Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อ่านเจอบทสัมภาษณ์อดีตดาราดังช่อง7ที่หายไปนานเลยเอามาฝาก ติดต่อทีมงาน

ใครยังจำคุณติ๊ก ฉัตรงมงคลได้บ้าง พอดีอ่านเจอ

บทสัมภาษณ์เลยเอามาฝากให้อ่านกัน ห่างหายบทดีๆ

ในจอ7สีไปนานหลายปี  เมื่อก่อนคุณติ๊กเล่น

ละครช่อง7ดังหลายเรื่องอยู่เหมือนกันนะ

[ที่มาsiamdara.com]


ย้อนรอยอดีตกับนักแสดงละครจักรๆ วงศ์ๆ ติ๊ก-ฉัตรมงคล

เมื่อนั่งพูดคุยกับคุณติ๊กถึงเรื่องรางราวของชีวิตตั้งแต่

ก่อนเข้าวงการบันเทิงนั้นเป็นมาอย่างไร ซึ่งคุณติ๊ก

ก็ได้เล่าเรื่องราวของบันไดหลายต่อหลายขั้น

กว่าจะก้าวเข้ามาถึงจุดที่เปล่งประกายในฐานะของดารา

”ผมเข้ามาในวงการบันเทิงได้ยังไงน่ะเหรอครับ

ตอนนั้นผมก็เล่นเป็นเอ็กซ์ตร้าทั่วไปนั่นแหละครับก็ทำอยู่นานเมือนกัน

จากนั้นก็จะเริ่มมีงานเดินแบบ ถ่ายแบบบ้างแล้วก็เริ่ม

มีงานโฆษณาเข้ามาตัวแรกที่ผมถ่ายโฆษณาก็น่าจะเป็นโฆษณา

ของสบู่ลักษ์ครับตอนนั้นจำได้ว่าเล่นกับคุณนุ่น

(สินิทธา บุญยศักดิ์) ก็พอหลังจากโฆษณาชิ้นนี้ออกไ

ปก็เลยทำให้เรากลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น”

หลังจากที่คุณติ๊กผ่านงานที่เปรียบเสมือนบันได

แห่งการก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงหลายต่อหลายชิ้นแล้ว เ

ขาก็ได้โอกาสมาเล่นละครที่เรียกว่าละครจักรๆ วงศ์ๆ

เป็นเรื่องแรก ซึ่งนั่นเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้เขากลาย

เป็นนักแสดงที่รู้จักมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

”ผมมาเริ่มเล่นจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องแรกก็คือเรื่องมิติมหัศจรรย์

คู่กับ เบนซ์ (พรชิตา ณ สงขลา) ตอนนั้นก็เป็นเรื่องแรก

ของเบนซ์เหมือนกันนะ ก็เล่นเป็นคู่พระคู่นางกัน

แล้วหลังจากเรื่องนี้เบนซ์ก็ย้ายไปช่อง 3

จากนั้นผมก็ได้เล่นจักรๆ วงศ์ๆ มาเรื่อยๆ ทั้งเกราะเพชร เจ็ดสี,

ไกรทอง, ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง, มโหสถ ฯ

โอ้ย..เยอะมากๆ เลยกับละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ

แต่ที่จำได้ว่าเป็นละครที่ทำให้คนเริ่มจำและรู้จักเราในแนวนี้

ก็จะเป็นเรื่องไกรทอง เพราะว่าเรื่องนี้เราเล่นเป็นชาละวัน

บทมันก็ค่อนข้างที่จะเด่นหน่อย ทำให้หลังจากที่มีละครเรื่องนี้

ออกไปคนก็จะจำเราได้มากขึ้น เพราะอย่างเรื่องเกราะเพชรเจ็ดสี

หรือว่าเรื่องอื่นๆ เนี่ยเราเป็นพระเอกก็จริงแต่ด้วยเนื้อเรื่อง

แล้วพระเอกมันมีหลายคน ทำให้เราเองก็ไม่ได้ดูโดดเด่น

มากเท่าไหร่ ก็มาเป็นเรื่องไกรทองในบทของชาละวันนี่

แหละที่เราดูโดดเด่นขึ้น”

และนอกจากละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ ที่เขาคร่ำหวอดมา

