เก็บมาให้อ่าน ย๊ง และ หนุ่มๆ เก่งจริงๆ ขอบคุณคนทรานที่แบ่งปันด้วยนะคะ
ว่าแต่ ยงฮวา: ตอนนี้คุณว่างมั้ย? ตั้งใจจะถามใครหรอย๊ง ^ ^
+++++++++++
[Trans] 111001 CNBLUE on B-PASS เราหวังว่าจะมีคนรู้จักเพลงของพวกเรามากขึ้น
Pic Scans : CNBurningHARU
Eng-Trans : CNBLove@cnbluestorm
Thai-Trans : Litadorable@twitter
Shared : bluepinksub
Re-Post : YonGade@CNBLUETHAILAND
http://www.cnbluethailand.com
PLEASE TAKE OUT WITH FULL CREDITS !!
นิตยสาร B-PASS
December 2011 Issue
CNBLUE ~In My Head~
CNBLUE เป็นวงดนตรีจากเกาหลีที่มีมือกีตาร์และนักร้องสองคน จากที่ผ่านการแสดงสดในคลับและตามท้องถนนทำให้พวกเขาได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากมาย ในที่สุดพวกเขาก็ได้เดบิวต์ด้วยเพลง In My Head เราจะมาคุยกับพวกเขาในเรื่องการทำงานและการแสดงคอนเสิร์ตอินดี้ครั้งสุดท้ายที่โยโกฮ
าม่า อารีน่า
ยินดีด้วยในที่สุดก็ได้เดบิวต์แล้ว! คุณทำงานอินดี้มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ในตอนนั้นคุณเคยคิดบ้างมั้ยว่าจะได้เดบิวต์?
ยงฮวา: เราแสดงสดกันบนถนนหลายครั้งมากๆในปี 2009 ตอนที่เราแสดงกันที่โยโยกิ ปาร์ค ซึ่งข้างๆนั้นเป็นโยโยกิTaiikukan เราก็มักจะมองไปที่นั่นแล้วก็คิดว่า เราอยากจะจัดการแสดงสดในสถานที่แบบนั้นบ้าง ในตอนนั้นเราก็แค่ฝันลมๆแล้งๆ
จงฮยอน: ตอนที่เราแสดงสดกันบนถนนที่โยโยกิ ปาร์ค และผมเห็นผู้คนมากมายที่จะไปโยโยกิTaiikukanผ่านเราไป ผมก็นึกในใจว่า วันนี้คงมีคอนเสิร์ตของใครสักคนสินะ พวกเขามีแฟนเพลงเยอะจัง
ผมคิดว่า จะมีวันที่เราได้ไปยืนบนเวทีนั้นไหม? เมื่อไหร่กันนะ?
มินฮยอก: ในตอนนั้น เรื่องที่เราจะได้เดบิวต์เร็วๆหรือเปล่ามันไม่ใช่ประเด็น แต่พอเราได้เห็นการแสดงสดมากมายรอบๆตัว เราก็คิดว่า เราอยากจะแสดงสดในที่แบบนี้ เราจะทำได้ไหม? ผมคิดแต่เรื่องการแสดงคอนเสิร์ต
จองชิน: ผมก็เหมือนกัน ผมแค่แสดงให้เต็มที่เพราะผมอยากให้มีคนมาดูการแสดงสดของเรามากที่สุดเท่าที่จะมากได้
มากกว่าที่จะไปคิดเรื่องการได้เดบิวต์หรือการเป็นวงอินดี้ในตอนนั้น
-CNBLUE มักจะกล่าวว่า เราได้เรียนรู้มากมายจากวงการดนตรีของญี่ปุ่น คุณเจาะจงลงไปหน่อยไหมว่าได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
ยงฮวา: ผมคิดว่าวงการดนตรีญี่ปุ่นมีความเป็นอิสระมากและก็มีวงดนตรีเด่นๆหลายวงที่เทรนด์ไม
่ได้มีผลต่อวงของเขา แค่ได้เห็นวงดนตรีอันหลากหลายก็มีเรื่องให้เรียนรู้อีกมากมาย
จงฮยอน: สำหรับผม ผมได้เรียนรู้พื้นฐานของวงดนตรีในญี่ปุ่น ตอนที่ผมเริ่มต้นในฐานะของวงอินดี้ ผมได้รู้ว่าควรจะฝึกซ้อมเล่นเครื่องดนตรีอย่างไรจากการได้ดูวงดนตรีอื่นๆรอบๆเรา
- คุณได้เรียนรู้อะไรจากการแสดงสดเหล่านั้น?
