ความคิดเห็นที่ 1 เพราะไม่ได้ ซื้อลิขสิทธิ์ อย่างถูกกฏหมาย เข้ามาทำครับ (การ์ตูนสมัยนั้นเป็นของเถื่อน ที่เราก๊อปของญี่ปุ่นมาแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งสิ้น) อาจเพราะ กลัวที่จะต้องลงทุนสูง ไม่มีที่ปรึกษาที่จะไปติดต่อซื้อลิขสิทธิ์ หรืออาจจะไม่กล้าเสี่ยงลงไปทำเอง ก็เป็นไปได้ จากคุณ : Naruno เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 21:49:10

ความคิดเห็นที่ 2 หมึกจีนยังอยู่ค่ะ จากคุณ : g_maru เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 21:59:20

ความคิดเห็นที่ 3 อยากทราบเหมือนกัน ตกลงสมัยไพเรทล้มหายนี่ ตกลงสนพ.ไหนโดนเล่นงานบ้างครับ โดนกันหนักรึเปล่า จากคุณ : TEN. (WanderingPace) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 22:05:06

ความคิดเห็นที่ 4 ที่เคยได้ฟังมา สนพ.เก่าแก่แบบวิบูลกิจก็ลำบากมามากนะครับ ถึงเปลี่ยนมาเข้าระบบลิขสิทธิ์ได้ สนพ.รุ่นบุกเบิกตลาดลิขสิทธิ์ก็ล้มหายตายจากไปเยอะ กว่าจะมาถึงยุคที่คนยอมรับราคา+ปรับทัศนคติเกี่ยวกับ LC ได้ ถ้าดูจากอะไรๆ ที่สนพ.ยุคนั้นเผชิญกันมา ผมว่าที่ค่ายพวกนั้นไม่เปลี่ยนเข้าระบบลิขสิทธิ์ เพราะไม่อยากเสี่ยง + ไม่เชื่อในน้ำหนักตลาดลิขสิทธิ์ในอนาคต(แบบ vbk ที่ยอมกัดฟันเปลี่ยนระบบมา) มาถึงตอนนี้ ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว เรื่องดีๆ มีลิขสิทธิอยู่ในมือคนอื่นหมด หาช่องว่างใหม่ๆ ให้เสียบในตลาดไม่ได้ ทำไพเรทขายก็ได้แบบฝืดเฝือเต็มทน วันดีคืนดีโดนสนพ.ลิขสิทธิ์ไล่บี้อีก สุดท้ายก็เจ๊งกันไป... จากคุณ : Lethe เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 22:07:06

ความคิดเห็นที่ 5 ที่โดนหนักๆตอนนั้นก็ แนวหน้า มั้ง ไปเล่นวิบูรย์กิจก่อนเรื่องลิขสิทธิ์แล้วพอกลับมาใหม่พร้อมลิขสิทธิ์ ค่ายนี้เหมือนจะโดนฟ้องเป็นเจ้าแรกเลย คิดถึงยุคที่เปลี่ยนแปลงสู่ระบบลิขสิทธิ์จริงๆ ตอนนั้นอ่านดราก้อนบอลและเรื่องดังๆหลายเรื่องอยู่พักใหญ่ๆกว่าจะได้อ่าน บูม กับ ซีคิด เท่าทุกวันนี้ จากคุณ : Gundam_A เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 22:13:17

ความคิดเห็นที่ 6 การ์ตูนลิขสิทธิ์สมัียนั้นนับว่าแพงนะ เล่มละ 25 แต่ได้เล่มบางนิดเีดียว ถ้าไปเทียบสมัยนั้น 25 บาท นี่น่าจะได้ซัก 300+ หน้า แต่คุณภาพของภาพก็ดีกว่าไพเรทเยอะ อันนั้นทั้งแปลมั่วทั้งภาพไม่ชัด ช่วงแรกลิขสิทธิ์อาจจะลำบาก เพราะแพ้ด้านราคา แต่พอผ่านไปนาน ๆ การ์ตูนไพเรทก็เริ่มน้อยลง เพราะเรื่องดัง ๆ โดนซื้อลิขสิทธิ์ไปหมด จากคุณ : ซินเดอเรล่า เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 22:28:51

