ความคิดเห็นที่ 1 เน้นดูเยอะๆ ไปเรื่อยๆดีกว่าครับ มันจะซึมซับไปเองนะ จากคุณ : jayzazap เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:05:41

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาสนับสนุนว่าให้ดูไปเรื่อย ๆ ค่ะ ไม่ต้องกด pause ยกเว้นแต้จะฟังไม่ทันจริงๆ ถ้าทำได้แนะนำให้หาซีรี่ย์ที่น่าจะชอบมาซัก 2-3 ซีซั่น 2ซีซั่นแรกดูแบบซับไทยไปก่อน เพื่อให้คุ้นสำเนียงตัวละคร พอซีซั่น 3 ดูซับอิงค์น่าจะพอจับคำพูดทันแล้; เราฝึกภาษาด้วยวีธีนี้แหละค่ะ เริ่มจากดูซับไทยก่อน แล้วก็ซับอิงค์ ตอนนี้แบบไม่มีซับเลยก็ดูได้โอเคแล้ว ถ้าจะฝึกภาษาด้วยวิธีนี้ต้องใช้เวลาค่ะ ทำใจไว้เลยว่าวันสองวันไม่สำเร็จแน่ ทางที่ดีที่สุดคืออย่าคิดว่ากำลังฝึก ภาษาอยู่ คิดว่ากำลังทำเรื่องที่ชอบอยู่จะทำให้ง่าย ขึ้นมาก ๆ จากคุณ : ซาละเปาไส้ครีม เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:12:54

ความคิดเห็นที่ 3 ดูไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มเกทขึ้นจริงๆนะ :) ช่วงแรกๆเราก็ดูซับไทย แต่ก็อาศัยฟังเอาให้ได้สำเนียง หลังๆมาโหลดดูเอาแล้วซับยังไม่ออกก็ดูพอรู้เรื่องค่ะ แต่อาจไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ พอซับอิ๊งออกก็ดูมันอีกรอบนึง แนะนำว่าดูเรื่องอะไรที่เป็นแนวที่ตัวเองชอบก่อนจะดีค่ะ มีกำลังใจดูต่อดี จากคุณ : Namtip_BjP เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:17:50

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้ขอแหวกแนะนำเรื่องที่ใช้ฝึกหน่อย Desperate HW. กับ Friends จากคุณ : supatpit เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:21:27

ความคิดเห็นที่ 5 เกรงมากจะไม่สนุกครับ จากครั้งแรกให้ลองดูแบบไม่มีซับ ตามด้วยซับอังกฤษ และสุดท้ายที่ซับไทย จะได้รู้ว่าเรามีจุดบกพร่องตรงไหน สู้ ๆ นะครับ ตอนนี้ผมแทบจะแตกฉานแล้ว บางทียังแอบไปช่วยแปลซับในเวปไทยซับไตเติ้ลเลย จากคุณ : pichet152 เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:37:18

ความคิดเห็นที่ 6 เราเรียนวิธีนี้นะ เพราะรู้สึกว่าภาษาอังกฤษในห้องเรียนออกมาข้างนอกก็นอนตาย 555+ ตอนดูอันไหนปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยไป แรกๆก็ดูซับไทย หลังๆก็ลองซับอิ้ง แต่ดีที่สุดเราว่าไม่เปิดซับเลย คือบางทีตาเรามองซับไปอัตโนมัติ หูเลยไม่ค่อยได้ฟัง กลายเป็นอ่านแต่ซับอยู่ดี ... เราดันทุรังทำๆอยู่อย่างนั้น คิดว่าเรียนรู้ได้เยอะกว่าเรียนในคลาสอีก แถมภาษาที่เราขโมยจากหนัง/ซีรีย์ มาใช้มันก็มีสีสันกว่าในตำรามากมายก่ายกอง :] ปล. อีกวิธีเรียนด้วยตัวเองที่เราคิดว่าเวิร์คก็ฟังพวก Podcasts คะ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 54 22:54:23 จากคุณ : ssq (sc-shari) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:52:26

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วยได้เยอะค่ะ เคยอ่านความเห็นของกูรูด้านภาษาบอกว่า ทักษะภาษาของคนเราจะพัฒนาเรียงจาก...ฟัง คิด อ่าน เขียน เหมือนเด็กเล็กๆ ที่ยังเขียนไม่เป็น ก็จะฝึกภาษาได้ศัพท์ รูปประโยคจากการฟังก่อนค่ะ แล้วค่อยคิดออกมาเป็นภาษานั้นๆ ถูกบ้าง ผิดบ้าง โตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเก่งเอง การดูหนังช่วยพัฒนาทักษะการฟังได้ค่ะ  อย่างน้อยจะเริ่มชินกับสำเนียง ได้ยินรูปประโยคที่พบบ่อยๆ ถ้าอยากจะพัฒนาเร็ว อาจต้องฟังหลายรอบ เช่น ฟังเพื่อเอาเรื่อง ฟังเพื่ออรรถรส ฟังเพื่อคาดเดา และ ฟังเพื่อค้นคว้าเพิ่ม เช่น หลังจากฟังเพื่อความสนุกแล้ว แกรมม่าที่เรียนมา ลองเอามาใช้นะคะ สังเกตดูว่า มีการเรียงรูปประโยคอย่างไร Tense ไหน ภาษาพูด ภาษาเขียนต่างกันอย่างไร รวมถึง สำนวนหรือ Idioms ต่างๆ ที่ไม่คุ้น ลองไปค้นเพิ่มก็จะได้สำนวนเก๋ๆ สะสมไว้ใช้งานต่อไปค่ะ ฝึกบ่อยๆ ขยันๆ มีโอกาสได้ใช้งาน เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:54:02

