ความคิดเห็นที่ 1 แม้จะเป็นตัวที่ 3 ที่ออกมา แต่ตาม Timeline แล้วควรจะเป็นตัวที่ 2 จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 12:52:47

ความคิดเห็นที่ 2 นี่ตัวที่ 3 ตาม Timeline จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 12:58:10

ความคิดเห็นที่ 3 สุดยอด ได้อารมณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาก แอคชั่น ดุดันกว่าในหนังเยอะเลย ดูแล้วรู้สึกเลยว่ามันต้องการฆ่ากันจริงๆ T-T จากคุณ : จิ๋วจี๊ด เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:16:26

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจำไม่ผิด timelineมันคาบต่อระหว่างภาค3กับภาค4ใช่มั้ยครับ จากคุณ : Fares เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:30:05

ความคิดเห็นที่ 5 ***     ในฐานะสาวกของสตาร์วอส์ "เจไดหนุ่ม" ขอบอกว่าเกมส์ "The Old Republic" ที่กำลังจะออกมาใหม่นั้นอาจมีแววร่วงตั้งแต่ก่อนจะเปิดบริการด้วยซ้ำ  เพราะที่เราเห็นฉากการดวลอะไรต่อมิอะไรกันทั้งหลายแหล่นั่นอย่าลืมนะครับว่ามันเป็นแค่คัทซีนประกอบตัวเกมส์เท่านั้น  แต่ระบบการเล่นและกราฟฟิคในเกมส์ผมว่าดูไปดูมาอาจจะเข้าชั้นหายนะเลยทีเดียว        และนี่อาจจะเป็นการตกม้าตา่ยครั้งล่าสุดของทีมพัฒนา "Bioware" ก็เป็นได้  เพราะอย่าลืมว่าในช่วงที่ "Bioware" ตัดสินใจสร้างเกมส์นี้ขึ้นมานั้นยังไม่มีใครอาจหาญไปกล้าคิดว่ามันจะแป๊ก  เพราะกระแสตอบรับจากตัวเกมส์สวมบทบาทต่างๆที่ผ่านมาของทางค่ายในเวลานั้นล้วนประสบความสำเร็จมาตลอด       ทว่าตั้งแต่ค่ายนี้ถูกยักษ์ใหญ่จอมละโมบอย่าง "EA" ควบกิจการไปผลงานเกมส์ RPG ที่ออกมาล้วนถูกยำเละไม่มีชิ้นดี (ไม่นับ "Dragonage" ภาคแรก)  ไม่ว่าจะเป็น "Dragon age 2" ที่มองดูก็รู้เลยว่าอาศัยความแรงของภาคแรกรีบเข็นภาคต่อซึ่งสร้างแบบลวกๆไร้ความปราณีตออกมา       อีกทั้งระบบในเกมส์ยังเปลี่ยนแปลงแบบมหาศาลเพื่อเอาใจคอเกมส์คอนโซลมากเกินไป  แล้วยังมี "Mass Effect 2" ที่แม้งานต่างๆจะได้รับการขัดเกลาแต่ระบบของเกมส์ก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังส้นเท้าเพืี่อเอาใจสาวกคอนโซลนั่นเอง ป.ล. บ่นจบแล้วครับ สวัสดี (May the Spoil be with you) ขอสปยอล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:30:59

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ^ ถึงเพื่อนสมาชิก Fares ไม่ใช่ครับ "Timeline" ของเกมส์ตัวนี้จะเป็นเรื่องราวต่อจากช่วง "Knight of the Old Republic ภาค2" ซึ่งเป็นเกมส์สวมบทบาทชั้นเลิศซึ่งออกวางจำหน่ายตั้งแต่ปี2004ครับ (ผมเล่นจบทั้งภาคแรกและภาค2รวมๆกันแล้ว20กว่ารอบ) โดยเรื่องราวในช่วงนี้จะเกิดก่อนเหตุการ์ในภาค "เอพพิโซด1" หลายพันปีครับ  เนื้อเรื่องหลักๆจะกล่าวถึงสมัยอดีตที่ "สาธารณรัฐ" ยังเจริญรุ่งเรื่องและอยู่ในช่วงยุคทอง (ที่เห็นใน "เอพพิโซด1" คือยุคตกต่ำของเจได ซิธ และสาธารณรัฐ)  โดยในเวลานั้นมีทั้งเจไดและซิธกระจายตัวอยู่มากมายทั่วจักรวาลครับ ป.ล. แต่เหตุการณ์จะเปลี่้ยนไปหลังจบภาค1 เมื่อ "เรวาน" นำกองทัพชนะ "ดารธ์มาลาค" และหายตัวไป จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:36:06

