ความคิดเห็นที่ 1 เปิดตอนมาด้วยคำบรรยายสั้นๆ เกี่ยวกับทะเลอารัลในสมัยก่อนที่เคยเป็นถึงแหล่งประมงสำคัญของภูมิภาคเอเชียกลาง ก่อนจะแห้งขอดกลายเป็นทะเลทรายในอีกกว่าร้อยปีให้หลังด้วยฝีมือพี่หมีขาวรัสเซีย (ตอนนั้นยังเป็นสหภาพโซเวียตอยู่) ส่งผลให้อาชีพประมงของผู้คนในแถบนี้พินาศหมดสิ้น ทั้งยังทำให้ปลาและสัตว์น้ำจำนวนมากในทะเลอารัลต้องสูญพันธุ์ไป จากนั้นจึงโฟกัสไปพูดถึง "หมู่บ้านมูนัค" อันเป็นหมู่บ้านที่สมิธกับอาลีมาพักอยู่ชั่วคราว และเป็นบ้านเกิดของไลล่ากับเลย์ลี่ สองแฝดสาวซึ่งอ.โมริบอกว่าเป็น "เจ้าสาวลำดับที่ 3" ของเรื่อง ฉากตัดไปทางสมิธที่ยังคงบำเพ็ญตนเป็นหมอ (กำมะลอ) อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งแม้จะมีข้อสะดวกที่ทำให้ได้อาหารและที่พักฟรีๆ ซ้ำยังมีสินน้ำใจในรูปของสิ่งของต่างๆ ที่ประดาคนไข้นำมามอบให้ไม่เคยขาด แต่จำนวนคนไข้ที่มากมายมหาศาลในแต่ละวันก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับสมิธเป็นที่สุด ด้วยนึกไม่ออกว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ไปแล้ว ตัวเองจะหาจังหวะปลีกตัวจากหมู่บ้านนี้ไปยังไงดี ระหว่างที่สมิธกำลังตรวจคนไข้อยู่นั้นเอง ฉากก็แพนกล้องไปทางไลล่ากับเลย์ลี่ที่มานั่งดูสมิธตรวจคนไข้อยู่ตรงระเบียงบ้านชั้นสอง เด็กหญิงทั้งสองกวาดสายตาไปท่ามกลางฝูงชนแน่นขนัดที่ล้อมรอบเพิงไม้ซึ่งสมิธใช้เป็นห้องตรวจคนไข้ ตีสีหน้าเซ็งเต็มเหนี่ยวเพราะไม่พบผู้ชายที่น่าจะเป็น "ผู้ชายดีๆ ที่จะรับตัวเองไปเป็นเจ้าสาว" ในกลุ่มคนเหล่านั้นเลย สองพี่น้องนั่งวิจารณ์บรรดาผู้ชายในกลุ่มคนเหล่านั้นไปพลาง พึมพำถึงคุณสมบัติของผู้ชายที่พวกตัวเองอยากได้เป็นคู่ครองไปพลาง (แข็งแรง รวย หล่อ ช่างดูแล ต้องมีพี่น้องผู้ชายอีกคน) คุยกันไปไม่ทันขาดคำ ก็มีชายหนุ่มฝาแฝดหน้าตาดีแถมยังแต่งตัวดีพาชายแก่คนหนึ่งมาเข้าแถวรอรักษา เห็นแค่นั้นทั้งไลล่าทั้งเลย์ลี่ก็แทบกระโดดตัวลอยขึ้นจากที่ ก่อนจะวิ่งตั้บๆ ไปบอกพ่อให้ช่วยไปคุยเรื่องแต่งงานกับพ่อของแฝดหนุ่มคู่นั้นที เลยเจอพ่อด่าว่าถ้ามีเวลาว่างมานั่งทำบ้าๆ อยู่ก็ไปช่วยงานแม่ซะไป๊ ทำเอาสองศรีพี่น้องถึงกับเซ็งเป็ดที่พ่อไม่ยอมเข้าใจเอาซะเลยว่าพวกเธอสองคนร้อนใจเรื่องคู่ครองขนาดไหน ลงเอยเมื่อเห็นว่าพึ่งพ่อไม่ได้ สองพี่น้องก็วางแผนหาคู่ครองกันเอง โดยครั้งแรกทั้งคู่ตั้งใจใช้แผนแบบเดียวกับที่พวกตัวเองเก็บได้สมิธมา คือ "ช่วยชีวิตคนท่าทางมีอันจะกินซักคนเพื่อสร้างบุญคุณ แล้วอาศัยบุญคุณนั้นขอแต่งงานกับลูกชายของคนท่าทางมีอันจะกินคนนั้นซะเลย" ทั้งคู่วางแผนง่ายๆ ด้วยการย่องไปดักรออยู่ในพงหญ้าใกล้สะพานข้ามหนองน้ำลึก คอยดูคนผ่านไปผ่านมาว่าท่าทางเป็นเศรษฐีหรือคนร่ำรวยหรือไม่ เมื่อมีคนลักษณะที่ว่าผ่านมาก็ขว้างของ (ในที่นี้คือปลาเทราต์เป็นๆ) ใส่ให้อีกฝ่ายเสียหลักตกน้ำ จากนั้นพวกตัวเองก็รีบว่ายไปช่วยดึงขึ้นจากน้ำ ทำทีว่าเป็นคนช่วยชีวิตเอาไว้เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย แต่แผนการของทั้งสองก็ต้องล้มเหลว เพราะดันเล็งจัดหวะพลาด ทำให้แทนที่ชายคนดังกล่าวจะตกน้ำ กลับหงายเก๋งตกจากหลังม้าลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นสะพานแทน ร้อนถึงไลล่ากับเลย์ลี่ต้องออกแรงช่วยกันหามไปให้สมิธรักษาเป็นการด่วน