ความคิดเห็นที่ 8 ผมมายกมือครับ ประสบความสำเร็จกับวิชาภาษาอังกฤษด้วยเพลงกับซีรี่ส์ ตั้งแต่มัธยมต้นแล้ว ผมไม่เคยอ่านหนังสือสอบวิชาภาษาอังกฤษเลย สอบเข้ามหาลัยได้คะแนนภาษาอังกฤษ 74 (ไม่ได้อ่านเลย แต่ก็เรียนพิเศษเหมือนเด็กทั่วไป แต่ไม่เคยเน้นๆๆวิชานี้เลย) เด็กคนอื่น อ่านสอบ 7วิชา ผมอ่านแค่ 6 ครับ สอบ midterm, final ที่มหาลัยเหมือนกัน เพื่อนสอบ 5 ผมสอบ 4 (ถ้ามีสอบ Eng) ได้เปรียบมาวิชานึงเสมอ (ยกเว้นพวกที่มี reading แบบบังคับอ่าน) ไม่เคยไปต่างประเทศนะ ผมเด็กบ้านนอก ฟังเพลงให้สนุก ดูหนังให้ชอบ แล้วให้มันชินๆไปเองเลย ผมเริ่มฟังตั้งแต่ม.1 ด้วยความคิดที่ว่า "เราชอบนะ ภาษาเค้าสวยดี" เรียนรู้ด้วยความชอบ ความรัก มันจะฝังใจมากกว่าการบังคับให้ทำ (เพื่อนผมบางคนตะบี้ตะบันแหลกลาน สอบได้คะแนนเยอะกว่าผม แต่ตอนนี้ทิ้งหมดแล้ว เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้ จะสอบก็ต้องมานั่งตะบี้ตะบันใหม่ แบบนี้ผมไม่เอาอ่ะ) อยากเรียนรู้ เอาไปใช้มากกว่า ไม่ต้องเป๊ะก็ได้ ขอให้รู้เรื่อง ตอนผมเข้ามหาลัย จากที่อยู่บ้านมี True แต่ที่หอพักไม่มี แทบร้องไห้ เพราะอยากดูเซอร์ไวเวอร์ สุดท้าย กัดฟันดูแบบ Eng ล้วนๆ ไม่มี sub ภาษาใดทั้งสิ้น ดูได้ 4-5 Episode เท่านั้นล่ะครับ รู้ตัวอีกก็ฟังรู้เรื่อง 70-80 %แอบดีใจเหมือนกัน ตอนนี้ดูเรื่องที่พูดเร็วๆอย่าง The Big Bang Theory แบบไม่มีซับได้แล้ว ผมว่าค่อยๆทำไปเรื่อยๆ อย่าซีเรียส อย่าตั้งเป้าว่า "ต้องได้" ดีกว่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แล้วจะติดตัวนาน แล้วนำไปใช้ได้จริงครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : Radomski เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 22:55:38

ความคิดเห็นที่ 9 พยายามต่อไปค่ะ เราก็เรียนรู้จากฟังเพลง ดูหนังเหมือนกัน เมื่อก่อนจำได้เลยว่าตอนม.1 ได้อังกฤษเกรด 2 ^^" ตอนนี้ ป.โท ปีหนึ่งแล้ว จากเกรดน้อยๆ(แอบเคืองอาจารย์นะเนี้ย) จนเมื่อปีก่อนได้รับเลือกให้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ปีนี้ตอนสอบเข้าเรียนสอบผ่านภาษาอังกฤษ (ทั้งคณะมีผ่านอยู่สองคน) ทั้งหมดล้วนได้มาจากการฟัง การอ่านเยอะๆ (ด้วยความจำเป็นที่ตอนเรียนต้องอ่านบทความ อ่านนิยายบ้างถ้าหาแบบแปลไทยไม่ได้) พูด(บ้าง) เขียนบ่อยๆ ไม่ได้เรียนพิเศษจากไหนเลย เมื่อก่อนดูซีรีย์ก็ดูซับไทยนะคะ  พอเริ่มเข้าที่เข้าทางก็เปลี่ยนเป็นซับeng ตอนนี้เลิกดูซับแล้ว ถึงเข้าใจได้ไม่หมดแต่ก็ค่อยไปหาอ่านดูทีหลังได้ เมื่อก่อนแยกสำเนียงต่างๆ ไม่ออกตอนนี้พอจะแยกออกแล้ว ยังเคยคิดเลยว่ามาอ่านในบอร์ดทำไมคนนั้นคนนี้ถึงพูดถึงเรื่องสำเนียง แต่เราทำไมฟัง ไม่ออกพอประสบการณ์มากขึ้น ก็สามารถพัฒนาเองละคะ จากคุณ : Marzo_Meen เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 23:33:58

