ความคิดเห็นที่ 1 การพูดเหนือ ของ คุณสุริยวงศ์ จากหลายความเห็นสงสัยกันว่า จะได เจ้าสุริยวงศ์ ที่แสดงโดยอั้ม เดี๋ยวพูดกลาง เดี๋ยวพูดภาษาเหนือ ทำไมมันสับสนเยี่ยงนี้ เรื่องนี้มีคำอธิบายเจ้า ในเรื่อง เจ้าสุริยวงศ์ ไปโตที่ฝรั่งเศส และเพิ่งกลับมาเชียงใหม่ได้ไม่นาน  จึงพูดภาษาเหนือแบบคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้โตที่ประเทศของตัวเอง (เช่นเดียวกับคนไทยที่ไปโตต่างประเทศ การพูดภาษาไทยก็แปลกๆ แปร่งๆ ไปเหมือนกัน)  การพูดก็แบบว่า เดี๋ยวพูดกลาง เดี๋ยวพูดเหนือ ก็เลยสร้างความแปลกใจให้กับแต่ละคน แต่เรื่องนี้อั้มพูดเหนือ..ฮามาก ออกแนวเหนืออีสานที่บอกไว้ก่อน  ไม่เป็นไรให้อภัยได้ เพราะ อั้มหล่อมาก จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:00:10

ความคิดเห็นที่ 2 ใครมีอะไรน่าสนใจๆ เกร็ดละคร ทำให้การดูละครเรื่องนี้สนุก เข้าใจ ก็โปะกันมาเลยนะจ๊ะ   เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำ นั่งรอรอยไหมก่อนแล้วกันนะเจ้า จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:03:59

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณสำหรับเกล็ดเล็กๆน้อยๆนะคะ แต่เรื่องนี้เราก็ไม่พลาดเหมือนกัน เพราะถ่ายที่จ.แพร่บ้านเกิดไม่ดูเสียชื่อแย่ค่ะ จากคุณ : แม่ครัวหัวป่า เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:21:39

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ คุณจขกท. เรากะลังรีบเคลียร์งานให้เสร็จอยู่ค่ะ สองทุ่มครึ่งจะได้มีเวลาไปดูละครอย่างจริงจัง ...อิอิ ... จากคุณ : คนของหัวใจ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:24:24

ความคิดเห็นที่ 5 เพลงประกอบละครรอยไหม เพลงเพียงได้เคียงเธอ ขับร้องโดยคุณศรีไศล สุชาติวุฒิ  ท่านมีวันคล้ายวันเกิดคือวันที่ 5 กันยายน ซึ่งตรงกับวันแรกที่ละครรอยไหมออกอากาศ คุณแดง (ภรรยาคุณอ๊อฟ ผู้กำกับ) บอกกับคุณอ๊อฟว่า ผู้ที่จะขับร้องเพลงนี้ ต้องเป็นคุณศรีไศล เท่านั้น จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:24:50

ความคิดเห็นที่ 6 คุณศรีไศล สุชาติวุฒิ ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ดังๆ หลายเรื่อง เช่น ชั่วฟ้าดินสลาย จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:26:11

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยค่ะ เครดิต คุณคิส จากคุณ : imims เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:27:45

ความคิดเห็นที่ 8 เพลงหยาดเพชร จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:28:02

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ จขกท ค่ะ ตอนอ่านนิยายนี่อยากไปหลวงพระบางมาก คุณหมอสอดแทรกรายละเอียดได้ดีมากค่ะ จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:30:36

ความคิดเห็นที่ 11 เมย์กับมี๊ ท่า ตาจิก เป๊ะมาก! จากคุณ : Nicoligent เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:33:04

ความคิดเห็นที่ 12 เก็บรัก .. เพลงนี้ชอบมาก เพลงที่ยังตราตรึงอยู่จนถึงปัจจุบัน  เพลงประกอบละครเก็บรัก นำแสดงโดย คุณเนาวรัตน์ จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:40:29

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากค่ะ เข้าใจในเนื้อหาของเรื่องขึ้นมาอีกเยอะเลย การปรับแต่งเนื้อเรื่องจากหลวงพระบางมาเป็นล้านนายิ่งดีใหญ่ เพราะเราก็จะได้เห็น รายละเอียดของอาณาจักรล้านนาที่ผู้จัดละครต้องสรรสร้างให้เหมือนจริงที่สุด ชื่นชมคุณอ๊อฟและทีมงานทุกคนที่สร้างละครน้ำดีให้เราได้ดูกันค่ะ เรื่องการพูดเหนือของนักแสดงแต่ละคนที่มันเพี้ยนๆไปบ้าง ส่วนตัวป้ารับได้นะคะ ถือว่าเป็นความพยายามที่สุดแล้วของนักแสดงที่ไม่มีสายเลือดคนเหนืออยู่เลย จากคุณ : คุณป้ารักแมว เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:44:17

ความคิดเห็นที่ 14 อ้อออออ เช่นนนี้ ก็แอบงงว่าเดียวอั้มพูดไทยพูดเหนือ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : coffee_m เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:45:42

ความคิดเห็นที่ 15 เพลงนี้ของคุณศรีไศล  น่าจะประกอบละครเรื่องนี้ได้  เพลง ยังจำเธอได้ จากคุณ : ยังมีเฮ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:55:02

ความคิดเห็นที่ 16 รู้สึกได้ถึงการเคารพบทประพันธ์ และเจ้าของบทประพันธ์   รู้สึกภูมิใจด้วย ที่ได้เห็นภาพบ้านเรือน ที่ผ่านอยู่ทุกวัน ปรากฎในละคร ขอบคุณที่ทำให้ คนทั่วไปหันมาสนใจผ้าทอมือพื้นเมืองมากขึ้น ว่าแล้วพรุ่งนี้ว่าจะไปหาอีกสักผืนสองผืน ประทับใจผ้าซิ่นของ หม่อมบัวเงินมาก สวยทุกผืนเลย ว่าง ๆ จะตามรอย พิพิธภัณฑ์ เก็ตถวามาฝาก  ยืนยันได้ว่าสวยเหมือนในละครเลยค่ะ จากคุณ : วรดา เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 19:58:41

ความคิดเห็นที่ 17 รอชม ตามรอยฯ นะคะ คุณวรดา ... ^_^ จากคุณ : คนของหัวใจ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 20:18:55

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้วว... ผู้ประพันธ์เป็นคุณหมอ...  และเป็นผู้ชายด้วยหรือนี่     รู้สึกประหลาดใจและทึ่งมากค่ะ ดีใจที่ทีมงานเคารพบทประพันธ์  จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ให้เกียรติผู้ประพันธ์  มีการปรึกษาหารือท่านก่อน @16 เราคิดเหมือนคุณวรดาเลยว่า ผ้าซิ่นสวย  ว่าจะหาโอกาสไปหามาหัดนุ่ง เดินไปเดินมาเล่นในบ้านมั่ง เผื่อจะช่วยลดอาการกระโดกกระเดก อิอิ   จากคุณ : กะติ๊ด เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 20:42:25

ความคิดเห็นที่ 19 อยากดูมาก แต่เห็นว่ามีผีด้วย ไม่ชอบดูหนังผี   O_o" (แต่ชอบอ่านค่ะ) จากคุณ : โสดในซอย เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 20:43:05

ความคิดเห็นที่ 20 จะอี้กะต้องโหวตกันล่ะเน้อ มีสาระกว่ากะตู๊คันหูปะเหลือนัก จากคุณ : Jeremizz เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 20:44:34

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 20:51:28

ความคิดเห็นที่ 22 เอ้า โหวต ให้คันหูตกๆไปหน่อย จากคุณ : Jarunya.b เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 21:00:29

ความคิดเห็นที่ 23 ดีจ้าดนักเจ้า ตี้เปิ้นยะอะหยังก่อนก่อปรึกษาคนเขียน เคารพงานเขียนของเปิ้น ฮู้สึกดีขนาดเลยเจ้า ^^ จากคุณ : ส้มเช้งเองจ้า เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 21:23:17

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณนักนักเจ้า จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 21:37:09

ความคิดเห็นที่ 25 ปกติเราชอบเพลงของศรีไศลยุคเพลงเก็บรักมาก ก่อนที่เธอจะย้ายไปอยู่เมืองนอก เพลงเธอจะไม่เหมือนนักร้องเพลงไทยสากลท่านอื่นๆ ดูจะมีสไตล์แจ๊สชอบมาก แต่เพลงประกอบละครเรื่องรอยไหม เรายังไม่รู้สึกว่าเพราะมากเท่าไหร่ จากคุณ : MissDolly16 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 22:15:19

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องนี้ปรับเปลี่ยนบทเหมือนกันกับหลายๆ เรื่อง แต่ที่น่าสนใจ และน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างคือ ก่อนปรับเปลี่ยนบทประพันธ์ มีการคุย ปรึกษา หารือ ทำความเข้าใจกับ "นักเขียน" โตย ไม่ใช่ทำเอง เออเอง ผู้ประพันธ์มาเห็นก็ต้อง "ช้ำใจ๋"   อย่างนี้ต้องขอยกย่องคุณพงพัฒน์ ที่ "รู้จักให้เกียรติ" ผู้ประพันธ์ น่าฮักขนาดเน้อคุณพงพัฒน์ จากคุณ : ame_rati เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 22:21:38

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณค่ะที่ช่วยมาอธิบาย ไม่ได้อ่านเรื่องมาก่อน แต่ได้ดูตอนแรกแล้วสนุกมากค่ะ ได้รู้จักวัฒนธรรมทางเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงบทละครและนักแสดงที่ดีมาก เรื่องการพูดไม่คล่องแบบชาวเหนือนี่ให้อภัยกันได้ค่ะ เพราะตัวเองครอบครัวก็คนเหนือ ตัวเองพูดได้และเข้าใจทุกคำ แต่สำเนียงไม่ได้ค่ะ เพราะเกิดและโตกรุงเทพค่ะ จะเห็นว่าละครเรื่องนี้มีที่มาที่ไปในการดัดแปลง และเป็นการทำงานร่วมกันของผู้ประพันธ์ คนเขียนบท และผู้สร้าง ละครถึงได้ออกมาสละสลวยดีจริง ๆ จากคุณ : คุณนายแมว เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 22:32:14