ความคิดเห็นที่ 7 to infinity and beyond!!!... จากคุณ : ::+::+::NotSoSad::+::+:: เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:38:18

ความคิดเห็นที่ 8 ผมจะขอยกเอาเรื่องราวในเหตุการณ์ช่วงดังกล่าว  ซึ่งตนเองเคยตอบไว้ที่ "เฉลิมไทย" เมื่อสมัยก่อนมาเล่าให้ฟังกันนะครับ "ดาร์คเจได"    คือเหล่าเจไดที่ศึกษาแลเรียนรู้วิถีแห่งพลังของเจไดมาก่อน  จนกระทั่งถูกโมหะ ความแค้น หรือด้านมืดครอบงำ  ทำให้หลงไหลไปกับอำนาจแลใช้พลังไปในทางที่ชั่วร้าย  ซึ่งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ "เคานท์ ดูกู" แล "อนาคิน สกายวอคเกอร์" จัดอยู่ในกลุ่มนี้ครับ "ซิธ"    ความจริงซิธนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเจไดนี่แหละครับ  โดยซิธนั้นแต่เดิมเป็นชื่อของพวกเอเลี่ยนบน "ระบบดาวคอริบาน"  ซึ่งในตอนนั้นได้มีพวกเจไดนอกคอกซึ่งไม่เห็นด้วยกับความเป็นไปแลกฏระเบียบอันยุ่งยากของสภาเจได(ยุคนั้นยังไม่มีไลท์เซเบอร์ครับ  เล่นกันด้วยดาบเหล็กเพียวๆ)  ได้แยกตัวออกมาอยู่ที่ระบบดาวคอริบานเป็นจำนวนมาก(ความจริงมันจะมีเรื่องราวที่ซับซ้อนกว่านี้แต่ขอเล่าย่อๆนะครับ)  ต่อมานานเข้าวัฒนธรรมของพวก "ดาร์คเจได" แล "เอเลี่ยนซิธ" ได้ผสมกลมกลืนเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว  จึงเป็นจุดกำเนิดของเหล่า "ซิธ" ศัตรูคู่อาฆาตของเจไดครับ **รูปของ "อนาคิน สกายวอคเกอร์" เจไดหนุ่มชื่อดังอันเป็นผู้ถูกรังสรรค์ในตำนาน  ซึ่งโดนโมหะ ความลุ่มหลง แลด้านมืดครอบงำจนกลายเป็นดารค์เจไดในที่สุด** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:40:36

ความคิดเห็นที่ 9 ****     โดยถ้าจะนับกันจริงๆแล้ว "ซิธ" ได้กลายมาเป็นศัตรูคู่อาฆาตแค้นของเหล่าเจไดมาตั้งแต่ยุคสาธารณรัฐเก่าแล้ว(เวลานับหลายพันปีก่อนภาค "A New Hope")  ซึ่งในห้วงเวลานั้นนับเป็นยุคทองของสาธารณรัฐแลยังมีทั้งเหล่า "เจได" แล "ซิธ" กระจายตัวอยู่เป็นจำนวนมากมายทั่วจักรวาล(ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ "ซิธ" ถูกเชื่อว่าสูญสิ้นไปแล้ว  ส่วน "เจได" ก็มีจำนวนลดลงมาก)       และในยุคดังกล่าวก็นับเป็นยุคทองของพวก "ซิธ" เช่นกันเพราะมีการตั้ง "สำนักฝึกซิธ" ขึ้นที่ระบบ "ดาวคอริบาน" เพื่อเปิดรับบุคคลที่ต้องการจะเป็นซิธครับ  (คล้ายๆสำนักฝึกเจไดที่เราเห็น ณ ดาวคอรัสซังค์ในภาพยนตร์)  แลในอดีตนั้นจะมีซิธลอร์ดที่โด่งดังอยู่คนหนึ่งชื่อ "เอ็กซาร์คุณ" ซิธลอร์ดในตำนานผู้แข็งแกร่งซึ่งออกรวบรวมกองทัพซิธทำสงครามขนานใหญ่กับสาธาราณรัฐเป็นครั้งที่สอง      โดยในสงครามครั้งนั้นแม้ "เอ็กซาร์คุณ" จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แลต้องจบชีวิตลง  แต่ผลพวงของสงครามก็นำมาซึ่งความบอบช้ำแลอ่อนแอของทั้งสาธารณรัฐแลเหล่าเจไดเป็นอย่างยิ่ง  นั่นเพราะมีอัศวินเจไดจำนวนมหาศาลเสียชีวิตลงในสงครามครั้งนี้  จนพลังอำนาจของเหล่าเจไดในการปกป้องระบบกาแล็คซี่เริ่มสั่นคลอน     นอกจากนี้ "เอ็กซาร์ คุณ" ยังเป็นต้นตำรับของผู้ใช้ "ไลท์เซเบอร์สองคม" แบบที่ "ดารธ์มอล" ใช้ในภาคเอพพิโซด1  โดยหมอนี่เป็นคนแรกๆที่นำไลท์เซเบอร์ดังกล่าวมาใช้แลสามารถแสดงอานุภาพความร้ายกาจออกมาได้ถึงขีดสุด  อีกทั้งเอ็กซาร์คุณยังเป็น "ซิธลอร์ด" ผู้ทรงอำนาจคนแรกๆซึ่งก้าวขึ้นมาจากการเป็นอัศวินเจไดมาก่อน (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:49:00