ความคิดเห็นที่ 10 เราใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการพัฒนา (แบบไม่รู้ตัวค่ะ) จากคนที่พื้นฐานภาษาอังกฤษพอประมาณอยู่แล้วนะึคะ เพราะเราดูขำๆ เอาสนุก เพราะว่างและชอบดูหนังค่ะ ไม่ได้กะว่าจะดูเพื่อพัฒนาภาษาอะไร ผลที่ได้คือ listening ก้าวกระโดดกว่าทักษะทุกอย่าง อันอื่นยังเรีี่ยดินอยู่เลย เราว่าต้องเริ่มจากซับไทยก่อนค่ะ ดูไปเรื่อยๆ พอชินภาษา ชินกับคำที่เค้าใช้แล้วก็จะดูซับอังกฤษได้ดีขึ้นค่ะ อย่าพึ่งข้ามขั้น พอดูซับไทยแล้วสักระยะ ลองเปลี่ยนเป็นอิ๊ง โอเค ดูรู้เรื่อง ก็ดูอิ๊งต่อค่ะ ไปอีกสักระยะ ก็ลองเปลี่ยนเป็นไม่มีซับ แล้วก็ต้องดูเยอะ ดูต่อเนื่อง เราเองก็ดูเยอะ เราดูจนฝันเป็นภาษาอังกฤษ ตอนที่ิเริ่มดูแรกๆ เราว่างมาก (เพราะซิ่ว รอเรียนใหม่) นอนดูมันทั้งวันทั้งคืน วันๆนี่แทบไม่ได้คุยกับใคร จนเราคิดคำภาษาไทยบางคำไม่ออกเวลาคุยกับที่บ้าน -*- แต่ถ้าถาม เราก็ชอบดูซับไทย หรือไม่มีซับไปเลยมากกว่าค่ะ ซับไทย (ถ้าคนแปลดี) ทำให้เราได้ศัพท์เยอะ ก็จะได้รู้สำนวนที่เค้าใช้ อะไรต่างๆด้วย ส่วนแบบไม่มีซับก็ฝึกโดยตรงเลย ไม่ต้องพะวงมองด้านล่างจอ แ้ล้วก็ดูพากย์อังกฤษเยอะๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเฉพาะหนัง ของเราก็ดู NFL พากย์อังกฤษ (แบบจำใจ เพราะทรูไม่ยอมฉายแระ) ส่วนเพลง เราไม่ฟังเพลงไทยมาตั้งแต่อยู่ประถมแล้วค่ะ แต่เพลงเราว่าไม่ช่วยเรื่องฟังนะ เรื่องสำเนียงมากกว่า (เวลาร้องตาม) ตอนนี้เราก็ยังไม่โปรค่ะ (ขนาดดูมาหลายปีแล้ว) ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆค่า สู้ๆนะคะ :) ิ จากคุณ : pam-a-rod เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 01:33:20

ความคิดเห็นที่ 11 หยิบ Friends มาดูค่ะ ดูไปเรื่อยๆ ดูแบบเปิดซับไปก่อนค่ะ รอบแรกๆไม่ต้องเข้าใจหมดหรอกค่ะ อ่านซับบ้าง ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องหยุดหรอกค่ะ เจอคำไหนแบบไม่เข้าใจจริงๆก็จำไว้แล้วมาหาทีหลัง รอบต่อๆมาก็จะเริ่มเก็ตค่ะ เราจะเริ่มเข้าใจโดยเดาจากท่าทางตัวละครประกอบด้วยค่ะ ซักพักพอตกหลุมรักเหล่าเพื่อนๆทั้ง 6 ในเฟรนด์ เราก็จะอยากดูซ้ำอีกไม่รู้จบ รอบต่อๆไป ก็ให้ปิดซับเลยค่ะ มันช่วยได้จริงๆนะคะ ถ้าดูแบบนี้เรื่อยๆ สม่ำเสมอ ไม่ต้องไปเรียน รร สอนภาษาเลยค่ะ เราเรียนอังกฤษ พูดได้ฟังออก เพราะเรียนด้วยตัวเองแบบนี้เลยค่ะ ทั้งหนัง ทั้งเพลง หาประโยชน์จากมันให้ได้นอกจากให้ความบันเทิงแล้วยังสอนภาษาเราด้วย เรื่องเฟรนด์เราแนะนำเลยค่ะ ภาษาในเรื่องนี้ง่ายๆ ใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ อย่าท้อนะคะ สู้ๆ จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 04:13:03

