ความคิดเห็นที่ 1 สมาคมผู้จัดพิมพ์ของไทยมาเข้าร่วมงานปักกิ่งบุ๊กแฟร์ครั้งนี้ครั้งแรกหรือเปล่าครับ? ครั้งแรก ภายใต้การสนับสนุนของกรมการส่งเสริมการส่งออก ก่อนหน้านี้ทางผู้จัดงานให้ประเทศไทยมา 1 บูธ แต่ทางกรมส่งเสริมเห็นว่าเป็นโอกาสดี เลยเข้ามาช่วยสนับสนุนอีก 2 บูธเป็น 3 บูธ ทั้งออกค่าเดินทางและค่าที่พักให้ฟรีด้วย ก็เลยสามารถทำให้มาเป็นทีมได้ เลยดูยิ่งใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ทางสมาคมเข้าไปติดต่อกับกรมส่งเสริมฯหรือว่าทางกรมส่งเสริมฯ ติดต่อสมาคมฯ มาเองครับ หรือมาร่วมงานกันได้อย่างไรครับ? คือ จริงๆ แล้วเราร่วมงานกับกรมส่งเสริมการส่งออกมาหลายปีแล้ว ทางกรมฯ เคยสนับสนุนให้เราไปไทเป อินเตอร์เนเชั่นนัล บุ๊ก แฟร์ ซึ่งตอนนั้นประเทศไทยเป็นประเทศแขกรับเชิญพิเศษ ไปงานแฟรงเฟิร์ต บุ๊ก แฟร์ ทางกรมฯ ก็ส่งเสริมมาทุกปี คือเรามีการติดต่อประสานงานกันอยู่แล้ว แม้แต่โบโลญญ่า บุ๊ก แฟร์ ที่เกี่ยวกับหนังสือเด็ก กรมก็เคยส่งเสริมมาแล้วเช่นกัน แต่หยุดไปพักหนึ่งเพราะว่าแคบแค่เฉพาะหนังสือเด็ก ทางกรมฯ จึงหันมาส่งเสริมที่ประเทศจีนนี่แทน และดีกว่ามาก เพราะคนเยอะกว่า ต้องขอบคุณทางกรมฯ มาก และทางสมาคมฯ เราเองก็ดีใจ สำนักพิมพ์ที่มาเข้าร่วมก็ดีใจ เพราะไม่เหงา ทุกคนมีโอกาสขายหนังสือได้ มีคนเข้ามาถามไถ่ว่าจะซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ตลอด ขนาดหนังสือภาพถ่ายขาว-ดำ ของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ก็ยังมีสำนักพิมพ์จีนสนใจ เรารู้สึกว่าการมาออกบูธครั้งนี้ประสบความสำเร็จดีมาก ก่อนมาสมาคมฯ ตั้งเป้าไว้ขนาดไหนครับ? คือเป็นครั้งแรกที่เรามาแบบเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ คือแต่ก่อนเขาให้มาบูธเดียว หมายถึงจากผู้จัดงานที่นี่ ก็เลยดูเงียบเหงา ไม่ค่อยน่าสนใจ ทางสมาคมฯ กับทางกรมฯ ก็เลยคุยกันใหม่ เพราะถ้าออกมาในรูปแบบเดิมอีกก็คงไม่เวิร์กแน่ๆ แต่พอดีท่านองคมนตรี ดร.เกษม วัฒนชัย ที่ประธานที่ปรึกษากิติมศักดิ์ของสมาคมผู้จัดพิมพ์ ท่านบอกว่าทำไมไม่มาปักกิ่ง บุ๊ก แฟร์ ประเทศจีนเป็นประเทศที่น่าสนใจมาก คำพูดของท่านเลยอาจจะมีส่วนที่ทำให้ทั้งทางกรมฯและสมาคมฯ ตื่นตัวมากขึ้น ต้องเอาจริงเอาจังมากขึ้น เพราะว่าท่านประธานที่ปรึกษากิติมศักดิ์ของสมาคมผู้จัดพิมพ์ ซึ่งท่านเป็นถึงองคมนตรี ท่านสนใจเรื่องของการศึกษา เรื่องของหนังสือ ท่านบอกยกทีมไปเลย ทำแบบเก่านั้นไม่เวิร์กหรอก ก็เลยลองทำแบบใหม่ดูในคราวนี้ ต้องขอขอบคุณท่านที่ได้แนะนำให้เราออกมาลุยกันแบบนี้ มาหลายๆ คนแล้วน่าสนใจมากขึ้น บรรยากาศโดยรวมตั้งแต่เปิดงานมาเป็นอย่างไรบ้างครับ? ก็ระหว่างที่ผมให้สัมภาษณ์คุณอยู่นี่ ผมเสียงแหบหมดเลย เพราะว่าผมเจรจาเรื่องซื้อซื้อขายลิขสิทธิ์แล้วก็รู้สึกว่า ได้เข้าพกเข้าห่อมากพอสมควร ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เลย ก็แสดงว่าต่างชาติค่อนข้างสนใจหนังสือไทยที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้พอสมควรใช่ไหมครับ? ผมยืนยันว่า ที่มาด้วยกันทั้ง 12 สำนักพิมพ์นี้ เรามีความสุขกันทุกคน คุณอาทรพูดเสียงแหบเสียงแห้งจริงๆ ทีเดียวล่ะครับ เพราะผมเองก็ยืนรออยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะขอสัมภาษณ์ได้ เพราะมีสำนักพิมพ์จากเมืองจีนหลายจแห่งทยอยเข้ามาขอข้อมูลหนังสือเล่มต่างๆ อยู่ตลอด อีกทั้งเมื่อให้สัมภาณ์เสร็จแล้ว คุณอาทรยังถูกสำนักพิมพ์จีนลากไปเจรจาเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์ของจีนบ้างที่บูธอื่น แม้จะเหนื่อย แต่ก็ดูเหมือนมีความสุขมากที่ชาวจีนให้ความสนใจในหนังสือของไทย ท่านผู้ฟังครับ บูธของเราดูดีจริงๆ ผมเห็นมาด้วยตาตนเอง โดดเด่นยิ่งเมื่อเทียบกับของประเทศอื่นที่จัดอยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย อิหร่าน รัสเซีย ก็ดูเงียบเหงาเมื่อเทียบกับบูธของสำนักพิมพ์ไทย ซึ่งคิดว่าถ้ารวมตัวกันได้ ในปีหน้าก็น่าจะมากันมากขึ้น คัดเอาหนังสือที่คิดว่าเหมาะกับงานนี้มาเข้าร่วม ซึ่งก็สามารถสอบถามเทรนด์ต่างๆ ของปีที่ผ่านมานี้ไปยังสมาคมผู้จัดพิมพ์ก็ได้ เพราะเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันไปมากมายทีเดียว จากคุณ : Pikachu ร่าง 5 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 09:55:03

