ข่าวสด
"แอฟ"มีสเต็ปชีวิต ไม่เกาะมายาจนแก่
ห่างหายไปนาน ตั้งแต่ละครเรื่อง "วนิดา" สำหรับนางเอกสาวหน้าหวาน "แอฟ"ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ล่าสุดเจ้าตัวมีผลงานทางการแสดงเรื่องใหม่ "รอยไหม" มานำเสนอ ซึ่งออกอากาศทุกจันทร์-อังคาร ทางช่อง 3 หลังข่าว โดยเริ่ม 5 ก.ย. นี้
ในช่วงที่ว่าง หลังบวงสรวงละครเรื่อง "รักประกาศิต" เสร็จ นางเอกสาวก็มาเปิดใจให้สัมภาษณ์
l ชีวิตโดยรวมตอนนี้เป็นอย่างไร?
แอฟ - "มีความสุขดีค่ะ ตอนนี้ค่อนข้างลงตัวในการแบ่งเวลาในการใช้ชีวิต อย่างละครทำทีละเรื่อง เพราะต้องแบ่งคิวไว้ให้หนังตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ 5 แล้วก็จะได้มีเวลาศึกษางานด้านอื่นๆ ด้วย เพราะแอฟอยากลองทำงานด้านอื่นดูบ้าง"
"ซึ่งเวลาส่วนตัวบางทีก็มีน้อย บางทีก็ไม่มี แล้วแต่ช่วง อย่างพอละคร "รอยไหม" ปิดกล้อง แอฟมีเวลาว่าง 2 อาทิตย์ก่อนจะเปิดเรื่อง "รักประกาศิต" พอว่างก็มีงานอดิเรกที่ทำอยู่คือโครงการบ้านที่โบนันซ่ากับสงกรานต์ (เตชะณรงค์) น่าจะเปิดตัวสิ้นปีนี้ นอกนั้นก็ไปออกกำลังกาย นวดตัว แล้วแต่ว่านึกอยากทำอะไรให้ตัวเอง"
l ทำงานเยอะ ตอนนี้สุขภาพ โอเคหรือเปล่า?
แอฟ - "แอฟอึดค่ะ สังเกตว่าไม่เคยเห็นข่าวแอฟป่วยเข้าโรงพยาบาล อาจจะเป็นความโชคดีส่วนหนึ่ง และดูแลตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง แอฟก็ทำทุกอย่างเหมือนปกติ แม้จะได้นอนน้อยกว่าคนอื่น แต่ถ้ามีโอกาสก็นอนเต็มที่ ทานอาหารครบทุกมื้อ แค่นี้ก็ถือว่าโอเคกับสุขภาพแล้ว แต่อาจจะมีแค่เรื่องแพ้ฝุ่น แพ้น้ำ แพ้โน่นนี่ เพราะเป็นคนแพ้ง่าย"
l หลังจบ "วนิดา" แอฟดูจะหายไปพักหนึ่งเลย?
แอฟ - "หายไปถ่ายละคร "รอยไหม" 7-8 เดือนค่ะ ขึ้นเหนือไปถ่ายกัน บางช่วงก็อยู่ยาว บางช่วงไปๆ กลับๆ เพราะไปถ่ายหลายจังหวัด ทุ่มให้การถ่ายเต็มที่"
"ส่วนงานอีเวนต์ถ้าจะรับหลักๆ คือสินค้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือรับช่วงที่จบละครไปแล้ว เลือกงานที่เหมาะกับตัวเอง สบายใจที่จะทำ อย่างเรื่องเสื้อผ้าคุยกันก่อนว่าใส่ได้แค่ไหน ไม่ร้องเพลงนะ เคลียร์กันเลย ถ้าถ่ายละครอยู่แล้ววิ่งไปงานอีเวนต์นี่แทบไม่มี แอฟเอาสบายไว้ก่อน ไม่เร่งรีบเก็บเงิน เงินแอฟก็แทบไม่ได้ใช้เพราะอาศัยกินข้าวตามกองถ่ายค่ะ (หัวเราะ)"
l ละคร "รอยไหม" เห็นว่าจะออกอากาศแล้ว?