ความคิดเห็นที่ 12 อยากบอกว่าตัวเองเป็นคนพื้นภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เคยพยายามบังคับตัวเองให้ฟังเพลงภาษาอังกฤษ ทำได้อยู่พักเดียวเอง เพราะตัวเองไม่ได้ชอบเพลงของฝรั่งเขา (ผมชอบเพลงญี่ปุ่นน่ะ) สุดท้ายไปพัฒนาได้จากเว็บบอร์ดแฟนคลับของนักร้องญี่ปุ่น พอดีเว็บบอร์ดไทยอัพข่าวช้ากว่า รู้สึกอยากรู้เร็วกว่าเลยไปอ่านเว็บนอก ภาษาอังกฤษล้วนๆ แล้วเราก็อยากรู้ที่เขาคุยกันเกี่ยวกับนักร้องที่เราชอบ ผมเลยอ่านกระทู้ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันความเห็นทุกวันเลย มันทำได้เองอัตโนมัติเพราะไม่ได้ทำเพราะคิดจะฝึกหรืออะไร ทำเพราะชอบ จากเห็นพาจเสจหน้านึงแล้วแขยงไม่มอง เดี๋ยวนี้อ่านได้สบาย อย่างน้อยก็กวาดตาอ่านสแกนได้ว่ามันพูดเรื่องอะไร (เมื่อก่อนนี่อ่านสแกนอะไรนะ?) พอเข้ามหาลัยได้ก็เริ่มมาชอบซีรีย์ของอเมริกา เลยเริ่มจากซัพไทยนี่แหละ ไปๆ มาๆ ไม่ทันใจ อยากดูให้ทันบ้านเขา เลยใช้ซัพอังกฤษเอา ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดหรอก ศัพท์ใหม่ๆ ไม่ค่อยได้ แต่ได้สำนวนกับความคุ้นเคยแทน อย่างที่หลายคนบอกไปแล้วว่ามันจะค่อยๆ ซึม ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันทันที จากเมื่อก่อนฟังเขาพูดไม่เคยรู้เรื่องเลย เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ได้พูดเร็ว รัวจริงๆ จะพอจับได้หมด อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญหรือเทพอะไร แต่มันดีกว่าแต่ก่อนแน่ๆ ละ อย่างน้อยจากที่เมื่อก่อนพูดกับตัวเองได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าไม่ชอบภาษาอังกฤษมากๆ วิชาอะไรยากจริงจัง ศัพย์เยอะแยะไป แกรมม่าบ้าบออะไร ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในวิชาที่ตัวเองทำคะแนนได้ดีที่สุดซะงั้น (ไม่ได้เทพอะไรนะ คือถ้าเป็นภาษาอังกฤษที่เขาบังคับเรียนในมหาลัยก็ได้ A มาเท่านั้นแหละ) สรุปคืออย่าดูเพราะคิดว่าจะเรียนอยู่ในหัวครับ ดูเพราะชอบดูดีกว่า มันจะค่อยๆ ซึม เราหาอะไรมาวัดไม่ค่อยได้หรอก ของอย่างนี้อย่างไปเร่งมัน แล้วถ้าดูซัพอังกฤษเนี่ย ถ้าประโยคมันไม่ได้สำคัญต่อเนื้อเรื่องขนาดนั้น ไม่ต้องหยุดหรอกครับ ปล่อยผ่านไปเลยก็ได้ อย่างผมถ้าไม่สงสัยจริงๆ ว่าศัพท์แปลว่าอะไรไม่หยุดหรอก อีกอย่างบางเรื่องศัพท์สแลงเยอะมาก อย่าง Big Bang นี่ หลายมุกไม่เกตเลย ทั้งมุกที่เป็นสแลง มุกที่เล่นกะคนมีชื่อเสียงหรือเหตุการณ์บ้านเมือง แต่ก็พอถูไถรู้เนื้อเรื่องได้ ถ้ามัวแต่มากดหยุดเปิดดิคคงดูไม่สนุกกันพอดี ฝึกวิธีอ่านข้ามจับใจความแบบนี้ไว้ก็มีประโยชน์ ใช้วิธีเดาเนื้อหาเอาจากรูปประโยคว่ามันแปลว่าอะไรประมาณไหน (จากซีรีย์ก็ดูท่าทางด้วย) เวลาอ่านพาจเสจในการสอบหรืออ่านเล่นเราจะเจอศัพท์แปลกๆ เยอะ การทำแบบนี้จะทำให้สามารถรู้เรื่องทั้งที่อ่านข้ามได้ ไม่รู้หรอกว่ามันแปลว่าอะไรน่ะคำนี้ (แต่วิธีนี้ถ้าแปลไม่ได้ทั้งประโยคก็คงไม่ช่วยละนะ ต้องอาศัยประสบการณ์นิดนึง) จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 06:00:31

ความคิดเห็นที่ 13 ของเราเริ่มจากดู Friends ซับอังกฤษ อารมณ์ว่าอยากดูมาก แต่ไม่มีซับไทย รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ดูเป็นสิบๆรอบจนแทบจะจำไดอะล๊อคได้เลย มันจะทำให้เราคุ้นเคยกะการฟัง และประโยคสนทนาในชีวิตประจำวัน จากเด็กสอบตกภาษาอังกฤษตอนประถม กลายเป็นล่ามฉุกเฉินให้นายฝรั่ง แต่มันต้องใจรักด้วย เราฟังเพลงภาษาอังกฤษ+หาเนื้อร้องควบคู่ไปด้วย ตอนนี้อยากแอดว๊านซ์หาแฟนฝรั่ง แต่ทำไม่ได้ ฮ่าๆ สู้ๆนะคะ ไม่มีอะไรยาก ถ้าเราพยายามค่ะ^^ จากคุณ : Piga_Pooh เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 07:06:29

ความคิดเห็นที่ 14 เวิร์คครับ ผมก็ใช้วิธีนี้ ทักษะการฟังดีขึ้นเยอะเลย ^^ สู้ๆนะครับ จากคุณ : shongsalomon เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 07:45:22

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับผมเห็นผลมาก ๆ เริ่มจากแต่ก่อนผมดูแบบมีสับอังกฤษยังแทบจะไม่รู้เรื่อง แต่ปัจจุบันนี้ถ้าเรื่องไหนที่สับไม่ออกผมก็ดูแบบไม่มีสับไปเลย กลายเป็นว่าหูเราจะปรับตัวไปเองครับ แต่มันต้องเริ่มมาจากการเรียนรู้ศัพท์มาจากการดูแบบอ่านสับก่อนนะ คือให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน แรกเริ่มเลยก็อาจจะเปลี่ยนจากการอ่านสับไทย แล้วก็มาฝึกเริ่มดูแบบสับอังกฤษ พอเราเริ่มคล่องอ่านสับอังกฤษได้ทันไปพร้อมกับที่หูฟังได้แล้ว ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เราจะเรียนรู้ศัพท์ คือจะเป็นช่วงที่หูฟังคำบางคำถ้าหากแค่ฟังอาจจะไม่รู้ว่าเป็นคำว่าอะไรก็จะเทียบกับการอ่านสับอังกฤษไปด้วย ทำให้หูปรับตัว เราจะเรียนรู้คำศัพท์ได้เยอะจากการอ่านสับอังกฤษ แล้วพอไม่มีสับให้อ่านช่วงแรก ๆ อาจจะฟังไม่ค่อยออก แต่ให้ลอง ๆ ดูไปเรื่อย ๆ แล้วหูเราจะปรับตัวเองครับ สำหรับผมเห็นผลมากนะ ผมแนะนำทุก ๆ คนที่ต้องการเรียนภาษาให้ดูซีรี่ย์นี่แหละ ช่วยได้เยอะมาก ๆ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 10:19:59 จากคุณ : Canon in Science Major เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 09:09:43

