ถ้าพล็อตเรื่องเกี่ยวเพนกวินเป็นแบบนี้ เอาไปทำหนังจะสนุกไหมอะ?{แตกประเด็นจาก A11345061}
|
 |
กระทู้นี้แตกประเด็นจากกระทู้ที่มีคนอยากเอาฮิปโปไปทำหนัง เราคิดว่าเพนกวินเป็นสัตว์ที่มีความลึกลับสูงมาก จึงเสนอประเด็นใหม่ให้เอาเพนกวินไปทำหนังแทน
โดยเรื่องที่ผมเขียนทั้งหมดนี้ยืนยันอีกครั้งว่าเป็นเรื่องจริง เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เจอมากับตัวเอง เรื่องมีอยู่ว่า
สมัยก่อนผมเคยทำวิจัยอยู่ที่ขั้วโลกใต้ เพื่อนนักวิจัยของผมถูกฆ่าตายโดยเพนกวิน เพนกวินใช้ปีกเปล่าๆตบจนหัวหลุด จากนั้นมันก็เดินมาหาผมและบอกว่า "ขอย้ายวิญญาณมารวมในร่างผมด้วย" ส่งผลให้ปัจจุบันผมสามารถทนความหนาวเย็นได้มากกว่าปกติ มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นหากสลับวิญญาณกับเพนกวินที่อยู่ในกาย และทำให้ผมแก่ช้ากว่ามนุษย์คนอื่นประมาณ 10 เท่า
หลังจากเห็นเพื่อนโดนเพนกวินตบหัวหลุดต่อหน้าต่อตา และตัวเองก็โดนรวมร่างกับวิญญาณเพนกวิน ผมก็ตกใจวิ่งกลับเต็นท์วิจัย ที่มีนักวิจัยอื่นๆอยู่ ผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ทุกคนไม่เชื่อผมครับ มองว่าผมยังเด็กเลยแต่งเรื่อง จนผมพาไปดูนักวิจัยที่โดนฆ่าตาย นักวิจัยที่ตายเป็นผู้หญิงชาวญี่ปุ่นครับ มาสำรวจเรื่องประวัติศาสตร์ขั้วโลกใต้โดยการเจาะพื้นน้ำแข็งในระดับชั้นต่างๆเพื่อวัดอายุและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละยุค
เมื่อนักวิจัยคนอื่นๆเห็นศพ ก็หาว่าผมทำการฆาตกรรม จะจับผมดำเนินคดี แต่เนื่องด้วยจุดที่เกิดเหตุยังไม่มีเส้นแบ่งของประเทศที่แน่นอน ทำให้การบังคับใช้กฏหมายเป็นเรื่องที่ทำได้ลำบาก ประกอบกับหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผมทำการฆาตกรรมนั้นไม่หนักแน่นพอ ผมจึงรอดตัวในที่สุด ภายหลังนักจิตวิทยามาประเมินผมว่า ผมเกิดภาวะเครียดจากการเห็นเพื่อนร่วมงานประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ทำให้เกิดอาการไม่ยอมรับความจริงจนแทนที่ด้วยจินตนาการ
ภายหลังผมเดินทางกลับมาเมืองไทย ผมก็เกิดล้มป่วยจนต้องเข้า icu สามเดือนเต็ม แพทย์ไม่พบสาเหตุ เมื่ออกจาก รพ. มาได้ ผมก็ต้องอาศัยอยู่แต่ในห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา ผมคิดว่าเป็นผลจากการรวมวิญญาณกับเพนกวิน ภายหลังผมได้ค้นพบว่าจุดที่อุณหภูมิสูงสุดในร่างกายคือที่อวัยวะเพศ ผมจึงได้สร้างกางเกงในที่สามารถกักและสร้างความเย็นขึ้น เพื่อให้ร่างกายผมมีความเย็นเพียงพอที่จะออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ จากนั้นไม่นานผมก็ค้นพบความสามารถพิเศษจากการรวมวิญญาณกับเพนกวิน