ความคิดเห็นที่ 2 ซึ่งในส่วนของสำนักพิมพ์เอง ผมก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณวสุรีย์ พิศุทธิ์สินธพ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ สำนักพิมพ์อิคิว พลัส เพราะว่านำหนังสือมาจำนวนร่วมแสดงจำนวนมาก ทั้งจากของอีคิว พลัส เอง ก็ยังมีของพูนิก้าซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในเครือด้วย ที่สำคัญคุณวสุรีย์ มีประสบการณ์ในการแสดงหนังสือในต่างประเทศมาอย่างโชกโชนและค่อนข้างประสบความสำเร็จ ก่อนหน้างานนี้ไปงานเทศกาลหนังสือนานาชาติที่ไหนมาบ้างแล้ว? จริงๆ เราไปมาหลายที่แล้วนะคะ อย่างไต้หวัน เราก็ไปมา 2-3 ปีแล้ว เกาหลีก็ไปมา 2 ปีแล้ว และล่าสุดก็ที่มาเลเซียค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เคยไปโบโลญญ่า งานหนังสือเด็กที่สเปนมาแล้ว แล้วประสบความสำเร็จขนาดไหนในการขายลิขสิทธิ์หนังสือให้กับต่างประเทศ? ก็เท่าที่ไปมาก็ทยอยค่อยเป็นค่อยไป ช่วงแรกอาจจะยากนิดนึงนะคะ อาจจะด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เพราะว่าการ์ตูนสไตล์อีคิวพลัสนั้น เป็นการ์ตูนคอมมิกส์ ทำให้เข้าใจยากกว่าหนังสือภาพนิดหน่อย ก็เลยต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ว่าพอเริ่มที่จะขายได้ เริ่มที่จะมีคนรู้จักการ์ตูนสไตล์คอมมิกส์มากขึ้น ก็เริ่มที่จะขายได้มากขึ้น ตอนนี้ก็มีขายไปต่างประเทศบ้างแล้ว ประเทศไหนบ้างครับที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว? ก็มีมาเลเซียค่ะ ที่ซื้อลิขสิทธิ์แบบการ์ตูนซีรีย์ หรือที่เป็นตอนๆ ไปแล้วหลายชุดทีเดียว แล้วก็มีเกาหลีที่อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้ที่ยังคุยค้างอยู่ก็จะมีจีนและไต้หวันค่ะ แล้วสำหรับงานครั้งนี้ล่ะครับ มีสำนักพิมพ์จากต่างชาติเข้ามาติดต่อบ้างหรือยัง? ก็มีเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะสำนักพิมพ์จีนที่มาสนใจทั้งที่เป็นการ์ตูนและนิยาย ซึ่งตัวเองกลับเมืองไทยแล้วก็ต้องไปทำการบ้านอย่างดี ส่งตัวอย่างเรื่องย่อหรือหนังสือที่ได้รับการแปลแล้วมาในเบื้องต้นก่อน เพื่อให้เขาศึกษาว่าจะโอเคไหม ส่วนใหญ่แล้วหนังสือของอีคิวพลัสเป็นหนังสือประเภทไหนครับ? จริงๆ แล้ว ส่วนใหญ่เป็นหนังสือการ์ตูนความรู้ทั้งหมด แต่เราก็มีสำนักพิมพ์ในเครืออีกหลายแห่งที่แตกออกไป อย่างสำนักพิมพ์พูริก้า ที่ทำหนังสือนิยายและการ์ตูนสำหรับวัยรุ่นด้วย คาดว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหนในตลอดทั้งงานปักกิ่งบุ๊กแฟร์ครั้งนี้ครับ? ก็คิดว่ากลับแล้วครั้งนี้น่าจะได้อะไรบ้าง ตอนนี้ก็คิดว่าประสบความสำเร็จเกิน 50 เปอร์เซนต์แล้ว และคิดว่าน่าจะมีสัก 70 เปอร์เซนต์ที่น่าจะมีการติดต่อกลับมา และพูดคุยต่อไป เพื่อให้เกิดการซื้อขายเกิดขึ้นได้ในอนาคต นี่ก็คือความเห็นในส่วนของสำนักพิมพ์ที่เดินทางเข้าร่วมงานหนังสือนานาชาติมาแล้วหลายแห่ง และจากบมสัมภาษณ์ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในใจว่า ประเทศจีนน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ในการเจาะตลาด โดยเฉพาะหนังสือประเภทการ์ตูน และหนังสือภาพที่ดูเหมือนว่าจะเปิดตลาดได้ง่ายที่สุด แต่ผู้แสดงงานหลายท่านก็บอกว่าจริงๆ แล้วหนังสือแนวอื่นก็ได้รับความสนใจ อย่างนิยายไทยเขาก็สนใจ ยิ่งพอบอกว่าเป็นหนังสือรางวัลแล้วด้วยยิ่งสนใจมากขึ้น แต่ติดตรงที่ว่าเราต้องทำการแปลมาก่อน หรือไม่ก็ต้องทำเรื่องย่อมาให้อ่านพิจารณา เพื่อให้เขาทำการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยก็น่าโหนกระแสละครไทยกำลังดังในจีน เอาต้นฉบับนวนิยายที่เคยถูกสร้างเป็นละครมาขายก็ยังได้ เพราะได้ข่าวว่าทางบริษัทผลิตละครแห่งหนึ่งของจีน ได้ซื้อลิขสิทธิ์บทละครของไทยมาทำการแสดงใหม่ในจีนด้วย การต่อยอดเอานวนิยายไทยร่วมกระแสด้วยก็น่าจะพอลุ้นอยู่บ้างนะครับ                                                                   วสุรีย์ พิศุทธิ์สินธพ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 09:59:24 จากคุณ : Pikachu ร่าง 5 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 09:59:07

