอย่างไร ช่างหัวมัน
คุณทำอย่างนั้นทำไม หัวใจคุณทำด้วยอะไรครับ
ที่ถ้าไม่รู้กันมาก่อน ก็อาจจะต้องสงสัยว่า คนทำหนังเรื่องนี้จะใช่คนไทยหรือปล่าว เพราะเท่าที่ได้สำรวจความผิดพลาดของหนังเรื่องนี้ทั้งหลายทั้งปวง ไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่า คนไทยคนหนึ่ง จะขาดซึ่งความรู้เชิงวัฒนธรรมได้มากถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะทีมงานที่อ้างกันว่า ได้ทำการศึกษาประวัติศาสตร์กันมาแล้วเป็นปีปี แต่งานที่ได้ออกมา กลับไม่มีอะไรดีไปกว่าลิเกท้ายตลาด
ต้องใช้ศักยภาพขนาดไหนครับ ต้องศึกษากันนานขนาดไหน ถึงจะรู้ว่า วัฒนธรรมง่ายๆของไทยคืออะไร อย่างไหนควร อย่างไหนไม่ควร แค่เรื่องการไม่ใส่รองเท้าเข้าบ้าน ต้องใช้คนที่ช่ำชองขนาดไหนครับมาศึกษา ถึงจะได้ความจริง ศึกษากันประสาอะไรครับ ถึงปล่อยให้คนไทยเรียกตัวเองว่า สยาม
จากคุณ |
:
ลำยง
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ส.ค. 54 20:16:49
|
|
|
|