ความคิดเห็นที่ 1 นานแสนนานมาแล้ว มีเทพยักษ์ 2 ตนนามว่าไบโอนิส และเมคอนนิส ก่อกำเนิดขึ้นและได้ต่อสู้กัน แขนซ้ายของเทพเมคอนนิสถูกฟันตกลงบนทะเล ส่วนไบโอนิสก็ถูกดาบของเมคอนนิสแทงเข้าที่ช่วงท้องกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างร่างของเทพทั้งสอง สุดท้ายแล้ว การต่อสู้จบลงโดยเหลือเพียงซากของเทพยักษ์เท่านั้น (ซ้ายคือเมคอนนิส ขวาคือไบโอนิส) แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 00:10:50 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:10:00

ความคิดเห็นที่ 2 ยุคสมัยผ่านไป ฮอมส์(มนุษย์)ที่อาศัยอยู่บนตัวเทพไบโอนิส ได้ถูกกองทัพเครื่องจักรที่เรียกว่าเมคอน จากฝั่งตัวเทพเมคอนนิสรุกราน เครื่องจักรพวกนี้เก่งกาจมากจนทหารฝ่ายฮอมส์สู้ไม่ได้เลย แต่ก็มีทหารหนุ่มคนหนึ่งนามว่า ดันบัน สามารถใช้ดาบสีแดงที่เรียกว่า โมนาโดะ ทำลายเมคอนและขับไล่พวกมันไปได้ ทว่าจากการต่อสู้ครั้งนี้ การใช้โมนาโดะจนเกิดลิมิตทำให้แขนขวาของดันบันไม่สามารถใช้การได้อีก (ภาพบนจากซ้าย : ดิ๊กสัน ดันบัน และมุมการ์ คนสุดท้ายคือเพื่อนที่ทรยศหนีไป) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:15:33

ความคิดเห็นที่ 3 1 ปีผ่านไป ที่โคโลนี 9 บ้านเกิดของดันบัน หนุ่มน้อยชูล์กผู้ทำงานในแล็ปวิจัยอาวุธของกองทัพ ได้ทำการศึกษาดาบโมนาโดะ มันเป็นอาวุธเดียวที่สามารถทำลายพวกเมคอนได้แต่ไม่สามารถฟันคนได้ และไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้เลยนอกจากดันบัน  นอกจากนี้ชูล์กคิดว่าโมนาโดะน่าจะมีพลังอื่นๆซ่อนอยู่อีก จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:17:03

ความคิดเห็นที่ 4 ชูลก์มีเพื่อนสนิทสมัยเด็ก 2 คน คนแรกคือฟิโอร่า น้องสาวของดันบัน ด้วยเหตุนี้เองชูล์กจึงรู้จักกับดันบันด้วย ชูล์กกับฟิโอร่าชอบพอกัน (แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟน) ส่วนอีกคนคือไรน์ เป็นทหารในกองทัพของเมือง ชูล์กกำพร้าตั้งแต่เด็ก แต่ได้ดิ๊กสัน ชายไว้หนวดโพกหัวผู้เป็นเพื่อนร่วมรบกับดันบันเก็บมาเลี้ยงดู (แถวบน : ชูล์ก ฟิโอร่า ไรน์ / แถวล่าง : ดันบัน ดิ๊กสัน) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:18:26

ความคิดเห็นที่ 5 วันหนึ่ง ชูล์กได้เห็นภาพเหตุการณ์อะไรบางอย่างขณะที่บังเอิญไปจับโมนาโดะ ภาพที่เขาเห็นคือบรรดาผู้คนมากมายที่เขาไม่เคยพบมาก่อน หลังจากนั้นไม่นาน โคโลนี 9 ก็ถูกเมคอนบุกโจมตี ดันบันฝืนร่างกายจับโมนาโดะด้วยแขนซ้ายออกมาช่วยสู้ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเลวร้ายสุดขีด ชูล์กจึงใช้ลองโมนาโดะดู ปรากฏว่าด้วยพลังของดาบทำให้เขาสามารถมองเห็นอนาคตได้ว่าศัตรูจะโจมตีอย่างไร ชูล์กจึงสามารถควบคุมโมนาโดะได้และใช้มันจัดการเมคอนได้ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:21:58

ความคิดเห็นที่ 6 ทันใดนั้นเอง เมคอนประหลาดตัวหนึ่งที่มีใบหน้า(เมทัลเฟส)ปรากฏตัวขึ้น ชูล์กประหลาดใจที่ไม่สามารถใช้โมนาโดะฟันมันได้ จังหวะนั้นเองฟิโอร่าได้ขับหุ่นรบของกองทัพเข้ามาช่วย ขณะที่ชูล์กก็มองเห็นอนาคตว่า ฟิโอร่าจะโดนเมทัลเฟสทำร้าย ชูล์กพยายามตะโกนห้ามฟิโอร่าแต่ก็สายไปเสียแล้ว เมทัลเฟสจัดการทำลายหุ่นรบของฟิโอร่า และกรงเล็บของมันก็ได้เสียบเข้าร่างของเธอต่อหน้าต่อตาชูล์ก ไรน์ และดันบัน จากนั้นมันก็บินหนีไป จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:31:44

ความคิดเห็นที่ 7 ฉากใน คห.6 สะเทือนใจที่สุดในเรื่องเลยนะ......ฉากนั้น เล่นทีแรกเล่นเอาช็อค... แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 00:36:08 จากคุณ : Ex-Sentinel เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:35:51

ความคิดเห็นที่ 8 ชูล์กและไรน์แค้นมาก ด้านชูล์กได้รับดาบโมนาโดะต่อจากดันบัน ทั้งสองตัดสินใจออกเดินทางเพื่อไปล้างแค้นเมคอนเมทัลเฟสที่ฆ่าฟิโอร่า ทั้งคู่วางแผนว่าจะเดินทางไปยังโคโลนี 6 เพื่อหาเบาะแสก่อน เพราะจากโคโลนี 6 สามารถเดินทางต่อไปยังซอร์ด วอลเลย์ ฐานทัพหน้าของพวกเมคอน ที่ตั้งอยู่บริเวณดาบของยักษ์เมคอนนิส ผู้คนที่โน่นน่าจะรู้อะไรบ้างแน่นอน ส่วนดันบันตัดสินใจรักษาตัวก่อน โดยตั้งใจว่าเมื่อหายดีแล้วจะตามทั้งสองไป ย้อนกลับไปยังอดีตเมื่อ 14 ปีก่อน ดิ๊กสันได้เจอชูลก์ ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในหอคอยบนภูเขาหิมะ และยังเป็นสถานที่ๆผนึกดาบโมนาโดะเอาไว้ และเขาก็เก็บเด็กชายและดาบกลับมา ตัดกลับมาปัจจุบัน ระหว่าเดินงทางในถ้ำเทฟราเพื่อเดินทางไปยังโคโลนี6 ชูล์กเห็นนิมิตขึ้นมาอีกว่าไรน์ถูกมอนสเตอร์แมงมุมฆ่าตาย แต่คราวนี้ชูล์กสามารถช่วยไรน์เอาไว้ได้ เขาจึงตระหนักได้ว่าอนาคตที่เขาเห็นนั้นเป็นเพียงแค่ความเป็นไปได้เท่านั้น  มันยังเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หลังจากที่ปราบบอสแมงมุมได้ ทั้งสองออกมาจากถ้ำและพบกับวิวหน้าผา ตรงหน้าก็คือร่างเทพยักษ์เมคอนนิส ดินแดนของเหล่าเครื่องจักร จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:37:14

ความคิดเห็นที่ 9 ทั้งสองเดินทางขึ้นเหนือไปจนถึงบริเวณขาของเทพไบโอนิส ที่นั่นพวกเขาได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งชื่อจูจูจากการโจมตีของมอนสเตอร์ จูจูพาชูล์กและไรน์ไปยังค่ายผู้อพยพ ที่นั่นทั้งสองได้พบกับชาล่า พี่สาวของจูจู และได้รู้ว่าที่โคโลนี 6 ก็ถูกเมคอนโจมตีเช่นกัน เธอกับจูจูรับหน้าที่อพยพผู้คนออกมาจากเมือง โดยมีโอทารอน หัวหน้ากองทัพและกาโดธ์ คู่หมั้นของชาล่าต่อสู้กับเมคอนที่โคโลนีต่อไป จูจูรู้ว่าชูล์กและไรน์จะไปโคโลนี 6 จึงขอร้องให้พาเขาไปด้วย แต่ชาล่าห้ามไว้ วินาทีนั้นชูล์กก็เห็นอนาคตว่าจูจูและชาล่าจะโดนเมคอนฆ่าตาย หลังจากคำขอร้องไม่เป็นผล จูจูก็ขับรถออกจากค่ายเพื่อไปยังโคโลนีเพียงคนเดียว ชูล์กจึงบอกว่าเขาเห็นนิมิตว่าจูจูตกอยู่ในอันตราย ทั้งสามจึงรีบออกไปช่วย โดยชูล์กยังรู้สึกกังวลเพราะเขาเห็นในนิมิตว่าชาล่าเองก็ต้องตายเช่นกัน (ชาล่าและจูจู) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:40:52

ความคิดเห็นที่ 10 ทั้งสามไล่ตามจูจูจนมาถึงบริเวณที่ชูล์กเห็นภาพนิมิต เมคอนตัวใหญ่ยักษ์กำลังเล่นงานจูจู ชาล่าวิ่งเข้าไปหา ทุกสิ่งกำลังเป็นไปตามนิมิตของชูล์ก ทั้งสองพี่น้องต้องตายแน่ ด้วยความปรารถนาที่จะเปลี่ยนอนาคตของชูล์กทำให้โมนาโดะปลดปล่อยพลังใหม่ออกมา เขาจึงใช้มันช่วยให้ชาล่ารอดพ้นการโจมตีของเมคอนได้ ทั้งสามจัดการเมคอนและช่วยจูจูไว้ได้ในที่สุด ชาล่าโล่งอกที่จูจูปลอดภัย ด้านจูจูก็ขอโทษทุกคนที่ทำให้ต้องลำบาก จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:45:24

ความคิดเห็นที่ 11 แต่แล้วก็มีเมคอนปริศนาโผล่มาอีกตัว มันคือเมคอนที่มีใบหน้าเช่นเดียวกับกับตัวที่ชูล์กไล่ตามอยู่ แถมยังพูดได้ด้วย เมคอนตัวดังกล่าวจับจูจูเอาไว้ ชูล์กพยายามสู้แต่กลับใช้โมนาโดะฟันไม่เข้าเหมือนกับเมื่อตอนสู้กับเมทัลเฟส สุดท้ายเมคอนตัวนี้ก็จับจูจูเป็นตัวประกันแล้วบินจากไป (ตอนที่เล่นก็นึกเซ็ง ไอ้จูจูนี่มันตัวปัญหาจริงๆ) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:48:59

ความคิดเห็นที่ 12 กลับมายังค่ายผู้อพยพ ชาล่าฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่เธอจะหนีออกมาจากโคโลนี 6 เธอได้รับคำสั่งจากโอทารอน หัวหน้าหน่วยผู้สูงวัยให้อพยพชาวโคโลนีออกมา นั่นทำให้เธอต้องแยกจากกาโดธ์ คู่หมั้นของเธอ ชาล่าจึงให้กาโดธ์สัญญากับเธอว่าเขาจะต้องรอดกลับมาหาเธอให้ได้ จากนั้นชาล่าก็ตื่นขึ้นมา และออกเดินทางไปกับชูล์กกับไรน์เพื่อช่วยจูจูอีกครั้ง พวกเขาเดินทางไปยังเหมืองอีเธอร์ (อีเธอร์คือพลังงานรูปแบบนึงในเกมมีลักษณะเป็นของเหลวสีเขียว) ในบริเวณของโคโลนี 6 ที่นั่นทั้งสามได้พบกับโอทารอนกำลังโดนเมคอนเล่นงานแล้วช่วยเขาเอาไว้ได้ โอทารอนบอกชาล่าว่ากาโดธ์กับเขาตั้งใจจะซุ่มโจมตี แต่ล้มเหลว พอโอทารอนได้สติอีกครั้งกาโดธ์ก็หายไป ทิ้งไว้เพียงไรเฟิลของเขา ถึงอย่างนั้นโอทารอนก็เชื่อว่ากาโดธ์ยังมีชีวิตอยู่ ชาล่ารู้สึกใจเสียขึ้นมา โอทารอนรู้เรื่องที่จูจูถูกจับตัวไปจึงแนะนำให้ทุกคนไปยังอุโมงค์กลางเหมือง ซึ่งเป็นที่ๆเมคอนจับชาวฮอมส์เอาไว้ ตอนนั้นเองชูล์กก็เห็นนิมิต(อีกแล้ว)ว่า โอทารอนตกบ่ออีเธอร์ตาย และก็ได้เก็บเอาไว้ในใจ (กาโดธ์และโอทารอน) พระเอกนี่น่าสงสารจริงๆ เห็นอนาคตทีไร เห็นแต่คนตาย เดี๋ยวมาต่อช่วงสายๆของวันนี้นะคะ ขอไปนอนก่อนค่ะ ^^" จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 00:51:52

ความคิดเห็นที่ 13 เอาทีมพากย์เกมส์นี้มาฝากครับ Shulk : Shintaro Asanuma   โยชิยูกิ/ดาคาโป 2  มาซาโยชิ/โมชิโดร่า คิริโอะ/เทพแห่งแหวนคาริน Reyn : Eiji Miyashita  ไม่มีผลงานโดดเด่น Fiora : Eri Nakao สาวตัวประกอบ มิกิ/ฮายาเตะ พ่อบ้านลูกหนี้ Dunban : Ryo Horikawa  เบจิต้า/ดราก้อนบอล ทุกภาค  เฮย์จิ/โคนัน Sharla : Akeno Watanabe วีเล็ตต้า/โค้ดกีอัส  ชาช่ามารุ/เนกิมะ ไอบิส/SRW Melia : Shiori Katsuta ไม่ได้ทำงานสายนักพากย์โดยตรง Riki : Yuki Kaida คุราปิก้า/HxH ภาคเก่า ฟูจิ/เทนนิสไซย่า อาเบะ โนะ มาซาฮิโระ/โชเน็นองเมียวจิ จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 01:51:01

ความคิดเห็นที่ 14 มีอะไรที่เกี่ยวกับ Gear และ Saga มั่งมั้ยครับ จากคุณ : usaneko เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 01:51:19

ความคิดเห็นที่ 15 รออ่านต่อนะครับ ผมอยากรู้เนื้อเรื่องจอง เกียร์กับซาก้าด้วยพอจะได้มั้ยครับ T T จากคุณ : Getter_ROBO เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 02:57:25

ความคิดเห็นที่ 16 แอบขอลิงค์อีกอันด้วยได้มั้ยครับ จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 10:32:10

ความคิดเห็นที่ 17 เนื้อเรื่องของ Xenogear กับ Xenosaga คงต้องรอให้ท่านอื่นมาเล่าแทนล่ะค่ะเพราะว่าไม่ได้เล่นเอง T_T คิดว่า Xenoblade ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับ 2 เกมก่อนหน้านะคะ เพราะจริงๆแล้วเกมนี้เดิมใช้ชื่อว่า Monado : The Beginning of the World ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Xenoblade ค่ะ แต่ในส่วนของ Xenogear เคยมีกระทู้เล่าเรื่องนี้ค่ะ >> http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2010/11/A9924703/A9924703.html ต่อเลยนะคะ ชูล์กที่เห็นอนาคตก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงมันโดยการรั้งโอทารอนไม่ไปบุกศูนย์กลาง แต่โอทารอนไม่ยอมบอกว่าไม่มีเวลาแล้ว ไรน์พอเดาออกว่าชูล์กต้องเห็นอนาคตแน่ๆ ชูล์กจึงเล่าสิ่งที่เขาเห็นให้ไรน์และชาล่าฟัง ไรน์จึงบอกว่าชูล์กควรจะบอกพวกเขาเวลาที่เห็นอนาคต เราจะได้ช่วยกันแก้ไขมัน ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียว ชูล์กรับฟังและคิดได้ว่าเราต้องเปลี่ยนอนาคตให้ได้ ทุกคนเดินทางมาจนถึงอุโมงค์กลาง พบว่าฮอมส์ที่ถูกเมคอนจับมาถูกกินหมดแล้ว ชาล่าแค้นใจมากเพราะคิดว่ากาโดธ์ต้องตายไปแล้วแน่ๆ เหลือเพียงจูจูที่ถูกจับตรึงไว้ เมคอนที่มีใบหน้าแนะนำตัวว่าเขาชื่อซอร์ด ชูล์กและพวกจึงต้องต่อสู้กับซอร์ด ตอนนั้นเอง โอทารอนก็ขับหุ่นรบเข้ามาชาร์จซอร์ด ทำให้มีจังหวะเข้าไปช่วยจูจูได้ ถึงอย่างนั้นชูล์กก็ยังเป็นห่วงโอทารอนที่กำลังสู้กับซอร์ดอยู่ดี เขามองเห็นเครนจอดอยู่ใกล้ๆจึงรีบขึ้นไปขับ ทางด้านโอทารอนพยายามผลักซอร์ดให้ตกลงไปในบ่ออีเธอร์จนสำเร็จ แต่ตัวเขาเองก็กำลังจะตกไปด้วย ชูล์กจึงรีบใช้เครนดึงหุ่นรบของโอทารอนเอาไว้ แต่ซอร์ดยังไม่เลิกราพยายามจะลากโอทารอนให้ตกลงไปด้วยให้ได้ ด้านชายแก่จึงใช้ไรเฟิลยิงซอร์ดให้ตกลงไป จังหวะนั้นเองเขาเองก็โดนแรงกระแทกทำให้ตกลงไปด้วย ด้านชูล์กเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว โอทารอนคิดว่าเขาคงตายแน่ แต่ไรน์กลับพุ่งตัวลงไปจับโอทารอนไว้ได้ทันพอดี ทั้งจูจูและโอทารอนต่างรอดตาย อนาคตเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 11:23:02

ความคิดเห็นที่ 18 ทุกคนเดินทางออกจากเหมือง ขณะที่ขึ้นลิฟต์ ซอร์ดในสภาพต้มเปื่อยเพราะจมบ่ออีเธอร์ก็ตามมาล้างแค้นอีกรอบ ทั้งสามจึงต้องปราบมันอีกครั้ง ก่อนซอร์ดตายมันได้บอกกับชูล์กว่า โมนาโดะของชูล์กนั้นยังไม่ได้ปลดปล่อยพลังที่แท้จริง และชูล์กต้องตามหาความจริงนั้นด้วยตัวเอง ซอร์ดตกลงไปตายในที่สุดและเหมืองอีเธอร์ก็ระเบิด ทุกคนออกจากเหมืองได้อย่างปลอดภัย จูจูได้สติจึงขอบคุณและขอโทษชูล์กและไรน์ ทันใดนั้นเอง เมทัลเฟสก็โผล่ คราวนี้มันพูดจากถากถางใส่ด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ จากนั้นทุกคนถูกล้อมด้วยกองทัพเมคอน ชูล์กรู้สึกแค้นขึ้นมา จึงพุ่งโจมตีใส่เมทัลเฟส แต่ก็ไม่เป็นผลเช่นเคย ขณะที่เมทัลเฟสจะจัดการฆ่าทุกคนทิ้ง ดิ๊กสันและดันบันก็โผล่มาช่วย แต่ก็ไม่อาจสู้ได้ ต่อนั้นเอง สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มีปีกคล้ายนกที่ก็บินโฉบลงมาขัดขวางพวกเมคอนจนพวกมันล่าถอยไป ด้านชูล์กมองเห็นนิมิตอีกครั้ง คราวนี้ภาพที่เขาเห็นคือ  สถานที่ๆมีหอคอยสูง ชายร่างยักษ์ เด็กสาวและชายชราแต่งตัวประหลาด ดาบโมนาโดะที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยมันสามารถฟันเมทัลเฟสได้ และเมคอนปริศนาอีกตัวหนึ่ง ทางด้านสัตว์ประหลาดยักษ์ มันบินกลับไปหาผู้เป็นเจ้าของ นั่นคือชายผมสีเงินคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขากำลังจับตาดูชูล์กอยู่ เขาเป็นใครกัน? จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 11:32:33

