ความคิดเห็นที่ 1 ที่มาของชื่อวัด ชื่อของวัดพระธาตุหริภุญชัย มาจากชื่อของเมืองหริภุญชัย ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ไว้เมื่อครั้งเสด็จมาบิณฑบาตในสมัยพุทธกาล และได้แวะรับฉันลูกสมอที่ชาวลั๊วะนำมาถวาย โดยได้ทรงพยากรณ์ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีผู้มาสร้างเมืองและตั้งชื่อว่า "หริภุญชัยนคร"   ซึ่งหริภุญชัยแปลว่าเมืองที่พระพุทธเจ้าเคยเสวยลูกสมอ (หริแปลว่าสมอ----ภุญชัยแปลว่าเสวย----นครแปลว่าเมือง)   ที่มาภาพ : wanas'pix จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 10:43:52

ความคิดเห็นที่ 2 ประวัติวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ พระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นโบราณสถานอันสำคัญของนครหริภุญชัยที่ พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนครลำพูน เป็นผู้สถาปนาขึ้นในราว พุทธศตวรรษที่ ๑๗ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อันมี ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง   ตามพุทธทำนายลักษณะทางสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุหริภุญชัย ตามที่ปรากฏในหนังสือตำนานพระธาตุหริภุญชัย กล่าวว่า “มีลักษณะ เป็นสถูปสี่เหลี่ยมทรงปราสาท ที่มีซุ้มทวาร เข้า- ออกทะลุกันได้ทั้งสี่ด้าน มีปราสาทสี่เหลี่ยมอยู่ตรงมุมละองค์ก่อด้วยศิลาแลงซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีมากอยู่ในเมืองนี้ ภายในเป็นแท่น สำหรับประดิษฐาน พระโกศที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ”    ในสมัยของพญาสรรพสิทธิ์ กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ ทรงโปรดให้ปฏิสังขรณ์เจดีย์เดิมที่พญาอาทิตยราชทรงสร้างไว้และได้ขุดร่องทวารประตูเข้า-ออก ทั้งสี่เพื่อความปลอดภัย รูปทรงสันฐานขององค์พระบรมธาตุยังคงเป็นลักษณะเดิม คือ เป็นทรงปราสาทสี่เหลี่ยมที่กว้างใหญ่และสูง เมื่อ พญามังราย ตีเมืองหริภุญชัยได้ โปรดให้ซ่อมแซมดัดแปลงองค์พระธาตุขึ้นใหม่ การปฏิสังขรณ์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทรวดทรง ขององค์พระธาตุฯ จากทรงปราสาทกลายเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมแบบทรงลังกา ในสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมาประมาณปี พ.ศ. ๑๙๕๑ โปรดให้มีการปิดทององค์พระธาตุ พ.ศ. ๑๙๙๐ พระเจ้าติโลกราชกษัตริย์องค์สำคัญแห่งเมืองเชียงใหม่ ทรงร่วมกับพระมหาเมธังกรเถระ ก่อพระมหาเจดีย์ให้สูงขึ้นเป็น ๙๒ ศอก กว้างยาวขึ้น ๕๒ ศอก เป็นรูปร่างที่เห็นเป็นอยู่ในปัจจุบัน   ที่มาภาพ : คุณ CONTONA multiply จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 10:51:05

ความคิดเห็นที่ 3 โบราณสถานที่สำคัญภายในวัด   ๑.วิหารหลวง เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้ว จะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า “วิหารหลวง” เป็นวิหารหลังใหญ่เป็นแบบพื้นเมืองทรงล้านนาสวยงามมาก   มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ ท่านเจ้าอาวาสพร้อมด้วยศรัทธาประชาชนชาวเมืองลำพูน ได้ช่วยกันบูรณะขึ้นมาใหม่   ภายในวิหารหลวงเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วขาว พระเสตังคมณีศรีเมืองหริภุญชัย ประทับนั่งอยู่เหนือบุษบกที่แกะสลักลงรักปิดทอง อย่างสวยงาม ปัจจุบันวิหารหลวงยังใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนกิจทุกวันพระ   ที่มาภาพจาก : คุณพี่หมูอ้อยอ้วน   แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 10:56:02 จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 10:55:25