ความคิดเห็นที่ 3 อีกข่าวนึง (ละคร หนัง เพลง ดารา ศิลปิน หนังสือนวนิยาย การ์ตูนส์ ไทย เริ่มเป็นที่รู้จักในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น) แจ่มใส ส่ง “วุ่นนัก! ได้รู้จักคุณแวมไพร์” บุก!! ไต้หวัน นักเขียนไทยโกอินเตอร์ไปเป็นที่รู้จักของนักอ่านชาวต่างชาติอีกครั้งแล้ว โดยครั้งนี้เป็นคิวของ "ศิรกรรณ" เจ้าของผลงานเรื่อง "วุ่นนัก! ได้รู้จักคุณแวมไพร์" ที่ตอนนี้สำนักพิมพ์ชื่อดังของไต้หวัน "แองเจิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล" ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "วุ่นนัก! ได้รู้จักคุณแวมไพร์" เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อแวมไพร์รักสันโดษอย่างเขาต้องกลายมาเป็นหัวข้อรายงานของแม่สาวจอมจุ้น ความลับที่ปกปิดมานานจึงไม่เป็นความลับอีกต่อไป หนำซ้ำเรื่องวุ่นวายและอันตรายต่างๆ ยังตามมาอีกเป็นขบวน เรื่องราวเหนือจินตนาการอันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความลึกลับและที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ความรัก ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอีกครั้งที่นักเขียนไทยได้โชว์ศักยภาพทางด้านงานเขียนจนเข้าตาชาวต่างชาติ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้นักอ่านชาวต่างชาติได้รู้ว่านักเขียนไทยเราเก่งไม่น้อยไปกว่านักเขียนประเทศอื่นๆ ที่มา dek-d จากคุณ : Pikachu ร่าง 5 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:08:43

