ความร้อนจากดวงตะวันช่วงเดือนพฤษภาคมนั้นร้อนแรงอย่างเหลือหลาย แต่หลังจากได้บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ดูเหมือนว่าอุณหภูมิทั้งภายในและภายนอกร่างกายหมาก - ปริญ สุภารัตน์ นั้นจะเย็นลงถนัดใจ
ทีมงานสุดสัปดาห์ร่วมอนุโมทนาสาธุกันยกใหญ่ เมื่อทราบว่าหมากมีความตั้งใจที่จะนำทุนแห่งการทำความดีจำนวน 50,000 บาทที่ได้รับจาก สุดสัปดาห์ ไปมอบให้โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดผ่องพลอยวิริยารามเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายใน การบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน และเป็นทุนการศึกษา สำหรับเหล่าสามเณรนับร้อยรูปที่บวชเรียนอยู่ที่นี่
ถามว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ ก็ต้องย้อนกลับไปว่า ระหว่างที่ทีมงานกำลังคิดว่าจะทำกิจกรรมใดเพื่อศาสนานั้น เผอิญไปได้ยินกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ และมดดำ - คชาภา ตันเจริญ พูดในรายการ แฉแต่เช้า ว่ามีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องการบวชเรียน เมื่อติดต่อไป เราได้เรียนสายกับคุณสัณห์ ศรีภูมิเศรษฐ์ คุณพ่อของกฤษณ์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนสมาธิอยู่ที่นี่ ท่านให้ข้อมูลหลายอย่างเกี่ยวกับการบรรพชาสามเณรที่วัดแห่งนี้แก่เรา เมื่อปรึกษากับหมาก พระเอกหนุ่มก็เห็นดีด้วย จนทำให้เกิดการทำกุศลครั้งใหญ่ครั้งนี้
โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดผ่องพลอยวิริยารามนั้นเกิดขึ้นโดยความตั้งใจ ของพระครูสมุห์ถนอมศิลป์ ญาณสาคโร ซึ่งเดินทางจากอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัดผ่องพลอยฯ เมื่อปี 2535 โดยปักกลดอยู่ข้างศาลาการเปรียญ ซึ่งขณะนั้นเป็นหนองน้ำที่ใช้ทิ้งขยะ เมื่อพิจารณาดู ท่านคิดว่าที่ดินแห่งนี้น่าจะทำประโยชน์ได้มากกว่านั้น จึงขออนุญาตเจ้าอาวาสสร้างกุฏิหลังเล็กๆ ขึ้น แล้วรับเด็กที่มีปัญหาครอบครัว อาทิ ฐานะยากจน พ่อแม่หย่าร้าง และพ่อแม่เสียชีวิต มาอุปการะ ทั้งยังบรรพชาเป็นสามเณรและส่งเสริมให้ได้เล่าเรียน ซึ่งครั้งแรกมีอยู่ประมาณ 10 รูป
กระทั่งปี 2539 จำนวนสามเณรมีมากขึ้น พระครูสมุห์ถนอมศิลป์เล็งเห็นว่าการเดินทางไปเล่าเรียนนอกวัดนั้นไม่สะดวก สบายนัก ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียนพอสมควร ท่านจึงคิดเปิดเป็นโรงเรียนภายในวัดโดยถามความเห็นจากสามเณร เมื่อสามเณรเห็นด้วย ท่านจึงไปบอกบุญแก่ญาติโยมในการหาซื้อวัสดุอุปกรณ์มาก่อสร้างและเพื่อเป็น การประหยัด ท่านได้ให้เณรช่วยกันออกแรงว่าจ้างเพียงผู้ควบคุมการก่อสร้าง จนสำเร็จเป็นตัวอาคาร ตอนต้นที่นี่เป็นสาขาหนึ่งของโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดธรรมมงคล เปิดรับเด็กจากต่างจังหวัดที่มีฐานะยากจนและด้อยโอกาส ทางการศึกษามาบรรพชาให้พักและเรียนฟรี เมื่อมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักก็มีคนมาสมัครมากขึ้นเรื่อยๆ