ความคิดเห็นที่ 4 ๒. พระบรมธาตุหริภุญชัย พระบรมธาตุหริภุญชัย ตั้งอยู่หลังวิหารหลวง ประดิษฐานพระเกศธาตุบรรจุในโกศทองคำ เจดีย์ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ มีสัตถบัญชร (ระเบียงหอก ซึ่งเป็นรั้วเหล็กและทองเหลือง) ๒ ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม หอคอยประจำทุกด้านรวม ๔ หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป พระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนามาตั้งแต่สมัยโบราณ ในวันเพ็ญเดือน ๖ จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระบรมธาตุทุกปี   ภาพจาก : คุณ CONTONA multiply จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:14:50

ความคิดเห็นที่ 5 ๓. ปทุมวดีเจดีย์ ปทุมวดีเจดีย์ หรือพระสุวรรณเจดีย์ ตั้งอยู่ทางขวาของพระบรมธาตุ สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๗ โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ภายหลังจากสร้างพระบรมธาตุเสร็จได้ ๔ ปี พระสุวรรณเจดีย์องค์นี้เป็นทรงปรางค์ ๔ เหลี่ยม ฝีมือช่างละโว้ มีพระพุทธรูปประจำซุ้ม ฝีมือแบบขอม ปรากฎให้เห็นอยู่บ้าง ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่ ภายใต้ฐานล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม ซึ่งพระเครื่องชนิดหนึ่ง   ภาพจาก : พี่หมูอ้อยอ้วน จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:24:39

ความคิดเห็นที่ 6 ๔.หอระฆัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นหอสำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ (ครูบาคำฟู) เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ เพื่อไว้เป็นเครื่องบูชาพระธาตุหริภุญชัย ภาพจาก : พี่หมูอ้อยอ้วน         จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:29:23

ความคิดเห็นที่ 7 รอชมคะ จากคุณ : sofi เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:36:31

ความคิดเห็นที่ 8 ๕.หอไตรหรือหอธรรม  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์พระไตรปิฎก ครบทั้ง ๘๕,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ พร้อมทั้งอรรถกถาฎีกาและอนุฎีกา รวมทั้งสิ้นเป็นคัมภีร์ ๔๒๐ พระคัมภีร์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของหอไตรหลังนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับหอไตรของวัดพระสิงห์ และวัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นแบบที่นิยมสร้างกันทั่วไปในดินแดนล้านนา  คือ  สร้างเป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ชั้นบนเป็นอาคารเครื่องไม้ ตัวอาคารหอไตร ตั้งอยู่บนฐานขนาดใหญ่ ซึ่งมีบันไดขึ้นทางด้านหน้า สองข้างบันไดมีสิงห์โตหินประดับที่หัวเสา ตัวอาคารหอไตรชั้นล่างที่ก่อด้วยอิฐถือปูนมีประตูทางเข้าทางเดียว ส่วนชั้นบนเป็นเครื่องไม้ทำเป็นบันไดนาคเล็กๆ ตั้งอยู่ด้านหน้าบนประตูทางเข้าชั้นล่าง ตัวอาคารมีการประดับด้วยไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจกอย่างสวยงาม มีมุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หลังคาลดชั้นประดับด้วยช่อฟ้าใบระกาหางหงส์หลังคามุงด้วยแผ่นดีบุก    ภาพจาก : พี่หมูอ้อยอ้วน จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:39:22