จากนั้นผมก็พยายามพูดกับวิญญาณเพนกวินที่สิงอยู่ในตัว จับใจความได้ว่าเพนกวินที่อยู่ในร่างของผมคือเพนกวินตัวสุดท้าย ซึ่งผมก็สงสัยว่า เพนกวินทั่วโลกมีมากมายตามสวนสัตว์ มันจะเป็นตัวสุดท้ายได้ยังไง มันก็เลยบอกผมว่า เพนกวินพวกนั้นที่ผมรู้จักเป็นเผ่าพันธ์โคลนที่เพนกวินที่แท้จริงสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานเป็นทาส โดยสร้างให้มีรูปกายเดียวกับผู้สร้าง ซึ่งก็คือเพนกวินที่แท้จริง
มันบอกผมต่อว่าเผ่าพันธ์เพนกวินที่แท้จริงมีวิวัฒนาการยาวนานกว่ามนุษย์มาก โดยวิวัฒนาการต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายล้านปีแล้ว ต่างจากสายพันธ์ญาติลิงชั้นต่ำแบบมนุษย์ที่เพิ่งเริ่มฉลาดได้แค่หลักหมื่นปี มันบอกผมว่าเพนกวินที่แท้จริงสามารถย้ายวิญญาณได้ และมีพละกำลัง รวมถึงปัญญาเหนือกว่ามนุษย์มาก
แต่สาเหตุที่มันต้องสูญพันธ์ก็เพราะ เพนกวินแต่ละตัวมีความยโสและกวนตีนตามธรรมชาติ ทุกตัวต้องการเป็นใหญ่จึงเกิดการฆ่าฟันกัน อีกทั้งยังโอหังคิดว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่น จึงเลือกมากในการผสมพันธ์ทำให้ประชากรลดลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงมันที่สิงร่างผมอยู่เป็นตัวสุดท้าย มันบอกสาเหตุที่มาสิงร่างผม เพราะมันกำลังจะหมดอายุขัย บังเอิญเจอผมพอดี เมื่อประเมินผมแล้วดูมีความเหมาะสมกว่ามนุษย์ผู้หญิงอีกคนจึงเลือกสิงผม และฆ่าเพื่อนนักวิจัยผมปิดปากสะ
มันบอกต่อว่าในอนาคตถ้าเจอร่างที่เหมาะสมกว่าผม มันก็จะย้ายร่างไปและฆ่าผมปิดปากเช่นเดียวกัน ผมใช้ระยะเวลานานมากกว่าจะทำใจยอมรับเรื่องนี้ แต่เมื่อทำใจได้ การมีเพนกวินสิงในร่างก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน คือ ผมสามารถทนความหนาวเย็นได้มากกว่ามนุษย์คนอื่น มีร่างกายที่แข็งแกร่งเมื่อสลับร่างให้เพนกวินควบคุม มีอายุยืนยาวกว่าคนอื่นประมาณ 10 เท่า ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บทำร้ายผมได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอมตะนะ
จนวันหนึ่ง บ่ายของวันธรรมดาๆที่ผมเดินเลือกซื้อกางเกงในเพื่อเอาไปทำกางเกงในกักและสร้างความเย็นอยู่ที่พารากอน ผมก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อผมเจอกับ คาโอริ คาโอริ คือเพื่อนนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ถูกเพนกวินตบจนหัวขาด
ผมเห็นเธอตายกับตา แต่ตอนนี้ผมเห็นเธอกำลังเลือกชุดชั้นในอยู่ที่แผนกเดียวกัน ทันใดนั้นเพนกวินในร่างก็พูดกับผมด้วยจิต ระวังผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นถูกเพนกวินอีกตัวสิงสู่เช่นเดียวกัน ผมถามกลับไปด้วยความกลัวว่า ไหนกวินบอกกวินคือเพนกวินตัวสุดท้ายไง
ผมมั่วแต่ตกใจกับคำพูดของกวิน (บางครั้งผมเรียกเพนกวินในร่างของผมว่ากวินเพื่อความสะดวก) จนไม่ทันระวังตัว ทันใดนั้นคาโอริก็บังเอิญเห็นผมเข้า เธอยิ้มให้อย่างเป็นมิตรและเดินมาหาผม ผมคิดว่าเธอคงจะจำผมได้ ในใจผมมีเรื่องราวสับสนมากมายที่สามารถคลายปมออกได้หากได้คุยกับเธอ แต่ก่อนที่จะสามารถพูดอะไรออกไป เพนกวินในกายก็ดึงการควมคุมร่างทั้งหมดไปที่มัน เจ้าของร่างอย่างผมทำได้แค่เพียงอยู่ในฐานะผู้เฝ้าดูปล่อยให้ร่างกายขยับไปตามที่เผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่าบัชญา