จองชิน: ยิ่งเราแสดงสดกันมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งค่อยๆแสดงเข้ากับผู้ชมได้มากขึ้น นอกจากนี้ตอนที่เราเตรียมตัวสำหรับการทัวร์ เราก็ได้เรียนรู้เทคนิคที่ใช้กับเครื่องดนตรีมากขึ้นด้วย
จงฮยอน: ผมได้รักษาหุ่นดีๆไว้ด้วยตอนที่พวกเราไปทัวร์กัน ผมไม่รู้ตัวจนกระทั่งผมเริ่มที่จะออกทัวร์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการก้าวเดิน ถ้าผมหักโหมเกินไป ผมก็จะแสดงไม่ไหวในวันถัดไป
- ว่าแต่ คุณได้รับคำแนะนำอะไรจากวง FTISLAND ซึ่งอยู่สังกัดเดียวกับคุณและเดบิวต์ก่อนคุณบ้างไหม?
มินฮยอก: พวกเราคุยกับแจจิน(มือเบส)บ่อยมาก เพราะว่าทั้งจองชินและผมก็อายุเท่ากับเขา
จองชิน: พวกเขาเป็นวงดนตรีรุ่นพี่สำหรับพวกเรา แต่พวกเราอายุเกือบจะเท่าๆกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แจจินบอกผมเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆของพวกเขาในญี่ปุ่น เขาแนะนำให้ผมทำให้ดีที่สุดเวลาแสดงสด รวมไปถึงให้ความสำคัญการโปรโมทด้วยเพราะจะทำให้คนรู้จักวงของเรามากขึ้น
- มาพูดเรื่องเพลงเดบิวต์กันบ้างดีกว่า อย่างแรกเลย คุณแต่งเพลงทั้ง 3 เพลงนั้นยังไง?
ยงฮวา: ผมเขียนเพลง In My Head ไว้นานแล้ว ส่วนอีก 2 เพลงนั้นเป็นเพลงที่เขียนให้เหมาะกับคอนเส็ปของแต่ละเพลง
คุณเขียนเพลง In My Head ตั้งแต่เมื่อไหร่?
จงฮยอน: ผมว่าน่าจะช่วงต้นปีที่แล้วมั้งครับ
ยงฮวา: ผมว่าเป็นช่วงที่เราโปรโมทเพลง Im A Loner ในเกาหลี ใช่ครับ ตั้งแต่เดือนมกราคม!
- ทำไมคุณถึงเขียนเพลงนี้หลังจากที่เดบิวต์ในเกาหลี แล้วยังเป็นช่วงที่ยุ่งมากๆด้วย?
ยงฮวา: ผมมักจะเขียนเพลงเก็บไว้เรื่อยๆนะครับ
จงฮยอน: ไอเดียคร่าวๆถูกเขียนออกมาตอนที่เรากำลังโปรโมทเพลง Im A Loner แต่เราก็ยุ่งมากขึ้นอีก เลยได้แต่ทิ้งไว้ทั้งที่ยังไม่เสร็จดีแบบนั้น หลังจากนั้นผมก็บอกกับยงฮวาว่า เพลงนี้ค่อนข้างดีทีเดียว ทำไมนายไม่ลองมาเรียบเรียงดูใหม่ล่ะจากนั้น มันก็กลายมาเป็นเพลงเดบิวต์ในเวอร์ชั่นที่เสร็จสมบูรณ์
มินฮยอก: ผมจำได้ว่าตอนที่ผมฟังเพลงนี้ครั้งแรก ผมก็คิดว่าจะตีกลองจังหวะไหนดี แล้วก็ตีกลองไปตามทำนองเพลง
จองชิน: ผมจำได้ว่าพูดว่า เพลงเพราะดี ทันทีที่ผมได้ฟัง ผมอยากจะทำเพลงนี้สมบูรณ์และให้มันเป็นเพลงหลักของเรา ผมดีใจที่เพลงนี้กลายมาเป็นเพลงเดบิวต์
- คงเป็นโชคชะตาแน่ๆ ที่เพลงที่คุณแต่งตอนเดบิวต์ที่เกาหลีกายมาเป็นเพลงเดบิวต์ที่ญี่ปุ่น
ยงฮวา: ถ้าลองมาคิดดูแล้ว ใช่ครับ ก็คงจะเป็นอย่างนั้น มีตั้งหลายเพลงให้เราเลือก แต่เพลงนี้กลับเป็นเพลงที่พวกเราเลือกให้เป็นเพลงเดบิวต์ คงเป็นบางอย่างที่มีอิทธิพลแรงกล้า เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและภาพพจน์ความเป็นร็อค
จงฮยอน: เพลงนี้ถูกเรียบเรียงใหม่ถึง 3 ครั้งก่อนที่เราจะอัดเสียง
ยงฮวา: ตอนแรก มีทำนองคร่าวๆที่เราแต่งไว้ก่อนแล้ว จากนั้นก็มาปรับให้เป็นทำนองแบบหนักๆ แล้วเราก็ปรับให้เป็นทำนองแบบเบาๆ ด้วย ลองอยู่หลายอย่าง สุดท้ายเราก็เลือกอันที่เราคิดว่าเจ๋งที่สุดมาอัดเสียง
- พูดถึงเรื่องเนื้อเพลง In My Head รู้สึกว่ามีท่อนที่ต้องร้องตามให้ตรงจังหวะด้วย ยากไหม?