ครั้นสมิธถามว่าทำอีท่าไหนคนไข้ถึงได้ตกม้าได้ สองแฝดก็แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ว่า "ก็ปลามันบินขึ้นจากน้ำมาชนหน้าแงลุงเค้าน่ะซี้" หน้าตาเฉย เล่นเอาสมิธงงเป็นไก่ตาแตก แต่พ่อของสองแฝดฟังคำแก้ตัวปุ๊บก็เดาออกทันทีว่าเรื่องเกิดเพราะฝีมือลูกสาวตัวดีทั้งสองคนแน่ เลยแจกมะเหงกให้คนละโป๊กซะ แล้วไล่ให้ไปช่วยแม่ทำงานอีกรอบ แต่ไลล่ากับเลย์ลี่ก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ครั้งนี้เลยปรึกษากันว่า "ถ้าแผนสร้างบุญคุณไม่ได้ผล ก็ใช้แผนติดหนี้บุญคุณแทนเลยสิ" ซึ่งเนื้อหาของแผนก็ไม่มีอะไรมาก แค่ให้ใครคนหนึ่งในสองแฝดแกล้งทำเป็นป่วยหรือบาดเจ็บอยู่บนถนนที่คนเดินทางมักเดินผ่าน แล้วให้คนเดินทางช่วยพากลับบ้านให้ ซึ่งเมื่อทำแบบนั้น แน่นอนว่าตาพ่อที่เป็นคนถือเรื่องบุญคุณยิ่งชีวิตต้องเชื้อเชิญให้แขกพักอยู่ที่บ้านสักหลายๆ วันแน่ และทั้งคู่จะใช้โอกาสนั้นทำให้แขกประทับใจ จนออกปากขอตัวเองกับพ่อให้ลูกชายได้ แน่นอนว่าแผนการนี้ก็ล้มเหลวอีกเช่นกัน เพราะคุณลุงที่มาเจอเข้าดันมี "ฐานะกลางๆ ไปหน่อย" (มีอูฐ แกะ แพะรวมกันแค่ 300 ตัว ในขณะที่ตามมาตรฐานของสองคนนี้ต้องมีพันตัวขึ้นไป) ไลล่าซึ่งทำหน้าที่เป็นนกต่อเลยไม่สนใจ ทำท่าจะลุกเดินหนี แต่คุณลุงคนนั้นดันเป็นคนมีน้ำใจ แล้วก็นึกว่าไลล่าไม่สบายจริงๆ เลยรีบพาไลล่าขึ้นม้าของตัวเองพาเข้าหมู่บ้านไปหาหมอซะเป็นอย่างดี ...ซึ่งหมอในหมู่บ้านนั้นก็มีแค่คนเดียว คือสมิธซึ่งอยู่ที่บ้านของสองแฝดนั่นเอง รายการแจกมะเหงกให้ลูกสาวตัวดีจึงบังเกิดขึ้นอีกรอบด้วยประการฉะนี้ โดนเล่นงานเข้าไปหนักๆ สองครั้งซ้อน สองแฝดจึงจำใจลากขากลับไปช่วยแม่ทำงานแต่โดยดี ฝากแม่พอเห็นลูกทั้งสองเดินเข้ามาหาก็ด่าใส่ฐานอู้งาน แล้วลากให้มาช่วยทำงานช่วยดูแลน้องๆ คนอื่นซะ สองแฝดพยายามอุทธรณ์กับแม่เรื่องที่พวกตัวเองทั้งสองคนยังไม่มีคู่หมั้นคู่หมายเลย แม่ก็ตะคอกเอาว่า เรื่องคู่ครองน่ะพ่อเค้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงอย่างเราจะมาห่วงหรือกังวล แม้จะได้รับคำยืนยันจากแม่แบบนั้น แต่ไลล่ากับเลย์ลี่ก็ยังนึกกังวลอยู่ดีว่าถ้าพ่อคิดเรื่องหาคู่ครองให้ลูกจริงๆ แล้วทำไมถึงไม่เคยพูดถึงหรือแสดงท่าทางเป็นนัยๆ ให้พวกเธอรู้เลย ทั้งๆ ที่พวกเธอทั้งสองเองก็อายุถึงวัยออกเรือนแล้ว (ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็ส่วนสูงแล้ว ผมเดาว่าสองคนนี้น่าจะอายุซัก 12 - 13 ปีได้ ซึ่งส่วนใหญ่วัยออกเรือนของผู้หญิงแถบนั้นยุคนั้นก็ประมาณนี้แหละ) ทั้งคู่เลยเปลี่ยนมาคุยกันว่า ถ้าหากไม่ได้แต่งงานกันทั้งสองคนจริงๆ ขึ้นมา จะทำยังไงต่อไป ซึ่งสุดท้ายก็สรุปกันว่า คนหนึ่งจะไปทำขบวนคาราวานสินค้า ส่วนอีกคนไปเปิดที่พักแรมสำหรับขบวนคาราวาน เพื่อให้ขบวนคาราวานของอีกคนได้ใช้เป็นที่พักประจำ จากนั้นก็ขยันทำงานเก็บเงินให้เยอะๆ ไว้ใช้ตอนทำงานไม่ไหวต่อไป (ตรงนี้ไม่ได้บอกว่าคนไหนเป็นคนพูด เลยไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเหมือนกันครับ) ----------------------------------- แม่ของไลล่ากับเลย์ลี่ เป็นคุณแม่ยังสาวที่สวยคมไม่เบาเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 18:36:49 จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:36:00

