*** ความจริงแล้วมันเป็นแผนการของทางเจ้าของร้านตั้งแต่แรกแล้วครับ ใครลองดูแล้วตีความอย่างหนักไปด้วยจะเข้าใจ***
กล่าวคือในช่วงเวลาดังกล่าวฐานนะทางการเงินของเจ้าของร้านเกิดช็อตจนหมุนเงินมาจ่ายดอกเบี้ยที่ไปกู้แบ็งค์เอาไว้ไม่ทัน(ไปเงินกู้มาทำธุรกิจ) อีกทั้งตัวเขาเองก็มีปัญหาผัดผ่อนและจ่ายค่างวดไม่ตรงมาหลายครั้งแล้วจึงมีโอกาสที่จะเสียสถานะลูกหนี้ชั้นดี แต่โชคยังดีที่มีลูกพี่ลูกน้องทำงานในตำแหน่งผู้การของแบ็งค์ดังกล่าวจึงสามารถช่วยเหลือได้โดยมีข้อแม้คือห้ามผิดนัดค่างวดอีก และในเร็วๆนี้เขาต้องการจะกู้เงินอีกก้อนมาทำธุรกิจร้านเสริมสวยของภรรยาจึงต้องกระทำทุกวิถีทางในการจ่ายดอกแบ๊งค์ให้ตรง
แต่ทว่าเหมือนเคราหะซ้ำกรรมซัดเมื่อเขาสูญเงินออมที่มีไปกับการเล่นพนันครั้งหนึ่งจนเงินทุนสำรองแทบเกลี้ยง ดังนั้นเจ้าของร้านจึงงัดเอาแผนสำรองมาใช้โดยเขานึกขึ้นได้ว่าเคยไปทำประกันภัยพิทักษ์โจรกรรมเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงจ้างแก๊งค์เด็กแว๊นท์ในบริเวณดังกล่าวให้เข้ามาทำทีเป็นปล้นและทำลายร้านเพื่อแย่งชิงสินค้าไป (หวังจะเอาเงินประกัน) โดยเด็กที่เห็นในเรื่องนั้นเป็นเพียงแค่กองกำลังส่วนหน้าที่เข้ามาหยั่งเชิงขโมยของก่อนที่กลุ่มเด็กแว๊นท์อีกนับสิบคนจะเฮโลมาบุกปล้นร้านจนเฮี้ยนในตอนเย็น(ทั้งหมดเป็นแผนที่เจ้าของวางเอาไว้ทั้งหมด)
ทว่าแผนการทั้งหมดกลับมาพังครืนตรงที่พระเอกของเราดันไปไล่กระทืบเด็กคนดังกล่าวจนน่วม มันจึงหนีกลับไปบอกพรรคพวกว่าโดนหักหลังทำให้เด็กแว็นท์กวนเ้มืองอีกนับ10คนจึงพากันสลายตัวไปพร้อมค่าจ้างล่วงหน้าที่เจ้าของร้านจ่ายไปก่อน จนแผนการจะเอาเงินประกันที่เจ้าของร้านวางไว้ต้องพังพินาศลงต่อหน้าต่อตา ดังนั้นเขาจึงโกรธพระเอกแบบเป็นฟืนเป็นไฟดั่งที่เราเห็นกันไงครับ (นอกจากแผนจะพังแล้วยังเสียเงินไปหลายพันให้พวกเด็กแว๊นท์ด้วย)
ป.ล. เรื่องราวทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละครับเพื่อนๆ ถ้าลองกลับไปดูและตีความอีกนิดก็จะเข้าใจครับ
(May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน
จากคุณ |
:
เจไดหนุ่ม
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ย. 54 12:43:48
|
|
|
|