หลายต่อหลายเรื่องแล้วเขาก็ได้มีโอกาสลองหันมา

สัมผัสกับละครและก็กลายเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าเสน่ห์

คนหนึ่งของวงการเลยก็ว่าได้

”หลังจากเล่นละครจักรๆ วงศ์ๆ แล้วก็จะเริ่มมีละครเย็นต่างๆ

ติดต่อเข้ามาและที่ทำให้คนดูรู้จักเรามากอีกเรื่องหนึ่ง

ก็คือเรื่องมนต์รักลูกทุ่งเวอร์ชั่นของพี่ตั้ว (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง)

กับคุณน้ำผึ้ง (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์)

ที่ตอนนั้นผมรับบทเป็นไอ้เฉิด เป็นตัวร้าย

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบแคแรกเตอร์ของตัว

ละครตัวนี้นะสำหรับผมแล้วผมว่ามันมีสีสันดีตั้งแต่

เป็นลูกคนรวยแต่งตัวหล่อ จนมาเป็นโจรและจนสุดท้าย

ก็ไม่เหลืออะไร ส่วนตัวแล้วผมชอบตัวละครตัวนี้มาก

พอหลังจากเรื่องมนต์รักลูกทุ่งอีกเรื่องที่คนจะจำได้ก็

เรื่องดอกแก้วที่มีคุณบี๋ (สวิช เพชรวิเศษศิริ)

เล่นคู่กับคุณกบ (สุวนันท์ คงยิ่ง) ผมรับบทเป็นไอ้ไม้

ผมจำได้เลยว่าตอนนั้นที่ผมไปเดินตลาดเนี่ยมีคนบอก

ผมว่าดีนะที่มาเดินในตอนที่เป็นไอ้ไม้ไม่ใช่ตอนที่เป็นไอ้เฉิด

ซึ่งพอผมได้ยินผมก็ขำนะ แต่ก็สนุกดี เพราะตัวละคร

ไอ้ไม้ในเรื่องดอกแก้วนี่เราจะเล่นเป็นเหมือนคนบ้านป่า

พอเข้ามาเป็นคนสวนแล้วมันต้องถอดเสื้อโชว์บอดี้

ของเราอะไรแบบนี้คนก็เลยค่อนข้างจำเราได้ดีเลยกับ


ตัวละครไอ้ไม้ในเรื่องดอกแก้ว จากนั้นผมก็มาเล่นละครใ

ห้กับอาฉลองก็จะเป็นเรื่องระย้า, ดาวคนละดวง

ก็เล่นกับอาหลองอยู่พักใหญ่เลยก่อนที่จะดร็อปไป

เพราะเรามีเรื่องของยาเสพติดก็เลยเหมือนหายออกไปจากตรงนี้ครับ”

และด้วยเรื่องราวของยาเสพติดที่เข้ามาพัวพันในชีวต

จึงทำให้เขาถึงกลับต้องเปลี่ยนเส้นทางของชีวิตและหายหน้า

ไปจากวงการเป็นเวลาหลายปี”ช่วงที่หายไปผมก็ไม่ได้

ไปทำอะไรหรอก เพียงแต่ว่าเลือกที่จะไปใช้ชีวิต

ที่ต่างประเทศมากกว่า เพราะผมไม่อยากที่จะปิดโอกาส

ของตัวเอง ก็พอดีมีเพื่อนที่โน่นด้วยก็เลยตัดสินใจไป

อเมริกาไปอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ก็มีทำงานเลี้ยงตัวเอง

บ้างอย่างไปทำงานร้านอาหารเป็นเด็กเสิร์ฟ

ในระหว่างนั้นผมก็ไปเรียนภาษาด้วย ก็อยู่ที่นั่น 2 ปีเต็มเลย”

หลังจากที่เขาได้ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเป็นเวลาถึง 2 ปี