ความคิดเห็นที่ 2 อย่างไรก็ตาม สองแฝดก็ยังไม่ยอมแพ้เรื่องหาคู่ครองง่ายๆ เมื่อเห็นว่าทั้งพ่อทั้งแม่ดูจะหวานเย็นกับเรื่องหาแฟนให้ลูกกันเหลือเกิน ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปปรึกษาเรื่องนี้กับคุณย่าและพวกผู้หญิงคนอื่น ซึ่งย่าก็พูดยิ้มๆ ว่า ก็พอเข้าใจอยู่ว่าทำไมทั้งไลล่าและเลย์ลี่ถึงได้ร้อนใจเรื่องคู่ครองกันนัก เพราะตัวย่าเองก็แต่งงานมีลูกตั้งแต่อายุพอๆ กับสองแฝดในตอนนี้เหมือนกัน สองแฝดเห็นย่าทำท่าจะเข้าข้างตัวเองก็บ่นให้ย่าฟังเป็นชุดๆ ทั้งเรื่องทำไมตัวเองถึงยังไม่มีคู่หมาย ทำไมไม่มีใครมาขอตัวเองเลย ทั้งเรื่องพ่อแอบกีดกันไม่ยอมยกลูกให้ใครหรือเปล่า ย่าต้องยกมือปรามๆ ให้เย็นลง พร้อมกับบอกว่า ไลล่ากับเลย์ลี่น่ะทำตัวโหวกเหวกกระโดกกระเดกเกินไป ถ้าอยากเนื้อหอมในหมู่ผู้ชายละก็ ต้องนุ่มนวลแล้วก็สงบเสงี่ยมกว่านี้ ว่าจบย่าก็ยกตัวอย่างให้ฟังว่า อย่างเวลาผู้ชายมาพูดด้วยก็อย่าพูดปุ๊บตอบปั๊บ แต่ให้ค่อยๆ ช้อนตามองแบบสงบเสงี่ยมพอไม่ให้เสียมารยาท แล้วค่อยแย้มยิ้มก่อนจะตอบกลับไป ซึ่งย่าก็ยืนยันหนักแน่นว่าลองเจอไม้นี้เข้า ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องละลายด้วยความเสน่หาทั้งนั้นละ "ดึงดันอย่างเดียวน่ะใช้ไม่ได้หรอกนะจ๊ะ วิธีการน่ะมีตั้งหลายวิธีถมไป" คุณย่าสรุปปิดท้ายคำอธิบายพลางยกถ้วยชาขึ้นจิบอึกใหญ่ พอย่าของทั้งสองพูดจบแล้ว หญิงท่าทางกล้าๆ คนหนึ่งในกลุ่มก็โพล่งขึ้นมาพร้อมชี้นิ้วไปทางหญิงสาวท่าทางขี้อายคนหนึ่งในกลุ่มว่า "รู้มั้ยว่าแม่โซลายานี่น่ะใช้วิธีไหนถึงได้สามีมา" เล่นเอาหญิงสาวที่ถูกอ้างถึงถึงกับโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันว่าไม่เอาน่า อย่าพูดถึงสิ สองแฝดทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า "เพราะคุณลุง (สามีของโซลายา) เผลอไปแตะโดนศีรษะของคุณโซลายา เลยต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการแต่งงานสินะคะ?" หญิงคนเดิมก็บอกว่าถูกต้อง แล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ ทั้งคู่พร้อมกระซิบบอกว่า ความจริงแล้วโซลายาเป็นคนวางแผนให้เกิดเรื่องขึ้นเองแหละ ด้วยการแกล้งโพกผ้าคลุมผมแบบหลวมๆ พอให้กระแทกก็หลุด แล้วไปดักรอตรงมุมตึกที่ผู้ชายที่หมายตาจะเดินผ่าน จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนชายคนนั้นเข้ามาใกล้ หลับหูหลับตาเดินเข้าไปชนซะเลย พอชนจนผ้าคลุมผมหลุดแล้ว ก็ถือโอกาสระหว่างที่ฝ่ายชายกำลังงง ร้องไห้โวยวายว่าโดนจับผมจับหัวเข้าแล้ว ไอ้หนุ่ม (ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นสามีอย่างเป็นทางการ) จึงจำเป็นต้องแต่งงานกับโซลายาเพื่อรับผิดชอบไป แผนวัดดวงแบบบ้าบิ่นของหญิงสาวตรงหน้าทำเอาสองแฝดถึงกับทำตาปิ๊งปั๊งเหมือนเห็นทางสว่างของชีวิต ร้อนถึงแม่ของสองแฝดที่ได้ยินเข้าต้องแถเข้ามาสะกิดเตือนว่าอย่าริทำอะไรไม่เข้าท่าแบบนั้นเชียว แล้วสอนสุภาษิตสอนหญิงเข้าให้ว่า เป็นสาวเป็นนางมาทำเรื่องแบบนั้นมันดูไม่งามเอาซะเลย ว่าแล้วก็ตัดบทเหมือนเดิมว่าเรื่องคู่ครองปล่อยให้พ่อจัดการไปดีกว่า ผู้หญิงคนอื่นในกลุ่มเห็นแม่ของสองแฝดพูดแบบนั้นก็แซวว่า คนที่ตอนเด็กดี๊ด๊ากระตือรือร้นเรื่องนั้นยิ่งกว่าใครอย่างเธอเอาอะไรมาพูดกันจ๊ะ ทำเอาคุณแม่ถึงกับหน้าแดงแปร๊ดตวาดแว้ดใส่ว่าห้ามพูดเรื่องนั้นต่อหน้าเด็กๆ นะ แต่ช้าไปเสียแล้ว สองแฝดได้ยินที่พวกผู้หญิงพูดถึงแม่ดังนั้นก็รบเร้าขอให้แม่เล่าเรื่องของตัวเองสมัยก่อนให้ฟังที ฝ่ายแม่ทนรบเร้าไม่ได้ แถมเห็นว่าลูกสาวโตพอถึงวัยออกเรือน (สำหรับยุคนั้นและแถบนั้น) แล้ว ก็เลยยอมเล่าให้ฟัง เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 20 ปีก่อนสมัยที่แม่ของทั้งสองยังเป็นเด็กสาวรุ่นๆ อยู่นั้น ได้เกิดพายุใหญ่ขึ้นในทะเลอารัล คนในหมู่บ้านจึงต้องลงไปช่วยกันลากเรือกลับขึ้นฝั่งเพื่อไม่ให้ถูกกระแสลมและกระแสน้ำซัดหายไป ซึ่งแม่ของทั้งสองก็ออกไปช่วยด้วยเช่นกัน แต่ระหว่างที่ดึงเรือขึ้นนั้น แม่ของทั้งสองก็เห็นว่าตัวเองลืมผูกแหเก็บไว้บนเรือ ก็เลยขึ้นเรือไปด้วยอาการละล้าละลังเพื่อเก็บแห ทว่า ยังไม่ทันได้เก็บแหหรืออะไร เรือก็ถูกคลื่นลมที่รุนแรงกระชากออกห่างจากฝั่งลงไปสู่ทะเลอันเชี่ยวกราก แม้จะโชคดีที่ท้องเรือไปติดอยู่กับกิ่งไม้ แง่หิน หรือสันทรายใต้น้ำจนไม่ถูกซัดหายไปกลางทะเล แต่คลื่นลมที่รุนแรงก็ทำให้ไม่มีใครลงเรือไปช่วยแม่ของทั้งคู่ได้ ขณะที่คิดว่าคงไม่รอดแล้วนั้นเอง พ่อของทั้งคู่ก็ปรากฏตัวขึ้น และตรงเข้าไปลากเรือที่จวนเจียนจะถูกซัดหายไปกลับเข้าฝั่งได้สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คุณแม่ปลื้มคุณพ่อเป็นอย่างมาก ถึงขั้นเรียกว่าหลงรักก็คงไม่ผิดนัก ดังนั้น เมื่อพ่อไปสู่ขอคุณแม่ จึงได้แต่งงานกันทันที เล่าถึงตรงนี้ แม่ของทั้งคู่ก็บิดตัวไปมาพร้อมทำหน้าเคลิบเคลิ้มต่อเหตุการณ์หวานซึ้งในอดีตของตัวเอง แต่ลูกสาวบังเกิดเกล้าทั้งสองกลับทำหน้าไม่ยินดียินร้าย แล้วบอกหน้าตาเฉยว่า แบบนั้นเอาไปใช้จริง (ในแผนหาเจ้าบ่าว) ของพวกหนูไม่ได้หรอก ไม่มีเวลามัวรอพายุเข้าด้วย เล่นเอาแม่บังเกิดเกล้าถึงกับตัวสั่นริกๆ ตวาดแว้ดว่าอย่าทำให้ความทรงจำอันงดงามต้องด่างพร้อยสิ ก่อนจะเดินจากไปดื้อๆ อย่างหัวเสีย --------------------- ช็อตพบรักครั้งแรกระหว่างป๊ะป๋ากับหม่าม้า จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:40:24