ความคิดเห็นที่ 19 ดิ๊กสันบอกว่าสัตว์ประหลาดที่มาช่วยทุกคนเมื่อครู่เรียกว่า "เทเลเธีย" เป็นสัตว์ในตำนาน ทำหน้าที่ปกป้องไบโอนิส ด้านดันบันบอกว่าถ้าจะไล่ตามเมทัลเฟสล่ะก็ น่าจะมีที่เดียวที่มันจะไป นั่นคือซอร์ด วัลเลย์ ฐานของเมคอน แต่ชูล์กกลับบอกว่ามีที่หนึ่งที่ต้องไป เขาเล่าเรื่องนิมิตที่เห็นเมื่อครู่ให้ทุกคนฟัง ถ้าหากว่านิมิตนั้นเป็นจริงล่ะก็โมนาโดะจะสามารถปลดปล่อยพลังใหม่ได้ ดิ๊กสันฟังชูล์กจึงบอกว่าสถานที่ๆชูล์กเห็นน่าจะเป็น เกาะคุมขัง (Prison Island) ที่อยู่บริเวณส่วนหัวของเทพไบโอนิส ที่นั่นมีหอคอยยักษ์ถูกสร้างโดยเผ่าโบราณนามว่า "ไฮเอนเธีย" ชูล์กประหลาดใจเพราะคิดว่าเผ่านี้มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น ดิ๊กสันจึงบอกว่าจริงๆแล้วไฮเอนเธียอาศัยอยู่บนส่วนหัวของไบโอนิส ทุกคนจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเกาะผนึกที่ว่า คราวนี้ดันบันจะร่วมปาร์ตี้ไปด้วย ส่วนดิ๊กสันอาสานำทาง ทุกคนมุ่งหน้าต่อไปยังบึงซาโทล ดิ๊กสันบอกว่าจากตรงนี้เราจะต้องเข้าไปในตัวของเทพไบโอนิสเพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังร่างกายส่วนบน ผ่านป่าแมกน่าขึ้นไปจะพบกับเกาะคุมขัง จากนั้นดิ๊กสันขอแยกตัวกลับไปโคโลนี 9 ส่วนจูจูและโอทารอนจะกลับไปโคโลนี 6 เพื่อทำการฟื้นฟูเมือง (จริงๆแล้วเป็นไซด์เควสใหญ่ในเกม คนที่ฟื้นฟูเมืองจริงๆก็คือพวกเรานี่แหละ 55+) ทุกคนที่เหลือจึงเดินทางต่อ พอเข้ามาภายในร่างกายของไบโอนิส ชูล์กรู้สึกราวกับว่าไบโอนิสยังไม่ตาย ไรน์ฟังแล้วก็บอกว่าขืนยักษ์ไบโอนิสขยับตัวได้ก็แย่สิ ตัดมาที่ฝั่งยักษ์เมคอนนิส ดินแดนแห่งเมคอน สตรีลึกลับคนหนึ่งจ้องมองดูการประกอบร่างของหุ่นเมคอนที่ชื่อว่า "เฟส เนเมซิส" และเธอเรียกใครบางคนที่อยู่ในร่างหุ่นนั้นว่า "เลดี้ เมย์เน็ท" ผู้ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้... จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 11:45:02

ความคิดเห็นที่ 20 พวกชูล์กเดินทางมาถึงป่าแมกน่าในที่สุด อีกทางด้านหนึ่งของป่า เด็กสาวคนหนึ่งพร้อมกับบริวารที่มีปีกคู่บนศีรษะกำลังถูกสัตว์ประหลาดคล้ายมังกร 3 หัวโจมตีใส่จนเหลือเพียงเด็กสาวคนเดียวที่รอด ตัดกลับมาที่พวกชูล์ก ดันบันบอกว่าป่าแมกน่าแห่งนี้เป็นที่อยู่ของเผ่านอปปอน สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ตัวกลมๆขนฟู มีใบหูใหญ่ พอเข้ามาในป่า พวกเขาก็พบกับเด็กสาวคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่ ชูล์กอาสาไปหาคริสตัลวารีมาให้ชาล่าใช้ทำการรักษาเธอ ระหว่างที่ชูล์กจะเก็บคริสตัลนั้นเอง เขาได้พบกับชายผมเงินผู้ใส่สร้อยคอรูปกุญแจ ชายผมเงินแนะนำตัวว่าเขาชื่ออัลวิส แถมยังรู้จักชูล์กอีกด้วย ชูล์กประหลาดใจว่าทำไมอัลวิสถึงรู้จักเขา อัลวิสบอกว่าชูล์กเป็นผู้ครอบครองโมนาโดะ เป็นฮีโร่ทำลายพวกเมคอน ในหมู่ชาวฮอมส์ใครๆก็รู้จัก ทันใดนั้น เทเลเธียก็บินเข้ามาโจมตี ชูล์กใช้พลังเห็นอนาคตมองการโจมตีของเทเลเธียแต่ก็ไม่เป็นผล อัลวิสอธิบายว่าพวกมันสามารถอ่านใจคู่ต่อสู้ได้ อัลวิสคว้าโมนาโดะมาสู้กับเทเลเธียและมันก็ปลดปล่อยพลังใหม่ออกมา (พลังใหม่ที่ว่าคือการฟันออร่าของเทเลเธีย จึงจะสามารถโจมตีมันได้) อัลวิสคืนโมนาโดะให้ชูล์ก ทั้งคู่ร่วมมือปราบเทเลเธียลงได้ ชูล์กยังประหลาดใจว่าทำไมอัลวิสถึงใช้โมนาโดะได้ อัลวิสบอกว่าโมนาโดะนั้นคือดาบเทพที่สามารถฟันได้ทุกสิ่ง ทั้งวัตถุและสิ่งที่ไม่ใช่วัตถุ ตอนนั้นเองไรน์ก็ตามหาชูล์ก พอชูล์กจะแนะนำอัลวิส เขาก็หายตัวไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงปริศนาให้ชูล์กขบคิดเท่านั้น เดี๋ยวมาต่อค่ะ อัลวิส ชายปริศนา ที่จะสร้างความงงแก่คนเล่นมากขึ้นเรื่อยๆต่อจากนี้ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 11:48:24

ความคิดเห็นที่ 21 ชูล์กและไรน์กลับไปหาคนอื่นๆ ดันบันประหลาดใจเมื่อชูล์กเล่าว่ามีคนอื่นที่ใช้โมนาโดะได้อีก ทางด้านชาล่าก็ทำการรักษาเด็กสาว แล้วเธอก็ฟื้นขึ้นมา เด็กสาวฟื้นขึ้นมาเห็นว่าชูล์กจับแขนเธออยู่ก็ตบเข้าให้ฉาดนึง พอรู้ตัวเธอก็ขอโทษเขา ชูล์กไม่ได้ถือสาอะไร เด็กสาวแนะนำตัวว่าเธอชื่อเมเลีย เธอประหลาดใจที่จู่ๆก็ได้เจอกับชาวฮอมส์ที่นี่ ชูล์กอธิบายว่าพวกเขากำลังจะไปยังส่วนหัวของไบโอนิส เมเลียจึงอาสาพาพวกเขาไปเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยเธอไว้ โดยเดินทางไปยังหมู่บ้านของชาวนอปปอน แล้วไปสู่ทะเลเอริท ซึ่งเป็นส่วนหัวของไบโอนิส ด้านชาล่ารู้สึกแปลกๆเพราะเด็กสาวคนนี้ก็น่าจะเป็นชาวฮอมส์ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว? แถมท่าทางยังดูเหมือนคนมีศักดิ์เสียอีก ทุกคนเดินทางต่อไปจนถึงต้นไม้ยักษ์อันเป็นที่อยู่ของเผ่านอปปอน บรรดานอปปอนต่างตื่นเต้นที่ได้พบกับชาวฮอมส์อย่างพวกชูล์ก (พวกมันเรียกฮอมส์ว่า "ฮอม ฮอม") และพวกมันเรียกเมเลียว่า "เบิร์ด เลดี้" หัวหน้าเผ่านอปปอนออกมาต้อนรับเมเลียและพวกชูล์ก เมเลียอธิบายว่าพวกชูล์กต้องการไปยังทะเลเอริท ส่วนตัวเมเลียนั้นบอกว่าเธอยังมีภารกิจที่ต้องทำที่นี่ ทุกคนคิดว่าเมเลียน่าจะมีปัญหาอะไรซักอย่าง พอเข้าไปคุยจึงรู้ว่า ภารกิจของเมเลียนั้นคือการจัดการเทเลเธีย 3 หัวที่ฆ่าพรรคพวกของเธอ ชูล์กจึงเสนอว่าเขาอยากจะช่วย เมเลียสงสัยว่าทำไมชูล์กถึงอยากช่วยเธอนัก ชูล์กจึงอธิบายว่าเขาเห็นเธอต่อสู้ร่วมกับเขาในนิมิต ไรน์จึงบอกเสริมอีกว่าชูล์กสามารถมองเห็นอนาคตได้ แต่เมเลียยังไม่เชื่อ ดันบันและไรน์ยืนยันว่าเขาจะช่วย แต่เมเลียก็ยังไม่ยอมให้ช่วย ตอนนั้นเอง ดังก้า หัวหน้าเผ่านอปปอนได้ยินพวกเขาคุยกันก็เห็นด้วยกับพวกชูล์กว่าเมเลียควรมีพวกเขาไปช่วยด้วย ทั้งยังพาฮีโร่จากเผ่านอปปอนมาร่วมทีมด้วย นั่นคือริกิ นอปปอนหนึ่งเดียวในปาร์ตี้ของเรา สาวน้อยเวทมนต์ เมเลีย  และริกิ ตัวกลมน่ารัก แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 15:31:14 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:26:30

ความคิดเห็นที่ 22 เผ่านอปปอน สิ่งมีชีวิตที่น่ารักจิ้มลิ้มที่สุดในเกม ทั้งๆที่ในป่าเดียวกันนั้นมีทั้งเสือ นก ออร์ก ไดโนเสาร์ยักษ์โหดๆ เต็มไปหมด ริกิและครอบครัว เห็นแบบนี้เฮียแกอายุ 40 มีลูกเมียแล้วค่ะ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:27:35

ความคิดเห็นที่ 23 ดังก้า หัวหน้าเผ่านอปปอน ทรงผมท่านได้ใจมาก จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:29:22

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกคนเดินทางเข้าป่าเพื่อปราบ "เลออน เทเลเธีย" มังกร 3 หัว ที่ซ่อนตัวอยู่ ด้วยพลังแห่งความสามัคคี(รุม) เราจึงสามารถปราบมันลงได้สำเร็จ จากนี้ ริกิจะร่วมเดินทางไปกับเราด้วย ทุกคนก็เดินทางต่อไปยังทะเลเอริท เมเลียบอกชูล์กว่าทะเลเอริทกว้างมาก ชูล์กต้องการไปไหน เขาตอบว่าต้องการไปยังที่ๆมีหอคอยยักษ์ บนหัวของไบโอนิส เมเลียจึงบอกว่าที่นั่นคงเป็นเกาะคุมขัง แต่มันถูกผนึกไว้และห้ามเข้าไปโดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต ดันบันสะกิดใจขึ้นมา เขาได้ยินมาว่าทะเลเอริทเป็นที่ตั้งของจักรวรรดิที่ปกครองโดยเผ่าไฮเอนเธีย ดันบันอธิบายต่อว่า ก่อนที่ชาวฮอมส์จะสร้างโคโลนี ดินแดนนี้เคยปกครองโดยชาวไฮเอนเธียมาก่อน เมเลียจึงบอกว่างั้นต้องไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิก่อน ทุกคนเดินทางไปยังยอดของต้นไม้ยักษ์แล้ววาร์ปต่อไปยังทะเลเอริท ทะเลเอริท เต็มไปด้วยเกาะลอยฟ้า หนึ่งในแมพที่สวยที่สุดของเกม จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:30:04

ความคิดเห็นที่ 25 พอมาถึงทะเลเอริท ชูล์กเล่าเรื่องราวการบุกโจมตีของเมคอนและการเดินทางของพวกเขาให้เมเลียฟัง จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังอัลคามอธ เมืองหลวงของจักรวรรดิไฮเอนเธีย เผ่าที่มีเทคเนโลยีล้ำยุค พอไปถึงทางเข้า ทหารก็เข้ามาคำนับเมเลียแถมเรียกเธอว่า "เลดี้ เมเลีย" จากนั้นเมเลียก็แยกตัวไปก่อน คนอื่นๆต่างงงและสงสัยว่าเมเลียเป็นใครกันแน่ อย่างไรก็ตาม ชูล์กยังเชื่อว่าเมเลียต้องไม่คิดร้ายกับพวกเขาแน่นอน พวกชูล์กถูกพาตัวไปยังห้องรับรองและถูกกักไม่ให้ออกมา ด้านเมเลีย เธอไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิโซเรียน และเจ้าชายกัลเลียน พ่อและพี่ชายของเธอ เพื่อรายงานว่าเทเลเธียถูกกำจัดเรียบร้อย ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกเสียใจกับการที่พรรคพวกของเธอต้องตาย กัลเลียนบอกเมเลียว่าตอนนี้ชูล์กกับพรรคพวกถูกควบคุมตัวอยู่ สาเหตุมาจากดาบโมนาโดะที่ชูล์กครอบครอง เจ้าชายอธิบายต่อว่า ตำนานที่เล่าสืบทอดกันมาเกี่ยวกับดาบโมนาโดะ ว่ากันว่าเทพไบโอนิสได้มอบดาบนี้แก่ผู้ที่ถูกเลือก หากผู้ที่ถูกเลือกนั้นมีจิตใจชั่วร้ายก็จะนำมาซึ่งความวิบัติแก่ไฮเอนเธีย พวกเขาจึงต้องจับชูล์กเอาไว้เพื่อสอบสวน เมเลียแย้งขึ้นว่าชูล์กเป็นคนดี จักรพรรดิกล่าวให้เมเลียใจเย็นๆและอดทนไว้ ตัวเธอนั้นมีบทบาทสำคัญต่อราชวงศ์ จักรพรรดิเดินจากไป กัลเลียนบอกน้องสาวว่าเธอคือเจ้าหญิงที่จะได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินี เมเลียแปลกใจว่าทำไมผู้ที่ขึ้นครองราชย์คนต่อไปถึงไม่ใช่กัลเลียน อีกทั้งเธอยังไม่มั่นใจว่าจะทำหน้าที่ผู้ปกครองได้หรือไม่เมื่อกัลเลียนปลีกตัวไปแล้ว เสนาบดีลอเรเธียเข้ามาคุยกับเมเลีย และบอกเมเลียว่าดาบโมนาโดะน่าจะมีประโยชน์และ โหรราชสำนักน่าจะช่วยปล่อยพวกชูล์กได้ จักรพรรดิโซเรียนและเจ้าชายกัลเลียน จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:33:22

ความคิดเห็นที่ 26 เสนาบดีลอเรเธีย จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:34:08

ความคิดเห็นที่ 27 เมืองหลวงอัลคามอธ แห่งจักรวรรดิชาวไฮเอนเธีย จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:36:42

ความคิดเห็นที่ 28 ทางด้านพวกชูล์กที่ถูกกักตัวอยู่ ไรน์หัวเสียมากและหาว่าเมเลียคงเป็นคนจับพวกเขาไว้ แต่ชูล์กยังเชื่อใจเมเลียจนไรน์เลิกเถียง ตอนนั้นเองโหรราชสำนักก็เข้ามาหาพวกเขา โหรที่ว่านั้นไม่ใช่ใครอื่น อัลวิสนั่นเอง เขาอธิบายว่าสาเหตุที่พวกชูล์กถูกจับไว้คือดาบโมนาโดะ จากนั้นอัลวิสจึงสั่งให้ทหารปล่อยตัวทุกคน  แล้วเขาก็จากไป ครู่ต่อมาก็มีทหารไฮเอนเธียเข้ามาตามหาอัลวิส เขาบอกว่าตอนนี้มีคนงานไปทำซ่อมเครื่องวาร์ปแล้วสัญญาณติดต่อขาดหายไป อาจจะเกิดอันตรายขึ้น พวกชูล์กก็แสดงความเป็นพลเมืองดีไปช่วย(อีกแล้ว) ตัดมาทางด้านอัลวิส เขาไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิและเจ้าชายกัลเลียน ทั้งสองถามอัลวิสว่าทำไมเทเลเธียถึงมีพลังสูงส่งนัก อัลวิสอธิบายว่าเทเลเธียสามารถดูดซับพลังงานอีเธอร์จำนวนมากในบริเวณ ในนัยหนึ่งคือ ระบบป้องกันอีเธอร์ได้อ่อนกำลังลง จักรพรรดิกล่าวว่าการคืนชีพของไบโอนิสได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พระองค์ถามเรื่องโมนาโดะกับอัลวิส ในฐานะโหร เขาบอกว่ามองไม่เห็นนิมิต ทว่าโมนาโดะอาจจะไม่ได้นำมาซึ่งความวิบัติแก่ไฮเอนเธียก็ได้ นอกจากนี้อัลวิสบอกว่าเขาเห็นแสงสีเงิน หมายถึงเมเลียและชูล์ก จักรพรรดิถามย้ำว่าเราไว้ใจเด็กหนุ่มผู้นี้ได้แน่หรือ จากนั้นจักรพรรดิจึงตัดสินใจให้จัดงานพิธีแต่งตั้งเมเลียให้เร็วที่สุด แต่ติดที่ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนบอมรับในตัวเมเลีย มเหสียูมีอาที่คิดปองร้ายเมเลียอยู่จึงเสนอให้เธอเข้ารับการทดสอบคุณสมบัติที่สุสาน กัลเลียนแย้งว่าพิธีกรรมนี้อันตรายมาก แต่จักรพรรดิกลับเห็นด้วย เพราะหากทำสำเร็จประชาชนจะต้องยอมรับเมเลียแน่นอน เมื่อเมเลียได้รับข้อเสนอ เธอยอมรับทันที จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:39:01

ความคิดเห็นที่ 29 ลงผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 15:41:50 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:40:13

ความคิดเห็นที่ 30 ลงผิดค่ะ ==" แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 15:42:10 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:41:13

ความคิดเห็นที่ 31 พวกชูล์กกลับมายังเมืองหลวง พบว่าที่เมืองกำลังจัดงานพิธีแต่งตั้งเมเลียเป็นผู้สืบราชสมบัติ ทุกคนถึงได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นเจ้าหญิง จักรพรรดิกล่าวต่อว่าเมเลียจะเข้ารับการทดสอบคุณสมบัติที่สุสาน เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากบรรพบุรุษเสียก่อน ตอนนั้นเองชูล์กมองเห็นอนาคตอีกครั้ง มันเป็นภาพเมเลียถูกทำร้ายขณะเข้ารับการทดสอบ  ทางด้านมเหสียูมีอาได้วางแผนจัดการเมเลียและพวกชูล์ก เพราะเป็นพวกเดียวกับเมเลีย เธอเกลียดเมเลียที่เป็นลูกของสนมชาวฮอมส์ แปลว่าเมเลียนั้นเป็นลูกครึ่งระหว่างไฮเอนเธียและฮอมส์นั่นเอง นี่จึงอธิบายว่าทำไมเธอถึงไม่มีปีกบนหัวขนาดใหญ่เหมือนคนอื่น และทำไมเธอจึงต้องใส่หน้ากากตอนเข้าพิธี เพราะมีสายเลือดไฮเอนเธียที่ไม่บริสุทธิ์ กัลเลียนเดินผ่านเห็นยูมีอากำลังทำอะไรลับๆล่อๆจึงนึกสงสัย ชูล์กบอกทุกคนว่าเขาเห็นนิมิตว่าเมเลียตกอยู่ในอันตรายต้องรีบไปช่วย แต่ยูมีอาได้ส่งคนมาขวางพวกชูล์กซะก่อน พวกเขาจัดการได้ จากนั้นอัลวิสและเจ้าชายกัลเลียนก็ตามมาพบ อัลวิสบอกว่าคนที่ถูกส่งมาเป็นกลุ่มนักฆ่าที่ไม่น่าจะมีในยุคนี้แล้ว กัลเลียนสงสัยว่าใครส่งพวกนี้มาฆ่าชูล์กและพวก และเขาก็นึกถึงยูมีอา กัลเลียนไม่อยากจะเชื่อว่าท่านแม่ของตนส่งคนพวกนี้มา ด้านชูล์กรีบบอกกัลเลียนว่าเมลียกำลังจะถูกฆ่า อัลวิสอธิบายให้เจ้าชายฟังต่อว่าเขากับชูล์กสามารถมองเห็นอนาคตได้ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:43:14

ความคิดเห็นที่ 32 ทางด้านเมเลีย ลอเรเธียได้พาเธอมาส่งที่หน้าสุสาน ก่อนที่เมเลียจะเข้าไปข้างในเพียงลำพัง ตัดกลับมาที่พวกชูล์ก กัลเลียนบอกว่าเมเลียต้องเข้ารับการทดสอบเพียงลำพังเท่านั้น ห้ามใครเข้าไปช่วย เมเลียจะเป็นหรือตายนั้นขึ้นอยู่กับชะตา ไรน์แย้งขึ้นมาว่ากัลเลียนไม่ห่วงน้องสาวเลยรึไง ดันบันจึงอ้างว่ากฏห้ามใครเข้าไปนั้นใช้กับเฉพาะชาวไฮเอนเธียเท่านั้น แต่ไม่รวมชาวฮอมส์อย่างพวกเขา เราจะเข้าไปช่วยเธอเอง ว่าแล้วทุกคนก็เดินทางไปยังสุสาน ก่อนเข้าไปชูล์กถามอัลวิสว่าเขาเองก็เห็นอนาคตได้หรือ อัลวิสตอบว่าเขามาจากตระกูลโหรที่รับใช้ให้กับราชวงศ์มาช้านาน ชูล์กถามกลับว่าแต่นายเป็นฮอมส์นี่นา อัลวิสบอกว่าใช่ แต่สำหรับบรรพบุรุษเขาแล้วมันยากจะอธิบาย และบอกว่าความสามารถในการเห็นนิมิตของชูล์กนั้นเหนือกว่าเขาอีก อัลวิสบอกอีกว่า "ดาบโมนาโดะได้สืบทอดในราชวงศ์มารุ่นต่อรุ่น ดาบแห่งไบโอนิสเล่มนี้มีพลังในการควบคุมอีเธอร์ เปลี่ยนความมุ่งมั่นให้จะกลายเป็นจริงได้ และอาจเป็นเพราะพลังนี้เอง ไฮเอนเทียจึงได้ผนึกโมนาโดะเอาไว้เป็นร้อยๆปี และมันก็ได้มาอยู่ในมือของชาวฮอมส์ มาอยู่ในมือของนาย ชูล์ก นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรกันแน่นั้น นายต้องค้นหาความจริงด้วยตัวเอง ตอนนี้ เทพไบโอนิสกำลังจะตื่นขึ้นแล้ว" จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 16:51:22