ความคิดเห็นที่ 7 สมัยนั้นผมชอบแนวหน้าที่สุดละ แปลดีพิมพ์ดีมีหน้าสีด้วย เริ่ดหรูมากสำหรับตอนนั้น จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 22:39:39

ความคิดเห็นที่ 8 สมัยนั้นเล่มละ12-15บาทค่ะ เล่มละ25โผล่มานี่แพงมาก แล้วคุณภาพการแปล+ภาพสมัยนั้นเราว่าสูสีกันเลยนะคะ ต่างจากสมัยนี้ที่ไพเรทกับลิขสิทธิ์ ภาพ+การแปลคนละระดับเลย หมึกจีนเรายังเห็นอยู่นะคะ ร้านเช่ามีหมึกจีนวางเป็นตู้ คนอ่านเรื่อยๆเลยนะเจ้า เพราะจับกลุ่มการ์ตูนผู้หญิงหวานแหวว ที่แบบอ่านจบก็ได้ ไม่จบก็ไม่ซีเรียส น่ะค่ะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 54 23:03:59

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องลิขสิทธิ์นี่คุยกันได้ยาวเลย ว่าแต่สนพ.ไหนนะที่ขอลิขสิทธิ์คอมิคมาบางเรื่องแล้วตีขลุมว่าเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การ์ตูนทุกเรื่องในไทยหว่า? จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:13:59

ความคิดเห็นที่ 10 คห.9 สนพ.แอดวานซ์คอมมูนิเคชั่นครับ ซึ่งปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว ส่วนหมึกจีนนี่ผมว่าอมตะมาก ๆ เลยนะ จำได้ว่ารู้จักหนังสือการ์ตูนของค่ายนี้ครั้งแรก ๆ ก็ตอน ป.4 เป็นหนึ่งใน สนพ. ไพเรทไม่กี่ที่ที่ผมคิดว่างานด้านการแปลของเค้าคุณภาพดีมาก แต่ปัจจุบันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นไงมั่งเพราะยุคหลัง ๆ มีแต่การ์ตูนผู้ญิงเน้น ๆ จากคุณ : Whiteface เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 02:09:17

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าอยู่ๆจะไปซื้อลิขสิทธิ์ได้นะ เคยเห็นมีเสียงบ่นๆมาว่า บางเรื่องอยากซื้อลิขสิทธิ์จะแย่อยู่แล้ว แต่เค้าไม่ขาย เพราะทำธุรกิจกับคนอื่นอยู่ อยู่ๆจะเปลี่ยนเจ้า มันก็ยากหน่อย ต่อให้เรื่องนั้นเจ้าที่ทำลิขสิทธิ์อยู่ไม่สนใจซื้อก็ตาม พูดง่ายๆของแบบนี้มันเป็นเรื่องธุรกิจ เรื่องของเครดิตเต็มๆ คิดว่าพวกไพเรทที่ล้มๆไป กว่าจะไหวตัวทัน ไปขอซื้อลิขสิทธิ์ มันก็สายแล้ว กว่าจะเจรจากว่าจะอะไร ยิ่งเคยทำไพเรทมาแล้วเค้ารู้ การเจรจาก็ลำบากกว่าเดิมมาก การได้เรื่องดังๆก็จะไม่ทันเค้า โอกาสได้ยาก อีกอย่างสมัยนั้นน่าจะมีการฟ้องร้องกับจับกุมเยอะด้วย ซึ่งพวกซื้อลิขสิทธิ์มาก่อนน่าจะเตรียมไว้อย่างดี ไม่งั้นไพเรทคงไม่หายไปอย่างรวดเร็ว แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 08:21:54 จากคุณ : Robonin S.knight เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 08:09:10

ความคิดเห็นที่ 12 อนิเมท กรุ๊ป  สมัยนั้นสุดยอดมากแล้ว  แต่โดนฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์ โดยบริษัทที่ทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี จากคุณ : นาดะชินคาเงะ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 08:48:27