ความคิดเห็นที่ 3 ฝ่ายคุณย่าเมื่อเห็นเด็กหญิงทั้งสองยังทำตาปริบๆ เหมือนยังไม่ยอมตัดใจเรื่องวางแผนหาว่าที่สามีอีก ก็เลยบอกไปว่า งั้นย่าจะสอนคาถาดีๆ ที่จะช่วยให้หาเจ้าบ่าวดีๆ ได้ให้หลานทั้งสองคนก็แล้วกัน ว่าจบก็บอกให้หลานทั้งสองคนไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำคาถาดังกล่าว ซึ่งมีดังต่อไปนี้ 1. ปลาเทราต์แม่น้ำ 10 ตัว 2. หอยตามชายฝั่งจับมาให้เต็มชนาง (ชนาง - เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่ง คล้ายตะกร้าแบนๆ) 3. กุ้งคัดเฉพาะตัวใหญ่ๆ 1 ถุงตาข่าย 4. ปู 1 ตะกร้า 5. หอยเป๋าฮื้อ 1 ถุงตาข่าย 6. ไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งกว่าจะหามาได้ครบหมดทุกอย่างตามที่ย่าสั่งก็เล่นเอาสองแฝดถึงกับลิ้นห้อย แต่ก็สู้พยายามเต็มที่เพราะอยากได้คาถาเรียกหนุ่มจากคุณย่าจัดจนลืมเหนื่อย ฝ่ายย่าหลังจากได้วัตถุดิบมาครบ ก็จัดแจงนั่งลงหยิบปลาจากตาข่ายออกมาแล่หน้าตาเฉย พร้อมบอกให้สองแฝดทำตาม สองแฝดก็ทำตามอย่างแข็งขันเพราะนึกว่าจะทำคาถาที่ว่าต้องใช้เครื่องในปลาด้วย ระหว่างนั่งแล่กันอยู่ แม่ของทั้งสองก็เข้ามาจะเตรียมทำอาหาร ครั้นเห็นทั้งสองคนนั่งแล่ปลาอยู่ก็ถามว่าทำอะไรกันอยู่น่ะ สองคนก็ทำท่าจะบอกว่าเตรียมของทำมนต์กันอยู่ แต่ย่าแอบขัดขึ้นก่อนว่า ถ้าบอกใครว่ากำลังทำมนต์อยู่ละก็ คาถาจะเสื่อมนะ ทั้งคู่ไม่มีทางเลือก เลยจำต้องโกหกแม่ไปว่ามาช่วยงานน่ะ ฝ่ายแม่ก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจแว่บหนึ่งที่เห็นลูกสาวจอมแก่นมาช่วยงานแต่โดยดี ก่อนจะสั่งงานอื่นเพิ่มเติมให้ทั้งสองคนไปจัดการ ทั้งตักน้ำ ต้มน้ำ หั่นผัก ชงชา ปูโต๊ะ จัดจาน และอื่นๆ อีกมากมาย ตบท้ายด้วยการให้ไปเรียกทุกคนในบ้านให้มากินข้าวกันได้เป็นอันเสร็จงาน ภาพอาหารหรูหราจำนวนมากมายราวกับจะจัดเลี้ยงกันตรงหน้าทำเอาคนในบ้านคนอื่นถึงกับอึ้งไปตามๆ กันว่านี่มันวันฉลองอะไรกันรึไง ก่อนจะตั้งต้นนั่งรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ฝ่ายสองแฝดก็ตามน้ำไปกับบรรยากาศครื้นเครงในวงข้าวอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทำท่านึกได้แล้วหันไปถามย่าว่า แล้วคาถาที่ว่าล่ะอยู่ไหน ทำแค่นี้มันก็แค่ทำอาหารธรรมดาๆ ไม่ใช่เหรอไง ก่อนจะบ่นแบบโกรธๆ ที่โดนย่าหลอกให้มาช่วยงานบ้าน ย่าก็แก้ตัวยิ้มๆ ว่า "ไม่ได้หลอกซะหน่อย ผู้หญิงที่ทำงานเก่งน่ะ ไม่ว่าบ้านไหนก็อ้าแขนรับทั้งนั้นแหละ" คำแก้ตัวน้ำใสแจ๋วของย่าทำเอาสองแฝดถึงกับใบ้รับประทาน ก่อนจะจบลงด้วยรายการตะบี้ตะบัน "กินให้หายแค้น" ของสองแฝดผู้รู้สึกเหมือนตัวเองโดนต้มจนเปื่อยไปถึงไขกระดูกแบบสุดๆ ---------------------------------------------------------- หลังเหนื่อยแทบตายเพราะโดนย่าหลอกให้ช่วยทำงานบ้านเสร็จ ไลล่ากับเลย์ลี่ก็มานั่งดูกองทัพคนไข้ที่มาอออยู่หน้าที่พักของสมิธ พลางบ่นว่าโลกนี้ก็มีผู้ชายอยู่ตั้งเยอะแท้ๆ ทำไมถึงไม่มีใครมาขอเราไปเป็นเจ้าสาวซะทีนะ นั่งดูไปได้พักหนึ่ง สองพี่น้องก็มองตากัน แล้วตัดสินใจทำตามแผนที่ตัวเองได้ยินว่าหญิงสาวชื่อโซลายาเคยใช้มาก่อน นั่นคือ "ดับเครื่องชน แกล้งทำเป็นโดนจับหัวจับผม แล้วเรียกร้องให้รับผิดชอบ" ทั้งคู่แกล้งสวมผ้าคลุมผมแบบหลวมๆ แล้วไปดักรอตรงมุมตึกที่พี่น้องที่ตัวเองหมายตาจะเดินผ่าน แต่ขณะกำลังจะวิ่งออกไปชนนั้นเอง ก็มีเสียงคุ้นเคยทักมาจากข้างหลังเสียก่อนว่าผ้าคลุมผมจะหลุดแล้วแน่ะ ทั้งคู่สะดุ้งหันกลับไปมอง แล้วก็ต้องหน้ามุ่ย เมื่อพบว่าเจ้าของเสียงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น "นูรีกับซามู" เด็กหนุ่มสองพี่น้องที่เป็นทั้งคนรู้จักทั้งไม้เบื่อไม้เมากับสองแฝดมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง เห็นศัตรูคู่อาฆาตทะลึ่งมาเป็นก.ข.ค.แบบนี้ สองแฝดก็แว้ดใส่ทันทีว่ามายุ่งอะไรด้วย ทำเอาไอ้หนุ่มทั้งสองถึงกับขมวดคิ้วว่าไปกินรังแตนมาจากไหน คนเค้าอุตส่าห์เตือนดีๆ กลับมาแว้ดใส่ยังกับอาฆาตกันมาแต่ชาติปางไหนซะได้ สองแฝดก็แว้ดต่อว่าพวกชั้นจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับพวกนาย เพราะงั้นไม่ต้องมายุ่งเลย ไอ้หนุ่มสองคนเลยได้แต่ยืนอึ้งๆ งงๆ อยู่กับที่ ก่อนจะเตือนอีกรอบว่า ไม่รู้หรอกนะว่าตั้งใจจะทำอะไรกัน แต่ยังไงก็เพลาๆ มือหน่อยอย่าให้แรงนักล่ะ เกิดโดนพ่อดุเอาอีกละก็ไม่รู้ด้วยนะ ว่าจบก็เดินดุ่ยๆ จากไป ทิ้งให้สองแฝดขบกรามกัดฟันอย่างโมโหโกรธาที่ถูกขัดจังหวะไปอย่างน่าเสียดาย ------------------------------ นูรีกับซามู ไอ้หนุ่มสองพี่น้องเพื่อนสมัยเด็กของสองแฝด จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:45:14