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่าหนังสือเราที่ได้รับความสนใจมากขึ้นน่าจะมาจากกระแสละครและหนังไทยที่กำลังดังในจีนอ่านแล้วดีใจจัง ค่อยๆพัดค่อยๆซึมอย่างนี้ละดีแล้ว แต่ดูๆเส้นทางการพัดคล้ายๆเกาหลีเลยที่เริ่มจากซีรี่และหนังแล้วทุกอย่างในประเทศก็เป็นที่สนใจหมด ส่วนตัวชอบท่องเว๊บจีน ตอนนี้ก็เห็นแฟนคลับจีนของดารานักร้องนักแสดงของไทยบินมาเที่ยวไทยทั้งแบบเป็นกลุ่มแบบส่วนตัวแล้วเอามาโพสอวดกันบนเว๊บบอร์ดจีนมากขึ้นด้วย ขอบคุณจขกทที่นำมาลงให้อ่านนะคะ ไทยแลนด์สู้ๆ จากคุณ : นาเรเซรัน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:38:34

ความคิดเห็นที่ 5 เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณข่าวมากๆจ้ะ จากคุณ : ตุ๊มาแว้ว เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:40:16

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีบ้านวรรณกรรมเหรอ หนังสือนิยายดีๆ เยอะเลย เสียดาย จากคุณ : pinksoft เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:41:39

ความคิดเห็นที่ 7 หนังสือนิยาย นวนิยาย การ์ตูน ไทยเริ่มมีกระแสในโลกไซเบอร์มาซักพักแล้ว มีผู้นิยมอ่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  สำนักพิมพ์จีนจึงสนใจจัดจำหน่ายและแปลหนังสือจากไทยเป็นพิเศษ จากคุณ : Pikachu ร่าง 5 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:43:58

ความคิดเห็นที่ 8 แต่คนไทยโดยเฉลี่ยเองยังคงอ่านหนังสือกันน้อยอยู่ แล้วชอบใช้ข้ออ้างที่ว่าหนังสือแพงกันเหมือนเคย จากคุณ : ton_ck เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 10:48:51

ความคิดเห็นที่ 9 ดีใจจังที่ นิยายไทยจะเป็นที่รู้จักของคนต่างชาติ ด้วยนิยายของไทย มีหลายพอร์ตเรื่อง ให้เลือกอ่าน ไม่ซ้ำซากจำเจ ดิฉันคนหนึ่งค่ะ ที่ต้องซื้อนิยายอ่าน ทุกอาทิตย์ ตอนนี้ลูกเลยพลอยอ่านไปด้วย แต่ราคาหนังสือค่อนข้างแพงมากจริงๆ ทั้งๆที่จะรณรงค์ให้อ่านหนังสือกัน หนังสือเด็กค่อนข้างแพงมาก ทั้งที่ดิฉันคิดว่าไม่น่าที่จะหาข้อมูลยาก มีแค่ภาพประกอบสีสันชวนให้เด็กอ่านเนื้อหาข้างในไม่ได้แน่นหรือละเอียดมากนะ แต่ลูกชอบก็ต้องซื้อให้ค่ะ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเค้าไม่สนใจเลย :) จากคุณ : yok_vs เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:28:42