ยงฮวา: ท่อนที่ร้องว่า Setunakumo Amai Negai~ใช่มั้ยครับ? มีแต่คำทั้งนั้นเลย ยากมากๆที่จะแยกร้องให้ตรงตามจังหวะ
จงฮยอน: ในทางกลับกัน ผมว่าภาษาญี่ปุ่นน่าสนใจนะครับ
ยงฮวา: ยากมากๆเลยตอนที่พวกเราอัดเพลงนี้ แต่ตอนนี้ปากผมชินกับมันซะแล้วKiramekini Furetai~, Setunakumo Amai Negai~แบบนี้อ่ะครับ(ยิ้ม)
จองชิน: Burerukotonai Kibouyo~ (ร้องบ้าง แต่ก็เอาชนะยงฮวาไม่ได้) ผมทำไม่ได้อ่ะ ปากผมร้องตามไม่ทัน (หัวเราะ)
- แล้วเพลงที่สองที่ยงฮวาแต่งทั้งเนื้อร้องและเรียบเรียงล่ะ Mr. KIA (Know It All) ชื่อเพลงน่าสนใจมากๆ
ยงฮวา: เมืองนอกมักจะย่อภาษาอังกฤษให้มันสั้น ผมก็เลยลองบ้าง
- Rain of Blessing ที่จงฮยอนแต่ง เป็นเพลงเบาๆ
จงฮยอน: ผมหาทำนองเพลงที่เคยแต่งไว้ไม่เจอ ก็เลยแต่งใหม่ด้วยความรีบ ผมดูละครและภาพยนตร์เยอะมาก ใส่อารมณ์ไปเยอะๆแล้วก็เริ่มแต่งใหม่
- คุณดูละครหรือภาพยนตร์เรื่องอะไรบ้าง?
จงฮยอน: ผมดูเรื่อง Bara No Nai Hanaya (ร้านดอกไม้ที่ไร้ดอกกุหลาบ) Sekai no Chushinde Ai wo Sakebu (เรียกร้องหาความรัก ในใจกลางของโลก) ผมเลือกเรื่องที่ค่อนข้างจะโหยหาความรักมาดู ผมดูละครและภาพยนตร์ญี่ปุ่นทุกครั้งที่ผมแต่งเพลง ผมว่าเพลงหรือแผ่นเสียงเป็นหนึ่งในเรื่องราวพวกนั้น
- แล้วเรื่องราวอะไรที่อยู่ในเพลงเดบิวต์อย่างเพลง In My Head?
ยงฮวา: In My Head คือการมีเป้าหมายและทำเพื่อก้าวไปสู่อนาคต Mr.KIA (Know It All) เป็นการบอกว่าอย่าได้ลืมความตั้งใจอันแรงกล้าที่มีในตอนแรกเวลาที่เราไปไม่ถึงเป้าหม
าย Rain of Blessing เป็นการจบลงด้วยความประทับใจที่โอบกอดความรู้สึกต่างๆเอาไว้ เรื่องราวก็เป็นไปตามนี้แหละครับ
จงฮยอน: ที่สำคัญก็คือได้แสดงให้เห็นว่า CNBLUE มีสไตล์เพลงที่แตกต่างกันออกไป เหมือนอย่าง 3 เพลงนั้น
- มาพูดถึงเรื่องคอนเสิร์ตที่โยโกฮาม่า อารีน่า ที่จบไปด้วยความสำเร็จเมื่อวานนี้ดีกว่า คุณได้ดูวีดีโอก่อนหน้านี้แล้วใช่มั้ย?