มันยืนจ้องหน้าคาโอริ ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าคาโอริก็คงโดนดึงการควบคุมร่างโดยเพนกวินอีกตัวเช่นเดียวกัน มันทั้งสองตัวคุยกันด้วยภาษาทางจิต บุคคลภายนอกคงมองเห็นเพียงชายหญิงสองคนกำลังยืนจ้องหน้ากัน ไม่มีใครอื่นล่วงรู้ว่า อาจจะเกิดการฆ่าล้างโครตอลังการของเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดกลางห้างพารากอนแห่งนี้
"ตัวกากๆอย่างแกยังอุตสารอดมาอีกนะ" เพนกวินในร่างผมเริ่มพูดก่อน "ก็ถ้าปลายแถวแบบแกยังรอดอยู่ได้ ชั้นสูงแบบเราก็รอดได้เช่นกัน" เพนกวินในร่างคาโอริตอบ "จะวัดกันที่นี่เลยไหม" "ความคิดล้าหลังแบบนี้ไง พี่น้องของแก เลยถูกเราฆ่าตายหมด อยากจะสู้โชว์ให้ลูกหลานลิงพวกนี้มันดูนักหรือไง" "อย่าปากดี เดี่ยวปัดตบปีกหัก ญาติฝั่งแกก็โดนข้าฆ่าตายเหมือนกันเหละ แค่ขนปีกก็เฉือนหัวหลุดแล้ว" "แล้วจะเอายังไง" เพนกวินในร่างผมถาม "ถ้าให้เดาตัวแกเองเพิ่งย้ายร่างมาแบบนี้ คงสู้ได้ไม่เต็มที่ใช่ไหม? เพราะเราเองก็เหมือนกัน" "เอาแบบนี้ดีไหมจากนี้ไปอีกหนึ่งปีไปเจอกันที่ขั่วโลกใต้ ที่ที่เราสู้กันครั้งก่อน" "เออ ดี จะได้ตัดสินสะทีว่าใครจะเหมาะสมที่ได้ชื่อว่าเพนกวินตัวสุดท้าย ไอ้กระจอกรากหญ้าแบบแกที่โชคดีรอดมาได้ หรือข้าที่เป็นสุดยอดแห่งเผ่าพันธุ์" " เหอะ ปากแบบนี้ ถึงเวลาจะตบให้ครางเลย" เมื่อตกลงกันได้มันทั้งสองก็เดินจากกัน ทิ้งความสงสัยให้ผมในฐานะพยานผู้รับรู้เหตุการณ์โดยที่ไม่มีโอกาสได้คุยถามถึงความเป็นมาเรื่องการรอดชีวิตของคาโอริเลย ก่อนกลับผมเห็นคาโอริแวะที่แม็คโนนัล ใจจริงอยากจะเข้าไปคุยเหมือนกันแต่กวินห้ามเอาไว้ กวินบอกไปทักก่อนเสียฟอร์มเปล่าๆ ผมก็เหนื่อยใจเลยขี้เกียจเถียง
พอถึงบ้านกวินก็เอาแต่เงียบเฉย โดยปกติแล้วเวลาอยู่กันสองคนมันมักจะเพ้อเจ้อถึงวีรกรรมการต่อสู้เรื่องฆ่าผู้อื่นอย่างสนุกปาก แต่วันนี้เอาแต่นั่งซึม แม้จะไม่เห็นสีหน้า แต่ด้วยความที่อาศัยร่างเดียวกันก็รับรู้ได้เลยว่ามันกำลังครุ่นคิดและเครียดจากการอ่านสถานการณ์พลาด มันไม่ใช่เพนกวินตัวสุดท้ายอย่างที่ตัวเองเข้าใจ ยังมีอีกตัวและทั้งสองก็กำลังจะสู้กันในอีกหนึ่งปีให้หลัง เพื่อตำแหน่งสูงสุดของเผ่าพันธุ์ ซึ่งในมุมมองของมนุษย์อย่างผมก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่า การเป็นที่หนึ่งมันดีอย่างไรหากต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและสังหารเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ จนสุดท้ายก่อนหมดวันกวินเอ่ยปากออกมาว่า
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 13:40:07
จากคุณ |
:
เพนกวินในห้องแอร์
|
เขียนเมื่อ |
:
18 พ.ย. 54 13:27:41
|
|
|
|