แอฟ - "ค่ะ จะออกอากาศ 5 ก.ย. นี้ คาแร็กเตอร์จะรับบทเป็น 2 คน 2 ชาติ ชาติที่แล้วเป็นเจ้าหญิงเชียงตุง ชื่อ เจ้านางมณีริน แต่จะแอบเปรี้ยว แก่นแก้ว เชื่อมั่นในความรัก พอเป็นชาติปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนทอผ้าชื่อ เรริน เป็นคนนิ่งๆ ทุ่มเทให้งานทอผ้า"
"เรื่องนี้อยากให้ติดตามทุกตอน ถ้าพลาดเดี๋ยวจะทำความเข้าใจยาก ขนาดนักแสดงเองอ่านบทยังมีงงเลย ต้องถามผู้กำกับฯ ตลอด ละครเข้มข้นมากๆ มีทั้งความรัก ความแค้น มีผีเข้ามาให้ตื่นเต้นด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือภาพสวย อารมณ์ละเมียดละไม ส่วนเรื่อง "รักประกาศิต" จะคนละแนวเลย"
l คิดว่าตัวเองโชคดีไหมที่ได้เล่นบทที่กลิ้งไปกลิ้งมา?
แอฟ - "จริงๆ สลับกันไปเรื่อยๆ กลิ้งไปกลิ้งมาบ้าง แต่คงไม่ถึงขั้นฉีกไปร้ายเลย ตรงนั้นคงยังไม่ถึงเวลา ผู้ใหญ่ยังไม่ให้เล่น แค่สลับบรรยากาศแบบเรียบร้อยกับแก่นๆ สู้คนไปก่อน"
l แต่หลายคนรอคอยจะได้เห็น "แอฟ" เล่น "เพลิงบุญ" ในบท "ใจเริง" มากเลย?
แอฟ - "จริงเหรอคะ จริงๆ บทนี้ดีมากทุกคนจะจำตัวละครตัวนี้ได้ตั้งแต่เวอร์ชั่นที่พี่หน่อย (บุษกร) เล่น เป็นบทท้าทายและดีมากสำหรับนักแสดง ถ้าใครได้เล่นคงเป็นโอกาสดีในการปล่อยพลังได้เต็มที่ ตัวละครมีหลายด้าน ถ้ามีโอกาสได้เล่นจริงๆ ถามว่าแอฟจะไหวมั้ย พูดจริงๆ ถ้าผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสม แอฟก็ไม่กลัวนะ แต่อาจมีลิมิตบ้าง คงตกลงกันในเงื่อนไข เช่น เลิฟซีนได้แค่ไหน"
l คิดอยากฉีกบทบาทบ้างไหม?
แอฟ - "อยากค่ะ แอฟอยากเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่คงไม่ได้เปลี่ยนแบบพลิกตึงไปเลย สุดท้ายต้องมีลิมิตของตัวเอง เพราะแอฟยังอยากกลับมารับบทตามแนวถนัด หรือไม่ก็กลับไปเป็นตัวของตัวเองได้ คงต้องนึกถึงครอบครัว คนรอบข้าง เอาแค่ในกลุ่มแฟนคลับเอง บางคนก็อยากให้ฉีก บางคนก็ไม่อยากให้ฉีก มีหลากหลายกันไป"
l ตอนนี้มีนางเอกน้องใหม่เข้ามาเยอะมาก วางตัวเองอย่างไร?