ความคิดเห็นที่ 28 ต่างอย่างสุดขั้วของคนละช่อง ช่องหนึ่ง เคารพเจ้าของบทประพันธ์ งานปราณีต อีกช่อง ยำสาระตะไม่เกรงใจเจ้าของ...งานก็....อย่างว่า จากคุณ : ชีนะ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 23:16:04

ความคิดเห็นที่ 29 ความคิดเห็นที่ 1     การพูดเหนือ ของ คุณสุริยวงศ์ อันนี้เห็นด้วยจ๊าดนักเจ้าที่คุณอั้มอู้เมืองกำไทยกำ เพราะบ่เดียวนี้ เด็กๆที่เหนือก็อู้กำเมืองสำเนียงไทยเป็นส่วนมากเจ้า เพราะว่าอยู่บ้านก็อู้เมืองกับครอบครัว แต่เวลาไปโรงเรียนต้องอู้ไทย กับคุณครูและเพื่อนๆ เลยกลายเป็นว่าอู้เมืองป่ะแล้ดไทย อยากให้ผู้ชมอย่าไปคาดหวังเรื่องการพูดคำเมืองของนักแสดงเลยนะคะ เราอยากบอกว่ามันเป็นภาษาที่ฟังง่ายรื่นหู แต่จะมาเรียนพูดเมืองในเวลา อันสั้น ค่อนข้างทำได้ยากนะคะ เพื่อนเราเป็นคนภาคกลาง มาอยู่เหนือ เป็นสิบปีก็ยังพูดเหนือป่ะแล้ดเลยค่ะ ทั้งที่เค้าพยายามมากนะคะ ที่จะพูดให้ได้ ใครๆก็ว่าคุณชาย ชาติโยดมพูดคำเมืองไม่เหมือน เราขอค้านหัวชนฝาเลยค่ะ คุณชายยังพูดได้สำเนียงชัดกว่าเพื่อนเรามาก พูดเพราะกว่าบ่าวเชียงใหม่บางคน อีกนะคะ ส่วนคุณอรอนงค์เนี่ย เรียกว่าเป็นคำเมืองที่ไพเราะสะเหนาะหูมากๆ คนเหนือเวลาด่าใครหรือดุใครดูน่าเอ็นดูมากกว่าน่ากลัวค่ะ เพราะภาษาเหนือแท้ๆ จะนุ่มนวล ลื่นหูจริงๆ โดยเฉพาะสำเนียงเชียงใหม่ เคลิ้มมมมเลยค่ะ ขอบคุณ จขกท นะคะ ที่นำเกร็ดเล็กๆมาแบ่งปัน ปล. เราเป็นสาวลำปางแต้ๆหนาเจ้า จากคุณ : Amuse_Za เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 23:25:35

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณ จขกท ค่ะ ที่เอาข้อมูลมาแบ่งปัน  นึกอยู่แล้วว่า เจ้าสุริยวงค์ พูดกลางผสมเหนือ  น่าจะประมาณเป็นคนสมัยใหม่ และเรียนต่างประเทศ เลยพูดแบบนี้ ซึ่งก็จริงเสียด้วย ชอบคุณพงศ์พัฒน์ ตรงที่ถ้าจะเปลี่ยนเนื้อเรื่อง ก็ปรึกษาเจ้าของบทประพันธ์ก่อน ถือเป็นการให้เกียรติผู้ประพันธ์มาก จากคุณ : vpjmm เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 23:27:01

ความคิดเห็นที่ 31   โหวตค่ะ ได้ความรู้ และได้ความรู้สึกดีๆ จากทั่งเจ้าของบทประพันธ์และผู้สร้างด้วย   ประทับใจค่ะ จากคุณ : สีลาสิรา เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 23:46:32

ความคิดเห็นที่ 32 ขอโหวตนะคะ ชอบที่พี่อ๊อฟปรึกษาเจ้าของบทประพันธ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงบท จากคุณ : วันที่สวยงาม เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 23:47:52

ความคิดเห็นที่ 33 โหวตไปแทน คันหู 55 จากคุณ : shu_em เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 00:33:04

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบตรงที่พี่ออฟให้เกียรติผู้ประพันธ์เช่นเดียวกัน ผลออกมาคือได้ละครที่มีค่าและละเมียดละไม ดูแล้วเพลิน สบายตา ดูแล้วอยากทำให้ไปเที่ยว ไปรับวัฒนธรรมชาวเหนือ ภาษาเหนือฟังแล้วก็เสนาะหู จากคุณ : Ta - PaPPeR - WaHn เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 00:39:49

ความคิดเห็นที่ 35 "ทางคุณพงษ์พัฒน์ - คุณสมรักษ์ - ตัวผม - คุณยิ่งยศ ผู้เขียนบท จึงเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วนดังนี้ครับ" นี่สิเรียกว่าการทำงานเป็นทีมที่แท้จริง จะทำละครสักเรื่อง มันต้องร่วมด้วยช่วยกันคิดทุกฝ่าย ทั้งผู้จัด ผู้กำกับ ผู้ว่าจ้าง ผู้ประพันธ์ และผู้เขียนบท ละครจึงจะออกมามีคุณภาพ ถูกใจทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าจะปรับเปลี่ยนอะไรต่างๆ นานาแล้วถูกใจคนใดคนหนึ่งหรือมีผลกระทบต่อคนใดคนหนึ่ง ชื่นชมการทำงานของทีมนี้ค่ะ จากคุณ : ไข่เจียวทรงเครื่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:10:46

ความคิดเห็นที่ 36 บทสัมภาษณ์ คุณแดง ธัญญา วชิรบรรจง (ภรรยาพี่อ๊อฟ ผู้กำกับ) : ที่มา จากหนังสือเรื่องย่อละครรอยไหม NK GROUP เป็นแรงสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างละครเรื่องนี้ ออกมาให้เราได้ชมกัน มาเล่าถึงความตั้งใจทำละครเรื่องนี้   "สำหรับฉากใหญ่ๆ ในตอนต้นเรื่องทั้งหมดเรายกกองไปปักหลักกันในโลเคชั่นภาคเหนือ คือ ปรับจากเดิมตามเนื้อเรื่องของคุณหมอพงศกร มาเป็นถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งพอมาถึงครึ่งหลังๆ เน้นในเรื่องความเข้มข้นในเรื่องชิงรักหักสวาท ดราม่ามากขึ้น เพราะกลัวว่า ถ้าอิงขนบธรรมเนียมประเพณี หรือวัฒนธรรมมากเกินไป เดี๋ยวคนดูจะเบื่อกัน แต่เราเลือกที่จะใช้วิธีสอดแทรกขนบธรรมเนียมประเพณีเข้าไปในเนื้อของละครแบบเนียนๆ ไม่ดูว่าจงใจ ซึ่งจุดนี้ที่จริงมันเป็นความยากในการทำงานของเราด้วย   อย่างเรื่องเซ็ตติ้งฉากทั้งหมดที่ต้องสื่อให้เห็นว่าในฝั่งภพเดิมนั้นเป็นเจ้า เป็นวังเขาทำกันอย่างไร อันนี้ยากมากๆ คือ ทุกอย่างเราต้องเรียนรู้ เสื้อผ้าก็ต้องทุกอย่าง ดูว่าถูกต้องมั้ย มีอะไรไม่ตรงตามแบบเดิมของเนื้อเรื่องเค้าบ้าง เพราะละครเรื่องนี้เราไม่ได้ทำให้ออกมาเป็นเมืองสมมุติ แต่ทำกันให้เห็นเป็นเมืองจริงๆ คือ ตัวนางเอกเขามาจากเมืองเชียงตุง พระเอกเป็นเจ้าชายล้านนา มันชัดเจน ทุกอย่างต้องตรง จุดนี้มั่วไม่ได้เลยค่ะ เดี๋ยวคนภาคเหนือ เขาจะไม่โอเคว่าเราทำงานไม่เนี้ยบ ไม่ตรงตามความเป็นจริง คือเราก็อยากให้ทำให้ถูกต้อง   อย่างสำเนียงการพูดคำเมืองในเรื่องทั้งหมด ของตัวนักแสดง เราจะมีครูสอนที่จะคอยประกบติดตัวนักแสดง ติวเข้มกันเลย นักแสดงบางคนที่ไม่ชิน เขาก็มองว่าเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคนที่เคยเล่นมาบ้างแล้ว เขาก็มองว่าเขาพูดได้ เล่นได้ แต่บางคนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก็เกร็งไปหมดเลยค่ะ"   จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:13:34

ความคิดเห็นที่ 37 ต่อนะคะ "ในส่วนงบประมาณในการถ่ายทำนี่ เราไปเสียกับเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางในการถ่ายทำซะมาก เพราะเราต้องการสถานที่ถ่ายทำจริงทั้งหมด ไม่มีการสร้างฉากภายนอก เน้นที่จริงเป็นหลัก ทำให้การทำงานค่อนข้างยาก เพราะสถานที่กว้าง อ๊อฟเค้าก็ชอบเน้นมุมกล้อมให้ภาพออกมาสวยงาม ซึ่งเมื่อตัดทีเซอร์มาดูตัวอย่างกันออกมาแล้วทุกคนก็หายเหนื่อย เพราะมันออกมาสวยจริงสมใจเขาละค่ะ   และเรื่องที่หนักที่สุด ก็คือส่วนของการเซ็ตเรื่องเสื้อผ้า ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างหนักที่สุด เพราะถือเป็นการบ้านที่ยากมากที่สุด แรงสุดด้วยนะคะ เพราะงานนี้ เราใช้เสื้อผ้าของจริง เป็นผ้าเก่า ผ้าโบราณจริงทั้งหมด ซึ่งก็ต้องขอบพระคุณอาจารย์โกมล ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์อยู่ที่ จ.แพร่ ช่วยให้คำแนะนำตลอดและผ้าบางชิ้นอาจารย์ก็ทอให้ใหม่เลย เพื่อละครเรื่องนี้โดยเฉพาะ   และส่วนหนึ่งที่ได้จากอาจารย์มา เราต้องคืน เพราะผืนหนึ่ง นี่ราคาผืนละเป็นแสนทีเดียวค่ะ ทีมงานเราก็ภูมิใจนะคะที่ได้บทประพันธ์เรื่องนี้มาทำเป็นละคร ซึ่งทุกคนก็ทำการบ้านกันเต็มที่ ข้อมูลเป๊ะ และเมื่อเรายกกองไปปักหลักถ่ายทำฉากใหญ่ๆ ฉากที่สำคัญทั้งหลายของเรื่องที่น่ารักที่สุด ก็คือ พี่น้องชาวเหนือให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จริงๆ คือเราทำตรงนี้ทุกคนรู้ว่าเราตั้งใจ เพราะเขาเห็นเราทำ "เมื่อดอกรักบาน" แล้ว เลยให้ความร่วมมือ เห็นว่าเราทำได้ เขาจึงส่งเสริม เพราะเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เรื่องผ้าไหม ก็จะได้รู้จักมากขึ้นว่าผ้าไหมทางเหนือเป็นอย่างไร"  จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:16:09