ยงฮวา: ยอดเยี่ยมมากๆครับ
จองชิน: ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราได้แสดงต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น ผมรู้สึกแบบ เป็นพวกเราจริงๆเหรอ?
จงฮยอน: ผมกังวลว่าอะไรต่างๆจะเป็นไปอย่างไม่น่าพอใจหลังจากที่เราแสดงคอนเสิร์ตจบ แต่พอผมได้ดูวีดีโอแบบไม่ได้ลำเอียงเลยนะ
บรรยากาศดีสุดๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าผมสามารถทำได้ดี
มินฮยอก: โดยเฉพาะครั้งนี้ เราเข้ากันกับผู้ชมได้ดีมากๆ
- ในเมื่อมันเป็นคอนเสิร์ตอินดี้ครั้งสุดท้ายเพื่อที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ ฉันเดาว่าสมาชิกแต่ละคนคงมีความเปลี่ยนแปลงหรือโตขึ้นบ้าง ถ้าคุณมองย้อนกลับไปในตอนนี้ บอกเราหน่อยได้ไหมว่าสมาชิกคนที่นั่งข้างๆคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง!
ยงฮวา: จงฮยอนเหรอ เทคนิคการเล่นกีตาร์เขาดีขึ้น การแสดงบนเวทีก็พัฒนาขึ้นมาก อ๊า! ภาษาญี่ปุ่นเขาก็ดีขึ้นด้วย
จงฮยอน: เป็นเพราะผมดูละครญี่ปุ่นเยอะ (ยิ้มอายๆ) สำหรับจองชิน แค่ยืนตามธรรมชาติของเขาก็ดูเท่แล้ว มีบางครั้งที่มือเบสเล่นเบสขนาดใหญ่อย่างเห็นได้ชัด แต่นี่เบสเหมาะพอดีกับตัวของจองชิน แปลว่าทักษะการแสดงดนตรีของเขาเพิ่มขึ้น
จองชิน: มินฮยอกฝึกซ้อมอย่างตั้งใจเสมอแม้ว่าเขาจะยุ่งกับการถ่ายละครที่เกาหลี ผมประหลาดใจกับความสามารถในการเรียนรู้และประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาต้องทำ แม้จะในช่วงเวลาอันสั้น
มินฮยอก: ผมคิดว่าพี่ยงฮวาเป็นคนสุดยอดมากๆ ควบคุมทั้งพวกเราและผู้ชมในได้ทุกสถานการณ์เวลาที่เขาขึ้นไปอยู่บนเวที การได้เห็นสมาชิกอีก 3 คนจากจุดที่มือกลองนั่ง ทำให้ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นเขาสนุกกับช่วงเวลาของพวกเขา
- ทำไมอยู่ๆยงฮวาก็ให้ผู้ชมเล่นเลฟกันในครึ่งหลังของการแสดง?
ยงฮวา: ฮี่ๆๆ (ยิ้มระลึก) อยู่ผมก็อยากจะเล่น ผมเลยวางกีตาร์ลงแล้วก็ชวนผู้ชมให้เล่นเลย
จงฮยอน: ผมนึกว่าเราจะเล่นเพลงต่อไปกัน แต่ยงฮวาวางกีตาร์ลง ตอนนั้นผมก็คิดแล้วว่า เกิดอะไรขึ้น!? เขาเริ่มเล่นเวฟไปพร้อมๆกับผู้ชมโดยไม่บอกกล่าวเลย ผมประทับใจมากๆ
มินฮยอก: ผู้ชมกลายเป็นหนึ่งเดียว!
- พวกคุณจะเริ่ม ZEPP Tour ช่วงสิ้นปี แล้วก็เป็น ZEPP Tour ครั้งที่ 2 ของคุณ สำหรับคุณแล้วคำว่า ZEPP หมายถึงอะไร?