ความคิดเห็นที่ 10 อ่อ ใช่ๆ ผมไปจำสลับกับ Star Wars: The Force Unleashed ^^ จากคุณ : Fares เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:49:31

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมพวกโครนเป็นฝ่ายดีครับ จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 13:49:44

ความคิดเห็นที่ 12 ****     โดยซิธสมัยก่อนนั้นจะยิ่งใหญ่ถึงขนาดมีกองทัพแลกำลังทหารเป็นของตนเองถึงขั้นสามารถก่อสงครามขนาดใหญ่ได้  กระทั่งเค้าลางแห่งความเสื่อมถอยของเหล่าเจไดแลซิธเริ่มมาถึงเมื่อมีกองทัพชาว"แมนดาลอเรี่ยน"  ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์นอกขอบกาแล็คซี่อันกระหายสงครามแลห้าวหาญชาญศึก  ได้ยกทัพขนาดมหึมาเท่าที่เคยมีมารุกรานแลแย่งชิงดวงดาวของสาธารณรัฐไปทีละดวงๆ       ซึ่งทางสาธราณรัฐก็ได้รวบรวมกำลังพลทั่วจักรวาลพร้อมขอความช่วยเหลือไปยังสภาเจได  แต่ทว่าทางฝ่ายสภาเจไดซึ่งนำโดย "มาสเตอร์แวนด้า" (รูปร่างคล้ายโยดา)  ได้ทำทองไม่รู้ร้อนพร้อมปฏิเสธการยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพราะยังเข็ดกับ "สงครามเอ็กซาร์คุณ" ซึ่งเหล่าเจไดต้องล้มตายไปเป็นจำนวนมาก       แลจากความนิ่งเฉยนี่เองทำให้มีอัศวินเจไดหนุ่มอัจฉริยะสองนายคือ "เรวาน" แล "มาลาค"  ได้ออกปลุกระดมเจไดหน้าใหม่ให้เข้าร่วมสงครามแมนดาลอเรี่ยนเพื่อช่วยเหลือสาธาราณรัฐ  ซึ่งการกระทำนี้นับเป็นการแสดงท่าทีขัดแย้งต่อสภาเจไดอย่างแท้จริง  แต่ทางสภาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ       เมื่อมีเจไดจำนวนมากอาสาเข้าร่วมสงครามนั่นจึงทำให้เหล่าเจไดต้องเข้าไปพัวพันกับสงครามใหญ่อีกครั้ง  ขณะเดียวกันเหล่าซิธก็เฝ้ารอคอยอย่างเงียบๆเพื่อหวังผลอะไรบางอย่างครับ  (ความจริงพวกซิธนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังแลไปยุยงให้พวกแมนดาลอเรี่ยนนำทัพเข้ามาทำสงคราม)    โดยถ้ากล่าวถึงพวกแมนดาลอเรี่ยนแล้ว "เจไดหนุ่ม" ก็อดที่จะพูดถึง "จังโก้ เฟต" ไม่ได้  เพราะจังโก้ซึ่งเป็นต้นแบบของบรรดาทหารโคลนในหนังภาคเอพพิโซด2นั้นก็คือชาวแมนดาลอเรี่ยนนั่นเอง  และหมอนี่ยังเคยประจำอยู่ในหน่วยรบพิเศษของชาวแมนดาลอเรี่ยนก่อนจะผันตัวออกมาเป็นนักล่าเงินรางวัล  กระทั่งรับปากทำงานเป็นต้นแบบทหารโคลนของสาธารณรัฐให้กับเคาท์ดูกู       ซึ่ง "จังโก้ เฟส" ได้นำเอาหลักสูตรการรบแลชุดเกราะของชาวแมนดาลอเรี่ยนมาประยุกต์ใช้กับทหารโคลนของสาธาราณรัฐ  จึงทำให้ทหารโคลนทุกนายมีฝีมือเป็นเลิศแลใส่ชุดเกราะคล้ายชาวแมนดาลอเรี่ยนนั่นเองครับ (รูปภาพของทหารชาว "แมนดาลอเรี่ยน" ซึ่งเป็นนักรบเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ห้าวหาญชาญศึกที่สุดในจักรวาล)   (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 14:20:19 จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 14:00:01