ความคิดเห็นที่ 13 การ์ตูนเถื่อนสมัยนั้นดีกว่าเถื่อนสมัยนี้เยอะนะ คุณภาพไม่แพ้ของลิขสิทธิ์เท่าไหร่เลย ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมของไพเรทคุณภาพมันถึงได้ห่วยเหลือเกิน จริงๆ ในด้านเงินทุนและฐานลูกค้าของมิตรไมตรีน่าจะทำต่อได้ แต่คงคิดว่าทำไปแล้วขายได้ไม่คุ้มก็เลยเลิกเลยดีกว่า  (ตอนหลังได้มาอ่านงานเขียนของคนที่เคยทำ เขาเล่าว่าเจ้าของมิตรไมตรีนี่รวยมากเลยในตอนนั้น ถึงเวลาลิขสิทธิ์มาก็เลยเลิกไปแบบง่ายๆ ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร) จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 10:32:31

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ผมว่าไพเรทสมัยก่อนมันก็ไม่ดีหรอกครับ แปลมั่ว ดำน้ำ ภาพเบลอเพราะเหมือนส่งแฟกซ์มา ที่ซื้อกันก็เพราะมันเร็ว และทางเลือกคนอ่านสมัยนั้นมันน้อยมาก ไม่มีอินเตอร์เน็ต อ่านสแกนได้เหมือนสมัยนี้ มาอ่านไพเรทตอนนี้ผมว่ายังห่วยเสมอต้นเสมอปลายครับ ยกเว้นโดราเอมอน สมัยก่อนชอบอ่านของมิตรไมตรี ดูมันแปลได้ลื่นไหลดี อ่านของ NED ฉบับลิขสิทธิ์ พูดจากันห้วนมากๆ จากคุณ : Yippie เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 10:51:56

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยว่ายุคเก่าอย่างมิตรไมตรี แปลดีกว่าNEDยุคปัจจุบันมากๆ พาลไม่อยากซื้อชุดฟูจิโกะอีกมากที่ตามๆออกมา เพลียคนแปล จากคุณ : spectator เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 10:56:35

ความคิดเห็นที่ 16 ยังทันรุ่น the zero นะครับ สมัยนั้น ที่แฟกซ์มาแล้วดำน้ำ ก็คงมีดราก้อนบอลที่แข่งกันว่าใครเร็วกว่านั่นแหละครับ นอกจากนั้น ผมว่าทั้งการแปล รูปแบบสวยครับ สร้างสรรค์ด้วย เพราะต้องแข่งกันด้วยฝีมือล้วนๆ ไม่ได้ตีกินจากลิขสิทธิ์ จะดอง จะแปลห่วย จะทำเละเทะยังไง ก็ทำได้อยู่เจ้าเดียว ผมว่ายุคก่อนเป็นยุคทองของการ์ตูนเป็นเล่มๆ นะ มีอะไรออกมาให้อ่านเยอะมาก ตอนนี้เหรอ รอไปเถอะ ทั้งดอง ทั้งไม่ทำ ต้องตามใจเจ้าของลิขสิทธิ์ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 11:23:18

ความคิดเห็นที่ 17 ผมรู้แค่ว่า หมึกจีน แปลหน้ากากทมิฬ หรือ โจโจ้ ได้มันส์มากครับ ผมชอบมากกว่าแบบ LC ซะอีก จากคุณ : doraekuk เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 11:31:14

ความคิดเห็นที่ 18 หมึกจีนยังอยู่นะคะ จากคุณ : ban_ri เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 12:03:57

ความคิดเห็นที่ 19 หมึกจีนแปล ยูยูฯ ได้ดีกว่า LC ปัจจุบันค่ะ จากคุณ : riamus เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 12:43:53

ความคิดเห็นที่ 20 ยืนยันอีกเสียง ว่าถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนไพเรตสมัยก่อน จะพบว่าเผลอๆแปลดีกว่าของลิขสิทธิ์สมัยนี้เสียอีก ถ้าเป็นค่ายชั้นนำในสมัยนั้นจริงๆ ขืนแปลมั่ว ไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ๆ เพราะในเรื่องเดียวกัน จะมีเจ้าอื่นทำแข่งกันมาเป็นตัวเปรียบเทียบอยู่ตลอด เกิดแปลห่วย คุณภาพไม่ดี ออกช้า ฯลฯ ลูกค้าก็มีทางเลือกที่จะไปซื้อเจ้าอื่นที่ดีกว่า เป็นยุดทองของผู้บริโภคจริงๆ จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 17:04:10