แอฟ - "เหมือนเดิม ไม่ค่อยเปลี่ยนอะไรค่ะ ไม่ใช่ว่าแอฟมีละครเยอะนะ แต่รู้สึกว่าพอยิ่งโตขึ้นไม่ได้อยากทำงานเยอะ แต่อยากทำงานที่ชอบ ได้บทที่ชอบมากกว่า ถ่ายละครแต่ละเรื่องใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 เดือน ถ้าได้เล่นบทที่ตัวเองไม่แฮปปี้ถือว่าทุกข์ทรมานมากนะ"
"อีกอย่างการที่น้องๆ นางเอกใหม่เข้ามาเยอะก็ดูไม่เกี่ยวกับแอฟ เพราะคนละรุ่นไปแล้ว แอฟ ก็คงไปเล่นคู่ ณเดชน์ (คูกิมิยะ) ไม่ได้ น้องญาญ่า (อุรัสยา) ก็คงจะมารับบทผู้ใหญ่อย่างแอฟไม่ได้ ทุกอย่างแล้วแต่วัย บุคลิก และความเหมาะ สมกับบทนั้นๆ แอฟว่าดีด้วยซ้ำที่มีนางเอกใหม่เข้ามาเยอะ เป็นสีสัน"
l เส้นทางการแสดงของแอฟถือว่าโตเร็วไหม?
แอฟ - "ส่วนตัวคิดว่าไม่นะ จริงๆ แอฟอยู่วงการมานานแล้ว ใช้เวลานานในการจะเป็นที่รู้จัก แอฟคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี อุ่นใจดี ไม่ได้แบบว่าเล่นเรื่องเดียวเปรี้ยง คนมุ่งจับตามอง แต่ของแอฟจะไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ทางการแสดง ชื่อเสียง ฉะนั้นความกดดันก็เลยไม่ค่อยมี เพราะได้ปรับตัวมาเรื่อยๆ นานเหมือนกันกว่าจะมีวันนี้ได้"
l คิดว่าจะอยู่วงการไปนานแค่ไหน?
แอฟ - "ยังไม่แน่ใจ รอดูช่วงจังหวะชีวิตก่อน แต่คิดว่าคงไม่อยู่ไปจนแก่เฒ่า เพราะต้องมีสเต็ปอื่นในชีวิต อย่างตอนนี้แอฟเริ่มศึกษางานด้านอื่นดูบ้าง อาจจะแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง อีกหน่อยถ้าเกิดมีครอบครัวก็ไม่แน่ใจว่าถึงตอนนั้นจะให้ความสำคัญกับอะไรเป็นอันดับหนึ่ง"
"เรื่องอนาคตยังไม่แน่ใจ แต่คงไม่มาเกาะอยู่กับตรงนี้ไปตลอดแน่นอนค่ะ"
ภูมิใจได้เป็นตัวเอง
เอ่ยชื่อ "แอฟ-ทักษอร" คนจะนึกถึงสาวหน้าหวานแบบไทย ถึงแม้ว่าปัจจุบันกระแสเกาหลีจะฮอตฮิตค้านกับบุคลิกของเธอ แต่เจ้าตัวก็ภาคภูมิใจกับการเป็นตัวของตัวเอง
"เราอาจจะมีคนที่เราชื่นชม เป็นต้นแบบ แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนกัน บางคนบอกว่าบุคลิกแอฟไม่ได้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน อย่างตอนนี้กำลังฮิตเกาหลี แอฟก็เฉยๆ เพราะแอฟเป็นแบบนี้ ไม่ต้องพยายามจะทำให้ตัวเองเป็นไปตามนั้น เพราะแอฟคงเป็นเกาหลีไม่ขึ้น"
"ทุกอย่างควรจะเริ่มจากการรักตัวเอง ภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง แล้วถึงจะทำให้ออกไปทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จได้ เพราะถ้าไม่รักตัวเองแล้วคนอื่นจะรักจะชื่นชมในตัวเราได้ยังไง"