ความคิดเห็นที่ 16 ได้ผลแน่นอนค่ะ แต่ต้องเริ่มจากการหาสิ่งที่เราชอบจริงๆ นะคะ ของเราเริ่มด้วยหนังสือ Harry Potter กับซีรีส์เรื่อง CSI Vegas ค่ะ อาจจะเป็นตัวเลือกที่แปลกประหลาดไปกว่าชาวบ้านเขา พอดีดูตอนแรกแล้วชอบอ่ะ ติดเลย เลยนั่งดูแบบยาวววว ตอนแรกๆ ดูแบบเปิดซับก่อน ในมือก็มีสมุดไว้เล่มนึง ไว้จดศัพท์ที่ไม่รู้ความหมาย ไม่ก็สำนวนหรือสแลงที่มันน่าสนใจจากในเรื่อง พอจบตอนค่อยไปเปิดหาความหมายเอา คือถ้ายิ่งหาความหมายได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ หาหลังจบตอนนั้นได้เลยยิ่งดี เพราะว่าเรายังจำได้อยู่นี่ว่าบริบทการใช้คำนั้นๆ ในเรื่องนี่มันเกี่ยวกับอะไร และคำนั้นๆ ควรจะเอาไปใช้ในสถานการณ์ไหน ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเริ่มจากซีรีส์เรื่องอะไร ก็ลองเริ่มจากเรื่องที่หลายๆ คนแนะนำไว้ในกระทู้นี้/บอร์ดนี้ก็ได้ค่ะ ไม่ก็เริ่มจากหนัง/ซีรีส์ที่ดาราที่คุณชอบแสดงนำ จะได้มีแรงบันดาลใจระหว่างดูบ้าง :D แต่ระวังติดซีรีส์แทนนะเอ้อ หุหุ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 09:20:58 จากคุณ : G i f t b o x เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 09:17:16

ความคิดเห็นที่ 17 ช่วงแรกๆเราก็เหมือนคุณ จขกท ล่ะค่ะ เริ่มเมื่อซัก 2-3 ปีที่แล้ว ตอนนึง 40 กว่านาที ดูไปเกือบ 2 ชั่วโมง ^^" หลังๆก็เริ่มพัฒนาขึ้น เหลือเกือบๆชั่วโมง หลักของเราคือ ช่วงที่เราดูอยู่ ไม่ต้องไปรู้ศัพท์ทุกคำที่อ่านก็ได้ แต่ขอให้รู้ความหมายกว้างๆของมันก็พอ ถ้าคิดว่าคำนั้นเป็นคำสำคัญก็เปิดหาความหมายเอา วิธีนี้อาจจะไม่ได้ฝึกภาษาเรื่องความหมายของศัพท์แบบเป๊ะๆมากนัก แต่จะดูได้ไหลลื่นขึ้น จากคุณ : we wait and we wonder เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 09:54:00

ความคิดเห็นที่ 18 จะบอกว่าเห็นผลมากครับ เราเริ่มดูตอนแรกๆ ที่มันยังเป็นยูทีวีประมาณ ม.ต้นนี่ล่ะครับ ซีรีย์ที่ดูตอนแรก ไม่มั่นใจว่าคือ The Nanny หรือ Buffy นี่ล่ะ ประมาณว่าชอบเนื้อเรื่องมันมากสนุกดีแล้วก็เริ่มติดตาม ซับไทยอ่านทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่พอบางครั้งเราฟังบ่อยๆ มันเหมือนกันเราแทบไม่ต้องแปลเป็นไทยแต่เรารู้เรื่องว่ามันพูดว่าอะไร พอสักพักนึงรู้สึกว่าจะเป็นเรื่อง Gilmore Girl นี่ล่ะ แม่เราชอบมากติดตามประจำ พอเราดูแล้วก็ติด ตัวละครเรื่องนี้พูดกันแบบไม่ต้องหายใจกันเลยทีเดียว ได้ศัพท์มาค่อนข้างเยอะ แถมเราก็ฝึกพูดตามด้วย ปัจจุบันติดนิสัยพูดเร็ว แต่ข้อดีคือมันทำให้เราฟังคนอินเดียพูดภาษาอังกฤษทัน ยังไม่รวมถึงพวกฝรั่งในบริษัทฯ ที่งงๆว่าเราไปเรียนอินเดียมาก่อนรึป่าว 555+ ซีรีย์พวกนี้เป็นตัวที่ฝึกรากฐานของผมจนถึงตอนเอ็นฯ และตอนทำงานด้วยคือเราใจเข้าบทความที่มี สำนวนต่างๆ ได้ง่าย แถมเข้าใจวัฒนธรรมเค้าด้วย เวลาเค้ารวมกลุ่มกันคุยเรื่องสัพเพเหระจะเข้าใจง่ายๆ ขอแนะนำว่าเจอซีรีย์เรื่องไหนที่ชอบก็ดูเลยครับ เปิดซับไทย หรือ อังกฤษก็ได้ เดี๋ยวก็จะชินไปเอง พอชินมากๆ ก็แทบจะไม่ต้องเปิดซับแล้วล่ะครับ คุณ จขกท. ลองเลยครับ เครื่องเล่นแผ่นลำบากช่วงแรกแต่เราสบายทีหลัง haha จากคุณ : Sarial-Orio เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 10:38:47

ความคิดเห็นที่ 19 ว้าว เข้ามาดูอีกวัน สงสัยกิ๊ฟหมดแน่ 555 ว่าจะลองโหลด friend sub eng มาดูตามแนะนำมาครับ :D จากคุณ : bebankll เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 11:23:52