ความคิดเห็นที่ 9 ภูมิใจแทนชาวเหนือจริงๆ ที่มีละครถ่ายทอดเรื่องราววัฒนธรรมของเมืองเหนือได้สวยงามตระการตามากๆๆๆๆ รักเมืองไทยเที่ยวเมืองไทยกันเน้อปี้น้องงงง แจกกิฟท์พร้อมกับโหวตให้นะเจ้า เพิ่มเติม F5 รออ่านอยู่นะคะ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 11:51:54 จากคุณ : วันที่สวยงาม เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:42:36

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:45:17

ความคิดเห็นที่ 11 ๖.เขาพระสุเมรุจำลอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ขององค์พระธาตุหริภุญชัย ด้านหน้าหอไตร มีลักษณะคล้ายกับเจดีย์ขนาดเล็กทรงกลม ก่อด้วยอิฐถือปูน   ส่วนยอดทำลดหลั่นกันขึ้นไปเจ็ดชั้น มีการประดับสำริดซึ่งหล่อเป็นชั้นๆ แล้วนำมาประกอบเป็นทรงกลมภายหลังส่วนฐานที่รองรับ   ยอดปราสาทที่อยู่ด้านบนสุด คือ สัตตบริภัณฑ์หรือภูเขาที่ล้อมรอบพระสุเมรุทั้งเจ็ดชั้น โดยมีเกษียรสมุทรคั่นระหว่างเขาแต่ละชั้น สัตตบริภัณฑ์นี้ช่างได้ทำเป็นรูปป่าไม้ มีสัตว์ป่า มีต้นไม้ และเหล่าอสุร ที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขาพระสุเมรุด้าน บนสุดทำเป็นปราสาทซึ่งเป็นที่สถิตของพระอินทร์เทวดาในศาสนาพุทธ ที่มีหน้าที่คอยดูแลความเป็นไปบนโลกและคอยช่วยเหลือคนดีที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยทำเป็นปราสาทหกเหลี่ยมเล็กๆ แต่ละด้านมีซุ้มประตูโค้ง ส่วนยอดของปราสาทมีลักษณะเหมือนยอดมณฑปโบราณสถาน จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:51:04

ความคิดเห็นที่ 12 ๗. อาคารพิพิธภัณฑ์ 50 ปี ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับเมืองลำพูนไว้     จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:53:33

ความคิดเห็นที่ 13 นอกจากที่ที่กล่าวไปข้างบนแล้ว ภายในวัดพระธาตุหริภุญชัย ยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกมากมาย เช่น - วิหารพระละโว้ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย ตัววิหารสร้างใหม่ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ เรียกว่าพระละโว้ - วิหารพระพุทธ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ขององค์พระธาตุหริภุญชัย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ลงรักปิดทอง เรียกว่า พระพุทธวิหารพระทันใจ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระธาตุหริภุญชัย ภายในประดิษฐานพระทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนซึ่งถือว่าเป็น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถบันดาลให้ผู้ที่กราบไหว้สมหวังได้ดังใจ - วิหารพระพันตน ตั้งอยู่หลังวิหารพระละโว้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปจำนวนมาก - วิหารพระบาทสี่รอย ตั้งอยู่หลังวิหารพระพุทธ ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองมาจากอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ - วิหารพระไสยาสน์ ตั้งอยู่เหนือวิหารพระละโว้ ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง - วิหารพระกลักเกลือหรือพระเจ้าแดง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระทันใจ ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ทาด้วยสีแดง จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 11:56:08

ความคิดเห็นที่ 14 ด้านในวิหารหลวง  งดงามมาก ภาพจาก : Mr.sensor จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:17:26

ความคิดเห็นที่ 15 สีทองสุกปลั่ง ขององค์พระธาตุ จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:38:07

ความคิดเห็นที่ 16 พระธาตุยามค่ำคืน ภาพจาก : คุณโนเนม_ไร้นาม แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 12:52:56 จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:52:25

ความคิดเห็นที่ 17 ก่อนลาจากพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน ขอปิดด้วยภาพนนี้   ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้ ภาพจาก : Wanas's Pix แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 12:57:37 จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:56:28

