ความคิดเห็นที่ 1 ขอตอบอย่างคนที่ดูอนิเมชั่นไม่เยอะ (แต่อยากจะตอบ  ^^) ถ้าเป็นของญี่ปุ่น ----> 5 Centimeters Per Second ถ้าเป็นของฝรั่ง   ----> UP จากคุณ : โสดในซอย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:16:03

ความคิดเห็นที่ 2 To Love Ru จัดไปครับ me//โดนเตะออกจากกระทู้ จากคุณ : นู๋เอฟ คุคุ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:19:21

ความคิดเห็นที่ 3 จะเข้ามาบอกว่าจะฉาย Spirited Away นั่นแหละ 555 ส่วนตัวเราชอบมากกว่า mononoke ค่ะ เพราะเรื่องแรกมันให้หลายอารมณ์ มันมีทั้งภาพวัฒนธรรมประยุกต์ ฉากก็หลากหลาย การออกแบบตัวละคร น่าประทับใจ โดยเฉพาะพวก แม่มด ตัวฝุ่น ฉากในห้องถ่านหิน พวกสัตว์รับใช้ เทพเจ้า บลาๆๆ ฉากรถไฟในน้ำ ก็เป็นอีกฉากที่วิจิตพิศดาร สวยมากสำหรับเรา ให้ดูเป็นพันครั้งก็ชอบ เรื่องที่สองมันเครียดไปนิดสำหรับเรา แล้วก็แค่สู้ๆกันในป่า เท่าที่จำได้ แต่ดูแล้วมันจำอะไรไม่ค่อยได้เหมือน Spirited Away ที่คาแรกเตอร์ เพลง มันชัดในสมองมาก อ้อ ถ้าฝั่ง Disney เอา Ratatuille เรื่องเดียวเลยค่ะ...ความละเอียดและลูกเล่นของภาพ  ไร้เทียมทานจริงๆ แม้เราจะชอบ Pixar ทุกเรื่องก็เถอะ แล้วการเอาหนูสกปรกๆ หนูท่อเลยแหละ มาเล่นกับเรื่องอาหารชั้นยอดของปารีส เนี่ย เราว่ามันเป็นโจทย์ที่หินมาก พลาดนิดเดียวก็ แหวะ เลยแหละ ...ดังนั้น แทคติค การเล่าเรื่อง และ การออกแบบองค์ประกอบศิลป์ทุกอย่าง มันต้องการการตีโจทย์อย่างเทพเลยแหละ แล้วหนังก็ทำออกมาได้ไร้ที่ติจริงๆ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 23:25:20 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 23:22:16 จากคุณ : popcorn lover เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:20:17

ความคิดเห็นที่ 4 ฮิกุราชิ โน นะคุนิ จากคุณ : hydrophobia เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:22:26

ความคิดเห็นที่ 5 อยากให้ดู she and her cat ค่ะ มาโคโตะ ชินไคเหมือนกัน เรื่องสั้นๆ ภาพน้อย เคลื่อนไหวนิดหน่อย สีก็แค่ขาวดำ(แต่ต้องมีทักษะดรออิ้งมาก) แต่โดยรวมออกมาได้ดีมากๆ จากคุณ : zilchat เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:36:27

ความคิดเห็นที่ 6 คลิปไม่ติด จากคุณ : zilchat เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:37:54

ความคิดเห็นที่ 7 กันดั้มSEED DESซิครับ   ถ้าได้ทำงานแล้วอย่าเผาน่าเกลียดอย่างนี้คนดูรับไม่ได้ จากคุณ : Tsundere no tsukaima เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:46:13

ความคิดเห็นที่ 8 Spirited away เรื่องที่เจ้าบ่ชอบนั้นแหละ คำตอบสุดท้าย จากคุณ : YMS-15 เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:50:26

ความคิดเห็นที่ 9 กล่าวถึงการเรียนใช่ไหมครับ (ไม่ใช่แนะนำแบบเพื่อนบอร์ด) ? แนะนำว่าดูอะไรก็ดูเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวที่ชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่ดูแล้วให้เขียนบทวิเคราะห็วิจารณ์มาส่งด้วยนะจ๊ะ ^^" ถ้าเลือกดูเฉพาะเรื่องที่คนอื่นแนะนำ...ก็คงเป็นได้แค่คนดู แต่ถ้าดูหลากหลายแนวแล้ววิเคราะห็ได้ด้วยตัวเองว่า... เรื่องอะไรมีดีหรือไม่ดีอย่างไร แล้วค่อยมาคุยกัน...ก็มีแววเป็นนักสร้างได้ พอเริ่มงานใหม่ ๆ เป็นลูกจ้างเขา เลือกงานที่ชอบบ่ได้ดอก ฮายาโอะ มิยาซากิ ก็เป็นลูกจ้างตั้งนาน จนรู้ว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง กว่าจะออกมาทำระบบและรูปแบบที่ต้องการจริง ๆ ก็เป็นสิบ ๆ ปีแน่ะ ^^ ... แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 54 23:59:14 จากคุณ : ทุเรียนกวน ป่วนรัก เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:54:39

