ความคิดเห็นที่ 1           ในแต่ละตอนจะบอกเล่าถึงชีวิตแต่ละแบบของเขาที่เริ่มใหม่และเปลี่ยนชมรมไปเรื่อยๆ แต่ก็มิวายจบลงด้วยเหตุการณ์แย่ๆเช่นเดิม โดยเนื้อเรื่องนั้นจะเล่าผ่านมุมมองของตัวเอกซึ่งเราจะไม่รู้ชื่่อของเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนใหญ่จะเป็นความคิดในหัวซึ่งบอกได้เลยว่าไอนี่ต้องมีมันสมองพอตัวทีเดียว (คนอ่านซับก็ต้องใช้สมองเช่นกัน) ตัวละครในเรื่องมีไม่มากซึ่งก็จะออกมาในแทบทุกตอนเพียงแต่ในบทบาทที่เปลี่ยนไป ผมคิดว่าสิ่งที่เจ๋งของเรื่องนี้คือวิธีการดำเนินเรื่อง ที่ดูเหมือนแต่ละตอนจะขาดออกจากกัน แต่ในท้ายที่สุดเราจะรู้ว่าในแต่ละตอนนั้นมีความเชื่อมต่อ ความสัมพันธ์กันอย่างดี สไตล์ของภาพเป็นสิ่งที่โดดเด่นของผู้กำกับคนนี้เสมอมา มีการใช้ภาพจริงร่วมกับภาพวาดซึ่งให้อารมณ์ที่ดูจริงขึ้น หรือการใช้สีที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ตามอารมณ์ในขณะนั้น ก็ช่วยทำให้ฉากของเรื่องเกิดโทนที่หลากหลาย จากคุณ : VerticalheartDoing เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 01:05:53

ความคิดเห็นที่ 2           เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนทางเลือกอีกเรื่องหนึ่งทีใครอยากหาอะไรใหม่ๆมากระตุ้นแรงบันดาลใจน่าจะชอบกัน ดูเรื่องนี้ก็พบว่าการสื่อสารที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดความแตกต่างได้มากจริงๆ คิดว่าถ้าเกิดเรื่องนี้เสนอด้วยภาพอีกสไตล์หนึ่งก็คงได้อารมณ์ที่ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ การ์ตูนเรื่องนี้มีสาระ ใครดูจนจบก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเอกเลย ที่เหลือแต่ละคนก็ต้องเก็บเกี่ยวเองแล้วล่ะ สนใจดูเทรลเลอร์ที่นี่ฮะ เขียนลงในบล็อกของผมเองครับ http://tototoe123.** ไม่ใช่ลิควิด **  จากคุณ : VerticalheartDoing เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 01:09:48

ความคิดเห็นที่ 3 ทำไมชื่อบล็อกกลายเป็นยังงั้นหว่า งั้นกดตรงนี้ละกันครับ จากคุณ : VerticalheartDoing เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 01:16:13

ความคิดเห็นที่ 4 ออ ไอเรื่องนี้เอง ผมขอสารภาพว่าผมดูตอนที่ 1 ไม่จบด้วยซ้ำครับ แหะๆ ไม่ใช่เพราะว่ามันน่าเบื่อจนทนไม่ไหวหรืออะไร แต่เพราะตัวละครพูดรัวมากๆๆๆๆ ซับนี่แวบมาแล้วก็ไป อย่างไว บางทียังอ่านไม่จบก็ขึ้นประโยคใหม่ซะละ( ก็เข้าใจว่าต้องให้ทันกับที่ตัวละครพูด แต่การฟังมันง่ายกว่าอ่านนะ แต่ผมฟังญี่ปุ่นได้เฉพาะอะไรพื้นฐานๆน่ะ -*- ) จนต้องกด pause เพื่ออ่านให้จบประโยคก่อนซะหลายที มันทำให้ดูไม่ต่อเนื่อง เลยคิดว่าถ้าต้องทำแบบนี้ไปซะทุกตอน คงจะไม่สนุกละ พอแค่นี้แล้วกัน น่ะครับ ส่วนเนื้อเรื่องนี่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะชอบไหม แต่ผมชอบ drrr, Baccano!, Utena, Mononoke อะไรแบบนี้นะ คิดว่าน่าจะคล้ายๆกัน( หรือเปล่า? ) แต่ต้องยอมแพ้กับสปีดการพากย์จริงๆครับ จากคุณ : Glacial เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 04:27:36

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งสังเกตว่าพระเอกไม่มีชื่อแฮะ จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 12:48:59

ความคิดเห็นที่ 6 จะว่าไปก็นึกชื่อพระเอกไม่ออกเหมือนกันแฮะ ขนาดดูจนจบ - -" @คห.4 ชอบ Baccano! เหมือนกันครับแต่หาคนคุยยากจริง ขนาดชวนเพื่อนตั้งแต่อยู่ ม.5 จนมหาลัยปี 2 เพื่อนผมก็ยังไม่ดูเป็นเพื่อนเลย 55 ส่วนเนื้อเรื่องผมว่าต้องลองตอนดูครั้งแรก ก็ดูไม่จบเหมือนกัน แต่พอขึ้นปี1 ก็ลองดูอีกครั้ง ผมกลับดูจนจบเลยครับ สงสัยมีแรงขับเคลื่อนด้วยละ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 54 14:42:19 จากคุณ : เหวยDude เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 14:41:42

ความคิดเห็นที่ 7 55+ ตอน ss ที่มันฉายนี่หาคนคุยด้วยไม่ได้เลย ตอนแรกเฉย ๆ นะ แต่ดูต่อเพราะชอบ op จากคุณ : Parkja เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 14:45:22

ความคิดเห็นที่ 8 #4 ฮ่าๆ จริงครับคำพูดมันรัวมากจริงๆ จนบางทีมัวแต่อ่านซับไม่ทันได้ดูรูปเลย ถ้าเปลี่ยนเป็นฟังแทนคงได้อรรถรสขึ้นอีกเยอะเลย ส่วนเรื่องอื่นที่คุณพูดมาผมไม่เคยดูเลยครับ เคยเห็นแวบๆเรื่อง mononoke เหมือนกันที่เกี่ยวกับคนขายยาปะครับ ภาพมันดูแปลกๆดีเหมือนกัน ส่วนเรื่อง Baccano! นี่เพิ่งไปอ่านเรืองย่อมาดูน่าสนใจดี ไว้ทีหลังจะลองหามาดูฮะ จากคุณ : VerticalheartDoing เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 00:14:17

ความคิดเห็นที่ 9 #8 ใช่ครับ Mononoke เกี่ยวกับคนขายยา ภาพออกแนวอาร์ทๆใส่ pattern เยอะๆ เนื้อเรื่องนี่ออกแนวซิมโบลิกเล็กน้อยถึงปานกลาง ปริศนานิดนึง ผมเลยคิดว่าสองเรื่องนี้น่าจะมีจุดร่วมอยู่บ้าง จากคุณ : Glacial เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 07:52:01

ความคิดเห็นที่ 10 น่าดูๆ จากคุณ : holic-moment เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 23:13:07