แดนี่เดินไปที่หน้าต่างแล้วเหม่อมองออกไปที่อ่าวทะเลอย่างละห้อยเมื่อพี่ชาย เดินจากไป สิ่งก่อสร้างของเพนทอสเป็นเงาสีดำตัดกับดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า แดนี่ได้ยินเสียงร้องเพลงสวดของนักบวชในเมือง และเสียงเด็กๆ ตะโกนเล่นกันที่นอกกำแพงของบ้าน ชั่วขณะหนึ่งเธอหวังว่าเธอจะอยู่ข้างนอกกับเด็กๆ เหล่านั้น วิ่งเล่นเท้าเปล่าจนเหนื่อยหอบและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาดๆ โดยไม่ต้องคำนึงถึงอดีตหรืออนาคต หรืองานเลี้ยงของคาลโดรโก
อีกฟากหนึ่งของทะเล ที่ไหนสักแห่งที่ไกลออกไปทางดวงอาทิตย์ที่กำลังตก เป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยทิวเขาสีเขียว ทุ่งดอกไม้และแม้น้ำที่ไหลเชี่ยว ที่ซึ่งหอคอยหินดำตั้งสูงตระหง่านอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูงสีเทาเขียว ที่ซึ่งเหล่าอัศวินในชุดเกราะเต็มตัวขี่ม้าเข้าต่อสู้กันภายใต้ธงของลอร์ด ของตน พวกโดธรากีเรียกแผ่นดินนั้นว่า Rhaesh Andahli แผ่นดินของพวกแอนดัล ในเมืองอิสระเรียกว่า เวสเทอรอส และอาณาจักรประจิม พี่ชายของเธอมีชื่อที่เรียกง่ายกว่านั้น “แผ่นดินของเรา” เขาเรียก เวลาเขาพูดคำคำนี้มันฟังดูราวกับคำสวดมนต์ ราวกับว่าถ้าเขาพูดมันมากพอ เสียงของเขาจะส่งไปถึงเหล่าทวยเทพ “เป็นของเราโดยสายเลือด ถูกชิงไปจากเราด้วยการทรยศหักหลัง แต่ยังคงเป็นของเรา ของเราตลอดไป เจ้าไม่ชิงของจากมังกร ไม่ ไม่ มังกรจะจำมันไว้”
บางทีมังกรอาจจะจำได้ แต่แดนี่จำไม่ได้ เธอไม่เคยเห็นแผ่นดินที่พี่ชายบอกว่าเป็นของพวกเธอเลย ดินแดนที่อยู่อีกฝั่งของทะเล คาสเทอรีร็อก อายรี ไฮการ์เดน หุบเขาของแอริน ดอร์น เกาะแห่งใบหน้า . . . มันเป็นเพียงคำพูดสำหรับเธอ วิเซริสมีอายุแปดปีตอนที่ ‘ผู้ช่วงชิง’ ยกกองทหารไล่ล่าจนเขาต้องหนีออกจากคิงส์แลนดิง ตอนนั้นแดนี่ยังเป็นเพียงตัวอ่อนอยู่ในครรภ์ของมารดา
แต่บางครั้งแดนี่ก็นึกภาพเหตุการณ์เหล่านั้นบ้างเหมือนกัน พี่ชายของเธอมักเล่าเรื่องราวให้เธอฟังอยู่เสมอๆ การล่องเรือหลบหนียามเที่ยงคืนไปยังโขดหินมังกร (Dragonstone) แสงสะท้อนของดวงจันทร์บนผิวน้ำที่เรือแล่นผ่าน เรการ์ พี่ชายคนโตที่ต่อสู้กับผู้ช่วงชิงในสายน้ำที่นองไปด้วยเลือดของหอกสามง่าม และตายไปเพื่อคนที่เขารัก การยึดคิงส์แลนดิงของคนที่พี่ชายเรียกว่า หมาของผู้ช่วงชิง ลอร์ดของแลนนิสเตอร์และสตาร์ค เจ้าหญิงเอเลียแห่งดอร์นที่ร่ำร้องขอความเมตตาเมื่อลูกชายทารกของนางและ เรการ์ถูกแย่งไปจากอ้อมอกแล้วฆ่าต่อหน้าต่อตา กระโหลกมังกรขัดเงาที่มองดูจากห้องบัลลังก์ในขณะที่ คิงสเลเยอร์ ปาดคอท่านพ่อด้วยดาบทองคำ
เก้าเดือนหลังจากการหลบหนี แดนี่ก็เกิดออกมาที่โขดหินมังกร เธอเกิดในวันที่พายุฤดูร้อนอันแสนรุนแรงกำลังพัดถล่มโขดหินจนแทบแหลกสลายเธอ ได้ยินว่ามันเป็นพายุที่เลวร้ายมาก กองเรือของทาร์กาเรียนโดนพัดพินาศย่อยยับคาท่าเรือ แม้แต่หินขนาดมหึมายังถูกพัดจนปลิวแตกออกจากกำแพงตกไปในทะเล แม่ของเธอตายในการคลอด และวิเซริสไม่เคยให้อภัยเธอเลย
เธอ จำโขดหินมังกรไม่ได้เหมือนกัน พวกเขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนอีกครั้งเมื่อผู้ช่วงชิงส่งกองทัพเรือที่เพิ่ง สร้างใหม่ออกล่าพวกเธอ ตอนนั้นกองทหารรักษาการณ์ทรยศจับตัวพวกเธอเอาไว้ แต่ เซอร์ วิลเลม ดาร์รี และทหารที่จงรักภักดีอีกสี่นายอาศัยความมืดในยามค่ำคืนชิงตัวพวกเธอคืน แล้วพาพวกเธอหลบหนีไปพร้อมกับแม่นม ไปยังอ่าว บราโวส
เธอจำเซอร์วิลเลมได้ลางๆ เขาเหมือนหมีสีเทาตัวใหญ่ ตามองไม่เห็นไปแล้วครึ่งหนึ่ง ร้องคำรามสั่งคำสั่งให้เหล่าคนรับใช้ปฏิบัติตาม พวกคนรับใช้หวาดกลัวเขามาก แต่เขามีมือที่อ่อนนุ่มและใจดีกับแดนี่เหลือเกิน เขาเรียกเธอว่า “เจ้าหญิงน้อย” บางครั้งก็ “คุณผู้หญิง” เขาไม่เคยลุกจากเตียงเลย และแดนี่สัมผัสกลิ่นอายความเจ็บป่วยโชยอยู่รอบตัวเขาเสมอ มันเป็นกลิ่นที่ อึดอัด ร้อนอบอ้าวและเหนียวเหนอะหนะ ตอนนั้นพวกเธออาศัยอยู่ในบราโวส ในบ้านหลังใหญ่ที่มีประตูสีแดง ที่นั่น แดนี่มีห้องส่วนตัวของเธอเองและมีต้นมะนาวอยู่นอกหน้าต่าง หลังจากเซอร์วิลเลมตายไป พวกคนรับใช้ก็ขโมยสิ่งมีค่าของพวกเธอไปจนหมดแล้วไล่พวกเธอออกจากบ้าน แดนี่ได้แต่ร้องให้เมื่อประตูสีแดงบานนั้นปิดลงเบื้องหลังเธอ ตลอดกาล
แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 54 12:18:39