ความคิดเห็นที่ 10 สมัยผมเป็นนักศึกษา  ผมก็เรียนวิชาอนิเมชั่นกับอาจารย์อีกคนด้วย ( ไม่บอกชื่อ ) เขาว่า คาแรกเตอร์ดีไซน์ของผม  มันดูไม่เข้ากับเด็กๆ ผมเป็นคนอีโก้สูงน่ะ  ไม่ชอบทำตามใจคนอื่น  ใครไม่ชอบก็ช่าง ปัจจุบันเลยเป็นนักสะสมอย่างเดียว  แต่ก็มีความฝันอยากเป็นอาจารย์บ้างเหมือนกัน จากคุณ : ฮาริมะคุง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 54 23:55:29

ความคิดเห็นที่ 11 จัด Summer Wars ให้ดูโลด จากคุณ : แค่ใจละเมอ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:07:17

ความคิดเห็นที่ 12 เรียน animation อาจารย์ ให้ดู big bug bunny ละ นอกจากสั้นแล้วยังเป็น material ไปในตัว - - จากคุณ : MoonLoke เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:08:55

ความคิดเห็นที่ 13 นิชิโจว งานภาพมันดีนะครับ ถ้าก้าวข้ามความโทรลล์ของมันได้แล้วมีอะไรน่าสนใจให้ดูเยอะเลย จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:21:30

ความคิดเห็นที่ 14 ก่อนอื่นเลยต้อง บาคุแมง ครับ สร้างกำลังใจ และไซโคให้เด็กเป็น บาคุแมนซินโดรม จากคุณ : somngo เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:45:27

ความคิดเห็นที่ 15 สอนทำอนิเมชั่นด้วยการให้ดูอนิเมชั่นก็เหมือนสอนคนทำอาหารด้วยการเปิดอาหารกระป๋องในคลาส เป็นผมไม่เปิด แรงบันดาลใจต้องค้นหาเอาเอง การนำไปเปิดเท่ากับไปทำ mass products และทั้งคลาสจะส่งงานออกมา เหมือนกันหมด (ถ้าเปิดชินไค = วาดได้แค่ฉาก อย่างอื่นไม่เอาอ่าว) และจะกลายเป็นการเฉลยจุดให้คะแนนของคนสอน คนเรียนมันจะส่งงาน "เอาใจแนว อจ" ของคนสอนเพื่อหวังคะแนน   ทั้งคลาสมีแค่กระดาษเปล่าน่ะดีแล้ว จากคุณ : Kizumonogatari เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:50:49

ความคิดเห็นที่ 16 สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การ Modeling แต่เป็น Animate ควรเริ่มจากอะไรที่ง่ายๆ สร้างเส้นธรรมดาให้มีชีวิต ผมว่าน่าจะเป็นพื้นฐานที่ดี จากคุณ : นักคิดหมายเลข 1 เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 00:59:48

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่รู้ว่าสายอนิเมเขาสอนอะไรบ้าง เคยเรียนแต่นิเทศ ลองแยกมาเป็นเรื่องๆ แล้วกัน คาแรคเตอร์ดีไซน์ - Code Geass, Death Note ผมว่าแอลเป็นที่สุดแล้วในเรื่องการออกแบบคาแรคเตอร์ ทั้งหน้าตา บุคลิก กิริยาท่าทาง การจับของด้วยปลายนิ้ว พฤติกรรมการกินระหว่างคิด ฯลฯ ส่วนลูลู่ ผมชอบการแสดงออกทางอารมณ์เวลาอยู่ตัวคนเดียว คิดคนเดียว ดูเป็นธรรมชาติของมนุษย์ (ที่ไอคิวสูง) ดี การประพันธ์ - Durarara เป็นเรื่องที่ "หาแก่นของเรื่องไม่ได้" แต่โดดเด่นในด้านการเชื่องโยงเนื้อเรื่องหลายๆ ทาง ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันให้กลายเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างลงตัว แล้วก็พวกอนิเมจากเกมของ Key ที่ถึงจะออกมากี่เรื่อง บางทีพล็อตก็เหมือนจะซ้ำ แต่พอดูจนจบจริงก็ไม่ซ้ำ แล้วยังซาบซึ้งได้ทุกบท กำกับภาพ - 5cm เหมือนกัน แล้วก็คงให้ไปดูงานของ Shaft เรื่องมุมกล้อง แสง การตัดฉาก การใช้สัญลักษณ์ กำกับเสียง ประพันธ์เพลงประกอบ - ให้ไปดู Simoun กับ Eureka Seven แล้วตั้งใจฟัง BGM แต่ละเพลงรู้สึกได้เลยว่าพิถีพิถันมากๆ นึกไม่ออกแล้ว เท่านี้ก่อนแล้วกัน จากคุณ : ส้มซ่าน้อยตัวใหญ่ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 01:15:16