ความคิดเห็นที่ 33 เมเลียเข้ามาในสุสานก่อน ซักพักต่อมาพวกชูล์กก็ตามเข้ามา แต่ไรน์ดันไปกดปุ่มแสกนร่าง ระบบจึงตรวจจับได้ว่ามีผู้บุกรุก ทุกคนเลยตกลงไปข้างล่าง กลับมาที่เมเลีย เธอเดินทางมาพบกับจิตวิญญาณจำลองของบรรพบุรุษของเธอ จิตวิญญาณนั้นบอกเมเลียว่า ตัวเธอมียีนเผ่าฮอมส์ถึง 80% ความปรารถนาของราชวงศ์ใกล้เป็นจริงแล้ว เมเลียไม่เข้าใจ จิตวิญญาณนั้นบอกต่อว่า เราใช้เวลากว่าพันปีเพื่อปลดปล่อยคำสาปที่ส่งผ่านยีนของไฮเอนเธีย อย่างไรก็ตามเมเลียก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จิตวิญญาณบรรพบุรุษได้มอบตราประทับลงบนหน้ากากของเธอและยอมรับเมเลียในฐานะผู้สืบราชบังลังก์ ทันใดนั้นเอง ทีเรีย(ทัลโค ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น) สมุนของยูมีอาปรากฏตัวขึ้นและกำลังจะลงมือฆ่าเมเลียทิ้ง ทีเรีย ลูกน้องของยูมีอา น่าเสียดายที่บทน้อยไปหน่อยเลยกลายเป็นตัวละครจืดจาง ถึงอย่างนั้น เธอกับเทเลเธียก็เป็นบอสที่โหดทีเดียว จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 16:52:20

ความคิดเห็นที่ 34 พวกชูล์กที่ตกลงมาชั้นล่างของสุสาน ไรน์โดนจิกกัดว่าทำให้พวกเขาต้องตกลงมาที่นี่ ทำเอาไรน์จ๋อยไป ชูล์กบอกว่ารีบไปต่อดีกว่า ทุกคนเดินทางต่อไปจนถึงห้องที่เมเลียอยู่ ที่นั่นเมเลียกำลังต่อสู้กับทีเรีย ซ้ำยังมีเทเลเธียยักษ์โผล่มาอีก ทุกคนจึงรีบเข้าไปช่วยปราบมันและจัดการทีเรียซะ ทีเรียพลาดท่าในที่สุด เทเลเธียก็กำลังจะระเบิดตัวเองให้ทุกคนตายหมด แต่อัลวิสก็ช่วยจัดการมันก่อนจะระเบิดซะก่อน ทุกคนปลอดภัย เมเลียถามชูล์กว่ามานี่ทำไม เขาตอบว่าโมนาโดะได้เตือนว่าเธอตกอยู่ในอันตราย  แล้วพวกเขาก็ช่วยเธอไว้ได้ เมเลียกล่าวขอบคุณชูล์กและทุกคนที่ช่วยเธอไว้ เมเลียและอัลวิสกลับไปเข้าเฝ้า อัลวิสรายงานเรื่องนักฆ่าให้จักรพรรดิทราบ และรู้ว่าผู้บงการคือมเหสียูมีอานั่นเอง จักรพรรดิภูมิใจที่เมเลียผ่านการทดสอบ แม้ว่าเธอจะอ้างว่าเพราะพวกชูล์กมาช่วยเอาไว้ก็ตาม โซเรียนคิดในใจว่า เมเลียนี่แหละคือความหวังของไบโอนิส โซลิดัม เทเลเธีย บอสคู่กับทีเรีย จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 16:56:46

ความคิดเห็นที่ 35 ทางด้านพวกชูล์กที่กลับมายังที่พัก ดันบันยังสงสัยว่าทำไมเมเลียถึงได้รับการสถาปนาแทนที่จะเป็นกัลเลียน แถมเจ้าชายกัลเลียนเองก็ยังเห็นดีไปด้วย ทุกคนได้แต่เก็บข้อสงสัยนี้ไว้  ตอนนั้นเองทหารไฮเอนเธียก็เชิญทุกคนไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิ โซเรียนเอ่ยขอโทษที่กักขังพวกชูล์กก่อนหน้านี้และขอบคุณที่ช่วยเมเลียลูกสาวเขาไว้ จากนั้นพระองค์จึงเอ่ยต่อว่าชูล์กำลังไล่ตามเมคอนอยู่งั้นหรือ ชูล์กตอบว่าใช่ เมคอนมันทำลายบ้านเกิดและฆ่าคนไปมาก เป้าหมายของเขาคือการล้างแค้น โซเรียนบอกกับชูล์กว่า ก่อนที่เผ่าไฮเอนเธียจะสร้างจักรวรรดินี้ขึ้น เทพยักษ์ทั้งสอง ไบโอนิสและเมคอนนิสได้ต่อสู้กัน แล้วซากของยักษ์ทั้งสองได้กลายเป็นโลกในปัจจุบัน ทว่าไบโอนิสกำลังตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ชูล์กบอกว่าอัลวิสเองก็บอกเขาแบบนี้เช่นกัน โซเรียนเอ่ยต่อว่า นี่ไม่ใช่แค่คำทำนาย เทเลเธียนั้นถือกำเนิดขึ้นมายาวนานพอๆกับยักษ์ไบโอนิส การที่มันก่อกวนพลังงานอีเธอร์นำไปสู่สิ่งเดียว (นั่นคือไบโอนิสกำลังจะตื่น) จักรพรรดิชี้ไปยังแผ่นหินสลักในท้องพระโรง มันเขียนถึงลูกหลานของราชวงศ์ว่ายามที่อีเธอร์ร่ำร้อง ไบโอนิสจะตื่นขึ้น เมื่อดาบหวนคืนมา ให้ผนึกพลังของมันเอาไว้ โซเรียนกล่าวต่ออีกว่าทุกชีวิตบนไบโอนิสส่งผลต่อพลังงานอีเธอร์ทั้งสิ้น การโจมตีของฝ่ายเมคอนเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น หากว่ามันยังโจมตีต่อไป ไบโอนิสก็จะตื่นขึ้น ถึงตอนนั้น ไม่เพียงไฮเอนเธีย แต่ทุกชีวิตบนไบโอนิสต้องตายแน่นอน ชูล์กตาโตตกใจว่านี่มันจะเกิดการสูญพันธุ์เลยนี่นา โซเรียนจึงตอบว่านี่คือเหตุผลที่จะต้องหยุดยั้งเมคอนให้ได้ ชูล์กขอร้องให้จักรพรรดิอนุญาตให้พวกเขาเข้าไปยังเกาะคุมขัง พร้อมอธิบายถึงนิมิตที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ โซเรียนบอกว่าที่เกาะแห่งนั้น บรรพบุรุษของไฮเอนเธียได้ผนึกอะไรบางอย่างแบบเดียวกับที่ผนึกโมนาโดะไว้ แต่บันทึกทั้งหลายได้สูญหายไปหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าอะไรถูกผนึกไว้ที่เกาะนั่น  ชูล์กถามว่าสิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับการตื่นขึ้นของไบโอนิสรึเปล่า โซเรียนบอกว่าเรื่องนี้ไม่รู้เหมือนกัน แต่บรรพบุรุษจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่ๆ และเขาขอเวลาพิจารณาคำขอร้องของชูล์กก่อน ชูล์กบอกว่าเขาเข้าใจ และหากจักรพรรดิไม่อนุญาต เขาก็จะยอมรับแต่โดยดี เพราะที่นี่ไม่ใช่ดินแดนของฮอมส์ ก่อนจบการสนทนา โซเรียนขอร้องชูล์กในฐานะพ่อคนหนึ่ง ให้ช่วยเป็นเพื่อนกับเมเลียด้วย ชูล์กตอบรับด้วยความเต็มใจ ทางด้านฝั่งเมคอน ดูเหมือนว่าใครบางคนที่มีอำนาจในหมู่เมคอนกำลังวางแผนโจมตีพวกชูล์กอยู่ จะมาต่อช่วงค่ำค่ะ จะครึ่งเรื่องแล้ว /ปาดเหงื่อ ==" แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 20:36:24 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 16:59:56

ความคิดเห็นที่ 36 เนื้อเรื่อง gear กับ saga ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับภาคนี้เลยครับ ตอนนี้ผมก็เล่นอยู่ครับ แต่คอมกากไปหน่อยเลยเล่นใน emu ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ T-T อยากเล่นใน wii เหมือนกันครับ แต่ซื้อเครื่องมาเพื่อเล่นเกมเดียวนี่ก็ไม่ไหว XD จากคุณ : jumzz เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 17:57:42

ความคิดเห็นที่ 37 จะรอนะ สนุกดียังกับอ่านนิยายเลยแฮะ จากคุณ : จรดพู่กันจบอักษร เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 18:50:04

ความคิดเห็นที่ 38 มาลงชื่อให้กำลังใจครับผม จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 19:09:36

ความคิดเห็นที่ 39 กำลังมันส์เลย ลงชื่อให้กำลังใจครับ จากคุณ : แอบชอบ คห.ที่9 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 19:33:26

ความคิดเห็นที่ 40 ตามมารอชมครับ ^^ จากคุณ : FreedomTaro เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 19:45:47

ความคิดเห็นที่ 41 คห 36 ใช้ emu dolphin สินะคะ กินสเปกสุดๆ ตอนที่เล่นเกมนี้ใน Wii ใช้วีโมตกับนันชัคลำบากหน่อย ใช้เวลานานกว่าจะชิน ได้ยินมาว่าถ้าใช้จอยคลาสสิคจะเล่นได้ลื่นกว่า ก็อยากลองเหมือนกันค่ะ 555+ มาต่อกันเลยนะคะ ย้อนกลับไปเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ อัลวิสใช้พลังมองดูนิมิตของจักรพรรดิโซเรียน ทั้งคู่เห็นภาพจักรพรรดิถูกเมทัลเฟสฆ่าตายที่เกาะคุมขัง นอกจากนี้ยังเห็นเมเลียกับชาวฮอมส์(พวกชูล์ก) รวมถึงดาบโมนาโดะด้วย อัลวิสบอกว่านิมิตนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้  แต่จักรพรรดิโซเรียนก็ได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว กลับมาปัจจุบัน ที่เมืองหลวงได้จัดงานเฉลิมฉลองให้แก่เมเลีย เจ้าหญิงรัชทายาท ขณะเดียวกันที่นอกเมือง อัลวิสกับลอเรเธียยืนคุยกัน ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังร่วมกันวางแผนอะไรบางอย่าง ในตอนนั้นเอง เมทัลเฟส และเมคอนตัวใหม่ เฟส เนเมซิส พร้อมกับหุ่นเมคอนอื่นๆได้บินเข้ามายังเขตแดนของจักรวรรดิ ส่วนพวกชูล์กอยู่ในระหว่างรอการอนุญาตเข้าเกาะจากจักรพรรดิโซเรียน พวกเขาจึงไปเยี่ยมเมเลียที่อยู่ในอุทยาน เธอเล่าให้ฟังว่าแม่ของเธอที่เสียไปแล้วชอบอุทยานนี้มาก คนอื่นๆก็งงเพราะคิดว่ายูมีอาคือแม่ของเธอ เมเลียจึงอธิบายให้ฟังว่าสมาชิกในราชวงศ์ต้องมีภรรยา 2 คน คนหนึ่งเป็นไฮเอนเธีย อีกคนเป็นฮอมส์ แม่ของเธอเป็นฮอมส์ ดังนั้นตัวเมเลียจึงเป็นลูกครึ่ง ทุกคนพูดคุยกันซักพัก ชูล์กก็เห็นอนาคตว่าจักรพรรดิถูกเมทัลเฟสฆ่าตายที่เกาะคุมขัง ทันใดนั้นเองไซเรนดังขึ้น เตือนว่าเมคอนได้บุกเข้ามาแล้ว จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 19:50:08

ความคิดเห็นที่ 42 ทางด้านจักรพรรดิโซเรียนเมื่อทราบว่าเมคอนบุก จึงสั่งให้กัลเลียนดูแลเมือง แล้วพระองค์ก็รีบไปยังเกาะคุมขังเพียงลำพัง ตัดกลับมาที่พวกชูล์ก ชูล์กเล่านิมิตของเขาให้เมเลียฟัง เธอจึงรีบไปยังท้องพระโรงทันที แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบจักรพรรดิแล้ว กัลเลียนบอกเมเลียว่าจักรพรรดิเดินทางไปยังเกาะคุมขังแล้ว อัลวิสปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่าตัวโซเรียนเองรู้ดีอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวพระองค์เอง กัลเลียนยอมรับว่านี่คงเป็นชะตาที่ตัดสินมานานแล้ว แต่ดันบันกลับเอ่ยขึ้นว่ายังไงเราควรไปช่วยจักรพรรดิ ทุกคนจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเกาะคุมขังทันที เมทัลเฟสและลูกน้องบินมาถึงเกาะคุมขัง ขณะที่จักรพรรดิโซเรียนได้ใช้คทาปลดผนึกสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาได้ขังเอาไว้ นั่นคือร่างของยักษ์ที่มีผมและหนวดยาว ดวงตาสีแดงฉาน  ถูกตรึงไว้กับที่คุมขัง จักรพรรดิใช้คทาสร้างบาเรียคุ้มกันเกาะผนึกเอาไว้ทำให้พวกเมคอนไม่สามารถเข้ามาได้ ทางด้านกัลเลียนและอัลวิสมองดูเกาะคุมขังในที่ๆห่างไกลออกไป แล้วอัลวิสก็ยิ้มออกมา จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 19:58:46

ความคิดเห็นที่ 43 พวกชูล์กเดินทางมาถึงเกาะคุมขัง ที่นั้นพวกเขาได้พบกับรูปปั้นเทเลเธียขนาดใหญ่ เมเลียบอกว่าจริงๆแล้วเกาะแห่งนี้เกิดขึ้นก่อนเผ่าของเธอจะถือกำเนิดเสียอีก แต่บรรพบุรุษของเธอน่าจะเป็นคนผนึกอะไรบางอย่างเอาไว้ที่นี่  ขณะที่เมเลียเปิดประตูทางเข้า ชูล์กก็มองเห็นนิมิตอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นภาพของยักษ์ผู้มีผมยาว ตาสีแดง ถูกปลดปล่อยออกจากที่คุมขัง ไม่ทันจะคิดอะไร คนอื่นๆก็เร่งให้ชูล์กรีบไปต่อ ทุกคนเดินทางจนมาถึงที่ๆผนึกยักษ์เอาไว้ ชูล์กบอกว่าที่นี่แหละคือสถานที่ในนิมิตของเขา จักรพรรดิก็อยู่ที่นั่นด้วย ยักษ์ตนนั้นเอ่ยกับชูล์กว่า "ขอต้อนรับ ทายาทที่แท้จริงแห่งโมนาโดะ" โซเรียนอธิบายว่าคนๆนี้เป็นชาวยักษ์ที่เคยอยู่บนโลกนี้เมื่อยุคก่อน และนี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษไฮเอนเธียได้ผนึกเอาไว้ ยักษ์ตนนั้นแนะนำตัวว่าเขาชื่อ "ซันซ่า" และได้รอคอยชูล์กมาเนิ่นนานแล้ว ซันซ่าบอกว่าเขาคือผู้สร้างโมนาโดะขึ้นมาเมื่อพันปีก่อน เพื่อต่อกรกับเมคอนนิส ชูล์กถามว่าทำไมซันซ่าจึงถูกจับขังไว้ที่นี่ ยักษ์ซันซ่าจึงอธิบายว่าเพราะดาบโมนาโดะสามารถควบคุมพลังอีเธอร์ได้ ทั้งยังมอบพลังเห็นอนาคตให้กับผู้ที่ใช้มัน และซันซ่าเคยใช้โมนาโดะนี้เอาชนะเมคอนนิสได้ ไรน์ถึงกับงงว่าไอ้อาบเล่มแค่นี้เนี้ยนะเอาชนะเทพยักษ์เมคอนนิสได้ ซันซ่าเอ่ยต่อว่ารูปลักษณ์ของมันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ดาบนี้สามารถแปรเปลี่ยนรุปร่างได้ตามที่เจ้าของต้องการ และด้วยพลังมหาศาลอันน่ากลัวนี้เอง ไฮเอนเธียจึงได้ผนึกซันซ่าเอาไว้ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 20:01:19

ความคิดเห็นที่ 44 ซันซ่ากล่าวต่อว่า โมนาโดะคือดาบแห่งไบโอนิสที่ใช้ต่อกรกับเมคอนนิส ยิ่งผู้ใช้เติบโตขึ้น พลังดาบก็มีมากขึ้น หากแต่พลังนั้นยังไม่ได้รับปลดปล่อย ก็ไม่ต่างจากถูกจองจำ แถมตอนนี้ดาบยังมีข้อจำกัดในการกำจัดเมคอนบางประเภทอีกต่างหาก (เมคอนจำพวก เฟส ทั้งหลาย) ขณะเดียวกันนั้น เมทัลเฟสที่พยายามหาช่องทางเจาะบาเรียก็มองหาว่าพลังงานที่ใช้สร้างบาเรียนี่อยู่ที่ไหนกัน ว่าแล้วมันก็ส่องกล้องดูแล้วเห็นซันซ่า เมทัลเฟสชักอาวุธใหม่ออกมา มันคือหอกยาวที่มีกระบอกอีเธอร์บรรจุอยู่ ซันซ่าบอกชูล์กว่าเขาจะปลดปล่อยพลังของดาบโมนาโดะให้ ถ้าชูล์กใช้มันปลดปล่อยเขาออกจากที่คุมขังแห่งนี้ก่อน ถ้าชูล์กยอมทำตาม โมนาโดะเล่มนี้จะสามารถตัดผ่าได้ทุกสิ่งทุกอย่าง (ตอนนี้ โมนาโดะไม่สามารถฟันคนได้) เมเลียพยายามห้ามชูล์ก แต่ชูล์กในตอนนี้ปรารถนาพลังอย่างมากเพื่อที่จะจัดการพวกเมคอน เขาจึงใช้มันฟันที่คุมขังของซันซ่าปลดปล่อยให้ยักษ์เป็นอิสระ ขณะที่ซันซ่ากำลังจะปลดปล่อยพลังของดาบ หอกอีเธอร์ของเมทัลเฟสก็พุ่งทะลุบาเรีย และเสียบเข้าร่างของซันซ่า จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 20:07:00

ความคิดเห็นที่ 45 ทันใดนั้น เมคอนตัวใหม่ เฟสเนเมซิส ได้บินเข้ามาคุยทางโทรจิตกับซันซ่า แต่ไม่ทันจะคุยได้เรื่องอะไร ชูล์กก็บุกเข้ามาหมายทำลายเฟสเนเมซิส ทว่าเฟสเนเมซิสกลับร้องห้ามชูล์ก  เธอไม่ต้องการที่จะทำร้ายเขา แต่ชูล์กไม่ฟัง เขาวิ่งเข้าไปโจมตีอีกครั้งแต่เมทัลเฟสเข้ามาขวางไว้ ดันบันเข้าไปสู้กับมันแต่ก็ไม่เป็นผลเช่นเคย ขณะที่เมทัลเฟสกำลังจะฆ่าดันบันและเมเลีย จักรพรรดิโซเรียนได้ใช้คทาดึงพลังจากเกาะคุมขังยิงไปยังเมทัลเฟสจนมันแน่นิ่ง ถึงอย่างนั้น มันก็ยังไม่ตาย เมทัลเฟสฉวยโอกาสเล่นทีเผลอจัดการสังหารจักรพรรดิโซเรียนต่อหน้าต่อตาเมเลีย ชูล์กแค้นใจมากที่ช่วยจักรพรรดิไว้ไม่ได้ ตอนนั้นเองชูล์กได้ยินเสียงของซันซ่าจากร่างที่แน่นิ่งไปแล้ว เขาจึงขอพลังของโมนาโดะ ซันซ่าตอบว่าผนึกพลังนั้นถูกทำลายแล้ว จงใช้ดาบ คิดถึงศัตรูตรงหน้า แล้วพลังนั้นจะเป็นของชูล์ก เมื่อพูดจบร่างยักษ์ซันซ่าก็สลายไป ชูล์กใช้โมนาโดะอีกครั้ง คราวนี้มันเปลี่ยนรูปร่างไปจากเดิม และมีพลังที่สูงขึ้นกว่าเดิม ...ทุกสิ่งเป็นไปตามนิมิตของชูล์ก จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 20:09:05