ความคิดเห็นที่ 4 หลังเสียฤกษ์เปิดแผนเพราะสองพี่น้องนูรีกับซามูไปแล้ว ไลล่ากับเลย์ลี่ก็มาตั้งหลักตามแผนเดิมต่อ โดยครั้งนี้ตั้งใจจะจับชายหนุ่มสองพี่น้องท่าทางดูดีอีกคู่หนึ่งซึ่งเดินตรงมาตรงจุดที่ไลล่ากับเลย์ลี่ซุ่มอยู่พอดี ทั้งสองจึงรีบหดหัวหลบเข้าไปหลังมุมตึกตามเดิม กลั้นหายใจรอจังหวะให้พี่น้องคู่นั้นเดินมาถึงมุมตึกแล้วจะวิ่งออกไปชนโครมเข้าให้ ทว่า อารามตื่นเต้นเพราะต้องทำตามแผนเป็นครั้งแรก ซ้ำยังเอาแต่หดหัวหลบอยู่ในมุมตึกไม่ได้ดูทาง สองแฝดจึงไม่รู้ตัวเลยว่าคู่พี่น้องที่ตนเองเล็งอยู่นั้นกลับเดินเลี้ยวไปอีกทางไม่ได้ตรงมายังมุมตึกที่ทั้งคู่ซุ่มอยู่ แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากที่สองหนุ่มพี่น้องเดินเลี้ยวไปอีกทางแล้ว ก็มีชายร่างใหญ่เข็นรถขนปลาแห้งคันใหญ่เดินพรวดๆ เข้ามาแทนที่ตำแหน่งเดิมของสองหนุ่มพี่น้องตรงมายังมุมตึกพอดี ไลล่ากับเลย์ลี่ไม่ได้ดูทางนึกว่าที่เดินมาเป็นสองหนุ่มพี่น้อง ก็หลับหูหลับตาวิ่งไปชนโครมเข้ากับรถเข็นเข้าโครมใหญ่จนรถเข็นพลิกคว่ำ กล่องใส่ปลาแห้งตกกระจายเต็มถนนไปหมด สองแฝดถึงกับตาเหลือกกลับด้วยความตกใจ และยิ่งตกใจกว่าเดิมเมื่อเงยหน้ามองเจ้าของรถเข็นคันนั้น แล้วพบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองนั่นเอง รายการแจกมะเหงกเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันจึงบังเกิดอีกครั้งจนได้... จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:46:14