ความคิดเห็นที่ 18 Spirited away เราชอบการเดินเรื่องค่ะ ภาพ+สีก็ชอบ ถ้าจะเอาภาพสวยแบบวิ้งๆก็ ด้านบนเลย มาโคโตะ ชินไค จากคุณ : กุเต่ยโหดกระถีบ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 05:09:11

ความคิดเห็นที่ 19 akira ครับ จากคุณ : vagrantstory เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 06:15:09

ความคิดเห็นที่ 20 จุดประกายให้เขาด้วยเอวานเกลเี่ยน จากนั้นก็เอาพวกการ์ตูนง่ายๆ ที่การเคลื่อนไหวแบบการ์ตูนจ๋าให้ดูเช่น มิลค์กี้โฮล์ม จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 06:50:55

ความคิดเห็นที่ 21 Nichijou จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 08:39:36

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อสอบปลายภาค จงวิเคราะห์สาเหตุที่ชินจิ บีบคอ อาสุกะ ในตอนจบของ The end of evangelion มาอย่างละเอียด จากคุณ : TEE_Psy เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:18:39

ความคิดเห็นที่ 23 เรียนอนิเมชั่นควรหาตัวอย่างที่เกี่ยวกับเทคนิคงานภาพและการอนิเมทมาใช้สอนมากที่สุดครับ ที่จริงมุมมองของ คห.15 ก็ถูก แต่ถึงอย่างไรก็จำเป็นต้องมี "ผลงานชั้นครู" มาเป็นตัวอย่างประกอบการสอนเพื่อให้นักเรียนเห็นภาพอยู่ดีครับ เพียงแต่ผู้สอนต้อง "ไม่แสดงออก ว่าตัวเองมีรสนิยมแบบไหน" เพราะไม่งั้นก็จะกลายเป็นนักเรียนทำผลงานมาพยายามเอาใจอาจารย์ หลัก ๆ ก็คง - อนิเมดิสนีย์ยุค 2D - งานจิบลิเด่น ๆ บางเรื่อง - ทอมแอนด์เจอร์รี่ - Akira - Old Man and the Sea อนิเมที่ทำด้วยสีน้ำทั้งเรื่อง - อนิเมชั่นฝรั่งเศสส่งประกวดหลาย ๆ เรื่องที่ใช้เทคนิคอื่น ๆ นอกจากการวาด - อนิเม 3D ของพิกซาร์ - งานอนิเมสุดสาครของ ปยุต เงากระจ่าง - งานของ ซาโตชิ คอน (เช่น ปาปริก้า) ส่วนเสริม ๆ ไว้ให้เป็นตัวอย่างสำหรับงานยุคใหม่ - โดราเอมอนเดอะมูฟวี่ยุคหลัง - เทคนิคงานของอินุคาเร่ ใน คุณครูสิ้นหวัง กับ มาโดกะ - อนิเม 3D Oblivion Island : Haruka and the Magic Mirror - คัดฉากที่มีการอนิเมทดี ๆ มุมกล้องเด่น ๆ จาก นิชิโจ - งานปัจจุบันของวงการอนิเมชั่นไทยที่พอมีชื่อ เช่น นาก หรือ ก้านกล้วย หรือ เบิร์ดแลนด์ น่าจะแค่ประมาณนี้ครับ เพราะพวกอนิเมซีรี่ยส์พล็อตเด่น ฉากสวย ตัวละครโมเอะ มันไม่ได้เป็นส่วนสำคัญโดยตรงต่อ "การผลิตอนิเมชั่น" สักเท่าไหร่ (เพราะไม่มีวิชา "วิเคราะห์บทอนิเมชั่น" หรือวิชา "ออกแบบตัวละครการ์ตูนญี่ปุ่น" ที่ลงลึกขนาดนั้น) และของพวกนี้มันก็อยู่ที่รสนิยมของผู้เรียน คนที่ขวนขวายถ้าชื่นชอบส่วนประกอบอื่น ๆ เขาก็จะนำมาใส่ในงานที่ศึกษาลงลึกมาแล้วอย่างลงตัวได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องเอาไปสอน เพิ่มเติม - ทอมแอนด์เจอร์รี่ ครับ ตามข้างล่าง (เรื่องนี้ลืมไปเลย ไม่ได้ดูมานานมาก ๆ แต่เป็นงานเซลอนิเมชั่นที่ละเอียดมาก ๆ และไม่เคยเห็นการ์ตูนญี่ปุ่น "ซีรี่ยส์" เรื่องไหนจะขยันเท่านี้) แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 10:28:14 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 09:55:49 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 09:26:03 จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:21:43

ความคิดเห็นที่ 24 มัน..สอนในสายใหนล่ะครับ  การอนิเมท หรือการเขียนบท+กำกับ ถ้าสอนอนิเมท ผมจะให้่ดูอากิระ กับอนิเมชั่นวอลท์ดีสนีย์ ทอมกับเจอรี่ยุคคลาสสิกก็ควรจะดู งานวาดมือล้วนๆ อยากได้อากิระบลูเรย์วุ้ย จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:40:37