ความคิดเห็นที่ 21 หมีกจีน ผมนึกถึง โคทาโร่ ที่นายวาม แปล มันส์มาก ต้องซื้อมาอ่านควบกับของวิบูลย์กิจ ที่นายยูตะ แปลดูว่าใครจะแปลดีกว่ากัน จากคุณ : อยากจะบินตามฝัน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 17:59:30

ความคิดเห็นที่ 22 หมึกจีนยังมีอยู่ ยืนยัน งานยังออกมาเรื่อยๆ มิตรไมตรีเห็นยังหากินกับสามก๊กเล่มปกแข็งหนาๆ 15 เล่มอยู่ จากคุณ : JaCk SpArOw เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 18:17:54

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบมากๆหมึกจีน จากคุณ : TumG5 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:40:19

ความคิดเห็นที่ 24 เล่าให้ฟังเลย สมัยโน้น แข่งกัน 3 ค่ายใหญ่ๆคือ วิบูลย์กิจ มิตรไมตรี หมึกจีน โดยช่วงพีคสุดตอนนั้น ก็คือช่วงพีคของดราก้อนบอล ที่โงกุน สู้กับ ฟรีเซอร์ วิบูลย์กิจลงทุนถึงกับยุบรวม Zero กับ Weekly มาเป็นเล่มเดียวกันเพื่อเพิ่มความหนา และใช้วิธีให้คนจากญี่ปุ่นซื้อ Jump แล้วตัหน้าดราก้อนบอล Fax มาเพื่อที่จะได้ตีพิมพ์ตามหลังญี่ปุ่นได้เร็วกว่าค่ายอื่นๆ แล้วหลังจากช่วงดราก้อนบอลสู้กับเซลล์ อยู่ดีๆ การ์ตูนญี่ปุ่นก็หายไปจากแผงหนังสือหมดเลย ท่ามกลางความสงสัยว่าหายไปไหน(ตอนนั้นไม่มีอินเทอร์เน็ทเหมือนตอนนี้) เรียกว่าหายไปเป็นปีเลยทีเดียว และที่กลับมาก็มีเพียง วิบูลย์กิจเท่านั้น ส่วนมิตรไมตรีก็ไม่รอด ส่วนหมึกจีนก็กลายเป็นเหมือนสำนักพิมพ์เล็กๆไป แต่ก็มี สยาม กับ เนชั่นที่โดดเข้ามาในวงการแทน สุดท้ายก็มีคนเขียนลงในคอลัมภ์ของหนังสือเล่มนึงว่า ที่อยู่ดีๆ การ์ตูนหายไปเพราะว่ามีคนอ้างว่าได้รับลิขสิทธ์ถูกต้องจากทางญี่ปุ่นแล้ว และขอให้สำนักพิมพ์ทั้งหลายหยุดตีพิมพ์ ไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้อง การ์ตูนญี่ปุ่นก็เลยหายไปจากแผง แต่ที่แสบคือ แฟ็กซ์เล่มนั้นเป็นการแอบอ้าง เพราะว่าแท้จริงแล้วทางญี่ปุ่นยังไม่ได้มอบลิขสิทธ์การ์ตูนให้สำนักพิมพ์ในไทยเลย เพียงแต่เป้าหมายของผู้แอบอ้างนั้น ใช้วิธีหน้าตายคือ กะจะไปขอลิขสิทธ์ด้วยตัวเองเพื่อตัดหน้าสำนักพิมพ์อื่นๆ แต่แล้วตัวเองก็ไม่ได้ และสำนักพิมพ์นั้นก็ปิดตัวเองลงไปแล้ว เอวังก็ประการฉะนี้ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 23:58:15

ความคิดเห็นที่ 25 มีลิขสิทธิ์ยังแปลห่วย กว่าไม่มีลิขสิทธิ์ซะอีก แบบว่าห่วยบรมเลย จากคุณ : ทอฟฟี่สีแดง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 19:19:59