ช่อง3 ทุ่ม 50 ล้าน ทำหนังสยองขวัญ ตั้งเป้าขายต่างประเทศ

ช่อง3 ทุ่ม 50 ล้าน ทำหนังสยองขวัญ ประเดิมโปรเจ็กต์แรก “ผีเข้า” หวังลุยตลาดต่างประเทศ มั่นใจจะประสบความสำเร็จ เผยมีแพลนจะทำอีก 4 เรื่อง พร้อมแจงตั้งเป้าลงทุนกับธุรกิจหนัง 200 ล้านบาทต่อปี
     
      ทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับภาพยนตร์วัยรุ่นสยองขวัญเรื่อง “ผีเข้า” ของ 3 พันธมิตรอย่าง “เทรซี แอนน์ มาลีนนท์” ผู้บริหาร จาก บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่จับมือกับ “ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์” ผู้บริหารจากบริษัท มายน์แอทเวิร์คส์ จำกัด และ “ภาคภูมิ วงษ์จินดา” จากบริษัท ภาคภูมิใจ จำกัด กับการทุ่มทุนเรื่องแรกกว่า 50 ล้านบาท พร้อมดึงนักแสดงทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่ามาลงจอ อาทิ กิ๊ฟซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์, ออม สุชารัตน์ มานะยิ่ง, เฟิส ฌพวีร์ กิจนิยม, กัน อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์ ฯลฯ โดยทั้ง 3 ผู้บริหารได้เปิดใจถึงโปรเจ็กต์นี้ว่า….
     
      เทรซี แอนน์ มาลีนนท์ : “ทางบริษัทได้ทำรายการทีวีมาแล้ว และคิวว่าธุรกิจภาพยนตร์ ยังจะโตได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็เลยเห็นโอกาสที่จะทำ คงไม่แตกต่างกันหนังที่ฉายในทีวีค่ะ คงจะดีเท่าๆ กัน แล้วเราก็เช็คจากหนังดังทุกสัปดาห์ว่าผู้บริโภคชอบหนังประเภทไหน เป็นการศึกษาตลาดไปด้วย”
     
      ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ : “ก็อาจจะเป็นผลมาจากที่เราทำบันทึกกรรมด้วยครับ เพราะได้ร่วมงานกับผู้กำกับหลายๆ ท่าน แล้วเราก็ได้คุยกันตลอด แล้วเราก็คิดว่าถึงเวลาที่เราจะทำได้แล้ว ส่วนพี่เพื่อน(ภาคภูมิ ผกก.)ก็ได้ร่วมงานกับผม แล้วก็ทำบันทึกกรรมด้วยกันมา แล้วเขาก็เป็นคนที่ทำเรตติ้งได้ท็อปเท็นตลอด แล้วคิดว่าเขาเป็นคนเข้าใจตลาดคนดูมาก ผมเองคิดว่าหนังไทยมีเสน่ห์ แล้วผมก็อยู่ในวงการหนังไทยมา 10 กว่าปีแล้ว แล้วใจเดิมก็อยากทำหนังผีมาโดยตลอด แล้วตลาดต่างประเทศกำลังต้องการ ผมตื่นเต้น แล้วเครียดมาก เพราะหนังมันเป็นอะไรที่เสี่ยงมาก แล้วก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ส่วนหนังดังสุดสัปดาห์ก็ยังทำอยู่ อันนั้นก็เป็นงานหลักครับ”
     
      ภาคภูมิ วงษ์จินดา ผกก. : “ตอนนี้ก็ได้เตรียมงานไปกว่า90 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ แล้วเราก็ได้นักแสดงมาครบแล้ว ส่วนของบทภาพยนตร์ก็กำลังปรับอยู่ ไม่น่าเกินปลายๆ เดือนนี้น่าจะเปิดกล้อง ต้องบอกก่อนว่าเรื่องผีเข้า มาจากประสบการณ์จริงของน้องที่รู้จักกัน แล้วเราก็มีการคุยกันมาตลอดว่าอยากทำหนัง แล้ววันหนึ่งเราก็ไปถามน้องว่าใครมีประสบการณ์นี้บ้าง แล้วเขาก็เล่าประสบการณ์นี้มา แล้วทุกคนก็ลงความเห็นว่าทำไมไม่ทำเรื่องนี้”
     