ความคิดเห็นที่ 25 ทอมเจอรี่ตอนแรกสุด 1940 จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:43:11

ความคิดเห็นที่ 26 Spirited away ครับ ต้องดูแล้วคิดตามครับจะสนุกมาก ถ้าดูเรื่อยๆ เนือยๆ รอฉากตื่นเต้นหลับแน่นอนครับ จากคุณ : Getter_ROBO เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:52:24

ความคิดเห็นที่ 27 ก้านกล้วย จากคุณ : verjil เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 09:58:39

ความคิดเห็นที่ 28 มีอีกหลายเรื่องที่ผมอยากแนะนำให้นักเรียนดู ผลงานของซาโตชิ  คอน เช่น Perfect blue, Millennium actress, Paprika.... โดยปกติแล้ว  ผมไม่ชอบเด็กเล็ก  อยากสอนนักศึกษาที่โตๆแล้วหน่อย ใครชอบคุย  หรือเอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือ  เชิญออกจากห้องเรียนไปไกลๆ จากคุณ : ฮาริมะคุง เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:00:25

ความคิดเห็นที่ 29 อันนี้บวกไปด้วยนะ จากคุณ : x_walkerray (x_walkerray) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:23:50

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 7      กันดั้มSEED DESซิครับ   ถ้าได้ทำงานแล้วอย่าเผาน่าเกลียดอย่างนี้คนดูรับไม่ได้ จากคุณ     : Tsundere no tsukaima ถ้า Gundam Seed Des เรียกเผาแล้ว Musashi Gandou (2006) จะเรียกว่าอะไร? เรื่องนี้เอาไปเป็นตัวอย่างได้เลยนะเนี่ยว่าขั้นเทพเป็นยังไง แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 10:47:33 จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 10:46:13

ความคิดเห็นที่ 31 #23 ส่วนตัวผมถือว่าการนำอนิเมชั่นเปิดฉายในคลาสเป็นการแสดงถึงความไร้ความสามารถของตัวคนสอน ฝีมือไม่มี ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยไปหาอนิเม-หนังมาเปิด ทำตัวเป็นนักเสพชั้นดี และเด็กเจอ อาจารย์แบบนี้ เรียนจบก็จะกลายเป็นแค่นักเสพชั้นดีเหมือนกับคนที่สอนเขามา ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายผลผลิตของคณะอนิเมชั่นก็จะได้แค่ = กลุ่มคนที่แค่เคยดูอนิเมชั่นมาเยอะแค่นั้น การเปิดอนิเม ผมว่ามันไปทำให้เด็กมันฟุ้งซ่าน ทำตามคนอื่นโดยไม่ดูทักษะพื้นฐาณของตัวเอง และก็จะได้เห็นงานจับเป็ดจับฉ่าย ครึ่งๆกลางๆส่งมาเต็มไปหมด   และถ้าคุณไปสอนด้วยวิธีนี้แล้วมีเด็กคนนึงในคลาสถามขึ้นมาว่า "แล้วอาจารย์ทำแบบนั้นได้มั้ย" "อาจารย์วาดให้ดูหน่อย" "เปิดอนิเมให้ดูอยู่นั่นละ เอางานมาให้ดูหน่อยสิ" อาจจะสะอึกไปตามๆกัน จากคุณ : Kizumonogatari เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 11:40:16

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ ^ หืม ผมไม่รู้นะครับว่าคุณเคยเรียนคลาสอนิเมชั่นหรือเป็นผู้สอนของวิชาอะไรบางอย่างหรือเปล่า แต่ของบางอย่างสอนแค่ตัวหนังสือบนหน้ากระดาษมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ และผมไม่ได้หมายความว่าการเรียนการสอนทั้งหมดจะต้องออกมาในรูปแบบของการ สอน+เอาหนังมาเปิด นี่ครับ แต่บางครั้งในแง่ของการเรียนที่เกี่ยวกับการทำสื่อเคลื่อนไหว ถึงอย่างไรก็ต้องมีตัวอย่างที่ทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจอิมเมจของภาพตามที่ผู้สอนอธิบายได้อยู่ดี อัตราส่วนของการสอนมันยังไงก็ต้องมีการหาตัวอย่างงานชั้นครูมาประกอบการอ้างอิงอย่างน้อย 20-30% อยู่แล้วครับ เพราะผมก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าให้เปิดอากิระทั้งเื่รื่อง ดูทอมแอนด์เจอรี่ทุกตอนจนหมดคลาส เผลอ ๆ เอาแค่ฉากที่ตรงกับเนื้อหามาให้ดูสักไม่เกิน 10 นาทีก็เหลือแหล่แล้วด้วยซ้ำ นอกนั้นก็เป็นหน้าที่ ๆ ผู้สอนจะต้องถ่ายทอดให้นักเรียนต่อด้วยตัวเอง "แล้วอาจารย์ทำแบบนั้นได้มั้ย" "อาจารย์วาดให้ดูหน่อย" "เปิดอนิเมให้ดูอยู่นั่นละ เอางานมาให้ดูหน่อยสิ" สกิลพื้นฐานของผู้สอนอนิเมชั่นก็ต้องทำอนิเมชั่นเป็นอยู่แล้ว ที่คุณยกมา คนสอนก็ต้องทำให้ดูก่อนจะเปิดหนังเหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า ถ้าผู้สอนเอาผลงานของตัวเองมา สำหรับการสอนขั้นพื้นฐาน แล้วเอาผลงานชั้นครูมาเป็นแนวทางหรือเป็นมาตรฐานให้เป็นแบบอย่างประกอบการสอน มันทำให้เด็กกลายเป็นคนแค่เสพอนิเมชั่นแล้วผลิตงานไม่เป็นได้อย่างไร อีกอย่าง การทำงานศิลปะ หลักพื้นฐานของการเรียนรู้คือการเสพงานแนวต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งทั้งนั้นแหละครับ บางครั้งการลองผิดลองถูกแบบไม่มีความรู้อาจจะได้ผลงานแปลกใหม่ก็จริง แต่มันก็เป็นส่วนน้อยเกินจนไม่มีนัยสำคัญสู้เท่าการสร้างผลงานจากการสั่งสมประสบการณ์แล้วนำมาต่อยอด เผลอ ๆ การปล่อยให้คิดเองเออเองอาจได้ผลที่เลวร้ายกว่าก็ได้ เพราะเท่ากับผู้เรียนไม่รู้จักมาตรฐานของผลงานที่เ้หมาะสมเนื่องจากไม่เคยเห็นตัวอย่างผลงานและได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเลย แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 14:33:44 จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 14:31:56