ปี 2549 พระครูสมุห์ถนอมศิลป์ได้แยกตัวออกจากโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดธรรมมงคล มาตั้งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดผ่องพลอยวิริยารามเพื่อความสะดวกในการ บริหารจัดการ และจัดให้มีการสร้างอาคารที่พักอาศัยและห้องเรียนเพิ่มอีก หนึ่งหลัง และเพิ่งเปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในปี 2552 ขณะนี้กำลังปูพื้นเป็นมหาวิทยาลัย สมทบของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คุณสัณห์กล่าวกับพวกเราว่า "สามเณรส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ฐานะยากจน บางครอบครัวมีลูกสองสามคน แม้พ่อแม่ทำนาทำไร่ แต่รายได้ก็ไม่พอกับความต้องการ ทำให้เด็กบางคนไม่ได้เรียนหนังสือ เมื่อไม่เรียนบางคนก็เกเร ติดยาเสพติด แต่พอเป็นสามเณรก็เหมือนท่านได้ชำระล้างจิตใจใหม่ บางคนชีวิตเปลี่ยนไป ในทางที่ดีขึ้น หลักการของโรงเรียนเราเข้มงวดตั้งแต่ต้น เด็กที่จะมาบวชทางวัดจะให้เข้าค่ายอบรมก่อน โดยส่งไปยังค่ายทหารที่อำเภอแปดริ้วหนึ่งอาทิตย์ ปีนี้มีเด็กมาสมัคร 110 คน ฝึกเสร็จเหลือที่บวชเป็นเณรอยู่ประมาณ 90 รูป คนที่ไม่พร้อม อยู่กับวินัยไม่ได้ ก็ออกไป แต่เราต้องฝึก เพื่อเขาจะได้มีความอดทนและความเพียร ไม่เช่นนั้นจะลำบาก เพราะการเป็นพระในปัจจุบันนั้นมีสิ่งยั่วยุเยอะเหลือเกิน
"คนที่มาถวายปัจจัยถือว่ามีส่วนช่วยเณรเป็นอย่างมาก บุญตรงนี้เรียกว่าธรรมทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง ตัวสามเณรจะได้เรียนทั้งสองอย่าง คือทั้งธรรมะแท้ๆ เพราะต้องเรียนปริยัติซึ่งเป็นทฤษฎีของศาสนา และการเรียนวิชาชีพ พอจบออกไปก็แล้วแต่ว่าท่านถนัดทางไหน สามเณรที่นี่โดยมากจะไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ตอนนี้ก็มีหลายรูปที่เรียนปริญญาตรีอยู่ บางรูปเรียนปริญญาโท เราจะมีการบรรพชาในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี ใครที่อยากมาร่วมงานกันก็สามารถมาได้ครับ" คุณพ่อของหนุ่มดีเจแห่ง แฉแต่เช้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หมากเดินทางมาถึงวัดพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัว เมื่อลงจากรถก็เข้าไปในศาลาการเปรียญซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำการบรรพชา ผู้คนคับคั่งและแตกตื่นเล็กน้อยเมื่อเห็นพระเอกหนุ่มของเรา ส่วนใหญ่เป็นพ่อแม่และญาติโยมของสามเณร ส่วนผู้ที่มีความเลื่อมใสในพุทธศาสนาและต้องการมาร่วมทำบุญด้วยก็มีไม่น้อย ตอนนี้ว่าที่เณรน้อยทั้งหลายยังอยู่ในชุดนาคสีขาว บางคนก็ยังวิ่งซน เล่น กับน้อง กอดอยู่กับพ่อแม่ แต่ดูจากสีหน้าแล้วส่วนใหญ่ยิ้มแย้ม