ความคิดเห็นที่ 10 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 11:31:53 จากคุณ : yok_vs เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:29:05

ความคิดเห็นที่ 11 อัยหย๊ะ!!! มีของแจ่มใสด้วย เราเป็นแฟนหนังสือค่ายนี้ ชอบอ่านนิยายรักคลายเครียด อยากให้วัยรุ่นจีนได้อ่าน รักป่วนๆฉบับก๊วนเด็กหอของMay112 สนุกมากๆๆ ฮากระจาย แถมตระกูลนางเอกก็เป็นคนเชื้อสายจีนด้วย จากคุณ : คานทองเป็นของต้องห้าม เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 11:31:19

ความคิดเห็นที่ 12 จากคุณ : Plakud04 เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 12:06:38

ความคิดเห็นที่ 13 ปลาบปลื้มกันอีกครา ไทยแลนด์ :D ถ้าเป็นนิยายไทยที่เอาไปทำเป็นละคร สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม สำนักพิมพ์พิมพ์คำ สำนักพิมพ์แจ่มใส และอื่นๆ อีกมากมาย น่าจะลองไปออกบูธเหล่านี้ดูบ้างค่ะ เชื่อว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทีเดียว :D จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 15:43:14

ความคิดเห็นที่ 14 นำโดยคุณวรพันธ์ โลกิตสถาพร เจ้าของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊ก แล้วทำไม่ ไม่เอาหนังสือ สถาพรไปหว่า แฟนตาซีก็อาจจะขายได้เหมือนกันนะ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ย. 54 16:20:41 จากคุณ : MoonLoke เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 16:20:22

ความคิดเห็นที่ 15 ขอคอมเฟิร์มอีกคนค่ะ ว่าเรื่อง "วุ่นนัก ได้รู้จักคุณแวมไพร์" ของคุณศิรกรรณ เป็นวรรณกรรมชิ้นเยี่ยมมากค่ะสำหรับเรา อยากให้ทุกคนมีโอกาสได้อ่านกัน พระเอกวินเซน คอนเตสสุดยอดมาก เราอ่านหลายต่อหลายรอบแล้ว ไม่เคยเบื่อเลยซักครั้ง แม้จะมีหลายเล่มก็ตาม จากคุณ : อิงฟ้าคีรตา เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 16:54:21

ความคิดเห็นที่ 16 เรามีไว้ในครอบครองแล้ว สำหรับ "วุ่นนัก ได้รู้จักคุณแวมไพร์"  อ่านจนแทบจะจำได้ทุกบรรทัดเลยล่ะ  เพราะเวลาไม่มีหนังสือที่อยากอ่านก็หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอ่าน จากคุณ : คุณนายคอฟฟี่ เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 17:27:59

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยกับคห.11 เป็นอย่างยิ่ง เรื่องนี้สนุกจริงๆ ชอบมากโดยเฉพาะนางเอก แสบได้ใจ > < จากคุณ : Fate of the White Love เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 18:04:06

ความคิดเห็นที่ 18 เราก็เป็นแฟนคลับของค่ายแจ่มใสคะ โดยเฉพาะนักเขียนชื่อสแตมป์เบอร์รี่ ,TheLittleFinger,และหนุ่มกรุงโซลคะ อ่านทีไรฮาทุกที และดีใจจังนอกจากละครเป็นที่นิยมแหร่ะ ยังมีหนังสือด้วย สงสัยต่อไป อะไรๆก็ไทยแลนด์แทนเกาหลีแหร่ะ โฮะๆ จากคุณ : หนูคิ M.T.U. เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 54 23:47:22

ความคิดเห็นที่ 19 อยากให้ หัวขโมยแห่งบารามอส มีโอกาสได้ไปแปลขายที่ต่างประเทศบ้างจัง ถึงช่วงแรกๆ จะคล้ายๆ เรื่องของคนอื่น แต่ต่อๆไปก็เป็นตัวของตัวเองดี แล้วสนุกมากเลยน้า >w< จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 54 16:15:27

ความคิดเห็นที่ 20 -___- วุ่นนักฯ นี่ นักอ่านชาวไทยหามาอ่านเองยังยากเลย แรร์มากหนังสือเซทนี้ 555+ จากคุณ : Alada เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 54 22:41:25