ความคิดเห็นที่ 33 คุณวาดอะไรมาให้ผมดูซักรูปสิครับ อยากรู้ว่าศิลปะของคุณเป็นยังไง ? แค่กระดาษแผ่นเดียวก็พอแล้ว แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 14:54:35 จากคุณ : Kizumonogatari เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 14:52:35

ความคิดเห็นที่ 34 เรากลับคิดว่า คนจะเป็นอาจารย์ต้องดูผลงานหลากหลายนับสิบนับร้อยแนว ไม่ใช่เพียงแนวที่อาจารย์ชอบ นั่นแหละจึงจะสอนลูกศิษย์ได้ดี  เพราะสิ่งที่คุณไม่ชอบ อาจเป็นแนวของลูกศิษย์คุณก็ได้  และอนิเมชั่นก็ไม่ใช่แค่เรื่องภาพสวย ๆ เทคนิคแจ่ม แต่ต้องพ่วงด้วยเนื้อเรื่องที่ดีด้วย   ที่อาจารย์ของคุณให้ดู Spirited Away ก็ด้วยส่วนผสมของหลาย ๆ สิ่งที่ทำให้นี่เป็นเรื่องที่ควรดูนั่นแหละ  (จริงอยู่ว่าอาจจะมีคนทำหน้าที่เขียนบท แต่การรู้รอบย่อมช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก) จากคุณ : Motif เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 16:29:12

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้ายึดตามคุณKizumonogatariว่าไว้ แสดงว่าอาจารย์สายศิลป์ไม่ควรเอาผลงานใดๆมาแสดงเป็นตัวอย่างเลยสิครับแม้แต่ผลงานของอ.เอง เพราะมันจะทำให้เด็กฟุ้งซ่าน ทำตามอ.โดยไม่ดูพื้นฐานของตัวเอง อย่างการแสดงก็ไม่ควรเปิดหนังหรือแนะนำนักแสดง จิตรกรก็ไม่ควรเอารูปของคนอื่นมาเป็นตัวอย่าง แบบนี้น่ะเหรอครับ? พอดีผมเด็กสายวิทย์ ปกติอ.ต้องยกตัวอย่างของจริงมาให้ดูอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยเข้าใจภาพการสอนแบบศิลปะเท่าไหร่ จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 17:30:52

ความคิดเห็นที่ 36 การนำอนิเมชั่นเปิดฉายในคลาสเป็นการแสดงถึงความไร้ความสามารถของตัวคนสอน ข้อนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับ ปกติการสอนที่ดีจำเป็นต้องมีตัวอย่างประกอบเพื่อความเข้าใจอยู่แล้วครับ ถ้าเอาแต่เนื้อหาอย่างเดียวอย่างไรเด็กก็คงนึกไม่ออกหรอกครับ จุดประสงค์ของการให้ดูอนิเมชั่นนั่นก็คือการดูแนวทางและแบบอย่างที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น (จขกท. ก็บอกอยู่แล้วว่าเปิดเป็นช่วงสั้นๆไม่ได้ให้ดูทั้งตอน) เหมือนอย่างงานศิลปะอื่นๆก็ไม่ต่างกันครับ ส่วนเรื่องที่อยากแนะนำ เรื่องภาพนี่ ของ Studio Ghibli แล้วก็งานของ shinkai makoto ส่วนเทคนิค อย่างงานของ shaft ED ของ madoka ที่มีการใช้เทคนิคอื่นนอกจากการวาดภาพ หรือ OP ของ Bakemonogatari พวกการเคลื่อนไหว ก็ผลงานของดีสนีย์ ในช่วงก่อนเป็น 3D แล้วก็พวก cell shade หรือการใช้ CG มาช่วยในงานภาพ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 17:52:34 จากคุณ : อีกาตัวดำๆ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 17:45:50