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นงานผ้าทอมือแล้วคิดถึงแม่มากค่ะ แม่เราชอบนุ่งผัาซิ่น ถ้าไปแอ่วเหนือเมื่อใดจะซื้อไปฝากแม่ ละครสื่อออกมาได้ดีค่ะ ดูแล้วผ้าทอไม่ได้เชยเลยสักนิด แต่รู้สึกสวยงามและน่าภาคภูมิใจมากค่ะ เราดูแล้วกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเลยค่ะ ประมาณว่า ของไทยก็สวยนะ คนไทยก็มีฝีมือนะ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำเองสักหน่อย แปลกดี 555 จากคุณ : ไข่เจียวทรงเครื่อง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:19:04

ความคิดเห็นที่ 39 บทสัมภาษณ์ ผู้กำกับ พี่อ๊อฟ พงพัฒน์ วชิรบรรจง (จากหนังสือเรื่องย่อละครรอยไหมภาพยนตร์บันเทิง) "ความสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่ผ้าไทยโบราณล้านนา เราได้มาจากพิพิธภัณฑ์ เขาหวงมาก ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอเขาไม่ให้หรอกนะ แต่เขาเห็นว่า เรามีความตั้งใจจะเผยแพร่ความงามของผ้าไทย ว่าสวยงามเหลือเกิน ต่างชาติมาซื้อของเราไปเยอะแล้ว เราคนไทยมีของดีอยู่แท้ๆ ทำไมไม่ทำให้โดดเด่น  อันดับหนึ่งคือ เรื่องต้องสนุก   นางเอกเรื่องนี้คือ แอฟ เหมือนไหม้แขวนดี ใส่อะไรก็สวยไปหมด แล้วเขาเป็นเจ้าหญิงด้วย นักแสดงอื่นๆ มีความสามารถ ทั้ง ชาย มี้ เมย์ ชุดาภา เป็น ผีอีเม้ย รักนายมาก ตายแล้วเป็นผีโผล่มาจากขื่อ จากหลังคา จากเสาไฟฟ้า   ความสนุกของละครคือเรื่องกรรม ใครทำดีได้ดี อย่าว่าแต่ทำเลย แค่คิดไม่ดีก็ไม่ดีแล้ว อยากได้อยากครอบครอง พอไม่ได้ ไม่สมหวังก็เป็นความทุกข์ติดตามไป 70 ปี มนุษย์เราไม่ต้องรอชาติหน้า กรรมมาเป็นตัวให้เห็นๆ  สองเรื่องวัฒนธรรม เรื่องผ้าเก่าโบราณ ในฐานะสื่อทีวีเราต้องการนำเสนอผ้าต่างๆ ผ้าเชียงตุง ผ้าล้านนา   แล้วพี่ยุ่น(คนเขียนบท) เขียนบทก็รีเสิร์ชเยอะมากเหลือเกิน สอดแทรกเข้าไปในเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีด้วย" จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:25:16

ความคิดเห็นที่ 40 ส่วนนี่สัมภาษณ์ที่ปรึกษาเรื่องผ้า ของกองละครรอยไหม(จากหนังสือเรื่องย่อละครภาพยนตร์บันเทิง) อ.โกมล พานิชพันธ์ : ที่มาของผ้าไทย "ปกติทำเรื่องอนุรักษ์ผ้าอยู่แล้ว มาเป็นสไตลิสต์ให้ละครเรื่องนี้เวลาเจอผ้าสวยๆ ขอเขามาอนุรักษ์ จะเรียกว่าขอบูชาผ้า ผ้าซิ่นจะแบ่งเป็น 3 ส่วน อย่างผ้าบางผืน สมัยก่อน 18 บาท สมัยปัจจุบันคงแพงมาก บางผืนประเมินราคาไม่ได้ สืบทอดกันมาจากรุ่นต่อรุ่น จากบรรพบุรุษในท้องถิ่น เรื่องสีของผ้าก็มีผลต่อการสวมใส่ ถ้าเป็นแม่สีจะทำให้คนใส่ดูสูงเพรียว เวลาใส่ก็ต้องดึงผ้า เรียกว่า ชักผก ทำให้เดินได้คล่องตัว เอาผ้ามาเข้าฉากเยอะ ทั้งของจริง และของใกล้เคียง ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะเป็นมรดกของชาติ ถ้ามีเวลาก็จะเข้ากองถ่ายเพื่อมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพิธีกรรม การแต่งกายในแต่ละแบบ แต่ละยุค เรื่องวัฒนธรรม ต้องใช้ผ้าอะไร การแต่งกายของกลุ่มชน ต้องยังไง ผ้าโบราณก่อนนำมาแสดงต้องนำมาซ่อมอย่างดี ดูแลอย่างดี ละครเรื่องนี้จะมีสิ่งที่ให้คนไทยได้ดู ได้ชื่นชม ได้ภาคภูมิใจ บางคนไม่สนใจ คิดว่าพื้นบ้านไปหรือเปล่า แต่นี่ละคือมรดกของชาติ..." จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:33:44

ความคิดเห็นที่ 41 คุณปู ภูริวัตร กิตติศรีไสว ผู้ดูแลเสื้อผ้า - สไตลิสต์ ของละครรอยไหม "เป็นละครที่มีอดีตและปัจจุบัน ทุกอย่างเลยต้องลิงก์กัน อย่างปิ่นปักผมของเชียงตุงก็ต้องลิงก์กับปัจจุบัน ชาติที่แล้วมวยผม ชาตินี้ก็ทำอะไรที่คล้ายๆ กัน อิงจากประวัติศาสตร์ ทั้งจารีตประเพณี การนุ่งผ้าฝั่งล้านนา ห่มสไบ เครื่องประดับ เกล้ามวย ยากกว่าการทำเรื่องอื่น อ.โกมลต้องก๊อบเฟรมต่อเฟรมเลย ใช้แว่นส่อง มีหนังสือมาดู ทำไมผ้านี้ต้องต่อด้วยตีนจก แล้ว ไทยวน(ไท-ยวน) จะไม่โพกหัว จะนุ่งโจง ล้านนารวบรวย ที่เห็นตีโป่งดอกไม้ไหวในสตูดิโอไม่ใช่ของจริง เรามีข้อมูลหนังสือ เชียงตุงรับวัฒนธรรมจากจีน อินเดีย เรามีผ้าซิ่นไหมที่ประเมินค่าไม่ได้ ใช้เส้นเงินรีดมาแล้วจก ต้องไปอ้อนวอนขอ อ.โกมล มาเล่าเรื่องไปด้วยกันในภาคปัจจุบันและอดีต อยากฝากให้ดูความสวยงามและวิถีชีวิตที่บางคนไม่รู้ว่าผ้าเชียงตุงเป็นยังไง คนไทยกลุ่มหนึ่งนุ่งผ้ากันยังไง ใช้อะไรยังไง ความเป็นมาของผ้า รุ่นลูก รุ่นหลานจะได้รู้ว่าล้านนาที่ถูกต้องเป็นยังไง เราจะจำลองชีวิตให้ได้ดูกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้" จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 02:41:47

ความคิดเห็นที่ 42 คุณยิ่งยศ ปัญญา : ผู้เขียนบทโทรทัศน์ "รอยไหม" ที่มาจากหนังสือเรื่องย่อละครทีวีแม็กกาซีน "เรื่องนี้จะสวยงาม โรแมนติก ดราม่า เพราะว่ามันเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาราคะของมนุษย์ ความหึงหวง อิจฉาริษยาตาปลิ้นมีหมด พี่ประทับใจในความโรแมนติก รันจวญใจ บาดหัวใจ และครบอรรถรส แล้วก็จินตนาการได้สูงส่ง อ่านแล้วสนุก จะว่าไปมันคือการผจญภัยของเรื่องความรักนะ มีอะไรท้าทายให้เราได้เล่นมากมาย เช่น เราจะคิดยังไงให้วิธีที่นางเอกย้อนไปสู่อดีตชาติตัวเองแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน และยากท้าทายทั้งในแง่ประเพณีทางเหนือ เราก็หนักใจระดับนึง หลังจากนั้นก็โยนให้ "พี่อ๊อฟ" ไปทำโปรดักชั่น ว่าจะเนรมิตรมันได้ขนาดไหน เพราะแต่ละซีเควนซ์ที่ปั้นขึ้นมานี่หนักหนาสาหัส การดำเนินเรื่องในอดีตชาติกับปัจจุบันจะไปพร้อมๆ กัน เรื่องตัดสลับไปมา พี่เล่าขนานกันไปเลย พอเล่าเรื่องอดีตไปถึงจุดนึงแล้วเราก็ดึงกระชากเค้ากลับมาสู่ปัจจุบัน ชีวิตในปัจจุบันมันก็เป็นเหมือนเวรกรรม ที่มันมาจากชาติที่แล้วว่าความรักจะสมหวังระทมแค่ไหน เรื่องจะไม่ซ้ำกับ "เมื่อดอกรักบาน" แน่นอน แม่ว่าจะเป็นเรื่องทางเหนือเหมือนกัน คือนางเอกเดินทางไปอยู่เชียงใหม่แล้วก็มีเหตุให้ต้องทะลุเข้าไปสู่การที่ต้องเจอเรื่องของตัวเองในอดีตชาติ กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ ผ้าผืนหนึ่งที่ทอไม่เสร็จค้างไว้อยู่ในกี่ แล้วมันก็คือผ้าที่เค้าทอไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว นางเอกมาเจอเลยทำให้ผูกพันกับผ้าผืนนี้ และมีมิชชั่นว่าต้องทอผ้าผืนนี้ให้เสร็จ พอเริ่มทอผ้าเท่านั้นแหละอัศจรรย์มันก็บังเกิด เหมือนเค้าไปย่ำรอยเท้าเดิมของเค้า คือระหว่างที่เค้าทอผ้าต่อ เรื่องราวในอดีตมันก็กลับมา โดยมีตัวละครอีกตัวที่สำคัญมากคือ "ชาย" ซึ่งเป็นวิญญาณที่เฝ้ารอคอยให้นางเอกมาทอผ้าผืนนี้ให้เสร็จ เพราะว่ามันเป็นผ้าที่เค้าจะต้องใช้ในพิธีแต่งงาน" จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 03:31:30

ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อคืนผมชอบฉาก    หลังจากที่ไปบ้าน ย่าของพระเอก แล้วพระเอกขับรถกลับไปส่งนางเอกมากเลยครับ          ละครทั่วไปจะถ่ายจากข้างนอกเข้าไปหาหน้าพระเอกกับนางเอก      ประมาณเน้นเฉพาะจุดที่ทั้งสองคนคุยกัน     แล้วหลังจากนั้นจะซูมภาพไปข้างนอก ดูบรรยากาศว่ารถขับอยู่ที่ไหนซักแป๊บ               หรือเต็มที่ก็ถ่ายเฉียงตำแหน่งจากในรถพอให้เห็นหญ้าหรือรถที่อยู่ข้างทาง เพื่อให้เห็นว่าขับรถจริงๆ แต่มุมกล้องเรื่องนี้  ผมชอบตอนที่ถ่ายด้านข้างมาแล้วเห็นกำแพงเมืองเก่า     มันดูได้บรรยากาศเหมือนเราได้ไปเที่ยวชมสถานที่ไปด้วย       หลังจากนั้นเค้าแพนกล้องไปด้านหลังมุมกว้างให้เห็นภาพด้านหน้ารถผ่านจากหลังตัวละคร ออกไปที่ถนนด้านหน้า     อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร       แต่ผมดูแล้วชอบจริงๆครับ      การถ่ายภาพแบบนี้           เพราะสมัยจบใหม่ๆเป็นคนชอบเที่ยวต่างจังหวัดมาก     ขับรถไปเที่ยวจังหวัดต่างๆทุกอาทิตย์       แต่ปัจจุบันมันไม่มีเวลาขนาดนั้น         พอเห็นภาพเหมือนเราขับรถไปเที่ยวเอง เห็นแล้วชื่นใจครับ จากคุณ : darkming เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 08:24:54

ความคิดเห็นที่ 44 กดโหวตให้ค่ะ เกร็ดเหล่านี้ถ้าคนที่ชื่นชอบละคร รอยไหม เข้ามาอ่านจะได้เข้าใจ ตัวละคร มากขึ้น  และร่วมชื่นชมทีมงาน ผู้จัด ผู้กำกับ ว่าได้ทุ่มเทพลังให้กับละครเรื่องนี้อย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรมของชาติอีกด้วย  ยิ่งถ้าได้ไปฉายที่ต่างประเทศจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอีกทางหนึ่ง แต่เชื่อว่าคนไทยที่ได้ชมละครเรื่องนี้ หลายคนไม่เคยไปสถานที่ต่างๆในละครเลย และอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนด้วยซ้ำว่ามีสถานที่สวยงามแบบนี้ในเมืองไทย เป็นการจุดประกายการส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยด้วยค่ะ อาจรวมไปถึงการกระตุ้นให้คนไทยรู้จักรักษาวัฒนธรรมของเราเอาไว้ด้วย ปลุกกระแสผ้าไทยขึ้นมาใหม่ จากที่เดิมเมื่อหลายปีมาแล้วมีการสนับสนุนให้ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปใส่ผ้าไทยเป็นเครื่องแบบ ตอนนั้นเราก็เป็นคนหนึ่งที่ตัดผ้าไทยใส่ไปทำงานหลายสิบชุดทีเดียว จากคุณ : vpjmm เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 10:21:19

ความคิดเห็นที่ 45 ผมไปอยู่เชียงใหม่ 4 ปี พยายามเต็มที่ที่จะอู้คำเมืองเหมือนกัน แต่ก็ปะแล้ด แต่ว่าตอนอยู่บ้านตัวเองก็สำเนียงเหน่อๆ บ้านนอกอยู่แล้ว เพื่อนเลยบอกว่าเหมือนสำเนียงกะเหรี่ยงมั่ง เหมือนสำเนียงลำปางมั่ง เดี๋ยวนี้เขาก็อู้กันแบบคำไทยสำเนียงเหนือเยอะเหมือนกันครับ คำเมืองคำไทยปนกันไปหมด คำศัพท์ที่เป็นเมืองจริงๆ บางทีก็ไม่ค่อยใช้กันแล้ว ผมเลยว่าพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกคนที่ฟังแล้วขัดอกขัดใจนะครับ จากคุณ : รพินทร์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 10:34:35

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยกับการปรับบทมาเป็นเชียงใหม่แทนหลวงพระบางด้วยค่ะ เพราะเดี๋ยวจะต้องมีปัญหากับทางลาวแน่ๆ แค่ชื่อคนก็คล้ายกันมากๆแล้ว เช่น เจ้าศิริวงค์กับเจ้าศิริวัฒนานั้นชื่อก็คล้ายเจ้ามหาชีวิตของลาวอยู่นะ เจ้าศรีสว่างวงค์แห่งเวียงจันทน์ หรือเจ้าศรีสว่างวัฒนาทางจำปาศักดิ์ ถ้าจำไม่ผิด คนลาวเขายังนับถือเจ้าทั้งสององค์นี้อยู่มากเหมือนกัน จากคุณ : tuta fatty เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 10:38:18

ความคิดเห็นที่ 47 โหวตกันเยอะๆนะคะ อยากให้ขึ้นกระทู้แนะนำจัง จากคุณ : หมาน้อยซอย4 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 10:57:38

ความคิดเห็นที่ 48 คนเหนือเหมือนกันค่ะ แต่คำเมืองจริง ๆ ก็ไม่ค่อยรู้ ต้องให้ ผสว (ผู้สูงวัย) แปลให้อีกที ^^ ส่วนเรื่องนี้เห็นใจนักแสดงที่เขาไม่ใช่คนเหนือ แค่เขาแสดงและให้เกียรติและความสำคัญกับภาษาบ้านเราคนเหนือก็ดีใจมากแล้วค่ะ ปล.จากที่ดูเปิดกองวิก 3 เขาทั้งจ้างครู และขอให้เพื่อนสอน แสดงว่าเขาพยายาม และให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้ภาษาถิ่นมากอยู่นะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 54 11:03:02 จากคุณ : แม่หมอกระป๋องกระแป๋ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 11:00:58

ความคิดเห็นที่ 49 กดโหวตให้แล้วค่ะ จากคุณ : imims เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 11:02:36

ความคิดเห็นที่ 50 แต่เรื่องนี้อั้มพูดเหนือ..ฮามาก ออกแนวเหนืออีสานที่บอกไว้ก่อน  ไม่เป็นไรให้อภัยได้ เพราะ อั้มหล่อมาก จากคุณ     : omechina ขำอั้มบอกเขาพูดภาษาเหนือออกสำเนียงกะเหรี่ยง ถึงว่าแต่ละคนบ่นเครี่ยดเรื่องภาษามากที่สุด ขอบคุณเจ้าของภาพ จากคุณ : อารยา (vs85sk) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 11:20:02

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบเสื้อผ้า การแต่งกายของละครเรื่องนี้มากๆ บางชุดยังจำติดตาอยู่เลยนะคะ จากคุณ : KiRaTik เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 12:18:08

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นรูปโปรโมทด้านบนแล้วขนลุกอ่ะ    สวยมาก  ละเอียดจริงๆ เลยคุณแดง   ยกนิ้วให้เลย  ^__^ จากคุณ : นาโนจัง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 12:36:38

ความคิดเห็นที่ 53 รักผ้าไทยขึ้นอีกเยอะ เดี๋ยวงานเลี้ยงข้าราชการของคุณสามีปีนี้จะนุ่งผ้าซิ่นไปล่ะ ไปขุดออกมาจากกรุก่อน อิอิ จากคุณ : My name is my name เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 14:25:15

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบกระทู้นี้  ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ  น่าอ่านมากๆ ค่ะ  ^^ จากคุณ : เด็กหญิงชาเย็นปั่น เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 17:04:58

ความคิดเห็นที่ 55 เป๊ะจริงๆครับ ละครเรื่องนี้ ไม่มีมั่ว จากคุณ : batolomew เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 17:10:28

ความคิดเห็นที่ 56 คุ้มค่ากับการดูจริงๆค่ะ จากคุณ : cm_pn เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 17:20:03