ความคิดเห็นที่ 13 ****    ด้วยความอัจฉริยะของเจไดหนุ่มนาม "เรวาน" ทำให้กองทัพสาธารณรัฐสามารถมีชัยต่อพวกแมนดาลอเรี่ยนได้แทบทุกครั้ง  จนกระทั่ง "เรวาน" ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่คุมกำลังพลจำนวนมากมายมหาศาล  แต่เมื่อมีได้ก็ต้องมีเสียเมื่อสิ่งที่บรรดาเจไดมาสเตอร์ในสภากังวลไว้กลับเป็นจริง      เมื่อมีเหล่าอัศวินเจไดจำนวนมากล้มตายลงในสงครามหรือไม่ก็หลงเข้าสู่ด้านมืดไปเข้าร่วมกับซิธ  แต่สงครามก็กำลังยืดเยื้อดังนั้นนี่จึงเป็นปัญหาที่ตึงมือกับทุกฝ่าย  แต่แล้วเรวานก็ได้ทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อด้วยการใช้อาวุธสังหารชนิดใหม่ซึ่งสามารถทำลายล้างดวงดาวซึ่งเป็นฐานทัพแลกองยานรบของชาวแมนดาลอเรี่ยนลงได้ทั้งหมด      ทว่าผลพวงของมันก็ทำให้กองยานของสาธารณรัฐรวมทั้งอัศวินเจไดต้องวอดวายลงไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย  แต่ความสำเร็จก็ทำให้ทางเรวานได้รับการชื่นชมจากทางสาธารณรัฐท่ามกลางความกังวลของบรรดามาสเตอร์เจไดในสภาที่เริ่มสังเกตุเห็นถึงความผิดปรกติของเจไดอัจฉริยะนายนี้  แล้วในที่สุดเรวานก็ทำเรื่องขอกองกำลังจากสาธาราณรัฐเพื่อทำสงครามกำจัดพวกแมนดาลอเรี่ยนที่เหลือรอด      ทว่า "เรวาน" แลคู่หู "มาลาค" กลับนำกองทัพดังกล่าวหายสาปสูญไปหลายปี  จนกระทั่งวันหนึ่งกองยานดังกล่าวได้หวนกลับมาอีกครั้งแต่ทว่าคราวนี้เรวานแลมาลาคได้ค้นพบพลังอำนาจมืดลึกลับแลกลายสภาพเป็นซิธอย่างสมบูรณ์  พร้อมทั้งเป็นผู้นำกองทัพซิธจำนวนมหาศาลเข้าทำสงครามกับสาธาราณรัฐอย่างเต็มรูปแบบ   **รูปเรวาน(ใส่หน้ากาก)แลมาลาค(หัวเกรียน)สองเจไดอัจฉริยะที่ลุ่มหลงเข้าสู่ด้านมืด** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 14:00:46