ความคิดเห็นที่ 46 เฟส เนเมซิส จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 20:10:04

ความคิดเห็นที่ 47 ชูล์กใช้โมนาโดะโจมตีใส่เมทัลเฟส คราวนี้ดาบโมนาโดะสามารถสร้างความเสียหายกับมันได้แล้ว ก่อนที่เขาจะหวดดาบเพื่อปลิดชีพมัน เฟสเนเมซิสก็เข้ามาขวางไว้ โมนาโดะจึงฟันผ่าร่างของเฟสเนเมซิสแทน ปรากฏว่าภายในหุ่นนั้นมีร่างของใครคนหนึ่ง ชูล์กแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เพราะว่าคนที่อยู่ในเฟสเนเมซิสก็คือ.. ....ฟิโอร่า ทั้งชูล์กและดันบันช็อกมากที่เห็นว่าฟิโอร่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ท่าทางเธอจะจำพวกเขาไม่ได้ ราวกับเป็นคนละคน ไม่ทันที่จะได้คุยอะไร หุ่นเฟสเนเมซิสเสียหายจากการโจมตีของชูล์กเมื่อครู่ เธอจึงขับมันจากไปพร้อมกับเมทัลเฟสและเมคอนตัวอื่นๆ เดี๋ยวมาต่อนะคะ ขอพักก่อน ^^" จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 20:15:10

ความคิดเห็นที่ 48 เกมนี้ผมเล่นบน emu แล้วปรากฏว่ามันใช้จอยคลาสสิคไม่ได้ ใครมีวิธีทำให้มันเล่นได้วานบอกด้วยครับ จากคุณ : ผู้ชายหัวใจสีชมพู เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 22:00:13

ความคิดเห็นที่ 49 ปรับเป็น wii mote with nunchuck ครับ เซทคอนโทรลยากนิดนึง ผมเซทจนเหลือที่ต้องใช้บนคีย์บอรดอยู่ 2 ปุ่มได้ (เหลือแค่ก้มกับเงย) เวลาเดิน มันจะเป็นการบังคับ ของจอยอนาลอคที่ติดมาปกติยู่แล้ว เหลือแค่ตรง D pad UP Down คือ ปุ่มขึ่้นลงบนคียบอรด ซึ่งตรงนี้มัน ใช้แค่เวลาแพนกล้องเท่านั้นเลยไม่ได้ลดเท่าไหร่ แต่ตรงซ้ายขวา แนะนำให้เซทไว้ที่ L กับ R ครับ มันสะดวกในการกดมากเวลาสู้ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 54 23:24:28 จากคุณ : Ex-Sentinel เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:21:54

ความคิดเห็นที่ 50 แถมสุดยอดมุขเลวของเกมนี้ ผมลองทำแล้วได้ผลครับแต่ลำบาก จากคุณ : Ex-Sentinel เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:25:56

ความคิดเห็นที่ 51 #50 มุขเลวจริงๆด้วย! ขี้โกงดีชะมัด จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:36:39

ความคิดเห็นที่ 52 เห็น คห 50 แล้วฮามาก แต่ว่าตอนเลเวลง่อยๆยังกลัวอยู่เลยไม่กล้าทำ พอช่วงใกล้ๆจบเกมที่เราเทพขึ้นแล้วก็เลยกลับมารังแกสัตว์พวกนี้ค่ะ 555+ เซ็งอีกอย่างนึงคือ บางทีหวดมอนแถวๆขอบ พอมันร่วง หีบก็ดันตกเหวไปด้วยซะนี่ ==" ต่อเลยค่ะ เมื่อศัตรูจากไป เมเลียและทุกคนมาดูใจจักรพรรดิเป็นครั้งสุดท้าย โซเรียนบอกกับเมเลียว่าเธอคือความหวังเดียวของไฮเอนเธีย จากนั้นโซเรียนก็สิ้นใจ เมเลียตัดสินใจว่าจะต้องล้างแค้นให้ได้ (ชูล์กหาแนวร่วมได้อีกคน) หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว อัลวิสก็ปรากฏตัวขึ้น ณ ที่ๆคุมขังซันซ่า อัลวิสเอ่ยชมว่าซันซ่าเล่นละครได้เก่งมาก จากนั้นซันซ่าในสภาพวิญญาณก็ล่องลอยไป ที่ท้องพระโรง เมเลียเข้ารับตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่กัลเลียนทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนพวกชูล์กกลับมาอยู่ห้องรับรอง ตอนนี้ทุกคนต่างรู้สึกทั้งเศร้าและอึดอัดหลังจากการตายของจักรพรรดิโซเรียน และฟิโอร่าที่เปลี่ยนไป เมเลียสังเกตว่าชูล์กดูแปลกไปหลังจากที่พบกับฟิโอร่าจึงถามว่าเธอเป็นใคร ชูล์กเล่าให้ฟังว่าเธอคือเพื่อนที่น่าจะโดนเมคอนฆ่าตายไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นน้องสาวของดันบันอีกด้วย เมเลียถามไรน์ว่าฟิโอร่านี่เป็นคนสำคัญของชูล์กเหรอ ไรน์บอกว่าใช่สิ ที่พวกเขาออกเดินทางมาตลอดนี่ก็เพราะเธอคนนี้แหละ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:43:01

ความคิดเห็นที่ 53 ชูล์กเข้ามาคุยกับดันบัน  ดันบันบอกว่าถึงแม้ฟิโอร่าจะจำเขาไม่ได้ แต่แค่เธอยังมีชีวิตอยู่เขาก็ดีใจแล้ว นอกจากน้ดันบันยังบอกอีกว่า ถ้าฟิโอร่าจะมีใครซักคนอยู่เคียงข้างล่ะก็ คนๆนั้นคือชูล์ก ทั้งคู่จึงตัดสินใจว่าจะช่วยฟิโอร่ากลับมาแล้วหาทางฟื้นความทรงจำให้เธอให้ได้ จากนั้นเจ้าชายกัลเลียนก็เชิญพวกเขาไปพบ กัลเลียนเอ่ยขอโทษทุกคนว่าที่ผ่านมานั้น ไฮเอนเธียไม่ใส่ใจเรื่องการรุกรานของเมคอนกับเผ่าอื่นๆ คราวนี้ไฮเอนเธียจะขอร่วมสู้ไปกับผู้คนในไบโอนิสด้วย เขาคิดจะสร้างกองทัพพันธมิตรขึ้นมา และขอร้องให้พวกชูล์กช่วยเป็นฑูตประสานของกองทัพนี้ ชูล์กรับฟังมีท่าทีอึกอักแล้วขอตัวกลับไปคิดก่อน กัลเลียนถามเมเลียว่าชูล์กคิดจะไม่ช่วยงั้นหรือ เมเลียปฏิเสธ เธอบอกว่าตอนนี้ชูล์กมีเรื่องอื่นที่กำลังคิดหนักอยู่ ชูล์กกำลังลังเล เขาอยากจะช่วยเหลือกองทัพแต่อีกใจก็อยากไปตามหาฟิโอร่า เมเลียจึงบอกชูล์กว่าไปตามหาฟิโอร่าเถอะ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะสายเกินไปก็ได้ ส่วนงานฑูตกองทัพนั้นเมเลียบอกว่าเธอจะทำเอง ก่อนที่เมเลียจะแยกจากทุกคนนั้น ชาล่ามองออกว่าเมเลียเริ่มชอบชูล์กซะแล้ว จึงบอกกับเธอว่าเธอจะคอยดูชูล์กให้เอง ถ้าเจอฟิโอร่าเมื่อไหร่เธอจะรีบพาเขากลับมาที่อัลคามอททันที ชาล่าให้กำลังใจเมเลีย ตอนนั้นเองกัลเลียนก็ออกมา กัลเลียนทราบแล้วว่าชูล์กปฏิเสธคำขอจากเขา เจ้าชายจึงบอกให้เมเลียร่วมเดินทางไปกับชูล์กเพื่อไล่ตามเมคอนที่เข้ามาโจมตีจักรวรรดิ เขาบอกอีกว่าได้รับรายงานว่าเฟสเนเมซิสอยู่ที่ซอร์ด วอลเลย์ ฐานของเมคอน เจ้าชายขอฝากเมเลียกับชูล์ก ในส่วนของกองทัพพันธมิตร กัลเลียนจะดูแลเอง ตอนนั้นเองอัลวิสก็อาสานำทางพวกชูล์กไปยังส่วนดาบของเมคอนนิส การที่จะไปที่นั่นจะต้องผ่านภูเขาหิมะวาลัก ที่อยู่บนแขนขวาของไบโอนิสเสียก่อน แถมยังเป็นที่ๆอันตรายมากอีกด้วย ภูเขาหิมะวาลัก แมพสุดโหด เดินตกเขาตายหลายรอบมาก แต่เป็นอีกแมพที่สวยมากเวลากลางคืน คริสตัลจะเปล่งแสงออกมา ปล. ใครทราบบ้างว่า ปราสาท(หรือวิหารอะไรซักอย่าง)ที่เป็น Secret Area ของที่นี่ต้องรับเควสอะไรมาถึงจะเปิดผนึกได้คะ หาไม่เจอ T__T จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:47:34

ความคิดเห็นที่ 54 ขณะนั้นที่ฝั่งเมคอน ฟิโอร่าที่บัดนี้กลายเป็น "เลดี้ เมย์เน็ท" ก็ตระหนักว่าซันซ่ายังไม่ตาย โศกนาฏกรรมกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมซันซ่าถึงปลดปล่อยพลังของโมนาโดะทั้งที่รู้ว่ามันเป็นดาบสองคม และทำไมถึงเลือกเด็กคนนั้น(ชูล์ก) พอเธอนึกถึงชูล์กก็รู้สึกแปลกๆ เธอจึงตัดสินใจบินออกจากฐานเพื่อไปตามหาชูล์ก แต่ทว่าเมทัลเฟสก็เฝ้าจับตาดูอยู่ ทุกคนเดินทางสู่ภูเขาวาลัก อัลวิสพาพวกชูล์กไปยังที่แห่งหนึ่งก่อน นั่นคือหอคอยยักษ์กลางหุบเขา ที่นั่นมีประตูที่สลักด้วยอักขระของชาวไฮเอนเธียอยู่ ทุกคนเข้าไปภายในหอคอย ชูล์กก็รู้สึกเดจาวูขึ้นมา อัลวิสอธิบายว่าที่นี่คือหอคอยโอเซ่ ไฮเอนเธียเคยผนึกโมนาโดะเอาไว้ที่นี่ และเป็นที่ๆชาวฮอมส์ได้ค้นพบมัน ชูล์กตกใจเพราะว่าที่นี่คือที่ๆเขาเป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวจากเหตุการณ์ตายหมู่เมื่อ 14 ปีก่อน ชูล์กถามอัลวิสว่าความสามารถในการเห็นอนาคตของเขามีมาแต่เกิดหรือเปล่า อัลวิสบอกว่าครั้งหนึ่งเขาเคยแตะโมนาโดะ ผู้ที่จะเป็นโหรนั้นต้องแตะโมนาโดะเพื่อรับพลังนั้นมา สถานที่แห่งนี้จึงเคยใช้ประกอบพิธีรับพลังการทำนายของโหรนั่นเอง อัลวิสอธิบายว่านิมิตที่ชูล์กเห็นนั้นคือการไหลเวียนของพลังอีเธอร์ พลังอีเธอร์นี้เป็นต้นกำเนิดของการมีอยู่ของโลก อีเธอร์จะอยู่ที่ไหน มีมากเท่าไหร่นั้นสามารถทำนายได้ ด้วยหลักการนี้ อนาคตของสิ่งมีชีวิตอย่างเราๆจึงสามารถทำนายได้ และสิ่งที่สามารถสร้างนิมิตเห็นอนาคตได้ก็คือดาบโมนาโดะนั่นเอง ดาบโมนาโดะสามารถทำให้พลังอีเธอร์ปั่นป่วนได้ ทำนองเดียวกัน นิมิตที่เห็นก็ส่งผลกระทบถึงอนาคตด้วย ถ้าหากว่าปล่อยเอาไว้เฉยๆ อนาคตจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าหากว่ามีใครไปแทรกแซงมัน อนาคตก็จะเปลี่ยน ชูล์กจึงบอกว่านี่คือสิ่งที่ซันซ่าวางแผนที่จะทำลายเมคอนนิสงั้นสิ แต่ทำไมมันถึงดำเนินมาถึงขนาดนี้? ในอดีตมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อัลวิสย้อนถามว่าชูล์กคิดว่าเรื่องของเทพยักษ์ 2 ตนเป็นเพียงแค่ตำนานงั้นหรือ? ชูล์กบอกว่าเขาเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นเท่านั้น อัลวิสก็ย้อนอีกว่า แต่ชูล์กพอจับโมนาโดะ เขาก็มองเห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็นมิใช่หรือ? ชูล์กถามอัลวิสว่า ถ้างั้นแล้วเขาควรจะหยุดใช้มันเหรอ? อัลวิสบอกว่าตัวชูล์กเป็น "ความผันผวน" การมีอยู่ของชูล์กอยู่นอกเหนือจากผลการทำนายอนาคต ยิ่งยอมรับการมีอยู่นี้เท่าไหร่ โลกก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงไปง่ายมากขึ้น และตัวชูล์กได้แต่ต้องยอมรับมันเท่านั้น พรุ่งนี้จะมาต่อค่ะ มาถึงตอนนี้ก็น่าจะเกินครึ่งเรื่องแล้ว(มั้ง) นั่งเขียนมาทั้งวัน ปวดตามากมาย @__@ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:51:14

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ รออ่านต่อพรุ่งนี้ ^ ^ จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:58:39

ความคิดเห็นที่ 56 เขียนต่อเพลินไปหน่อยเลยเอามาลงต่อซะเลย อดนอนไปอีกคืน 55+ รุ่งขึ้นทุกคนออกเดินทางต่อ พอเดินไปได้ซักพัก เฟสเนเมซิสก็บินมาหาพวกชูล์ก เกราะของมันเปิดออกเผยให้ฟิโอร่าอยู่ด้านใน ชูล์กเรียกชื่อเธอ แต่เธอกลับย้อนถามชูล์กว่า "ฟิโอร่า" คือชื่อของร่างกายนี้งั้นหรือ ไม่ทันที่ทั้งสองจะได้คุยอะไรกันต่อ เมทัลเฟสก็โผล่มาขัดจังหวะ มันยิงพลังใส่หุ่นของฟิโอร่าแล้วจับเธอเอาไว้ ทุกคนจึงรีบเข้าไปขวาง เมทัลเฟสบอกให้ชูล์กส่งโมนาโดะมาให้ซะ ไม่งั้นมันจะจัดการฆ่าทุกคน ชูล์กยอมมอบโมนาโดะให้พร้อมกับบอกให้มันปล่อยหุ่นของฟิโอร่าซะ เกราะของเมทัลเฟสเปิดออก ข้างในนั้นปราฏว่าเป็นมุมการ์ เพื่อนทรยศของดันบันที่น่าจะตายไปตั้งแต่ตอนรบเมื่อ 1 ปีก่อนแล้ว มุมการ์บอกว่าตัวเขาอยากได้โมนาโดะมานานแล้ว ดันบันจึงซักว่าทำไมมุมการ์ถึงทรยศ? ทำไมถึงต้องฆ่าคนที่โคโลนีด้วย? มุมการ์ตอบว่าเพราะว่าที่นั่นคือบ้านของดันบันไงล่ะ เขาอิจฉาริษยาดันบันมาตลอด ดันบันแค้นมากจึงคิดจะจัดการมุมการ์ซะ แต่มันกลับใช้รีโมทควบคุมหุ่นเมทัลเฟสเตรียมเชือดฟิโอร่าที่สลบไป เมเลียทนไม่ไหวจึงยิ่งเวทย์ใส่มุมการ์ทำเอาดาบโมนาโดะหลุดจากมือของมัน ชูล์กคว้าโมนาโดะมา ทุกคนจึงร่วมกันซัดมุมการ์ซะ จากนั้นดันบันก็สู้กับมุมการ์ตัวต่อตัว แต่แล้วกองทัพเมคอนก็โผล่มาอีก พร้อมกับเมคอนสีทองร่างยักษ์ เมคอนสีทองกล่าวว่าเขาชื่อเอกิล ผู้นำของเมคอนนิสและเป็นผู้แทนของเมย์เน็ท เขารับตัวเฟสเนเมซิสของฟิโอร่าแล้วบินจากไปพร้อมกับมุมการ์ เอกิลเอ่ยทิ้งท้ายว่าถ้าอยากได้ฟิโอร่าคืนก็จงตามมาซะ *เหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้โมนาโดะถึงฟันพวก "เฟส" เมคอนไม่เข้า น่าจะเพราะว่าภายในของพวกมันมีคนอยู่ และดาบโมนาโดะก่อนหน้านี้จึงไม่สามารถฟันคนได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 02:55:52 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:55:06

ความคิดเห็นที่ 57 เมคอนสีทองของเอกิล จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:56:34

ความคิดเห็นที่ 58 ทุกคนมุ่งหน้าต่อไปยังป้อมปราการกาลาฮัด ณ ซอร์ด วอลเลย์ เพื่อไปช่วยฟิโอร่า ที่นั่นพวกเขาได้พบกับป้อมปราการและท่อลำเลียงของเหลวสีเขียว มันคืออีเธอร์นั่นเอง เมเลียบอกว่าพ่อของเธอเคยเล่าว่าเมคอนนิสได้ดูดอีเธอร์ของไบโอนิสไปใช้เป็นพลังงานหล่อเลี้ยง เมื่อเดินต่อไปก็พบยานของไฮเอนเธียจอดอยู่ ดิ๊กสันอยู่ที่นั่นด้วย เขาบอกว่าก่อนหน้านี้เขาไปเป็นตัวแทนของชาวฮอมส์ในการรวมทัพพันธมิตรที่กัลเลียนว่าไว้ และก็ได้รู้ว่าพวกชูล์กกำลังจะมาที่นี่ เลยแวะมาหาพร้อมกับเอายุทโธปกรณ์มาให้ ดิ๊กสันประหลาดใจเมื่อรู้ว่าฟิโอร่ายังมีชีวิตอยู่ แต่เขาเฉยๆเมื่อรู้ว่ามุมการ์เป็นคนถล่มโคโลนี 9 ถึงตอนนี้อัลวิสจะขอตัวกลับไปจักรวรรดิเพื่อเตรียมการรบพร้อมกับดิ๊กสัน ส่วนทุกคนก็เดินทางต่อไป ทางด้านเอกิล เขากำลังนึกถึงซันซ่า และภาพการต่อสู้ของเทพยักษ์ทั้งสอง เอกิลตระหนักว่ามีผู้ที่ใช้โมนาโดะปรากฏตัวขึ้นอีกคนแล้ว แต่ยังสงสัยว่าทำไมซันซ่าจึงปลดปล่อยพลังโมนาโดะทั้งที่รู้ว่ามันจะเป็นดาบสองคม แถมยังมอบดาบให้เด็กนั่น(ชูล์ก) นอกจากนี้เฟสเนเมซิสยังฝ่าฝืนคำสั่งออกไปข้างนอกคนเดียวอีก บัดนี้โมนาโดะได้รับการปลดปล่อยแล้ว พวกเฟสเมคอนก็ไร้ประโยชน์ลง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะให้พวกมันต่อสู้กับชูล์กเพื่อที่จะจับตาดูชูล์กต่อไป จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:57:18

ความคิดเห็นที่ 59 ซอร์ด วอลเลย์ ฐานทัพหน้าของเมคอน ที่นี่ดูดเอาอีเธอร์จากไบโอนิสมาใช้ผลิตอาวุธและพลังงาน ในภาพ ฉากหลังคือหัวของยักษ์ไบโอนิส จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:04:08