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องใช้เวลา และความอดทนมากๆเลยนะคะกับการฝึก - เราเริ่มดูแบบซับไทยก่อนค่ะ สมัยอยู่ม.ต้นดูหนังเยอะมากๆ ต้องเป็นSoundtrack เท่านั้น ภาษาอังกฤษเริ่มฟังได้ง่ายขึ้น รื่นหูขึ้น - พอตอนม.ปลาย เราก็ทำแบบเดิมอยู่ มันเริ่มมีDVDขาย เลยได้ลองดูแบบซับEngเป็นบางเรื่อง ยังดูไปปวดตาไปทุกครั้งที่ดูซับEngจนถอดใจไปเลย ดูแต่ซับไทย - จนสอบเข้ามหาลัย(เป็นเอนทรานซ์ปีสุดท้านก่อนเปลี่ยนเป็นแอดมิดชั่น) ได้ดูซีรียส์ญี่ปุ่น(บิทเอา ไม่มีตังซื้อ) ด้วยความที่ซับไทยหายาก เลยต้องจำใจดูซับEngค่ะ ดีกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดูไปหลายเรื่องจนชินกับซับEngละ แล้วก็ได้ดูซีรียส์ตะวันตก(บิทซ้ายบิทขวา) เลยได้ดูแบบซับEng เพราะซับEngออกภายใน1วันเอง ปัจจุบันเราก็ยังดูแบบไม่มีซับให้เข้าใจ100%ยังไม่ได้เลยนะคะ แต่ก็เข้าใจกว่า60%ล่ะ ดูแบบซับEngจะเข้าใจดีกว่า บางทีได้ซับมาแบบเค้ายังแปลไม่เสร็จ แบบว่าซับไทยครึ่งนึง ดูอยู่ดีๆก็เป็นซับEng เราก็ดูไปเรื่อยๆจนจะจบเรื่องเพิ่งรู้ว่าซับมี2ภาษาก็มี ไม่รู้ตัวเลยเพราะดูเข้าใจ สุดท้าย อยู่ที่เวลาและความอดทนค่ะ จากคุณ : Lalawolf เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 11:32:45

ความคิดเห็นที่ 21 วิธีนี้พัฒนาทักษะการฟังได้ดีมากๆเลยค่ะ ของเราเริ่มจากดูซับไทยก่อน (ทางทรู หรือไรเงี้ย) แต่หลังๆ ตามซีรีย์แบบทุกอาทิตย์ รอซับไทยมาไม่ไหว เลยหาซับ ENG มาดู เวลาอ่านซับ ฟังไปด้วย มันจะเชื่อมคำที่เราได้ยิน เข้ากับตัวอักษรที่เห็นจากซับ ้เลยทำให้รู้ว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ บางทีเราก็ไม่ได้เข้าใจความหมายของศัพท์ทั้งหมด แต่มันมีบริบทช่วย เราก็จะพอเดาออกว่าความหมายมันควรจะเป็นไปในทางไหน แต่ถ้าคำไหนไม่รู้จริงๆ เราก็เปิดดิกค่ะ ก็ได้พัฒนาคลังคำศัพทืไปอีก บางทีซับ ENG ยังไม่ออก อดใจไม่ไหว ก็ดูสดๆไปเลย มันก็เข้าใจนะ แต่มันเป็นความคุ้นเคยกับการที่ได้ดูซีรีย์เรื่องนั้นๆบ่อยๆด้วยค่ะ เราจะจับทางตัวละครพูดได้ ฟังสำเนียงออก แต่! มีปัญหาตรงที่ (ส่วนตัวนะ ไม่ใช่กับทุกคน) เราฟัง เข้าใจศัพท์ ENG มากๆ บางทีเราก็นึกความหมายภาษาไทยไม่ออก คือได้ยินคำๆนี้ เข้าใจเป็นภาษาอังกฤษ แต่แปลไทยออกมาไม่ได้ ไม่ได้กระแดะหรืออะไร แต่นึกไม่ออกจริงๆ -_- แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 12:11:14 จากคุณ : jaejune21 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 12:10:33

ความคิดเห็นที่ 22 เล่าเรื่องตัวเองให้ฟัง แล้วอยากส่งกระทู้นี้ฝากถึงก.ศึกษาธิการด้วย เพือจะบอกว่า หลักสูตรภาษาอังกฤษทุกวันนี้ มันไม่ได้เรื่อง เราเป็นคนเก่งภาษาอังกฤษในตำรา ม.ปลายเนี่ย เรียนอังกฤษ เทอมละ 2 ตัว ได้ 4 ทุกตัว ทุกเทอม เข้ามหาลัย ได้ B+ มีเพื่อนในกลุ่ม ได้ D+ อ่านไม่ผิดเพื่อนคนนี้ได้ D จริงๆ ไปดูหนังด้วยกัน พอเดินออกมาจากโรง เพื่อนบอกว่า เนี่ย พระเอก มันพูดสำเนียงออสเตรเลีย เราฟังแล้วอึ้ง เฮ้ยแก แค่ชั้นฟังรู้ว่ามันเป็นภาษาอังกฤษก็เก่งแล้ว นี่แกรู้กระทั่งว่า พระเอกพูดสำเนียงออสซี่ เพราะอะไรเพื่อนคนนี้ถึงตอบได้รู้ป่ะ เพื่อนเรามันติดซีรี่ย์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก... ดูหมด Party of five , Dawson Creek คือไอ้ซีรี่ย์ยุคนั้นเลยอ่ะ สมัยเรียนมหาลัย เค้าดูหมด เราได้ยินเพื่อนบอกเรื่องสำเนียง เราอายม้วนต้วน เอาเกรดอังกฤษเก็บไปเหอะ มันมีไว้ประดับใบเกรดเท่านั้นจริงๆ มันใช้ไม่ได้เลย พอเรียนจบ เค้าก็เล่าให้ฟังนะ ว่าไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม แล้วก็บอกว่า อ่านภาษาอังกฤษในชีทที่เค้าแจก มันไม่เข้าใจว่าศัพท์คำนั้นแปลว่าอะไร แต่พอติวเตอร์มาอ่านออกเสียงเฉลยหน้าห้อง มันก็ร้องอ๋อออออออออ คือพอฟังปุ๊บเค้ารู้ทันทีว่าคำนั้นแปลว่าอะไร แต่อ่านเอง อ่านไม่ออก แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 13:25:34 จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 13:23:55

