 |
#21
ข้อ 1 ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าบอกว่าจำนวนตัวอย่าง 1,200 ครัวเรือน เป็นตัวแทนของคนไทย 63 ล้านคน จึงจะน่าสงสัย
คำอธิบายเพิ่มเติมของอาจารย์มีดังนี้
ส่วนความคิดเห็นข้างต้น เรื่องการแบ่งสัดส่วนบ้านตัวอย่างนั้น ได้อธิบายไว้แล้ว โดยคร่าวๆ การแบ่งพื้นที่ของประเทศไทย แบ่งออกเป็น 5 ส่วนคือ
1.กรุงเทพฯและปริมณฑล
2.ภาคกลาง
3.ภาคเหนือ
4.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5.ภาคใต้
ซึ่งส่วนที่ 2-5 จะแบ่งออกเป็น Urban หรีอในเขตเทศบาล และ Rural นอกเขตเทศบาล โดยในแต่ละพื้นที่Rural จะแบ่งออกเป็น จังหวัด อำเภอ ตำบล และ หมู่บ้าน โดยแต่ละหมู่บ้านให้ถือเป็น 1 PSU แต่ในพื้นที่ Urban จะแบ่งเป็นอำเภอ ตำบล และ ทำแผนที่บ้านเป็น PSU เพื่อใช้ในการสุ่มบ้าน โดยแต่ละ PSU จะมีบ้านได้เพียง 1-2 บ้านเท่านั้น
ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 วงคือ
วงในที่มีประชากรหนาแน่นเป็นแหล่งธุรกิจ
วงกลางที่มีประชากรอยู่อาศัยค่อนข้างมาก
วงนอกเป็นแหล่งที่มีประชากรอยู่เบาบาง
โดยทั้ง 3 วงจะแบ่งจากเขต/อำเภอ และ ตำบล และ จะทำแผนที่บ้านโดยละเอียดในแต่ละ PSU และมีกฎในการหาบ้าน ซึ่งก็จะมีเพียง 1-2 บ้านต่อ PSU เท่านั้น
การเลือกจังหวัดของแต่ละพื้นที่ ในส่วนที่ 2-5 เราจะแบ่งประเภทจังหวัดออกเป็น 3 แบบคือ จังหวัดขนาดใหญ่ กลาง และ เล็ก โดยใช้จำนวนประชากรในแต่ละจังหวัดเป็นตัวตั้งในการสุ่มหา ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีทั้ง จังหวัดขนาดใหญ่กลางเล็กปนกันในอัตราส่วนของแต่ละภาค
ดังนั้น Quota ของแต่ละจังหวัด ก็ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของประชากรในจังหวัดที่ถูกเลือกขึ้นมา จังหวัดขนาดใหญ่ก็จะมีบ้านตัวอย่างมาก จังหวัดขนาดเล็กก็จะมีบ้านตัวอย่างน้อย เป็นต้น
จากนั้น Quota ของแต่ละจังหวัด จะแบ่งออกไปเพื่อใช้ในการควบคุมบ้านในเขตเทศบาล Urban และ บ้านที่อยู่นอกเขตเทศบาล Rural ตามสัดส่วนจำนวนบ้านในจังหวัดนั้นๆ
เมื่อได้บ้านแล้ว ก็จะควบคุม รายได้ต่อครอบครัว, จำนวนชั่วโมงในการดูโทรทัศน์ ว่ามีการดูมากหรือดูน้อยเป็นสัดส่วนเท่าใด, จำนวนคนในบ้าน, จำนวน ชาย/หญิงในแต่ละพื้นที่ อายุ การศึกษา อาชีพ เป็นต้น ทั้งนี้ สิ่้งเหล่านี้จะต้องสะท้อนภาพของสภาพบ้านที่ดูโทรทัศน์ของแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงสะท้อนให้เห็นถึงสัดส่วนของประชากรทั้งประเทศ ในบ้านตัวอย่างที่เลือกด้วย