ความคิดเห็นที่ 60 ทางด้านพวกชูล์กก็ค่อยๆลอบเข้ามายังฐานทัพหน้าของเมคอน ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับมุมการ์อีกครั้ง มันมีลูกน้องที่ใช้หอกแบบเดียวกับที่แทงซันซ่าเป็นอาวุธ มุมการ์บอกว่าหอกนี้บรรจุของเหลวสีเขียวที่ผลิตจากอีเธอร์ที่ดูดมาจากไบโอนิส เป็นอาวุธที่ร้ายแรงมาก ว่าแล้วเราก็ต้องต่อสู้กับมุมการ์และลูกน้องของมัน มุมการ์พลาดท่าในที่สุด ดันบันที่แค้นสุดๆก็พุ่งตัวเข้าไปหมายแทงไส้แตก แต่ชูล์กกลับขวางดันบันเอาไว้ เขาบอกว่ามุมการ์ไม่ใช่เมคอน ดันบันแย้งว่าคิดถึงสิ่งที่มันทำสิ ชูล์กบอกว่าเขาเองก็แค้นมันมากเหมือนกัน แต่ว่าพวกเฟสเมคอนก็เป็นฮอมส์เหมือนกัน ดันบันจะฆ่าพวกฮอมส์ด้วยงั้นหรือ ดันบันยังยืนยันว่ายังไงก็ต้องฆ่ามันซะ ชูล์กบอกว่าเขาเองก็ต้องการกำจัดเมคอนให้สิ้นซาก แต่เขายังอยากรู้ว่าทำไมถึงมีคนมาเป็นพวกเฟสเมคอน ทำไมไบโอนิสและเมคอนนิสถึงต้องต่อสู้กัน เขาต้องการรู้ความจริงทั้งหมด ดันบันรับฟังชูล์กจึงตัดสินใจลดดาบลง มุมการ์จึงฉวยโอกาสทำร้ายดันบัน แต่กลับเป็นมุมการ์เองที่โดนสวนกลับ ดันบันบอกว่าเขาไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่มุมการ์ทำ แต่คำพูดของชูล์กนั้นมีเหตุผล ตอนนี้ที่สำคัญคือไปช่วยฟิโอร่าก่อน ตอนนั้นเองชูล์กก็เห็นนิมิตว่ามุมการ์จะเข้ามาโจมตีอีกครั้งแต่ถูกเสาที่อยู่ด้านบนหล่นลงมาเสียบตาย เขาจึงพยายามห้ามมุมการ์ แต่ก็ไม่เป็นผล มุมการ์ถูกเสาแทงจนตกลงไปด้านล่าง เป็นการปิดฉากชีวิตของเมทัลเฟส แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 03:05:45 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:04:51

ความคิดเห็นที่ 61 ไล่ตามมาครึ่งค่อนเกม มาตายเอาซะแบบนี้ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:07:12

ความคิดเห็นที่ 62 ทางด้านจักรวรรดิไฮเอนเธีย ลอเรเธียกับอัลวิสยืนคุยกัน ลอเรเธียบอกว่าจากการตรวจสอบหอกที่แทงซันซ่า พบว่าของเหลวสีเขียวที่บรรจุไว้นั้นสามารถทำลายอีเธอร์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบในทุกๆชีวิตบนไบโอนิสได้ ดูเหมือนว่าเจ้าของเหลวนี้จะถูกสร้างจากพลังอีเธอร์ที่ถูกดูดมาจากไบโอนิส อัลวิสจึงบอกว่านี่คงเป็นสาเหตุที่ป้อมกาลาฮัดดูดอีเธอร์ขึ้นมางั้นสิ ลอเรเธียบอกว่ายังเร็วไปที่จะสรุปแบบนั้น และตอนนี้กำลังสร้างแอนตี้บอดี้เพื่อต่อต้านสารนี้อยู่ ลอเรเธียเอ่ยขึ้นมาอีกว่าทำไมต้องรวมกลุ่มกับดิ๊กสันด้วย อัลวิสก็รู้ว่าตาแก่นั่นชอบทำตัวไร้มารยาทใส่เธอ อัลวิสบอกลอเรเธียว่าดิ๊กสันรู้จัก "ท่านผู้นั้น" มานานกว่าเราสองคน ยังไงซะเราต้องเคารพเขา ....ดูเหมือนว่า 3 คนนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกันบางอย่าง (อีเธอร์เนี่ยคล้ายๆกับไลฟ์สตรีมใน FF7 เลยค่ะ) เมื่อมุมการ์ถูกกำจัดไป พวกชูล์กก็มุ่งเข้าไปในภายในป้อมต่อเพื่อช่วยฟิโอร่า ชูล์กเห็นภาพนิมิตอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นหุ่นเฟสเนเมซิสหันคมดาบใส่ และภาพหุ่นเนเมซิสร่วงหล่นลงไป จากนั้นทุกคนก็เดินทางต่อ มาจนถึงภายในอู่ซ่อมบำรุง ที่นั่นพวกเขาได้พบกับเฟสเนเมซิส แต่คราวนี้เธอจะชักดาบขึ้นมาสู้กับเรา ทุกคนถูกเฟสเนเมซิสไล่ยิงจนตกลงไปชั้นล่าง ชูล์กพยายามเรียกให้ฟิโอร่าได้สติ ตอนนั้นเองเอกิลก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วใช้พลังบางอย่างทำให้โมนาโดะใช้การไม่ได้ เฟสเนเมซิสเดินเข้ามาใกล้พร้อมชี้ดาบไปยังพวกชูล์ก เกราะของเธอเปิดออก ฟิโอร่าบอกว่าให้ทุกคนรีบหนีไป ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมหุ่นนี้ได้ เพราะว่าเอกิลเป็นคนคุมแทน ชูล์กถามเอกิลว่าทำไมถึงจับฮอมส์ไปเป็นพวกเมคอน แล้วทำไมจ้องโจมตีไบโอนิสด้วย เอกิลบอกว่าถ้าอยากรู้ก็เข้ามาเป็นพวกเขาสิ ดันบันบอกชูล์กให้รีบหนีออกไปจากที่นี่ดีกว่า ทางด้านเอกิลบอกว่าตอนนี้เขาทำให้โมนาโดะใช้การไม่ได้ ดาบนี้เป็นเครื่องมือใช้ควบคุมคลื่นอีเธอร์ในโลกนี้ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายมากที่จะปล่อยคลื่นพลังตรงข้ามทำให้มันใช้การไม่ได้ เอกิลบอกให้ชูล์กส่งโมนาโดะมา แต่เขาไม่ยอม ชูล์กย้อนถามว่าโมนาโดะตอนนี้ใช้การไม่ได้แล้วจะเอาไปทำไม เขาไม่มีวันมอบดาบนี้ให้เอกิลเด็ดขาด เอกิลจึงบังคับเฟสเนเมซิสให้เข้าไปจัดการพวกชูล์ก พวกชูล์กสู้ไม่ได้และเอกิลก็กำลังจะฆ่าพวกเขา ตอนนั้นเอง ฟิโอร่าตัวจริงที่ซ่อนลึกอยู่ก็ร่ำร้องให้ผู้ที่ครองร่างของเธอช่วยชูล์กและทุกคน เธอจึงขับหุ่นไปขวางเอกิลพร้อมกับระเบิดพลังออกมา ทำให้พื้นตรงนั้นพังและกำลังร่วงลงไป ชูล์กพยายามไปให้ถึงร่างของเฟสเนเมซิส แต่ร่างนั้นกลับตกลงไปเบื้องล่าง ชูล์กตะโกนชื่อฟิโอร่าก่อนโดดตามลงไป ส่วนเอกิลหนีรอดไปได้พร้อมกับความประหลาดใจเมื่อเห็นพลังของเฟสเนเมซิส ที่เมืองหลวงอัลคามอท กัลเลียนได้รับรายงานว่าป้อมกาลาฮัดพังเสียหาย กัลเลียนเป็นห่วงเมเลียและชูล์ก แต่ดิ๊กสันปรากฏตัวขึ้นและบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขาหรอก อีกอย่างถ้าหากกัลเลียนจะโจมตีพวกเมคอนก็ควรทำซะตอนนี้เลย แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 11:05:13 จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:13:11

ความคิดเห็นที่ 63 ชูล์กฝันถึงความฝันที่เขาเคยฝันเมื่อนานมาแล้ว ในความฝันนั้นเขาในวัยเด็กกำลังเล่นกับซากชิ้นส่วนเครื่องจักรอย่างสนุกสนาน แล้วเขาก็ตกลงไปใต้ดิน เมื่อมองขึ้นไปชูล์กก็มองเห็นตัวเขาอีกคนหนึ่งกำลังจ้องมองลงมา จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้น ชูล์กพบว่าตัวเองตกลงมายังชายหาดแห่งหนึ่ง ห่างไปไม่ไกลนักก็มีซากเครื่องเฟสเนเมซิสตกอยู่ ชูล์กรีบไปดูแล้วพบว่าฟิโอร่ายังไม่ตาย เขาหาน้ำสะอาดมาให้เธอดื่มแต่ไม่เป็นผล ชูล์กจึงใช้มุขเดียวแบบในละครคือป้อนน้ำทางปาก (แอร๊ย) ฟิโอร่าฟื้นขึ้นมา ชูล์กนึกขึ้นได้ว่าฟิโอร่าคนนี้จำเขาไม่ได้ แต่ไม่ทันเขาจะแนะนำตัว เธอก็ยิ้มให้แล้วบอกว่า ไม่อยากจะเชื่อเลย นั่นจูบแรกของฉันเลยนะ ชูล์กดีใจบอกว่าเธอจำเขาได้แล้ว ฟิโอร่าตอบว่าจำได้อยู่แล้วสิ ชูล์กจึงโผเข้ากอดเธอไว้แน่น จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:16:18

ความคิดเห็นที่ 64 ฟิโอร่าบอกชูล์กว่า จริงๆแล้วเธอไม่เคยลืมเขาและคนอื่นๆ เธอเล่าต่อว่า เมื่อตอนที่โคโลนี 9 โดนบุก พอเธอถูกเมทัลเฟสแทง เธอก็จำอะไรไม่ได้และไม่รู้สึกอะไรเลย พอรู้ตัวอีกที เธอก็มีร่างเป็นเครื่องจักร และเธอก็รู้สึกว่ามีใครอีกคนอยู่ในร่างของเธอ ใครคนนั้นควบคุมร่างของเธอเอาไว้ ส่วนตัวเธอที่แท้จริงได้เพียงมองดูและได้ยินเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุว่าที่ผ่านมาทำไมเธอจึงจำพวกเขาไม่ได้ ฟิโอร่าบอกว่าทั้งๆในใจนั้น เธอร่ำร้องหาพวกเขามาตลอด แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน ชูล์กบอกว่าพวกเขายังเชื่อว่าฟิโอร่ายังเป็นฟิโอร่าเสมอ ชูล์กถามเธอว่าอีกคนที่อยู่ในร่างเธอเป็นใครกัน ฟิโอร่าตอบว่าไม่รู้ เธอได้ยินเสียงของคนๆนี้แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ฟิโอร่าบอกว่าคนๆนี้ต้องการจะทำอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกคนในร่างเธอคงจะหลับไปไม่ก็ถูกผนึกเอาไว้เหมือนกับที่ฟิโอร่าเป็นก่อนหน้านี้ ชูล์กบอกว่างั้นก็ดีแล้วเพราะคนๆนั้นเอาร่างของฟิโอร่าไปใช้ตามใจชอบ แต่ฟิโอร่ากลับบอกว่าคนๆนี้ดูแลร่างกายเธออย่างดี และยังรับฟังคำขอร้องให้ช่วยปกป้องชูล์กตอนที่เอกิลโจมตีอีกด้วย เธอจึงอยากจะช่วยคนที่สิงร่างของเธอ ชูล์กรับฟังอย่างเข้าใจและยอมรับคำพูดของฟิโอร่าในที่สุด เขาบอกว่าเขาจะช่วยเธอค้นหาว่า คนที่สิงร่างฟิโอร่านั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่ ฟิโอร่าขอบคุณชูลก์ เขาบอกกับเธอว่าขอต้อนรับกลับมานะ ฟิโอร่ายิ้มแล้วตอบว่ากลับมาแล้ว (จะว่าต่อวันนี้ช่วงเกือบๆเที่ยงนะคะ ตอนนี้ขอไปนอนก่อน =w=) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:21:30

ความคิดเห็นที่ 65 สมาชิกคนสุดท้ายของปาร์ตี้ ฟิโอร่า เวอร์ชั่นร่างหุ่นยนต์ เมพกว่าตอนเป็นคนเยอะ 55+ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:26:51

ความคิดเห็นที่ 66 มาต่อแล้วค่ะ ว่าแต่ยังมีคนตามอ่านอยู่รึเปล่าคะเนี่ย แฮ่กๆ =q= Secret Episode : At Home ตอนพิเศษจากอาร์ตบุคแปลเสร็จแล้วค่ะ แต่ขอบอกว่าสปอยล์สุดๆ >> http://www.pantip.com/tech/games/topic/GS3038332/GS3038332.html มาต่อกันเลยค่ะ ผ่านไปซักพัก ชูล์กบอกกับฟิโอร่าว่าไปตามหาคนอื่นๆกันเถอะ พวกเขายังไม่ตายแน่นอน เดินทางไปได้ซักพัก ฟิโอร่าบอกชูล์กว่าเธอขอพักก่อน ระหว่างฟิโอร่าหลับ ชูล์กนึกเป็นห่วงคนอื่นๆ พอเขาหยิบโมนาโดะขึ้นมา มันยังใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม ฟิโอร่าตื่นขึ้นมา เธอบอกชูล์กว่าร่างกายหุ่นยนต์นี้ เธอไม่จำเป็นต้องกินอะไร (นอกจากน้ำ) ถึงแม้ว่าเธอชอบร่างเก่ามากกว่า แต่ร่างนี้ก็มีประโยชน์ในการต่อสู้ ฟิโอร่าบอกชูล์กให้ทิ้งที่เธอไว้นี่ เพราะร่างของเธอกลายเป็นเมคอนไปแล้ว แต่ชูล์กไม่ยอม เขาไม่ยอมให้เธอจากไปไหนอีก ตอนนั้นเองเมคอนก็โผล่มาขัดจังหวะ ชูล์กพยายามใช้พลังโมนาโดะจนในที่สุดดาบก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ชูล์กจัดเมคอนได้แต่เริ่มรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ ไม่ทันได้พัก เมคอนกลุ่มใหม่ก็เข้ามาล้อมชูล์กอีก ทางด้านไรน์และชาล่าที่ตกลงมาอีกที่หนึ่งใกล้ๆ ไรน์รู้สึกแย่ที่ช่วยชูล์กเอาไว้ไม่ได้ ชาล่าจึงพูดให้กำลังใจเขาจนเขารู้สึกดีขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางตามหาชูล์กและคนอื่นๆ จนมาเจอชูล์กถูกเมคอนล้อมอยู่ ไรน์และชาล่าจึงเข้าไปช่วย พอจัดการได้ ไรน์ได้เจอกับฟิโอร่า เขาดีใจที่เธอจำเขาได้แล้ว ทุกคนจึงไปตามหาดันบันและคนอื่นต่อ ทั้ง 4 คนเดินทางมาเรื่อยแล้วก็พบกับกลุ่มคนปริศนา ทางด้านดันบัน ริกิ และเมเลีย ทั้งสามหยุดพัก เมเลียหลับไป ส่วนดันบันเล่าเรื่องฟิโอร่าให้ริกิฟัง (ริกิเรียกดันบันว่า "ดันดัน" 55+) พอรุ่งเช้า พวกเขาก็เดินทางตามหาชูล์กและคนอื่น จนมาถึงหมู่บ้านปริศนา และก็ได้พบชูล์กและคนอื่น รวมถึงฟิโอร่า ดันบันดีใจมากที่ได้พบกับน้องสาวอีกครั้ง ทางด้านเมเลียก็บอกกับชูล์กว่ายินดีด้วยทั้งที่ในใจรู้สึกเจ็บปวด ชูล์กบอกว่าคนที่นี่ช่วยพวกเขาเอาไว้ ตอนนั้นเองกลุ่มบุคคลปริศนาที่ช่วยพวกชูล์กปรากฏตัวขึ้น หนึ่งในเป็นหญิงสาวชื่อลินาดา เธอบอกว่าคนที่นี่เป็น "ชาวเมคิน่า" มนุษย์จักรกลที่อาศัยอยู่ในไบโอนิส และสถานที่ๆทุกคนอยู่ ณ ตอนนี้คือ ส่วนแขนที่ร่วงลงมาของเมคอนนิส จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 15:51:16

ความคิดเห็นที่ 67 ดันบันถามว่าคนที่นี่เป็นเมคอนงั้นหรือ ลินาดาตอบว่าก็ไม่เชิง เธออธิบายว่าเมคอนที่พวกชูล์กพบเจอมานั้นสร้างขึ้นจากอารยธรรมของชาวเมคิน่า แต่สำหรับชาวเมคิน่าเป็นคนที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากเมคอนนิสจริงๆ (เมคิน่าคือเผ่าหนึ่ง มีชีวิตจิตใจ ส่วนเมคอนเป็นเพียงเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นมาอีกที) ลินาดาเป็นหมอ เธอเห็นว่าร่างหุ่นยนต์ของฟิโอร่าเสียหายหนักจึงรับตัวไปรักษาก่อน ลินาดาจึงให้คนอื่นๆไปพบกับหัวหน้าหมู่บ้าน มิโคล เมคิน่าร่างอ้วน เป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ มิโคลรู้ว่าดาบของชูล์กนั้นคือโมนาโดะ มิโคลบอกว่า เอกิลคือลูกชายของเขาเอง และขอให้พวกชูล์กช่วยฆ่าเอกิลให้ ทางด้านอัลคามอท กัลเลียนเชิญผู้แทนฮอมส์และนอปปอนมาเพื่อสร้างกองทัพ โอทารอนยั๊วะมากเพราะที่ผ่านมาไฮเอนเธียหลบซ่อนตัวอย่างปลอดภัย ปล่อยให้เผ่าอื่นต้องเผชิญหน้ากับเมคอน กัลเลียนเข้าใจและพยายามอธิบายว่า เขาเห็นกลุ่มของพวกชูล์กมีทั้งฮอมส์ ไฮเอนเธีย และนอปปอน เชื่อใจซึ่งกันและกันจึงคิดสร้างกองทัพพันธมิตรขึ้นมา โอทารอนและดังก้ายอมเข้าร่วมในที่สุด ดิ๊กสันบอกกัลเลียนว่าเขาจะไปตามหาพวกชูล์ก เจ้าชายจึงฝากดิ๊กสันให้บอกอะไรบางอย่างกับชูล์ก กลับมาที่พวกชูล์ก ดันบันตกใจเมื่อมิโคลขอร้องให้ฆ่าลูกชายของตัวเอง มิโคลเล่าว่าเมื่อครั้ง 2 เทพยักษ์ต่อสู้กัน ทำให้เผ่าเมคิน่าตายเกือบหมด แต่ก็มี "เลดี้ เมย์เน็ท" ช่วยปกป้องไว้ พอการต่อสู้จบลง เทพยักษ์ก็เข้าสู้สภาพนิทรา เมเลียถามว่าเลดี้ เมย์เน็ท คนนี้เป็นใครกัน มิโคลตอบว่า เธอคือผู้สร้างเมคอนนิส พูดง่ายๆคือ เธอคือเทพยักษ์เมคอนนิสนั่นแหละ ไรน์ตกใจคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงตำนานโบราณเท่านั้น มิโคลบอกว่าเขาอยู่มานานมากและได้เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาของเขาเอง เมเลียบอกไรน์ว่าชาวเมคิน่าคงมีอายุขัยยืนยาวมากๆ เหมือนไฮเอนเธียที่มีอายุขัยยืนยาวกว่าฮอมส์ ชูล์กถามว่าทำไมถึงขอให้พวกเขาไปฆ่าเอกิล มิโคลตอบว่าเอกิลเป็นคนที่เก่งและฉลาด แต่เขาแค้นกับสิ่งที่ยักษ์ไบโอนิสทำกับเมคอนนิสจึงคิดจะล้างแค้น เอกิลวางแผนจะกำจัดทุกชีวิตที่อยู่บนไบโอนิสทิ้งไปซะ เพราะฉะนั้นจะต้องหยุดยั้งเอกิลให้ได้ ที่ผ่านมาพวกเมคิน่าเองก็พยายามหยุดเอกิลแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล แม้แต่เลดี้ เมย์เน็ท ก็ไม่อาจจะหยุดเขาได้ มิโคลบอกว่าตอนนี้เอกิลน่าจะอยู่ที่เมืองหลวงของเมคอนนิส ชูล์กฟังแล้วก็รู้สึกสงสารเอกิลขึ้นมา (สุดยอดพระเอกจริงๆ เมตตาได้อีก) มิโคลบอกให้ทุกคนไปคิดทบทวนคำร้องขอจากเขาก่อน  ทางด้านลินาดาและฟิโอร่า ลินาดาบอกชาล่าซึ่งเป็นหมอเหมือนกันว่า ระบบในร่างกายของฟิโอร่าอ่อนแอลง เธอสามารถช่วยได้ก็จริงแต่ไม่สามารถนำร่างฮอมส์ของฟิโอร่ากลับคืนมาได้ ฟิโอร่าบอกลินาดาว่าถึงเอาร่างเดิมคืนมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้เธอได้ต่อสู้ร่วมกับชูล์กเถอะ เมื่อชูล์กมาเยี่ยม ลินาดาบอกชูล์กว่าจะรักษาร่างกายฟิโอร่าได้ต้องไปหายูนิตของเมคอนมาใส่ ชูล์กจึงไปตามหามันมาได้สำเร็จ ลินาดาจึงทำการรักษาฟิโอร่าได้ ลินาดา หมอชาวเมคิน่า จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 15:53:51

ความคิดเห็นที่ 68 มิโคล หัวหน้าหมู่บ้านเมคิน่า จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 15:55:05