ความคิดเห็นที่ 23 ผมดูซีรี่ย์ sg-1 ครบทุก seasons ภาษาดีขึ้นเพียบเลยครับ ทั้งการพูดและฟัง เพราะมันไม่มีแปลเป็นภาษาไทยตอนนั้น  แนะนำว่าให้ดูซีรี่ย์เป็นซับ eng เท่านั้นครับ แต่วิธีนี้คือ คุณต้องมีศัพท์อยู่ในหัวบ้างแล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 13:38:36 จากคุณ : I Love someone on internet เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 13:36:41

ความคิดเห็นที่ 24 ดูไปเพลินๆ บางทีก็ดูรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบาง  แต่โดยรวมภาษามันก็ก็ดีขึ้นแหละ ถ้ายิ่งดูเรื่องที่เราชอบมากๆ ถึงไม่เปิดซับก็เข้าใจนะ (อาจจะเข้าใจโดยรวม แต่รายละเอียดอาจจะไม่ได้หมด ) ดูหลายๆเรื่องแล้วจะชินเองครับ จากคุณ : ToBackkie เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 14:22:31

ความคิดเห็นที่ 25 คนไทยมักจะมีศัพท์อยู่ในหัวบ้างแล้ว ดังนั้นข้ามไปการฟังได้เลยนะคะ ตรงไหนฟังไม่เข้าใจไม่ต้องกลัว ฟังไปทั้งเรื่องก่อน สุดท้ายจะร้องอ๋อเอง ถ้ารอบแรกฟังแล้วไม่เข้าใจ ก็กลับมาฟังตรงที่ไม่เข้าใจอีกรอบ หมดปัญญาจริงๆ ก็พึ่งซับอังกฤษ หมดปัญญาจริงๆและหาซับไทยไม่ได้ ก็มาถามในพันทิพนี่แหละค่า รับรองว่ามีคนยินดีที่จะตอบแน่นอน ปล.ซับไทยบางทีก็ซับนรกนะคะ มาถามเอาในนี้ดีกว่า จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 16:24:42

ความคิดเห็นที่ 26 ตาม 25 เลย ถ้าหมดปัญญาจริงๆซับอิงค์ช่วยได้ 55+ ดีกว่าต้องมานั่งดูแบบเพียวๆซึ่งก็พอจะรู้เรื่องแต่บางที่พลาดรายละเอียดไป จากคุณ : higent เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 19:14:39

ความคิดเห็นที่ 27 ดูsub eng แรกๆจะทรมานมากๆ ทนไปเถอะค่ะ ถึงตอนแรกๆเราจะดูไม่ค่อยสนุกเพราะพะวงว่าแปลไม่ทันก็เถอะ ดูไปเรื่อยๆ จะเริ่มเก็บคำได้มากขึ้นเอง ทนดูsub eng ซีรีย์ซัก2seasonนะ จะเริ่มจับทางได้ละ เราว่าดูแบบมีsubดีกว่านะ เพราะอย่างเราเวลาไม่เปิดซับ แม้จะรู้ว่ามันแปลว่าไรก็เถอะ (ถ้าศัพท์นั้นเรารู้) แต่เราจะไม่รู้รูปประโยคว่าเค้าใช้ยังไง รู้แต่ศัพท์ เปิดsub eng ทำให้โขลกออกมาเป็นประโยคๆเลย มีประโยชน์กว่าเวลาเอาไปใช้พูดด้วย จากคุณ : เนเมซิส เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 20:23:28

ความคิดเห็นที่ 28 เราเริ่มจากซับไทยคะแล้วก็ซับอิงค์ หลังๆนี้ดูบางเรื่องแบบไม่มีซับได้แล้วด้วย แอบภูมิใจ  โดยส่วนตัวชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้วคะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร อ่านเวบบอร์ดเมืองนอกด้วยก็จะช่วยได้อีกเยอะเลยนะคะเพราะว่าจะได้ศัพท์สแลงอะไรแปลกๆด้วย :D ปล. ไม่รู้ว่ามีใครเป็นไหม บางทีเราดูซีรี่ส์เราเข้าใจนะว่าเค้าพูดถึงอะไรหมายถึงอะไรแต่เราอธิบายไม่ได้เหมือนในหัวเราไม่มีคำที่จะแปลสิ่งที่เค้าพูดเลย  555+ จากคุณ : i_am_alive เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 21:03:43