ความคิดเห็นที่ 37 เราเกลียดแนวคิดที่ให้อ.เอาแต่งานตัวเองมาโชว์ค่ะ หลงตัวเอง และไม่มีอะไรให้ศึกษาได้มากเท่างานระดับสตูดิโอ ไม่มีความหลากหลาย จากคุณ : kowloon เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 18:19:56

ความคิดเห็นที่ 38 การนำ DVD หรืออนิเมชั่นที่สำเร็จแล้วมาแสดง ไม่ได้เป็นการแสดงให้เห็นอะไรเลย นอกจากคนเรียนได้เห็นอนิเมชั่นที่เขาสามารถไปหาดูที่ใหน เมื่อใหร่ ก็ได้ แต่การสำแดงสามารถของคนสอน และสำแดงสามารถของคนเรียน นั่นคือของจริงครับ และจะมีเด็กฉลาดๆรู้ทีหลังว่าเสียค่าเทิอมมาเกือบแสน อาจารย์ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเปิดงานที่เด็กก็มีปัญญาซื้อไว้ดูเองที่บ้านในราคาแผ่นละ 199 1 เทิอมมี 12 คาบ  36 ชั่วโมง  เท่านั้น การศึกษาการผ่าตัดรากฟันจากตำรา หรือการศึกษาด้วยการเห็นอาจารย์สำแดงสามารถ คิดว่าอะไรคือของจริง ? หากคิดว่าอย่างแรกคือของจริง สิ่งที่คุณเรียนคือวิทยาศาสตร์เชิงวิบัติ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เชิงปฎิบัติ และการแสดงงานในความหมายของการปฎิบัติ คือสำแดงสามารถ ทำงานสด ณ ตรงนั้น ไม่ได้หมายถึงนำงานสำเร็จของอาจารย์มาเปิดให้ดู เพราะมันก็ไม่ต่างกับการเปิด DVD และเป็นการแสดงถึงความเกียจคร้านของผู้สอน ที่ต้องการรับเงินเดือนโดยไม่ต้องคิดทำแผนการสอน   และการศึกษาในประเทศไทยมักจะเป็นลักษณะของการเผยแพร่ลัทธิ โดยมีอาจารย์เป็นศูนย์กลาง ทั้งที่จริง คนที่ต้องแสดงงานต้นแบบ ที่ตนเองมีแรงบันดาลใจ คือผู้เรียน ไม่ใช่ผู้สอน และในโปรดักชั่น เค้าก็ศึกษาอนิเมชั่นจากของจริง คนจริงๆ ที่เดิน ทำท่าทางจริงๆ ดังนั้นไม่มีอะไรจะวิบัติไปกว่าการทำอาหารด้วยการใช้อาหารกระป๋องอีกแล้ว จากคุณ : Kizumonogatari เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 18:38:45

ความคิดเห็นที่ 39 คุณKizumonogatari เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า การเอางานอื่นมาให้ดูมันแค่ส่วนเล็กๆของวิชาเอง บางครั้งก็มีแค่คาบเดียว ไม่ใช่ทั้งหมด ยังไงคนสอนก็ต้องสอนจริงๆอยู่แล้ว กระทู้นี้เค้าพูดแค่ว่าถ้าต้องเอาตัวอย่างงานให้ดู จะเอาอะไรดี ไม่ได้แปลว่าจะให้ดูตลอดทั้งเทอม ถ้างานอ.มันง่ายขนาดนั้นคงสบายไปแล้ว นั่งเปิดยูทูปเลยก็ได้ คุณเคยเข้าห้องเรียนรึเปล่าเนี่ย ถึงไม่รู้ว่าเค้าต้องสอนอะไรกัน การเปิดให้ดู มันก็แค่เปิดทางให้นร. ไม่ใช่ทุกคนจะมีประสบการณ์เท่ากัน คล้ายกับการเรียนสาขาอื่นที่อ.เค้าจะลิสต์ตำราที่ควรไปหาอ่าน จากคุณ : kowloon เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 19:15:07

ความคิดเห็นที่ 40 อืม อืม จากคุณ : ไอ่บ้าห้าร้อยห้าสิบห้า (CrazyGuy3173) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 19:43:14

ความคิดเห็นที่ 41 วาดอะไรมาให้ผมดูสิครับ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณฝันหรือตื่นอยู่ จากคุณ : Kizumonogatari เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 19:52:04