ความคิดเห็นที่ 69 ชูล์กไปพบกับมิโคล เขาตัดสินใจว่าจะหยุดยั้งเอกิลให้ได้ แต่ว่ายังทำตอนนี้ไม่ได้ ชูล์กอธิบายว่าตอนนี้ที่ไบโอนิสกำลังส่งกองทัพพันธมิตรไปรบกับเมคอน แต่เอกิลได้สร้างหอกอีเธอร์ขึ้นมาซึ่งสามารถฆ่าทุกชีวิตของไบโอนิสได้ พวกเขาจึงต้องกลับไปเตือนคนที่ไบโอนิสก่อนจะสายเกินไป แต่ดิ๊กสันก็ปรากฏตัวขึ้น พวกชูล์กประหลาดใจว่าทำไมดิ๊กสันถึงตามหาพวกเขาเจอ แถมยังรู้จักกับมิโคลด้วย ดิ๊กสันอธิบายว่าถ้าพวกชูล์กร่วงลงมาจากป้อมกาลาฮัดก็ต้องตกลงมาที่ส่วนแขนของเมคอนนิสแน่นอน มิโคลบอกว่าดิ๊กสันจะนำข้อมูลข่าวสารโลกภายนอกมาบอกเขาแลกกับเทคโนโลยีของที่นี่ เพราะเหตุนี้เองดิ๊กสันจึงมีอาวุธและของต่างๆส่งเข้าไปยังโคโลนี 9 ดิ๊กสันบอกให้พวกชูล์กไปจัดการเอกิลเถอะ ถ้าปราบเขาได้ กองทัพพันธมิตรก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ชูล์กจึงบอกว่าขอคิดดูก่อน เดี๋ยวมาต่อช่วงค่ำๆนะคะ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 15:58:29

ความคิดเห็นที่ 70 แวะมาลงชื่อครับ ดึกๆคงได้เข้ามาอ่านต่อ วันนี้งานยุ่งทั้งวันเลย - -. จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 16:33:53

ความคิดเห็นที่ 71 อย่าช้านะค๊าาาาฟฟ จากคุณ : ผู้ชายหัวใจสีชมพู เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 16:38:06

ความคิดเห็นที่ 72 รอนานจนพิมพ์ผิดกระทู้เลย - -" แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 22:09:59 จากคุณ : Delclaw เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 21:48:05

ความคิดเห็นที่ 73 เขียนเพลินไปหน่อยจากค่ำๆกลายมาเป็นดึกๆเลย ขอโทษนะคะ มาต่อกันเลยค่ะ ดิ๊กสันนำข้อความจากเจ้าชายกัลเลียนมาบอกชูล์กว่า พอกองทัพพันธมิตรบุกเมคอนนิสเมื่อไหร่ ชูล์กไม่ต้องกลับมาสมทบแล้ว ให้อาศัยจังหวะที่สู้รบวุ่นวายนี้ทำให้สิ่งที่ต้องการซะ ดิ๊กสันจึงถามชูล์กว่าต่อจากนี้ชูล์กจะทำอะไร ชูล์กตอบว่าเขาจะเดินไปยังเมืองหลวงของเมคอนนิสเพื่อไปหาเอกิล เขาจะลองหาทางเจรจากับเขาดู ดิ๊กสันเตือนว่าเอกิลคนนี้ร้ายกาจมาก ถ้าไม่ระวังอาจจะตายก็ได้ คนอื่นๆจึงบอกดิ๊กสันว่าเราไม่ยอมให้ชูล์กตายหรอก พวกเราจะต่อสู้ไปด้วยกัน ดิ๊กสันฟังคำตอบและกลับไปสมทบกัลเลียน ก่อนออกเดินทางไปเมืองหลวงของเมคอนนิส มิโคลบอกทุกคนว่าถ้าไปถึงแล้วให้ตามหาคนที่ชื่อเวเนีย เธอเป็นลูกสาวของเขาและเป็นน้องสาวเอกิล ขอบอกชื่อมิโคล เธอจะช่วยเหลือพวกเขาเอง มิโคลบอกอีกว่าเวเนียไม่ชอบสิ่งที่เอกิลทำแต่ก็อยากจะทำร้ายเขา ทางด้านเอกิล เขากำลังสงสัยว่าทำไมเฟสเนเมซิสถึงได้ทรยศเขา และพลังสีแดงประหลาดนั่นมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เอกิลคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความทรงจำที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างของคนที่เป็นเฟส เพราะฉะนั้นจะต้องลบมันทิ้งให้หมด จากนั้นเอกิลก็เตรียมส่งเฟสเมคอนอีกตัวหนึ่งไปจัดการพวกชูล์ก ร่างจริงของเอกิล เป็นชาวเมคิน่า จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:30:56

ความคิดเห็นที่ 74 ชูล์กและพวกเดินทางขึ้นไปยังตัวเทพเมคอนนิส ศัตรูตามทางคราวนี้จึงมีแต่เมคอนล้วนๆ ทันใดนั้น เฟสเมคอนตัวใหม่ก็โผล่มาโจมตีทุกคน มันมีชื่อว่า "เจด เฟส" ชาล่าตกใจเมื่อได้ยินเสียงของมัน เพราะเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคย  และก็เป็นไปตามที่คาด คนที่บังคับเจด เฟส ก็คือกาโดธ์ คู่หมั้นของเธอ (ที่ตอนนี้กลายเป็นคนเหล็ก อาโนลด์ไปแล้ว) แต่เพราะเอกิลล้างสมองเขาไปแล้ว กาโดธ์ยิงหอกใส่ทุกคน แต่ฟิโอร่าก็ใช้พลังปริศนาในตัวเธอป้องกันเอาไว้ได้ ทางด้านเอกิล เขาเฝ้าดูการต่อสู้เมื่อครู่ เป้าหมายของเอกิลตอนนี้คือทำลายโมนาโดะทิ้งไปซะ ชูล์กสลบไป เขาฝันว่าเขาล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ และได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเขา(เสียงนั้นคือเสียงของอัลวิส) เสียงนั้นบอกชูล์กว่า ตัวชูล์กได้รับในการหยั่งรู้อนาคต พลังที่จะเข้าถึงกฎแห่งเหตุและผล ที่ถูกตัดสินโดยพลังที่เหนือกว่า เสียงนั้นถามชูล์กอีกว่า ทำไมชูล์กถึงต้องการเปลี่ยนอนาคต ชูล์กตอบว่าเพราะมันเป็นปกติธรรมดาอยู่ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตที่เลวร้ายให้กลายเป็นดีน่ะสิ เขาจึงเลือกที่จะสู้ เสียงของอัลวิสบอกชูล์กว่า หากชูล์กปรารถนาเช่นนั้นล่ะก็...ชูล์กจะต้องค้นหาโมนาโดะของชูล์กเอง ค้นหา "โมนาโดะที่แท้จริง" ชูล์กตื่นขึ้นมา พบว่าทุกๆคนปลอดภัยดี ตอนนั้นเองก็มีสตรีชาวเมคิน่าคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เธอคือเวเนีย น้องสาวของเอกิล เธอบอกกับทุกคนว่า ทุกคนรอดมาได้เพราะพลังของเลดี้ เมย์เน็ท และเธอยังเรียกฟิโอร่าว่าเลดี้ เมย์เน็ท อีกด้วย เวเนียบอกว่าเจดเฟสถูกส่งมาเพื่อฆ่าพวกชูล์ก ชาล่าไม่อยากจะเชื่อ เวเนียจึงบอกว่าตอนนี้เฟสทุกตัวถูกล้างสมองและกลายเป็นอาวุธใช้สังหารทุกชีวิตบนไบโอนิสแล้ว ชาล่าได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเสียใจมาก เจด เฟส ของกาโดธ์ เป็นบอสตัวนึงที่โหดทีเดียว ยิงปืนใส่ทีไรดับอนาถทุกราย จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:32:06

ความคิดเห็นที่ 75 ชูล์กถามเวเนียว่าทำไมเอกิลถึงต้องจับฮอมส์ไปเป็นเฟสเมคอนด้วย? เวเนียตอบว่าเพื่อใช้สู้กับโมนาโดะ ก่อนหน้านี้โมนาโดะไม่สามารถฟันสิ่งมีชีวิตบนไบโอนิสได้ เอกิลจึงคิดสร้างอาวุธที่ใช้ร่างกายของชาวไบโอนิสอย่างฮอมส์เป็นส่วนประกอบ แต่บัดนี้ซันซ่าได้ปลดผนึกพลังของดาบไปแล้ว ดันบันจึงสงสัยว่ายักษ์ซันซ่านี้เป็นใครกันแน่ เวเนียบอกว่ายักษ์ซันซ่าเป็นต้นกำเนิดเผ่าฮอมส์ และยังเคยเป็นสหายของเอกิลก่อนที่ทั้งคู่จะกลายมาเป็นศัตรูกัน ซันซ่าคนนี้แหละคือคนที่ทำลายเมคอนนิสเมื่อพันกว่าปีก่อน ขณะเดียวกัน กองทัพพันธมิตรระหว่างฮอมส์ ไฮเอนเธีย และนอปปอนก็ได้มุ่งสู่ป้อมปราการกาลาฮัด ชูล์กฟังที่วาเนียก็งงไปหมด ดาบโมนาโดะที่เขาก็เป็นของซันซ่า แปลว่าเขากับเวเนียเป็นศัตรูกันไม่ใช่รึไง เวเนียบอกว่าเธอจะพาทุกคนไปยังเมืองหลวงของเมคอนนิส "อัคนิราธา" ไปที่นั่นแล้วทุกคนจะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการต่อสู้ของเทพยักษ์ทั้งสองเอง ในตอนนั้นเอง กองทัพพันธมิตรก็ต่อสู้กับเมคอนอย่างดุเดือด พวกชูล์กเดินทางไปถึงอัคนิราธา ทว่ากลับกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คน ทุกคนประหลาดใจเมื่อเห็นว่ามีซากเทเลเธียอยู่ทั่วเมือง เวเนียเล่าว่าเทเลเธียพวกนี้เคยเข้ามาโจมตีเมืองหลวงเมื่อตอนการต่อสู้ของเทพยักษ์ ชาล่าแปลกใจเพราะคิดว่าการต่อสู้ของเทพยักษ์เป็นแค่ยักษ์ 2 ตนสู้กันไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมีเทเลเธียด้วย เวเนียจึงพาทุกคนเข้าไปยังศูนย์ข้อมูลกลางเมือง เมื่อไปถึง ฟิโอร่าก็อาการแปลกไปจากเดิม ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดง ราวกับเป็นคนละคน ฟิโอร่ากลายเป็นเลดี้ เมย์เน็ท เธอเดินไปเปิดระบบเกิดเป็นภาพจำลองประวัติศาสตร์ ก่อนเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตให้ทุกคนฟัง เวเนีย น้องสาวของเอกิล (พี่ชายร้ายมาก แต่น้องสาวเป็นคนดีซะงั้น) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:35:45

ความคิดเห็นที่ 76 ***ความจริงกำลังจะปรากฏ*** ตั้งแต่ไบโอนิสและเมคอนนิสอุบัติขึ้น เมย์เน็ทก็ถือกำเนิดขึ้นในฐานะวิญญาณแห่งเมคอนนิส เธอให้กำเนิดลูกหลานขึ้นนั่นคือชาวเมคิน่า สร้างสรรค์อารยธรรมขั้นสูง และสร้างเมืองหลวงอัคนิราธาขึ้น ทุกชีวิตในเมคอนนิสอยู่ร่วมกันอย่างสันติมาตลอด ส่วนตัวเมย์เน็ทก็ได้รับการบูชาในฐานะเทพธิดา ทางด้านไบโอนิสก็มีสิ่งชีวิตถือกำเนิดขึ้นเช่นกัน สัตว์ต่างๆ ยักษ์(ต้นตระกูลเผ่าฮอมส์)และไฮเอนเธีย ชาวเมคิน่าก็ได้เดินทางไปเชื่อมสัมพันธ์กับชาวไบโอนิส พวกเขาเชื่อว่าโลกทั้งสองจะดำเนินต่อไปอย่างมีกันและกัน แต่ชะตากรรมอันเลวร้ายก็อุบัติ นั่นคือยักษ์เมคอนนิสใช้โมนาโดะ(ดาบเปล่งแสงแบบในภาพ คห1)แทงเข้าร่างของยักษ์เมคอนนิส ซ้ำยังมีเทเลเธียจำนวนมากบุกเข้ามายังเมืองหลวงอัคนิราธา ในตอนนั้นเองชาวเมคิน่าได้รับผลกระทบจนตายเกือบหมด เมย์เน็ทพยายามปกป้องชาวเมคิน่า และเผชิญหน้ากับซันซ่า ผู้ควบคุมยักษ์ไบโอนิส นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ของเทพยักษ์ทั้งสองตามตำนานที่เล่าขาน เมคอนนิสถูกฟันเข้าที่แขนซ้าย ไบโอนิสถูกดาบฟันเข้าที่ท้องกลายเป็นสะพาน(ซอร์ด วัลเลย์) การต่อสู้จบลง ยักษ์ซันซ่าถูกผนึกเอาไว้ที่เกาะคุมขัง ดาบโมนาโดะเล่มยักษ์ถูกย่อลงแล้วถูกผนึกเอาไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้เมย์เน็ทได้สูญเสียพลังไปมาก เธอเตือนเหล่าเมคิน่าที่รอดตาย(1 ในนั้นคือเอกิล)ว่าไบโอนิสยังไม่ได้ถูกทำลายลง สักวันหนึ่งซันซ่าจะได้รับการปลดปล่อย จากนั้นเมย์เน็ทก็เข้าสู่นิทรา รอวันที่ซันซ่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องเล่าจบลงเพียงเท่านี้ ชูล์กตระหนักได้ว่า ตัวเขาเองคือคนที่ปลดปล่อยซันซ่าออกมา ส่วนฟิโอร่าก็เข้าใจถึงความปรารถนาของเมย์เน็ท นั่นคือหยุดยั้งสงครามระหว่างไบโอนิสและเมคอนนิส เวเนียบอกว่าหลังจากฟิโอร่าถูกพาตัวมา เธอเป็นคนผนึกวิญญาณของเมย์เน็ทลงไปในร่างของฟิโอร่าเอง ฟิโอร่าถามว่าทำไมถึงเลือกร่างกายของเธอ เวเนียตอบว่า เพราะว่าฟิโอร่าเป็นคนใกล้ชิดของชูล์ก ผู้สืบทอดดาบโมนาโดะนั่นเอง ลงเป็นคลิปเพื่อความเข้าใจค่ะ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:37:38

ความคิดเห็นที่ 77 ตอนนี้ทุกคนรู้ความจริงแล้วว่าทำไมเอกิลถึงจ้องทำลายไบโอนิส แต่สิ่งที่เขาทำก็ให้อภัยไม่ได้อยู่ดี ส่วนดาบโมนาโดะนี้ทรงพลังกว่าที่คิดไว้เสียอีก เวเนียบอกให้ชูล์กเชื่อมั่นในเส้นทางที่เขาเลือกเดิน เธอบอกว่าเอกิลอยู่ที่วิหารเมย์เน็ทที่อยู่อีกฝั่งของเมือง ชูล์กตัดสินใจว่าจะลองไปเจรจากับเอกิลดู เวเนียบอกว่าเธอจะลองไปโน้มน้าวเอกิลให้หยุดการกระทำอีกครั้ง แต่เธอก็รู้ดีแก่ใจว่าพี่ชายเธอคงไม่ล้มเลิกแผนการแน่นอน ทุกคนมุ่งหน้าไปยังวิหารเมย์เน็ท สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือเจด เฟส แต่ทุกคนก็ปราบมันลงได้ เมย์เน็ทในร่างฟิโอร่าได้ใช้พลังของเธอหยุดยั้งกาโดธ์ และทำให้ความทรงจำของเขากลับคืนมาอีกครั้ง กาโดธ์บอกว่าครั้งหนึ่ง เอกิลต้องการทำลายวัฏจักรแห่งความทุกข์นี้ หากเลือดสาดกระเซ็น โลกใหม่จะถือกำเนิดขึ้น แต่ตอนนี้เอกิลถูกความแค้นครอบงำไปแล้ว พวกชูล์กต้องหยุดเขาซะ ชาล่าบอกให้กาโดธ์ที่บาดเจ็บจากการต่อสู้คอยเธอก่อน เธอจะกลับมารับเขา ก่อนแยกกัน กาโดธ์บอกไรน์ว่าให้ดูแลชาล่าด้วย ทางด้านเจ้าชายกัลเลียนและอัลวิสที่อยู่ในสนามรบ อัลวิสรู้สึกได้ว่าพวกชูล์กกำลังตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้ยักษ์เมคอนนิสกำลังจะตื่นขึ้น อัลวิสจึงขอยืมยานบินจากกัลเลียนเพื่อไปช่วยพวกชูล์ก จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:39:20

ความคิดเห็นที่ 78 ที่วิหารเมย์เน็ท เวเนียกำลังห้ามเอกิลอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ฟัง พวกชูล์กเดินทางมาถึงในที่สุด ชูล์กบอกว่าเขารู้เรื่องโศกนาฏกรรมของชาวเมคิน่าแล้ว เขาเข้าใจว่าทำไมเอกิลถึงต้องการต่อสู้กับยักษ์ไบโอนิส แต่ทำไมเอกิลถึงต้องส่งเมคอนไปฆ่าผู้คนด้วย เอกิลหัวเราะเยาะ เขาย้อนถามชูล์กว่ารู้จักกลยุทธ์ตัดกำลังไหม? เขาบอกว่าที่ต้องฆ่าคนที่ไบโอนิสนั้นก็เพราะว่า ร่างกายของทุกชีวิตบนโลกกำเนิดขึ้นมาจากอีเธอร์ อีเธอร์คือพลังงานรูปแบบหนึ่ง ทุกชีวิตบนไบโอนิสเมื่อตายลงก็จะหวนคืนสู่ไบโอนิส หากว่าไบโอนิสจะตื่นขึ้นมาก็ต้องสังเวยหลายชีวิตเพื่อดูดเอาอีเธอร์ ไม่ว่าใครก็ไม่ต่างไปจากอาหาร เอกิลจึงให้เมคอนรุกรานไบโอนิส (เมคอนกินคน=กินอีเธอร์นั่นเองเพื่อไม่ให้อีเธอร์กลับไปสู่ไบโอนิส) เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล พวกชูล์กจึงต้องสู้กับเอกิล เอกิลแปลกใจเมื่อเขาไม่สามารถยับยั้งพลังของโมนาโดะได้เหมือนที่เคยทำครั้งก่อน นั่นเพราะความมุ่งมั่นของชูล์กส่งผ่านดาบ ซ้ำยังมองว่าน้องว่าสาวของตัวเองทรยศ เขาจึงเรียกหุ่นเมคอน"ยัลดาโบท"ของเขามา จนทุกคนสู้ไม่ได้ ขณะที่เขาจะลงมือสังหารทุกคนซะ เอกิลกลับเรียกชูล์กว่า "ซันซ่า" ตอนนั้นเองเมย์เน็ทในร่างฟิโอร่าก็เข้ามาขวางไว้ เอกิลเห็นว่าเมย์เน็ทเองยังเข้ามาขวางตนก็ไม่ฟังอะไรอีกแล้ว เขาเข้าไปสู่ใจกลางเมคอนนิสและเชื่อมวิญญาณของตัวเองเข้ากับร่างของยักษ์ บัดนี้ยักษ์เมคอนนิสกำลังจะตื่นขึ้นอีกครั้ง ทางด้านพวกชูล์กที่รอดตายหวุดหวิดก็พบว่าเมืองอัคนิราธากำลังพังลง ทุกคนจึงตัดสินใจรีบออกไปจากที่นี่ ในตอนนั้นเองเสาพลังกลางเมืองก็ระเบิด ทุกคนคิดว่าต้องตายแน่ แต่กาโดธ์ก็ใช้พลังเฮือกสุดท้ายขับเจดเฟสมาเป็นเกราะป้องกันทุกคนเอาไว้ กาโดธ์ยิ้มให้กับชาล่า เขาบอกว่าในที่สุดก็สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ชาล่าได้แล้ว และขอให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วกาโดธ์ก็สลายไป กาโดธ์เวอร์ชั่นคนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์ จบชีวิตลงได้ซึ้งมาก บทพูด+เพลงประกอบตอนนี้กินใจสุดๆ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:43:37