ยงฮวา: ZEPP เป็นสถานที่ที่เราเรียนรู้ได้มากมาย การได้ยืนบทเวทีมากเท่าที่เราทำได้นั้นน่าสนใจยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น พวกเราคิดว่า ZEPP Tour เป็นสิ่งที่ค่อข้างจะจำเป็น
จงฮยอน: พวกเราแสดงเวทีใหญ่ๆมาเยอะแล้วในช่วงนี้ เราอยากจะแสดงในสถานที่แบบ ZEPP บ้าง ที่ซึ่งมีสต๊าฟรอบๆตัวเราและเราก็จะได้สื่อสารกันอย่างใกล้ชิด ผมชอบความใกล้ชิดและขนาดแบบนั้น
- ถ้าอย่างนั้นคุณจะก็มีทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่ โยโยกิ Taiikukan
ยงฮวา: ผมมีความสุขมากๆกับคอนเสิร์ตที่โยโกฮาม่า อารีน่าเมื่อวานนี้ ผมเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเพราะว่าคราวหน้าผมก็จะได้แสดงที่โยโยกิ Taiikukanแล้ว ที่ที่พวกเราเอาแต่มองเตอนแสดงอยู่ริมถนน ผมคิดแค่ว่าเราต้องพัฒนาทักษะให้มากขึ้นแล้วแสดงออกมาให้เห็นบนเวที
จงฮยอน: ผมยังไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะได้ไปยืนบนเวทีที่โยโยกิ ที่ที่ผมใฝ่ฝันนั้น ไม่จริงมั้ง
ยงฮวา: ถ้าความฝันของผมเป็นจริง ผมอยากจะแสดงที่โตเกียวโดมปีหน้า! แล้วก็อยากจะแสดงที่บูโดกันในฐานะของวงดนตรีด้วย ส่วนที่สุดท้ายก็จะเป็นที่โตเกียวทาวเวอร์ (สมาชิกทั้งหมดหัวเราะ)
จงฮยอน: แล้วผู้ชมจะไปอยู่ที่ไหนล่ะถ้างั้น?
ยงฮวา: ผมอยากจะให้เขาดูเรายู่ข้างล่างผ่านจอ อ้อ แล้วก็มี sky Tree ด้วย
- ที่นัมซานทาวเวอร์ในกรุงโซลเป็นไง?
ยงฮวา: คงมีคนไปดูเรานิดเดียวเพราะว่ามันอยู่บนยอดเขา (หัวเราะ)
จงฮยอน: งั้น ที่ตึก 63 เป็นไง? (ตึกที่ใหญ่ที่สุดในโซล) เราแสดงบนหลังคาตึกแล้วก็ใช้ตัวตึกทั้งหมดเป็นฉากที่ใช้ถ่ายทอด!
ยงฮวา: เราขึ้นไปบนหลังคาตึก 63 ไม่ได้หนิ (ความจริงอันแปลกประหลาด)
มินฮยอก: มีที่ไหนที่สูงกว่านี้อีกมั้ย?
ยงฮวา: สุดท้ายจะเป็นที่อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพที่นิวยอร์ค (ทั้งหมดฮาแตก) เอาตรงที่เทพีถือไฟ
- มีอนุสาวรีย์เทพีเสรีที่โตเกียว โอไดบะ ด้วยนะ
ยงฮวา: ไม่เอาอันนั้นสิ! (หัวเราะอย่างไม่สบอารมณ์) เอาอันที่อยู่ที่นิวยอร์ค!
จองชิน: เราต้องฝันให้สูงงง
ยงฮวา: ใช่เลย ถ้างั้นก็ที่โตเกียวทาวเวอร์ จากนั้นก็ที่อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โอเคนะสต๊าฟ!!
คำถามและคำตอบจาก In My Head
Q1. อะไรอยู่ในหัวคุณมากที่สุดในตอนนี้?
ยงฮวา: ฝึกซ้อม ฝึกซ้อม ฝึกซ้อม ฝึกซ้อม
จงฮยอน: CNBLUE ฝึกซ้อม การแสดงสด กีตาร์ เพลง จำเนื้อเพลง
ผมยุ่งเกินกว่าจะคิดอย่างอื่นแล้ว
จองชิน: CNB
(แค่เขาเริ่มอ้าปากพูด ยงฮวาก็พูดขึ้นมา) จองชินไม่เคยคิดถึงเรื่องอะไรทั้งนั้น (หัวเราะ) คิดสิ! คิดเรื่องของวง!
มินฮยอก: ผมอยากจะพัฒนาทักษะของตัวเอง อยากจะทำให้ดีที่สุดทั้งการแสดงและการพูดคุย
Q2. ช่วงนี้คุณฝันถึงอะไร?