ความคิดเห็นที่ 42 แล้ว คุณ Kizumonogatari มีความสามารถที่จะ "ตัดสิน" ผลงานคนอื่นได้แค่ไหนหรือครับ? ไม่ทราบว่า คุณ Kizumonogatari เป็นอาจารย์สอนที่สถาบันไหน หรือเป็นนักอนิเมชั่นมืออาชีพสตูดิโอไหนหรือเปล่า? ถ้าเราไม่ทราบพื้นเพความสามารถคนที่จะมาตัดสินความสามารถคนอื่น ก็เหมือนเรียนอนิเมชั่นกับครูที่ไม่เคยดูงานดีๆ ถูกไหมครับ? ว่าแล้วก็รบกวนช่วยตัดสินผมด้วยอีกคนทีครับ ว่าผมเป็นพวกฝันเฟื่อง กับเขาด้วยไหม? จากคุณ : sial (Sial) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 20:02:49

ความคิดเห็นที่ 43 รูปข้างบนไอ่เราก็ว่าอะไรนะ  แล้วก็ อ๊อ เริ่มมีรสนิด ๆ แระ อื๊ม อื๊ม จากคุณ : ไอ่บ้าห้าร้อยห้าสิบห้า (CrazyGuy3173) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 20:19:17

ความคิดเห็นที่ 44 Lucky Star ค่ะ เพราะว่าถ้าทำอย่างในเรื่องนี้มันไม่ดีนะคะเด็กๆ 5555555555555+ จากคุณ : kliew-otic เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 21:09:21

ความคิดเห็นที่ 45 ชักเริ่มดราม่าแล้ว  อย่าเพิ่งทะเลาะกันเด้อ จากคุณ : ฮาริมะคุง เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 54 22:54:05

ความคิดเห็นที่ 46 การสอนที่ดี จำต้องมีการนำสิ่งที่เป็นผลงานชั้นเยี่ยม และชั้นแย่จากหลายๆที่มาให้นักเรียนได้ดูเป็นตย. เรื่องปกติทำกันมานานแล้ว หลายพันปีก่อน ขนาดขงจื๊อยังนำความรู้และสิ่งดีๆของยุคโบราณมาเป็นตย.เปรียบเทียบในการสอนศิษย์ จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 17:23:56

ความคิดเห็นที่ 47 "โค้ชที่ทำทีมฟุตบอลเก่งๆ ชนะถ้วยต่างๆ มากมาย ไม่จำเป็นต้องแตะฟุตบอลเก่ง"   เวลาเค้าสอนนักมวยที่กำลังจะขึ้นชก "เค้าก็เอาเทปการชกของคู่ต่อสู้มาให้นักมวยดู เพื่อศึกษาวิเคราะห์ และวางแผนการต่อสู้" มีหรือเปล่าที่ให้นักมวยมาต่อยกับโค้ช หรือเอาเทปการชกของโค้ชในอดีตมาให้นักมวยดู ฉันใดก็ฉันนั้น... อาจารย์ที่สอนเก่งๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นยอดคน (นักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียนเก่งๆ จะไปเป็นหมอกันหมด มีกี่คนที่เก่งจัดๆ แล้วสอบเข้าคณะคุรุศาสตร์อันดับ 1) อาจารย์บางคนสมัยเป็นนักเรียนก็เกเรใช่ย่อย แต่พอมาเป็นครู อาจารย์แล้วก็พยายามแสวงหาความรู้จากหนังสือต่างๆ ทั้งในและต่างๆ ประเทศจนเชี่ยวชาญ  ก็สามารถนำเอาทฤษฎีของคนอื่นมาปรับใช้ในการสอนได้ไม่ผิด จริงมั้ย ? แต่ก็จริงอยู่ในด้านศิลปะ ถ้าอาจารย์เก่งๆ มีผลงาน มีชื่อเสียง ออกทีวี หนังสือพิมพ์ ก็จะได้รับการยอมรับจากลูกศิษย์ได้อย่างรวดเร็ว  แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด ความเคารพ การศรัทธาในตัวอาจารย์มันมีมากกว่านั้น การประพฤติปฏิบัติตัวเอง  ปรัชญาในการทำงาน  การใช้ชีวิต ก็สามารถสร้างความเคารพนับถือได้ ไม่จำเป็นต้องสำแดงเดช สำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรเลย (อาจารย์ที่สอนศิลปะผมสมัยมัธยม ผมไม่เคยเห็นงานเต็มๆ ของแกเลย แต่อาจารย์สอนเก่งนะ ผมภูมิใจสุดๆ ที่งาน Afstract ของผมอาจารย์เอาไปใส่กรอบแขวนผนังในห้องศิลปะ มารู้เอาตอนจบแล้วว่าแกวาดเก่งมาก ปั้นก็ได้ รับงานนอกตรึม ฮ่าๆ) ในทางกลับกันการสำแดงสามารถของคนสอนมากเกินไป  อาจจะทำให้เกิดการต่อต้าน อาการมั่นไส้จากเด็กนักเรียนของตัวเองได้  เหมือนตอนที่ผมเรียนมหาลัย  อาจารย์ชอบสำแดงเดชเสมอๆ ว่าจบเมืองนอกมา ได้ A หมดเลย เคยทำงานที่โน่นที่นี่มาบริษัท Google Apple ยัน Microsoft บลาๆๆ (สมมุตินะ ^^') ใครคิดว่าไม่ไหววิชานี้ ไป Drop ซะ  โครตไม่ชอบเลย  คือผมไม่สนหรอกว่าคุณจะจบมาจากไหน  คุณสอนผมให้รู้เรื่องละกัน  ให้พอมีความรู้ไปทำข้อสอบคุณได้บ้าง และตอนที่ผมไปอบรมวิชา Animation ครอสสั้น  ผมก็ไม่เห็นว่างานของอาจารย์ที่ทำเป็นตัวอย่างให้ดูจะเลิศหรูปาน Pixar Studios อะไรเลย งานเค้าก็ธรรมดา  อาจจะเวลาจำกัดด้วยมั้ง  แต่เค้าสอนผมรู้เรื่องก็แล้วกันน่ะ จ.ข.ก. เค้าคงอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและอยากรู้ว่า Animation เรื่องไหนที่ดี  เหมาะแก่การเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนก็เท่านั้น  Inspiration น่ะครับรู้จักมั้ย  บางคนดันไปบอกว่าการสอนโดยเอางานคนอื่นมาเปิดมันกาก  มันต้องสำแดงเดช  เอางานตัวเองมาเปิดแล้วจะรู้ได้ไงว่าเอางานตัวเองมาเปิดแล้วนักเรียนจะชอบ  เพราะแนวคิดของแต่ละคนมันต่างกัน ซึ่งมันก็สะท้อนงานออกมาต่างกัน  จะเปิดงานของครูหรืองานของใคร  ก็เพื่อให้เด็กซึมทราบเทคนิค  ได้ดูแนวคิด  ถ้าสามารถอธิบายประกอบไปด้วยจนนักเรียนเข้าใจนี่ยอดเลย   แต่ไม่ใช่เพื่อให้เด็กลอกเลียนแบบเค้า จากคุณ : น้ำค้างหมื่นบุปผาจันทราสีเงิน เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 17:36:19