ความคิดเห็นที่ 14 ****     ด้วยความอัจฉริยะเป็นทุนเดิมของเรวานจึงทำให้กองทัพซิธมีชัยเหนือฝ่ายสาธารณรัฐในทุกศึกซึ่งทางสภาเจไดเองก็มีการประชุมเครียดเพราะต่างรับรู้ถึงอัจฉริยะภาพแลความเก่งกล้าสามารถสามารถของเรวานเป็นอย่างดี  นั่นจึงทำให้ทางสภาเจไดต้องกระทำสิ่งที่ไม่เคยมีสภาในยุคไหนกระทำมาก่อนนั่นคือ "ภารกิจลอบสังหาร"       โดยทางสภาได้คัดเลือกอัศวินเจไดฝีมือเยี่ยมที่สุดจำนวนหนึ่งแอบลอบเข้าไปยังยานบัญชาการของเรวานขณะที่กำลังสู้รบพันตูอยู่กับสาธาราณรัฐก่อนที่เจไดหน่วยล่าสังหารจะบุกเข้าประชิดตัวแลทำการจัดการเรวานขั้นเด็ดขาด  ฝ่ายมาลาคเองเมื่อเห็นดังนั้นจึงได้ทำสิ่งที่ใฝ่ฝันมานานั่นก็คือ  การออกคำสั่งให้ยานรบของตนยิงปืนทุกกระบอกเข้าใส่ยานของเรวานสังหารอาจารย์ของตนนั่นเอง   **ขออธิบายซักเล็กน้อยครับ**       ตอนนี้มาลาคเป็นลูกศิษย์ของเรวานครับ  แลพวกซิธจะมีหลักการอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ "ศิษย์ล้างครู"  โดยคนที่จะสามารถสำเร็จเป็นซิธขั้นสมบูรณ์ได้นั้นต้องสามารถสังหารหรือเอาชนะอาจารย์ไม่ก็อัศวินเจไดได้ก่อนครับ  ดังจะเห็นได้จากหลายกรณีอาทิเช่นดารธ์ซีเดียสหรือองค์จักรพรรดิซึ่งลงมือสังหารอาจารย์ของตนดารธ์เพลเกียสตอนหลับ  ดารธ์มอลเกือบเอาชนะดาร์ธซีเดียสได้ในการต่อสู้(แต่ซีเดียสให้ผ่านหลักสูตร?)       หรือกระทั่ง "อนาคิน สกายวอคเกอร์" ซึ่งสังหารเคานท์ดูกูอย่างเหี้ยมโหดแลช่วยซีเดียสสังหาร "เมซ วินดู" ผู้เยี่ยมยุทธ์ด้วยการตัดข้อมือ  เคาทน์ดูกูสังหารมาสเตอร์ "ไซโฟ ดิแอส" ซึ่งเป็นเจไดเพื่อนสนิทของตน (ดาบไลท์เซเบอร์ของเจไดคนนี้ตอนหลังนายพลกรีเวียสเอาไปใช้ครับ  แล้วดูกูยังเอาชื่อมาสเตอร์ "ดิแอส" ไปแอบอ้างเพื่อการสร้างทหารโคลนด้วย  เพื่อนๆลองไปดูภาคเอพพิโซด2ตอนที่โอบีวันไปเยี่ยมดาวคามิโนครับ  จะมีการกล่าวถึงชื่อเจไดคนนี้อยู่) **ต่อครับ**     ทว่าเหตุการกลับไม่เป็นเช่นนั้นครับเพราะเรวานสามารถรอดมาจากการลอบสังหารได้แต่ก็แลกมาด้วยอาการบาดเจ็บแลความจำเสื่อมจนถูกเหล่าเจไดจับตัวไป  ส่วนมาลาคเองยานถูกยิงตกจนตนเองบาดเจ็บต้องสูญเสียใบหน้าส่วนล่างแลกระโหลกส่วนขากรรไกรไปทั้งแถบ(สังเกตุรูปความเห็นบนมาลาคจะมีหน้ากาครอบปากอยู่  ถ้าแกะออกจะสยองมากครับเห็นจมูกแล้วก็โบ๋ไปถึงหลอดลมเลยจนต้องอาศัยเครื่องช่วยพูด -_-")       ซึ่งจากการนี้ทางสภาเจไดเลยฉวยโอกาสนี้เป่าหูแลปั้นเรื่องต่างๆหลอกลวงเรวานให้เขาเป็นศัตรูกับมาลาคซึ่งตอนนี้ครองอำนาจซิธลอร์ดแลควบคุมกองทัพแทนตนเอง  จนในที่สุดเรวานก็ได้รู้ความจริงว่าตนเองถูกหลอกใช้  แต่ด้วยความดีที่ยังมีเหลือทำให้เรวานตัดสินใจร่วมมือกับสภาเจไดแลกองทัพของสาธารณรัฐเพื่อโค่นมาลาคแลนำความสงบมายังสาธารณรัฐ       กระทั่งหลังสงครามสงบแม้จะได้รับการยกย่องเช่นใดแต่เรวานกลับออกเดินทางหายสาปสูญไปแลไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย  (เรื่องราวความเป็นไปของเรวานต่อจากนี้ยังเป็นปริศนาอยู่ครับ  ต้องรอให้มีเกมส์หรือนิยายภาคใหม่ๆออกมาก่อน) **รูปอัศวินเจได "อนาคิน สกายวอคเกอร์" สังหาร "เคาน์ดูกู" อย่างเหี้ยมโหดไร้ความปราณี** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 14:03:43