เต็มแล้วเขาก็ตัดสินใจกลับเมืองไทยและเริ่มกลับเข้ามาใช้ชีวิต

ในวงการบันเทิงอีกครั้ง

”หลังจากที่กลับมาผมก็กลับมาเล่นละครอีกเป็นละครเย็น

ก็รู้สึกดีที่เราเองยังได้โอกาสตรงนี้อยู่แล้วก็มาเล่นละครดึก

เลยกับทางดีด้าในเรื่องขุมทรัพย์แม่น้ำแคว

คือเราเองก็คุ้นกับทางกองถ่ายของดีด้าอยู่แล้ว

ตั้งแต่สมัยจักรๆ วงศ์ๆ อยู่แล้ว เราก็เลยไม่ได้รู้สึกเกร็ง

หรือว่าต้องระแวงอะไร หลังจากกลับมาเล่นละครคนเค้า

ก็จำได้นะ เพราะด้วยลักษณะและบุคลิกของเรา

ที่เป็นคนตัวสูง ก็ผมสูงตั้งเกือบ 190 นะ คนก็จะจำผมได้

ว่าเอ๊ะคนนี้นี่เวลาไปเดินตามที่อะไรต่างๆ แล้วผมก็ได้ไ

ปเล่นหนังเรื่องสียามาของทางโมโนฟิล์มเรื่องนี้ที่จริง

ตอนถ่ายเนี่ยผมมองว่าบทดีมากเลยนะ แ

ต่พอตัดต่อออกมาจริงๆ แล้วบทแต่ละคนไม่ค่อยเด่นเลย

ก็เสียดายอยู่เหมือนกัน”

ด้วยชีวิตที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมายาวนานนับสิบๆ

ปีของเขาทำให้อดถามไม่ได้ว่าวงการมายาบ้านเรานั้น

แตกต่างไปจากเดิมที่เขาก้าวเข้ามาสัมผัสแรกๆ

บ้างหรือไม่ ซึ่งเขาก็ได้เล่าให้ฟังในมุมของเขาเองว่า

”วงการบันเทิงบ้านเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนะ

ในความคิดของผมเพราะละครนี่ก็เป็นโลกของจินตนาการ

ละครมันจะไม่ค่อยฉีกออกไปเหมือนกับภาพยนตร์ก็

จะมีพระเอก นางเอก ตัวร้าย มีอุปสรรคเข้ามาแล้ว

สุดท้ายก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง มันจะค่อนข้างซ้ำซากนะ

ถ้าถามในเรื่องของตัวบทหรือเนื้อหาของละครนี้ผมว่า

ไม่ค่อยพัฒนาเท่าไหร่หรอก แต่ในเรื่องของเทคนิคต่างๆ

ก็อาจจะดีขึ้น แต่ที่เห็นได้ชัดเจนก็คงจะเป็นเรื่องของ

ดาราใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในวงการนี่แหละ”

แล้วอะไรในวงการบันเทิงแห่งนี้ที่ทำให้เขายังคงเป็น

ส่วนหนึ่งอยู่และไม่หันหลังให้ นั่นก็เพราะลักษณะ

ของการทำงานที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเขานั่นเอง

”ผมชอบงานในวงการบันเทิงก็เพราะผมค่อนข้างรักงาน

ที่อิสระคือไม่ต้องเข้างานเช้าแล้วก็เลิกงานตอนเย็น

ใช้ชีวิตเร่งรีบ ปวดหัวกับเรื่องรถติด

อย่างผมทำในส่วนนี้ผมได้เดินทางไปโน่นไปนี่เยอะแยะ

เดี๋ยววันนี้อยู่จังหวัดนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปจังหวัดนี้

ซึ่งมันไม่จำเจไง แล้วค่าตอบแทนรายได้มันก็โอเค

สำหรับเรากับการใช้ชีวิตของเรา”