การควบคุมผ่านระบบตรวจสอบทุกวัน เมื่อมีบ้านขอยกเลิก หรือ บ้านที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือ บ้านไม่ให้ความร่วมมือ หรือ อะไรก็ตามที่ไม่ตรงกับกฎเกณฑ์ ก็จะทำการออกไปยกเลิกบ้านนั้น แล้วหาบ้านทดแทน โดยบ้านใหม่จะต้องเติมเต็มตัวควบคุมของคุณภาพบ้าน และ คุณภาพของคนในบ้านทั้งหมด
อันนี้เป็นการหา Sampling และ การควบคุมคุณภาพของการหาบ้านตัวอย่าง และ ตัวแทน ที่ใช้ในปัจจุบัน ทั้งนี้ การกระจายดังกล่าวเป็นไปตามระบบทางสถิติประยุกต์ที่ถูกออกแบบมาจาก นักสถิติชาวอังกฤษที่เป็นหนึ่งในห้าทางด้านสถิติระดับโลกก็ว่าได้นะครับ
การเปลี่ยนแปลงบ้านตัวอย่างนั้น โดยปกติจะเปลี่ยนแปลงประมาณ 20% ของบ้านทั้งหมด แต่ในกรณีถูกแทรกแซง ก็จะยกเลิกบ้านที่รู้ว่าถูกแทรกแซงออกทั้งหมด และ หาบ้านใหม่มาทดแทนทั้งหมด ซึ่งในช่วงที่ถูกแทรกแซง ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้านไปถึง 50-60% เลยทีเดียว
ณ ปัจจุบัน บ้านทุกบ้านได้ถูกกำหนดตำแหน่งบ้านด้วย GPS สามารถตรวจสอบบ้านได้ว่ามีความห่างกันมากน้อยเพียงใด และ เมื่อต้องการหาบ้านใหม่ก็จะสามารถกำหนดจุดที่จะหาบ้านได้ในแผนที่ GPS ได้เลย แต่กว่าจะหาบ้านได้สักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายเนืองจากตัวควบคุมมีหลากหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงตามที่กล่าวมาไม่ใช่แค่เพียงระยะห่างเท่านั้น...
ผมเห็นด้วยกับหลายๆท่านว่า ในระดับผู้ดูโทรทัศน์แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่ารายการใดมีคนดูมากน้อยเท่าใด หรือ มีคนชื่นชอบอยู่จำนวนเท่าใด เพียงแค่ รายการนั้นเป็นรายการที่คุณชื่นชอบก็ดูกันไป รายการไหนไม่ชอบก็ไม่ต้องดู เรตติ้งมีไว้สำหรับวงการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นวงการของสถานีโทรทัศน์ หรือ การโฆษณาก็ตาม แต่การที่มีการโหวต หรือ การเอาเรตติ้งมาคุยกันในกลุ่มผู้ดู ก็จะทำให้เกิดความเบี่ยงเบน ซึ่งส่วนใหญ่ คนที่ต้องการให้มีการเบี่ยงเบนก็คือคนที่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งนั้น เขากำลังทำการตลาดผ่านคุณอยู่โดยคุณไม่รู้ตัวนะครับ แต่ถ้าคุณไม่คิดอะไรมากก็ลองเข้าไปดูตามเขาก็ไม่เสียหายครับ..
==============================================
จากเท่าที่อ่านข้อมูลของคุณริโย่ หนึ่งจุดของเรตติ้งเทียบเท่าจำนวนคนดูประมาณ 6 แสนคน
ถ้าเรตติ้ง 6 ก็ประมาณได้ว่า มีจำนวนคนดู สามล้านหกแสนคน คิดเอาหยาบ ๆ ตัวเลขกลม ๆ
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 54 00:35:35
| จากคุณ |
:
aiwen^mei   
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ย. 54 00:29:29
|
|
|
|
|
คุณว่าเรตติ้งละครน่าเชื่อถือได้หรือไม่
ความคิดเห็นที่ 1