ความคิดเห็นที่ 5 ฉากตัดอีกครั้ง มายังพ่อของสองแฝดไลล่ากับเลย์ลี่ที่ออกเรือมาทอดแหจับปลากับพ่อของสองพี่น้องนูรีกับซามู พ่อของสองแฝดบ่นกับพ่อของสองพี่น้องถึงนิสัยแก่นกะโหลกของสองแฝดที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเขามาตลอด คุยกันไปคุยกันมา อยู่ๆ พ่อของไอ้หนุ่มทั้งสองก็ถามขึ้นมาว่า คิดว่าลูกชายบ้านชั้นเป็นไงบ้าง ทำเอาพ่อของสองแฝดงงว่าอยู่ๆ ถามขึ้นมาทำไม พ่อของไอ้หนุ่มก็บอกว่า สองแฝดกับลูกชายทั้งสองของเขานั้นรู้จักสนิทสนมกันถึงขั้นทะเลาะตบตีกันได้มาตั้งแต่เล็กแล้ว เพราะงั้นจะให้แต่งงานกันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่นา เห็นอีกฝ่ายพูดแบบนั้น พ่อของสองแฝดก็ชะงัก ถามย้ำว่าคิดดีแล้วรึไง ลูกสาวสองคนที่บ้านชั้นมันกระโดกกระเดกออกปานนั้นนะ พ่อของไอ้หนุ่มก็บอกว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยเลียบเคียงถามเรื่องนี้กับลูกชายทั้งสองดูแล้ว ทั้งสองคนก็บอกแบบอ้อมแอ้มปนแสยงเล็กน้อยว่า ก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน ตัวเขากับพ่อของสองแฝดเองก็รู้จักกันมานาน เพราะงั้นก็ไม่ได้รังเกียจอะไรที่จะมาเกี่ยวดองเป็นญาติกันหรอก พ่อสองแฝดได้ฟังดังนั้นก็เงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะบอกว่า "งั้นก็เอาแบบนั้นก็แล้วกัน" พ่อของไอ้หนุ่มสองคนก็ส่งเสียงอ้อเป็นเชิงตอบตกลง เรื่องทำท่าว่าจะตกลงกันได้ด้วยดี แต่แล้วอยู่ๆ พ่อของไอ้หนุ่มทั้งสองก็ทำเสียฤกษ์ ด้วยการบอกกับพ่อของสองแฝดว่า "ช่วยลดค่าสินสอดให้หน่อยได้มะ" พ่อของสองแฝดได้ยินดังนั้นก็ย้อนเอาเต็มหน้าแงว่ามะเหงกแน่ะ ใครจะยอมลดให้ฟะ พ่อของไอ้หนุ่มก็ย้อนว่าถ้ารู้จักกันมานาน ก็น่าจะรู้ไม่ใช่เรอะว่าบ้านชั้นน่ะ "เค็ม" ขนาดไหน พ่อของสองแฝดก็สวนแบบไม่ยอมแพ้ว่าเรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกันเว้ย ถึงจะเป็นลูกสาวม้าดีดกะโหลกแบบนั้น แต่ยังไงก็เป็นลูกสาว เพราะงั้นถ้าจะให้แต่งงานออกเรือนไป ก็ต้องให้แต่งออกไปด้วยราคาแพงที่สุด พ่อของไอ้หนุ่มก็ลำเลิกว่า นี่ชั้นอุตส่าห์ออกปากบอกว่าจะรับเลี้ยงลูกสาวม้าดีดกะโหลกของแกทั้งสองคนเชียวนะเฟ้ย ลดๆ ค่าสินสอดแค่พอเป็นสินน้ำใจให้หน่อยไม่ได้รึไง เจอเพื่อนแบะท่ามาแบบนี้ พ่อของสองแฝดก็ชักปรี๊ดแตก ด่าใส่เพื่อนเป็นชุดๆ จนนับคะแนนให้แทบไม่ทัน เพื่อนก็ด่าสวนกลับแบบไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ลงท้ายเถียงไปเถียงมา จากเรื่องขอลดค่าสินสอด ดันกลายเป็นเถียงเรื่องลำเลิกบุญคุณความแค้นตั้งแต่ครั้งเก่าก่อนไปได้ แล้วชีวิตประจำวันของแต่ละคนในหมู่บ้านมูนัค ก็ผ่านไปอย่างเรียบง่ายเช่นทุกวันที่ผ่านมา - จบตอนที่ 20 - จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:48:40