ความคิดเห็นที่ 29 กลับมาแนะนำวิธีที่เราทำ 1. ตาอ่านซับ 2. หูฟัง ว่าคำนั้นๆออกเสียงว่าอะไร 3. ตัวช่วย โปรแกรม Lexitron เลยค่ะ ดีค่อดๆ ศัพท์ค่อนข้างครบ ยกเว้นพวกสแลงยาก ต้องอาศัยเวบ http://www.urbandictionary.com/ มันต้องมีคลังศัพท์ในหัวเยอะๆ ถึงจะแปลทันน่ะค่ะ เรื่องแรกที่เราดูเป็นซับอิงค์เพียวๆคือ House ยากมากกกกกกกกกกกกกก เพราะเรามีคลังศัพท์เกี่ยวกะอวัยวะไม่เยอะ เกี่ยวกะศัพท์แสงทางการแพทย์ก็ไม่เยอะ เราจะใช้วิธีดูมันจนครบตอน แล้วก็เปิด Lexitron ซึ่งมันดีตรงที่ว่า แค่จำตัวอักษรที่ขึ้นต้นได้ 2-3 ตัว ทางขวามือมันจะมีบอกศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรนั้นๆ เราก็คลิกๆ ดูว่าคำนี้ใช่ที่เราต้องการหารึเปล่า มันจะเร็วมาก ขอโบก ตอนดูแรกๆ คำว่า kidney เรายังต้องเปิดดิกเลย ไม่รู้จริงๆว่า kidney คืออะไร ส่วนคำศัพท์ที่เป็นเฉพาะทางจริงๆ อย่างพวกกฏหมาย(ซึ่งมันแตกต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง) หรือซีรี่ย์การเมือง อันนี้ต้องอาศัยพวก wikipedia กันเลยทีเดียว เราก็ค้นเป็นภาษาอังกฤษแหละ แต่ก็เอาเวบที่เค้าอธิบายเป็นภาษาไทย มันจะทำให้ดูรู้เรื่องขึ้นและสนุกขึ้น ฝึกไปเรื่อยๆน่ะค่ะ ดูเยอะๆ ฟังเยอะๆ คราวนี้มันจะได้ของมันเองอัตโนมัติ จากคุณ : =U_U= PoRpLe เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 21:35:20

ความคิดเห็นที่ 30 ของผมไม่ได้ตั้งใจจะฝึกภาษาครับ แค่เบื่อๆเลยหาซีรีส์ดู พอหมดเรื่องนึงก็ต่อเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ดูแบบต่อเนื่องมาหลายเรื่องนะ (จำไม่ได้ว่าดูมากี่เดือน น่าจะสองสามเดือนมั้ง) แต่ทั้งๆที่ดูซับไทยแท้ๆ ปรากฏว่าพักนี้หลายๆครั้งยังไม่ทันที่ตาจะมองซับเลย แค่หูได้ยินเสียงก็เข้าใจคำที่เขาพูดละ เป็นผลพลอยได้มากๆ อนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นกับทุกเรื่องนะครับ อย่างบางเรื่องภาษายาก ศัพท์เฉพาะเยอะเช่น GOT นี่ยังฟังไม่ออก หรืออย่างบางตัวละครใน GLEE เช่นเรเชลนี่ หลายๆทีเธอพูดเร็วมากๆ ฟังไม่ทัน จากคุณ : lonea เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 22:02:09

ความคิดเห็นที่ 31 ดูไปเรื่อยๆไม่ต้องพอสค่ะ อาจดูหลายรอบหน่อย นานๆเดี๋ยวก็เข้าใจ การดูซ้ำจะเก็บรายละเอียดอื่นได้เพียบ และจะเห็นว่าละครฝรั่งบางเรื่องมันลึกมีมิติ อะไรเล็กๆน้อยๆอาจกลายเป็นจุดสำคัญในปลายซีซัน ถ้าหาสคริปมาอ่านได้ยิ่งดี การอ่านสำคัญนะคะ เป็นการเพิ่มคลังคำศัพท์ แนะนำอ่าน recap หรือไม่ก็เวบบอร์ดละครด้วย ภาษาจะเข้าใจง่ายง่ายกว่าที่ดูในละคร จะทำให้เข้าใจเรื่องมากขึ้น อย่าว่าแต่หัวดำอย่างเราเลยค่ะ ฝรั่งดูเองไม่เข้าใจเองก็มี ลองForum ของ Television without pity นะคะ อันนี้มีทุกเรื่อง ถ้ามีซับอิ้งดูซับอิ้งดีกว่าค่ะ แล้วอ่านเฉพาะตอนฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ ตัวเราเริ่มจากบัฟฟี่ค่ะ ซีซันสอง พอซีซันสามก็ไม่ต้องพึ่งซับแล้วค่ะ มันจะซึมไปเอง จุดสำคัญคือหาเรื่องที่เราสนใจมากจริงๆคือยิ่งคลั่งยิ่งดี อ้อแต่ต้องอย่าโหนเกินนะคะ ถ้ามาเริ่มจากอะไรที่ยากเกินไปอย่างHouse. อาจทำให้ท้อและเบื่อได้ แต่คำแนะนำสุดท้ายคือเน้นบันเทิงค่ะ ถ้าทำแล้วไม่บันเทิงดูซับไทยไปก่อนก็ได้ค่ะ อาจช้ากว่านิดแต่ดูได้สนุกกว่า พอเริ่มคุ้นค่อยปรับ โชคดีนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (Jaded Nomad) เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 22:19:16

ความคิดเห็นที่ 32 ผมฟังออกแต่คำว่า Damn it มั้งครับ เวลาอุทานทีไร ชอบอุทานคำนี้ทุกคนเลยครับ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 23:50:22 จากคุณ : zodiac13 เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 23:50:10

ความคิดเห็นที่ 33 คำนี้อีก Awesome เห็นใช้กันจัง เรารู้สึกว่าหูเราจะฟังออกแต่คำแบบ...son of a bitch, bite me แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 21:41:52 จากคุณ : AJIAB05 เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 21:36:46