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมาก ๆ นะคะ กระทู้นี้ดีจริง  เวลาไปตามรอยจะได้อินยิ่งขึ้น จากคุณ : โมงยามแห่งความสุข เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 13:25:52

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณค่ะ   ฉากนี้ถ่ายทำที่วัดพระธาตุหริภุญชัย นี่เอง เมื่อคืนเราก็นั่งดู ตย.ตอนต่อไป   เห็นแว๊บๆ ลังเล ว่าเป็นที่นี่หรือ วัดพระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ จากคุณ : เหมียวเหมียว แหง๋วแหง๋ว เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 15:57:28

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ  ต้องตามรอยให้ได้  แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 17:07:10 จากคุณ : พระคุณพ่อแม่ เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 16:55:22

ความคิดเห็นที่ 21 ๒. วัดเจ็ดยอด จ.เชียงใหม่ มาวัดที่สองกันดีกว่า ที่ละครรอยไหม ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ  จำได้มั้ยคะว่าตอนไหน .....เฉลยค่ะ เป็นตอนที่ ยานคำเที่ยงเสีย แล้วสุริยวงศ์ กับ เรรินมาที่วัดแห่งนี้เพื่อเคารพศพยายคำเที่ยง  แล้วมาเจอ แซนดี้ ราวี   ปล. คิดว่า ที่คุณอ๊อฟเลือกวัดนี้มาเป็น โลเกชั่นไว้ศพยายคำเที่ยง คงเป็นเพราะ ผนังปูนปั้นสวยงาม ดังในภาพนะคะ  แต่ไม่แน่ใจ ใครมีข้อมูลมาคุยกันค่ะ     จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 17:09:51

ความคิดเห็นที่ 22 วัดเจ็ดยอด หรือ วัดโพธารามวิหาร จ.เชียงใหม่ ตามความเชื่อล้านนา คือพระธาตุประจำปี : มะเส็งหรืองูเล็ก     ภาพจาก : Touronthai จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 17:41:37

ความคิดเห็นที่ 23 ประวัติความเป็นมา วัดเจ็ดยอด เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. ๑๙๙๘   โดย พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ลำดับที่ ๑๑ ของอาณาจักรล้านนาไทย โปรดให้หมื่นด้ามพร้าคต (สีหโคตรเสนาบดี) เป็นนายช่างทำการก่อสร้างขึ้น แล้วโปรดให้ปลูกต้นมหาโพธิ์ในวัด เพื่อเป็นพุทธสถานอันเป็นที่อยู่ของต้นศรีมหาโพธิ์ ด้วยพระราชศรัทธาต่ออานิสงฆ์ของการปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ อันเป็นที่มาของนามวัดคือ "วัดโพธาราม" (เนื่องจากวิหารมียอดเจดีย์อยู่ ๗ องค์ คนทั่วไปจึงนิยมเรียกว่า “วัดเจ็ดยอด”)  รวมทั้งได้สร้าง สัตตมหาสถาน อันเป็นสถานที่จำลอง ๗ แห่ง เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสวยวิมุตติสุข ก่อนเผยแผ่พระพุทธศาสนา  เจ้าอาวาสรูปแรกคือ พระโพธิรังษีมหาเถระ รจนาคัมภีร์จามเทวีวงศ์ จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 17:53:10