ความคิดเห็นที่ 6 อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนบทไลล่ากับเลย์ลี่ออกมาเป็นตัวโจ๊กคั่นฉากเลยแฮะ ปล่อยมุกได้ฮาจริงอะไรจริง โดยเฉพาะแผนหาเจ้าบ่าวของน้องหนูสองคนนี้นี่อ่านไปอมยิ้มไปได้ตลอดเรื่องเลยครับ นอกจากมุกขำๆ ฮาๆ ของสองแฝดแล้ว อีกเรื่องที่ได้จากการอ่านตอนนี้...โดยเฉพาะช่วงที่คุยกับคุณย่ากับผู้หญิงคนอื่นๆ...ก็คือ "ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ วุ้ย" แต่ก็ต้องเข้าใจละนะ ว่าสำหรับสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ผู้หญิงเป็นรองแบบนี้ จะเอาตัวรอดให้ได้ก็จำเป็นต้องใช้ทุกอย่างที่มี (เท่าที่ขอบเขตของจารีตประเพณีจะอำนวย) ในการทำให้ผู้ชายยอมสยบนั่นละ ที่เหลือก็รอดูตอนใหม่ในอีก 2 เดือนข้างหน้ากันละครับ ว่าจะแพนกล้องไปทางไหน ระหว่างคาร์ลุคกับอามีร่าที่แทบไม่มีบทในช่วงนี้ กับบักสมิธที่ติดแหง็กเป็นหมอกำมะลออยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ หรือว่าเรื่องของฝาแฝดทั้งสองที่ยังลุ้นอยู่ว่าจะเข้าวินกับใคร ระหว่าง "ใครก็ไม่รู้ที่อีหนูหามาเอง" กับ "เพื่อนสมัยเด็กทั้งสอง" (ว่าแต่หมู่นี้เค้าว่าตัวละครสายเพื่อนสมัยเด็กมักกินแห้วกันนะ เหอๆๆๆ ) เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับตอนนี้ 1. หมู่บ้านมูนัคอันเป็นฉากหลังของตอนนี้ เดาว่าน่าจะมาจากเมือง Mo‘ynoq ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมประมงของภูมิภาคนี้ แต่ปัจจุบันแทบกลายเป็นเมืองร้างไปแล้วเพราะการแห้งขอดของทะเลอารัล http://en.wikipedia.org/wiki/Mo%E2%80%98ynoq 2. ไข่ปลาคาเวียร์ที่น้องแฝดสองคนหามาในตอนนี้ เอามาจากปลาสเตอร์เจียนพันธุ์ Ship sturgeon หรือ Bastard sturgeon ซึ่งเป็นปลาสเตอร์เจียนที่อาศัยอยู่ในทะเลดำ ทะเลแคสเปียน และทะเลอารัล ปัจจุบัน Ship sturgeon พันธุ์ที่อาศัยอยู่ในทะเลอารัลสูญพันธุ์ไปจากโลกเรียบร้อยแล้ว ส่วนพวกที่อยู่ที่อื่นอย่างทะเลดำ ทะเลแคสเปียน หรือแม่น้ำดานูบเองก็อยู่ในขั้นวิกฤตแล้วเช่นกัน http://www.iucnredlist.org/apps/redlist/details/251/0 http://en.wikipedia.org/wiki/Bastard_sturgeon --------------------------------------- ภาพซ้ายคือป้ายชื่อเมือง Mo‘ynoq ส่วนภาพขวาคือภาพปลา Ship sturgeon หรือ Bastard sturgeon ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 19:08:43 แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 18:54:11 จากคุณ : Drake เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:53:11