ความคิดเห็นที่ 15 ****      ถึงแม้จะชนะสงครามแต่นี่ก็นับเป็นยุคมืดครั้งแรกของเหล่าเจไดอย่างแท้จริงครับ  โดยในห้วงเวลานั้นเจไดจำนวนมากล้วนลุ่มหลงเข้าสู่ด้านมืดหรือไม่ก็เสียชีวิตไปมากมายในสงคราม  อีกทั้งเจไดมาสเตอร์ที่เหลือเพียงน้อยนิดยังมาถูกกับดักของซิธลอร์ดนาม "ดาร์ธ นิฮิลัส"อีก      โดยเรื่องของเรื่องคือหลังสงครามกับซิธจบลงบรรดาเจไดมาสเตอร์จำนวนมากได้นัดรวมตัวประชุมกัน ณ ระบบดาวดวงหนึ่งเพื่อวางแผนถึงสถาณการณ์ในอนาคต  ทว่ากองยานรบของซิธซึ่งนำโดย "ดาร์ธนิฮิลัส" ได้ระเบิดดาวดวงนั้นจนเป็นผุยผงเถ้าธุลียังผลให้จำนวนอัศวินเจไดเหลือน้อยลงเพียงหยิบมือ      โดยในยุคนี้เหล่าเจไดที่เหลือรอดต่างถูกตั้งค่าหัวแลตามล่าโดยพวกนักล่าเงินรางวัลอย่างสนุกมือจนอัศวินเจไดจำนวนมากต้องหลบซ่อนตัวกระจายไปตามดวงดาวต่างๆ (เรื่องราวต่อจากนี้ซึ่งเป็นการฟื้นฟูนิกายเจไดยังไม่มีการกล่าวไว้แน่ชัดครับ  ต้องรอนิยายหรือเกมส์ตัวใหม่ออกมาอีกที)    กระทั่งเวลาผ่านไปนิกายเจไดได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งพร้อมๆกับการเข้าสู่ยุคเสื่อมของซิธ  เพราะสถาบันฝึกสอนซิธบนดาวคอริบานนั้นถูกกองทัพสาธาราณรัฐทำลายจนย่อยยับไปแล้ว  แลอีกซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะหลักการ "หนึ่งอาจารย์หนึ่งลูกศิษย์"  ของซิธลอร์ดผู้ทรงอำนาจนาม "ดารธ์เบน" ซึ่งมองเห็นว่าในยุคของตนพวกซิธไม่มีกองทัพอันยิ่งใหญ่เหมือนดังอดีต  อีกทั้งจำนวนของซิธก็ถูกฝ่ายสาธาราณรัฐตามไล่ล่าจนลดลงไปมาก      ดังนั้นการแยกย้ายกันแลต่างคนต่างฝึกสอนอาจจะเป็นการช่วยรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมของซิธไว้ได้ดีกว่า  ทำให้ยุคนี้พวกซิธต่างใช้หลักการหนึ่งอาจารย์ต่อลูกศิษย์เพียงคนเดียวแลไม่มีการเปิดสถาบันเพื่อรับสอนผู้คนในคราวละมากๆเหมือนอดีตอีกต่อไป    จนกระทั่งมาถึงยุคในหนังภาคเอพพิโซด1(ภัยซ่อนเร้น)  ซึ่งยุคนี้พวกซิธได้ล้มหายตายจากจนกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานกันอยู่แต่ในตำราแลบันทึกของเหล่าเจไดเท่านั้น  โดยศัตรูในยุคดังกล่าวที่เหล่าเจไดต้องต่อกรมักจะเป็นพวกกองทัพของสหพันธ์ต่างๆ  นักล่าเงินรางวัล หรือบรรดาดารค์เจไดซึ่งลุ่มหลงไปในด้านมืด      แต่เหล่าซิธของแท้ซึ่งได้รับการฝึกฝนในหลักของซิธอย่างสมบูรณ์กลับหายสาปสูญไปนับร้อยๆปีแลไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย  กระทั่งเมื่อเจไดมาสเตอร์นาม "ไควกอนจิน" แลพาดาวันหนุ่ม "โอบีวัน เคโนบี" ได้ต่อกรกับ "ดารธ์มอล" ซิธขนานแท้แลดั้งเดิมที่ดาวนาบู  นั่นจึงทำให้สภาเจไดรับรู้ว่ายังมีเผ่าพันธุ์ซิธหลงเหลืออยู่นั่นเองครับ **รูปของ "ดาร์ธเบน" ซิธลอร์ดผู้รังสรรค์กฏ "1อาจารย์1ลูกศิษย์" ครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 14:09:40