ความคิดเห็นที่ 24 ในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก ทรงสนับสนุนคณะสงฆ์นิกายสิงหล (ลังกาวงศ์) ทรงส่งเสริมการเล่าเรียนทางด้านปริยัติธรรม ทำให้ภิกษุล้านนามีความเชี่ยวชาญภาษาบาลี ในปี พ.ศ. ๒๐๒๐ โปรดให้ประชุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ทั่วทุกหัวเมืองในอาณาจักรล้านนาเพื่อชำระพระไตรปิฎก  ณ วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอดในปัจจุบัน) ทรงคัดเลือกได้พระธรรมทิณ เจ้าอาวาสวัดป่าตาล ผู้ทรงอบรมรู้ภาษาบาลีเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระองค์ทรงเป็นพระธานฝ่ายคฤหัสถ์ ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ ๘ ของโลก   ใช้เวลา ๑ ปีจึงเสร็จ  โดยทำมาแล้วทั้งในอินเดียและศรีลังกา ซี่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อพญาติโลกราชสวรรคต ในปี พ.ศ. ๒๐๓๐ พญายอดเชียงราย ราชนัดดาของพระองค์ทรงโปรดให้สร้างจิตกาธาน (เชิงตะกอน) เพื่อเป็นที่ถวายพระเพลิงพระศพ พร้อมกันนั้น ได้ทรงสร้างเจดีย์องค์ใหญ่บรรจุอัฐและอังคารธาตุไว้ด้วย ต่อมาใน สมัยพญาเมืองแก้ว (พ.ศ.๒๐๘๓-๒๐๖๘) ทรงบูรณะ ปฏิสังขรณ์ และ ทรงโปรดให้สร้างอุโบสถ ศาสนถานต่างๆ เหล่านี้ล้อมรอบด้วยกำแพงที่มีซุ้มประตูโขง หรือ ประตูทางเข้าหลักของวัด อยู่ทางด้านทิศตะวันออก วัดเจ็ดยอดได้สร้างไประยะหนึ่ง กระทั่งต้นสมัยรัตนโกสินทร์ พระเจ้ากาวิละ เจ้าเมืองเชียงใหม่ (พ.ศ.๒๓๓๙) ได้มาฟื้นฟูบ้านเมือง และ ปฏิสังขรณ์อารามต่างๆทั่วเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งวัดเจ็ดยอดแห่งนี้ด้วย วัดเจ็ดยอดจึงดำรงความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งรวมศิลปกรรมชั้นเยี่ยมที่มี ประวัติศาสตร์ความเป็นมาคู่เมืองเชียงใหม่สืบมาจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 18:15:58

ความคิดเห็นที่ 25 งามแต๊ๆ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : lemon t เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 19:14:14

ความคิดเห็นที่ 26 สถาปัตยกรรมสำคัญ สถาปัตยกรรมสําคัญของวัดเจ็ดยอด มีเจดีย์รูปทรงแปลกที่สุดคือมียอดตั้งแต่บนเรือนธาตุสี่เหลี่ยมถึงเจ็ดยอด เหมือนมหาโพธิ์เจดีย์พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย คาดว่าได้รับอิทธิพลจากเจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดีย   ด้านนอกพระเจดีย์ประดับงานปูนปั้นรูปเทวดาทั้งนั่งขัดสมาธิและยืนทรงเครื่องที่มีลวดลายต่างกันไปดูงามน่าชม ฐานของเจดีย์เจ็ดยอดทั้งหมดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนยอดมีเจดีย์ ๗ ยอด มียอดหนึ่งใหญ่ที่สุดเป็นประธาน ล้อมรอบด้วยยอดองค์เล็ก ลดหลั่นลงไป ภายในได้รับการบูรณะจนแข็งแรงเพื่อให้เข้าไปสักการะบูชาภายในได้   จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 20:36:00

ความคิดเห็นที่ 27 พระเจ้าทันใจ ด้านหลังของเจดีย์เจ็ดยอดประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าทันใจ เรื่องราวการสร้างพระเจ้าทันใจหรือหลวงพ่อทันใจนั้นหลายๆ คนคงทราบกันดีว่า เป็นพระพุทธรูปที่สร้างภายใน ๑ ชั่วราตรี หรือ ๑ วันเท่านั้นให้สำเร็จ เราจึงได้พบพระเจ้าทันใจ และหลวงพ่อทันใจ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดต่างๆ ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากคุณ : omechina เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 23:16:39

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำรอยไหม ขอโหวตให้กระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำด้วย จากคุณ : Little Thai flower เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 54 10:02:34