ถามว่ากดดันไหมกับภาพเรียบร้อยที่คนอื่นยื่นให้ จนกลายเป็นความคาดหวัง เรื่องนี้แอฟอธิบายยาว
"เมื่อ 1-2 ปีที่แล้วเรื่องนี้เป็นปัญหากับชีวิตแอฟได้ยังไงไม่รู้ แต่พอผ่านตรงนั้นมาแล้วแอฟก็รู้ว่าจริงๆ ไม่ใช่หรอก แอฟไม่สามารถทำให้ทุกคนรักแอฟได้ เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีอะไรที่ดำหรือขาวไปเลย"
"อย่างบางคนบอกว่าแอฟเรียบร้อย ก็ต้องดูว่าเรียบร้อยของคุณคือแบบไหน จริงๆ น่าจะมีกรอบของมันว่าถ้าเกินเส้นนี้ไปถึงจะเรียกว่าไม่เรียบร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าเรียบร้อยคือต้องใส่กระโปรงยาวถึงข้อเท้าตลอดเวลา ในเมื่อไม่มีอะไรชัดเจนขนาดนั้น เพราะฉะนั้นก็ต้องดูสิ่งแวดล้อม ดูเหตุการณ์ วาระโอกาส ณ ขณะนั้นว่าสิ่งที่ทำเหมาะหรือเปล่า"
"บางทีก็งงว่าแค่แอฟใส่กางเกงขาสั้นก็เป็นเรื่องได้ ไหนว่าเรียบร้อยไง แอฟก็อ้าว ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนใส่ขาสั้นไม่ได้เหรอ แล้วก็อธิบายกันลำบากว่าไม่นะ สั้นแค่นี้เอง ไม่ได้สั้นเสมอ...อะไรแบบนั้น (หัวเราะ) ตอนนั้นแอฟพยายามจะตอบคำถามอยู่ แต่ถึงตอนนี้ก็ไม่เป็นไร บางอย่างถ้าไม่เข้าใจก็ช่างเถอะ ทุกอย่างอยากให้มองบริบทโดยรวม คือถ้าแอฟใส่ขาสั้นไปพบผู้ใหญ่แบบนั้นค่อยมาตำหนิกัน"
แล้วเรื่องเปรี้ยวสุดหรือจี๊ดจ๊าดที่สุดในชีวิตที่เคยคืออะไร แอฟตอบ "แอฟว่าการได้มาเล่นละครในบทต่างๆ หลากหลายคือที่สุดของแอฟแล้ว เพราะชีวิตจริงไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้"
"ละครก็เหมือนเป็นที่ที่ทำให้แอฟได้ไปเจออีกโลกหนึ่ง และเป็นได้โดยไม่ผิดด้วย" แอฟกล่าว
ไม่ชอบให้เรียก"ว่าที่สะใภ้โบนันซ่า"ถือเป็นการดูถูก
เป็นคู่รักที่หลายคนลุ้นว่าจะมีข่าวดีเมื่อไหร่ สำหรับนางเอกสาว "แอฟ-ทักษอร" กับแฟนหนุ่ม "สงกรานต์ เตชะณรงค์"
พอถามเรื่องนี้ สาวแอฟถึงกับยิ้มและกล่าวว่า "เวลาที่มีคนถามว่าเมื่อไหร่จะมีข่าวดีซักที แอฟรู้สึกดีมากเลยนะ ดีกว่าคนลุ้นให้เลิก(หัวเราะ)"
"ช่วงแรกที่คบกันมีกระแสทั้งดีและไม่ดี ส่วนใหญ่หนักไปทางไม่ดีด้วยซ้ำ ฉะนั้นถ้าตอนนี้คนลุ้นให้มีข่าวดีก็ดีใจ แสดงว่าคนเริ่มเข้าใจและอยากเห็นเราสองคนมีความสุข ถ้าลุ้นข่าวดีลุ้นกันมาเยอะๆ เลยไม่กดดัน อย่างน้อยก็เหมือนเขาหวังดี ชีวิตก็เป็นมงคลที่มีคนคิดอะไรดีๆ กับเรา"
"จากตอนแรกที่คนปรามาสไว้ว่าจะไปกันได้ซักกี่น้ำ แต่จนถึงปัจจุบันแอฟก็ไม่ได้คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะแน่นอนขนาดนั้น อะไรก็เปลี่ยน แปลงได้เสมอ คบกันมา 2 ปีเองค่ะ แต่คนจะชอบคิดว่าคบกันนานแล้ว ด้วยความที่ช่วงแรกสนิทกันเร็ว เพราะเจอเหตุการณ์ไม่ราบรื่น คนเข้ามากดดัน ทำให้ยิ่งได้คุยกันสนิทกัน"