ความคิดเห็นที่ 16 ***    ส่วนคำว่า "ซิธลอร์ด" นั้น จะเป็นคำที่เอาไว้เรียก ซิธ ซึ่งมีความสามารถสูงสุดและเป็นผู้นำของเหล่าซิธทั้งมวลครับ  ซึ่งปรกติแล้วในจักรวาลของ "สตาร์วอร์ส" จะมีบรรดา "ซิธลอร์ด" ที่มีฝีมือแลความเหี้ยมโหดอยู่ในขั้นเทพแลโดดเด่นจนเป็นตำนานกระทั่งได้รับตำแหน่ง "Dark Lord Of The Sith" อยู่4คน (ที่จริงซิธลอร์ดที่ยังมีอีกมากมายหลายคนครับแต่4คนนี้จะโดดเด่นสุด)      ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวจะมีระดับเทียบเท่า "Jedi Grand Master" อันเป็นตำแหน่งผู้นำสูงสุดแห่งนิกายเจได  โดยในเหตุการณ์ช่วงภาคเอพพิโซด1-3นั้น  "โยดา" จะเป็นผู้เดียวที่ได้รับตำแหน่งนี้ครับ  ซึ่งผมจะขอเรียกพวก4คนนี้ว่าเป็น "จตุรเทพแห่งซิธ" ละกันนะครับ-_-"  โดยจตุรเทพแห่งซิธทั้งสี่คนนี้จะประกอบไปด้วย   "มาร์คา แร็กนอส"    จ้าวแห่งซิธในตำนานคนแรกผู้ทรงพลังอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยยุคที่เจไดแลซิธยังใช้ดาบเหล็กในการต่อสู้  โดยหลังจากที่ตายไปแร็กนอสได้ใช้พลังสถิตย์วิญญาณของตนเองเอาไว้ในซากโบราณสถานบนดาวคอริบานครับ  แลรอคอยให้มีซิธคนอื่นหลงเข้ามาเพื่อที่ตนเองจะได้ใช้เป็นร่างในการสิงสู่แลชักจูงเข้าสู่ด้านมืดต่อไป "นากา ชาโดว์"    ซิธลอร์ดผู่ช่ำชองด้านการใช้พลังอำนาจมืดของเหล่าซิธที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์ (ยุคนี้ยังใช้ดาบเหล็กกันอยู่ครับ)  ซึ่ง "นากา ชาโดว์" นับเป็นซิธลอร์ดคนแรกในประวัติศาสตร์ที่นำพากองทัพซิธเข้าสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบกับบรรดาเจไดแลสาธารณรัฐครับ "ฟรีดอน แน็ท"    อดีตเจไดที่ลุ่มหลงจนเดินเข้าสู่ด้านมืดแลเป็นศิษย์ของวิญญาณ "นากา ชาโดว์"  โดยในยุคของแน็ทนี้เริ่มมีการใช้ดาบไลท์เซเบอร์กันแล้ว  ซึ่งแน็ทนั้นทรงพลังอำนาจแลอัจฉริยะจนถึงขั้นสามารถยึดครอง "ระบบดาวออนเดอรอน" แลใช้เป็นฐานบัญชาการของพวกซิธได้  กระทั่งเมื่อเขาตายไป "เอ็กซาร์คุณ" ได้มาพบกับวิญญาณของแน็ทแลปราวณาตัวเป็นศิษย์  แต่เมื่อเอ็กซาร์คุณเรียนรู้สรรพวิชาด้านมืดจากแน็ทจนคิดว่าแน็ทไม่สามารถสอนอะไรให้ตนได้แล้ว  เขาจึงจัดการทำลายล้างวิญญาณของแน็ทให้หาบสาปสูญไปตลอดกาล (กฏศิษย์ล้างครู) "เอ็กซาร์ คุณ"    อดีตอัศวินเจไดฝีมือเยี่ยมที่ถูกวิญญาณของ "มาร์คา แรกนอส" ชักจูงให้ลุ่มหลงเข้าสู่ด้านมืดแลเป็นผู้นำกองกำลังซิธเข้าต่อกรทำสงครามกับสาธารณรัฐเป็นครั้งที่สอง  โดยเอ็กซาร์คุณนับเป็นซิธลอร์ดที่เชี่ยวชาญการใช้ไลท์เซเบอร์สองคมที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์แลยังเป็นศิษย์ของ "ฟรีดอนแน็ท"  ทว่าเมื่อเขาเรียนวิชาจบก็กลับทำลายล้างวิญญาณของแน็ทซึ่งเป็นอาจารย์ตนเอง  ก่อนจะสถาปณาตนเองเป็นจ้าวแห่งซิธลอร์ดแลทำสงครามเพื่อยึดระบบจักรวาล      แต่ทว่าความฝันของเขาก็ต้องมาพังทลายเมื่อลูกศิษย์ที่ตนไว้ใจหักหลังแลไปเข้าร่วมกับฝ่ายเจได  พร้อมนำกองทัพมาบดขยี้เหล่าซิธแลปิดผนึกวิญญาณของ "เอ็กซาร์ คุณ" เอาไว้เป็นเวลาหลายพันปีครับ (เอ็กซาร์คุณเป็นผู้คิดค้นดาบไลท์เซเบอร์แบบสองคมแลนำมาใช้ในการต่อสู้เป็นคนแรกด้วยครับ) **ภาพเรียงจากซ้ายไปขวา "มาร์คา แรกนอส"  "นากา ชาโดวส์"  "ฟรีดอน แน็ท"  "เอ็กซาร์ คุณ" ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 14:11:14