ความคิดเห็นที่ 57 เราว่าเรื่องที่ตัวละคร เดี๋ยวพูดเหนือ เดี๋ยวพูดกลาง ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ เพราะเพื่อนๆผมที่เป็นคนเหนือ คุยกันเอง ก็สลับภาษากันไปมา เคยถามเหตุผล เพื่อนๆบอกว่า บางคำที่พูด จะคุ้นกับภาษากลางมากกว่า และเวลาคิดมันก็เลยคิดมาเป็นภาษากลางโดยอัตโนมัติ ส่วนคำเหนือบางคำ คนเหนือด้วยกันบางคนยังรู้จัก และบางคนยังไม่รู้จักก็มีครับ เพราะว่าอณาจักรล้านนาเป็นอณาจักรที่ใหญ่มาก ภาษาเหนือก็เหมือนกัน มีแตกสาขากันไปตามถิ่นฐาน เช่นลำพูน กับ เชียงใหม่ จังหวัดที่อยู่ติดกันแท้ๆ แต่รากเหง้าภาษายังต่างกันเลยครับ คนลำพูนส่วนใหญ่จะมีเชื้อสายมาจากคนยอง ภาษาเหนือก็เลยเป็นภาษายอง ส่วนมากคำที่พูดจะเหมือนกับภาษาเหนืออื่นๆ แต่จะมีสำเนียงที่ต่างกัน เช่นอาจจะห้วนกว่า และเน้นเสียงต่างกัน และก็มีบางคำที่คนยองพูด แต่คนเหนืออื่นๆไม่พูด ตัวอย่าง อ้วน  = คนเมืองก็จะพูดว่า อ้วน / แต่คนยองจะพูดว่า โอ้น กระเด็น = คนเมืองพูดว่า กระเด็น / คนยองพูดว่า สะดิน เป็นต้น ปล. แอบรู้เพราะว่า แม่เป็นคนลำพูนครับ ตัวเองเกิดโต กทม. แต่เคยไปอยู่ลำพูนเชียงใหม่มาสามปี รักเชียงใหม่และลำพูนมากๆ ตอนนี้จะพยายามกลับไปทุกเดือน รักคนเหนือ รักถนนต้นยาง สารภี ลำพูน-เชียงใหม่   รักวัดพระพุทธบาทตากผ้า ที่ป่าซาง ลำพูน เพราะเคยไปบวชมาเดือนนึง รักพระธาตุหริภุญชัย เพราะเราได้ไปสักการะทุกเทศกาล รักดอยสุเทพ เพราะเวลาไม่รู้จะขับรถไปใหนก็จะขับขึ้นดอย รักหน้ามอชอ ถึงไม่ได้เรียนมอชอ แต่รักบรรยากาศของมหาลัย และร้านอาหาร ช๊อปปิ้ง รอบๆมอ มากๆ รักตลาดโต้รุ่งลำพูน ไปทีไรทุกอย่างก็ขายเหมือนเดิม // ว่าแล้ว ส่งใบลาเลยดีกว่า ลางาน กลับบ้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : อาบะเรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 17:39:24

ความคิดเห็นที่ 58 ได้อ่าน รอยไหม มาตั้งแต่ยังไม่รวมเล่ม ก็คิดว่า ถ้าทำเป็นละคร คงจะยาก (แล้วก็ยากจริง) จะมีใครกล้าทำไหมนะ   ทำแล้วจะออกมาได้อรรถรสเหมือนนิยายไหม?? แค่ได้ดูตอนแรก ต้องขอบคุณทีมงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่รักษา "ความละเมียดละไม" ของบทประพันธ์เอาไว้ ขอบคุณจริงๆที่ทำให้มีโอกาสได้เสพงานดีๆบ้าง ^^ จากคุณ : ล็อกอินนี้นิสัยดีแต่ปากเสีย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 18:35:37

ความคิดเห็นที่ 59 ทำไมไม่ทอผ้าต่อจากเจ้าของเดิมที่เสียชีวิตไปแล้ว หากใครดูละคร ตอนที่เรเริน (แอฟ) ไปทอผ้าต่อจากเจ้านางมะณีริน เจ้าอ้าย(ชาย) ก็พูดว่า ไม่มีใครทอผ้าต่อจากคนที่เสียชีวิตแล้ว ไหมแมก็เช่นกัน มีหลายคนสนใจประเด็นนี้  จกขท. จึงขออนุญาตโค้ทคำตอบของ คุณyestagon ผู้มาช่วยตอบไว้ในกระทู้  http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A11037139/A11037139.html ซึ่งเป็นคำตอบของคุณหมอ พงศกร ผู้ประพันเรื่องนี้ ดังนี้ค่ะ      ............ อันนี้จากบทสัมภาษณ์ของคุณ พงศกร ตอนเก็บข้อมูล ก่อนที่จะเขียนเรื่องนี้ ....."คนที่ทอผ้าเขาเล่าให้ฟังว่า สมมติถ้าคนทอผ้าคนหนึ่งกำลังทอทออยู่ แล้วเกิดเสียชีวิตไป จะไม่มีใครทอผ้าผืนนั้นต่อนะครับ เขาจะถือว่าผ้าผืนนั้นจบลงแค่นั้น แล้วจะพับเก็บไว้เลย ผมก็เลยได้ประเด็นตรงนี้มาผูกเป็นเรื่อง" .....     จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 18:50:21

ความคิดเห็นที่ 60 ความตั้งใจของผู้ประพัน คุณหมอพงศกร จินดาวัฒนะ  กับการเขียนนิยายเรื่องผ้า ตัดบางส่วนมาจาก "สกุลไทย ฉบับที่ 2719 ปีที่  53 ประจำวัน  อังคาร ที่  28 พฤศจิกายน  2549) หรือใครสนใจบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม เชิญที่ http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=5208&stissueid=2719&stcolcatid=1&stauthorid=159 ...................... " จังหวัดราชบุรีเป็นจังหวัดที่มีผ้าทอคูบัว ผมจะโตมากับผ้าเหล่านี้ และมักจะได้เห็นผ้าเก่าๆอยู่บ่อยๆ คุณแม่ของผมท่านก็ชอบใส่ชุดผ้าไทย ผมเองก็มีเสื้อผ้าไทยอยู่หลายตัว รู้สึกว่าผ้าไทยมีเสน่ห์ ดูมีความลึกลับ และผมมีความรู้สึกว่าคนเราเวลาจะดูเรื่องประวัติศาสตร์ เรื่องวัฒนธรรม เรามักจะไปให้ความสำคัญกับเอกสารที่เป็นตำราหรือหนังสือค่อนข้างมาก ทั้งที่จริงๆแล้ว บันทึกทางประวัติศาสตร์ บันทึกทางวัฒนธรรมของเรายังมีอีกหลายสิ่ง ผ้าก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์และวิถีวัฒนธรรม แต่เป็นบันทึกผ่านผืนผ้า ผ่านเส้นไหม  ผ้าคูบัวของราชบุรีทำให้ผมรู้สึกว่าน่าสนใจมาก เพราะทอด้วยคนไทยยวน และเมื่อประมาณ ๒ ปีก่อน ผมเดินทางไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง ได้พบกับกลุ่มคนที่เขายังทอผ้าอยู่ ด้วยความประหลาดใจ เพราะลายผ้าใกล้เคียงกันมากกับผ้าคูบัว เช่น ลายหงส์คู่ ซึ่งที่จริงคนไทยยวนในราชบุรีก็เป็นกลุ่มที่ถูกกวาดต้อนครัวเรือนมาตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ ทราบอย่างนี้ก็เลยไม่แปลกใจ เพราะผ้าจากทั้งสองแห่งมีแหล่งกำเนิดเดียวกัน จึงทำให้เริ่มสนใจเรื่องผ้าเก่ามากขึ้น รู้สึกว่านี่แหละคือบันทึกประวัติศาสตร์ บันทึกวัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่งที่บางครั้งเราไม่ทันได้นึกถึง เราจะไปอ่านแต่พงศาวดารอะไรแบบนั้น  จากนั้นผมก็เริ่มค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผ้ามาอ่าน และบังเอิญไปเห็นผ้าทองผืนหนึ่งที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่าน่าจะเอามาผูกเป็นพล็อตนวนิยาย โดยให้ชื่อเรื่องว่า สาปภูษา และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ที่หลวงพระบาง ผมมีโอกาสได้พักอยู่กับพี่คนหนึ่งซึ่งเขาเคยทำงานด้านทอผ้า พี่เขาก็เล่าเกี่ยวกับเรื่องผ้าทอให้ฟัง รู้สึกว่าน่าสนใจ เลยเอามาผูกเป็นอีกเรื่อง คือ รอยไหม ผมตั้งใจว่าจะเขียนนวนิยายเกี่ยวกับเรื่อง ผ้า สามเรื่อง ยังมีเกี่ยวกับ ผ้ากี่เพ้า อีกเรื่องหนึ่ง ที่ตั้งใจว่าจะทำในอนาคต"          จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 19:03:41

ความคิดเห็นที่ 61 (ต่อค่ะ )  "ต้องค้นเยอะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก จะใกล้อยู่อย่างเดียวก็คือเคยเห็นเขาทอผ้า และเคยมีโอกาสได้คุยกับคนไข้ของผม เขาเป็นคนคูบัว เป็นลูกหลานของ คุณยายซ้อน กำลังหาญ ซึ่งท่านเป็นศิลปินผ้าทอของจังหวัดราชบุรี ผมได้ไปเห็นเขากำลังสอดลายผ้า ประกอบกับเริ่มหาหนังสือเกี่ยวกับผ้ามาอ่าน อ่านแล้วก็เก็บๆเอาไว้เป็นข้อมูล และได้นำมาใส่ในเรื่อง สาปภูษา เป็นช่วงๆ คิดว่าผู้อ่านเรื่องนี้จะได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องผ้าไปด้วย คือใจผมอยากให้คนอ่านได้เห็นว่าผ้าไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เป็นวัฒนธรรมของเราที่มีมายาวนาน จึงอยากให้มีต่อไป เพราะกลุ่มคนทอผ้าเขาเคยบ่นกันว่าคนใช้ผ้าไทยน้อยลงมาก เนื่องจากผ้าสมัยใหม่ทอเร็วกว่า ได้เงินเร็วกว่า แต่หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสนับสนุนเรื่องผ้าไทย ทำให้คนนิยมผ้าไทยมากขึ้น เป็นการเปิดภาพใหม่ให้ผ้าไทยเข้าสู่วงสากล เพราะเป็นสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มี ส่วนข้อมูลของผม ผมขอแบ่งอย่างนี้นะครับ ผมจะใช้ข้อมูลบวกแฟนตาซีแล้วออกมาเป็นนวนิยาย ซึ่งนวนิยายส่วนใหญ่ของผมจะเน้นจินตนาการแนวแฟนตาซีด้วย ในขณะเดียวกันผมมีความรู้สึกว่าอ่านหนังสือก็จะต้องได้อะไรไปด้วย ไม่ใช่ว่าได้แต่เสียงหัวเราะความสนุกสนาน จบเรื่องก็ลืม เพราะฉะนั้น แต่ละเรื่อง ผมจะมีธีมค่อนข้างชัดว่าเรื่องนี้เราอยากจะนำเสนออะไร อย่างเรื่อง สาปภูษา ผมต้องการนำเสนอเรื่องผ้าของไทย ผ้าเก่าของไทย ก็ต้องไปหาข้อมูลตรงนี้มา ซึ่งผมต้องเอามาปรุงใหม่นะครับ จัดสัดส่วนของข้อมูลกับแฟนตาซีให้พอดี ข้อมูลต้องไม่มากเกินไป ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นงานสารคดี"          จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 19:05:47