เมื่อถึงเวลาอันเป็นมงคล มรรคนายกได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในอาการสงบ นาคน้อยเข้าแถวยาวโดยแบ่งเป็นตอนๆ เริ่มพิธีโดยให้นาคกล่าวขอขมาพ่อแม่ นัยหนึ่งก็เพื่อให้ลูกได้ระลึกนึกถึงบุญคุณพ่อแม่ ช็อตนี้เรียกได้ว่าเป็นช็อตเรียกน้ำตา เพราะทั้งนาคและพ่อแม่ต่างร้องไห้ด้วยความตื้นตัน แม่คนหนึ่งกล่าวกับเราว่า "การเป็นพ่อแม่คนแล้วได้เห็นผ้าเหลืองลูก นับเป็นสิ่งประเสริฐและบุญอันใหญ่หลวงของพ่อแม่" นาคบางรูปไม่มีผู้ปกครองมาด้วย เนื่องจากฐานะยากจน ไม่มีเงินค่ารถ จึงต้องให้คนอื่นสมมุติว่าเป็นพ่อแม่แทน หมากได้รับเชิญไปเป็นพ่อแม่สมมุติให้นาครูปหนึ่ง ขณะถวายผ้าไตรเขามีสีหน้านิ่งและดูสุขุม เสร็จจาก ขอขมาเป็นพิธีมอบผ้าไตร นาครับผ้าไตรไปห่ม ไม่กี่นาทีผ่านไปจากเด็กธรรมดาก็เปลี่ยนเป็น สามเณร หมากและทีมงานของเราเมื่อเห็นภาพ ก็รู้สึกตื้นตันใจไปด้วย คงไม่ต้องบอกว่าคนเป็นพ่อแม่จะรู้สึกอย่างไร
หลังพิธีบรรพชา เราคุยกับสามเณรหลายรูป สามเณรศักดาซึ่งเป็นสามเณรรูปที่หมากเป็นผู้ปกครองให้กล่าวว่า บวชเพราะอยากทำให้แม่ภูมิใจ "วันนี้โยมแม่ไม่ได้มา เพราะติดงาน แต่ไม่เป็นไร (ยิ้มเศร้าๆ) ตอนแรกก็ลังเลว่าจะบวชดีไหม เพราะกลัวคิดถึงบ้าน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบวช คิดว่าน่าจะได้รับสิ่งที่ดี อาจจะบวชจนจบ ม.6" ขณะที่สามเณรเจริญชัยจากจังหวัดหนองบัวลำภูบอกว่า "คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี พี่ชายเคยบวชอยู่ที่นี่มาก่อน อยากเรียนไปเรื่อยๆ ทางโยมแม่ก็บอกว่าอยากให้บวชไปนานๆ"
คุณอาทิตย์ บัณฑิต จากจังหวัดนครราชสีมา แม่ของสามเณรรูปหนึ่งกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "รู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่ลูกบวชให้ค่ะ แม่มี ลูก 3 คน คนที่บวชเป็นคนกลาง เขาสมัครใจบวชเอง เขาเดินมาบอกเองว่าอยากบวช จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว แม่ก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี เลยตามใจเขา ไม่ได้คาดหวังว่าลูกต้องบวชถึงเมื่อไร แค่เขาตั้งใจทำตรงนี้ให้เราก็ดีใจแล้ว"
"ผมเองก็เคยบวชสามเณรภาคฤดูร้อนในวัดที่จังหวัดลำปาง ช่วงแรกรู้สึกทรมานมาก เพราะต้องตื่นเช้ามานั่งสมาธิ ไหว้พระ สวดมนต์ บวชอยู่เดือนหนึ่ง พอสึกออกมาก็รู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้น อยากฝากถึงคนที่อ่าน สุดสัปดาห์ ว่า ถ้าตัวเราไม่มีโอกาสได้บวช เช่น อาจจะเป็นผู้หญิง หรือว่าไม่พร้อมที่จะบวช ผมว่าเราสามารถช่วยให้คนที่อยากบวชได้บวชอย่างที่ผมทำ ถือว่าเป็นการทำนุบำรุงศาสนาได้ทางหนึ่ง ผมว่ามันมีประโยชน์มาก บางคนพอได้อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ก็เปลี่ยนจากเด็กเกเรเป็นคนดี นอกจากนี้เขายังได้เรียนหนังสือ ขณะที่ตัวเราก็ได้รับกุศล ผมว่า มันมีแต่สิ่งที่ดี ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ทำ จะมาทำที่นี่หรือจะทำวัดใกล้บ้านก็ได้ครับ" พระเอกหนุ่ม พูดด้วยใบหน้าที่สงบ ท่ามกลางเสียงสวดมนต์ของสามเณรใหม่ในวัดดังอยู่ไม่ไกล
เครดิต http://www.sudsapda.com/Project/Konlor4/mark.htm