ยงฮวา: ผมเอาแต่ฝันถึงอะไรน่ากลัวๆ ผมมักจะฝันว่าถูกไล่ล่าแล้วก็วิ่งหนี บางทีอาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ผมยุ่งมากๆก็ได้
จงฮยอน: ผมพยายามจำเนื้อเพลงแม้แต่ในฝันก็เถอะ (หัวเราะ)
จองชิน: ผมมักจะฝันถึงชีวิตในวัยเรียน
มินฮยอก: ฝันร้ายครับ ผมฝันไม่ค่อยบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ผมฝันว่าผมล้มเหลวในอะไรบางอย่างหรือฝันว่าอะไรๆก็ไม่เป็นไปด้วยดี
Q3. ภาษาญี่ปุ่นคำไหนที่คุณสนใจ?
ยงฮวา: Ima Hima? (คุณว่างมั้ย?) เป็นอะไรที่แว้บเข้ามาให้หัวผม ผมอยากจะให้ได้เต็มที่
บก.: มันเป็นมุขหรือเปล่า? เอาไว้จีบสาว
ยงฮวา: โอ้ ถ้างั้น คงไม่ดีเท่าไหร่
บก.: โอ้ แต่ว่าพวกเราก็ใช้กันในชีวิตประจำวันด้วยเหมือนกัน
ยงฮวา: ตอนนี้คุณว่างมั้ย? (หันไปจีบจงฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆ)
จงฮยอน: Samazama na (หลากหลาย) ผมเรียนรู้ว่าคำนี้เหมือนกับคำว่า Iroiro na ที่ใช้ในคอนเสิร์ตของพวกเราเมื่อวานนี้
จองชิน: (หลังจากได้ยินยงฮวาพูดอย่างนั้น) Ocha Shinai? (อยากไปดื่มชาด้วยกันมั้ย?) (จีบยงฮวา)
มินฮยอก: Guruguru (หมุน) เวทีที่โยโกฮาม่า อารีน่ามันหนุน
ส่งตรงจากเวทีคอนเสิร์ตของ CNBLUE ปล่อยเพลงในอัลบั้มที่ 2 ~392~ @ โยโกฮาม่า อารีน่า, 25 ตุลาคม 2011
CNBLUE ยืนอยู่บนเวทีที่ โยโกฮาม่า อารีน่า สำหรับการแสดงคอนเสิร์ตอินดี้ครั้งสุดท้าย ตอนที่สมาชิกแต่ละคนขึ้นมาบนทางเดินที่พาดยาวมาจากมุมทั้ง 4 มุม มุ่งหน้าไปสู่กลางเวที ก็มีเสียงเชียร์ดังขึ้นมาทันทีจากเหล่าผู้ชม
สำหรับเวทีใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาก็ยังแสดงสีหน้าที่แน่นิ่ง ผู้ชมค่อยๆร้อนขึ้นจากการแสดงแบบ nonstop ของพวกเขา เราจะสละทุกอย่างเพื่อพวกคุณในคอนเสิร์ตวันนี้! ยงฮวาให้คำมั่นกับผู้ชมและจงฮยอนก็กล่าวว่า ผมจะวางชีวิตของผมไว้บนเวทีนี้!
เริ่มต้นด้วยเพลง Im A Loner ซึ่งโด่งดังเป็นอย่างมากที่เกาหลี ตามมาด้วยเพลงต่างๆของพวกเขาที่ดังในเกาหลี
ยงฮวากระตุ้นผู้ชมด้วยท่อนแร็ปราวกับรัวกระสุน ในเพลงบัลลาด เสียงใสๆของจงฮยอนได้โอบกอดผู้ชมเอาไว้ และพวกเขาก็เล่นเพลง Man in front of the Mirror ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้มล่าสุด 392 เป็นครั้งแรก เวทีกลมๆนี้เหมือนกับแผ่นดิสก์ที่หมุนไปเรื่อยๆ สมาชิก CNBLUE ก็วิ่งไปรอบๆ ดูเหมือนกับเป็นสิ่งดึงดูกหลักในสวนสนุก
พวกเขาเซอไพร้ซ์ผู้ชมด้วยการเล่นท่อนฮุกเพลง In My Head ตอนที่แฟนๆร้องของอังกอร์ จากนั้นก็จบลงด้วยเพลง a.ri.ga.tou. ซึ่งพวกเขาร้องออกมาจากใจร่วมกันกับผู้ชม เป็นเหมือนกับ วันก่อนวันเดบิวต์จริง ตอนที่ฉันเห็นว่าผู้ชมตื่นเต้นทั้งหมดกันขนาดไหนในวันนั้น