Memento(2000)
แผลลึกที่ไร้ทางลบเลือน
เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์
ทันทีที่ภาพยนตร์เรื่อง Memento ออกฉายในปี ค.ศ. 2000 เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญในรูปแบบการนำเสนอที่แหวกแนว ล้ำลึก ซับซ้อน หักมุม ยากต่อการตีความ
ส่งผลให้ผู้กำกับหนุ่ม คริสโตเฟอร์ โนแลน โด่งดังและได้รับการจับตามองเพียงชั่วข้ามคืน และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นสะพานเชื่อมเขาสู่ ผู้กำกับชั้นแนวหน้าระดับโลกในเวลาต่อมาอีกด้วย
Memento นั้นมีพล็อตเรื่องแสนง่าย แต่สไตล์การนำเสนอของโนแลนนั้นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันไม่รู้จบ หาน้อยคนนักที่จะชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงรอบเดียวแล้วเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งกับสิ่งที่โนแลนต้องการนำเสนอ
วิธีการเล่าเรื่องจากหลังมาหน้า แล้วตัดคั่นด้วยการเล่าเรื่องจากหน้ามาหลัง ทำให้ยากนักที่สมองของคนปกติ จะสามารถสลับสับเปลี่ยนหน้าที่กันได้ทันในการสร้างจินตภาพในหัวของผู้ชมได้
หรือโนแลนกำลังใช้หลักจิตวิทยาเข้ามากลั่นแกล้งผู้ชมในการรับชมภาพยนตร์ของเขา ทั้งสมองส่วนความจำ ทั้งสมองส่วนการรับรู้ ถูกสลับสับเปลี่ยนกันทำหน้าที่อย่างไม่รู้จักจบสิ้น
อาจเป็นไปได้ที่โนแลนใช้วิธีการเช่นนี้เพราะต้องการให้ผู้ชมเป็นเสมือน เลนเนิร์ด(Guy Pearce) ตัวละครหลัก ที่มีความผิดปกติทางสมองซึ่งไม่สามารถสร้างความทรงจำใหม่ๆได้หลังจากถูกคนร้ายบุกเข้ามาฆ่าข่มขืนภรรยา กระทั่งทำให้เขาถูกทำร้ายจนสมองกระทบกระเทือนอย่างหนัก
ไม่แน่ชัดว่าเวลาเลยผ่านไปนานแค่ไหน สิ่งเดียวที่รบกวนจิตใจเลนเนิร์ดนั่นก็คือการล้างแค้นให้ภรรยาสุดที่รักของเขา
Mementoนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆให้คนดูรับชม ส่วนที่ 1 ภาพสีที่เล่าย้อนจากหลังไปหน้า และส่วนที่ 2 ภาพขาวดำเล่าจากหน้าไปหลัง
ถ้าหากพูดถึงแง่ของการให้ความหมายในเรื่องแล้ว ส่วนที่ 1 มักจะถูกพูดกันถึงมากเพราะเป็นส่วนสำคัญในการลำดับเรื่องราว ซึ่งผู้ชมอาจต้องดูรอบที่ 2 ขึ้นไป เพื่อให้เข้าใจในเรื่องราว ปะติดปะต่อเหตุการณ์ต่างๆนานา เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ (เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ไม่มีผิด)
แต่จะละเลยในส่วนที่ 2 ไม่ได้ เพราะส่วนที่ 2 แม้เหตุการณ์จะไม่วกวน เลนเนิร์ดคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องตลอด แต่นั่นเป็นข้อมูลสำคัญซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่า เลนเนิร์ด ได้หลงลืมไปแล้ว แต่สำหรับผู้ชม ข้อมูลตรงนี้คือที่มาที่ไปที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปะติดปะต่อเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน
ซึ่งบทความนี้ผู้เขียนจะให้ความสำคัญไปกับส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องใช้การวิเคราะห์ตีความอย่างยิ่งยวด และด้วยวิธีทางของหนังที่ไม่ได้เฉลยข้อเท็จจริงที่เป็นจริงที่สุด ทำให้เกิดการตีความแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ทำให้การวิเคราะห์ในบทความนี้อาจจะทำให้ผู้อ่านเกิดความไม่เชื่อถือขึ้นได้
ผู้เขียนขอให้เข้าใจก่อนว่าวิธีการที่ผู้เขียน คิดหรือ ตีความ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว หากเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน หวังว่าผู้อ่านจะยอมรับในความแตกต่างนี้ได้
จากคุณ |
:
A-Bellamy
|
เขียนเมื่อ |
:
วันลอยกระทง 54 15:15:26
|
|
|
|