ความคิดเห็นที่ 79 ทางด้านกัลเลียน เขารู้สึกได้ว่าเมคอนนิสกำลังจะตื่นขึ้นจึงสั่งให้กองทัพทั้งหมดถอยทันที เมย์เน็ทในร่างฟิโอร่าได้ใช้พลังสร้างเป็นบาเรียลอยกลางอากาศป้องกันทุกคนเอาไว้ ในตอนนั้นเองเอกิลก็เริ่มขยับดาบของเมคอนนิส ทำให้ทหารจำนวนมากที่ยังอยู่บนซอร์ด วอลเลย์ร่วงตายเป็นจำนวนมาก พวกชูล์กได้แต่มองดูด้วยความแค้นใจ เมย์เน็ทก็เริ่มมีพลังอ่อนแอลงทำให้บาเรียสลายไป ขณะที่ทุกคนกำลังร่วงตกลงมา อัลวิสพร้อมกับมิโคลและลินาดาก็ขับยานมารับพวกชูล์กเอาไว้ได้พอดี ลินาดาบอกว่าอัลวิสแจ้งพวกเขาว่าชูล์กกำลังตกอยู่ในอันตราย จากนั้นดิ๊กสันก็ตามมาสมทบ ทุกคนกลับไปยังหมู่บ้านเมคิน่าที่ส่วนแขนของเมคอนนิส ทุกคนกลับมาวางแผนว่าจะทำไงต่อไป อัลวิสบอกว่าก่อนจะออกมาจากสนามรบเขาได้เตือนกัลเลียนเรื่องการตื่นขึ้นของเมคอนนิสแล้ว กัลเลียนน่าจะสั่งถอยทัพทันและได้รับความเสียหายน้อยที่สุด เมย์เน็ทในร่างฟิโอร่าบอกว่าเอกิลใช้พลังอีเธอร์ในการควบคุมร่างยักษ์เมคอนนิส ตอนนี้ยังพอมีเวลาที่จะหยุดเขาก่อนที่ยักษ์เมคอนนิสจะถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ ทุกคนตัดสินใจเดินทางไปยังใจกลางของเมคอนนิสเพื่อหยุดยั้งเอกิล มิโคลขับยานฝ่าดงกระสุนเข้าไปถึงส่วนใจกลางของเมคอนนิส ชูล์กรู้สึกไม่มั่นใจเพราะโมนาโดะของเขามีพลังไม่เต็มร้อย เวเนียบอกให้ทุกคนไปทำลายเครื่องส่งพลังอะโพรคริพา ซึ่งเอกิลใช้ปล่อยคลื่นรบกวนพลังของโมนาโดะเสียก่อน อีกเรื่องหนึ่งที่ชูล์กไม่เข้าใจคือทำไมตอนนั้นเอกิลถึงเรียกเขาว่าซันซ่า และตั้งแต่เขาเข้ามายังเมคอนนิส ชูล์กไม่จำเป็นต้องเห็นนิมิตเขาก็สามารถรู้อนาคตได้ จู่ๆร่างกายชูล์กก็เกิดอาการช๊อต แบบเดียวกับที่ดันบันเคยเป็นสมัยที่เขาใช้โมนาโดะจนทำให้ต้องเสียแขนขวาไป เมเลียบอกว่าชูล์กคงใช้พลังต่อต้านคลื่นอะโพรคริพามากเกินไป แต่ตัวชูล์กรู้ตัวว่าไม่ใช่เพราะคลื่นอะโพรคริพา แต่เป็นอะไรบางอย่าง นี่มันเกิดอะไรกับร่างกายของเขากันแน่? ขอพักก่อนนะคะ ^^" จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 22:45:18

ความคิดเห็นที่ 80 ทุกคนเดินทางต่อเพื่อหาเครื่องส่งพลังแล้วทำลายมันทิ้ง ระหว่างทางชูล์กรู้สึกไม่สบายใจ เขาสัมผัสได้ว่าโมนาโดะมีพลังเพิ่มมากขึ้น ฟิโอร่าสังเกตชูล์กจึงบอกว่าถ้าเขามีอะไรในใจก็ขอให้บอกเธอและเพื่อนๆ ทุกคนอยู่นี่เพื่อสนับสนุนชูล์กอยู่แล้ว ทุกคนหาเครื่องส่งพลังเจอในที่สุด แต่สายไปแล้ว เอกิลสามารถควบคุมร่างเมคอนนิสได้อยากสมบูรณ์ เขาเริ่มการทำลายล้างไบโอนิสทันที ด้านชูล์กจึงรีบทำลายเครื่องส่งพลัง ได้สำเร็จ แสงดาบโมนาโดะเปล่งประกายกว่าเดิม ทุกคนจึงเข้าไปลุยกับเอกิลต่อ เอกิลไม่สนพวกชูล์ก เขาฟาดดาบไปยังตัวยักษ์ไบโอนิส เวเนียบอกเอกิลว่านี่ไม่ใช่สิ่งเลดี้ เมย์เน็ทต้องการ แต่เอกิลไม่ฟังอะไรอีกแล้ว โลกนี้ไม้จำเป็นต้องมีพระเจ้าอีกต่อไป เขาท้าสู้ชูล์ก "ทายาทแห่งซันซ่า" และหวังจะทำลายโมนาโดะนั่นซะ ชูล์กพยายามต่อสู้จนสามารถเอาชนะเอกิลในที่สุด ขณะที่เขากำลังเงื้อดาบหมายฟันเอกิลให้ตาย เสียงหนึ่งในหัวของชูล์กก็ดังขึ้น เสียงนั้นสั่งให้ชูล์กฆ่าเอกิลซะ ระหว่างที่ชูล์กตัดสินจะฟันลงไป เขานึกถึงคำพูดของคนอื่นๆในอดีตแล่นเข้ามาในหัวของเขา ชูล์กจึงรู้ตัวว่าเขาไม่ได้ต้องการฆ่าเอกิล เขาจึงหยุดดาบเอาไว้ เอกิลถามว่าทำไมถึงไม่ฆ่าเขาซะ ชูล์กบอกว่าเขาตระหนักขึ้นมาได้ว่าทั้งเขาและเอกิลต่างทุกข์ทรมานด้วยกันทั้งคู่ เขาไม่มีเหตุผลที่ต้องฆ่าเอกิล แม้ว่าเอกิลยังจะทำลายล้างไบโอนิส ชูล์กบอกว่าเขาจะเป็นคนหยุดดาบของเอกิลเอง เอกิลเล่าว่าครั้งหนึ่งผู้คนในไบโอนิสและเมคอนนิสเคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เขานึกย้อนไปในอดีต เอกิลกับยักษ์อากลัสเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ยักษ์อากลัสกล่าวว่า พวกเรานั้นยังเยาว์ ไม่สามารถออกไปนอกไบโอนิสและเมคอนนิสได้ แต่สักวันหนึ่งลูกหลานของพวกเขาจะต้องสามารถเดินทางออกไปค้นพบโลกใหม่ได้แน่นอน ยักษ์อากลัสบอกอีกว่าเขาปรารถนาว่าผู้คนจากทั้ง 2 โลกจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติตลอดไป เอกิลเอ่ยว่าเขาก็เห็นด้วยเช่นกัน ถึงกระนั้น ดาบโมนาโดะก็ถือกำเนิดขึ้น ดาบเล่มนี้ปฏิเสธการมีอยู่ของเมคอน หากพูดให้ถูก ดาบนี้ปฏิเสธการมีอยู่ของทุกสิ่งเว้นเพียงแต่ตัวมันเอง วันหนึ่งยักษ์อากลัสถูกโมนาโดะควบคุม และเขาก็กลายเป็นซันซ่า ซันซ่าในร่างอากลัสเป็นผู้ควบคุมไบโอนิสให้แทงดายใส่เมคอนนิส ชูล์กไม่เข้าใจ เอกิลบอกว่า "โมนาโดะคือซันซ่า ซันซ่าคือโมนาโดะ" และเพราะซันซ่าเป็นวิญญาณจึงจำเป็นหาร่างสิง แต่ดูเหมือนว่าชูล์กจะต่างไป เอกิลบอกว่าชูล์กคงสามารถทำลายคำสาปของซันซ่าได้ ชูล์กบอกว่าเขายังไม่เข้าใจนัก แต่ว่าตอนนี้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติอีกครั้งแล้วนะ แล้วเขาก็ยื่นมือไปหาเอกิล เรื่องราวทั้งหมดควรจะจบแล้ว แต่ยัง...ยังไม่จบ ทันใดนั้นเอง ชูล์กถูกยิง เมื่อหันไปดูว่าใครเป็นผู้ลอบทำร้ายเขา ทุกคนก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่ยิงชูล์กคือ... ...ดิ๊กสัน OMG จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พอดีพรุ่งนี้ จขกท ต้องตื่นเช้า จะกลับมาต่อช่วงบ่ายๆค่ะ พรุ่งนี้น่าจะถึงตอนจบแล้ว (เกมนี้มันยาวได้ใจจริงๆ) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 23:20:22

ความคิดเห็นที่ 81 อยากอ่านต่อจนนอนไม่หลับแน่ๆ T_T จากคุณ : แอบชอบ คห.ที่9 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 23:29:51

ความคิดเห็นที่ 82 มาให้กำลังใจ รออ่านทีเดียวจบเลย อิอิ จากคุณ : FreedomTaro เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 01:21:34

ความคิดเห็นที่ 83 มาต่อแล้วค่ะ จากนี้รวดเดียวจบเลยนะคะ (นั่งเขียนมา 7 ชั่วโมงโอว ไอ แคน ดู อิท!) ความจริงที่อยู่เหนือความจริง ของเรื่องราวในเกมจะเปิดเผยแล้วค่ะ ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่าดิ๊กสันยิงชูล์ก ด้านชูล์กที่ถูกยิงก็ตกลงมาจากเมคอนของเอกิล แต่เอกิลรับร่างของชูล์กเอาไว้ได้ คนอื่นๆหาว่าดิ๊กสันเป็นบ้าไปแล้วรึไงกัน ด้านเอกิลเมื่อเห็นดิ๊กสันก็จำเขาได้ เอกิลบอกว่าดิ๊กสันคือ "สาวกของซันซ่า" ดิ๊กสันเอ่ยว่า บัดนี้ ท่านซันซ่าได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ทางด้านร่างของชูล์กก็เปล่งแสงขึ้น เอกิลปล่อยพลังใส่ร่างของชูล์กในตอนนั้นเองก็มีใครคนหนึ่งแยกออกมาจากร่างของชูล์กแล้วสะท้อนพลังกลับมาใส่เอกิล ส่วนตัวชูล์กก็ล้มลงหมดสติไป บุรุษปริศนาผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับชูล์ก....นี่คือร่างที่แท้จริงของ "ซันซ่า" วิญญาณเทพแห่งไบโอนิส จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:34:34

ความคิดเห็นที่ 84 ซันซ่ายึดโมนาโดะเอาไว้ เขากล่าวว่าทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ซันซ่าบอกอีกว่าเขาได้สิงร่างของชูล์กมานานแล้ว คนอื่นๆไม่เข้าใจสิ่งซันซ่าพูด เมย์เน็ทในร่างฟิโอร่าอธิบายว่าหลังจากการต่อสู้ของสองเทพยักษ์ ซันซ่าอ่อนแอลง ร่างเนื้อของเขา(ยักษ์อากลัส)ถูกไฮเอนเธียจองจำเอาไว้ที่เกาะคุมขัง ส่วนวิญญาณของซันซ่ารวมเข้ากับดาบโมนาโดะและผนึกไว้ที่หอคอยโอเซ่ ภูเขาหิมะวาลัก ดิ๊กสันจึงถามทุกคนว่าลืมไปแล้วเหรอว่าใครเป็นคนค้นพบหอคอยนั่น? ใครคือคนที่รอดชีวิตเพียงคนเดียว? และใครคือผู้ที่พาคนๆนั้นออกมา? ที่แท้ดิ๊กสันวางแผนไว้ทั้งหมด เขาเป็นคนพาชูล์กและเอาดาบโมนาโดะกลับมา แถมเขายังบอกอีกว่า จริงๆแล้ว ชูล์กน่ะไม่มีตัวตนมาแต่แรกแล้ว ซันซ่าเอ่ยว่าการที่เขาตื่นขึ้นมาครั้งนี้ เขารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วจากการเห็นนิมิต ดิ๊กสันอธิบายว่า เหตุการณ์ตายหมู่ที่หอคอยเมื่อ 14 ปีก่อน เกิดจากผู้คนที่เข้าไปในหอคอยดันไปปลดผนึกดาบโมนาโดะ ซันซ่าที่สิงอยู่ในดาบนั้นจึงดูดเอาชีวิตของคนกลุ่มนั้นมาจนหมด รวมถึงชูล์กในวัย 4 ขวบด้วย ซันซ่าได้ใช้ร่างของชูล์กเป็นภาชนะรองรับวิญญาณของเขา ชูล์กจึงสามารถมีชีวิตอยู่มาได้ด้วยพลังของซันซ่า จนกว่าชูล์กจะสามารถใช้โมนาโดะได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อนั้นซันซ่าก็สามารถตื่นขึ้นมาได้อย่างแท้จริง ซึ่งก็คือเวลานี้นั่นเอง เมเลียถามว่าแล้วทำไมถึงต้องเลือกชูล์กเป็นร่างสิงด้วย ซันซ่าตอบว่าไม่ได้มีเหตุอะไรพิเศษ แค่ในคอนนั้น ชูล์กดันไปอยู่ที่หอคอยนั่นก็เท่านั้นเอง การที่ชูล์กสามารถใช้โมนาโดะได้และสามารถมองเห็นนิมิต เป็นเพราะพลังของซันซ่าในตัวชูล์กทั้งสิ้น ซันซ่ากล่าวว่า เขาคือผู้สร้างไบโอนิส สิ่งที่เขาจะทำต่อไปคือล้างโลกนี้ และสร้างโลกใบใหม่ แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องกำจัดเสี้ยนหนามคนสำคัญ นั่นคือ เมย์เน็ท แห่งเมคอนนิส! จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:35:50

ความคิดเห็นที่ 85 ทันใดนั้นเอง ร่างยักษ์ไบโอนิสก็ขยับ เพราะบัดนี้ซันซ่า ดวงวิญญาณของมันได้ตื่นขึ้นแล้ว เอกิลบอกว่าเขารอเวลานี้มานานแล้ว เวลาที่จะได้แก้แค้นซันซ่า เขาบังคับร่างยักษ์เมคอนนิสเข้าโจมตีใส่ยักษ์ไบโอนิสทันที แม้ว่าตอนนี้เอกิลจะอ่อนกำลังลงจากการต่อสู้เมื่อครู่ แต่เขาไม่สน ไม่ว่ายังไงก็ต้องกำจัดซันซ่าให้ได้ ซันซ่าซัดพลังใส่เอกิลอย่างง่ายดายพร้อมกับหัวเราะเยาะ บัดนี้ดาบโมนาโดะได้กลับสู่เจ้าของที่แท้จริงแล้ว ขณะเดียวกันในมือของยักษ์ไบโอนิสก็มีดาบเปล่งแสงบังเกิดขึ้น เอกิลกับซันซ่าประดาบ เป็นจังหวะเดียวกันกับยักษ์ทั้งสองต่อสู้กัน (เพราะต่างฝ่ายต่างควบคุมร่างของยักษ์อยู่) ดาบธรรมดาของเมคอนนิสหรือจะสู้ดาบโมนาโดะได้ เอกิลพ่ายแพ้ในพริบตา ซันซ่ากำลังเงื้อดาบเพื่อทำลายร่างเมคอนนิสทิ้ง เมย์เน็ทในร่างฟิโอร่าได้ปลดปล่อยพลังอีกครั้ง คราวนี้เธอได้ปลดปล่อยดาบโมนาโดะของเธอเข้ามาขวางซันซ่าเอาไว้ เมย์เน็ทบอกซันซ่าว่า อนาคตของผู้คนบนโลก ควรให้พวกเขาเป็นผู้เลือกเอง ถึงแม้ว่าเมย์เน็ทและซันซ่าจะเป็นผู้สร้างโลกก็ตามที  หากว่าซันซ่ายังคิดที่จะเป็นผู้ควบคุมโลกฝ่ายเดียว เธอก็จะสู้เพือปกป้องผู้คนบนโลก เมย์เน็ทกับซันซ่าจึงต่อสู้กัน  วิญญาณแห่งเทพทั้งสองได้เผชิญหน้าต่อกันอีกครั้ง เมย์เน็ทสู้ซันซ่าไม่ไหว ในตอนนั้นซันซ่ามองออกว่าชูล์กเป็นคนสำคัญของฟิโอร่า ร่างทรงของเมย์เน็ท เขาเอ่ยขึ้นมาว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ต่างไปจากแบคทีเรียที่เกาะตามร่างกาย และโลกนี้มีพระเจ้าเพียงองค์ก็พอแล้ว จากนั้นซันซ่าก็ปล่อยพลังไปทางด้านชูล์กที่นอนนิ่งอยู่ เมย์เน็ทรีบพุ่งตัวไปป้องกันชูล์กเอาไว้  ซันซ่าเอ่ยว่าหากไม่สู้กับเขาอย่างเทพเจ้า ก็จงตายไปพร้อมกับเพื่อนไร้ค่านั่นซะ ว่าแล้วซันซ่าก็ซัดพลังใส่เมย์เน็ทและทุกคน เมย์เน็ทจึงออกจากร่างของฟิโอร่า เผยให้เห็นร่างจริงของเธอ จากนั้นเมย์เน็ทเอาร่างตัวเองรับพลังโจมตีของซันซ่าเอาไว้เพื่อปกป้องทุกคน เมย์เน็ทเอ่ยกับทุกคนก่อนที่เธอจะสลายไปว่า "จงสร้างโลก...ที่ไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้าอีกต่อไป" จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:36:52

ความคิดเห็นที่ 86 เมย์เน็ท เทพแห่งเมคอนนิส จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:39:38

ความคิดเห็นที่ 87 ดวงวิญญาณของเมย์เน็ทแตกสลาย เหลือเพียงดาบโมนาโดะของเธอ ซันซ่ายึดเอาดาบอีกเล่มเอาไว้แล้วหายตัวไป เขาวาร์ปมาที่เกาะผนึก บัดนี้ การทำลายล้างและสรรค์สร้างโลกใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เกาะผนึกค่อยๆจมลงสู้ทะเลเอริท ในขณะเดียวกัน ชาวไฮเอนเธียที่จักรวรรดิก็มีอาการผิดปกติขึ้นมา ด้านเอกิลบอกให้ทุกๆคนหนีไปและช่วยชีวิตชูล์กไว้ให้ได้ ส่วนเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อต่อต้านไบโอนิสให้ถึงที่สุด ทุกคนจึงรีบขึ้นยานของมิโคลหนีออกมา ส่วนซันซ่าที่ครองร่างยักษ์ไบโอนิสก็จัดการฟันร่างยักษ์ไบโอนิสทิ้ง เอกิลที่เชื่อมวิญญาณกับเมคอนนิสจึงตายตามไปพร้อมกับยักษ์ ก่อนเขาสิ้นใจก็ได้ฝากความหวังสุดท้ายไว้กับชูล์ก ทุกคนหนีออกมาข้างนอกอย่างปลอดภัย ก็พบกับเทเลเธียยักษ์จำนวนมาก ดิ๊กสันปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเทเลเธียพวกนั้น เขาบอกว่าตัวเขาเองอยู่มานานก่อนที่พวกชูล์กจะเกิดซะอีก เพราะเขาคือ "ดิ๊กสันแห่งสาวกทั้งสาม" (Dickson of the Trinity) จากนั้นเขาก็บังคับเทเลเธียักษ์ตัวหนึ่งเข้าโจมตีทุกคน เมื่อปราบเทเลเธียยักษ์ลงได้ เจ้าชายกัลเลียนพร้อมกองทัพก็บินมาสมทบ พอกัลเลียนรู้ว่าดิ๊กสันป็นคนวางแผนเรื่องร้ายกาจจึงบอกให้เขายอมแพ้ซะ เทเลเธียพวกนี้ไม่มีทางสู้อาวุธของไฮเอนเธียได้หรอก แต่ดิ๊กสันกลับยิ้มเยาะแล้วบอกให้กัลเลียนห่วงคนของตัวเองซะก่อนเถอะ ในตอนนั้นเอง ลอเรเธียก็เปิดเผยตัวว่าเป็นสาวกเช่นเดียวกับดิ๊กสัน ยานบินของกองทัพไฮเอนเธียปลดปล่อยพลังงานอีเธอร์ระดับสูงออกมา มันกลืนกินทหารชาวไฮเอนเธียรวมถึงกัลเลียน แล้วกลายร่างเป็นเทเลเธีย เมเลียเห็นพี่ชายตัวเองกำลังจะกลายเป็นเทเลเธียต่อหน้าต่อตา ดิ๊กสันอธิบายว่าไฮเอนเธียคือเผ่าพันธุ์ที่ซันซ่าสร้างขึ้น เมื่อถึงเวลาอันสมควร ไฮเอนเธียจะเปลี่ยนร่างเป็นเทเลเธีย เพื่อกวาดล้างทุกชีวิตบนไบโอนิส นำไปสู่การทำลายล้างโลกและกำเนิดใหม่อย่างที่ซันซ่าต้องการ ด้านเมเลียไม่อยากจะเชื่อ กัลเลียนที่กำลังถูกดูดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเทเลเธียก็บอกน้องสาวว่านี่เป็นความจริง ชะตากรรมของชาวไฮเอนเธียคือสิ่งนี้ เพราะเหตุนี้เอง เมเลียจึงเป็นความหวังเดียวของพวกเขา เธอมียีนของฮอมส์ในร่างมากกว่าจึงไม่กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด ดิ๊กสันยิ้มเยาะ เขาสั่งให้ร่างเทเลเธียของกัลเลียนฆ่าเมเลียซะ แต่กัลเลียนที่ยังพอควบคุมร่างอยู่ได้บ้างก็ขัดขืน เขาบังคับร่างเทเลเธียของเขาให้หันมาโจมตีใส่ลอเรเธียแทน ก่อนดับเครื่องชน กัลเลียนบอกเมเลียว่าขอฝากอนาคตของชาวไฮเอนเธียไว้กับชูล์กและเมเลียด้วย จากนั้น แสงระเบิดก็สว่างจ้าไปทั่ว จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:40:56

