PANTIP.COM : A11250830 สมัยก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์ใช้ (ซัก ปี 2510-2536) เค้าตัดต่อ ทำเอฟเฟก รายการทีวี โฆษณากันยังไงคับ [บันเทิงวิทยุ-โทรทัศน์]

ความคิดเห็นที่ 10

ถ้าเป็นโลกการ์ตูน สมัยต้นกำเนิด ใช้วิธีวาดลงแผ่นใส ทีละเฟรม
ทั่วไป 15ภาพต่อวินาที แต่การ์ตูนวอลดีสนี่ส์ ทำถึง 30ภาพต่อวินาที
ผู้คนจึงติดใจกับความละเอียด สมจริง มิกกี้เมาส์จึงดังไปทั่วโลก
แต่การนำไปฉาย เป็นเรื่องยุ่งยาก จำมีการนำมายิงลงแผ่นฟิลม์
ช่วงแรก ใช้วิธีเลื่อนแผ่นฟิลม์ด้วยมือ จึงเหมาะกับหนังสั้น ประมาณห้านาที
ยาวกว่านั้น คนหมุนฟิลม์จะหมดแรงก่อน ต่อมามีการพัฒนาเครื่องฉายหนังที่ไม่ต้องใช้คนหมุน
ทำให้มีหนังยาวออกมา ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ตอนนั้น ยังเป็นภาพขาวดำ และไม่มีเสียงพากย์ในฟิลม์

ทำให้เกิดทีมนักพากย์สด หนังกลางแปลง ทำเอฟเฟกเสียง ระหว่างฉายหนัง แล้วไปได้สวย
ธุรกิจละครวิทยุ จึงได้ถือกำเนิด พร้อมกับมีโฆษณา สมัยเด็กทุกบ้านเปิดแต่วิทยุ เพราะ
ทีวีจอขาวดำแพงมาก ต้องแอบขะเง้อดูข้างบ้านที่มี

ต่อมาในอเมริกา มีโรงถ่ายหนังที่รู้จักในชื่อ ฮอลลีวู้ด ผลิตหนังออกมา จำนวนมาก และธุรกิจ
ทีวีเริ่มบูม และผลิตทีวีสี ออกมา ในราคาไม่แพงมาก แต่บ้านผม พอมีตังค์ซื้อทีวีขาวดำ
ที่ราคาหล่นฮวบเท่านั้น เลยได้ดูอุลตร้าแมน ภาพขาวดำ

การถ่ายทำหนังพวกยอดมนุษย์ ก็จะมีทีมสร้างฉากจำลอง ให้เป็นตึก แล้วให้คนใส่ชุดสัปปะหลาดเดินเหยียบ แล้วทีมสร้างเอฟเฟก จุดระเบิด ให้เหมือนตึกโดนทำลาย
ยังเห็นเส้นลวด ตอนท่าปล่อยลำแสง ใช้พลุไฟวิ่งตามเส้นลวด มีโอกาสบาดเจ็บสูง ส่วนเอฟเฟกปล่อยลำแสง แบบปลอดภัย ต้องไปวาดเอาในฟิลม์ แล้วถ่ายซ้อนเข้าไปอีกครั้ง ส่วนหนังที่ทุนไม่สูง ใช้ถ่ายซ้ำ เร่งภาพ เดินหน้าย้อนกลับ สโลว์ภาพ ตัดต่อเข้าไป

หนังยอดมนุษย์ยุคแรก จึงต้องความสามารถของนักแสดง เล่นจริงเจ็บจริง ระเบิดจริง
ยิ่ง ไอ้มดแดงV5 ถือเป็นสุดยอดโคตะระ เปลืองระเบิด พระเอกบิดมอไซด์สุดชีวิต
ชักช้าผิดคิว ได้ลอยขึ้นฟ้า ตามแรงระเบิด ถัดมาขบวนการ5มนุษย์ไฟฟ้า ถือเป็นต้นแบบ
ความมันส์ เหล่าพระเอก ใช้ขวาน มีดไม้ปืน สนับ เหมือนยกพวกทะเลาะวิวาท ส่วนเหล่าร้าย
โหดกว่านั้น รถจิ๊ปติดปืนกลM60 บาซูก้า อาร์พีจี เพื่อแสดงความชอบธรรมให้เหล่าพระเอก
ใช้หุ่นยักษ์รวมร่างบุกเข้ากระทืบ

สำหรับในยุคที่เครื่องคอมยุคแรก เข้ามาช่วยงาน ทุกอย่างแพงไปหมด คอมที่จะมีแรมเยอะๆ
ก็เห็นมีแต่ระดับเซพเวอร์ UNIXเท่าั้นั้น ที่จะเอามาทำงานตัดต่อได้ เครื่องขั้นต่ำประมาณ50ล้าน
จึงกลายเป็นธุรกิจให้เช่าเซพเวอร์ ทำโรงตัดต่อ โรงอัดเสียง ในราคาค่อนข้างแพง ทำให้
นักร้อง นักแสดงยุคแรก มีคุณภาพมากไม่มีให้เล่นสนุก เพราะม้วนฟิลม์ราคาแพง ผู้กำกับจึง
ต้องเคี่ยว ศิลปินให้มีคุณภาพก่อนมาเข้ากล้อง

ส่วนการโฆษณาทางทีวี ก็สุดยอดจะแพง ดังนั้น ไม่มีเยิ่นเย้อ พูดห้วนๆ ขายสินค้าตรงๆ
ตัวเหม็นจังใช้สบู่ยี่ห้อนี้ซิ 5วินาทีก็หลายแสน ถ้าประหยัดการถ่ายทำ ก็ใช้รูปสินค้าแล้ว
พากย์ใส่เสียงลงไป ยังกะช่วงโฆษณาของเวทีมวย ให้ดารามาถือป้ายโฆษณา
ไม่ก็ชักชวนให้ซื้อกันตรงๆ เสร็จแล้วก็เล่นละครทีวีกันต่อ
---------------------------------------------------------------------------------
เรื่องราวการถ่ายโฆษณาของไทย ความเป็นมา เคยออกฉายทางThaipbs ผมเคยดูแล้ว
จำได้เลือนลาง ไม่ปะติดปะต่อเท่าไร

จากคุณ : archase

เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 07:26:25