ทวิภพ สำหรับใครที่สงสัย เรื่อง "พิธีซัดน้ำ" ในงานแต่งงาน ประเพณีไทยโบราณที่เพิ่งทราบจากละครเรื่องนี้
|
 |
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการแต่งงานตามประเพณีไทยโบราณ จะมีพิธีซัดน้ำ คู่บ่าวสาว ต่อมากลายเป็นพิธีรดน้ำสังข์แทน ได้รู้จากละครเรืิ่อง ทวิภพนี่แหละค่ะ ไปเสิร์ชมาเจอในวิกิพีเดีย เขียนไว้ว่า
"สมัยโบราณ ในพิธีการแต่งงานจะไม่มีการรดน้ำสังข์ แต่จะมีพิธีซัดน้ำ พระสงฆ์จะเป็นผู้ทำพิธี โดยตักน้ำมนต์ในบาตรซัดสาดใส่คู่บ่าวสาว บรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวซึ่งมีอยู่หลายคู่ แกล้งนั่งห้อมล้อมให้คู่บ่าวสาวนั่งเบียดกันชิดกัน การซัดน้ำนี้บางทีซัดจนเปียกปอนต้องเปลี่ยนชุดหลังเสร็จพิธี"
------------- ส่วนการจัดงานแต่งงานตามในละครทวิภพ ตามประเพณีไทยโบราณ ได้ดีเลยค่ะ ไปเสิร์ชมาพิธีแต่งงานเป็นแบบนี้ค่้ะ
พิธีแต่ง ก่อนจะถึงฤกษ์แต่งงานวันหนึ่ง เรียกว่า "วันสุกดิบ" ตอนเช้าผู้ปกครองฝ่ายชายขนผ้าไหว้ปละขันหมาก ไปยังบ้านเจ้าสาว ผ้าไหว้นั้นเป็นของกำนัลสำหรับเจ้าบ่าว ให้บิดามารดาของฝ่ายหญิงคนละสำรับ และมีผ้าขาวสำหรับไหว้ผีบิดามารดา หรือผีปู่ย่าตายายอีกสำรับหนึ่ง เมื่อเสร็จการมงคลแล้ว ผู้ปกครองฝ่ายหญิงจะเอาผ่าขาวไหว้ผีนั้น ไปตัดเย็บย้อมเป็นสบงจีวร หรือเย็บเป็นมุ้งถวายพระสงฆ์ อุทิศส่วนกุศลไปตามเจตนา ขันหมากซึ่งฝ่ายชายต้องจัดหานั้นมี ๒ อย่างเรียก "ขันหมากเอก" อย่างหนึ่ง "ขันหมากเลว" อีกอย่างหนึ่ง ขันหมากเอก เป็นขันใส่ข้าวสารหมากลูกพลูจีบ ลำดับเรียงรอบปากขัน มีฉัตรระย้าทองอังกฤษปัก เป็นยอดตั้งขันไปบนพานแว่นฟ้า มีตะลุ่มหรือโต๊ะใส่หมากพลูหมูต้มห่อหมกขนมจีบ มีฝาปิดแล้วหุ้มผ้าลายเกี้ยวผ้าไหม อีกชั้นหนึ่งมีอ้อย มะพร้าวอ่อน เหล้าใส่ขัน พานถั่วงาที่หนึ่ง ขันหมากเลว จะมีมากถึง ๕๐ หรือ ๑๐๐ ที่ ตามแต่จะตกลงกัน มีขนม ส้ม กล้วย ลูกไม้ต่าง ๆ ส่งไปก่อนวันฤกษ์ดีหรือวันสุกดิบ เวลาเย็น จะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ที่เรือนหอ ฝ่ายเจ้าบ่าวแต่งตัวเต็มยศ ไปกับเพื่อนเจ้าบ่าวหลายคน ไปฟังสวดที่เรือนหอ ครั้งพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์จบแล้ว บิดามารดาฝ่ายหญิงจึงพาเจ้าสาวออกมา ให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวนั่งใกล้กัน มีเถ้าแก่ฝ่ายหญิงนั่งคั่นกลางอยู่คนหนึ่ง ให้พระสังฆนายกสวมมงคลเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเป็นมงคลคู่มีสายสิญจน์ล่ามติดกัน เรียกว่า "มงคลแฝด" ฝ่ายเพื่อนเจ้าบ่าวจะนั่งเรียงต่อจากเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวก็นั่งเรียงต่อจากเจ้าสาว ไปที่หน้าเรือนหอ พระสงฆ์สวด "ชยนโต" พร้อมกัน และพระสังฆนายกก็ซัดน้ำพุทธมนต์ให้ทั่วกัน
ต่อจากนั้นคืองานรื่นเริงของทั้งสองฝ่าย มีการชุลมุนเบียดกันไปมาระหว่างทั้งสองฝ่าย จนเมื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั่งชิดกัน เป็นอันเสร็จพิธีซัดน้ำ คืนนั้นเจ้าบ่าวต้องนอนอยู่ที่หอ มีเครื่องดนตรีดีดสีตีเป่า ขับร้องเรียกว่า "กล่อมหอ" คืนหนึ่ง
รุ่งขึ้นถึงวันฤกษ์ดี เวลาเช้าพระสงฆ์มาพร้อมแล้ว บ่าวสาวจะตักบาตรร่วมกัน ด้วยทัพพีเดียวกัน ตอนจับทัพพีถือว่าใครอยู่บน ก็จะมีอำนาจเหนือผู้ที่จะมีมืออยู่ด้านล่าง เรื่องทัพพีนับว่า เป็นเรื่องที่ถือกันมาโดยเฉพาะในชนบท
ปล.เครดิตภาพจากคุณ : chorn_ka
จากคุณ |
:
moonfever
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.ย. 54 09:49:56
|
|
|
|