ความคิดเห็นที่ 88 จิตของชูล์กกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ เขานึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่โดนดิ๊กสันยิง และเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วก็ตระหนักได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นเพราะซันซ่า ตัวเขาเองจริงๆไม่เคยมีชีวิตอยู่เลย ในตอนนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น ปรากฏเป็นร่างของอัลวิส เขาบอกชูล์กว่า "ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าสิ่งที่ชูล์กทำไปทั้งหมดนั้นไร้ค่า นอกจากตัวชูล์กเอง" ยานของมิโคลได้ลงจอดที่โคโลนี 6 ชูล์กยังคงหมดสติอยู่ ฟิโอร่านำดาบโมนาโดะจำลองที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีชาวเมคิน่าวางไว้ข้างเตียงชูล์ก เธอบอกชูล์กว่าให้ใช้ดาบนี้เมื่อฟื้นขึ้นมา และขอให้มีชีวิตอยู่ต่อไป ทางดเานพวกดันบัน โอทารอนบอกว่าตอนนี้ผู้อพยพชาวไฮเอนเธียและนอปปอนได้เข้ามาอยู่ที่โคโลนี 6 นี้แล้ว พวกไฮเอนเธียที่รอดมาได้นั้นส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งฮอมส์และไม่น่าจะกลายร่างเป็นเทเลเธีย ฟิโอร่าเข้ามาบอกทุกคนว่าชูล์กยังไม่ฟื้น หากเทเลเธียบุกมาทุกคนก็ต้องต่อสู้โดยที่ไม่มีเขา อัลวิสบอกว่า เราทุกคนเกิดขึ้นมาจากซันซ่า ไม่ว่าจะแก่ตายหรือต่อสู้จนตัวตาย ผลลัพธ์มันก็เป็นอย่างเดียวกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตานี้ได้อยู่ดี ไรน์และดันบันก็บอกว่าต่อให้ซันซ่าเป็นผู้สร้างโลก เขาก็ไม่มีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายใครอยู่ดี เพราะงั้นเราจะสู้ อัลวิสก็บอกอีกว่านั่นคือความคิดของฮฮมส์ แต่อีกฝ่ายเป็นพระเจ้านะ ก่อนที่จะโต้เถียงกันไปมากกว่านี้ โอทารอนก็ห้ามไว้ ฟิโอร่าที่ไม่มีพลังโมนาโดะของเมย์เน็ทในร่างก็อ่อนแอลง เมเลียมองออก ฟิโอร่าบอกเมเลียว่าอย่าบอกคนอื่นๆเรื่องสภาพร่างกายของเธอ เพราะว่าเธออยากจะต่อสู้เคียงข้างทุกๆคน นอกจากนี้เธอยังฝากให้เมเลียดูแลชูล์กด้วย หากว่าเธอเป็นอะไรไป เมเลียบอกฟิโอร่าว่าพูดยังงั้นได้ไง พลางนึกชื่นชมฟิโอร่าในใจว่าเธอไม่มีอะไรเทียบกับฟิโอร่าได้เลย **จริงๆแล้วเมเลียเธอน่ารักมากค่ะ ถึงตอนแรกๆจะหยิ่งๆแต่ก็ค่อยๆดีขึ้น เธอเป็นคนที่พบเจอเรื่องโหดร้ายมาตลอดเกม โดนยัดเยียดให้ขึ้นครองราชย์ พ่อตาย พี่และประชาชนกลายเป็นสัตว์ประหลาด ชีวิตน่าเศร้าจริงๆ T__T นี่คือโมนาโดะจำลอง - Replica Monado เล่มสีเขียวซ้ายบนคือเล่มที่มิโคลสร้างให้ชูล์กค่ะ ในเกมจะมีเควสอัพเกรดดาบ ถ้าทำสำเร็จดาบก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และมีพลังแรงขึ้นค่ะ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:48:35

ความคิดเห็นที่ 89 ตอนนั้นเองไซเรนเตือนภัยก็ดังขึ้น กองทัพเทเลเธียนำโดยดิ๊กสันบุกมาถึงโคโลนี 6 ทุกคนจึงรีบออกไปสู้ ดิ๊กสันหัวเราะเยาะบอกว่ากัลเลียนต้องตายเปล่า เพราะเขารอดมาได้ ดิ๊กสันจัดการส่งเทเลเธียไปจัดการพวกดันบันทันที ในห้วงอวกาศ จิตของชูล์กได้พบกับอัลวิส (อีตานี่มันเป็นใครกันแน่ เข้าฝันชาวบ้านได้ด้วย) อัลวิสบอกว่าซันซ่าและเมย์เน็ทจำเป็นต้องมีร่างเนื้อสิงเพื่อจะได้คงอยู่ได้ เพราะไม่สามารถคงสภาพเป็นวิญญาณโดดๆ การมีอยู่ของพระเจ้าทั้งสองนี้เองทำให้อนาคตของโลกอยู่ในมือของพวกเขาด้วย นี่คือเส้นทางแห่งโชคชะตา ในนิมิตของชูล์กนั้น ผู้คนใช้ชีวิตและตายไปหวนคืนสู่ซันซ่า(ผู้คนเกิดจากไบโอนิส ตายไปก็ย้อนคืนสู่ไบโอนิส) ซันซ่าจึงสามารถทำให้โลกนี้คงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ ชูล์กบอกว่าการทำลายล้างเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทุกสิ่งที่ทำไปล้วนไม่มีความหมาย อัลวิสจึงถามว่านายแน่ใจงั้นหรือ? ซันซ่าชุบชีวิตชูล์กขึ้นมาแล้วใช้ร่างกายของเขาเป็นที่สิงสถิตย์ แย่งโมนาโดะมาจากเมย์เน็ทแล้วบังคับโลกให้เป็นไปตามใจชอบ ทุกสิ่งเป็นไปตามที่ซันซ่าต้องการ แต่ว่าตอนนี้ ทำไมซันซ่าถึงได้จ้องที่จะฆ่าชูล์กล่ะ? เขาจะฆ่าชูล์กไปทำไม? ชูล์กฟังแล้วก็ตอบไม่ถูก อัลวิสเอ่ยต่อว่าซันซ่าจำเป็นต้องทำ ไม่งั้นแล้วมันเสี่ยงต่อการคงอยู่ตลอดไปของซันซ่า ชูล์กถามว่าพวกเราน่ะเหรอคือ"ต้นตอของความเสี่ยง"ที่ว่านั่น อัลวิสบอกว่า คงเป็นเรื่องน่าประหลาดหากจะหลุดพ้นไปจากเส้นทางแห่งโชคชะตา ชีวิตทั้งหลายที่ซันซ่าและเมย์เน็ทสร้างขึ้นไม่สามารถหลบหนีเส้นทางนี้ได้ ซึ่งก็คือการทำลายล้าง เมย์เน็ทยอมรับเรื่องนี้และได้มอบภารกิจเพื่ออนาคตของโลกให้แก่ชูล์ก ที่ผ่านมา นิมิตของชูล์กทำให้เขาสามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางแห่งโชคชะตา เขาช่วยชีวิตของคนที่ถูกกำหนดว่าต้องตาย ถึงอย่างนั้น ชูล์กก็บอกว่าเขาช่วยชีวิตไม่ได้ทุกคน อัลวิสบอกว่าไม่มีสิ่งใดในโลกที่สมบูรณ์แบบ แม้จะน่าเศร้าแต่เราก็สามารถเรียนรู้จากมันได้ และนำไปสู่ "เส้นทางใหม่" เส้นทางที่ไม่ใช่ของซันซ่า แต่เป็นเส้นทางที่ชูล์กกำหนดเอง ชูล์กจะเลือกทางไหนกันล่ะ? ทางที่ซันซ่าสร้างไว้ หรือจะเลือกเดินใน "เส้นทางใหม่"? โมนาโดะรอนายอยู่ ชูล์กบอกว่า ถ้าหากเขาเลือกเดินเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าล่ะก็ เขาคงไม่สามารถมาได้ไกลถึงตรงนี้ได้ แม้จะมีอุปสรรคระหว่างทาง ถึงแม้จะมองไม่เห็นอนาคต เขาก็จะเลือกเดินในเส้นทางของตัวเองไปพร้อมกับทุกๆคน อัลวิสฟังคำตอบของชูล์กและเอ่ยว่า ถ้าอย่างนั้น ชูล์กก็ต้องฝืนชะตาเพื่อที่จะเดินไปยังเส้นทางนั้น ชูล์กทำท่าจะถามอะไรกับอัลวิส แต่อัลวิสกลับชิงบอกก่อนว่า ชูล์กรู้อยู่แล้วว่า "อัลวิสเป็นอะไรกันแน่?" และ ""สิ่งที่ชูล์กต้องทำคืออะไร" ชูล์กมองอัลวิส ก่อนวางมือแนบหน้าอกของเขา แสงเจิดจ้าก็บังเกิดขึ้นกลางห้วงอวกาศนั้น (ตอนที่เล่นมาถึงตอนนี้ อยากจะตะโกนใส่อัลวิสในทีวีมากๆ เพราะคนเล่นยังไม่รู้เลยว่าเอ็งเป็นคร๊ายยย =[]=) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:50:11

ความคิดเห็นที่ 90 ที่โคโลนี 6 ทุกคนกำลังต่อสู้กับเทเลเธียจำนวนมากจนสู้แทบไม่ไหว ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ไม่ยอมแพ้ อนาคตเป็นของเราไม่ใช่ใครอื่น ดิ๊กสันสั่งให้เทเลเธียจัดการทุกคนซะ ตอนนั้นเอง ชูล์กที่ฟื้นขึ้นมาพร้อมถือดาบโมนาโดะจำลองก็วิ่งเข้ามาช่วยไว้พอดี ทุกคนดีใจที่ชูล์กฟื้นขึ้นมาแล้ว ดิ๊กสันจึงบังคับเทเลเธียมาสู้กับชูล์ก ปรากฏว่าชูล์กเอาชนะได้ เขามีพลังที่มองเห็นอนาคตทั้งๆที่ไม่ต้องใช้โมนาโดะเล่มจริง ดิ๊กสันกัดฟันกรอด เขาตะโกนเรียกอัลวิสว่าให้เลิกเล่นละครได้แล้ว ทุกคนต่างตกตะลึง ดิ๊กสันบอกว่าอัลวิสคือ 1 ใน 3 สาวกของซันซ่า คนอื่นๆต่างโกรธที่อัลวิสกลายเป็นคนทรยศไปอีกคน แต่ชูล์กห้ามไว้ ไม่ว่าอัลวิสจะเป็นใครก็ไม่เปลี่ยนอะไรอยู่ดี อัลวิสเรียกเทเลเธียมาสู้กับพวกชูล์กอีกรอบ เมื่อปราบเทเลเธียลงได้ อัลวิสบอกว่าเขาได้เห็นความมุ่งมั่นในการต่อสู้เอาชีวิตรอดแล้ว ตอนนี้ได้เวลาตัดสินว่าโลกนี้จะเป็นของใคร ของชูล์ก? หรือของซันซ่า? จากนั้นอัลวิสและดิ๊กสันก็จากไปพร้อมกับกองทัพเทเลเธีย พวกเขาเอ่ยทิ้งท้ายว่าจะรอพวกชูล์ก ชูล์กเองก็เห็นนิมิตว่าในอนาคตเราต้องสู้กันอีก เขาจึงบอกว่าเขาไปแน่ ในขณะเดียวกันนั้น ดิ๊กสันเพิ่งรู้สีกกลัวขึ้นมาเป็นครั้งแรก หลังจากเผชิญหน้ากับชูล์กเมื่อครู่ จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:51:42

ความคิดเห็นที่ 91 หลังจากนั้น ชูล์กกับฟิโอร่าคุยกัน เธอสงสัยในคำพูดของอัลวิสที่ว่าโลกนี้เป็นของเราหรือของซันซ่า แล้วทำไมอัลวิสถึงอยู่ฝ่ายเดียวกับซันซ่า พลัง?ชีวิตอมตะ? ชูล์กบอกว่าอัลวิสคงวางแผนอะไรซักอย่าง เขาอยากรู้ว่าทำไมอัลวิสถึงเข้าฝันเขาด้วย เพราะงั้นเขาจะต้องไปเผชิญหน้าแล้วหาความจริงนี้ให้ได้ ถึงตอนนี้ชูล์กนึกขึ้นมาได้ว่าลินาดาต้องการตรวจฟิโอร่า ฟิโอร่ากลัวว่าชูล์กจะรู้เรื่องร่างกายจึงบอกเขาว่าเดี๋ยวเธอตามไปพบลินาดาเอง ชูล์กเดินจากไปขณะที่ฟิโอร่าได้แต่หวังให้เธอยังไหว เธอจะได้ต่อสู้เคียงข้างชูล์กต่อไปได้ ชูล์กบอกทุกคนว่าซันซ่าอยู่ภายในร่างของยักษ์ไบโอนิส เราสามารถเข้าไปในนั้นได้เพราะตอนที่เอกิลโจมตีไบโอนิส เขาได้แทงอกของยักษ์ไบโอนิสเป็นรูใหญ่โ อทารอนบอกว่าจะให้กองทัพช่วยล่อพวกเทเลเธียให้พวกชูล์กสามารถแอบเข้าไปได้ ส่วนมิโคลจะขับยานไปส่งเอง การต่อสู้ชี้ชะตาอนาคตกำลังจะเริ่มแล้ว ทุกคนเดินทางเข้ามายังตัวไบโอนิส มันแตกต่างไปจากครั้งก่อนที่พวกเขาเคยผ่านมาที่นี่ คล้ายกับว่าเป็นภายในร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ พวกชูล์กเดินทางไปสู่ใจกลางคล้ายหัวใจที่กำลังเต้น ที่นั่นเขาได้พบกับลอเรเธีย 1 ใน 3 สาวกแห่งซันซ่า เธอปรากฏตัวพร้อมกับเทเลเธียของกัลเลียน แต่บัดนี้กัลเลียนได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับเทเลเธียโดยสมบูรณ์ไปแล้ว ลอเรเธียรวมร่างกับเทเลเธียแล้วเข้าสู้กับพวกชูล์ก จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:53:01

ความคิดเห็นที่ 92 บอส สาวก ลอเรเธีย ที่กลายรวมร่างกับเทเลเธียของกัลเลียน จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:54:18

ความคิดเห็นที่ 93 ในตอนนั้นเอง ร่างของเทเลเธียก็เปล่งแสงจ้า ระหว่างอยู่ในห้วงสีขาว เมเลียเห็นพี่ชายของเธอเดินเข้ามาหา กัลเลียนยิ้มให้เมเลีย เมเลียเอ่ยขอโทษกัลเลียนและทุกๆคนที่เธอไม่สามารถช่วยพี่ชายและชาวไฮเอนเธียไว้ได้ กัลเลียนบอกเมเลียว่าชาวไฮเอนเธียไม่อาจรอดพ้นชะตาที่ต้องกลายร่างเป็นเทเลเธีย นี่คือสาเหตุที่จักรพรรดิองค์ก่อนๆรวมถึงจักรพรรดิโซเรียนพยายามที่จะทำให้ยีนของไฮเอนเธียเจือจางลงเรื่อยๆ (ด้วยการมีสนมชาวฮอมส์) และเมเลียก็คือความหวังของไฮเอนเธีย เพราะเธอกลายร่างไม่ได้ ถึงแม้ว่าไบโอนิสจะตื่นขึ้น เธอก็ยังสามารถสืบทอดราชวงศ์ต่อไปได้ เธอมีพลังที่จะช่วยหยุดยั้งความทุกข์ทรมานนี้ได้ ตัวกัลเลียนและโซเรียนผู้เป็นพ่อต่างยินดีสละชีวิตเพราะมันคือความปรารถนาของทั้งคู่ กัลเลียนบอกว่าพวกเมเลียคือคนที่จะหยุดยั้งซันซ่าไว้ได้ ส่วนลอเรเธียเขาจะจัดการเอง แล้วกัลเลียนก็เดินจากไป ห้วงสีขาวสลายลง ลอเรเธียกรีดร้องขึ้น กัลเลียนจัดการระเบิดร่างเทเลเธียจนเขาและลอเรเธียสลายไปพร้อมกัน ก่อนที่ร่างทั้งหมดจะหายไป เมเลียมองเห็นพี่ชายของเธออีกครั้ง กัลเลียนบอกน้องสาวว่าจากนี้ไปให้เมเลียก้าวเดินไปยังเส้นทางที่เลือกด้วยตัวเอง นั่นล่ะคือความหวังของชาวไฮเอนเธีย แล้วกัลเลียนก็หายไป เมเลียถึงกับหลั่งน้ำตา ริกิบอกเมเลียว่าได้ยินคำพูดของกัลเลียนด้วย เมเลียยิ้มและกอดริกิเอาไว้ ฉากซึ้งอีกฉากในเกม ปลื้มเจ้าชายกัลเลียนมากๆ เป็นคุณพี่ชายแสนดี เป็นสุดยอดคนดีพอๆกับพระเอกเลย จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:55:14

ความคิดเห็นที่ 94 จัดการสาวกไปได้คนหนึ่งแล้ว ดิ๊กสันโผล่มา(อีกแล้ว) เขาสร้างจุดวาร์ปให้พวกชูล์กตามเขาไปยังเกาะคุมขังที่จมลงมาในร่างไบโอนิส พวกชูล์กวาร์ปไปยังเกาะคุมขังเพื่อตัดสินกับดิ๊กสัน ทางด้านโคโลนี 6 ทุกคนต่อสู้กับเทเลเธีย แม้แต่เฟสเมคอนที่ยังเหลืออยู่ก็ยังมาช่วยต่อสู้ด้วย โอทารอนบอกว่าพวกเฟสต่างก็เคยเป็นฮอมส์มาก่อน ตอนนี้ทุกชีวิตบนโลกต่างต้องการสิ่งเดียวกันนั่นคืออนาคตที่เป็นของทุกคน พวกชูล์กเดินทางไปถึงยอดหอคอย ดิ๊กสันรอทุกคนอยู่แล้ว เขาคืนสู่ร่างที่แท้จริงของเขา ยักษ์ดิ๊กสัน เขาเก่งกาจจนทุกคนสู้ไม่ได้ ดิ๊กสันมุ่งเข้ามาหมายจัดการทุกคน ฟิโอร่าก็เข้ามาขวาง เธอบอกดิ๊กสันว่าเธอสู้ เพราะเธอได้สืบทอดความทรงจำและเจตนารมย์ของเมย์เน็ทมา ดิ๊กสันเยาะเย้ยว่าแค่ความทรงจำนั่นใช้ฆ่าคนไม่ได้หรอกนะ เขาบอกว่าที่เขาต่อสู้ เพราะซันซ่าสั่งให้สู้ ฟิโอร่าย้อนว่านั่นน่ะนะคือเหตุผล ดิ๊กสันยิงพลังใส่ฟิโอร่าจนเธอไม่อาจต้านทานได้ ชูล์กถึงรู้ว่าที่ฟิโอร่าอ่อนแอลงเพราะไม่มีพลังจากโมนาโดะของเมย์เน็ทแล้ว แต่เธอยังไม่ยอมแพ้ เธอคิดจะสู้ไปพร้อมกับทุกคนให้ถึงที่สุด ดิ๊กสันโจมตีต่อ ชูล์กแทบจะสู้ไม่ได้แถมยังโดนดิ๊กสันถากถางว่า พอไร้โมนาโดะเล่มจริงชูล์กก็ทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้นเองทุกคนก็รวมพลังกันโจมตีใส่ดิ๊กสันอีกครั้ง ชูล์กเห็นว่าเพื่อนๆเชื่อใจและช่วยเหลือเขาถึงขนาดนี้ก็ฮึดขึ้นมาอีกรอบ จนดิ๊กสันตกตะลึงเมื่อเห็นว่าชูล์กปลดปล่อยพลังที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาออกมาแล้ว บอสสุดโหด สาวกดิ๊กสัน (ในเกม ตั้งแต่เริ่มสู้บอสดิ๊กสันไปจนจบเกม จะเซฟไม่ได้ ย้อนกลับไปไหนไม่ได้ ให้ลุยซึ่งๆหน้าอย่างเดียว ตอนเล่นรอบแรกไม่รู้เรื่อง พอเอาชนะดิ๊กสันได้แบบหวุดหวิด พอจะเซฟก็กลับเซฟไม่ได้ซะงั้น ต้องเล่นยาวเลย T_T แถมต้องเล่นใหม่อีกเพราะสู้บอสใหญ่ไม่ไหว เลเวลไม่พอ) จากคุณ : Athenise เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 18:56:49