ความคิดเห็นที่ 48 ส่วนตัวคิดว่า การจะดูเรื่องอะไรเพื่อการศึกษา ย่อมที่จะดีทั้งนั้น หรือแม้แต่การ์ตูน limited animation ง่ายๆ ก้ถือว่าเป็นการเรียนรู้รูปแบบอย่างนึงเช่นกัน การดูการ์ตูนเพื่อศึกษานั้น ควรที่จะดุและแยกแยะให้ออกถึงด้านโปรดักซ์ชั่น ในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็น บท การเล่าเรื่อง เทคนิกการนำเสนอ หรือแม้แต่ แอนิเมชั่น  หาใช่ความประทับใจเพียงอย่างเดียวไม่ เพราะหลายเรื่องที่ดูไม่สนุก แต่กลับมีโปรดักซ์ชั่นที่น่าสนใจ เหมาะแก่การเรียนรุ้ ก็มีไม่น้อย ส่วนกับคนที่บอกว่า จะทำการ์ตูน ไม่ต้องดูก็ได้ เพราะกลัวจะไปยึดติด ต่างๆนาๆ ขอเปรียบเทียบกับ คนที่ต้องการทำรถยนต์ของตัวเองสักคัน แต่ไม่ศึกษา ว่าเครื่องยนต์เขา แต่ละประเภทที่มีมามีข้อดีข้อเสียอย่างไร สักแต่ว่าจะทำๆ ก็เหมือนวาดวิมานกลางอากาศ เรียนรู้ เพื่อเข้าใจถึงหลักการให้ถ่องแท้ ก่อนที่จะหาแนวทางของตนเอง งานด้านแอนิเมชั่นนี้มีมาเป็น100ปี ซึ่งต่อยอดกันมายาวนาน ถ้าเราได้ซึมซับต่อไปบ้าง ก้ย่อมดีกว่าที่จะมาเริ่มนับ 0 เอง แบบหลับตาเดิน มีเด็กๆมาคุยกับผมหลายคนว่าอยากทำการ์ตูนอย่างโน้นอย่างนี้ ทั้งที่ไม่เคยทำ แต่คิดว่าตัวเองทำได้ ก็มาขายฝันกันไป แต่พอมาได้ลองทำจริงๆ มีไม่ถึง 5เปอร์เซนต์ ที่ทำได้อย่างที่คุยไว้ ศาสตร์ด้านแอนิเมชั่น เป็นสาขา ที่ทำแล้ว เสมือนทำงานจริง ดุแล้วไม่สนุก ไม่ดี จริงๆก็จบ ไม่เหมือนสายอื่น ที่จบแล้วอาจจะไม่ต้องทำของจริงก็ได้ ^^ จากคุณ : parot (muiki_jr) เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 54 22:12:20

ความคิดเห็นที่ 49 12 อาณาจักรเทพยุทธ์ ภาพออกแนวหนังจีนมาก แต่เนื้อหา.. จากคุณ : sAilOvEnOk เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 54 19:28:47