ความคิดเห็นที่ 17 #1 ในคลิปสงสัยมีเมียหลายคนและโดนเมียทุกคนนอกใจ กระทู้นี้เข้าทางคุณเจไดหนุ่มเลย 5555 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 54 14:58:15 จากคุณ : GOLFGTC เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 14:36:11

ความคิดเห็นที่ 18 แฟนพันธุ์แท้ตัวจริงครับ เป็นครั้งแรกที่ผมตามให้กิฟท์ ทุก คห. เลยครับ ถ้าจะให้ดีขอประวัติทางฝั่งเจได ด้วยก็ดีนะครับ ^^ จากคุณ : หนุ่มเมืองสะตอ เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:29:43

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อมูลแน่นสุดๆเลยครับ สุดยอดจริงๆ ไม่นึกว่าจักรวาลสตาร์วอร์ยุคเก่ามันจะดุเด็ดเผ็ดมันสฺ์ขนาดนี้ อาจยิ่งกว่ายุคใหม่อย่างในหนังด้วยซ้ำไป จากคุณ : NetNN เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:30:07

ความคิดเห็นที่ 20 ข้อมูลแน่นมาก สารภาพว่าดูสตาร์วอร์ไม่ค่อยเข้าใจเนื้อหา มาอ่านเจอกระทู้นี้สนุกจริงๆ จากคุณ : pastapie911 เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 15:52:05

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ เจไดหนุ่ม ครับมีเวลาว่างช่วยลง ส่วนของ Ep7-9 ซึ่งเป็นนิยายให้หน่อยสิครับ จากคุณ : DEVIL PHOENIX HELLSING เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 16:30:22

ความคิดเห็นที่ 22 คุณเจไดหนุ่มว่างๆ ก็โพสรายชื่อหนังสือที่มีด้วยนะครับ จะตามเก็บ มั้ง -*- ถ่ายรูปมายั่วน้ำลายด้วยจะดีมาก จากคุณ : บ้าคลั่ง เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 18:39:39

ความคิดเห็นที่ 23 เสียดายมันกลายเป็นเกม online ไปแล้วเฮ้อ ภาคก่อนๆอย่างเทพ จากคุณ : poopup เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 20:12:07

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ เจไดหนุ่ม สุดยอดมาก แฟนพันธุ์แท้ Star Wars ตัวจริง ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังนะครับ ปล. ผมอยากเล่นเกม star wars ในคลิบนี้มากกว่าเกมที่ จขกท.หยิบมาให้ดู จากคุณ : ZaTanBoy เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 54 08:27:52

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากเลยครับ อยากรู้ข้อมมูลหรือเนื้อหาเกี่ยวกับสตาวอ  แต่ไม่รู้จะหาอ่านที่ใหน ถ้ารวบรวมได้ก็ดีนะครับ จากคุณ : zawaafaps เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 01:04:59

ความคิดเห็นที่ 26 ***     ถ้าอิงตามเนื้อหาจากในซีรี่ยส์ "สตาร์วอส์" แล้ว  ดาบไลท์เซเบอร์เป็นอาวุธที่ใครๆก็สามารถเปิดใช้งานได้ครับ  เพียงแต่ถ้าเขาผู้นั้นไม่ได้เข้าถึงหลักของการใช้พลังแบบเดียวกับเจไดหรือซิธ  ก็มิอาจจะใช้ดาบไลท์เซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ       อาทิเช่นไม่สามารถปัดป้องกระสุนลำแสงหรือใช้ดาบได้อย่างคล่องแคล่วแบบพวกเจไดครับ  แต่ในสมัยที่ "ลุค สกายวอคเกอร์" ก่อตั้งสภาเจไดขึ้นมาใหม่  ได้มีผู้คิดค้นไลท์เซเบอร์ซึ่งจะใช้ได้เ้ฉพาะผู้เข้าถึงพลังเท่าันั้นครับแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 16:05:05