การคบกัน 2 ปี ดาราสาวยอมรับ ต้องมีการปรับจูนกันตลอด เนื่องจากทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ
ถามว่ามีคุยกันเรื่องแต่งบ้างไหม "เคยคุยบ้าง แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ รอให้พร้อมจริงๆ ดีกว่า"
ความพร้อมของคู่แอฟวัดจากอะไร เพราะบางคนมองว่าคู่นี้พร้อมจนไม่รู้จะพร้อมยังไงแล้ว เจ้าตัวหัวเราะ "แอฟว่าสมัยนี้ ไม่ใช่พร้อมเรื่องเงินทองหรือของภายนอกอย่างเดียว แต่อยากให้พร้อมจริงๆ คือจิตใจ โดยเฉพาะผู้ชาย"
"ไม่ใช่ว่าไม่แน่ใจในตัวกรานต์ แต่คนเราจะแต่งงานกัน ประเด็นที่ในชีวิตจริงและในละครมักพูดเสมอคือยังไม่พร้อม ขอสร้างเนื้อสร้างตัวก่อน แต่แอฟกลับไม่คิดแบบนั้น มีตั้งหลายคู่ที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาพร้อมกันได้ ยิ่งสร้างอะไรด้วยกันยิ่งมีความผูกพันกัน"
ตอนนี้เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกันแล้วใช่ไหม แอฟยิ้ม "ระดับหนึ่งค่ะ ยืนยันว่าความพร้อมทางใจสำคัญที่สุด"
พอถามถึงความรู้สึกที่มีคนเรียกว่า "ว่าที่สะใภ้โบนันซ่า" นางเอกสาวทำหน้าจริงจังก่อนพูดว่า "เอาจริงๆ นะไม่อยากให้คนพูดแบบนี้เลย ไม่อยากให้คนที่ได้ยินคิดไปในมุมไม่ดี ตีความไปถึงเรื่องของวัตถุเงินทอง เพราะทุกวันนี้แทบไม่มีอะไรที่ต้องพึ่งกันเลย พึ่งอย่างเดียวคือกำลังใจหรือความสุขทางใจ"
"แอฟเองก็โตแล้วไม่ใช่เด็กๆ ทุกอย่างสร้างด้วยตัวเองได้ ถึงแอฟไม่สร้าง คุณพ่อคุณแม่ก็คงดูแลอย่างดีอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปพึ่งผู้ชาย"
"แอฟเคยคุยเรื่องนี้กับอาจิ๋ม (มยุรฉัตร) อาจิ๋มจะพูดเสมอว่าไม่ชอบให้คนคิดแบบนี้ เหมือนดูถูกนักแสดง ทั้งที่ก็รู้กันว่าอาชีพนักแสดงหาเงินได้เยอะเพราะฉะนั้นทำไมต้องคิดว่านักแสดงต้องไปเกาะไฮโซหรือหวังพึ่งใคร ซึ่งอันนี้เป็นการดูถูกทางอ้อม น่าจะเคารพในความเป็นตัวเราด้วย"
ถามจริงๆ อยากแต่งงานไหม แอฟตอบ "แอฟว่าผู้หญิงทุกคนน่าจะอยากแต่งงานนะ แอฟเองก็ด้วย ถือเป็นอีกช่วงชีวิตหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนอยากให้ถึงวันนั้น เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อไหร่ที่คนสองคนจะคิดว่ามันใช่แล้ว"
สุดท้ายแอฟได้ให้คำนิยมความรักของตัวเธอว่า "คือพลังที่ทำให้แอฟทำทุกอย่างได้ค่ะ"
มิน่า ถึงไม่เจ็บไม่ไข้เลย

แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 54 13:50:01