ความคิดเห็นที่ 7 โอ๊ะเรื่องนี้ หายไปนานเลย เคยมีคนมาสปอย ให้อยากแล้วจากไปอยู่ ตอน1-2มั้ง มีตอนใหม่ๆและเดี๋ยวลองไปอ่านใหม่ดู จากคุณ : lukped เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:57:44

ความคิดเห็นที่ 8 เล่ม 2 ภาษาอังกฤษกำลังจะออกพอดี จากคุณ : ยังไง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 19:00:48

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่งเริ่มตามอ่านเรื่องนี้ได้ไม่นาน คนเขียนสุดยอดดดมากๆ รายละเอียดสุดยอด เขียนได้ไง ตอนอ่านแรกๆ ขนลุกเลย เส้นเนี้ยบมากๆ จากคุณ : [ my sugar cat ] เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 19:01:54

ความคิดเห็นที่ 10 เ้วรกรรมจริงๆ ไอ้เราก็อุตสาห์ลุ้นฮาเร็มสมิท  เมื่อไหร่จะรู้ผลฟะเนี่ย จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 19:05:01

ความคิดเห็นที่ 11 เอากิฟไปก่อนเลย เด๋วกลับมาอ่าน จากคุณ : momania เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 19:28:48

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องกระดาษกรีนรี๊ดเท่านั้นนะ SIC เรื่องนี้ จากคุณ : supatpit เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 19:58:04

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบผู้หญิงครอบครัวนี้จริงๆแฮะ สุดยอดกันทั้งสามรุ่นเลย จากคุณ : NetNN เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 20:16:06

ความคิดเห็นที่ 14 คุณพ่อน่ารักจัง บ้าพลังดี 55 จากคุณ : ทินา เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 15 รออีก2เดือนต่อไป จากคุณ : rame เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 22:14:18

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าผมเป็นคุณหมออ่ะจัดไปแล้ว   แต่พาหนีนะ  ไม่มีสินสอด   ฮา จากคุณ : แมวเหมียวร่าเริง เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 22:28:10

ความคิดเห็นที่ 17 ....อ่านตอนนี้แล้วอมยิ้มจริงๆแหะ ว่าแต่มันจะไปจบแบบไหนเนี่ยระหว่าง ก. สมิธไอ "คุกๆๆๆ" 2 เด้ง ข. เพื่อนสมัยเด็ก WIN!!! จากคุณ : peTOUCHso เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 23:23:04

ความคิดเห็นที่ 18 สมิทเข้าวินที่เต๊อะ เพิ่งช้ำใจมา ให้น้องฝาแฝดรักษาแผลใจ :D จากคุณ : heavendog เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 07:51:01

ความคิดเห็นที่ 19 เฮ้อ อยากอ่านรวมเล่มเร็วๆ จัง จากคุณ : g_maru เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 09:41:43

ความคิดเห็นที่ 20 สนุกดีครับ อยากหาอ่านเต็มๆตั้งแต่ตอน 1 เลย จากคุณ : salamander-x เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 14:24:22