      “ตอนที่น้องเขาเล่าเราฟังแล้วก็รู้สึกสนุกแล้วก็ตื่นเต้น แล้วมันก็เป็นเรื่องจริง ผมคิดว่าเรื่องจริงน่าจะตรงกับใจคน ที่บอกว่าหนักใจก็เพราะแนวทางใหม่ๆ ของภาพยนตร์ แล้วโจทย์ตอนนี้ค่อนข้างยาก เพราะมีหนังผีดีๆออกมาเยอะ แล้วถ้าเราไปทำซ้ำกับคนอื่นอีก มันก็จะกลายเป็นของเก่าไป และความหนักใจก็คือ ทำอย่างไรให้ใหม่ขึ้น”
     
      “ผมอาจจะเป็นคนทำภาพยนตร์มา แล้วก็มาทำภาพยนตร์ลงจอทีวี แล้วผมว่าภาพยนตร์ ไม่ว่าจะอยู่จอไหน จุดเด่นของมันก็คือความสนุก แล้วเท่าที่ผมอยู่ในวงการมา ถ้าคนดูสนุก แล้วหนังผีก็ต้องหน้ากลัวสนุกตื่นเต้นตลอดเวลา นี่คือโจทย์ที่ผมกำลังทำอยู่ เรื่องนี้ไม่ตลกครับ เป็นหนังวัยรุ่ยสยองขวัญ แต่ก็ไม่ใช่น่ากลัวจนเกินไป เรื่องนี้มันเกิดจากที่ผมทำหนังดังสุดสัปดาห์ และบันทึกกรรมมา แล้ววัดจากเรตติ้ง แล้วผมรู้สึกว่าคนที่ดูหนังต้องการความสนุกตื่นเต้นมาตลอด ถึงแม้จะเป็นหนังผีก็ตาม”
     
      เทรซี แอนน์ มาลีนนท์ : “ทีมงานตั้งไจทำงานมากค่ะ แล้วก็หวังให้มีพื้นที่ทางเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้ทำหนังด้วยค่ะ แล้วเราก็คิดว่าเราจะประสบความสำเร็จนะคะ แล้วถ้าเราทำหนังสนุกถูกใจคนดู รายได้มันก็ตามมา ส่วนทุนเรื่องนี้เราวางไว้ 40-50 ล้านค่ะ เราได้ตั้งเป้าการลงทุนในธุรกิจภาพยนตร์ไทยนี้ด้วยงบประมาณถึง 200 ล้านบาทต่อปี ส่วนหนังดังสุดสัปดาห์ก็จะมีงบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วเป็นทีวีก็สามารถเปิดดูได้เลย แต่หนังใหญ่เราต้องทำให้คนจ่ายเงินเข้าไปดูหนังของเราค่ะ รายได้ก็อยากให้ได้ดีที่สุด แต่ยังไม่อยากบอกตัวเลข”
     
      “ส่วนพระเอกตอนนี้มีแล้วค่ะ เดี๋ยวจะเปิดตัววันเปิดกล้อง ที่เราทำหนังผีเป็นเรื่องแรกก็เพราะว่าตลาดต่างประเทศยังต้องการหนังผีไทยเป็นอย่างดี แล้วก็จะมีแพลนสร้างหนังอีก 3-4 เรื่อง แต่ก็ยังอยู่ในขั้นดำเนินการ แล้วหนังเรามีทุกแนวค่ะ อย่างที่พี่เพื่อนพูดว่าเราจะเป็นสวนสนุกของทุกๆ คน”



http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000117776

จากคุณ	: ดาบกายสิทธิ์
เขียนเมื่อ	: 18 ก.ย. 54 09:26:40