ถึงตรงนี้อยากจะให้คุณติ๊กได้ฝากข้อคิดของการ

ทำงานในวงการบันเทิงกับนักแสดงรุ่นใหม่ๆ สักหน่อย

ไปฟังกันสิว่าเขาจะพูดให้ข้อคิดกับรุ่นน้องเช่นไร

”ก็คนที่ได้มีโอกาสมาถึงตรงนี้มายืนอยู่ตรงนี้ร้อยคน

พันคนกว่าคุณจะได้มายืนเนี่ยมันเป็นเรื่องที่โชคดี

มันก็ต้องมีความตั้งใจจริงๆ ทุกอย่างไม่ว่าเราจะทำอะไร

หรือเล่นบทไหน บางคนนี่ก็ไฟแรงเลยมาถึงก็แบบมั่นใจ

มากว่าตัวเองทำการบ้านมาดี แต่ไม่ได้ดูแวดล้อม

ไม่ได้ดูนักแสดงคนอื่นๆ หรือรุ่นพี่ที่เค้าใช้ชีวิตมาก่อน

มันเหมือนการที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีไง

เพราะการที่เราเข้ามาใหม่ในวงการมันก็เหมือน

กับการขึ้นที่สูงอย่างภูเขาน่ะ เราก็ต้องก้มหัวขึ้นไป

ถ้าใครเดินเงยหน้าขึ้นเขามันก็อาจจะทำให้เรา

นั้นหงายหลังตกลงมาได้ จริงไหม นอกจากนั้นการ

ที่เราเป็นนักแสดงไม่ว่าจะตัวละครตัวไหนที่เรา

ได้รับมาเราต้องเชื่อและเข้าใจจริงๆ ว่าเราเป็นตัวนั้นจริงๆ

ต้องใช้ใจ นอกนั้นก็คงเหมือนที่คนอื่นๆ

พูดกันอย่างเรื่องตรงเวลาอะไรแบบนี้มันก็มีส่วน

เพราะใจเขาใจเราบางทีคนอื่นมีธุระต้องรีบทำเหมือนกัน

แต่กองต้องล่าช้าเพราะคนๆ เดียวมันก็ไม่สามารถ

เดินต่อได้ เพราะฉะนั้นมันก็ต้องคิดถึงใจของผู้ร่วมงานด้วย”

สุดท้ายก็คงต้องให้พระเอกเจ้าพ่อละครจักรๆ วงศ์ๆ

คนนี้ฝากถึงแฟนละครที่ยังคงติดตามชมผลงานของเขาอยู่

ซึ่งเมื่อมาถึงตรงนี้พระเอกร่างสูงก็ได้ยิ้มด้วยรอยยิ้ม

ที่ออกจะปลื้มและกล่าวถึงแฟนๆ ว่า

”ก็คงต้องฝากขอบคุณแฟนๆ ที่อาจจะยังจำผมได้อยู่

ตอนนี้ผมเองก็ไม่ได้ห่างหายจากวงการบันเทิงไปไหน

นะตอนนี้ก็ยังมีละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องเจ้าหญิงพิกุลทองอยู่

และผมก็ยืนยันว่าจะไม่ไปไหนด้วยจะอยู่เล่นละคร

เหมือนอา สมบัติ เมทะนี หรือแบบ อา กรุง ศรีวิไล ไปเลย

ผมรักในงานตรงนี้มากและคาดว่าอีกไม่นานผม

น่าจะมีบทบาทและผลงานเด่นมากกว่าตอนนี้

ก็ขอให้ติดตามและช่วยเป็นกำลังใจต่อไปนานๆ

รับรองว่าผมไม่ทิ้งวงการนี้ไปไหนแน่นอนครับ”

จากสิ่งที่เราได้พูดคุยกับคุณติ๊กมายาวนานนั้นทำให้เรา

ได้ทราบถึงเรื่องราวชีวิตของเขามากมายอยู่ไม่น้อย

แม้ว่าจะมีบางช่วงชีวิตที่เคยหลงผิดไปกับสิ่งยั่วยุ

แต่ถ้าหากเรายอมรับในสิ่งที่ผิดและแก้ไขให้ดีขึ้น

ซะคำว่าโอกาสนั้นก็ยังมีอยู่เสมอ ไม่ต่างอะไรจาก

ฟ้าหลังฝนที่หลังจากที่เราเจอะเจอกับมรสุมมากมาย

แต่เมื่อมรสุมร้ายพัดผ่านไปฟ้าใหม่อันสดใสก็จะ

ยิ่งสดใสกว่าเดิมเป็นทวีคูณ อาทิตย์หน้าอย่าลืม

กลับมาติดตามย้อนรอยแห่งความคิดถึงกับ

ดาราในดวงใจของคุณได้ใน ”ดาราเก่า เธอเขาอยู่ที่ไหน”

สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอกล่าวคำว่าสวัสดีขอรับ

[ที่มาsiamdara.com]

จากคุณ : yamapa
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 19:48:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com