ความคิดเห็นที่ 62 (ต่อค่ะ)   "จากเอกสาร ก็มีหลายรูปแบบในปัจจุบัน ทั้งเอกสารที่เป็นรูปเล่มและเอกสารที่ได้จากทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งโดยปกติผมจะให้ความสำคัญกับเอกสารที่เป็นเล่มๆค่อนข้างมาก เพราะว่าอินเทอร์เน็ตถึงแม้ไวจริง หลากหลายจริง แต่บ่อยครั้งก็พบข้อกังขาในเรื่องข้อเท็จจริงว่าถูกต้องหรือไม่ ผมจึงมีความมั่นใจในข้อมูลจากเอกสารที่มีลักษณะเป็นรูปเล่มมากกว่า เพราะฉะนั้นผมจึงให้น้ำหนักกับเอกสารที่เป็นเล่มๆมาก  ถึงกระนั้นก็ตาม เอกสารที่เป็นเล่ม ก็ต้องมาดูอีกว่าเป็นเอกสารชั้นต้นหรือเอกสารที่สังเคราะห์มาแล้ว ในท้องตลาดเดี๋ยวนี้มีเอกสารที่ผ่านการสังเคราะห์มาแล้วเยอะนะครับ แต่บางทีข้อมูลอาจจะไม่ได้กล่าวถึงในบางจุดไว้ ผมต้องไปค้นเอกสารชั้นต้นมาดูด้วย  เวลา ๖-๗ ปี ที่ผ่านมา ผมไปเดินจตุจักรบ่อยมาก เพื่อไปหาซื้อหนังสือเก่า ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสืองานศพ หรือไม่ก็เป็นหนังสือเก่าที่ไม่มีการพิมพ์แล้ว      หนังสือสองเล่ม(เล่มแรกคือ ราชนิกูลรัชกาลที่ ๓ สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุขฯ ทรงพระนิพนธ์ ,เล่มที่สอง ตั้งเจ้าพระยากรุงรัตนโกสินทร์ คณะรัฐมนตรีจัดพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมหลวงชูชาติ กำภู เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๑๒) นี้ละครับที่ผมดึงเอาข้อมูลมาใช้อยู่เรื่อยๆในการเขียนเรื่องสาปภูษา เพราะว่าอีกสักพักหนึ่งจะต้องมีเหตุการณ์ย้อนยุคกลับไปสมัยต้นรัตนโกสินทร์           สาปภูษาจะใช้ข้อมูลจากเอกสารเล่มเป็นส่วนใหญ่และสัมภาษณ์บุคคลด้วย โดยไปคุยกับผู้ที่เขามีอาชีพทอผ้าคูบัว ผมไปคุยกับพวกเขาอยู่เรื่อยๆ เพื่อเก็บข้อมูลเอาไว้ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ได้เล่าแล้วว่าเกิดจากการไปท่องเที่ยวหลวงพระบาง ทำให้เขียนเรื่อง รอยไหม ออกมา แต่เป็นผ้าลาว คนที่ทอผ้าเขาเล่าให้ฟังว่า สมมติถ้าคนทอผ้าคนหนึ่งกำลังทอทออยู่ แล้วเกิดเสียชีวิตไป จะไม่มีใครทอผ้าผืนนั้นต่อนะครับ เขาจะถือว่าผ้าผืนนั้นจบลงแค่นั้น แล้วจะพับเก็บไว้เลย ผมก็เลยได้ประเด็นตรงนี้มาผูกเป็นเรื่อง          เปิดเรื่องด้วยนางเอกเป็นคนไทยไปเที่ยวหลวงพระบาง บังเอิญไปพบผ้าผืนหนึ่งซึ่งทอไว้ไม่เสร็จ นางเอกจึงเกิดสงสัยว่า ทำไมถึงทอไม่เสร็จ ขณะเดียวกันเธอก็อยากจะนำไปทอต่อ ในเรื่องผมสร้างให้นางเอกมีอาชีพเป็นอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับผ้าทอพัสตราภรณ์ หลังจากนั้นถึงได้มีเหตุการณ์ต่างๆตามมา                   เรื่องเกี่ยวกับผ้ากี่เพ้า ผมคิดว่าจะเขียนยากกว่าเรื่องผ้าทั้งสองเรื่องที่กล่าวมานะครับ เพราะว่าไกลตัวที่สุด ผ้าลาวในเรื่องรอยไหม ก็ยังถือว่าใกล้ อยากดูเขาทอผ้าเมื่อไหร่ย่อมไปดูได้ ผ้าไทยในเรื่องสาปภูษา ก็ยิ่งใกล้ แต่ถ้าเป็นผ้ากี่เพ้านี่ค่อนข้างไกลตัวมาก แต่เนื่องจากผมเคยเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์ แล้วไปเห็นพิพิธภัณฑ์ของคนจีนที่ยังเก็บชุดเสื้อผ้าพวกนี้อยู่ ก็รู้สึกน่าสนใจมากทีเดียว"          ผมมองถึงปัจจัยสี่ของมนุษย์ อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้นผ้ากับเครื่องนุ่งห่มจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับคนเรา และอีกความคิดหนึ่ง ผมมองว่าไม่ว่าจะเป็นผ้าไทย ผ้าลาว หรือผ้าจีน ล้วนแสดงถึงวัฒนธรรมของคนตะวันออก โดยเฉพาะผ้าจีนกี่เพ้า สมัยก่อนยุโรปเองยังต้องเดินทางไปซื้อในประเทศจีนเลยนะครับ จึงคิดว่าน่าเขียน เพราะมันสะท้อนภาพความเป็นตะวันออกของเรา ที่มีวัฒนธรรมมายาวนาน ยิ่งผ้ากี่เพ้าหรือว่าเสื้อจีนเองก็ตาม พอศึกษาไป ทำให้รู้ว่าลายแต่ละลายมีความหมายทั้งนั้น ถ้าเป็นฮ่องเต้จักรพรรดิ ต้องใช้ลายนี้เท่านั้น หรือว่าลายนี้สามัญชนใช้ไม่ได้ การใช้สีก็มีข้อต้องห้าม อ่านข้อมูลแล้วรู้สึกสนุกครับ เกี่ยวกับผ้ากี่เพ้านี่คิดว่าข้อมูลเกือบพร้อมแล้ว แต่อยากรอเวลาให้ตกผลึกอีกสักหน่อย รอจังหวะด้วยครับ อยากทิ้งระยะจากเรื่องสาปภูษากับรอยไหม แล้วถึงค่อยเขียน" จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 19:07:56

ความคิดเห็นที่ 63 ชอบละครเรื่องนี้มากๆค่ะขอบคุณพี่อ๊อฟที่ทำละครดีๆให้ดูนะคะ จากคุณ : De La Felicided เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 20:19:19

ความคิดเห็นที่ 64 อยากให้ดูคลิปนี้นะคะ เป็นคลิป ที่นักแสดงพูดถึง "ความพยายาม"ฝึกพูดภาษาเหนือ  เราก็จะเห็นถึงความพยายาม และตั้งใจ แสดงออกมาให้ดีที่สุด ...ลองดูนะจ๊ะ จาก เปิดกองวิก 3 จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 20:49:33

ความคิดเห็นที่ 65 คห.15 เพลงเพราะมากกกก เข้ากะเนื้อเรื่องจริงๆด้วยครับ ชอบจัง จากคุณ : +ฟ้างามยามค่ำ+ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 21:16:46

ความคิดเห็นที่ 66 เราเป็นคนเชียงใหม่แต่ตอนนี้ทำงานที่ีกรุงเทพ เวลาเดินห้าง ขึ้นรถไฟฟ้า หรือไปไหนมาไหน กับเพื่อนที่เป็นคนเหนือ เราจะพูดเหนือตลอด ไม่มาแอ๊ปพูดไทย และไม่อายด้วย " ภูมิใจ๋ตี้เกิดเป๋นคนเจียงใหม่แต้ๆเน้อเจ้าๆๆๆๆๆๆๆ" จากคุณ : I_love_wisky เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 21:23:54

ความคิดเห็นที่ 67 เป๊ะ มากๆ จากคุณ : เมีย แรมซีย์ ปืนใหญ่ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 21:29:40

ความคิดเห็นที่ 68 แล้วพี่ยุ่น(คนเขียนบท) เขียนบทก็รีเสิร์ชเยอะมากเหลือเกิน สอดแทรกเข้าไปในเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีด้วย" อ่านถึงตรงนี้ อยากให้มีคนรู้สึก "จุก" บ้าง จากคุณ : โลมาน้อยขี้เมา เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 21:52:32

ความคิดเห็นที่ 69 เป็นละครที่ละเมียดละไมน่าดูมากๆครับ อิ่มเอมใจที่ได้ดูละครเรื่องนี้ครับ จากคุณ : MR.BARAN เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 22:34:40

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่ได้เป็นคนเหนือ แต่เป็นลูกครึ่งเหนือคะ555 ฟังแม่อู้กับญาติ(ลำปาง)เร็วปานสายฟ้าแลป เลยทำให้ฟังออกหมด แต่ศัพท์ยากๆก็ไม่ได้เหมือนกัน พอฟังคนเชียงใหม่อิหยังพูดช้าหวานเพราะขนาด หันไปถามแม่แม่บอกบ่เหมือนกัน 555 พอลองหัดพูดเอง(พ่อก็หัด555 รู้เลยว่าบ้านนี้ใครใหญ่) แม่ส่ายหัวแล้วบอกว่าพอเหอะ 555 ได้ดูละครเรื่องนี้อิ่มใจแต้ๆ ชอบคนพูดเหนือจิงๆดูกะหนุงกะหนิงอ่อนหวานน่ารักมากคะ จากคุณ : puw (rolling dicy) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 22:40:13

ความคิดเห็นที่ 71 ข้าเจ้าฟังเปิ้นอู้ในละคร ก่อลักไค่หัวน่อยๆ คนไทยอู้กำเมืองน่าฮักดี จากคุณ : Natthanuch1 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 54 23:06:32

ความคิดเห็นที่ 72 ภูมิใจ๋ขนาดถ่ายตี้แป้บ้านผมตวย โฮะๆๆๆๆๆ จากคุณ : แต๋วแหน่ว เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 00:00:29

ความคิดเห็นที่ 73 ภูมิใจ๋ น้ำต๋าไหลแต้ๆ ดีใจ๋ตี้ได้ผ่อได้กอยละครตี้เขาตั้งใจ๋เยียะ ตั้งใจ๋อนุรักษ์โจ้ยเผยแป้มรดกของจ้าดบ่ฮื้อลูกหลานลืมไปเหีย อ่านบทสัมภาษณ์ละก่หันในความตั้งใจ๋ ความพยายามในก๋านหาข้อมูล หาผ้าเก่าแต๊ๆมาเข้าฉาก จะอี้มันถึงงามมมมปะล้ำปะเหลือ ผ่อจะไดก่งาม ขอบคุณปี้ออฟ ปี้แดง และทีมงานจ้าดนักเน้ออ จากคุณ : coffee_m เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 01:17:33

ความคิดเห็นที่ 74 รุ้แต่ว่าดูละครเรื่องนี้อยากไปเที่ยวทางเหนือ ไปไหว้พระมากๆๆ ยังไม่เคยไปเหนือ อยากไปตามรอยละครมั่งจังเลย จากคุณ : miran2005 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 01:53:55

ความคิดเห็นที่ 75 ยอมรับว่าตอนนี้ได้แค่จับใจความของบทพูดคร่าวๆ เท่านั้น อยากซึมซับ และเข้าใจมากกว่านี้ ถ้าช่อง 3 จะทำซับไตเติ้ลให้ก็จะดีมากเลยครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 02:05:08 จากคุณ : kai01 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 02:04:14

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านกระทู้นี้ยิ่งทำให้ตระหนักถึงคุณค่าว่าชาติไทยเรามีขนบธรรมเนียมประเพณี มีของดีแต่ละภาค  ที่เราควรช่วยกันรักษา เราควรภูมิใจ ไม่ควรหลงลืมรากเง้าของเรา ยิ่งเห็นภาพจากละครเห็นได้ชัดเลยว่าผ้าไทยสวยงามมาก เห็นแล้วอยากใส่ (ถึงจะสวยได้ไม่เท่าเสี้ยวของมะณีริน 555+) สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณละครที่ใส่ใจทุกอย่าง ตั้งแต่บท เสื้อผ้าหน้าผม ฉาก location ที่สำคัญที่สุดคือ "ความถูกต้องสมจริง" ที่ทีมงานทุก ฝ่ายใช้ความพยายามอย่างมาก จนมันสื่อออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน #61 "คือใจผมอยากให้คนอ่านได้เห็นว่าผ้า ไทยเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เป็นวัฒนธรรมของเราที่มีมายาวนาน จึงอยากให้มีต่อไป เพราะกลุ่มคนทอผ้าเขาเคยบ่นกันว่าคนใช้ผ้าไทยน้อยลงมาก เนื่องจากผ้าสมัยใหม่ทอเร็วกว่า ได้เงินเร็วกว่า แต่หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสนับสนุนเรื่องผ้าไทย ทำให้คนนิยมผ้าไทยมากขึ้น เป็นการเปิดภาพใหม่ให้ผ้าไทยเข้าสู่วงสากล เพราะเป็นสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มี" อ่านแล้วตรงใจมากเลยค่ะ ปล. พี่อ็อฟ พี่แดงคะ ขอ subtitle ด้วยนะคะ ฟังยากอยู่อ่ะค่ะ เพราะเป็นคนภาค กลางน่ะเจ้า แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 05:05:19 จากคุณ : chinchang&jaejung เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 02:14:14

ความคิดเห็นที่ 77 เพลงประกอบที่เป็นดนตรีล้านนาครับ อันนี้เป็นเพลงที่เปิดประกอบตอนไปพระธาตุลำปางหลวง ชื่อเพลง กลองปู่จา จากคุณ : Der Fuhrer of The Third Lanna เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 02:33:03

ความคิดเห็นที่ 78 อันนี้จำไม่ได้ว่าเปิดตอนไหน แต่จำได้ว่าใช่เพลงนี้แน่ๆ เพลงเอื้องหลวงล้านนา ครับ จากคุณ : Der Fuhrer of The Third Lanna เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 02:34:51

ความคิดเห็นที่ 79 รูป คห. 67  ผมว่าไม่เป๊ะ ก็ตรงผ้าที่เอามาตัดเป็นเสื้อแอฟนี่แหละครับ แม่ว่าจะทำออกมาดูสวยงามดี แต่! ลายผ้าเห็นชัดว่าเป็นลายซิ่นครับ (เรียกว่าซิ่นลุนตยา) ซึ่งตามปกติแล้ว เขาไม่เอาผ้าซิ่นมาตัดเสื้อกันครับ จากคุณ : จักกิด เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 02:51:46

ความคิดเห็นที่ 80 ภาพลายซิ่นลุนตยา... ลายคล้าย ๆ เกลียวคลื่นแบบนี้นี่แหละครับ ในละครจะเห็นคุณอรอนงค์นุ่งซิ่นลุนตยาแทบทุกฉาก ภาพประกอบนี้จาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=weseke&month=20-07-2009&group=3&gblog=1 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 02:57:06 จากคุณ : จักกิด เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 02:56:21

ความคิดเห็นที่ 81 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 03:39:24 จากคุณ : ใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 03:39:13

ความคิดเห็นที่ 82 รูปของ แม่เจ้าบัวไหล เทพวงศ์ หรือแม่เจ้าหลวง เป็นชายาของเจ้าพิริยเทพวงศ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของเมืองแพร่ ... กับ หม่อมบัวเงิน(เมย์ เฟื่องฯ) ... องค์ประกอบต่างๆทีมงานศึกษามาดีจริงๆค่ะ ยอมรับเลย (: จากคุณ : ใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 03:41:06

ความคิดเห็นที่ 83 อันนี้เป็นรูปภาพของราชวงศ์ เชียงตุงของแท้ค่ะ จากคุณ : ใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 03:43:56

ความคิดเห็นที่ 84 ภาพพิธีอภิเษกสมรสเจ้าเชียงใหม่กับพระธิดาจากเชียงตุง (ของแท้เลย ^^ ) (เจ้าอินทนนท์ ณ เชียงใหม่ และ เจ้านางสุคันธา ณ เชียงตุง ค่ะ ) จากคุณ : ใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 03:45:40

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณสำหรับบทประพันธ์ดีๆ ที่กลายมาเป็นละครดีๆนะคะ ตั้งเเต่มีข่าวจะทำละครเรื่องนี้ เราก็ตั้งตารอ เเรกๆออกจะผิดหวังนิดนึงที่ไม่ได้ใช้โลเกชั่นที่หลวงพระบาง แต่ก็เข้าใจเหตุผลค่ะ ชื่นชอบตัวละคร วันดารา จังค่ะ คุณอรอนงค์เล่นเป็นธรรมชาติมากๆ อาจเพราะเธอเป็นคนเหนือเเท้ๆ แอคติ้งก็เนียน เลยรู้สึกว่าเธอเป๊ะที่สุดในเรื่อง อ้อ.. คุณวราพรรณ อีกคน เพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนเหนือ สมบทบาทมาก หากคุณป้ามี้ คุณอั้ม คุณเมย์ คุณชาย เป็นคนเหนือจริงๆ ละครเรื่องนี้คงจะเพอร์เฟคท์ เเต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเท่าที่ดูมา การเเสดงของดาราที่กล่าวถึงก็สามารถทำให้ลืมข้อด้อยเรื่องพูดภาษาเหนือสำเนียงเพี้ยนได้ อยากบอกคุณพงษ์พัฒน์ว่า คุณทำละครเเนวนี้ได้ละเมียดละไมจริงๆ  อยากเห็นคุณทำละครแบบนี้อีกหลายๆเรื่องเลยนะคะ และขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานละคร รอยไหม ทุกคนค่ะ จากคุณ : i am kai เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 05:09:46

ความคิดเห็นที่ 86 ชอบดนตรีประกอบในคห.77-78 เข้ากับละครและบรรยากาศมากๆ ขอบคุณที่ทำละครละเมียดละไมสวยงามมาให้ดูึ่กัน จากคุณ : MerryBerry เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 07:40:12

ความคิดเห็นที่ 87 ชอบกระทู้นี้จัง จากคุณ : MaNgKoOd เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 08:48:05

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณ ทีมงานทุกคน ที่สร้างละครดีดี ให้เราได้ชื่นมื่น จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 08:51:35

ความคิดเห็นที่ 89 เป็นกระทู้แนะนำ ที่มีคุณค่ามาก ๆ ค่ะ อยากจะกด โหวต ซักล้านครั้ง จากคุณ : beautybabygirl เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 08:55:08

ความคิดเห็นที่ 90 ยังไม่เคยดูละครเรื่องนี้ค่ะ ^^" เห็นรูปผีแม่เม้ยในเวปพันทิปแล้ว ใจฝ่อ !!!  ^^"   ปกติแล้ว เราไม่กลัวผีนะ...เพียงแต่ อยู่คนเดียวอ่ะ เดี๋ยวผีแม่เม้ยมาหลอกหลอนในความคิดของตัวเอง ฮ่าๆๆ   -_-"a รอฟังเค้าเมาท์กันในเวปพันทิปละกันค่ะ  *0* จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 09:17:37

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณกระทู้นี้มากมายค่ะ จากคุณ : เพลงพันทาง เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 09:20:16

ความคิดเห็นที่ 92 นั่งอ่านกระทู้นี้แล้ว รู้อะไรมากขึ้น ไม่เคยรู้เกี่ยวกับล้านนาเลย เลยทำให้ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย ชอบละครเรื่องนี้ ภาพสวยองค์ประกอบครบ จากคุณ : โรงละคร เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 10:05:16

ความคิดเห็นที่ 93 ชอบคนนี้... จากคุณ : ย่าแจ๊คกี้ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 10:58:26

ความคิดเห็นที่ 94 ภาพโดย @atichart7 กระทู้ดีๆๆแบบนี้อยากให้อยู่นานๆ และอยากเข้ามาเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณomechina สำหรับกระทู้สร้างสรรค์ที่ดี จากคุณ : imims เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 11:19:37

ความคิดเห็นที่ 95 เห็นผู้เขียนแต่งนิยายแนวนี้  ที่ใช้ข้อมูล ความรู้เรื่องโบราณอยู่มาก นึกว่าคงรุ่นราวคราวเดียวกับคุณทมยันตี เลื่อนลงมาเจอ คห.62 เข้าไป   ต๊กกะใจ!  ร้องว้าย..  นึกว่า  "พระเอกเรื่องรอยไหม" อีกคน   จากคุณ : กะติ๊ด เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 13:25:46

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านแล้วก็รู้สึกอิ่มเอิบใจจริง ๆ รู้สึกละครเรื่องนี้ ผมอยากดูตั้งแต่ยังไม่ฉาย แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูเพราะยังไม่ว่าง...แต่ยิ่งเรามาอ่าน ในกระทู้ ก็ยิ่งทำให้เราอยากดู คงจะกลับไปดูย้อนหลังอย่างแน่นอนครับ วัฒนธรรมไทย ไม่ว่าภาคไหน ๆ ถ้าเอามาทำเป็นละคร แล้วสอดแทรกเข้าไปในบทละคร มันจะทำให้น่าดูมาก ๆ แม้มันจะมีเรื่องผีเข้ามาด้วยก็ตามแต่....อิอิ คืนนี้กลับไปดูย้อนหลังเลยละ.... จากคุณ : นายกาแฟ (matadorman) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 14:18:37

ความคิดเห็นที่ 97 เคยพบ อ.พงศกร ที่งานหนังสือฯ ปีที่แล้ว สอบถามว่า เอาเวลาที่ไหนไปเขียนนิยายขายหลายเรื่องนัก อ.ก็ตอบว่า ผมเป็นหมอเวชกรรมสังคม ไม่ต้องอยู่เวรเหมือนหมอแผนกอื่นๆ เขา เลยเอาเวลาหลังเลิกงานไปเขียน... สิ่งที่แกทำหลังเลิกงาน คือ การหาข้อมูล มาเขียนนิยาย ที่มีคุณค่ามากมายเช่นนี้ ดิฉันนับถือท่านมาก เพราะงานของท่าน มีกลิ่นอายทางวัฒนธรรมเสมอๆ ^^ จากคุณ : Tikalung เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 15:03:16

ความคิดเห็นที่ 98 ทำไม พี่พัน โพสซ้ำล่ะคะ ???? - -" ขอโทษด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 15:04:41 จากคุณ : Tikalung เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 15:03:28

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณมาหลายกระทู้แล้วสำหรับรอยไหม แต่อยากเข้ามาขอบคุณทีมงานอีกครั้ง ทราบว่าพี่อ๊อฟเองก็มักจะเข้ามาอ่านห้องเฉลิมไทย ยิ่งกระทู้แนะนำแบบนี้พี่อ๊อฟคงเข้ามาอ่านแน่ๆ ละครเรื่องนี้ถือเป็นที่สุดแห่งปีจริงๆค่ะ ช่วงแรกที่มีละครแนวข้ามภพมาลงจอ ยอมรับว่าเหนื่อยใจ ที่บทประพันธ์โดนย่ำยีเหมือนไม่เห็นคุณค่า ทำให้ไม่คิดจะเปิดดูละครของทุกช่อง เอือมไปเลย พอละครหลังข่าวมาจะปิดทันทีแล้วไปหาซีีรีย์ usaมาดูแทน แล้ว4ทุ่มครึ่งเปิดรอข่าว3มิติ แต่วันที่ 5กันยายน เป็นวันที่มีความสุขที่สุด คุ้มค่าแก่การรอคอย เพราะปกติชอบละครแนวนี้อยู่แล้ว ได้ดูภาพสวยๆ ชุดไทยสวยๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ จัดแสง มุมกล้อง โลเคชั่นงดงามจริงๆ แต่ที่อยากฝากถึงทีมงานอีกเรื่องคือ เดี๋ยวนี้ทำไมละครออกมาเป็นแผ่น master ไม่ทำเป็น boxsetคะ ผิดหวังมาก ขอคาดหวังเอาไว้อีกเหมือนกันว่า รอยไหมจะมี boxset ให้สะสม หลังจากผิดหวังboxset จาก 4หัวใจแห่งขุนเขา ไม่ทราบว่าฝ่ายที่ดูแลเรื่องผลิตdvd ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของคนซื้อก่อนหรือไม่ นับวัน dvd master ดูไม่น่าสะสมเหมือนแต่ก่อนเลย จากคุณ : yothint เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 15:27:36

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณทีมงาน และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับละคร รอยไหม รู้สึกได้ทันทีว่าได้อยู่ในยุคนั้นจริงๆ เก็บทุกเม็ด ได้ละเอียด ครับ ขอบคุณทุกคนในนี้ ที่ช่วยกันแลกเปลี่ยนความรุ้ซึ่งกันและกัน และภาพเก่าๆ ซึ่งในชีวิตนี้คงไม่ได้เห็นง่ายๆ เรือ่งสำเนียงการพูดของตัวแสดง อย่าเอามาติเลย เพราะว่าเขาทำได้ดีที่สุดแล้ว ได้แค่นี้ผมว่าก็ได้กลิ่นไอ ของความเป็นล้านนาแล้วครับ เพี้ยนนิดหน่อย ก้ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร จากคุณ : บอย (Bobby47/2) เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 16:16:52

ความคิดเห็นที่ 101 ชายนี่อู้เมืองเปิงแต้เปิงว่า..ซอบมาตั้งแต่ เมื่อดอกรักบานละ  มาเรื่องนี้กะซอบอู้เปิงขนาด " น้องนี่ซอบตอผ้าขนาดเนาะ " ประโยคนี้ได้ทุกอย่างเลย ทั้งอารมณ์ หน้าตาการแสดงออกของชาย สำเนียงภาษาเหนือที่พูดออกมา สุดยอดด จากคุณ : เมื่อโลกยังคงหมุนไป เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 17:18:33

ความคิดเห็นที่ 102 เลอค่าจริงๆค่ะเรื่องนี้ ละมุนละไม ทั้งดนตรี เครื่องแต่งกาย การอู้คำเมือง (แม้จะปะแล่ดก่าจ่าง) บวกกับเสียงนุ่มของแอ๊ฟ สายตาของอั้ม แววตาพี่ชาย และสำเนียงเหนือเจียงใหม่ของคุณอรอนงค์ไพเราะมากเจ้า ดูเรื่องนี้แล้วหยะหื้อกึดเติงหาบ้านตี่เมืองแป้เลย โดยเฉพาะฉากคุ้มเจ้าหลวงมีเห็นป้ายโรงเรียนเราด้วย ปลื้มมมมมม คุณอ๊อฟ รับผิดชอบโตย เฮาดูเรื่องนี้แล้วไค่อยากปิ๊กบ้านขนาดดด อิอิ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 54 17:43:53 จากคุณ : ลำนำวิหคสวรรค์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 17:42:04

ความคิดเห็นที่ 103 ดีใจจังที่มีละครดีๆให้ดู สมใจที่รอคอยจริงๆ จากคุณ : pimpinan เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 18:09:56

ความคิดเห็นที่ 104 พ้ออีเม้ย ฮาสิใขฮากแท้ ผีอะหยังคือเป็นตะย่าน (เริ่มออกไปทางอิสาน 555+) จากคุณ : zheToze เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 19:16:59

ความคิดเห็นที่ 105 ดูแล้ว  อยากปิ๊กบ้านขึ้นมาทันที  ดีใจ์ตี่ได้เกิดเป๋นคนเหนือเจ้า(ลำพูน) จากคุณ : แม่ยูอะ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 20:15:31

ความคิดเห็นที่ 106 อ่านแล้วรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นสาวเหนือแต้ๆเจ้า เวลาเราไปไหนก็ตามเรากับเพื่อนจะอู้กำเมืองตลอดเลย ไม่อายด้วย เพราะเราภูมิใจที่เราเกิดในดินแดนที่เต็มไปด้วย ขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่ช้านาน จากคุณ : คุณป้าแจ๋ว เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:16:41

ความคิดเห็นที่ 107 อ่านแล้วรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นสาวเหนือแต้ๆเจ้า เวลาเราไปไหนก็ตามเรากับเพื่อนจะอู้กำเมืองตลอดเลย ไม่อายด้วย เพราะเราภูมิใจที่เราเกิดในดินแดนที่เต็มไปด้วย ขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่ช้านาน จากคุณ : คุณป้าแจ๋ว เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:17:22

ความคิดเห็นที่ 108 เอาคลิปมาฝากค่ะ บ้างวงศ์บุรี จากคุณ : yothint เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:19:36

ความคิดเห็นที่ 109 อยากให้มีละครเรื่องนี้ทุกวัน  อยากให้ถึงวันจันทร์อังคารเร็วๆ  อยากไปเที่ยวทางเหนืออีก  อยากใส่ผ้าซิ่นแบบนั้นบ้าง(ถึงแม้หน้าจะไม่ให้) ขอบคุณทีมงานมากๆ เลยค่ะ ที่ตั้งใจทำละครดีๆ มาให้ดูกัน  สถานที่ก็สวยงาม จากคุณ : kanomdee1001 เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 21:32:42

ความคิดเห็นที่ 110 เรียน อยู่ มช. มา 4 ปี --- ยอมรับเลย ว่าได้ยินเพลง ดนตรี ล้านนา เมื่อใด รู้สึก ผ่อนคลาย แบบสุขใจ .... อยากกลับ ไป เชียงใหม่แล้ว !!! สถานที่ต่างๆ เช่น วัด โรงแรม รีสอร์ท ที่มีการตกแต่งแบบล้านนา เหมือนเราได้ อยู่ อีก เมืองหนึ่ง ที่ มี วัฒนธรรม สวยงาม ยิ่ง ได้ ดูละครเรื่องนี้ ยิ่งอิ่มเอม หัวใจ ครับ จากคุณ : Mowcup เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 54 22:26:54